รีวิว (Review) Samsung Galaxy J7 Core
สมาร์ทโฟน J7 รุ่นเล็กแต่สเปกมาครบ! ด้วยจอ Super AMOLED ใหญ่เต็มตา 5.5 นิ้ว, ชิปเซ็ต Octa-Core Exynos 7870, ROM 16GB, RAM 2GB, กล้อง 13 ล้านพิกเซล, รองรับ VoLTE, แบตเตอรี่ 3000 mAh และฟังก์ชัน Dual Messenger บน Android 7.0 Nougat ที่สดใหม่ ในราคาเบาๆ ที่ 7,290 บาท!
Review
Date (30-สิงหาคม-2560)

เมื่อช่วงประมาณกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ได้ทำการนำเสนอบทความรีวิว Samsung Galaxy J7 Pro สมาร์ทโฟนระดับกลางตัวท็อปในตระกูล J7 กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็ถึงคิวของสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กในตระกูล J7 อย่าง Samsung Galaxy J7 Core กันบ้าง โดย Samsung Galaxy J7 Core นั้นก็ได้รับการอัปเกรดให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นหลายส่วน เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบต่างๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น
สำหรับ Samsung Galaxy J7 Core นั้นมีจุดขายที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Polycarbonate พร้อมพื้นผิวแบบ Metallic Pattern จึงทำให้มีความสวยงามดูน่าใช้งาน, หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว, มีฟังก์ชัน Secure Folder บวกกับฟังก์ชัน Dual Messenger รวมแล้วจึงสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน Line หรือแอปพลิเคชันอีกหลายตัวที่รองรับ ได้พร้อมกันถึง 3 แอคเคานท์ในเครื่องเดียวกัน, รองรับฟังก์ชัน Multi Window สำหรับใช้งานพร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง, สำรองข้อมูลผ่านฟังก์ชัน Samsung Cloud ได้สูงสุด 15 GB, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมช่องแยกสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่าย 4G (Voice over LTE) และแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมรองรับโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังนั้นมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 พร้อมไฟแฟลช LED สำหรับกล้องดิจิทัลด้านหน้าจะมีความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2 พร้อมไฟแฟลช LED
ทางด้านคุณสมบัติด้านการประมวลผลนั้นจัดอยู่ในระดับกลาง ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Exynos 7870 ความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T830 MP2, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat
และจากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy J7 Core นั้นมีจุดที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน ทังในเรื่องของหน้าจอแสดงผลที่เป็นแบบ Super AMOLED ขนาดใหญ่เต็มตา 5.5 นิ้ว, สามารถเล่นแอปพลิเคชัน Line ได้พร้อมกัน 3 แอคเคานท์ในเครื่องเดียวกัน, ฟีเจอร์การใช้งานที่ครบเครื่องมากขึ้น และกล้องถ่ายภาพที่ดีกว่าเดิม หากเทียบกับราคา 7,290 บาท ก็ถือเป็นราคาที่สมน้ำสมเนื้อไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ที่มีอยู่จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านรับชมรีวิว Samsung Galaxy J7 Core พร้อมกันต่อได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Samsung Galaxy J7 Core มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 152.4x78.6x7.6 มิลลิเมตร

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสง f/2.2 พร้อมไฟแฟลช LED, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้, Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส (Touch Panel) ซึ่งประกอบไปด้วย ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

ด้านบนของตัวเครื่องไม่มีปุ่มฟังก์ชันใดๆ ให้ใช้งาน

ด้านล่างของตัวเครื่องมีไมโครโฟน, ช่องเชื่อมต่อกับสาย microUSB สำหรับโอนถ่ายข้อมูล หรือชาร์จแบตเตอรี่ และช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง


ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 พร้อมแฟลช LED และลำโพงเสียงภายนอก

ซึ่งเมื่อเปิดฝาหลังออกมาก็จะพบกับช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 1, ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 2, ช่องสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD และช่องสำหรับใส่แบตเตอรี่

โดยแบตเตอรี่มีความจุอยู่ที่ 3000 mAh
เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์
 
Samsung Galaxy J7 Core ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 7.0 Nougat อีกทั้งยังรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE ได้
 
โดยมีหน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และมีหน่วยความจำแรมขนาด 2 GB
 
นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันการแจ้งเตือนให้ใช้งาน พร้อมทั้งสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การใช้งานอินเทอร์เน็ต, โหมดการใช้งานบนเครื่องบิน หรือรองรับการสนทนาผ่านระบบ VoLTE
 
ทางด้านบริการดีๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานหลากหลาย เช่น Google Maps หรือ Youtube
 
