รีวิว (Review) vivo Xshot

สมาร์ทโฟน  4G ที่เกิดมาเพื่อการถ่ายภาพ ด้วยกล้อง 13 ล้านพิกเซล กับฟีเจอร์ถ่ายภาพ และวีดีโอระดับไฮเอนด์ พร้อมระบบเสียงที่สมจริงแบบ Hi-Fi บนดีไซน์บางเฉียบเรียบหรู

Review Date (25-กันยายน -2557)

เชื่อว่าหลายท่านอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับแบรนด์สมาร์ทโฟนน้องใหม่อย่าง vivo ดีนัก แต่ต้องบอกว่าทาง vivo นั้นตั้งใจจริงกับการพัฒนาสมาร์ทโฟนมากไม่แพ้แบรนด์ชั้นนำอื่นๆ เลยก็ว่าได้ สำหรับ vivo Xshot รุ่นที่เรานำมารีวิวในวันนี้ เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง vivo ซึ่งมีจุดขายที่ครบเครื่องไม่แพ้สมาร์ทโฟนตัวเรือธงรุ่นดังอีกหลายๆ รุ่น โดยไฮไลท์สำคัญของ vivo Xshot น่าจะอยู่ที่กล้องถ่ายภาพระดับไฮเอนด์ ที่มีความละเอียดมากถึง 13 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ล้ำๆ สำหรับการถ่ายภาพ และวีดีโอมากมาย รวมถึงกล้องหน้าที่มีความละเอียดมากถึง 8 ล้านพิกเซล ดังนั้นเรื่องการถ่ายภาพของ vivo Xshot ก็คงไม่ทำให้ใครต้องผิดหวังอย่างแน่นอน ส่วนไฮไลท์อีกอย่างก็เห็นจะเป็นการออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องที่มีความบางเฉียบสวยหรู พร้อมชิ้นงานที่ละเอียดประณีตพอตัว ดูแข็งแรงแน่นหนาเป็นอย่างดี

สำหรับคุณสมบัติโดยรวมของ vivo Xshot จะมาพร้อมหน้าจอแบบ IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD (1920x1080 Pixels), หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Krait 400 โดยเป็นชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 801 ซึ่งให้ ความเร็วในการประมวลผล 2.3 GHz, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB, RAM ขนาด 2 GB, รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบเครือข่ายแบบ 4G LTE, กล้องดิจิตอลด้านหลังความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล และกล้องดิจิตอลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รวมไปถึงระบบปฏิบัติการ Funtouch OS ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.3 (Jelly Bean) ส่วนด้านราคานั้นวางจำหน่ายอยู่ที่ 16,990 บาท  และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราลองมาติดตามชมกันต่อดีกว่าว่า vivo Xshot  ตัวนี้จะมีจุดเด่น และมีความน่าสนใจมากน้อยเพียงใด

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

ตัวเครื่อง vivo Xshot มีการออกแบบดีไซน์สวยหรู และมีคุณภาพ โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 148 กรัม ส่วนความกว้างจะอยู่ที่ 73.3 มิลลิเมตร, ความสูงจะอยู่ที่ 146.45 มิลลิเมตร และความบางอยู่ที่ 7.99 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าบางพอสมควร รวมไปถึงจอแสดงผลเป็นแบบ IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้ว ซึ่งมีความละเอียดระดับ Full HD (1920x1080 พิกเซล)

ด้านหน้าส่วนบนนั้น จะประกอบไปด้วย เลนส์กล้องความละเอียด 8 ล้าน Pixels พร้อมรองรับการถ่ายภาพมุมกว้าง 84 องศา ถัดมาคือลำโพงหูฟังสำหรับการสนทนา และเซ็นเซอร์ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา และระบบ Accelerometer Sensor ที่ช่วยหมุน หรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และที่พิเศษกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ คือมีไฟแฟลช LED ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพ Selfie ด้วยกล้องหน้าเป็นอย่างยิ่ง

ด้านหน้าส่วนล่างประกอบไปด้วย ปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัส ซึ่งจะมีปุ่มฟังก์ชัน, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

ส่วนขอบด้านข้างรอบๆ ของตัวเครื่องนั้นทำมาจากวัสดุแบบโลหะ โดยด้านข้างส่วนบนนั้นจะประกอบด้วย ช่องสำหรับเชื่อมต่อชุดหูฟังมาตรฐาน ขนาด 3.5 มิลลิเมตร และไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน

