ตอนนี้คุณอยู่ที่ >> หน้าแรก >> หน้ารวม mobile review >> รีวิว (Review) ZTE Axon 7


รีวิว (Review) ZTE Axon 7 :: รีวิว ทดสอบ มือถือ :: Thaimobilecenter.com


 
TMC Point

  8.67

การออกแบบดีไซน์

  8.5

ใช้งานง่ายและสะดวก

  8.0

คุณสมบัติเครื่อง

  9.0

ฟังก์ชันการใช้งาน

9.0

เสถียรภาพและประสิทธิภาพ

  9.0

ความคุ้มค่าต่อราคา

  8.5

 
   

รีวิว (Review) ZTE Axon 7

ยอดเรือธง Snapdragon 820 สุดคุ้มใหม่ล่าสุด พร้อมจอ 2K AMOLED 2.5D Gorilla Glass 4 ขนาด 5.5 นิ้ว, ชิปเสียงในตัว, กล้อง OIS 20 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, RAM 4 GB, ROM 64 GB, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และแบตเตอรี่สุดอึดขนาด 3250 mAh บนบอดี้โลหะสวยหรูสุดบางเฉียบ ในราคาคุ้มค่าเกินคาดเพียง 15,990 บาท

 

Review Date (27-กันยายน-2559)

สำหรับ ZTE Axon 7 นั้นเพิ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา ซึ่ง ZTE Axon 7 ได้รับการปรับดีไซน์จากรุ่นเดิมบางส่วน และได้ทีมนักออกแบบชั้นแนวหน้าซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ BMW บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ชื่อดังของประเทศเยอรมนีเข้ามาช่วยออกแบบอีกด้วย

โดยจุดเด่นของ ZTE Axon 7 นั้นมีอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Metal-Unibody และ Diamond Cut จึงทำให้ตัวเครื่องมีความสวยหรูพรีเมียม, หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียดระดับ 2K QHD (2560x1440 พิกเซล) ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกหน้าขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass 4, ตัวเครื่องมีความบางเฉียบเพียง 7.9 มิลลิเมตร, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Lightning Quick Fingerprint Unlock ซึ่งสามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.25 วินาที, กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ซึ่งมีระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization) ผสานระบบป้องกันการสั่นแบบ EIS (Electronic Image Stabilization) พร้อมด้วยรูรับแสงขนาด F/1.8 และไฟแฟลช LED แบบคู่, กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งมีรูรับแสงขนาด F/2.2, ช่องเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และแบตเตอรี่ขนาด 3250 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ Quick Charge 3.0 ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ถึงระดับ 50% ได้ภายในเวลา 30 นาที

อีกหนึ่งความน่าสนใจของ ZTE Axon 7 คือ มาพร้อมกับลำโพงเสียงแบบ Dual Hi-Fi Stereo ที่ด้านบน และด้านล่างของตัวเครื่อง ซึ่งทำงานร่วมกับชิปประมวลผลเสียง AKM 4961 และชิป AKM 4490 พร้อมรองรับระบบเสียง Dolby Atmos + Dolby Digital Surround สำหรับการใช้งานด้านความบังเทิงอย่างเต็มรูปแบบ

ในส่วนของคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็ถือว่าจัดเต็มไม่แพ้สมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปจากแบรนด์คู่แข่งหลายๆ รุ่นที่มักตั้งราคามากกว่า 20,000 บาทขึ้นไป และสามารถตอบโจทย์การใช้งานระดับสูงทุกรูปแบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เริ่มตั้งแต่ ชิปเซ็ต Quad-Core 64-bit Qualcomm MSM8996 Snapdragon 820 ความเร็วในการประมวลผล 2.15 GHz, พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 530, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0.1 MarshMallow

โดย ZTE Axon 7 นั้นได้วางจำหน่ายในราคาสุดคุ้มเพียง 15,990 บาท เท่านั้น! ซึ่งจากข้อมูลข้างต้นที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ZTE Axon 7 มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ และคุณสมบัติตัวเครื่อง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายกว่าที่คิด ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร, การออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ต่างๆ จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว ZTE Axon 7 พร้อมกันได้เลยครับ

 

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

ZTE Axon 7 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียดระดับ 2K QHD (2560x1440 พิกเซล) ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกหน้าขอบนูนแบบ 2.5D โดยตัวเครื่องมีขนาดอยู่ที่ 151.7x75x7.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 175 กรัม

 

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งมีรูรับแสงขนาด F/2.2, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ลำโพงเสียงภายนอกแบบ Dual Hi-Fi Stereo  และสัญญาณไฟ LED สำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ

