ตอนนี้คุณอยู่ที่ >> หน้าแรก >> หน้ารวม mobile review >> รีวิว (Review) Vivo V5 Plus


รีวิว (Review) Vivo V5 Plus :: รีวิว ทดสอบ มือถือ :: Thaimobilecenter.com


 
TMC Point

  8.17

การออกแบบดีไซน์

  8.0

ใช้งานง่ายและสะดวก

  8.0

คุณสมบัติเครื่อง

  8.5

ฟังก์ชันการใช้งาน

8.5

เสถียรภาพและประสิทธิภาพ

  8.5

ความคุ้มค่าต่อราคา

  7.5

 
   

รีวิว (Review) Vivo V5 Plus

ยอดสมาร์ทโฟนกล้องหน้าคู่ Dual Front Camera 20+8 ล้านพิกเซล ผสานกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล พร้อมสเปกระดับท็อปของค่าย ด้วยจอ IPS In-Cell Full HD 2.5D Gorilla Glass 5 ใหญ่เต็มตา 5.5 นิ้ว, ชิปเซ็ต Snapdragon 625, RAM 4GB, ROM 64GB, ชิปเสียง Hi-Fi AK4376, แบตเตอรี่ Dual Charging Engine 3160 mAh และเซ็นเซอร์สแกนนิ้ว บนบอดี้บางเฉียบเรียบหรู

 

Review Date (28-มีนาคม-2560)

สำหรับ Vivo V5 Plus สมาร์ทโฟนตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ Vivo นั้นได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2560 พร้อมวางจำหน่ายในราคาที่เอื้อมถึงได้ง่าย เพียง 13,990 บาท สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ทาง Vivo ได้ชูจุดเด่นในเรื่องของกล้องถ่ายภาพด้านหน้าแบบคู่ (Dual Front Camera) ที่ช่วยให้ภาพถ่ายเซลฟี่ของคุณขาวสวยเนียนใส และคมชัดทุกรายละเอียดได้ภายในชัตเตอร์เดียว และแน่นอนว่าตอนนี้ Vivo V5 Plus ก็อยู่ในมือของทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางทีมงานก็ไม่พลาดที่จะนำเสนอบทความรีวิว Vivo V5 Plus ให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน

สำหรับจุดขายสำคัญของ Vivo V5 Plus ก็คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบคู่ (Dual-Camera) ที่มีความละเอียด 20+8 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์, เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX376 ขนาด 1/2.78 นิ้ว, รูรับแสงกว้างสูงสุดขนาด f/2.0 พร้อมไฟแฟลชแบบ Selfie Softlight ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหลังนั้นมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus), รูรับแสงกว้างสูงสุดขนาด f/2.0 พร้อมไฟแฟลช LED

ทางด้านจุดเด่นอื่นๆ ก็มีอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ All-Metal Unibody, หน้าจอแสดงผลแบบ IPS In-Cell LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกหน้าจอแบบ 2.5D Corning Gorilla Glass 5, ลำโพงเสียงภายนอกที่รองรับการทำงานร่วมกับชิปประมวลผลเสียงแบบ  Hi-Fi AK4376, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถปลดล็อกเครื่องได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง, รองรับการใช้งานสองแอปพลิเคชันพร้อมกันผ่านฟังก์ชัน Smart Split 2.0, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G และแบตเตอรี่ขนาด 3160 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จความเร็วสูงแบบ Dual Charging Engine

ในส่วนของประสิทธิภาพการประมวลผลก็จัดอยู่ในระดับกลาง ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ครบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8953 Snapdragon 625 ความเร็วในการประมวลผล 2.0 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 506, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 3.0 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow)

ซึ่งจากข้อมูลทั้งหมดที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า Vivo V5 Plus มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ ในเรื่องของกล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบคู่ (Dual-Camera), ดีไซน์ การออกแบบ, ฟีเจอร์การใช้งานที่ครบเครื่อง และคุณสมบัติตัวเครื่องที่ดีกว่าเดิม ซึ่งเมื่อเทียบกับราคา 13,990 บาท ก็ถือว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ที่มีอยู่จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านรับชมรีวิว Vivo V5 Plus พร้อมกันต่อได้เลยครับ

 

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Vivo V5 Plus มาในแพ็กเกจสีขาวที่ระบุว่ามาพร้อมกับกล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบ Dual Front Camera ที่มีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล

 

โดยด้านหลังกล่องมีการระบุคุณสมบัติเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เอาไว้หลายอย่าง ทั้งกล้องหน้าคู่ 20 ล้านพิกเซล, กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล, ระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง, RAM 4GB และ ROM 64GB