ด้านข้างส่วนล่างนั้นจะประกอบด้วย ช่องสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ พร้อมเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ แบบ microUSB และไมโครโฟนสำหรับการสนทนา หรือบันทึกเสียง

ด้านข้างฝั่งขวานั้น จะประกอบไปด้วย ปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับเสียง ถัดมาก็จะเป็นปุ่มสำหรับ เปิด-ปิด เครื่อง หรือ ล็อคหน้าจอ และสุดท้ายคือปุ่มชัตเตอร์

ส่วนด้านข้างฝั่งซ้ายนั้น จะมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ microSIM และใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD Card ที่รองรับได้สูงสุดขนาด 128 GB โดยฝาที่ปิดถาดซิมการ์ดนั้นสามารถเปิดได้ไม่ยาก เพียงแค่ใช้ SIM Door Key ที่แถมมาให้ในกล่อง ซึ่งสามารถเปิดได้โดยจิ้มเข้าไปในช่อง และถาดซิมการ์ดนั้นจะดันตัวออกมา

วัสดุด้านหลังตัวเครื่อง vivo Xshot นั้นทำมาจากพลาสติก และจะเป็นโทนสีขาวลายจุด แบบมันวาว ซึ่งไม่สามารถเปิดออกได้ ส่วนแบตเตอรี่จะมีความจุอยู่ที่ 2,600 mAh โดยด้านหลังส่วนบนนั้น จะประกอบไปด้วยกล้องดิจิตอล ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ซึ่งภายในมีโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์ และถัดมาจะเป็นไฟแฟลชแบบ Dual-LED

ด้านหลังส่วนล่างนั้น จะมีลำโพงเสียงภายนอกขนาดใหญ่ ซึ่งให้เสียงที่ดังฟังชัดพอสมควร

และอุปกรณ์เพิ่มเติมที่ให้มาด้วยนั้น จะประกอบไปด้วย สายหูฟังแบบสเตอริโอ vivo XE600i พร้อมหัวต่อมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร และรองรับระบบเสียงแบบ Hi-Fi ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเมื่อใช้งานร่วมกับชิปเสียง CS4398 และ MAX97220/TLV320 ที่อยู่ภายในเครื่อง

และอะแดปเตอร์สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ พร้อมสาย microUSB สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

vivo Xshot มาพร้อมหน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Krait 400 Processor (ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 801) ความเร็วในการประมวลผล 2.3 GHz และหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 330 รวมไปถึงหน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB

และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.3 (Jelly Bean)

ส่วนพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลภายในขนาด 16 GB จะเหลือให้ใช้งานได้จริงประมาณ 8.83 GB โดย vivo Xshot แต่ก็ไม่ต้องกังวลมากนัก เพราะสามารถรองรับการใส่การ์ดหน่วยความจำเสริมเพิ่มเติมแบบ microSD Card ได้สูงสุดขนาด 128 GB

ในส่วนของการ เปิด-ปิด เครื่องนั้น ก็จะมีโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง, โหมดเปิดระบบสั่น, โหมดใช้งานบนเครื่องบิน หรือโหมดออฟไลน์, โหมดรีสตาร์ท และโหมดปิดเครื่อง

สำหรับ User Interface ในหน้า Lock Screen และ Home Screen ของ vivo Xshot นั้นถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่าย เพื่อการใช้งานที่สะดวกมากขึ้น เมื่อผู้ใช้งานปัดหน้าจอขึ้นไปด้านบนก็จะเข้าสู่หน้า Homescreen โดย vivo Xshot จะไม่มีหน้า App Drawer โดยแอปพลิเคชันเริ่มต้นทั้งหมดจะถูกติดตั้งมาให้ในหน้า Home Screen

ภายในจะมีแอปพลิเคชันติดตั้งมาให้ใช้งานอย่างครบครัน  ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันพื้นฐานจาก Google  และแอปพลิเคชันเบ็ดเตล็ดต่างๆ อย่างเช่น แอปพลิเคชันเครื่องคิดเลข, โน้ต, ไฟฉาย และเครื่องบันทึกเสียง ก็ติดตั้งมาให้ด้วยเช่นกัน

