รีวิว (Review) Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1
ยอดแท็บเล็ตเพื่อการขีดเขียนใหม่ล่าสุด กับฟีเจอร์ S Pen ที่จัดเต็มครบเครื่องกว่าเดิมทั้ง Write on PDF, Screen Off Memo, Translate พร้อมจอ Blue Light Filter ไซส์ใหญ่สุดคมชัดระดับ Full HD และประสิทธิภาพที่เร็วแรงกว่าเดิม บนตัวเครื่องดีไซน์เรียบหรู ในราคาสุดคุ้มเพียง 12,900 บาท
Review
Date (31-ตุลาคม-2559)

สวัสดีครับ พบกันอีกครั้งกับการรีวิวผลิตภัณฑ์รุ่นเด็ดโดยทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ ซึ่งวันนี้ก็ถึงคิวของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 แท็บเล็ตเพื่อการขีดเขียนดีไซน์เรียบหรูสุดคุ้มใหม่ล่าสุด ซึ่งหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ล่าสุดทาง Samsung ประเทศไทยได้ทำการวางจำหน่ายแท็บเล็ตรุ่นใหม่นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในราคา 12,900 บาท (พร้อมแถมฟรี Smart Cover)
สำหรับจุดขายของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 นั้นมีอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลความละเอียดระดับ 1920x1200 พิกเซล แบบ TFT LCD ขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมฟังก์ชัน Blue Light Filter สำหรับลดแสงสีฟ้า เพื่อถนอมสายตา, กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงขนาด F/1.9 พร้อมไฟแฟลช LED, กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย, รองรับการใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับการใช้งานโทรศัพท์ และแบตเตอรี่สุดอึดขนาด 7300 mAh
อีกหนึ่งจุดขายสำคัญของแท็บเล็ตรุ่นนี้ คือ รองรับการใช้งานปากกา S Pen สำหรับทำงานร่วมกับฟังก์ชัน Air Command ได้อย่างหลากหลายมากกว่า Galaxy Tab A รุ่นเดิม ไม่ว่าจะเป็น Write on PDF, Create Note, Smart Select, Screen Write, Screen Off Memo และ Translate เรียกได้ว่า เรียกได้ว่า สามารถใช้ขีดเขียน, จดบันทึก หรือวาดภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ สามารถสร้างไฟล์ภาพ GIF ด้วยตนเองได้ผ่านฟังก์ชัน Smart Select นอกจากนี้ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ยังรองรับการใช้งานฟังก์ชัน Multi-User โดยผู้ใช้งานสามารถล็อกอินได้มากสุดถึง 9 แอคเค้าท์ เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย และปกป้องข้อมูลส่วนตัวได้อีกด้วย
ในส่วนของคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็ถือว่าครบเครื่อง และพร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core Exynos 7870 ที่มีความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T830, หน่วยความจำแรมขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB พร้อมรองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุดถึง 256 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow
ซึ่งจากข้อมูลข้างต้นที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องคุณสมบัติตัวเครื่อง และการรองรับการใช้งานร่วมกับปากกา S Pen ซึ่งถูกพัฒนาให้ดีขึ้นกว่า Galaxy Tab A รุ่นเดินในหลายๆ จุด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคาถือว่าสมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร, การออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ต่างๆ จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 พร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

โดย Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ TFT LCD ความละเอียด 1920x1200 พิกเซล ขนาด 10.1 นิ้ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยีปรับลดความสว่างอัตโนมัติเมื่ออยู่ในที่มืด และฟังก์ชัน Blue Light Filter สำหรับลดแสงสีฟ้า เพื่อถนอมสายตา โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 254.3x164.2x8.2 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 558 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, ระบบ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ด้านหน้าส่วนล่างประกอบไปด้วยปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส (Touch Panel) ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

ด้านบนของตัวเครื่องประกอบไปด้วยไมโครโฟน, ช่องเชื่อมต่อกับ microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล และช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างของตัวเครื่องมีลำโพงเสียงภายนอกแบบคู่ และปากกา S Pen

