รีวิว (Review) Samsung Galaxy A9 Pro
สมาร์ทโฟน A-Series ตัวท็อปพันธุ์อึด ด้วยแบตเตอรี่ใหญ่จุใจ 5000 mAh พร้อมจอ Super AMOLED Full HD ไซส์ยักษ์ 6 นิ้ว, ชิปเซ็ต Snapdragon 652, Android 6.0 Marshmallow, RAM 4GB, ROM 32GB, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล (F/1.9) และกล้องหลัง OIS 16 ล้านพิกเซล (F/1.9) บนบอดี้ Metal-Glass บางเฉียบสวยหรู ในราคาสุดคุ้มเพียง 15,900 บาท
Review
Date (10-สิงหาคม-2559)

สวัสดีแฟนเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ทุกท่านครับ หลังจากที่ได้ติดตาม พรีวิว Samsung Galaxy A9 Pro เรียกน้ำย่อยกันไปแล้ว วันนี้ก็ถือเป็นฤกษ์งามยามดีอีกครั้งหนึ่งที่ทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์จะนำเสนอบทความรีวิวฉบับเต็มของ Samsung Galaxy A9 Pro ให้ทุกท่านได้รับชมกันแบบเจาะลึกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องการออกแบบดีไซน์, คุณสมบัติตัวเครื่อง, ฟีเจอร์ต่างๆ ด้านใน, ประสิทธิภาพการใช้งาน และแบตเตอรี่สุดอึดที่มีความจุมากถึง 5000 mAh
ซึ่งจุดขายสำคัญของ Samsung Galaxy A9 Pro นอกจากแบตเตอรี่ 5000 mAh แล้วนั้นยังมีอยู่อีกหลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ ตัวเครื่องดีไซน์สวยหรูแบบ Metal-Glass Unibody ที่ผลิตจากโลหะอะลูมิเนียมอัลลอย ผสานกระจก Gorilla Glass 4 สุดแกร่งทั้งด้านหน้า และด้านหลัง, ตัวเครื่องมีความบางเฉียบเพียง 7.9 มิลลิเมตร, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม, หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ที่มีขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว, กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งมีรูรับแสงขนาด F/1.9 พร้อมระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization), กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด F/1.9
ในส่วนของคุณสมบัติเด่นด้านอื่นๆ ทางซัมซุงก็จัดมาให้แบบครบเครื่อง ซึ่งเรียกได้ว่า อยู่ในระดับน้องๆ สมาร์ทโฟนเรือธงเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8976 Snapdragon 652 ความเร็วในการประมวลผล 1.8 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 510, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB, หน่วยความภายในขนาด 32 GB, มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมเทคโนโลยี Full NetCom 3.0 ที่แยกอิสระจากช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC พร้อมรองรับฟังก์ชัน Tap and Play, รองรับเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow

โดย Samsung Galaxy A9 Pro ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 ที่เป็นผ่านมา เรียกได้ว่า เป็นสมาร์ทโฟนซัมซุงรุ่นหนึ่งที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกที่จะมีผู้ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ส่วนดีไซน์ของ Samsung Galaxy A9 Pro จะมีความสวยงามเพียงใด ฟีเจอร์ต่างๆ จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีขนาดไหน และแบตเตอรี่จะอึดทนสมคำร่ำลือหรือไม่ รีวิวนี้เรามีคำตอบให้ทุกท่านครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Samsung Galaxy A9 Pro มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 6.0 นิ้ว โดยกระจกหน้าจอจะเป็นแบบ Gorilla Glass 4 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน ซึ่งมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 161.7x80.9x7.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 210 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด F/1.9, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส (Touch Panel) ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม หรือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และปุ่มย้อนกลับ


ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องสำหรับเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD และไมโครโฟน

ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ช่องเชื่อมต่อกับสาย microUSB สำหรับโอนถ่ายข้อมูล หรือชาร์จแบตเตอรี่, ลำโพงเสียงภายนอก และไมโครโฟน


ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ พร้อมด้วยถาดใส่ซิมการ์ดที่ 1 และถาดใส่ซิมการ์ดที่ 2

ซึ่งซิมการ์ดที่ใช้จะเป็นแบบ nanoSIM ทั้งในช่องซิมการ์ดที่ 1 และช่องซิมการ์ดที่ 2 พร้อมรองรับเทคโนโลยี Full NetCom 3.0

ด้านหลังของตัวเครื่องประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization) และไฟแฟลช LED โดยตัวเครื่องของ Samsung Galaxy A9 Pro นั้นใช้เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Metal-Glass Unibody ซึ่งตัวเครื่องทำมาจากอะลูมิเนียมอัลลอยผสานกับกระจก Gorilla Glass 4 ที่ด้านหน้า และด้านหลัง แต่ไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนฝาหลังได้ โดยภายในตัวเครื่องได้บรรจุแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Fast Battery Charging : ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ได้ภายในเวลา 160 นาที)
ทดสอบความอึดทนของแบตเตอรี่ใน Samsung Galaxy A9 Pro ด้วยการเปิดหน้าจอทิ้งไว้ และใช้งานอย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน
เมื่อเร็วๆ นี้ ทาง ซัมซุง (ประเทศไทย) ได้เชิญสื่อมวลชนไทยร่วมทดสอบความอึดของแบตเตอรี่บน Samsung Galaxy A9 Pro ด้วย โดยมีกฎเหล็กสำคัญอยู่สองข้อ หนึ่งคือห้ามปิดหน้าจอตลอดทั้งวัน และสองคือให้ใช้งานอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันเพื่อไม่ให้หน้าจอดับ ซึ่งชัดเจนว่า ซัมซุง ต้องการพิสูจน์ให้เห็นกันแบบจะจะว่าแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh ของ Galaxy A9 Pro นั้นสามารถอยู่รอดได้ตลอดทั้งวัน แม้จะมีการใช้งานอยู่ตลอดเวลาก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วผลทดสอบเมื่อสิ้นวันจะออกมาเป็นอย่างไร ลองติดตามกันต่อได้ที่ด้านล่างนี้

เริ่มเปิดหน้าจอกันตั้งแต่เวลาประมาณ 8.00 น. โดยก่อนจะเริ่มปฏิบัติการ ทีมงาน ซัมซุง ก็ได้แนะนำเทคนิคการใช้งานที่น่าสนใจของ Galaxy A9 Pro ให้บรรดาสื่อมวลชนได้ทราบกันก่อนในเบื้องต้น พร้อมแนะนำกฎกติกาของกิจกรรมทดสอบความอึดในวันนี้

เริ่มทดสอบความอึดของแบตเตอรี่ด้วยการเล่นเกมกราฟิกสองมิติแบบเบาๆ ก่อน

ทดสอบความอึดของแบตเตอรี่ด้วยการเล่นเกม 3 มิติที่ต้องประมวลผลมากขึ้น

ทดสอบความอึดของแบตเตอรี่ด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิก 3 มิติระดับสูง ที่ต้องอาศัยการประมวลผลมากเป็นพิเศษ รวมถึงต้องใช้พลังงานแบตเตอรี่มากเป็นพิเศษเช่นกัน


ทดสอบความอึดของแบตเตอรี่ด้วยการเปิดดูคลิปวิดีโอบน YouTube ซึ่งนอกจากจะต้องใช้พลังงานในการประมวลผลภาพแล้ว ก็ยังต้องใช้พลังงานสำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกด้วย


ทดสอบความอึดของแบตเตอรี่ด้วยการใช้งานกล้องดิจิทัล ซึ่งถือเป็นการใช้งานอีกรูปแบบหนึ่งที่สิ้นเปลืองแบตเตอรี่ไม่ใช่น้อย