เมื่อกดปุ่มเมนูเพิ่มเติม ผู้ใช้งานก็สามารถทำการตกแต่งเพิ่มสไตล์, วิดเจ็ต, ธีม, วอลเปเปอร์ ในหน้า Home Screen ได้ด้วยตัวเอง และยังสามารถซ่อนไอคอนที่ไม่ต้องการให้โชว์ในหน้า Home Screen ได้

เมื่อปัดขอบหน้าจอจากด้านล่างขึ้นมาก็จะเข้าสู่โหมด Recent Apps ซึ่งจะแสดงประวัติแอปพลิเคชันทั้งหมดที่เคยใช้งานล่าสุด และสามารถแตะที่ไอคอนของแอปพลิเคชันนั้นๆ เพื่อสลับการทำงานของแอปพลิเคชันในปัจจุบัน รวมไปถึงการปัดขึ้นเพื่อปิดการทำงานของแอปพลิเคชันนั้นๆ และยังสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้ ไม่ว่าจะเป็น WiFi, การเชื่อมต่อข้อมูล, โหมดการใช้งานของตัวเครื่อง และการปรับแสงหน้าจอ รวมไปถึงโหมดที่น่าสนใจ อย่างการเร่งความเร็วของเครื่อง และยังมีฟังก์ชันลัดอีกมากมาย เพียงผู้ใช้งานปัดไปโหมด Recent Apps ไปทางซ้ายมือ

Notification Bar ที่อยู่ด้านบนนั้นจะมีการแจ้งเตือนสถานะต่างๆ พร้อมทั้งยังสามารถบล็อคการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันที่ไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย

vivo Xshot นั้นสามารถเปลี่ยน ธีม ได้หลายรูปแบบ โดยสามารถเลือกเปลี่ยนได้จากแอปพลิเคชัน i Theme ซึ่งจะมีให้เลือกใช้งานทั้งแบบ ออนไลน์ และออฟไลน์

ในส่วนของฟังก์ชันโทรศัพท์ มีการออกแบบให้ใช้งานง่าย และสามารถ เลือกเก็บบันทึกเบอร์ผู้ติดต่อใหม่ได้ตามที่ต้องการ พร้อมทั้งยังสามารถค้นหารายชื่อผู้ติดต่อแบบอัจฉริยะได้ โดยพิมพ์ตัวอักษรแรก หรือหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อค้นหาแบบรวดเร็ว

มาต่อด้วยคีย์บอร์ดที่มีความสามารถหลากหลายไม่ว่าจะเป็น การพิมพ์แบบ Swype Keyboard, การพิมพ์ด้วยเสียง พร้อมทั้งสามารถตั้งค่าใช้งานการแก้ไขคำผิด และ การคาดเดาคำศัพท์ ก็สามารถทำได้

และยังสามารถเข้าใช้งานฟังก์ชัน Google Now ได้ โดยเข้าใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน Google รวมไปถึงการค้นหาข้อมูล หรือ ไฟล์ด้วยเสียง ก็สามารถทำได้เช่นกัน

และยังรองรับการใช้งานอีเมลได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Hotmail รวมไปถึงการใช้งาน POP3 เป็นต้น

vivo Xshot มาพร้อมกับโปรแกรมเรียกดูไฟล์ ซึ่งสามารถเรียกดูไฟล์ และข้อมูลแบบแยกประเภทได้อีกด้วย

แอปพลิเคชัน vivo Cloud มีความสามารถในการ Backup และ Restore ข้อมูลผ่านระบบ Cloud ได้ทั้งรายชื่อ, ข้อความ และบุคมาร์ค

ส่วนการใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ นั้นถือว่ามีความรวดเร็วราบรื่น และไม่สะดุด ไม่ว่าจะป็นเบราว์เซอร์ Android หรือ เบราว์เซอร์ Chrome ก็เช่นกัน

ส่วนการใช้งานด้านการฟังเพลง vivo Xshot จะมีแอปพลิเคชันการฟังเพลง พร้อมฟังก์ชัน Hi-Fi มาให้ในเครื่อง ซึ่งสามารถดูรายการเพลงทั้งหมด, ชื่อศิลปิน, อัลบั้ม, และรายการเพลงที่เล่นบ่อย รวมถึงรองรับไฟล์เพลงได้หลากหลายรูปแบบทั้ง MP3, AAC, AAC+, AMR, MIDI, WAV และ WMA เป็นต้น