 

ในส่วนของอุปกรณ์ภายในกล่องนั้นก็มีให้ใช้งานอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เคสใส, ฟิล์มกันรอย, คู่มือการใช้งาน, อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่, สายเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับโอนถ่ายข้อมูล หรือชาร์จแบตเตอรี่ และหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

 

สำหรับ Adapter นั้นรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Fast Charging) พร้อมเทคโนโลยี Dual-Charging Engine

 

สำหรับ Vivo V5 Plus มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS In-Cell LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกหน้าจอแบบ 2.5D Corning Gorilla Glass 5 โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 152.58x74x7.26 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 158.6 กรัม

 

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบคู่ (Dual Front Camera) ความละเอียด 20+8 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์, เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX376 ขนาด 1/2.78 นิ้ว, รูรับแสงกว้างสูงสุดขนาด f/2.0 พร้อมไฟแฟลชแบบ Selfie Softlight, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

 

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม หรือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถปลดล็อกเครื่องได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที และปุ่มย้อนกลับ

 

ด้านบนของตัวเครื่องไม่มีปุ่มการสั่งงานใดๆ ให้ใช้งาน

 

ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน, ช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล และลำโพงเสียงภายนอก ซึ่งทำงานร่วมกับชิปประมวลผลเสียงระดับ Hi-Fi AK4376

 

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง

 

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่งรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่รองรับการเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอก

 

ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus), รูรับแสงกว้างสูงสุดขนาด f/2.0 พร้อมไฟแฟลช LED และมีแบตเตอรี่ความจุ 3160 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ Dual Charging Engine

 

โดยตัวเครื่องของ Vivo V5 Plus ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ High Polymer Unibody ซึ่งกรอบตัวเครื่องถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน จึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ พร้อมพื้นผิวแบบ Metallic ซึ่งให้สัมผัสที่คล้ายกับโลหะ

 

นอกจากนี้ ลูกค้าที่ซื้อ Vivo V5 Plus จะได้รับของแถมสุดพิเศษจากทาง Vivo อีกด้วย ซึ่งประกอบไปด้วยหูฟังบลูทูธ พร้อมสายชาร์จ และอะแดปเตอร์สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ในรถยนต์

 

โดยตัวอะแดปเตอร์นั้นสามารถรองรับการจ่ายไฟได้ 2 แบบ คือแบบ 2.1A กับแบบ 1.0A

 

สำหรับหูฟังที่ทาง Vivo แถมมาให้นั้นจะเป็นหูฟังแบบ Ear Bud ซึ่งมาพร้อมกับขาเกี่ยวเอาไว้คล้องกับใบหู

 

นอกจากนี้ ตัวหูฟังยังมาพร้อมกับปุ่มควบคุมการทำงาน เช่น ปุ่ม Play หรือเพิ่มเสียง, ปุ่มเปิด-ปิด หูฟัง หรือรับสายเรียกเข้า และปุ่มย้อนกลับ หรือลดระดับเสียง

 

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

สำหรับ Vivo V5 Plus นั้นมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 3.0 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow) พร้อมรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้

 

โดยมีหน่วยความจำภายในขนาด 64 GB พร้อมด้วยหน่วยความจำแรมขนาด 4 GB

 

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันสำหรับการแจ้งเตือน เช่น มีความข้อใหม่ หรือสายที่ไม่ได้รับ และยังสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้ เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือ WiFi

 

ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ หรือการนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน

 

อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนธีม หรือดาวน์โหลดธีมอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน iTheme

 

ในส่วนของฟังก์ชันโทรศัพท์นั้นก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย และสามารถเข้าดูบันทึกการโทร หรือรายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมดได้ทันทีเพียงแค่กดเลือกที่ไอคอนรูปบุคคล

 

ทางด้านบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้เลือกใช้งานอย่างครบครัน เช่น Gmail หรือ Youtube

 

นอกจากนี้ Vivo V5 Plus ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชัน i Manager สำหรับจัดการส่วนต่างๆ ภายในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น การล้างข้อมูล (การเคลียร์แรม), การตั้งค่าเพื่อควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ต, การจัดการแอปพลิเคชัน และการจำกัดความเป็นส่วนตัว

 