 

ด้านหน้าส่วนล่างประกอบไปด้วยปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps นอกจากนี้ ยังมีลำโพงเสียงภายนอกแบบ Dual Hi-Fi Stereo

 

ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟน และช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

 

ด้านล่างของตัวเครื่องมีไมโครโฟน และช่องเชื่อมต่อแบบ USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล

 

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้า และปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับเสียง

 

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดใส่ซิมการ์ดที่ 1 และซิมการ์ดที่ 2 ซึ่งในช่องที่ 2 จะต้องเลือกใช้งานระหว่างการใส่ซิมการ์ด หรือเพิ่มหน่วยความจำภายนอก ซึ่งไม่สามารถใช้งานพร้อมกันได้ โดยรองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดที่ 128 GB

 

ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ซึ่งมีระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization) ผสานระบบป้องกันการสั่นแบบ EIS (Electronic Image Stabilization) พร้อมด้วยรูรับแสงขนาด F1.8 และไฟแฟลช LED แบบคู่ และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Lightning Quick Fingerprint Unlock ซึ่งสามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.25 วินาที พร้อมสามารถสั่งงานเพื่อถ่ายภาพ กับรับสายเรียกเข้าได้ นอกจากนี้ ภายในตัวเครื่องยังมีแบตเตอรี่ขนาด 3250 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ Quick Charge 3.0 ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ถึงระดับ 50% ภายในเวลา 30 นาที

 

การออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องของ ZTE Axon 7 จะเป็นแบบ Metal-Unibody และ Diamond Cut จึงทำให้ตัวเครื่องมีความสวยหรูระดับพรีเมียม และมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ

 

นอกจากนี้ ภายในกล่องยังมีอุปกรณ์มาให้ใช้งานอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เคสมือถือ,  เข็ม Sim Door Key พร้อมยางหุ้มสำหรับพกพา, หูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร  โดยตัวหูฟังยังมาพร้อมกับตัวขยายกำลังเสียง (Smart Power Amplifier) ซึ่งช่วยให้มีพลังเสียงที่ดีมากขึ้น, อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่, สายแบบ USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล, คู่มือการใช้งาน, ใบรับประกัน และหัวแปลงสำหรับเชื่อมต่อกับสาย microUSB

 

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

ZTE Axon 7 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow

 

โดยมีหน่วยความจำภายในขนาด 64 GB และหน่วยความจำแรมขนาด 4 GB

 

อีกทั้งยังรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมทั้งรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE และ 3G ได้

 

ไม่เพียงเท่านั้น ZTE Axon 7 ยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC และ VOLTE 4G ได้อีกด้วย

 

ZTE Axon 7 ยังมี Notification สำหรับการแจ้งเตื่อนต่างๆ และสามารถ เปิด-ปิด การใช้งานฟังก์ชันลัดได้ เช่น WiFi หรือ การหมุนหน้าจอ

 

ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การเปลี่ยนรูปแบบไอคอน, การเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้าจอ, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และสามารถสำรองข้อมูล หรือคืนค่าข้อมูลทั้งหมดได้จากส่วนนี้

 

ในส่วนของฟังก์ชันโทรศัพท์นั้นมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถกดหมายเลขได้อย่างแม่นยำ เนื่องด้วยปุ่มตัวเลขขนาดใหญ่ อีกทั้งยังสามารถเข้าดูรายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมดได้เพียงแค่เลือกที่ฟังก์ชันบุคคล

 

นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถสลับปุ่มการสั่งงานได้ และยังสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันโหมดถุงมือได้อีกด้วย

 

สามารถเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง และสามารถเลือกระบบเสียงให้เหมาะกับการใช้งานได้ผ่านแอปพลิเคชันระบบเสียง Dolby Atmos

 

และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ ZTE Axon 7 มีระบบตรวจสอบสิทธิ์การเข้าใช้งานตัวเครื่อง 2 แบบ คือ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (สามารถบันทึกได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ) และ Voice Print หรือการปลดล็อกหน้าจอด้วยเสียง

 

ทางด้านบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานอย่างครบครันบน ZTE Axon 7

 

สำหรับเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น อีกทั้งยังสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ครบ โดยไม่จำเป็นต้องทำการซูมเพื่ออ่านเลยก็ว่าได้

 

ZTE Axon 7 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการสั่งงานด้วยท่าทาง (Gesture & Motion) ได้แก่ ดับเบิ้ลคลิกที่หน้าจอสองครั้งเพื่อปลุกการทำงานของตัวเครื่อง, ลากสามนิ้วลงเพื่อถ่ายภาพหน้าจอ, การคว่ำตัวเครื่องในแนวราบเพื่อปิดเสียงเรียกเข้า และเขย่าเครื่องเพื่อเปิดใช้งานไฟแฟลช LED