ถ่ายรูปไป พร้อมกับแต่งรูปไปด้วย ใช้งานกันแบบไม่มีหยุดตลอดทั้งวัน

หลังจากใช้งานอย่างหนักหน่วงต่อเนื่อง และไม่ปิดหน้าจอ มาตั้งแต่เช้า จนถึงเวลาราว 18.00 น. แบตเตอรี่ยังเหลืออยู่ถึง 31% ซึ่งถือได้ว่ามีความอึดทนเป็นอย่างยิ่ง สมกับที่ทาง ซัมซุง ได้เคลมเอาไว้ตั้งแต่ต้น และโดยทั่วไปแล้ว ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ก็คงจะไม่ได้ใช้งานกันหนักหน่วงขนาดนี้ จึงแทบไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดเลยแม้แต่น้อย
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
 
Samsung Galaxy A9 Pro ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow พร้อมด้วยหน่วยความจำภายในขนาด 32 GB
 
อีกทั้งยังรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE และ 3G ได้
 
Samsung Galaxy A9 Pro นั้นสามารถรองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC และยังมีฟังก์ชัน Tap and Play ให้ใช้งาน โดยผู้ใช้สามารถชำระเงินด้วยมือถือผ่าน NFC ได้
 
ในส่วนของฟังก์ชันการแจ้งเตือนต่างๆ หรือการ เปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy A9 Pro ด้วยเช่นกัน
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์
 
การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน, การเปลี่ยนธีม และการเปลี่ยนสัดส่วนของหน้าจอโฮมสกรีน
 
ซึ่งผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดธีมอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้อีกด้วย
 
ทางด้านบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานครบ อีกทั้งยังสามารถปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการใช้งานผ่านฟังก์ชัน Recent Apps ได้
 
สำหรับฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย พร้อมด้วยปุ่มตัวเลขขนาดใหญ่จึงสามารถกดหมายเลขได้อย่างแม่นยำ และสามารถเข้าสู่รายชื่อผู้ติดต่อทั้งหมดได้ทันที
 
นอกจากนี้ ทางซัมซุงยังได้ติดตั้งแอปพลิเคชันสำหรับสร้าง หรือเปิดอ่านไฟล์เอกสารจากทางไมโครซอฟต์เอาไว้ให้ใช้งานบน Samsung Galaxy A9 Pro อีกด้วย ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ทั้งไฟล์ Word, Excel หรือ PowerPoint ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อผู้ใช้งานจัดการกับไฟล์เอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถใช้บริการฝากไฟล์ผ่านแอปพลิเคชัน OneDrive บนตัวเครื่องได้ทันที
 
ในส่วนของเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี และสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ครบ และด้วยหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว จึงช่วยให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย และไม่จำเป็นต้องเพ่งสายตาเพื่ออ่านให้เมื่อยล้าดวงตาอีกต่อไป

ไม่เพียงเท่านั้น Samsung Galaxy A9 Pro ยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Multi-Windows ซึ่งสามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชันอีกด้วย
 
Samsung Galaxy A9 Pro ยังสามารถปรับโหมดหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละประเภทได้ ไม่ว่าจะเป็น Adaptive Display, AMOLED Cinema, AMOLED Photo และ Basic
 
ทางด้านแอปพลิเคชันสำหรับดูแลสุขภาพอย่าง S Heath ก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy A9 Pro ด้วยเช่นกัน
 
สำหรับแอปพลิเคชันอัลบั้มภาพถ่ายนั้นสามารถแสดงภาพถ่ายได้หลายแบบ เช่น แสดงแบบแยกอัลบั้ม หรือแสดงแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด
 
และยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Smart Manager สำหรับจัดการส่วนต่างๆ ภายในเครื่อง ได้แก่ การเคลียร์แรม, การตรวจสอบหน่วยความจำภายในว่ายังสามารถใช้งานได้อีกเท่าไหร่ อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง (Ultra Power Saving) จากส่วนนี้ได้ทันที
 