อีกหนึ่งความพิเศษบน Vivo V5 Plus คือ สามารถเปิดใช้งานโหมดถนอมสายตาได้ ซึ่งตัวฟังก์ชันจะทำการลดแสงสีฟ้า เพื่อช่วยถนอมสายตา ซึ่งจะเหมาะกับการใช้งานในสภาวะแสงน้อย สำหรับการอ่าน E-Book หรืออ่านคอนเทนท์ต่างๆ อีกทั้งยังสามารถตั้งเวลาเพื่อเปิด-ปิด การใช้งานโหมดถนอมสายตาได้อีกด้วย

 

นอกจากนี้ Vivo V5 Plus ยังสามารถเปิดอ่านไฟล์เอกสารอย่าง Word, Excel และ PowerPoint ได้ผ่านแอปพลิเคชัน WPS Office

 

สามารถสำรองข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รายชื่อโทรศัพท์, ข้อความ หรือโน้ตต่างๆ ได้ผ่านแอปพลิเคชัน VivoCloud

 

ทางด้านฟังก์ชัน “ภาพหน้าจอพิเศษ” สำหรับถ่ายภาพหน้าเว็บเบราว์เซอร์ หรือเอกสารที่มีหลายหน้า หรือแม้แต่การถ่ายภาพที่เลือกเฉพาะส่วนแบบแนวนอน ก็มีให้ใช้งานบน Vivo V5 Plus ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถบันทึกภาพหน้าจอในรูปแบบวิดีโอได้อีกด้วย

 

ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สำหรับตรวจสอบสิทธิ์การเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน พร้อมทั้งสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมืออีกด้วย นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลุกการทำงานของเครื่องในขณะที่เครื่องอยู่ในโหมดสลีปได้ทันที

 

สำหรับแอปพลิเคชันอัลบั้มภาพถ่ายจะสามารถแสดงภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ แสดงแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด กับแสดงแบบแยกอัลบั้ม

 

นอกจากนี้ Vivo V5 Plus ยังฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับการใช้งานนั่นคือ โหมดการใช้งานอัจฉริยะ ซึ่งจะประกอบไปด้วยโหมด การใช้งานโดยไม่สัมผัส, เปิด-ปิด หน้าจอแบบอัจฉริยะ, การโทรอัจฉริยะ, เขย่าเพื่อเปิดไฟฉาย, ซูมโดยการเอียงโทรศัพท์ และการเตือนอัจฉริยะ

 

โดยผู้ใช้สามารถสั่งงานด้วยท่าทางได้หลากหลาย เช่น การหยิบโทรศัพท์มาแนบใบหูเพื่อโทรออกถึงรายชื่อโทรศัพท์ที่ต้องการติดต่อ หรือการเอาฝ่ามือมาบังที่หน้าจอเพื่อปิดเสียง

 

ทางด้านฟังก์ชันสำหรับเปิดใช้งานพร้อมกัน 2 แอปพลิเคชันอย่าง Smart Split 2.0 ก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

 

นอกจากนี้ Vivo V5 Plus ยังมีฟังก์ชันสำหรับการใช้งานมือเดียวแบบเดียวกับ Vivo V5 ซึ่งสามารถปรับหน้าจอให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้สามารถใช้งานมือเดียวได้สะดวกมากขึ้น

 

ในส่วนของแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงก็มีให้ใช้งานบน Vivo V5 Plus ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้งานระบบเสียงแบบ Hi-Fi และสามารถปรับค่าอีควอไลเซอร์ได้อีกด้วย (ระบบเสียงแบบ Hi-Fi สามารถใช้งานได้ก็ต่อเมื่อเชื่อมต่อกับหูฟังเท่านั้น)

 

Vivo V5 Plus นั้นสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น อีกทั้งยังสามารถแสดงผลได้เต็มความละเอียดของไฟล์วิดีโอ เนื่องด้วยหน้าจอของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีความละเอียดอยู่ที่ 1920x1080 พิกเซล นั่นเอง

 

และยังมีฟังก์ชัน Popup Play ให้ใช้งาน

 

โดย Vivo V5 Plus นั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8953 Snapdragon 625 ความเร็วในการประมวลผล 2.0 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 506, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 3.0 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow)

 

ถึงแม้ว่าคุณสมบัติตัวเครื่องของ Vivo V5 Plus จะจัดอยู่ในระดับกลาง แต่ก็ตอบสนองด้านการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรืออาการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องให้พบเจอ

 

และเมื่อนำ Vivo V5 Plus มาทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ก็พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 63558 คะแนน

 

ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark ก็พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 10939 คะแนน

 

สำหรับ Vivo V5 Plus นั้นสามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสุงสุด 10 จุด

 

และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store

 

กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ

สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพด้านหลังบน Vivo V5 Plus นั้นมีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพปกติ, โหมดถ่ายภาพกลางคืน, โหมดถ่ายภาพโปร หรือโหมดถ่ายภาพ Ultra HD

 

สำหรับโหมดถ่ายภาพโปรจะสามารถปรับค่าเพื่อถ่ายภาพได้หลายอย่างด้วยกัน เช่น การชดเชยแสง, การปรับค่า ISO หรือความเร็วชัตเตอร์

 

ไม่เพียงเท่านั้น กล้องดิจิทัลด้านหลังยังมาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับค่าผิวเนียน, โทนสี และสีผิว ได้

 

ในส่วนของเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้งานไฟแฟลช LED กับโหมดถ่ายภาพ HDR ได้อีกด้วย

 

นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันอื่นๆ ได้อีกหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ, การเลือกสัดส่วนของภาพถ่าย, การสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, เสียงชัตเตอร์ และการแท็กสถานที่บนภาพถ่าย

 

ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวย

 

สำหรับในโหมดถ่ายภาพหน้าสวยนั้นสามารถปรับค่าได้ 3 อย่างด้วยกัน ได้แก่ ผิวเนียน, โทนสี และสีผิว ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกระดับได้ตั้งแต่น้อยสุด ไปจนถึงมากสุดได้ตามความต้องการ

 

ในส่วนของเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

 

อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้งานไฟแฟลชแบบ Selfie Softlight, โหมดถ่ายภาพ HDR และโหมดถ่ายภาพ Bokeh ได้

 

ซึ่งโหมดถ่ายภาพ Bokeh นั้นสามารถปรับขนาดรูรับแสงได้ตั้งแต่ f/0.95 ไปจนถึง f/16 ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ, หน้าเบลอหลังชัด หรือชัดทั้งภาพได้นั่นเอง

 

นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันอื่นๆ ได้อีกหลายส่วนด้วยกัน เช่น การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ, การเลือกสัดส่วนของภาพถ่าย, การสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, เสียงชัตเตอร์ และการแท็กสถานที่บนภาพถ่าย

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ของ Vivo V5 Plus


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบ Dual-Camera ความละเอียด 20+8 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย ของ Vivo V5 Plus


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับกลาง


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับกลาง


ภาพซ้าย คือ ภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ ส่วนภาพขวาคือ ภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ HDR พร้อมเปิดใช้งานไฟแฟลช Selfie Softlight ซึ่งจะเห็นได้ว่า ภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ HDR นั้นมีสีสันใส และดูเป็นธรรมชาติมากกว่าภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ภาพซ้าย คือ ภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ ส่วนภาพขวาคือ ภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ HDR พร้อมเปิดใช้งานไฟแฟลช Selfie Softlight ซึ่งจะเห็นได้ว่า ภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ HDR นั้นมีสีสันใส และดูเป็นธรรมชาติมากกว่าภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบ Dual-Camera ความละเอียด 20+8 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพ Bokeh ของ Vivo V5 Plus


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ Bokeh ซึ่งภาพซ้ายเป็นภาพถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอ ส่วนภาพขวาเป็นภาพถ่ายแบบหน้าเบลอหลังชัด

 

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถมาเลือกจุดโฟกัสในภายหลังจากการถ่ายภาพแล้วได้ อีกทั้งยังสามารถปรับขนาดของรูรับแสงได้ตามต้องการอีกด้วย ซึ่งสามารถปรับขนาดรูรับแสงได้ตั้งแต่ f/0.95 ไปจนถึง f/16

 

สรุปผลการทดสอบของ Vivo V5 Plus

ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับ Vivo V5 Plus อันดับแรกต้องขอยอมรับในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 20+8 ล้านพิกเซล ที่มีโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์, เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX376 ขนาด 1/2.78 นิ้ว, รูรับแสงกว้างสูงสุดขนาด f/2.0 พร้อมไฟแฟลชแบบ Selfie Softlight ซึ่งจากการทดสอบพบว่ากล้องดิจิทัลด้านหน้านั้นสามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้ดีเป็นพิเศษ ทั้งการถ่ายภาพในสภาวะแสงปกติ หรือการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย แถมภาพถ่ายที่ได้ยังมีความคมชัดเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งานร่วมกับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยที่สามารถปรับค่าผิวเนียน หรือสีผิวได้ บอกได้เลยว่า ต้องถูกอกถูกใจคนรักการถ่ายภาพเซลฟี่อย่างแน่นอน และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ กล้องดิจิทัลด้านหน้ายังมาพร้อมกับฟังก์ชันการถ่ายภาพ Bokeh โดยผู้ใช้สามารถปรับค่ารูรับแสงได้ตั้งแต่ f/0.95 ไปจนถึง f/16 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์การถ่ายภาพแบบใหม่ๆ ได้หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ, หน้าเบลอหลังชัด หรือชัดทั้งภาพ

สำหรับกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus), รูรับแสงกว้างสูงสุดขนาด f/2.0 พร้อมไฟแฟลช LED ก็ตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายภาพในสภาวะแสงปกติ หรือการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย แถมภาพถ่ายที่ได้ยังมีสีสันสดใส และยังสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ภายในภาพได้อย่างคมชัดครบถ้วน อีกทั้ง ยังมีโหมดถ่ายภาพโปรให้เลือกใช้งาน ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับค่าต่างๆ ได้อย่างอิสระ เพื่อสร้างสรรค์ภาพถ่ายรูปแบบใหม่ๆ ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ในเรื่องดีไซน์ การออกแบบก็ถือว่ามีความโดดเด่นอยู่ไม่น้อย โดยทาง Vivo ได้เลือกใช้เทคโนโลยีการผลิต Hi-Polymer Unibody ให้กับ Vivo V5 Plus จึงทำให้ตัวเครื่องของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีความสวยงามลงตัว อีกทั้งยังมีความแข็งแรงทนทาน ไม่เพียงเท่านั้น ตรงมุมทั้งสี่ด้านยังมีความโค้งมน บวกกับพื้นผิวแบบ Metallic ที่ให้สัมผัสคล้ายโลหะ พร้อมด้วยความบางเฉียบเพียง 7.26 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับ หรือถือใช้งานได้ถนัดมือ และสามารถพกพาไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว

ทางด้านจุดเด่นอื่นๆ ก็นับว่ามีน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังตอบสนองต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ IPS In-Cell LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกหน้าจอแบบ 2.5D Corning Gorilla Glass 5, ลำโพงเสียงภายนอกที่รองรับการทำงานร่วมกับชิปประมวลผลเสียงแบบ  Hi-Fi AK4376, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถปลดล็อกเครื่องได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง, รองรับการใช้งานสองแอปพลิเคชันพร้อมกันผ่านฟังก์ชัน Smart Split 2.0, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G และแบตเตอรี่ขนาด 3160 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จความเร็วสูงแบบ Dual Charging Engine

ในส่วนคุณสมบัติในด้านการประมวลผลของ Vivo V5 Plus ถึงแม้จะอยู่ในระดับกลาง แต่ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8953 Snapdragon 625 ความเร็วในการประมวลผล 2.0 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 506, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 3.0 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow)

และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาราวๆ หนึ่งสัปดาห์ก็พอที่จะสรุปได้ว่า Vivo V5 Plus น่าจะเหมาะกับคอเซลฟี่พันธุ์แท้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกล้องถ่ายภาพด้านหน้าที่สวยคมชัดมากเป็นพิเศษ, ดีไซน์เรียบหรูบางเฉียบ, วัสดุแข็งแรงทนทาน, สเปกเครื่องที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้ดีทุกรูปแบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และมีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย ในราคาที่เอื้อมถึงได้ไม่ยาก ซึ่ง Vivo V5 Plus ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว และสำหรับท่านใดที่สนใจก็สามารถเป็นเจ้าของ Vivo V5 Plus ได้แล้ววันนี้ที่ Vivo Shop หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ในราคาเพียง 13,990 บาท

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Vivo ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Vivo V5 Plus มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

 

จุดเด่นของ Vivo V5 Plus

- ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ All-Metal Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน พร้อมรองรับการสั่งงานถ่ายภาพ หรือรับสาย และสามารถปลดล็อกเครื่องได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที
- จอแสดงผลแบบ IPS In-Cell LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass 5
- รองรับการใช้งานสองแอปพลิเคชันพร้อมกันผ่านฟังก์ชัน Smart Split 2.0
- รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8953 Snapdragon 625 ความเร็วในการประมวลผล 2.00 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 506
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 3.0 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow)
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 64 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 20+8 ล้านพิกเซล ที่มีโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์, เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX376 ขนาด 1/2.78 นิ้ว, รูรับแสงกว้างสูงสุดขนาด f/2.0 พร้อมไฟแฟลชแบบ Selfie Softlight และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- กล้องดิจิทัลด้านหลังมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus), รูรับแสงกว้างสูงสุดขนาด f/2.0 พร้อมไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K Ultra HD
- รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual SIM)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- ลำโพงเสียงภายนอกที่รองรับการทำงานร่วมกับชิปประมวลผลเสียงแบบ  Hi-Fi AK4376
- แบตเตอรี่แบบ Li-Ion Polymer 3160 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จความเร็วสูงแบบ Dual Charging Engine
- ราคา 13,990 บาท พร้อมแถมฟรี Box Set ซึ่งประกอบไปด้วยหูฟังบลูทูธ และอะแดปเตอร์สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ในรถยนต์