ซึ่งปากกาของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 จะมีดีไซน์เรียบหรู พร้อมกับปุ่มสำหรับเรียกใช้งานฟังก์ชัน Air Command

อีกทั้งหัวปากกายังรองรับการกดตามลักษณะของการใช้งานได้

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ, ปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับเสียง, ช่องสำหรับเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ซึ่งสามารถเพิ่มได้สูงสุดที่ 256 GB และช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่งซิมการ์ดที่ใช้งานเป็นแบบ nanoSIM

ด้านซ้ายของตัวเครื่องนั้นไม่มีปุ่มฟังก์ชันใดๆ ให้ใช้งาน

ด้านหลังของตัวเครื่องประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลด้านความละเอียด 8 ล้านพิก ที่มีรูรับแสงขนาด F/1.9 พร้อมไฟแฟลช LED โดย Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 7300 mAh

นอกจากนี้ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมอย่าง Smart Cover


ซึ่ง Smart Cover นั้นสามารถตั้งใช้งานได้ 2 ระดับ

อีกทั้งยังทำรอยพับพิเศษเพื่อให้สามารถเลื่อนปากกา S Pen ออกมาใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
 
Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow พร้อมรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้
 
โดยมีหน่วยความจำภายในขนาด 16 GB พร้อมด้วยหน่วยความจำแรมขนาด 3 GB
 
Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการแจ้งเตือนต่างๆ และสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้ เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือการใช้งาน WiFi
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ หรือการนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน
 
ส่วนบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานอย่างครบครันบน Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1
 
สำหรับฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย พร้อมด้วยปุ่มตัวเลขขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยให้กดหมายเลขได้อย่างแม่นยำ และสามารถเข้าดูรายชื่อทั้งหมดได้ทันที
 
และความพิเศษของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 คือ มาพร้อมฟังก์ชัน Air Command ซึ่งประกอบไปด้วย Create Note, Smart Select, Screen Write และ Translate นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มแอปพลิเคชันอื่นๆ มาไว้ใน Air Command ไดมากสุดถึง 6 แอปพลิเคชันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ทาง Samsung ยังได้พัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นมาใหม่ โดยใช้ชื่อว่า Samsung Notes ซึ่งเป็นการรวม 3 ฟีเจอร์เด่นอย่าง Action Memo, S Note และ Scrapbook ไว้ในที่เดียวกันนนั้นก็ช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการใช้งานให้สะดวกคล่องตัว และรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม
 
โดยไอคอนทางลัดสำหรับเรียกใช้ Air Command จะปรากฏอยู่บนทุกๆ หน้าจอ ช่วยให้สามารถเรียกใช้งาน Air Command ได้แบบทันทีทันใด และเราสามารถลากย้ายตำแหน่งของไอคอนทางลัดนี้ได้อย่างอิสระ

แอปพลิเคชัน Create Note สำหรับการวาด การเขียน นั้นมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย ซึ่งจะแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที โดยนอกจากจะรองรับการวาด หรือเขียน ตัวฟังก์ชันยังรองรับการพิมพ์ด้วยจากคีย์บอร์ดด้วยเช่นกัน และยังสามารถเพิ่มรูปภาพ, ถ่ายรูป, หรือบันทึกเสียง ลงไปได้อีกด้วย
 
ด้วยแอปพลิเคชัน Smart Select นั้นผู้ใช้สามารถเก็บบันทึกสิ่งที่น่าสนใจที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอได้ทันที โดยมีรูปแบบการล้อมกรอบให้เลือก 4 แบบด้วยกัน ได้แก่ แบบสี่เหลี่ยม, แบบอิสระ, แบบวงกลม และแบบอัตโนมัติ ซึ่งส่วนที่เราเลือกเอาไว้ก็จะถูกเก็บบันทึกไว้ใน Samsung Notes

