พรีวิว (Preview) Samsung Galaxy A8
สัมผัสแรก กับสมาร์ทโฟนที่บางเฉียบที่สุดของ ซัมซุง บนดีไซน์แบบ All-Metal Unibody พร้อมจอที่ใหญ่ขึ้น, กล้องที่ดีขึ้น และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือสุดล้ำ
Preview
Date (24-กรกฎาคม-2558)

จากความสำเร็จของ Samsung Galaxy A7 และ Samsung Galaxy A5 สมาร์ทโฟนดีไซน์พรีเมียม ที่บางเฉียบที่สุดของ ซัมซุง รุ่นก่อนหน้านี้ จึงไม่น่าเแปลกใจที่ความสำเร็จดังกล่าวจะส่งผลให้ Samsung Galaxy A8 กลายเป็นสมาร์ทโฟน A-Series รุ่นต่อยอดที่ใครหลายๆ คนเฝ้ารอคอยที่จะได้สัมผัส รวมถึงทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ของเราด้วยเช่นกัน จนกระทั่งเมื่อช่วงหัวค่ำของวันอังคารที่ผ่านมา (21 กรกฎาคม 2558) ทีมงานของเราก็ได้รับเกียรติให้ไปร่วมงานเปิดตัวของ Samsung Galaxy A8 รอบสื่อมวลชน ซึ่งถือเป็นการเผยโฉมตัวจริงเสียงจริงของ Samsung Galaxy A8 เป็นครั้งแรกในประเทศไทยเลยทีเดียว
จุดขายสำคัญที่สุดของ Samsung Galaxy A8 รุ่นนี้ แน่นอนว่าไม่ต่างไปจาก Samsung Galaxy A7 รุ่นพี่ นั่นคือดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยหรูดูพรีเมียมในแบบ All-Metal Unibody พร้อมกับความบางเฉียบที่สุด ซึ่ง Samsung Galaxy A8 มีความบางเฉียบลงไปอีกขั้น เหลือเพียงแค่ 5.9 มิลลิเมตร เท่านั้น (Galaxy A7 บาง 6.3 มิลลิเมตร) จึงทำให้ Samsung Galaxy A8 กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่บางเฉียบที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนซัมซุงทั้งหมด ณ ปัจจุบัน
และนอกจากพัฒนาการในเรื่องของความบางเฉียบแล้ว Samsung Galaxy A8 ยังมีการพัฒนาต่อยอดจาก Galaxy A7 ในหลายๆ จุด ทั้งจอแสดงผล Super AMOLED ที่ใหญ่เต็มตามากขึ้นเป็นขนาด 5.7 นิ้ว (เดิม 5.5 นิ้ว), กล้องถ่ายภาพที่คมชัดมากขึ้นด้วยความละเอียดระดับ 16 ล้านพิกเซล (เดิม 13 ล้านพิกเซล), ระบบปฏิบัติการที่สดใหม่ขึ้นเป็น Android 5.1.1 Lollipop (เดิมเป็น Android 4.4 KitKat), หน่วยความจำที่มากขึ้นเป็น 32 GB (เดิม 16 GB), แบตเตอรี่ที่มีความจุมากขึ้นเป็น 3,050 mAh (เดิม 2,600 mAh) และพัฒนาการที่สำคัญที่สุดอีกอย่างก็คือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ซึ่งเป็นใช้เทคโนโลยีระบบสัมผัสใหม่ล่าสุด แบบเดียวกันกับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นปัจจุบันอย่าง Samsung Galaxy S6 นั่นเอง

ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ ที่เหลือนอกจากนี้ก็ถือว่าครบเครื่องทุกฟีเจอร์ไม่แพ้ Galaxy A7 แต่หากมาดูกันที่ราคาเปิดตัวของ Samsung Galaxy A8 ที่เปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการออกมาที่ 15,900 บาท ซึ่งเป็นราคาที่แพงกว่า Samsung Galaxy A7 อยู่ 1,000 บาท (Samsung Galaxy A7 เปิดตัวที่ราคา 14,900 บาท) จึงเป็นโจทย์ที่ทำให้ใครหลายๆ คนต้องพิจารณาเพิ่มเติมว่าด้วยราคาค่าตัวที่เพิ่มขึ้นมา 1,000 บาทนี้ เมื่อเทียบกับสิ่งใหม่ๆ ที่ได้รับจาก Samsung Galaxy A8 จะคุ้มค่ามากน้อยขนาดไหน เพราะฉะนั้นในวันนี้ทีมงานจึงขอนำเอาประสบการณ์ในการสัมผัส และทดลองใช้งาน Samsung Galaxy A8 ครั้งแรก มาแบ่งปันให้ทุกท่านได้ติดตามกันครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์ของ Samsung Galaxy A8

ดีไซน์ตัวเครื่องด้านหน้าจะดูมีความโค้งมนมากกว่า Samsung Galaxy A7 พร้อมกับขอบด้านข้างของหน้าจอที่บางเฉียบเพียง 2.5 มิลลิเมตร ซึ่ง ซัมซุง กล่าวว่าจะช่วยให้การใช้งานหน้าจอมีความสะดวกคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งที่ด้านหน้าของตัวเครื่องนี้จะประกอบไปด้วยเลนส์กล้องดิจิทัลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (F/1.9), ลำโพงหูฟังสำหรับการสนทนา, เซ็นเซอร์ Ambient Light, เซ็นเซอร์ Proximity, หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Capacitive ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 พิกเซล), ปุ่ม Recent Apps แบบสัมผัสพร้อมไฟในตัว, ปุ่มย้อนกลับพร้อมไฟในตัว และปุ่มโฮม ซึ่งปุ่มโฮมนี้มาพร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบสัมผัส ซึ่งทำงานได้รวดเร็วแม่นยำมากขึ้นกว่าเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบเก่าที่ต้องใช้การสไลด์นิ้ว (เช่นที่มีอยู่ใน Samsung Galaxy Note 4)

ที่ด้านหลังของตัวเครื่องจะมีดีไซน์เรียบหรู โดยเป็นวัสดุแบบอะลูมิเนียมที่มีความแข็งแรงทนทาน ซึ่งที่ด้านหลังของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยลำโพงเสียงภายนอก, เลนส์กล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (F/1.9) และไฟแฟลชแบบ LED

ที่ด้านข้างของตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 5.9 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าบางเฉียบที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนซัมซุงทั้งหมด โดยที่กรอบด้านข้างนี้จะมีดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นเรือธงอย่าง Samsung Galaxy S6 และที่ด้านซ้ายนี้จะประกอบไปด้วยปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง, ช่องใส่ซิมการ์ดที่หนึ่ง และช่องใส่ซิมการ์ดที่สอง ซึ่งรองรับการใช้งาน 4G LTE ทั้งสองซิมการ์ด (LTE Hybrid Slot) โดยช่องใส่ซิมการ์ดที่สอง ผู้ใช้งานจะต้องเลือกว่าจะใส่ซิมการ์ด หรือว่าใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD

ที่ด้านขวาของตัวเครื่องไม่มีอะไรนอกจากปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ

ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับการตัดเสียงรบกวน และแถบรับสัญญาณ (สังเกตที่ขีดสีขาวสองขีดที่ด้านซ้าย และด้านขวา)

ที่ด้านล่างของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล, ไมโครโฟนสำหรับการสนทนา หรือบันทึกเสียง, ช่องต่อหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร และแถบรับสัญญาณ

Samsung Galaxy A8 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยจะมีอยู่ทั้ง 3 สีด้วยกัน ได้แก่สีขาว, สีทอง และสีดำ โดยสีขาว และสีทอง จะวางจำหน่ายก่อน (วางจำหน่ายปลายเดือนกรกฎาคม) ส่วนสีดำจะวางจำหน่ายตามมาในภายหลัง