 

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Vivo V5 Plus

- เนื่องจากตัวเครื่องเป็นดีไซน์แบบไม่มีฝาหลัง จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยตนเองได้
- วัสดุที่ใช้ผลิตตัวเครื่องเป็นแบบ High Polymer ซึ่งไม่ใช่โลหะ และถูกทำพื้นผิวให้เป็นแบบ Metallic เพื่อให้มีสัมผัสคล้ายโลหะ
- ไม่รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอก

 

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

 

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Vivo V5 Plus ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Vivo V5 Plus
สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Vivo V5 Plus

  title="Sony Xperia ZL Specification">

 

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::

 

 

 


 












 รีวิว OPPO A5x | Enco Buds3
สมาร์ตโฟนแบตอึด 6000 mAh พร้อมชาร์จไว 45W SUPERVOOC บนบอดี้สวยแกร่ง ในราคาไม่ถึง 4 พัน และ OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สายตัวคุ้ม

[รายละเอียด]
 รีวิว Alldocube iPlay60 Pad Pro
แท็บเล็ตจอใหญ่ 12.1 นิ้ว โทรได้ พร้อมคีย์บอร์ด ปากกา และรองรับ PC Mode ครบจบในเครื่องเดียว ในราคาไม่ถึง 9 พันบาท

[รายละเอียด]
 รีวิว OPPO Find N5
สมาร์ตโฟนจอพับบางที่สุดในโลก พร้อมกล้อง Hasselblad 3x Optical Zoom ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite พลังชาร์จไว 80W และฟีเจอร์ AI ใหม่ล่าสุด

[รายละเอียด]
 รีวิว POCO F7 Pro | F7 Ultra
สมาร์ตโฟนทรงพลังที่สุดของค่าย แรงระดับเรือธง ฟีเจอร์ AI พร้อมใช้ ในราคาแค่ครึ่งเดียว เริ่มเพียง 15,990 บาท

[รายละเอียด]
 รีวิว Xiaomi 15 | Xiaomi 15 Ultra
เรือธงกล้อง Leica ที่น่าจับจองกว่าเดิม เพิ่มกล้อง 200MP ใหม่ซูมได้ 120x พร้อมฟีเจอร์ AI จัดเต็ม

[รายละเอียด]
 รีวิว Alldocube iPlay 50 mini
แท็บเล็ตไซส์มินิสุดคุ้ม โทรได้ มี GPS พร้อมฟีเจอร์ตอบโจทย์คนชอบดูหนัง และอ่าน e-Book ในราคาประหยัดเพียง 3,990 บาท