และยังมีมีแอปพลิเคชัน Youtube ในการเข้าชมคลิปวีดีโอต่างๆ แบบออนไลน์ ติดตั้งมาให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

แอปพลิเคชันสำหรับการชมภาพยนตร์ ซึ่งสามารถเปิดไฟล์ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD) ได้อย่างราบรื่น

พร้อมทั้งยังสามารถปรับค่าความสว่างของวีดีโอแบบ Auto หรือ Manual ได้อีกด้วย

รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Pop Up Play

ด้านความสามารถในการเล่นเกมส์ ถือว่าดีเยี่ยมเลยทีเดียว ซึ่ง vivo Xshot มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลกราฟฟิค แบบ Adreno 330  โดยสามารถรองรับการเล่นเกมส์ที่ใช้กราฟฟิคในระดับสูงๆ ได้เป็นอย่างดี

แอปพลิเคชัน และฟังก์ชันอื่นๆ ที่น่าสนใจบน vivo Xshot

vivo Xshot นั้นยังมีโหมดการใช้งานอัจฉริยะมาให้ใช้งานอีกด้วย โดยจะมีโหมด Smart Wake, โหมด Air Wake, ใช้งานโดยไม่สัมผัส, หน้าจอสว่างอัจฉริยะ, การโทรอัจฉริยะ, เขย่าเพื่อเปิดแอป, ซูมโดยการเอียงโทรศัพท์ และการเตือนอัจฉริยะ

ซึ่งโหมด Smart Wake จะแบ่งเป็นโหมดย่อยๆ ดังนี้คือ การเช็คดูภาพพักหน้าจอ, เลื่อนขึ้นเพื่อปลดล็อค, เลื่อนลงเพื่อถ่ายรูป, วาด 'c' เพื่อเข้าสู่หน้าการโทร, วาด 'm' เพื่อเข้าสู่การฟังเพลง, วาดเส้นเปลี่ยนเพลง, วาด 'e' เพื่อสู่เว็บเบราว์เซอร์ และวาด 'w' เพื่อเข้าสู่วีแชท รวมไปถึงโหมด Air Wake ซึ่งจะแบ่งเป็นโหมดย่อยๆ ดังนี้คือ วาดรูป M ในอากาศเพื่อเล่นเพลง และยังสามารถกำหนดฟังก์ชันเมื่อวาดตัวอักษรได้อีกด้วย เช่นวาดรูป V ในอากาศเพื่อโทรหารายชื่อที่กำหนด หรือเปลี่ยนเป็นการเปิดอัลบั้มรูปภาพ

โหมดใช้งานโดยไม่สัมผัส ก็จะมีโหมดย่อยๆ ดังนี้คือ ปลดล็อคโดยไม่สัมผัส, เลื่อนดูรูปภาพโดยไม่สัมผัส และพลิกหน้าโฮมโดยไม่สัมผัส ส่วนโหมดหน้าจอสว่างอัจฉริยะ ก็จะมีโหมดย่อยๆ ดังนี้คือ หน้าจอสว่างเมื่อออกจากกระเป๋า, แตะ 2 ครั้งให้หน้าจอสว่าง และหน้าจอสว่างเสมอ

โหมดการใช้งานมัลติทาสก์ ก็มีมาให้ใช้งานเช่นกัน พร้อมทั้งฟังก์ชันแสดงกล่องข้อความอัตโนมัติบนหน้าจอ ส่วนโหมดการใช้งานมือเดียว  ก็จะมีโหมดย่อยๆ ดังนี้คือ แผงตัวเลขของโทรศัพท์, ปลดล็อคแป้นพิมพ์รหัสผ่าน, ภาพปลดล็อค, เข้าใช้งานแป้นพิมพ์สำหรับการพิมพ์ด้วยมือเดียว, ลากนิ้วขึ้นด้านบนเพื่อดึงแถบการทำงานด่วนออกมา และเข้าใช้งานหน้าจอขนาดเล็กโดยใช้รูปการวาดนิ้ว

และอีกหนึ่งโหมดที่หน้าสนใจคือ โหมดถุงมือ ซึ่งสามารถแตะ หรือเลื่อนหน้าจอ ขณะสวมถุงมือได้

i Manager เป็นแอปพลิเคชันที่เพิ่มประสิทธิภาพบนสมาร์ทโฟน โดยจะมีโหมดล้างข้อมูล, เช็คการใช้ข้อมูล, จัดการแอปพลิเคชัน, จัดการแบตเตอรี่, ปิดกันข้อมูล และพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ส่วนตัว