 

นอกจากนี้ ในหน้าการตั้งค่าจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ การตั้งค่าหน้าหลัก กับการตั้งค่าที่ใช้บ่อย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าถึงการตั้งค่าต่างๆ ได้ง่ายดายมากขึ้น

 

สำหรับแอปพลิเคชันอัลบั้มภาพถ่ายนั้นสามารถแสดงภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ แสดงภาพถ่ายทั้งหมด และแสดงแบบแยกอัลบั้ม

 

และยังสามารถเปิดอ่านไฟล์ หรือสร้างไฟล์เอกสาร ทั้ง Word, Excel และ PowerPoint ได้ผ่านแอปพลิเคชัน WPS Office

 

อีกหนึ่งความน่าสนใจบน ZTE Axon 7 คือมีแอปพลิเคชันบันทึกเสียง ซึ่งสามารถบันทึกเสียงได้ในระดับ HD อีกทั้งไมโครโฟนบน ZTE Axon 7 สามารถบันทึกเสียงได้ไกลสุดที่ระยะ 8 เมตร เลยทีเดียว

 

ZTE Axon 7 ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเปิดระบบเสียง Dolby Atmos ให้เหมาะกับการใช้งานได้

 

และสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ 2K ได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการสะดุดให้พบเจอ

 

ZTE Axon 7 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Quad-Core 64-bit Qualcomm MSM8996 Snapdragon 820 ความเร็วในการประมวลผล 2.15 GHz, พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 530, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0.1 MarshMallow

 

ด้วยคุณสมบัติตัวเครื่องระดับสูง จึงทำให้ ZTE Axon 7 สามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกสวยๆ ได้อย่างไหลลื่น และไม่มีอาการหน่วง หรืออาการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องให้พบเจอ

 

และเมื่อนำ ZTE Axon 7 มาทดสอบด้ววยแอปพลิเคชัน Geekbench 3 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 2250 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และได้ 4386 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core

 

ต่อด้วยการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน 3DMark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 2478 คะแนน

 

ZTE Axon 7 สามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกัน 3 จุด

 

ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store

 

กล้องดิจิทัล ถ่ายภาพนิ่ง และถ่ายภาพวิดีโอ

อีกหนึ่งจุดขายสำหรับบน ZTE Axon 7 คือ กล้องถ่ายภาพ ซึ่ง Interface กล้องถ่ายภาพก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น Panorama, Super Night, Multi Exposure และ Magic Exposure

 

สำหรับโหมดถ่ายภาพ Magic Exposure สามารถเลือกฟังก์ชันเพื่อถ่ายภาพได้ 3 แบบ คือ ฟังก์ชันสำหรับถ่ายภาพสายน้ำ, ฟังก์ชันถ่ายภาพดวงดาว และถ่ายแสงไฟ หรือหลอดไฟ โดยตัวฟังก์ชันจะทำการปรับค่าต่างๆ ให้เหมาะกับการถ่ายภาพมากที่สุด หรือแม้แต่จะปรับค่าด้วยตนเองก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

 

อีกทั้งยังมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพ และสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน Live Photo ได้อีกด้วย (ภาพสามารถเคลื่อนไหวได้นานประมาณ 3 วินาที)

 

นอกจากนี้ สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการปรับค่าต่างๆ เพื่อถ่ายภาพด้วยตนเองทั้งหมดก็สามารถทำได้ผ่านโหมดถ่ายภาพโปรบน ZTE Axon 7 ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรับค่าได้ตั้งแต่ ความเร็วชัตเตอร์, ISO, การชดเชยแสง, ไวท์บาลานซ์, ตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ และระยะโฟกัส เรียกได้ว่า มีความสามารถเสมือนดั่งกล้องโปรเลยก็ว่าได้

 

อีกทั้งยังสามารถปรับค่าการถ่ายภาพเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การตั้งค่าการใช้งานไฟแฟลช LED, การเปิด-ปิด โหมด HDR (สามารถเปิดใช้งานอัตโนมัติได้) และตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ

 

สามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพ ซึ่งสามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ 20 ล้านพิกเซล, สามารถ เปิด-ปิด การใส่ลายน้ำ, เสียงชัตเตอร์ และการแท็กสถานที่บนภาพถ่ายได้

 

สามารถเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มลดระดับเสียงได้ 3 แบบ คือ ชัตเตอร์ถ่ายภาพ, ซูม และปิดการใช้งาน, สามารถปรับค่าเพื่อป้องกันการกระพริบของหน้าจอได้ 3 แบบ ได้แก่ อัตโนมัติ, 50 Hz และ 60 Hz

 

นอกจากนี้ ZTE Axon 7 ยังมีโหมด Time-Lapse และโหมด Slow Motion ให้ใช้งานอีกด้วย โดย ZTE Axon 7 สามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K UHD (3840x2160 Pixels : 30 fps)

 

และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้

 

ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน และสามารถปรับค่าชดเชยได้ทันที พร้อมทั้งมีฟังก์ชัน Self Guide Frame คือ กรอบเล็กๆ ที่ปรากฏขึ้นมาบริเวณใต้กล้องด้านหน้า ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่กำลังถ่ายภาพ Selfie นั้นเสมือนมองกล้องได้โดยอัตโนมัติด้วยการมองจอภาพดังกล่าว และจะลดปัญหาดวงตาไม่มองกล้องขณะถ่ายภาพได้ นอกจากนี้ ยังมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

 

ไม่เพียงเท่านั้น กล้องดิจิทัลด้านหน้ายังสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน Live Photo ได้ และยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) ให้ใช้งาน ซึ่งสามารถปรับค่าผิวเนียนได้ถึง 5 ระดับ

 

ผู้ใช้งานยังสามารถปรับค่าการใช้งานต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานฟังก์ชันการตรวจจับรอยยิ้ม หรือการตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ ซึ่งสามารถตั้งเวลาได้นานสูงสุด 20 วินาที

 

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพ ซึ่งสามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ 8 ล้านพิกเซล, สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การสั่งงานถ่ายภาพด้วยการสแกนลายนิ้วมือ, กระจกเงาสะท้อน, ฟังก์ชัน Self Guide Frame, เสียงชัตเตอร์ถ่ายภาพ และการระบุสถานที่บนภาพถ่าย

 

สามารถเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มลดระดับเสียงได้ 3 แบบ คือ ชัตเตอร์ถ่ายภาพ, ซูม และปิดการใช้งาน, สามารถปรับค่าเพื่อป้องกันการกระพริบของหน้าจอได้ 3 แบบ ได้แก่ อัตโนมัติ, 50 Hz และ 60 Hz

 

โดยกล้องดิจิทัลด้านหน้าของ ZTE Axon7 สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD (1080p) และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 20 ล้านพิกเซล ของ ZTE Axon 7


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพแบบ HDR ซึ่งจะเห็นว่าส่วนที่มืด เช่น หลังคา หรือต้นไม้ จะสว่างขึ้น และเห็นรายละเอียดได้ชัดเจนกว่าเดิม


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ Magic Exposure พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชัน Car Trail

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) ของ ZTE Axon 7


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

 


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวยพร้อมปรับค่าระดับที่ 1

 


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวยพร้อมปรับค่าระดับที่ 3

 


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวยพร้อมปรับค่าระดับที่ 5

 

สรุปผลการทดสอบของ ZTE Axon 7

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟนเรือธงสเปกระดับท็อป บนดีไซน์พรีเมียมสวยหรู ในราคาสุดคุ้มใหม่ล่าสุด อย่าง ZTE Axon 7 โดยรูปลักษณ์ภายนอกนั้นก็ถือว่าออกแบบมาได้สวยงามลงตัวไม่น้อย ออกไปในแนวสวยแบบคลาสสิก ซึ่งส่วนหนึ่งก็คงต้องยกความดีความชอบให้กับทีมนักออกแบบชั้นแนวหน้าของบริษัทในเครือของ BMW ที่มาร่วมช่วยออกแบบ พร้อมทั้งเทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Metal-Unibody และ Diamond Cut ส่วนบริเวณมุมทั้งสี่ด้านนั้นก็มีความโค้งมน จึงช่วยให้จับ หรือถือได้ถนัดมือ นอกจากนี้ ด้านหลังของตัวเครื่องยังเกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมือได้ยาก เนื่องจากฝาหลังเป็นพื้นผิวแบบด้านนั่นเอง ไม่เพียงเท่านั้น ตัวเครื่องยังมีความบางเฉียบเพียง 7.9 มิลลิเมตร จึงสามารถพกพาใส่กระเป๋ากางเกงไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัวอีกด้วย