[รายละเอียด]
รายการรีวิวมือถือทั้งหมด








วางจำหน่ายแล้ว OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สาย แบตอึด 48 ชม. น้ำหนัก 3.8 กรัม ราคา 799 บาท
วางจำหน่ายแล้ว OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สาย แบตอึด 48 ชม. น้ำหนัก  
วางจำหน่ายแล้ว หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ “OPPO Enco Buds3” พร้อมมอบการใช้งานที่ดื่มดำเต็มอรรถรสได้ตลอดวัน ในราค
realme Neo7 Turbo เตรียมเปิดตัวที่จีน 29 พฤษภาคมนี้ พร้อมดีไซน์ฝาหลังใสและชิป Dimensity 9400e
realme Neo7 Turbo เตรียมเปิดตัวที่จีน 29 พฤษภาคมนี้ พร้อมดีไซน์ฝา 
realme Neo7 Turbo สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดเตรียมเปิดตัวในประเทศจีนวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ โดยล่าสุดได้เผยภาพเ
iPhone 7 Plus และ iPhone 8 ถูกจัดเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า (Vintage) แล้ววันนี้
iPhone 7 Plus และ iPhone 8 ถูกจัดเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า (Vintage)  
Apple ได้อัปเดตรายการผลิตภัณฑ์เก่า (Vintage) และผลิตภัณฑ์ล้าสมัย (Obsolete) อีกครั้งในวันนี้ โดยมีการเปลี
เทคนิคตั้งค่ากล้องมือถือให้ถ่ายสวยระดับโปร ทำอย่างไรไปดู!
เทคนิคตั้งค่ากล้องมือถือให้ถ่ายสวยระดับโปร ทำอย่างไรไปดู! 
ในปัจจุบันกล้องถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนได้รับการอัปเกรดให้ล้ำกว่าแต่ก่อนมาก ไม่ว่าจะเป็นจำนวนกล้องที่มากขึ้น,
AirPods หายข้างเดียวทำไงดี ซื้อใหม่ข้างเดียวได้ไหม?
AirPods หายข้างเดียวทำไงดี ซื้อใหม่ข้างเดียวได้ไหม? 
ฝันร้ายของคนที่ใช้ AirPods คงจะหนีไม่พ้นการที่หูฟังหาย ซึ่งเท่าที่เคยพบเจอมาส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้หายทั้งเค
มือถือราคาไม่เกิน 10,000 ปี 2025 อัปเดตล่าสุดเดือน มี.ค. 2025 มีรุ่นไหนบ้างไปดู!
มือถือราคาไม่เกิน 10,000 ปี 2025 อัปเดตล่าสุดเดือน มี.ค. 2025 มีร 
ปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีหลายรุ่นหลายราคาให้เลือกสรรกันตามกำลังทรัพย์ โดยรุ่นที่มักจะเป็นที่ต้องการอยู่เสมอคือร
มือถือเล่นเกมราคาไม่เกิน 10,000 บาท สเปกคุ้มค่า อัปเดตราคาล่าสุด ก.พ. 2025
มือถือเล่นเกมราคาไม่เกิน 10,000 บาท สเปกคุ้มค่า อัปเดตราคาล่าสุด  
สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง หรือมือถือเล่นเกมยังคงได้รับความสนใจอยู่เสมอ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีราคาไม่เกิน 10,000 บาท สำ
Samsung เปิดตัว Galaxy S25 Series ในไทย โชว์พลัง Galaxy AI ผ่านงานดนตรีสุดล้ำ ในงาน Here AI am Music Fest
Samsung เปิดตัว Galaxy S25 Series ในไทย โชว์พลัง Galaxy AI ผ่านงา 
ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S25 Series สุดยิ่งใหญ่ในไทย โชว์ความเก่ง Galaxy AI ผู้ช่วยส่วนตัวคนใหม่ ผ่านงานดนตร
HMD Skyline วางขายในไทยแล้ววันนี้ในราคา 14,990 บาท มากับชิป Snapdragon 7s Gen 2, จอ 144Hz, ชาร์จไร้สาย และกล้องซูม
HMD Skyline วางขายในไทยแล้ววันนี้ในราคา 14,990 บาท มากับชิป Snapd 
HMD Skyline สมาร์ทโฟนผู้สืบทอดทางจิตวิญญาณของ Nokia Lumia ในตำนานเปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยเรียบร้อย
อินฟินิกซ์ โปรกลางเดือน สมาร์ทโฟนรุ่นฮิต สเปคเทพ ราคาพิเศษ ส่วนลดจัดเต็ม [สิงหาคม 2024]
อินฟินิกซ์ โปรกลางเดือน สมาร์ทโฟนรุ่นฮิต สเปคเทพ ราคาพิเศษ ส่วนลด 
อินฟินิกซ์ อัดโปรฯ แรงกลางเดือน ขนสมาร์ทโฟนรุ่นฮิต สเปคเทพ ราคาโดน มาให้เลือกช้อป พร้อมส่วนลดจัดเต็มอีกเพ
รายการอัพเดททั้งหมด



ราคามือถือ อัพเดทล่าสุด !!