และแน่นอนว่าผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติมได้ที่ Google Play Store

ทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้วยโปรแกรมทดสอบต่างๆ

vivo Xshot นั้นรองรับการสัมผัสพร้อมกันได้สูงสุด 10 จุด

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้าน GPS ในพื้นที่เปิดโล่ง ด้วยแอปพลิเคชัน AndroiTS GPS Test จะเห็นว่าสามารถรับสัญญาณจากดาวเทียมได้โดยประมาณ 20 ดวง ล็อคสัญญาณได้ 11 ดวง และระดับความแรงของสัญญาณ อยู่ในช่วงประมาณ 2-214 ส่วนระดับความแม่นยำโดยประมาณอยู่ที่ 0 เมตร

และเมื่อทดสอบอีกครั้งบนพื้นที่เปิดโล่งด้วยแอปพลิเคชัน GPS Test ซึ่งรับสัญญาณจากดาวเทียมได้โดยประมาณ 32 ดวง ล็อคสัญญาณได้โดยประมาณ 11 ดวง และระดับความแรงของสัญญาณอยู่ในช่วงประมาณ 12-35 ส่วนระดับความแม่นยำโดยประมาณอยู่ที่ 36 ฟุต อย่างไรก็ดี ผลการทดสอบการรับสัญญาณดาวเทียมในแต่ละช่วงเวลาก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมขณะทดสอบ เช่นท้องฟ้าเปิดโล่งมากน้อยขนาดไหน หรือมีอาคารสถานที่มาบดบังสัญญาณมากน้อยเพียงใด

ในตัวเครื่อง vivo Xshot นั้นสามารถใช้งานระบบ GPS และ A-GPS ร่วมกับ แอปพลิเคชั่น Google Maps และแอปพลิเคชันนำทางต่างๆ ได้

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้วยโปรแกรม Antutu Benchmark ผลคะแนนจะออกมาอยู่ที่ 42152 คะแนน

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้วยโปรแกรม Vellamo ผลคะแนนในส่วนของ Metal จะออกมาอยู่ที่ 1595 คะแนน และคะแนนในส่วนของ Multicore จะออกมาอยู่ที่ 1987 คะแนน

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้วยโปรแกรม Quadrant Standard ผลคะแนนจะออกมาอยู่ที่ 19200 คะแนน

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้วยโปรแกรม AndEBench ผลคะแนน Native จะออกมาอยู่ที่ 16729 คะแนน และผลคะแนน Java จะออกมาอยู่ที่ 630 คะแนน

กล้องดิจิตอล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวีดีโอ

สำหรับกล้องดิจิตอลด้านหลังบน vivo Xshot นั้นมีความละเอียดสูงสุดถึง 13 ล้านพิกเซล และมีระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization) รวมไปถึงเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Sony Stacked CMOS โดยมีขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/1.8 พร้อมทั้งสามารถสลับเปลี่ยนเป็นกล้องดิจิตอลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดสูงสุดถึง 8 ล้านพิกเซล  ได้ด้วยการกดที่ไอคอนรูปกล้องด้านซ้าย รวมไปถึงตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โหมดใบหน้าสวย, ไมโครวีดีโอ, โหมดการถ่ายภาพแบบ HDR, โพสท่า, โหมดพาโนรามา, โหมดกลางคืน, โหมดกีฬา, การตรวจจับใบหน้า, โหมดเบลอ, โหมดแก้ไขเอกสาร และโหมดเด็ก

พร้อมทั้งยังมีเอฟเฟกต์มาให้เลือกถึง 11 แบบ ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น LOMO, โบราณ และวินเทจ เป็นต้น

และยังสามารถใส่ลายน้ำบนรูปภาพขณะถ่ายภาพได้อีกด้วย

สามารถ เปิด-ปิด ไฟแฟลชได้ตามที่ต้องการ

ในส่วนของการตั้งค่านั้นยังสามารถปรับแต่งความละเอียดของภาพถ่ายได้หลายระดับตั้งแต่ 6  ล้านพิกเซล จนถึง 13 ล้านพิกเซล รวมไปถึงตั้งเวลาถ่ายภาพ และแต่หน้าจอเพื่อถ่ายภาพก็ทำได้อีกด้วย