หากผู้ใช้งานต้องการความสงบก็สามารถเปิดใช้งาน โหมดห้ามรบกวน ได้ ซึ่งโหมดรบกวนจะทำการปิดเสียง, ปิดเสียงเรียกเข้า และการแจ้งเตือนต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานนั่นเอง
 
Samsung Galaxy A9 Pro ยังรองรับการใช้งานฟังก์ชัน Mirror Link และ Download Booster ได้ ซึ่งฟังก์ชัน Download Booster คือ ฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความเร็วของการดาวน์โหลดด้วยการเปิดใช้งานระบบ 4G LTE และ WiFi ไปพร้อมๆ กัน
 
ในส่วนของโหมดการพักหน้าจออัจฉริยะก็ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก ตราบใดที่ผู้ใช้งานยังคงจ้องมองที่หน้าจออยู่ หน้าจอก็จะไม่ดับลง
 
นอกจากนี้ Samsung Galaxy A9 Pro ยังมีฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายอีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การรองรับการใช้งานมือเดียว ซึ่งผู้ใช้งานสามารถลดขนาดหน้าจอให้เล็กลงด้วยการกดที่ปุ่มโฮมสามครั้ง หรือการดับเบิ้ลคลิ๊กที่ปุ่มโฮมเพื่อเปิดใช้งานกล้องถ่ายภาพ
 
นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดใช้งานการสั่งงานด้วยท่าทางแบบอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การใช้งาน Pop-Up View สามารถย่อหน้าต่างของแอปพลิเคชันให้เล็กลงในลักษณะของ Pop-Up View โดยการลากจากมุมซ้ายบน ทแยงเฉียงลงมาทางด้านขวา
 
การใช้ฝ่ามือปัดเพื่อจับภาพหน้าจอ, การโทรโดยตรง, รองรับการเตือนอัจฉริยะ และการปิดเสียง
 
สำหรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบน Samsung Galaxy A9 Pro สามารถตั้งค่าการใช้งานได้ ซึ่งการเปิดใช้งานระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ ผู้ใช้งานจะต้องทำการลงทะเบียนลายนิ้วมือให้เรียบร้อยเสียก่อน และจากการทดสอบตัวเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้รวดเร็วแม่นยำ
 
ทางด้านแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy A9 Pro ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถปรับค่าอีควอไลเซอร์ได้หลายแบบตามความต้องการ
นอกจากนี้ ยังรองรับการเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุด หรืออาการหน่วงแต่อย่างใด

และมีฟังก์ชัน Popup Play ให้ใช้งาน
 
Samsung Galaxy A9 Pro นั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8976 Snapdragon 652 ความเร็วในการประมวลผล 1.8 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 510, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB, หน่วยความภายในขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow

ด้วยคุณสมบัติตัวเครื่องที่ไม่เป็นสองรองใคร จึงทำให้ Samsung Galaxy A9 Pro นั้นสามารถตอบโจทย์ด้านการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ และในขณะที่มีการประมวลผลหนักๆ ตัวเครื่องของ Samsung Galaxy A9 Pro จะมีอาการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องบ้างเล็กน้อย แต่ไม่มีผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด
 
และเมื่อนำ Samsung Galaxy A9 Pro มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 72658 คะแนน

ต่อด้วยการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 10838 คะแนน

ซึ่งสามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด
 
และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store
กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ
 
มาต่อกันที่แอปพลิเคชันกล้องถ่ายภาพกันบ้าง สำหรับ Interface กล้องดิจิทัลด้านหน้านั้นมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ, โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า และโหมดถ่ายภาพกลางคืน
 
และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ มีโหมดถ่ายภาพโปรให้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรับค่าชดเชยแสง, ปรับค่า ISO และปรับค่าไวท์บาลานซ์ด้วยตนเองได้
 