สีดำที่ดูเข้มดุ, สีขาวที่ดูสะอาดตา และสีทองที่ดูหรูหรา ใครชอบแบบไหนสไตล์ไหนก็เลือกได้ตามใจชอบ

เมื่อนำ Samsung Galaxy A8 ไปวางเทียบกับแท็บเล็ตพรีเมียมรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Samsung Galaxy Tab S2 8.0 และ Samsung Galaxy Tab S2 9.7 ก็จะมีขนาดที่แตกต่างกันดังที่เห็นในภาพ

เทียบกันในมุมสูงอีกสักภาพแบบชัดๆ

Samsung Galaxy A8 (บาง 5.9 มิลลิเมตร) จะหนากว่า Samsung Galaxy Tab S2 (บาง 5.6 มิลลิเมตร) อยู่เล็กน้อย

เทียบด้านหลังตัวเครื่องระหว่าง Samsung Galaxy A8, Samsung Galaxy Tab S2 8.0 และ Samsung Galaxy Tab S2 9.7

เมื่อเทียบขนาดกับ iPhone 6 ก็จะเห็นว่า Samsung A8 มีขนาดตัวเครื่อง และหน้าจอที่ใหญ่กว่าอย่างชัดเจน

เมื่อเทียบกับรุ่นเรือธงสุดล้ำอย่าง Samsung Galaxy Note Edge (หน้าจอขนาด 5.6 นิ้ว) จะเห็นว่า หน้าจอของ Samsung Galaxy A8 (หน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว) จะใหญ่กว่าอยู่เล็กน้อย
สรุปคุณสมบัติโดยรวมของ Samsung Galaxy A8 พร้อมเปรียบเทียบคุณสมบัติกับ Samsung Galaxy A7 และ Samsung Galaxy A5

ภาพสรุปคุณสมบัติเด่นของ Samsung Galaxy A8 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งจุดสังเกตที่สำคัญก็คือ ชิปเซ็ตของ Samsung Galaxy A8 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยจะเป็น Exynos 5430 ซึ่งแตกต่างจากบางประเทศที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 615

ภาพเปรียบเทียบคุณสมบัติเด่นระหว่างสมาร์ทโฟนตระกูล A-Series ตั้งแต่ Samsung Galaxy A5, Samsung Galaxy A7 และ Samsung Galaxy A8 รุ่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นในหลายๆ จุด
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟีเจอร์ และแอปพลิเคชันต่างๆ ในเบื้องต้น

Samsung Galaxy A8 มาพร้อมกับความสดใหม่ของระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop

Samsung Galaxy A8 รุ่นที่เราได้ทดสอบในวันนี้คือโมเดล SM-A800F ซึ่งก็คือโมเดลที่จะวางจำหน่ายในบ้านเรานั่นเอง

รองรับการใช้งานธีม ทั้งธีมมาตรฐานที่ติดตั้งมากับเครื่อง และธีมบน Themes Store ซึ่งเราสามารถเข้าไปดาวน์โหลดมาใช้งานได้มากมายนับไม่ถ้วน ใครชอบสไตล์ไหนก็เลือกได้ตามใจชอบ

มาพร้อมกับฟังก์ชัน Adaptive Display ซึ่งช่วยปรับเปลี่ยนช่วงสี, ความอิ่มตัวของสี และความคมชัดให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละแบบโดยอัตโนมัติ หรือจะเลือกใช้แบบ AMOLED Cinema, AMOLED Photo และ Basic ก็ได้เช่นกัน

ใช้งาน User Interface แบบ TouchWiz UI เช่นเดียวกันกับสมาร์ทโฟนไฮเอนด์รุ่นใหม่ๆ ของ ซัมซุง

สามารถปรับแต่งหน้ารวมแอปพลิเคชันได้อย่างอิสระ ทั้งการเปลี่ยนตำแหน่งไอคอน, รูปแบบของการแสดงผล และถอนการติดตั้ง