รวมไปถึงตั้งค่ากล้องถ่ายภาพแบบ Pro ก็สามารถทำได้ โดยเลื่อนรูปกล้องที่อยู่ทางด้านขวามือมาทางซ้ายมือ แค่นี้ก็จะเปลี่ยนโหมดมาใช้ กล้องถ่ายภาพแบบ Pro เลยทีเดียว โดยจะสามารถปรับแต่งค่าโฟกัสของภาพถ่าย, ค่าไวต์บาลานซ์, สปีดชัตเตอร์, ค่า ISO และค่าชดเชยแสง

โหมดถ่ายภาพแบบ Golden Spiral ที่ช่วยจัดองค์ประกอบ หรือสัดส่วนของการถ่ายภาพได้แบบมือโปร โดยจะมีให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น เกลียว LU, RU, RB หรือ LB

และยังมีโหมดเส้นตรงเพื่อช่วยในการถ่ายภาพไม่ให้เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง

ส่วนโหมดการถ่ายภาพวีดีโอก็สามารถตั้งค่าได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ตั้งค่าโฟกัสเฉพาะจุด, ซูมภาพ เข้า-ออก และไวต์บาลานซ์

และสามารถ เปิด-ปิด ไฟแฟลชได้เช่นกัน

โหมดไมโครวีดีโอ ซึ่งสามารถบันทึกภาพวีดีโอแบบหลายๆ ช็อต และรวมเอาไว้ในอันเดียวกัน โดยบันทึกภาพสูงสุดแค่ 6 วินาที เท่านั้น

โหมดถ่ายภาพวีดีโอแบบขำขัน ซึ่งจะสามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวช้า และเร็ว ได้ตามใจชอบ

vivo Xshot นั้นสามารถถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K (Ultra HD) ได้อีกด้วย

vivo Xshot นั้มมาพร้อมกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ซึ่งความละเอียดมากถึง 8 ล้านพิกเซล  และเป็นเลนส์มุมกว้าง 84 องศา เลยทีเดียว รวมไปถึงมีไฟแฟลชแบบ LED ที่ด้านหน้าของตัวเครื่องแยกมาให้โดยเฉพาะ และยังมีโหมดถ่ายภาพแบบ Face Beauty โดยจะมีฟังก์ชัน Cosmetic ขึ้นมาให้เลือกแต่งใบหน้าได้ตามใจชอบอีกด้วย

พร้อมทั้งยังสามารถปรับรูปทรงหน้าให้เรียวยาว และปรับดวงตาโตเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงความเนียนของผิวบนใบหน้า ก็สามารถปรับแต่งได้เช่นกัน

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลด้านหน้าของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล ของ vivo Xshot

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลด้านหลังของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ vivo Xshot

โหมดถ่ายภาพปกติ

โหมดถ่ายภาพปกติ

โหมดถ่ายภาพปกติ

โหมดถ่ายภาพปกติ

โหมดถ่ายภาพ HDR

โหมดถ่ายภาพกลางคืน

 
โหมดถ่ายภาพไม่มีตัวกรอง                                                โหมดถ่ายภาพ LOMO

ถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ โดยเลือกจุดโฟกัสที่ด้านหน้าของภาพ

ถ่ายภาพแบบหน้าเบลอหลังชัด โดยเลือกจุดโฟกัสที่ด้านหลังของภาพ

 
โหมดถ่ายภายปกติ                                                          โหมดถ่ายภาพเบลอ

สรุปผลการทดสอบของ vivo Xshot

จากการทดสอบใช้งาน vivo Xshot สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง vivo มาได้ระยะหนึ่ง ก็สรุปได้ว่า vivo Xshot รุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นที่น่าสนใจเป็นพิเศษในช่วงนี้ ด้วยจุดเด่นในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่การออกแบบดีไซน์ ไปจนถึงคุณสมบัติระดับไฮเอนด์ต่างๆ ด้านใน เช่น กล้องดิจิตอลที่ด้านหน้าของตัวเครื่องที่มีความละเอียดถึง 8 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดถ่ายภาพแบบ Face Beauty โดยจะมีฟังก์ชัน Cosmetic เพื่อให้เลือกแต่งใบหน้าได้ตามใจชอบ และกล้องดิจิตอลที่ด้านหลังของตัวเครื่องที่มีความละเอียดถึง 13 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมแบบ Sony Stacked CMOS และมีขนาดของรูรับแสงที่กว้างถึงระดับ F/1.8 จึงทำสามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงโหมดกล้อง Pro ที่ทำให้เราสร้างสรรค์การถ่ายภาพในหลายๆ รูปแบบ และยังทำให้การถ่ายภาพนั้นสนุก และน่าสนใจมากขึ้น ที่สำคัญยังรองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียดได้ถึงระดับ 4K UHD เลยทีเดียว