ในด้านคุณสมบัติเด่นของ ZTE Axon 7 ก็นับว่าอยู่ในระดับท็อป จัดเต็มไม่แพ้สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหญ่จากแบรนด์คู่แข่ง เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียดระดับ 2K QHD (2560x1440 พิกเซล) ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกหน้าขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass 4, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Lightning Quick Fingerprint Unlock ซึ่งสามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.25 วินาที, ช่องเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และแบตเตอรี่ขนาด 3250 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ Quick Charge 3.0 ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ถึงระดับ 50% ภายในเวลา 30 นาที, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G และรองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC ได้

นอกจากนี้ ลำโพงเสียงภายนอกแบบ Dual Hi-Fi Stereo ที่ด้านบน และด้านล่างของตัวเครื่อง ก็สามารถทำงานร่วมกับชิปประมวลผลเสียง AKM 4961 และชิป AKM 4490 พร้อมรองรับระบบเสียง Dolby Atmos + Dolby Digital Surround ได้เป็นอย่างดี และสามารถตอบสนองด้านการฟังเพลง หรือชมภาพยนตร์ได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย ซึ่งเสียงที่ได้นั้น มีความดังคมชัด และสามารถแสดงรายละเอียดเสียงต่างๆ ได้อย่างสมจริง โดยจะเหมาะกับผู้ใช้งานที่ชื่นชอบด้านความบันเทิงเป็นพิเศษ

ทางด้านกล้องถ่ายภาพก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายสำคัญของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังมีความละเอียดมากถึง 20 ล้านพิกเซล ซึ่งมีระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization) ผสานระบบป้องกันการสั่นแบบ EIS (Electronic Image Stabilization) พร้อมด้วยรูรับแสงขนาด F/1.8 และไฟแฟลช LED แบบคู่ ซึ่งจากการทดสอบพบว่ากล้องดิจิทัลด้านหลังนั้นสามารถถ่ายภาพออกมาได้สวยคมชัด สีสันสดใส และสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างน่าประทับใจ ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้านั้นมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด F/2.2 ก็สามารถถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กัน แถมยังสามารถทำงานร่วมกับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยได้ดีเป็นอย่างมาก บอกได้เลยว่า ต้องถูกอกถูกใจคนรักการถ่ายภาพเซลฟี่อย่างแน่นอน

สำหรับประสิทธิภาพของการประมวลผล ก็นับว่าเร็วแรงไม่น้อยหน้าเรือธงรุ่นใด ด้วยชิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง Quad-Core 64-bit Qualcomm MSM8996 Snapdragon 820 ความเร็วในการประมวลผล 2.15 GHz, พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 530, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB และระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0.1 MarshMallow ซึ่งจากการทดสอบด้วยการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K UHD แบบต่อเนื่อง หรือจะเป็นการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติระดับสูง ZTE Axon 7 ก็สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องให้พบเจอ

จากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า ZTE Axon 7 น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเรือธงที่มีคุณสมบัติระดับสูงสุดในราคาที่คุ้มค่า พร้อมดีไซน์พรีเมียมสวยหรู, จอใหญ่คมชัด, ประสิทธิภาพในการประมวลผลระดับสูง, วัสดุแข็งแรงทนทาน, กล้องถ่ายภาพระดับโปร, มีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย และระบบเสียงที่ดีเป็นพิเศษ ซึ่ง ZTE Axon 7 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก

สำหรับ ZTE Axon 7 ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วในราคา 15,990 บาท และพิเศษสุดๆ สำหรับลูกค้า AIS ที่สมัครแพ็กเกจรายเดือน 488 บาท พร้อมชำระค่าบริการล่วงหน้า 3,000 บาท สามารถซื้อ ZTE Axon 7 ได้ในราคาเพียง 11,990 บาท เท่านั้น! นอกจากนี้ ยังมีสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นเล็กอย่าง ZTE Axon 7 Mini วางจำหน่ายพร้อมๆ กันในราคาที่ย่อมเยากว่าเพียง 11,990 บาท และสำหรับลูกค้า AIS ที่สมัครแพ็กเกจรายเดือน 488 บาท พร้อมชำระค่าบริการล่วงหน้า 2,000 บาท สามารถซื้อ ZTE Axon 7 Mini ได้ในราคา 6,990 บาท เท่านั้น! 