และสามารถปรับค่าการใช้งานอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพ ซึ่งสามารถปรับความละเอียดได้สูงสุดที่ 16 ล้านพิกเซล, สามารถ เปิด-ปิด การใช้งานไฟแฟลช LED ได้
 
สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที และมีเอฟเฟกต์ให้ใช้งานหลากหลาย
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สามารถเลือกความละเอียดของไฟล์วิดีโอได้สูงสุดที่ระดับ Full HD (1080p), สามารถ เปิด-ปิด การใช้งานฟังก์ชันได้ เช่น ตารางเก้าช่อง, การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, การตรวจสอบภาพถ่าย, การเข้ากล้องถ่ายภาพแบบด่วนด้วยกันดับเบิ้ลคลิ๊กที่ปุ่มโฮม และการสั่งงานถ่ายภาพด้วยเสียง เช่น พูดคำว่า Smile หรือ Capture
 
อีกทั้งยังเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มลดระดับของเสียงได้ 3 อย่าง ได้แก่ ถ่ายภาพ, บันทึกวิดีโอ หรือซูม และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
 
ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็สามารถใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน และมีการแสดงไอคอนต่างๆ ไว้อย่างชัดเจนแบบเดียวกับกล้องดิจิทัลด้านหลัง พร้อมทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โหมดถ่ายภาพตนเอง, โหมดถ่ายภาพตนเองแบบกลุ่ม และโหมดถ่ายภาพกลางคืน
 
อีกทั้งยังสามารถปรับค่าการใช้งานอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ 8 ล้านพิกเซล, สามารถปรับค่าโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) ได้ 8 ระดับ
 
สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้สูงสุดที่ 10 วินาที และมีเอฟเฟกต์ให้เลือกใช้งานหลากหลาย
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ เพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สามารถเลือกความละเอียดของไฟล์วิดีโอได้สูงสุดที่ระดับ Full HD (1080p), สามารถ เปิด-ปิด การใช้งานฟังก์ชันได้ เช่น การสั่งงานด้วยท่าทางได้ (Palm Selfie), ตารางเก้าช่อง, การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, การตรวจสอบภาพถ่าย, การเข้ากล้องถ่ายภาพแบบด่วนด้วยกันดับเบิ้ลคลิ๊กที่ปุ่มโฮม และการสั่งงานถ่ายภาพด้วยเสียง เช่น พูดคำว่า Smile หรือ Capture
 
อีกทั้งยังเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มลดระดับของเสียงได้ 3 อย่าง ได้แก่ ถ่ายภาพ, บันทึกวิดีโอ หรือซูม และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 16 ล้านพิกเซล ของ Samsung Galaxy A9 Pro

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ HDR
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ผ่านโหมด Beauty ของ Samsung Galaxy A9 Pro
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Beauty ปรับค่าระดับ 0
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Beauty ปรับค่าระดับ 4
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Beauty ปรับค่าระดับ 8
สรุปผลการทดสอบของ Samsung Galaxy A9 Pro