นอกจากนี้ vivo Xshot ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติระดับไฮเอนด์ครบเครื่อง ตั้งแต่ซีพียูแบบ Quad-Core Krait 400 (ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 801) ความเร็วในการประมวลผล 2.3 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้สูงสุด 128 GB ส่วนในด้านมัลติมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นการชมภาพยนตร์ หรือคลิปวีดีโอ ก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี ซึ่งในการชมภาพยนตร์ ความละเอียดระดับ Full HD ผ่านแอปพลิเคชันภาพยนตร์ และแอปพลิเคชัน Youtube ในแต่ละครั้งนั้น ไม่มีอาการสะดุดเลยแม้แต่น้อย และ vivo Xshot นั้น มาพร้อมหน่วยประมวลผลกราฟฟิค Adreno 330 ที่รองรับการเล่นเกมส์ที่มีกราฟิกระดับสูงได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือผู้ใช้งานจะได้สัมผัสกับอรรถรสในการใช้งานมากขึ้นด้วยระบบเสียงคุณภาพแบบ Hi-Fi จากชิปประมวลผลเสียงแบบ CS4398 และ MAX97220/TLV320 ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของเสียง หรือมิติของเสียงในการดูหนังฟังเพลง เมื่อใช้งานพร้อมกับหูฟัง vivo XE600i พร้อมทั้งสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบเครือข่ายความเร็วสูงแบบ 4G LTE และ 3G ได้ทุกเครือข่าย ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาจำหน่ายที่ 16,990 บาท ก็ถือว่าไม่แพงจนเกินไป เมื่อเทียบกับความสามารถระดับไฮเอนด์ที่มีอยู่มากมายในตัวของ vivo Xshot สุดท้ายนี้ทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ ต้องขอขอบคุณทาง vivo ประเทศไทย ที่ส่งเครื่อง vivo Xshot มาให้ทางทีมงานได้ทำการทดสอบให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน ไว้พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

จุดเด่นของ vivo Xshot

- ตัวเครื่องมีการออกแบบดีไซน์ที่สวยหรูบางเฉียบ วัสดุ และชิ้นงานดูมีคุณภาพ และมีความแข็งแรงทนทาน
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.2 นิ้ว) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 330
- ประมวลผลการทำงานด้วย Quad-Core Krait 400 Processor (ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 801) ความเร็วในการประมวลผล 2.3 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.3 Jelly Bean)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, LTE, HSPA, EDGE และ GPRS
- รองรับการใช้งานกับเครือข่าย 3G ทุกคลื่นความถี่ในประเทศไทย
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
- ระบบเสียงแบบ Hi-Fi Sound ด้วยชิปประมวลผลเสียงแบบ CS4398 และ MAX97220/TLV320
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Sony Stacked CMOS, โครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์, ไฟแฟลชแบบ Dual-LED, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/1.8
- รองรับการถ่ายภาพวีดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K UHD (2160p : 3840x2160 Pixels : 30 fps : 3GP)
-  กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้าง 84 องศา และไฟแฟลชในตัว (LED Flash)
- วางจำหน่ายในราคา 16,990 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนตัวเรือธงจากแบรนด์อื่นๆ ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ vivo Xshot

- ไม่รองรับการเชือมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง NFC
- พื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลภายในขนาด 16 GB เหลือให้ใช้งานจริงอยู่ประมาณ 8.83 GB
- เมื่อเล่นเกมส์ไปสักพัก ตัวเครื่องจะร้อนพอสมควร
- ระบบปฏิบัติการ Android 4.3 (Jelly Bean) ยังไม่ใช่ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุด
- ไม่สามารถถอดฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
- ไม่มีวิทยุ FM ในตัว

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ vivo Xshot ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้

vivo Xshot Specification title="Sony Xperia ZL Specification">

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::