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง ZTE ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง ZTE Axon 7 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

 

จุดเด่นของ ZTE Axon 7

- เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Aluminum Full-Metal Unibody (กรอบตัวเครื่องอะลูมิเนียมถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน) พร้อมกระจกหน้าขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass 4 และตัวเครื่องที่บางเฉียบเพียง 7.9 มิลลิเมตร
- จอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียดระดับ 2K QHD (2560x1440 พิกเซล) ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 530
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Quad-Core 64-bit Qualcomm MSM8996 Snapdragon 820 ความเร็วในการประมวลผล 2.15 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0.1 (Marshmallow)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 64 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดขนาด 128 (ใช้งานร่วมกับช่องใส่ซิมการ์ดที่สอง)
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ซึ่งมีระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization) ผสานระบบป้องกันการสั่นแบบ EIS (Electronic Image Stabilization) พร้อมด้วยรูรับแสงขนาด F/1.8 และไฟแฟลช LED แบบคู่ และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K UHD (3840x2160 Pixels : 30 fps)
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล ซึ่งมีรูรับแสงขนาด F/2.2, ระบบตรวจจับใบหน้าอัตโนมัติ, รองรับการใช้งานร่วมกับโหมดการถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Lightning Quick Fingerprint Unlock ซึ่งสามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.25 วินาที
- ลำโพงเสียงภายนอกแบบ Dual Hi-Fi Stereo ที่ด้านบน และด้านล่างของตัวเครื่อง ซึ่งทำงานร่วมกับชิปประมวลผลเสียง AKM 4961 และชิป AKM 4490 พร้อมรองรับระบบเสียง Dolby Atmos + Dolby Digital Surround
- รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง (Gesture & Motion Control)
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- รองรับเทคโนโลยีการส่งผ่านข้อมูลไร้สายแบบ NFC
- วิทยุ FM Stereo ในตัว พร้อมฟังก์ชันบันทึกเสียงจากรายการวิทยุ
- แบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 3250 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ Quick Charge 3.0 ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ถึงระดับ 50% ภายในเวลา 30 นาที
- ราคาเปิดตัวเพียง 15,990 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่คุ้มค่า หากเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม

 

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ ZTE Axon 7

- รูปลักษณ์ภายนอกอาจดูสวยหรู แต่ออกไปทางสวยแบบคลาสสิก ยังขาดภาพของความทันสมัย หรือความไฮเทคไปสักนิด
- ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS ใช้ได้กับการถ่ายภาพนิ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้งานร่วมกับการถ่ายวิดีโอ
- การถ่ายภาพในที่แสงน้อย ที่ในที่มืดยังไม่ดีเท่าที่ควร
- เนื่องจากตัวเครื่องเป็นดีไซน์แบบไม่มีฝาหลัง จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยตนเองได้
- ในช่องซิมการ์ดที่ 2 จะต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ดที่ 2 หรือการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ไม่สามารถใช้งานพร้อมกันได้

 

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ ZTE Axon 7
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ ZTE Axon 7 Mini
รีวิว (Review) ZTE Axon 7 Mini

 

 

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::

 

 

 


 












 รีวิว realme narzo 20 Pro
เกมมิ่งโฟนพลังชาร์จ 65W กับจอลื่น 90Hz และ 4 กล้อง 48MP ในราคาแค่หลักพัน

[รายละเอียด]
 Vivo V20 SE
สมาร์ทโฟนกล้องหน้าชั้นดี มีจอสวย เมมใหญ่ ชาร์จไว ใส่บอดี้บางเฉียบ ในราคาแค่หลักพัน

[รายละเอียด]
 รีวิว OPPO A93
เด่นที่ดีไซน์ ได้กล้อง 6 ตัว พร้อมจอสวย ชิป AI ตัวแรง แบตชาร์จไว เมมจุใจ ในราคาแค่หลักพัน

[รายละเอียด]
 รีวิว Galaxy Note 20 Ultra 5G
เพาเวอร์โฟนที่ทรงพลังที่สุด อัปเกรดครั้งใหญ่ พร้อม S Pen โฉมใหม่ บนบอดี้สวยหรูพรีเมียมที่ไม่กลัวน้ำ

[รายละเอียด]
 รีวิว OnePlus 8T 5G
เรือธงใหม่ใส่จอ 120Hz พร้อมชิป Snapdragon 865 บวกพลังชาร์จ 65W กับ 5 กล้อง และลำโพงคู่

[รายละเอียด]
 รีวิว Vivo V20
สมาร์ทโฟนกล้องหน้า 44MP มีชาร์จไว 33W จัดหนักจอ AMOLED บวก Android 11 รุ่นแรกในไทย ในราคาหมื่นต้นๆ