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟน A-Series ตัวท็อปใหม่ล่าสุดอย่าง Samsung Galaxy A9 Pro ซึ่งการออกแบบดีไซน์ของ Samsung Galaxy A9 Pro นั้นมีความสวยหรูเป็นอย่างมาก ซึ่งความสวยงามนี้เป็นผลมาจากที่ทางซัมซุงได้เลือกใช้งานเทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Glass Unibody ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างโลหะอะลูมิเนียมอัลลอย เข้ากับกระจก Gorilla Glass 4 ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีความบางเฉียบเพียง 7.9 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทาน และป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีอีกด้วย แต่อย่างไรก็ดี ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว บวกกับตัวเครื่องที่เป็นกระจก จึงทำให้ถือใช้งานไม่สะดวกมากนัก โดยเฉพาะมือเล็กๆ ของคุณสุภาพสตรี อีกทั้งยังเกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมือได้ง่าย
สำหรับจุดขายหลักของ Samsung Galaxy A9 Pro ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มตั้งแต่ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh ซึ่งช่วยให้สามารถใช้งานต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ยาวนานตลอดทั้งวัน โดยแบตเตอรี่จะไม่หมดลงกลางคันอย่างแน่นอน และไม่ต้องคอยพกแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ให้ลำบากอีกต่อไป นอกจากนี้ Samsung Galaxy A9 Pro ยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ที่มีขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว ซึ่งถือว่าเป็นหน้าจอขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนของซัมซุงที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันเลยทีเดียว เรียกได้ว่า เหมาะกับการใช้งานด้านความบันเทิงเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การชมซีรีส์แบบต่อเนื่อง หรือเล่นเกมที่มีกราฟิกสวยๆ นั่นเอง
ทางด้านกล้องถ่ายภาพก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายสำคัญบน Samsung Galaxy A9 Pro ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันการสั่นไหวแบบ OIS (Optical Image Stabilization) ที่มีรูรับแสงขนาด F/1.9 และไฟแฟลช LED ก็สามารถตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีเป็นอย่างมาก ซึ่งภาพถ่ายที่ได้นั้นมีสีสันสดใส คมชัด อีกทั้งยังสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ภายในภาพได้อย่างครบถ้วน ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยรูรับแสงขนาด F/1.9 และแฟลช LED ก็สามารถถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กัน และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ มีโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) ให้ใช้งาน ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรับค่าผิวเนียน, หน้าเรียว และตาโต ได้ถึง 8 ระดับ บอกได้เลยว่า ต้องถูกอกถูกใจคนรักการถ่ายภาพเซลฟี่อย่างแน่นอน
ในส่วนของคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ทางซัมซุงก็จัดมาให้แบบที่เรียกได้ว่า อยู่ในระดับน้องๆ สมาร์ทโฟนเรือธงเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8976 Snapdragon 652 ความเร็วในการประมวลผล 1.8 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 510, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB, หน่วยความภายในขนาด 32 GB, มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมเทคโนโลยี Full NetCom 3.0, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC พร้อมรองรับฟังก์ชัน Tap and Play และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow ซึ่งจากการทดสอบด้วยการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) แบบต่อเนื่อง หรือการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติสวยๆ Samsung Galaxy A9 Pro ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างลื่นไหล และไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ
และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า Samsung Galaxy A9 Pro น่าจะเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบในการชมซีรีส์แบบต่อเนื่อง, เล่นเกมที่มีกราฟิกสวยๆ หรือใช้งานฟีเจอร์อื่นๆ นานต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่อึดทนเป็นพิเศษ พร้อมด้วยหน้าจอไซส์ยักษ์, กล้องถ่ายภาพสวยคมชัด, สเปคครบเครื่องเรื่องการใช้งาน, มีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย และรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้ ซึ่ง Samsung Galaxy A9 Pro ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สมเหตุสมผลเป็นที่สุด