OPPO Reno13 5G 16,999 บาท ราคาลดลง 1,000 บาท จากราคาเดิม 17,999  บาท
Samsung Galaxy S25+ 34,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 36,900  บาท
Samsung Galaxy S25 27,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 29,900  บาท
Samsung Galaxy S25 Ultra 44,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 46,900  บาท
Samsung Galaxy S24 FE 17,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 19,900  บาท
OPPO Find N5 69,999 บาท
iPhone 13 128GB 15,900 บาท
iPhone 15 20,900 บาท ราคาลดลง 6,000 บาท จากราคาเดิม 26,900  บาท
OPPO Reno13 F 5G 12,999 บาท
Samsung Galaxy Z Fold6 58,900 บาท
Samsung Galaxy Z Flip6 34,900 บาท
POCO F6 Pro 13,490 บาท ราคาลดลง 2,500 บาท จากราคาเดิม 15,990  บาท
Samsung Galaxy A05s 4,499 บาท ราคาลดลง 500 บาท จากราคาเดิม 4,999  บาท
iPhone 15 Pro Max 39,500 บาท ราคาลดลง 7,400 บาท จากราคาเดิม 46,900  บาท
iPhone 15 Pro 35,400 บาท ราคาลดลง 3,100 บาท จากราคาเดิม 38,500  บาท
iPhone 15 Plus 29,900 บาท ราคาลดลง 3,300 บาท จากราคาเดิม 33,200  บาท
Redmi Pad SE 4,999 บาท
Samsung Galaxy Tab S9+ 35,900 บาท
vivo Y27 5G 6,999 บาท
รายการ ราคามือถือ ทั้งหมด



อัพเดท ข่าวสารล่าสุด (New update)

Xbox ปล่อย Copilot for Gaming (Beta) บนอุปกรณ์มือถือ พร้อมรองรับทั้ง iOS และ Android ผู้ช่วยเกมเมอร์อัจฉริยะ
Xbox ปล่อย Copilot for Gaming (Beta) บนอุปกรณ์มือถือ พร้อมรอ 
Xbox เปิดให้เหล่าเกมเมอร์ได้ทดลองใช้งานฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด Copilot for Gaming (Beta) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกร
LINE อัปเดตฟีเจอร์ “รีแอคชั่น” ใหม่! เพิ่มสีสันให้การแชทผ่านการส่งรีแอคชั่นข้อความด้วย LINE Emoji ได้ทุกรูปแบบแล้ววันนี้
LINE อัปเดตฟีเจอร์ “รีแอคชั่น” ใหม่! เพิ่มสีสันให้การแชทผ่าน 
LINE อัปเดตฟีเจอร์ “รีแอคชั่น” ใหม่ ผู้ใช้งานทุกท่านสามารถเลือกใช้ LINE Emoji ทุกรูปแบบในการส่งรีแอคชั่นต
MAHAJAK สบายใจ สบายจ่าย ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน อยู่ที่ไหนก็ผ่อนได้ กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
MAHAJAK สบายใจ สบายจ่าย ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน อยู่ที่ไห 
มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จัดให้กับโปรโมชันผ่อนได้นานสูงสุดถึง 10 เดือน พร้อมให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของเครื่องเสียง
Samsung เปิดตัวทีวี AI รุ่นใหม่ การันตีอัปเดต OS ฟรี 7 ปี พร้อมรับโปรพิเศษ 7 ต่อ
Samsung เปิดตัวทีวี AI รุ่นใหม่ การันตีอัปเดต OS ฟรี 7 ปี พร 
ซัมซุง มอบความมั่นใจให้ลูกค้า การันตีอัปเดต OS ฟรีนาน 7 ปี บนไลน์อัปทีวี AI รุ่นใหม่
Xiaomi รายได้พุ่งทะลุ 111.3 พันล้านหยวน ไตรมาสแรกปี 2025 กำไรโต 64.5%
Xiaomi รายได้พุ่งทะลุ 111.3 พันล้านหยวน ไตรมาสแรกปี 2025 กำไ 
เสียวหมี่ทำรายรับทะลุ 111.3 พันล้านหยวนในไตรมาสแรกของปี 2568 ซึ่งทำยอดทะลุ 1 แสนล้านหยวนเป็นไตรมาสที่สองต
รายการอัพเดททั้งหมด


    Catalog มือถือ     market     Review มือถือ      ราคามือถือ     forum
Catalog มือถือ
Catalog มือถือ Nokia
Catalog มือถือ Samsung
Catalog มือถือ SonyEricsson
Catalog มือถือ i-mobile
Catalog มือถือ LG
Catalog มือถือ BlackBerry
ลงประกาศสินค้ามือถือ
สมัครสมาชิก
หน้าแรกตลาดซื้อขายมือถือ
 
หน้าแรกรีวิว
รีวิว มือถือ Nokia
รีวิว มือถือ Samsung
รีวิว มือถือ Motorola
รีวิว มือถือ LG
 

ราคามือถือ Samsung
ราคามือถือ iPhone
ราคามือถือ Huawei
ราคามือถือ OPPO
ราคามือถือ Vivo
   
   
หน้าแรก cafe
Nokia club
ตั้งหัวข้อใหม่
 

© Copyright all rights reserved : ThaiMobileCenter.com