หากคิดว่าโหมดมาตรฐาน (Standard Mode) ดูซับซ้อนจนเกินไป ก็สามารถเปลี่ยนเป็นโหมดใช้งานแบบง่ายได้ (Easy Mode)

ฟีเจอร์ไฮไลท์ของ Samsung Galaxy A8 ก็คือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ซึ่งก่อนจะใช้งานก็ต้องทำการลงทะเบียนลายนิ้วมือให้เรียบร้อยกันเสียก่อน

เมื่อลงทะเบียนลายนิ้วมือแล้ว ก็พร้อมใช้งาน ซึ่งการใช้งานที่เห็นกันอยู่บ่อยครั้งที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นการปลดล็อกหน้าจอ ซึ่งเราเพียงแค่สัมผัสนิ้วลงไปเบาๆ ที่ปุ่มโฮม เซ็นเซอร์ก็จะวิเคราะห์ลายนิ้วมือของเรา และปลดล็อกได้อย่างรวดเร็วทันใจ ซึ่งดีกว่าเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบเดิมๆ (เช่นใน Galaxy Note 4) ที่ยังมีการตอบสนองที่ไม่รวดเร็วแม่นยำสักเท่าไหร่

กล้องของ Samsung Galaxy A8 ใช้เวลาในการเปิดกล้องพร้อมถ่ายเพียง 0.7 วินาที เท่านั้น (ในกรณีที่ไม่ได้ล็อกหน้าจออยู่) หรือเพียง 0.9 วินาที (ในกรณีที่ล็อกหน้าจออยู่) ส่วน User Interface ของกล้องหลังดูมีความเรียบง่าย สามารถเข้าใจได้ไม่ยาก โดยที่ด้านบนก็จะเป็นการปรับตั้งค่าแบบละเอียด, การปรับตั้งค่าไฟแฟลช, การตั้งเวลาถ่ายภาพล่วงหน้า และการตั้งค่าโทนสี ส่วนที่ด้านล่างก็จะเป็นการเลือกโหมดถ่ายภาพ, การสลับเป็นกล้องหน้า และชัตเตอร์ถ่ายภาพ

มีระบบตรวจจับใบหน้ามาให้ใช้งานกันด้วย

โหมดถ่ายภาพมาตรฐานที่ติดตั้งมาพร้อมกับเครื่องก็ได้แก่ โหมดอัตโนมัติ, โหมดมืออาชีพ, โหมดพาโนรามา, โหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง, โหมด HDR และโหมดกลางคืน ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายโหมดที่เราสามารถเข้าไปดาวน์โหลดมาติดตั้งเพิ่มเติมได้

กล้องหลังสามารถกำหนดความละเอียดของภาพถ่ายได้สูงสุดที่ 16 ล้านพิกเซล ในอัตราส่วนแบบ 4:3

กล้องหลังรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p

สามารถตั้งเวลาถ่ายภาพล่วงหน้าได้ตั้งแต่ 2, 5 และ 10 วินาที

สามารถกำหนดโทนสีให้กับภาพถ่ายได้หลายรูปแบบ

User Interface ของกล้องหน้าจะมีความแตกต่างกับกล้องหลังเล็กน้อยตรงที่มีฟังก์ชัน Beauty เพิ่มเข้ามา

ฟังก์ชัน Beauty จะสามารถปรับแต่งได้เพียงแค่หน้าสวยเท่านั้น เรียกว่าเน้นใช้งานแบบง่ายๆ ซึ่งต่างจาก Galaxy A7 และ Galaxy A5 ซึ่งปรับแต่งได้ทั้งหน้าเนียน, หน้าเรียว และตาโต

กล้องหน้ามีโหมดถ่ายภาพมาตรฐานติดตั้งมาให้ 5 โหมด ได้แก่โหมดเซลฟี่, โหมดเซลฟี่แบบกว้าง, โหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง, โหมดกลางคืน และโหมดหน่วงเวลา โดยผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดโหมดอื่นๆ มาติดตั้งเพิ่มเติมได้เช่นเดียวกันกับกล้องหลัง