ส่วนราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Samsung Galaxy A9 Pro ในประเทศไทย ทาง ซัมซุง ก็ได้ประกาศออกมาเรียบร้อยแล้ว โดยมีราคาสุดคุ้มเพียง 15,900 บาท เท่านั้น และได้เริ่มวางจำหน่ายไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 ที่ Samsung Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมมีตัวเครื่องให้เลือก 3 สี 3 สไตล์ ได้แก่ สีทอง, สีขาว และสีดำ สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Samsung ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Samsung Galaxy A9 Pro มาให้ทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Samsung Galaxy A9 Pro
- ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Metal-Glass Unibody ด้วยโลหะอะลูมิเนียมอัลลอย ผสานกระจก Gorilla Glass 4 ที่ด้านหน้า และด้านหลังของตัวเครื่อง บนความบางเฉียบเพียง 7.9 มิลลิเมตร
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ปุ่มโฮม สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน
- จอแสดงผลแบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 6.0 นิ้ว : 367 ppi)
- กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 4 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน
- หน่วยประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 510
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8976 Snapdragon 652 ความเร็วในการประมวลผล 1.8 GHz (ซีพียู Cortex-A72 ความเร็ว 1.8 GHz และซีพียู Cortex-A53 ความเร็ว 1.4 GHz)
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0.1 (Marshmallow)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB (เหลือให้ใช้งานจริงประมาณ 23.4 GB)
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 200 GB
- แบตเตอรี่ Li-Ion 5000 mAh ซึ่งช่วยให้สามารถเปิดหน้าจอ และใช้งานได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดกลางคัน พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Fast Battery Charging : ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ได้ภายในเวลา 160 นาที)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์ผ่านทางระบบ WiFi, 4G LTE Cat6, 3G HSPA+, EDGE และ GPRS
- รองรับเทคโนโลยี 4G LTE แบบ 2CA (ทำ Carrier Aggregation ด้วย 2 คลื่นความถี่)
- รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด (nanoSIM) พร้อมเทคโนโลยี Full NetCom 3.0 (ช่องซิมการ์ดที่สองรองรับการใช้งาน 3G พร้อมแยกอิสระจากช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD)
- รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายแบบ NFC และ Bluetooth 4.2
- รองรับ USB OTG (USB On-the-Go)
- ระบบ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS และรองรับการใช้งานร่วมกับระบบดาวเทียม GLONASS ของรัสเซีย
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 16 ล้าน Pixels พร้อมขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ f/1.9, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization) และไฟแฟลช LED
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels พร้อมขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ f/1.9
- รองรับการใช้งานร่วมกับนาฬิกา Gear Circle (Manager Support), Gear Fit, Gear Fit2, Gear1, Gear2, Gear2 Neo, Gear S, Gear S2
- วิทยุ FM Stereo RDS ในตัว
- ราคาเปิดตัว 15,900 บาท หากเทียบกับคุณสมบัติโดยรวมแล้วถือว่ามีความคุ้มค่า
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy A9 Pro
- ด้วยหน้าจอขนาด 6 นิ้ว และบอดี้ที่มีขนาดใหญ่ จึงทำให้การใช้งานด้วยมือข้างเดียวอาจไม่สะดวกมากนัก รวมถึงการพกพาอาจไม่คล่องตัวเท่ากับสมาร์ทโฟนที่มีขนาดเล็กกว่า
- ด้วยการที่ตัวเครื่องผลิตจากโลหะอะลูมิเนียมอัลลอย ผสานกระจก Gorilla Glass 4 จึงทำให้ตัวเครื่องค่อนข้างลื่น ซึ่งต้องระมัดระวังขณะถือใช้งานเป็นพิเศษ
- ไม่มี Gyroscope Sensor ซึ่งทำให้ไม่สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน หรืออุปกรณ์ที่ทำงานแบบ 360 องศาได้ เช่นการใช้งานแว่น Gear VR รวมถึงแอปพลิเคชันหลายๆ ตัวที่ต้องทำงานร่วมกับระบบ Virtual Reality (VR) หรือ Augmented Reality (AR)
- ไม่มีไฟ LED สำหรับแจ้งเตือน หรือแจ้งสถานะการทำงาน
- ไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
- ไม่รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดระดับ 4K UHD (ความละเอียดสูงสุดเพียงแค่ระดับ Full HD 1080p)
- ลำโพงเสียงยังคงเป็นแบบเดี่ยว (Mono)
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจของ Samsung Galaxy A9 Pro
พรีวิว (Preview) Samsung Galaxy A9 Pro
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy A9 Pro
สรุปข้อมูล และข่าวสารล่าสุดของ Samsung Galaxy A9 Pro
title="Sony Xperia ZL Specification">

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|