สำหรับฟังก์ชันโทรศัพท์นั้นก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมด้วยปุ่มตัวเลขขนาดใหญ่ ช่วยให้กดหมายเลขได้อย่างแม่นยำ และสามารถเข้ารายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมด หรือบันทีกการโทรได้อีกด้วย
 
ในส่วนของเว็บเบราว์เซอร์ที่ติดตั้งไว้บนเครื่องนั้นก็สามารถใช้งานได้อย่างไหลลื่น อีกทั้งยังสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ บนเว็บไซต์ได้อย่างครบถ้วน
 
ไม่เพียงเท่านั้น สำหรับฟังก์ชันการถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้า กับฟังก์ชัน Recent Apps ก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy J7 Core ด้วยเช่นกัน
 
และสามารถปรับโหมดหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละประเภทได้ ไม่ว่าจะเป็น Adaptive Display, AMOLED Cinema, AMOLED Photo และ Basic

นอกจากนี้ Samsung Galaxy J7 Core ยังรองรับฟังก์ชัน Multi-Windows สำหรับใช้งานพร้อมกันสองแอปพลิเคชันบนสองหน้าต่าง
 
อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ Samsung Galaxy J7 Core ยังมาพร้อมกับบริการสำรองข้อมูลต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ, วิดีโอ และรายชื่อผู้ติดต่อทั้งหมด ผ่านฟังก์ชัน Samsung Cloud ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้พื้นที่สำหรับสำรองข้อมูลได้มากถึง 15 GB เลยทีเดียว
 
ทางด้านฟังก์ชัน Smart Manager นั้นมีหน้าตาเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย แต่ก็สามารถจัดการส่วนต่างๆ ภายในเครื่องได้อย่างดีเยี่ยมเหมือนเช่นเคย ได้แก่ การเคลียร์แรม และการตรวจสอบหน่วยความจำภายในว่ายังสามารถใช้งานได้อีกเท่าไหร่
 
สำหรับโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy J7 Core ด้วยเช่นกัน
 
ในส่วนของแอปพลิเคชันอัลบั้มภาพถ่ายจะสามารถแสดงภาพถ่ายได้หลักๆ 2 แบบ คือ แสดงแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด กับแสดงแบบแยกอัลบั้ม
 
สำหรับแอปพลิเคชันที่เหมือนผู้ช่วยสำหรับดูแลเรื่องสุขภาพอย่างแอปพลิเคชัน S Health ก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy J7 Core ด้วยเช่นกัน
 
อีกหนึ่งความพิเศษบน Samsung Galaxy J7 Core คือ สามารถโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน Line, Facebook และ Skype ได้ผ่านฟังก์ชัน Dual Messenger ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าใช้งานแอปพลิเคชันเหล่านี้ได้เพิ่มอีก 1 แอคเคานท์

และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ Samsung Galaxy J7 Core นั้นมีแอปพลิเคชัน Secure Folder ซึ่งแอปพลิเคชัน Secure Folder นั้นมีหน้าที่ในการล็อค หรือตั้งรหัสผ่านสำหรับเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Secure Folder นั่นหมายความว่า หากผู้อื่นจะเข้ามาใช้งานในส่วนนี้ก็จำเป็นต้องปลดรหัสผ่านเสียก่อน

ซึ่งความสามารถของแอปพลิเคชัน Secure Folder คือ การมีพื้นที่หน่วยความจำแยกที่ถูกเข้ารหัสเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้โดยเฉพาะ พร้อมทั้งผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานได้ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถเข้าใช้งาน Line หรือ Facebook ได้อีก 1 แอคเคานท์ เรียกได้ว่า ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้งาน Line หรือ Facebook ได้พร้อมๆ กันถึง 2 แอคเคานท์นั่นเอง
 
Samsung Galaxy J7 Core ยังมีฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายอีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การรองรับการใช้งานมือเดียว ซึ่งผู้ใช้งานสามารถลดขนาดหน้าจอให้เล็กลงด้วยการกดที่ปุ่มโฮมสามครั้ง หรือการดับเบิ้ลคลิกที่ปุ่มโฮมเพื่อเปิดใช้งานกล้องถ่ายภาพ
 
 
อีกทั้งยังรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้ ไม่ว่าจะเป็น การโทรโดยตรง, รองรับการเตือนอัจฉริยะ และการปิดเสียง
 