สามารถกำหนดโทนสีได้เช่นเดียวกันกับกล้องหลัง

รองรับฟังก์ชัน Palm Selfie สำหรับการยกมือขึ้นเพื่อสั่งถ่ายภาพ รวมถึงฟังก์ชัน Voice Selfie สำหรับการสั่งถ่ายภาพด้วยเสียง

เมื่อเราออกเสียงคำว่า Smile, Cheese, Capture หรือ Shoot เครื่องก็จะทำการถ่ายภาพให้เราทันที โดยไม่ต้องกดปุ่มชัตเตอร์แต่อย่างใด หรือหากต้องการถ่ายเป็นคลิปวิดีโอก็ให้ออกเสียงคำว่า Record Video

กล้องหน้าสามารถกำหนดความละเอียดของภาพถ่ายได้สูงสุดที่ 5 ล้านพิกเซล

กล้องหน้ารองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p

ด้วยแอปพลิเคชัน Smart Manager จะช่วยให้เราสามารถจัดการกับการใช้งานแบตเตอรี่, หน่วยความจำภายใน, หน่วยความจำแรม และระบบความปลอดภัย ได้โดยง่าย

หน่วยความจำภายในของ Samsung Galaxy A8 ทั้งหมดจะมีขนาดอยู่ที่ 32 GB ซึ่งเมื่อหักพื้นที่สำหรับไฟล์ระบบแล้ว ก็จะเหลือให้ใช้งานจริงอยู่ประมาณ 25.18 GB และสามารถใส่การ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card ได้สูงสุดถึง 128 GB

รองรับการตอบสนอง หรือสั่งงานด้วยท่าทาง ทั้งการสั่นเตือนเมื่อยกเครื่องขึ้นมา, การปิดเสียงเมื่อคว่ำเครื่อง และการปาดสันมือเพื่อจับภาพหน้าจอ

ด้วยฟังก์ชัน SoundAlive จึงทำให้เราสามารถปรับแต่งรูปแบบของเสียงได้อย่างหลากหลาย ทั้งอีควอไลเซอร์, เสียงทุ้ม, เสียงแหลม, เสียงเครื่องดนตรี และเสียงร้อง

สำหรับอีควอไลเซอร์ เราสามารถปรับความถี่ในย่านต่างๆ ได้ด้วยตนเอง รวมถึงเอฟเฟกต์เสียงสามมิติ, เสียงทุ้ม, เสียงชัดใส และเสียงคอนเสิร์ต

มีวิทยุ FM Stereo ให้ใช้งาน ซึ่งคลื่นความถี่จะเป็นแบบทศนิยมสองหลัก แต่ก็ต้องใช้สายหูฟังเป็นตัวรับสัญญาณเช่นเดิม และที่น่าสนใจก็คือเราสามารถกดบันทึกเสียงรายการวิทยุเพื่อเก็บเอาไว้ฟังในภายหลังได้ด้วย

มีบริการ หรือแอปพลิเคชันต่างๆ จากกูเกิลติดตั้งมาให้ใช้งานอย่างครบครัน และสามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้

รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Pop up Play ซึ่งช่วยให้เราสามารถเปิดดูคลิปวิดีโอในหน้าต่างขนาดเล็ก ไปพร้อมๆ กับการใช้งานแอปพลิเคชันอื่นๆ ได้อย่างราบรื่นง่ายดาย
สรุปผลการทดสอบในเบื้องต้นของ Samsung Galaxy A8