อีกหนึ่งความน่าสนใจของฟังก์ชัน Smart Select คือ สามารถสร้างภาพไฟล์ GIF จากวิดีโอที่คุณต้องการได้ ซึ่งขั้นตอนการใช้งานก็ง่ายมากๆ เพียงแค่เปิดวิดีโอที่ต้องการขึ้นมา พร้อมเปิดฟังก์ชัน GIF Animation โดยวางกรอบให้ตรงกับภาพวิดีโอที่เราต้องการ (สามารถขยาย-ลด ขนาดกรอบได้) และกด Record ได้ทันที ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถใช้ปากกา S Pen เขียนข้อความขณะกำลังบันทึกลงไปในไฟล์ GIF ได้อีกด้วย เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้ ไฟล์ GIF เก๋ๆ มาใช้งานแบบไม่เหมือนใคร

ด้วยความสามารถของฟังก์ชัน Screen Write ที่จะช่วยให้เราสามารถจับภาพหน้าจอที่เราต้องการ แล้วนำมาเขียน หรือจดสิ่งต่างๆ ได้
 
และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Write on PDF โดยผู้ใช้สามารถแก้ไข, จดบันทึก หรือไฮไลท์ใจความสำคัญบนไฟล์ PDF ด้วยปากกา S Pen ได้ทันที ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก

ด้วยฟังก์ชัน Translate นั้นช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแปลคำศัพท์ต่างๆ ได้ อีกทั้งยังมีภาษาให้เลือกใช้งานหลากหลาย แต่อย่างไรก็ดี ฟังก์ชันนี้นั้นสามารถแปลได้เฉพาะศัพท์ที่เป็นคำๆ เท่านั้น ซึ่งไม่สามารถแปลทั้งประโยคได้
 
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถตั้งค่าการใช้งานปากกา S Pen เพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน เช่น การใช้งานแอร์วิว, การป้อนข้อมูลโดยใช้ปากกา, การใช้งาน Screen Off Memo และเสียงการเก็บ หรือดึงปากกาออกมาใช้งาน

อีกหนึ่งความน่าสนใจของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Multi-User ซึ่งผู้ใช้งานสามารถล็อกอินได้มากสุดถึง 9 แอคเค้าท์ เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย และปกป้องข้อมูลส่วนตัวได้อีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ยังสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน Blue Light Filter ได้ ซึ่งตัวฟังก์ชันจะทำการลดแสงสีฟ้าบนหน้าจอ เพื่อช่วยถนอมสายตาของผู้ใช้ในสภาวะที่มีแสงน้อย หรือการใช้งานในเวลากลางคืน
 
นอกจากนี้ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Quick Connect สำหรับแสดงผลภาพ หรือคอนเทนต์ต่างๆ ไปบนจอสมาร์ททีวี อีกทั้งยังสามารถแสดงผลภาพ หรือคอนเทนต์ต่างๆ จากสมาร์ททีวีมาบน Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ได้อีกด้วย และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ แม้ผู้ใช้งานจะปิดสมาร์ททีวีไปแล้วก็ตาม แต่ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ก็ยังสามารถแสดงผลภาพ หรือคอนเทนต์ต่างๆ ได้เช่นเดิม

ตัวอย่างภาพขณะ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ใช้ฟังก์ชัน Quick Connect
 
และยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Smart Manager สำหรับจัดการส่วนต่างๆ ภายในเครื่อง ได้แก่ การเคลียร์แรม, การตรวจสอบหน่วยความจำภายในว่ายังสามารถใช้งานได้อีกเท่าไหร่ อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง (Ultra Power Saving) จากส่วนนี้ได้ทันที

หากผู้ใช้งานต้องการความสงบก็สามารถเปิดใช้งาน โหมดห้ามรบกวน ได้ ซึ่งโหมดรบกวนจะทำการปิดเสียง, ปิดเสียงเรียกเข้า และการแจ้งเตือนต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานนั่นเอง
 
Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ยังรองรับการใช้งานฟังก์ชัน Download Booster ซึ่งฟังก์ชัน Download Booster คือ ฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความเร็วของการดาวน์โหลดด้วยการเปิดใช้งานระบบ 4G LTE และ WiFi ไปพร้อมๆ กัน
 