ไม่เพียงเท่านั้น ทาง Samsung ยังได้ติดตั้งแอปพลิเคชันจากทาง Microsoft เอาไว้ให้ใช้งานบน Samsung Galaxy J7 Core อีกด้วย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเปิดอ่านไฟล์เอกสารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Word, Excel หรือ PowerPoint ในส่วนของแอปพลิเคชัน Samsung Note ก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy J7 Core ด้วยเช่นกัน
 
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน
 
อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนธีม หรือดาวน์โหลดธีมอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติม รวมถึงรูปแบบไอคอนได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน Samsung Theme
 
Samsung Galaxy J7 Core มีแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงให้ใช้งาน พร้อมทั้งสามารถปรับค่าอีควอไลเซอร์ได้หลากหลาย เช่น Rock หรือ Pop
 
และยังมีแอปพลิเคชันสำหรับฟังวิทยุ FM ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น

สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน Popup Play ได้
 
Samsung Galaxy J7 Core มาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Exynos 7870 ความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T830, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 7.0 Nougat

ถึงแม้คุณสมบัติตัวเครื่องนั้นจัดอยู่ในระดับกลาง แต่ Samsung Galaxy J7 Core ก็สามารถตอบโจทย์ด้านการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องให้พบเจอ
 
และเมื่อนำ Samsung Galaxy J7 Core มาทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 32649 คะแนน ส่วนด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน Geekbench 4 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 538 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ คะแนน 1534 สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core

ทางด้านการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ คะแนน

Samsung Galaxy J7 Core นั้นสามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด
 
และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Samsung Apps หรือ Google Play Store
กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ
 
ในส่วนของ Interface กล้องถ่ายภาพด้านหลังนั้นมีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนไฟแฟลช LED ไว้ใช้เลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพโปร, โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า และโหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง
 
นอกจากนี้ ยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งาน ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับค่าสีผิวได้มากถึง 8 ระดับ อีกทั้งยังมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพให้เลือกใช้งานมากมาย
 
ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้านั้นมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกับกล้องดิจิทัลด้านหลัง พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ หรือโหมดถ่ายภาพแบบกลุ่ม
 
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งาน ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับค่าผิวเนียน, ใบหน้าเรียว และตาโตได้ถึง 8 ระดับ อีกทั้งยังสามารถเลือกปรับค่าเฉพาะบางอย่างได้ตามต้องการอีกด้วย
 
นอกจากนี้ ยังสามารถเปิด-ปิด การใช้งานไฟแฟลช LED และสามารถเปิดใช้งานเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพได้หลายรูปแบบ
 
และยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ ได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพด้านหลัง ที่สามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
 
ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็สามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
 
สามารถเปิดใช้งานการแสดงตัวอย่างภาพถ่าย และสามารถเปิดใช้ฟังก์ชันการสั่งงานถ่ายภาพด้วยท่าทางได้
 
สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที, สามารถเปิดใช้งานตารางเก้าช่อง, เปิด-ปิด การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, ตรวจสอบภาพถ่าย, การเปิดใช้งานกล้องถ่ายภาพแบบด่วนด้วยการดับเบิ้ลคลิกที่ปุ่มโฮม และการสั่งงานด้วยเสียง, สามารถเพิ่มความสามารถให้กับปุ่มลดระดับเสียงได้ 3 แบบ ได้แก่ ถ่ายภาพ, ถ่ายวิดีโอ หรือลดระดับเสียง และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ของ Samsung Galaxy J7 Core

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย ของ Samsung Galaxy J7 Core
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 4
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 8
สรุปผลการทดสอบของ Samsung Galaxy J7 Core

นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กในตระกูล J7 อย่าง Samsung Galaxy J7 Core และถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็กสุดในตระกูลนี้ แต่จากภาพรวมที่ทางซัมซุงได้ทำการปรับปรุง และพัฒนาเข้าไปใหม่ จึงช่วยให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ ที่มีความเรียบหรูดูน่าใช้งาน, หน้าจอคมชัดสีสันสดใสใหญ่เต็มตา, ถ่ายภาพได้คมชัดทั้งกล้องหน้า-กล้องหลัง, มีแอปพลิเคชันสำหรับปกป้องข้อมูลส่วนตัว และสามารถใช้งาน Line กับ Facebook ได้พร้อมๆ กันถึง 3 แอคเคานท์ ในเครื่องเดียวอีกด้วย
สำหรับจุดขายของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็นับว่าน่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกหน้าจอแบบ 2.5D Glass, มีฟังก์ชัน Secure Folder บวกกับฟังก์ชัน Dual Messenger รวมแล้วจึงสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน Line หรือแอปพลิเคชันอีกหลายตัวที่รองรับ ได้พร้อมกันถึง 3 แอคเคานท์ในเครื่องเดียวกัน, รองรับฟังก์ชัน Multi-Windows สำหรับใช้งานพร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง, สำรองข้อมูลผ่านฟังก์ชัน Samsung Cloud ได้สูงสุด 15 GB, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมช่องแยกสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่าย 4G (Voice over LTE) และแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh
นอกจากนี้ ทางด้านกล้องถ่ายภาพก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดขายของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 พร้อมไฟแฟลช LED ซึ่งจากการทดสอบด้วยการถ่ายภาพแบบต่างๆ พบว่ากล้องดิจิทัลด้านหลังนั้นสามารถถ่ายภาพออกมาได้สวยคมชัด สีสันสดใส และสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างน่าประทับใจ ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2 พร้อมไฟแฟลช LED ก็ตอบโจทย์ในเรื่องของการถ่ายภาพเซลฟี่ได้ดีไม่แพ้กัน และยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งาน ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับค่าผิวเนียน, ใบหน้าเรียว และตาโต ได้ถึง 8 ระดับ บอกได้เลยว่า ต้องถูกอกถูกใจคนรักการถ่ายภาพเซลฟี่อย่างแน่นอน
ซึ่งนอกจากจุดขายอันโดดเด่นที่ได้กล่าวมาแล้ว ทางด้านการออกแบบดีไซน์บน Samsung Galaxy J7 Core ก็ถือว่ามีความสวยทันสมัยดูน่าใช้งาน เนื่องจากใช้เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Polycarbonate พร้อมพื้นผิวแบบ Metallic Pattern อีกทั้งตรงกรอบของตัวเครื่องยังเป็นสีแบบมันวาว จึงช่วยให้ตัวเครื่องดูมีความพรีเมียมเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ตัวฝาหลังยังเป็นพื้นผิวแบบด้าน บวกกับความโค้งมนของตัวเครื่องตรงมุมทั้งสี่ด้าน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับ หรือถือใช้งานได้อย่างคล่องตัวอีกด้วย
ทางด้านคุณสมบัติด้านการประมวลผลนั้นจัดอยู่ในระดับกลาง ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Exynos 7870 ความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T830, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat นั้นก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานระดับทั่วไปได้ดี ส่วนการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ ก็พบว่า Samsung Galaxy J7 Core สามารถเล่นเกมได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องให้พบเจอ
และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า Samsung Galaxy J7 Core น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับกลางในราคาไม่เกิน 10,000 บาท ที่มาพร้อมดีไซน์สวยงามทันสมัย, หน้าจอใหญ่เต็มตา, กล้องถ่ายภาพคมชัดทั้งด้านหน้าด้านหลัง และมีฟังก์ชันที่ตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบครันทุกรูปแบบ ซึ่ง Samsung Galaxy J7 Core ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
Samsung Galaxy J7 Core ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยเรียบร้อยแล้วในราคาเบาๆ เพียง 7,290 บาท ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีทอง สำหรับท่านใดที่สนใจก็สามารถไปเลือกซื้อ เลือกชมได้ที่ Samsung Shop หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Samsung ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Samsung Galaxy J7 Core มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Samsung Galaxy J7 Core
- จอแสดงผลแบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว
- ฟังก์ชันถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้า
- รองรับฟังก์ชัน Multi-Windows สำหรับใช้งานพร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Exynos 7870 ความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T830 MP3
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 7.0 Nougat
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB และรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 256 GB
- สำรองข้อมูลผ่านฟังก์ชัน Samsung Cloud ได้สูงสุด 15 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 พร้อมไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2 พร้อมไฟแฟลช LED, โหมดถ่ายภาพหน้าสวย และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual SIM) พร้อมช่องแยกสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS
- รองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่าย 4G (Voice over LTE)
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- ฟังก์ชัน Dual Messenger รองรับการติดตั้งสองแอปพลิเคชันพร้อมกันโดยไม่ต้องผ่าน Secure Folder
- แอปพลิเคชัน Secure Folder รองรับการใช้งาน Line ได้ 2 แอคเคานท์พร้อมกันภายในเครื่องเดียว
- แบตเตอรี่แบบ Li-Ion Polymer 3000 mAh
- ราคา 7,290 บาท ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีทอง
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy J7 Core
- หน่วยความจำ RAM มีขนาดเพียง 2 GB ซึ่งถือว่าไม่มากนัก หากเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน
- วัสดุที่ใช้ผลิตตัวเครื่องไม่ใช่โลหะ
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy J7 Core ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy J7 Core

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|