จากการที่ได้พบกับตัวจริงเสียงจริงของ Samsung Galaxy A8 เป็นครั้งแรก หากมองกันแค่เพียงผิวเผินก็คงต้องยอมรับว่าอาจจะไม่ได้รู้สึกแตกต่างไปจาก Samsung Galaxy A7 มากนัก แต่หากได้ลองสัมผัสกันแบบจริงจัง ก็ต้องยอมรับเช่นกันว่ามีรายละเอียดที่แตกต่างอยู่ไม่น้อย รวมถึงมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในหลายๆ จุด เริ่มตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก แม้ว่า Galaxy A8 จะใช้เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody เช่นเดียวกัน แต่เส้นสายรอบตัวเครื่องจะดูมีความโค้งมนมากกว่าเดิม และหากสังเกตกันที่บริเวณกรอบตัวเครื่อง จะพบว่าเป็นดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นเรือธงอย่าง Samsung Galaxy S6 เพราะฉะนั้นหากนำ Galaxy A8 และ Galaxy A7 มาวางเทียบกันตัวต่อตัวก็น่าจะแยกแยะกันได้ไม่ยาก และยิ่งเทียบกันที่ความบางด้วยแล้ว ก็จะพบว่า Galaxy A8 (บาง 5.9 มิลลิเมตร) มีความบางเฉียบมากกว่า Galaxy A7 (บาง 6.3 มิลลิเมตร) อยู่พอสมควร ซึ่งนับว่าสมศักดิ์ศรีกับตำแหน่งสมาร์ทโฟน ซัมซุง รุ่นที่บางเฉียบที่สุด
ส่วนพัฒนาการในด้านอื่นๆ นอกจากในเรื่องของความบางเฉียบแล้ว ก็มีอยู่อีกหลายจุดดังเช่นที่กล่าวเอาไว้ในตอนต้น เริ่มตั้งแต่หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียดระดับ Full HD 1080p ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 5.7 นิ้ว, กล้องถ่ายภาพที่มีความละเอียดมากขึ้นเป็น 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด F/1.9, ระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop ที่สดใหม่กว่า, หน่วยความจำภายในที่มากขึ้นเป็น 32GB ซึ่งมากกว่าเดิมเท่าตัว, แบตเตอรี่ที่มีความจุมากขึ้นเป็น 3,050 mAh ซึ่งดูเข้ากันได้ดีกับจอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้น และฟีเจอร์สำคัญที่อาจช่วยยกระดับ Samsung Galaxy A8 ให้สามารถเทียบชั้นกับสมาร์ทโฟนเรือธงได้ก็คือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Finger Scanner) แบบใหม่ล่าสุดของ ซัมซุง (แบบสัมผัส) ซึ่งฟีเจอร์นี้มักจะมีอยู่ในสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงแบรนด์ชั้นนำเท่านั้น
สำหรับคุณสมบัติอื่นๆ ที่เหลือก็นับว่าโดดเด่นครบเครื่องพอตัว เริ่มตั้งแต่หน่วยประมวลผล Octa-Core Exynos 5430 ความเร็ว 1.8 GHz (เครื่อง Samsung Galaxy A8 ในบางประเทศใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 615), หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดขนาด 128 GB, รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบเครือข่ายความเร็วสูงแบบ 4G LTE, กล้องดิจิทัลที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้านพิกเซล, วิทยุ FM Stereo ในตัว พร้อมฟังก์ชันบันทึกเสียงจากรายการวิทยุ และรองรับการใช้งานสองซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว อย่างไรก็ดีมีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ทีมงานพบว่าเครื่องทดสอบนี้ไม่รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายระยะใกล้แบบ NFC แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเครื่อง Samsung Galaxy A8 ที่วางจำหน่ายจริงนั้นจะสามารถใช้งาน NFC ได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องรอข้อมูลที่แน่ชัดจากทาง ซัมซุง อีกครั้งหนึ่ง
สรุปแล้ว Samsung Galaxy A8 รุ่นนี้ก็น่าจะเหมาะเป็นพิเศษกับคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนดีไซน์พรีเมียมสวยหรูบางเฉียบ ดูดีมีราคา พร้อมกับฟีเจอร์ไฮเอนด์ที่ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนเรือธง ในราคาที่ยังพอจับต้องได้ และก็ขอยืนยันกันอีกครั้งว่า Samsung Galaxy A8 นั้นจะมีราคาอย่างเป็นทางการในบ้านเราอยู่ที่ 15,900 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่า Galaxy A7 อยู่ 1,000 บาท แต่ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับสิ่งต่างๆ ที่ถูกใส่เพิ่มเข้ามาใน Galaxy A8 และจะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงสัปดาห์หน้า (ปลายเดือนกรกฎาคม 2558) โดยสีขาว และสีทอง จะมาวางจำหน่ายก่อน ส่วนสีดำ จะวางจำหน่ายตามมาในภายหลัง สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม เราจะกลับมาพบกันอีกครั้งในรีวิวฉบับเต็มของ Samsung Galaxy A8 สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อน สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Samsung Galaxy A8