นอกจากนี้ ทางซัมซุงยังได้ติดตั้งแอปพลิเคชันสำหรับสร้าง หรือเปิดอ่านไฟล์เอกสารจากทางไมโครซอฟต์เอาไว้ให้ใช้งานบน Samsung Galaxy A9 Pro อีกด้วย ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ทั้งไฟล์ Word, Excel หรือ PowerPoint ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อผู้ใช้งานจัดการกับไฟล์เอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถใช้บริการฝากไฟล์ผ่านแอปพลิเคชัน OneDrive บนตัวเครื่องได้ทันที
 
ในส่วนของเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี และสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ครบ และด้วยหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 10.1 นิ้ว จึงช่วยให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย และไม่จำเป็นต้องเพ่งสายตาเพื่ออ่านให้เมื่อยล้าดวงตาอีกต่อไป
 
ไม่เพียงเท่านั้น Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Multi-Windows ซึ่งสามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชันอีกด้วย
 
สำหรับแอปพลิเคชันอัลบั้มภาพถ่ายนั้นสามารถแสดงภาพถ่ายได้หลักๆ 2 แบบ คือ แสดงแบบแยกอัลบั้ม หรือแสดงแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด
 
นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดใช้งานการสั่งงานด้วยท่าทางแบบอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การใช้งาน Pop-Up View สามารถย่อหน้าต่างของแอปพลิเคชันให้เล็กลงในลักษณะของ Pop-Up View โดยการลากจากมุมซ้ายบน ทแยงเฉียงลงมาทางด้านขวา
 
การใช้ฝ่ามือปัดเพื่อจับภาพหน้าจอ, การโทรโดยตรง, รองรับการเตือนอัจฉริยะ และการปิดเสียง เป็นต้น
 
ทางด้านแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถปรับค่าอีควอไลเซอร์ได้หลายแบบตามความต้องการ

และสามารถชมภาพยนตร์ความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ

ทางด้านฟังก์ชัน Popup Play ก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ด้วยเช่นกัน
 
Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core Exynos 7870 ที่มีความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T830, หน่วยความจำแรมขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow

ด้วยคุณสมบัติตัวเครื่องที่ไม่เป็นสองรองใคร พร้อมประสิทธิภาพที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ บวกกับหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 10.1 นิ้ว จึงทำให้ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 สามารถตอบโจทย์ด้านการเล่นเกมได้อย่างไหลลื่น และเพลิดเพลินเป็นอย่างมาก

และเมื่อนำ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน Geekbench 4 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 689 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 3307 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core

ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน 3DMark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 293 คะแนน

โดย Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 รองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด
 
และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Galaxy Apps และ Google Play Store
กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ
 
สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพด้านหลังนั้นมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งยังแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพโปร, โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ และโหมดถ่ายภาพกลางคืน
 
โดยโหมดถ่ายภาพโปรนั้นสามารถปรับค่าเพื่อถ่ายภาพได้หลากหลาย เช่น การชดเชยแสง หรือการปรับค่า ISO ได้สูงสุดที่ 800
 
และสามารถตั้งค่าเพื่อถ่ายภาพได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพ ซึ่งสามารถเลือกได้สูงสุดที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, สามารถ เปิด-ปิด การใช้งานไฟแฟลช LED ได้, สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที และมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพให้ใช้งานอีกด้วย
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ การเลือกความละเอียดของไฟล์วิดีโอ ซึ่งสามารถเลือกได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p), สามารถเปิดใช้งานอัตราส่วนของภาพถ่ายขนาด 16:9 ได้
 
สามารถเปิดใช้งานตารางเก้าช่องได้, สามารถเปิดใช้งานการแท็กสถานที่บนภาพถ่าย และการตรวจสอบภาพถ่ายได้
 
สามารถเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มลดระดับเสียงได้ 3 แบบ ได้แก่ ถ่ายภาพ, บันทึกวิดีโอ หรือซูม และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
 
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพด้านหน้าก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน สามารถเลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งาน เช่น โหมดถ่ายภาพหน้าสวย หรือโหมดถ่ายภาพกลางคืน
 
ซึ่งโหมดถ่ายภาพหน้าสวยนั้นสามารถปรับค่าผิวเนียนได้ถึง 8 ระดับ เลยทีเดียว
 
และยังสามารถปรับค่าสำหรับถ่ายภาพได้ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพ ซึ่งสามารถเลือกความละเอียดได้สุงสุดที่ 2 ล้านพิกเซล, สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที
 
และมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลายรูปแบบ
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกความละเอียดของไฟล์วิดีโอ ซึ่งสามารถเลือกได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p), สามารถเปิดใช้งานอัตราส่วนของภาพถ่ายขนาด 16:9 ได้

สามารถเปิดใช้งานตารางเก้าช่องได้, สามารถเปิดใช้งานการแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, การสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, การสั่งงานด้วยภาพด้วยการยกฝ่ามือ (Palm Selfie) และการตรวจสอบภาพถ่ายได้
 
สามารถเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มลดระดับเสียงได้ 3 แบบ ได้แก่ ถ่ายภาพ, บันทึกวิดีโอ หรือซูม และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล ของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย ของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 4
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 8
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพ
สรุปผลการทดสอบของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิวแท็บเล็ตเพื่อการขีดเขียนดีไซน์เรียบหรูสุดคุ้มใหม่ล่าสุดอย่าง Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ซึ่งสำหรับการออกแบบดีไซน์ต้องยอมรับว่ามีความสวยงามลงตัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งตัวเครื่องยังมีความบางเพียง 8.2 มิลลิเมตร พร้อมด้วยพื้นผิวแบบด้านที่ด้านหลังของตัวเครื่อง จึงทำให้สามารถจับ หรือถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว แต่สำหรับผู้ใช้งานที่มีมือเรียวเล็กอย่างสุภาพสตรีอาจจะต้องระมัดระวังในการถือใช้งานเป็นพิเศษ
สำหรับคุณสมบัติเด่นของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ก็ถือว่ามีการพัฒนาจาก Galaxy Tab A รุ่นเดิมในหลายๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลความละเอียดระดับ 1920x1200 พิกเซล แบบ TFT LCD ขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมฟังก์ชัน Blue Light Filter สำหรับลดแสงสีฟ้า เพื่อถนอมสายตา, รองรับการใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับการใช้งานโทรศัพท์ และแบตเตอรี่สุดอึดขนาด 7300 mAh
ทางด้านการรองรับการใช้งานกับปากกา S Pen ก็ถือเป็นจุดขายหลักของแท็บเล็ตรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งจากการทดสอบใช้งานฟังก์ชัน Air Command ไม่ว่าจะเป็น Write on PDF, Create note, Smart Select, Screen Write, Screen Off Memo และ Translate นั้นก็ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเป็นอย่างมาก ทั้งการขีดเขียน, การจดบันทึก หรือวาดภาพสิ่งต่างๆ ได้ตามต้องการ นอกจากนี้ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ยังมีฟังก์ชัน Quick Connect สำหรับแสดงผลภาพ หรือคอนเทนต์ต่างๆ ไปบนจอสมาร์ททีวีได้ทันทีอีกด้วย ซึ่งเหมาะกับคนวัยทำงานที่ต้องนำเสนอแผนงานกับลูกค้า หรือน้องๆ นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องนำเสนอรายงานหน้าชั้นเรียนได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องพกพาโน๊ตบุ๊คอีกต่อไป
อีกหนึ่งความสามารถของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 คือ ผู้ใช้งานสามารถสร้างไฟล์ภาพ GIF จากวิดีโอด้วยตนเองได้ผ่านฟังก์ชัน Smart Select นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งานฟังก์ชัน Multi-User เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย และสามารถปกป้องข้อมูลส่วนตัวได้ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถล็อกอินได้มากสุดถึง 9 แอคเค้าท์ และการที่ทาง Samsung ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน Samsung Notes ขึ้นมาใหม่ ด้วยการรวม 3 ฟีเจอร์เด่นอย่าง Action Memo, S Note และ Scrapbook ไว้ในที่เดียวกันนั้น ก็ช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการใช้งานให้สะดวกคล่องตัว และรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ กล้องดิจิทัลบน Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ก็ตอบสนองต่อการถ่ายภาพได้ดีทั้งกล้องดิจิทัลด้านหน้า และกล้องดิจิทัลด้านหลัง โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังนั้นมีความละเอียดมากถึง 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด F/1.9 และไฟแฟลช LED ซึ่งจากการทดสอบด้วยการถ่ายภาพดอกไม้ หรือวัตถุที่มีรายละเอียดเยอะๆ กล้องดิจิทัลด้านหลังก็สามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ครบ อีกทั้งภาพถ่ายยังมีความคมชัด และสีสันสดใสอีกด้วย ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ก็ตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กัน อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งาน ซึ่งสามารถปรับค่าผิวเนียนได้ถึง 8 ระดับ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ชอบการถ่ายภาพเซลฟี่เป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ดี Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 นั้นไม่เน้นเรื่องของการถ่ายภาพเป็นหลัก เนื่องด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่ จึงไม่สะดวกที่จะนำออกมาถ่ายภาพ แต่จะเน้นการใช้งานวิดีโอคอล หรือการใช้งานด้านมัลติมิเดียเสียมากกว่า