[รายละเอียด]
รายการรีวิวมือถือทั้งหมด








หลุดคลิปพรีวิว iPhone 12 mini ก่อนวางจำหน่ายจริงในเดือน พ.ย. นี้ พร้อมเปรียบเทียบขนาดกับ iPhone 12 แตกต่างกันแค่ไหน
หลุดคลิปพรีวิว iPhone 12 mini ก่อนวางจำหน่ายจริงในเดือน พ.ย. นี้  
ถึงแม้ว่า iPhone 12 mini จะยังไม่เปิดพรีออเดอร์และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่ล่าสุด ได้มีการเผยคลิปวิดี
ผลทดสอบ Geekbench 5 ยืนยัน iPhone 12 และ iPhone 12 Pro แรงกว่ามือถือ Android เรือธง
ผลทดสอบ Geekbench 5 ยืนยัน iPhone 12 และ iPhone 12 Pro แรงกว่ามือ 
สำหรับ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ที่ Apple ได้เปิดพรีออเดอร์ในกลุ่มประเทศแรกตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 202
iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ผ่านการอนุมัติจาก กสทช. แล้ว คาดวางจำหน่ายในไทย ปลายเดือนพ.ย.นี้
iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ผ่านการอนุมัติจาก กสทช. แล้ว คาดวางจำ 
สำหรับใครที่รอการวางจำหน่ายของ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ในไทย ล่าสุด มีข่าวดีมาบอกกัน เมื่อทาง กสทช. ไ
คลิปวิดีโอตัวแรก แกะกล่อง iPhone 12 และ iPhone 12 Pro มาแล้ว! เผยดีไซน์ใหม่ขอบเหลี่ยม และบอดี้สีน้ำเงินสด
คลิปวิดีโอตัวแรก แกะกล่อง iPhone 12 และ iPhone 12 Pro มาแล้ว! เผย 
หลังจากที่ Apple ได้เปิดพรีออเดอร์ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ในกลุ่มประเทศแรกเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม
iPhone 12 เผยคะแนนทดสอบ AnTuTu ยังเป็นรอง Xiaomi Mi 10 Ultra
iPhone 12 เผยคะแนนทดสอบ AnTuTu ยังเป็นรอง Xiaomi Mi 10 Ultra 
เตรียมเปิดพรีออเดอร์ในวันนี้ (16 ตุลาคม 2020) ในกลุ่มประเทศแรก สำหรับ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ไอโฟนรุ
10 ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจบน iPhone 12 มีของใหม่อะไรบ้าง ?
10 ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจบน iPhone 12 มีของใหม่อะไรบ้าง ? 
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ iPhone 12 ไอโฟนรุ่นใหม่ประจำปี 2020 ที่ในปีนี้เปิดตัวกันถึง 4 รุ่นด้วยก
OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟน Reno4 Z 5G ทุบตลาดด้วยราคา 12,990 บาท พร้อมส่ง Reno4 Pro 5G และ Find X2 Pro 5G รุกตลาดพรีเมียม
OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟน Reno4 Z 5G ทุบตลาดด้วยราคา 12,990 บาท พร้อม 
OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G Series รุกตลาด 5G ทุกระดับ ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้
สื่อเกาหลีเผย Samsung Galaxy A72 จะเป็นมือถือกล้องหลัง 5 ตัว (Penta Camera) รุ่นแรกของ Samsung
สื่อเกาหลีเผย Samsung Galaxy A72 จะเป็นมือถือกล้องหลัง 5 ตัว (Pen 
เมื่อ 2 ปีก่อน Samsung ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้แก่วงการสมาร์ทโฟนด้วยการเปิดตัว Samsung Galaxy A9 สมาร์ทโฟ
รวมแอปฯ แต่ง Widget หน้า Home Screen สำหรับ iPhone ที่อัปเดต iOS 14 มีแบบไหนน่าใช้บ้าง
รวมแอปฯ แต่ง Widget หน้า Home Screen สำหรับ iPhone ที่อัปเดต iOS  
หลังจากที่ Apple ได้ปล่อยอัปเดต iOS 14 เวอร์ชันเต็มสำหรับผู้ใช้ทั่วไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟังก์ชันที่ได้
เปิดจอง Samsung Galaxy S20 FE เรือธงรุ่นเล็ก สเปกจัดหนัก จอสวย กล้องแจ่ม ชาร์จไว เคาะราคาเริ่มต้น 20,900 บาท
เปิดจอง Samsung Galaxy S20 FE เรือธงรุ่นเล็ก สเปกจัดหนัก จอสวย กล 
เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (24 ก.ย. 2563) Samsung ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S20 FE ในประเทศไทยอย่างเป็น
รายการอัพเดททั้งหมด



ราคามือถือ อัพเดทล่าสุด !!