- มีการออกแบบดีไซน์ที่สวยหรูดูเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม ด้วยเทคโนโลยีการผลิตแบบ All-Metal Unibody (กรอบตัวเครื่องถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน ด้วยวัสดุแบบโลหะอะลูมิเนียมทั้งชิ้น)
- เป็นสมาร์ทโฟนที่บางเฉียบที่สุดของ ซัมซุง โดยบางเพียง 5.9 มิลลิเมตร พร้อมกับน้ำหนักตัวเครื่องที่เบา เมื่อเทียบกับขนาดของหน้าจอ
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ปุ่มโฮม (ระบบสัมผัส) สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน
- จอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.7 นิ้ว : 386 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T628 MP6
- ขอบด้านข้างของหน้าจอบางเฉียบเพียง 2.5 มิลลิเมตร
- รองรับการเปลี่ยนธีม (Themes) พร้อมทั้งสามารถดาวน์โหลดธีมมาใช้งานเพิ่มเติมได้มากมาย
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Exynos 5430 Processor (ซีพียู Quad-Core Cortex-A15 ความเร็ว 1.8 GHz และ Quad-Core Cortex-A7 ความเร็ว 1.3 GHz)
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1.1 (Lollipop)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB (ใช้งานร่วมกับช่องใส่ซิมการ์ดที่สอง)
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED, รูรับแสง F/1.9 และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง F/1.9 และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS
- รองรับการใช้งาน 4G LTE และ 3G ทุกคลื่นความถี่ในประเทศไทย
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมรองรับระบบดาวเทียม GLONASS ของรัสเซีย และ Beidou ของจีน
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby)
- แบตเตอรี่ Li-Ion 3050 mAh
- โหมด Ultra Power Saving สำหรับการประหยัดพลังงาน (ล็อกการใช้งานบางฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น และเปลี่ยนสีของหน้าจอเป็น ขาว-ดำ)
- แอปพลิเคชัน Samsung Smart Manager สำหรับการจัดการกับแบตเตอรี่, หน่วยความจำภายใน, หน่วยความจำแรม และระบบความปลอดภัย
- วิทยุ FM Stereo ในตัว พร้อมฟังก์ชันบันทึกเสียงจากรายการวิทยุ
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy A8
- โมเดลที่วางจำหน่ายในประเทศไทยใช้ชิปเซ็ต Exynos 5430 ซึ่งต่างจากบางประเทศที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 615
- ไม่สามารถถอดฝาหลัง เพื่อถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
- ไม่รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบ NFC (เท่าที่ตรวจสอบจากเครื่องทดสอบ แต่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงจะใช้งาน NFC ได้หรือไม่ จะมีการยืนยันอีกครั้งหนึ่ง)
- ไม่มีระบบป้องการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization)
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติของ Samsung Galaxy A8
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Samsung Galaxy A8 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
Samsung Galaxy A8 Specification
สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Samsung Galaxy A8
ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูล และติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวอัปเดตล่าสุดของ Samsung Galaxy A8 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
Samsung Galaxy A8 News
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
รีวิว (Review) Samsung Galaxy A8
title="Sony Xperia ZL Specification">

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|