ในส่วนของคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ทาง Samsung ก็จัดมาให้แบบครบเครื่อง และสามารถตอบโจทย์การใช้งานครบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core Exynos 7870 ที่มีความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-T830 หน่วยความจำแรมขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB พร้อมรองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุดถึง 256 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งจากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ หรือถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) แบบต่อเนื่อง Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ก็ยังสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ และไม่มีอาการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องอีกด้วย
จากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาแท็บเล็ตจอใหญ่ที่รองรับการใช้งานปากกา S Pen พร้อมดีไซน์เรียบหรู, แบตเตอรี่อึด, กล้องถ่ายภาพสวยคมชัด, มีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย และต้องมีราคาระดับหมื่นต้นๆ ซึ่ง Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก สำหรับท่านใดที่สนใจก็สามารถเป็นเจ้าของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ได้ที่ Samsung Brand Shop หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้ในราคา 12,900 บาท (พร้อมแถมฟรี Smart Cover) สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Samsung ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1
- ตัวเครื่องบางเพียง 8.2 มิลลิเมตร
- จอแสดงผลแบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1200 Pixels ขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T830
- ฟังก์ชัน Blue Light Filter สำหรับลดแสงสีฟ้า เพื่อถนอมสายตา
- รองรับการใช้งานกับปากกา S Pen สำหรับใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน Air Command ไม่ว่าจะเป็น Write on PDF, Create Note, Smart Select (พร้อมความสามารถในการสร้างภาพไฟล์ GIF) , Screen Write, Screen Off Memo และ Translate
- รองรับฟังก์ชัน Quick Connect สำหรับแสดงผลภาพ หรือคอนเทนต์ต่างๆ ไปบนจอสมาร์ททีวี
- รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Multi-User ซึ่งผู้ใช้งานสามารถล็อกอินได้มากสุดถึง 9 แอคเค้าท์ เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย และปกป้องข้อมูลส่วนตัวได้
- รองรับการเปลี่ยนธีม (Themes) พร้อมทั้งสามารถดาวน์โหลดธีมมาใช้งานเพิ่มเติมได้มากมาย
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Exynos 7870 ความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB พร้อมรองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 256 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสง F/1.9, ไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 2 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ HD 720p
- รองรับการใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM เพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และใช้งานโทรศัพท์
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- แอปพลิเคชัน Smart Manager สำหรับการจัดการกับแบตเตอรี่, หน่วยความจำภายใน, หน่วยความจำแรม และระบบความปลอดภัย
- แบตเตอรี่ Li-Ion Polymer 7300 mAh พร้อมรองรับโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง
- มีวิทยุ FM ในตัว
- ราคา 12,900 บาท พร้อมแถมฟรี Smart Cover
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1
- แบตเตอรี่เป็นแบบ Built-in Battery จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนด้วยตนเองได้
- หน้าแสดงผลเป็นแบบ TFT ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีเก่า
- ตัวเครื่องค่อนข้างหนัก และเกิดอาการเมื่อยล้าได้หากถือใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1
title="Sony Xperia ZL Specification">

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|