Samsung Galaxy A42 5G 11,990 บาท
iPhone 12 Pro Max 39,900 บาท
iPhone 12 Pro 36,900 บาท
iPhone 12 mini 25,900 บาท
iPhone 12 29,900 บาท
OPPO A12 3,839 บาท
Samsung Galaxy A11 3,879 บาท ราคาลดลง 120 บาท จากราคาเดิม 3,999  บาท
HUAWEI Y6p 3,999 บาท
realme C12 3,999 บาท
Vivo X50 Pro 5G 24,999 บาท
Vivo Y20 5,299 บาท
OnePlus Nord 12GB+256GB 17,990 บาท
OnePlus Nord 8GB+128GB 14,990 บาท
OPPO Reno4 11,990 บาท
Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G 42,900 บาท
Samsung Galaxy Note20 5G 33,900 บาท
Samsung Galaxy Note20 Ultra LTE 38,900 บาท
Samsung Galaxy Note20 LTE 29,900 บาท
OPPO A92 8,999 บาท
รายการ ราคามือถือ ทั้งหมด



อัพเดท ข่าวสารล่าสุด (New update)

เร็วถึงขีดสุดกับสมาร์ทโฟนสายพันธุ์สปีด “Samsung Galaxy A42 5G” ในราคาเพียง 11,990 บาท
เร็วถึงขีดสุดกับสมาร์ทโฟนสายพันธุ์สปีด “Samsung Galaxy A42 5 
เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Galaxy A42 5G (กาแลคซี่ เอ 42 5G) สายพันธุ์สปีด แรงทุกสเปค ที่สุดแห่งความเร็วแรง
5 สุดยอดนวัตกรรมที่ Vivo มอบแก่ผู้บริโภคชาวไทยปีนี้
5 สุดยอดนวัตกรรมที่ Vivo มอบแก่ผู้บริโภคชาวไทยปีนี้ 
ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา Vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลกได้มอบประสบการณ์ล้ำสมัยให้แก่ผู้ใช้งานชาวไทย ด้วยสม
โปรดีที่ห้ามพลาด! OPPO Reno4 สมาร์ทโฟนถ่ายรูปสวยชัดในสไตล์ที่เป็นคุณพิเศษ ราคาใหม่ 10,990 บาท
โปรดีที่ห้ามพลาด! OPPO Reno4 สมาร์ทโฟนถ่ายรูปสวยชัดในสไตล์ที 
OPPO Reno4 ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนแห่งปีสำหรับคนที่ชื่นชอบเทรนด์ใหม่ๆ ด้วยการผสมผสานระหว่างแฟชั่นและเทคโนโลยี
Vivo จัดหนักรับ 11.11 ลดสูงสุดในรอบปี! พบโปรสุดพิเศษที่ Vivo Official Store บน Lazada Shopee และ JD Central
Vivo จัดหนักรับ 11.11 ลดสูงสุดในรอบปี! พบโปรสุดพิเศษที่ Vivo 
สาวก Vivo เตรียมตัวให้พร้อมกับมหกรรมลดราคาออนไลน์แห่งปีที่ทุกคนรอคอยกับแคมเปญ 11.11 ลดสูงสุดในรอบปีกับสมา
เปลี่ยนลุคได้ตามอารมณ์ HUAWEI Watch Fit วางจำหน่ายสายนาฬิกาแล้วทั้ง 4 สี เพียง 349 บาทเท่านั้น!
เปลี่ยนลุคได้ตามอารมณ์ HUAWEI Watch Fit วางจำหน่ายสายนาฬิกาแ 
หลังจากกลายเป็นสมาร์ทวอทช์ยอดฮิตติดข้อมือทั้งสายสุขภาพ แฟชั่นนิสต้า และเหล่าเทรนด์เซ็ตเตอร์ทั้งหลาย HUAWE
รายการอัพเดททั้งหมด


    Catalog มือถือ     market     Review มือถือ      ราคามือถือ     forum
Catalog มือถือ
Catalog มือถือ Nokia
Catalog มือถือ Samsung
Catalog มือถือ SonyEricsson
Catalog มือถือ i-mobile
Catalog มือถือ LG
Catalog มือถือ BlackBerry
ลงประกาศสินค้ามือถือ
สมัครสมาชิก
หน้าแรกตลาดซื้อขายมือถือ
 
หน้าแรกรีวิว
รีวิว มือถือ Nokia
รีวิว มือถือ Samsung
รีวิว มือถือ Motorola
รีวิว มือถือ LG
 

ราคามือถือ Samsung
ราคามือถือ iPhone
ราคามือถือ Huawei
ราคามือถือ OPPO
ราคามือถือ Vivo
   
   
หน้าแรก cafe
Nokia club
ตั้งหัวข้อใหม่
 

© Copyright all rights reserved : ThaiMobileCenter.com