รีวิว (Review) Samsung Galaxy A7 (2017)

สมาร์ทโฟน A-Series ตัวท็อปรุ่นอัปเกรดใหม่ล่าสุด บนบอดี้ Metal-Glass กันน้ำดีไซน์พรีเมียม กับฟีเจอร์ที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม ด้วยจอ Super AMOLED Full HD ไซส์บิ๊ก 5.7 นิ้ว, ชิปเซ็ต Exynos 7880, RAM 3GB, ROM 32GB, Android 6.0, กล้อง 16 ล้านพิกเซล (f/1.9) ทั้งด้านหน้าด้านหลัง, แบตเตอรี่สุดอึด 3600 mAh, เล่น LINE ได้ 2 ไอดี, เซ็นเซอร์สแกนนิ้ว และรองรับ Samsung Pay

Review Date (9-กุมภาพันธ์-2560)

สำหรับ Samsung A-Series ถือเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งตระกูลที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานอย่างแพร่หลาย นั่นก็เนื่องด้วยสมาร์ทโฟนในตระกูลนี้มีการออกแบบดีไซน์ที่ดูทันสมัย สวยงามลงตัว, วัสดุแข็งแรงทนทาน, สเปกเครื่องที่จัดมาให้อย่างครบครัน ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานได้ในทุกรูปแบบ โดยในวันนี้ทางทีมงานจะขอนำเสนอบทความรีวิวสมาร์ทโฟนตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดของปี 2017 ในตระกูล A-Series อย่าง Samsung Galaxy A7 (2017) ให้ทุกท่านได้ชมกัน

สำหรับ Samsung Galaxy A7 (2017) มีการปรับปรุง และพัฒนาให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีมากขึ้นกว่ารุ่นเดิมอย่าง Samsung Galaxy A7 (2016) หลายส่วน เริ่มตั้งแต่ ตัวเครื่องที่มาพร้อมคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น (Waterproof) ตามมาตรฐาน IP68 (Galaxy A7 รุ่นปี 2016 ไม่รองรับ), รองรับฟังก์ชัน Always-On Display (Galaxy A7 รุ่นปี 2016 ไม่รองรับ), แบตเตอรี่มีความจุเพิ่มขึ้นเป็น 3600 mAh พร้อมรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Galaxy A7 รุ่นปี 2016 มีแบตเตอรี่ 3300 mAh), กล้องดิจิทัลด้านหน้ามีความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 (กล้องดิจิทัลด้านหน้า ของ Galaxy A7 รุ่นปี 2016 มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล), กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus), ทางยาวโฟกัส 27 มิลลิเมตร และไฟแฟลช LED (กล้องดิจิทัลด้านหลัง ของ Galaxy A7 รุ่นปี 2016 มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล),  รองรับพอร์ตยุคใหม่แบบ USB-Type C (Galaxy A7 รุ่นปี 2016 ใช้พอร์ตแบบ microUSB), มีแอปพลิเคชัน Secure Folder พร้อมรองรับการใช้งาน Line ได้ 2 แอคเคานท์ในเครื่องเดียวกัน และรองรับฟังก์ชัน Multi-Windows สำหรับใช้งานพร้อมกันสองแอปพลิเคชันบนสองหน้าต่าง

ซึ่งนอกจากจะมีการปรับปรุง และพัฒนาคุณสมบัติเด่นให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีขึ้นแล้ว Samsung Galaxy A7 (2017) ยังมีจุดขายที่น่าสนใจอีกหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ที่มีขนาดใหญ่พิเศษถึง 5.7 นิ้ว, รองรับการใช้บริการ Samsung Pay ผ่าน NFC หรือ MST, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมช่องแยกสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G และตัวเครื่องที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Glass ซึ่งกรอบตัวเครื่องเป็นโลหะ ผสานกับกระจกของโค้งแบบ 3D Glass ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง พร้อมด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Corning Gorilla Glass ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง จึงทำให้ตัวเครื่องของ Samsung Galaxy A7 (2017) มีความสวยงามพรีเมียม และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ

ในส่วนของคุณสมบัติด้านการการประมวลผลนั้น Samsung Galaxy A7 (2017) ก็จัดมาให้แบบไม่เป็นสองรองใครเลยก็ว่าได้ ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานต่างๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต 64-bit Octa-Core Exynos 7880 ความเร็วในการประมวลผล 1.9 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T830 MP3, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow

และจากข้อมูลที่กล่าวมาในข้างต้นจะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy A7 (2017) นั้นมีความน่าสนใจเป็นพิเศษ ทั้งในเรื่องของการออกแบบไซน์ที่ดูสวยงามพรีเมียมเพิ่มขึ้น พร้อมหน้าจอขนาดใหญ่พิเศษถึง 5.7 นิ้ว, ฟีเจอร์การใช้งานที่ครบเครื่อง และกล้องถ่ายภาพที่ดีกว่าเดิม ซึ่งเมื่อเทียบกับราคา 16,490 บาท ก็ถือว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ที่มีอยู่จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านรับชมรีวิว Samsung Galaxy A7 (2017) พร้อมกันต่อได้เลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Samsung Galaxy A7 (2017) นั้นมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.7 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Corning Gorilla Glass โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 156.8x77.6x7.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 186 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด F/1.9, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส (Touch Panel) ได้แก่ ปุ่ม Resent Apps, ปุ่มโฮม พร้อมเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และปุ่มย้อนกลับ

ด้านบนของตัวเครื่องมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 2 พร้อมช่องเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD และไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะทำการบันทึกวิดีโอ หรือบันทึกเสียง

ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเชื่อมต่อยุคใหม่แบบ USB Type-C 2.0, ไมโครโฟน และช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และลำโพงเสียงภายนอก

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง และถาดใส่ซิมการ์ดที่ 1

ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลด้านความละเอียด16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus), ทางยาวโฟกัส 27 มิลลิเมตร และไฟแฟลช LED

สำหรับตัวเครื่องของ Samsung Galaxy A7 (2017) นั้นใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Glass ด้วยกรอบตัวเครื่องเป็นโลหะ ผสานกระจกแบบ 3D Glass ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง และกระจก 2.5D Gorilla Glass ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3600 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Fast Battery Charging)

นอกจากนี้ Samsung Galaxy A7 (2017) ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น (Waterproof) ตามมาตรฐาน IP68 ซึ่งสามารถป้องกันน้ำได้ลึก 1.5 เมตร นานต่อเนื่อง 30 นาที

ตารางเปรียบเทียบฟีเจอร์เด่นของ Samsung Galaxy A5 และ A7 (2016) กับ Samsung Galaxy A5 และ A7 (2017)

จากตารางเปรียบเทียบข้างต้นจะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy A7 (2017) นั้นมีคุณสมบัติตัวเครื่อง และประสิทธิภาพการใช้งานที่พัฒนาขึ้นในทุกๆ ด้าน พร้อมฟีเจอร์ Always-On Display แบบเดียวกับ Samsung Galaxy S7 โดยสมาร์ทโฟนรุ่นปี 2017 พัฒนาทั้งในส่วนของ หน่วยความจำแรม (RAM), หน่วยความจำภายใน, แบตเตอรี่, ระบบปฏิบัติการ Android, กล้องถ่ายภาพทั้งด้านหน้า และด้านหลัง, การเชื่อมต่อ หรือฟีเจอร์สำคัญอย่าง การป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 และราคาเปิดตัวที่ถูกกว่ารุ่นก่อนหน้าด้วย

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

Samsung Galaxy A7 (2017) ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow พร้อมรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่าย 4G อย่าง VoLTE อีกด้วย

โดยมีหน่วยความจำแรมขนาด 3 GB พร้อมด้วยหน่วยความจำภายในขนาด 32 GB

นอกจากนี้ Samsung Galaxy A7 (2017) ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการแจ้งเตือน และสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดต่างๆ ได้ เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต, GPS หรือ WiFi

พร้อมทั้งสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน, การเปลี่ยนสัดส่วนหน้าจอโฮมสกรีน

และสามารถเปลี่ยนธีม หรือดาวน์โหลดธีมอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่าน Theme Store

ในส่วนของฟังก์ชันโทรศัพท์นั้นมีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย ด้วยปุ่มตัวเลขที่พอดีกับนิ้วมือ จึงช่วยให้กดหมายเลขได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งสามารถเข้าดูรายชื่อทั้งหมด หรือบันทึกการโทรได้ทันที

นอกจากนี้ Samsung Galaxy A7 (2017) ยังมีฟังก์ชัน Recent Apps กับฟังก์ชันลดแสงสีฟ้าสำหรับใช้งานในสภาวะแสงน้อยเพื่อถนอมสายตา

อีกหนึ่งความน่าสนใจบน Samsung Galaxy A7 (2017) คือ มีฟังก์ชัน Always On Display ให้ใช้งานนั่นเอง

ตัวอย่างภาพการใช้งานฟังก์ชัน Always On Display

Samsung Galaxy A7 (2017) ยังสามารถปรับโหมดหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละประเภทได้ ไม่ว่าจะเป็น Adaptive Display, AMOLED Cinema, AMOLED Photo และ Basic

ทางด้านฟังก์ชัน Smart Manager นั้นมีหน้าตาเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย แต่ก็สามารถจัดการส่วนต่างๆ ภายในเครื่องได้อย่างดีเยี่ยมเหมือนเช่นเคย ได้แก่ การเคลียร์แรม และการตรวจสอบหน่วยความจำภายในว่ายังสามารถใช้งานได้อีกเท่าไหร่

และยังสามารถเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงได้

ในส่วนของแอปพลิเคชันที่เหมือนผู้ช่วยสำหรับดูแลเรื่องสุขภาพอย่างแอปพลิเคชัน S Health ก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy A7 (2017) ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ Samsung Galaxy A7 (2017) ยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC และยังมีฟังก์ชัน Tap and Pay ให้ใช้งาน โดยผู้ใช้งานสามารถชำระเงินผ่านมือถือด้วยบริการ Samsung Pay ผ่านเทคโนโลยี NFC หรือ MST ได้

สำหรับแอปพลิเคชันอัลบั้มภาพถ่ายจะสามารถแสดงภาพถ่ายได้หลักๆ 2 แบบ คือ แสดงแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด กับแสดงแบบแยกอัลบั้ม

และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ Samsung Galaxy A7 (2017) นั้นมีแอปพลิเคชัน Secure Folder ซึ่งแอปพลิเคชัน Secure Folder นั้นมีหน้าที่ในการล็อค หรือตั้งรหัสผ่านสำหรับเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Secure Folder นั่นหมายความว่า หากผู้อื่นจะเข้ามาใช้งานในส่วนนี้ก็จำเป็นต้องปลดรหัสผ่านเสียก่อน

ซึ่งความสามารถของแอปพลิเคชัน Secure Folder คือ การมีพื้นที่หน่วยความจำแยกที่ถูกเข้ารหัสเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้โดยเฉพาะ พร้อมทั้งผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานได้ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถเข้าใช้งาน Line หรือ Facebook ได้อีกหนึ่งแอคเคานท์ เรียกได้ว่า ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้งาน Line หรือ Facebook ได้พร้อมๆ กันถึงสองแอคเคานท์นั่นเอง

นอกจากนี้ Samsung Galaxy A7 (2017) ยังมีฟังก์ชัน Multi-Windows สำหรับใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชันอีกด้วย

ในส่วนของโหมดการพักหน้าจออัจฉริยะก็ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก ตราบใดที่ผู้ใช้งานยังคงจ้องมองที่หน้าจออยู่ หน้าจอก็จะไม่ดับลง

Samsung Galaxy A7 (2017) ยังมีฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายอีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การรองรับการใช้งานมือเดียว ซึ่งผู้ใช้งานสามารถลดขนาดหน้าจอให้เล็กลงด้วยการกดที่ปุ่มโฮมสามครั้ง หรือการดับเบิ้ลคลิกที่ปุ่มโฮมเพื่อเปิดใช้งานกล้องถ่ายภาพ

นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดใช้งานการสั่งงานด้วยท่าทางแบบอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ฝ่ามือปัดเพื่อจับภาพหน้าจอ, การโทรโดยตรง, รองรับการเตือนอัจฉริยะ และการปิดเสียง

สำหรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบน Samsung Galaxy A7 (2017) สามารถตั้งค่าการใช้งานได้ ซึ่งการเปิดใช้งานระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ ผู้ใช้งานจะต้องทำการลงทะเบียนลายนิ้วมือให้เรียบร้อยเสียก่อน และจากการทดสอบตัวเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้รวดเร็วแม่นยำ

นอกจากนี้ ทาง Samsung ยังได้ติดตั้งแอปพลิเคชันจากทาง Microsoft เอาไว้ให้ใช้งานบน Samsung Galaxy A7 (2017) อีกด้วย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเปิดอ่านไฟล์เอกสารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Word, Excel หรือ PowerPoint

ไม่เพียงเท่านั้นบน Samsung Galaxy A7 (2017) ยังมีแอปพลิเคชัน Samsung Note ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

Samsung Galaxy A7 (2017) ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง และสามารถปรับค่าอีวอไลเซอร์ได้หลายแบบ เช่น Pop หรือ Rock

ในส่วนของแอปพลิเคชันสำหรับฟังวิทยุ FM ก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy A7 (2017) ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีฟังก์ชันสำหรับบันทึกเสียงวิทยุเอาไว้ฟังในภายหลังได้

นอกจากนี้ Samsung Galaxy A7 (2017) ยังสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น

และมีฟังก์ชัน Popup Play ให้ใช้งาน

Samsung Galaxy A7 (2017) มาพร้อมกับชิปเซ็ต 64-bit Octa-Core Exynos 7880 ความเร็วในการประมวลผล 1.9 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T830 MP3, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, หน่วยความภายในขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow

ถึงแม้คุณสมบัติตัวเครื่องนั้นจัดอยู่ในระดับของการใช้งานทั่วไป แต่ Samsung Galaxy A7 (2017) ก็สามารถตอบโจทย์ด้านการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วงให้พบเจอ

และเมื่อนำ Samsung Galaxy A7 (2017) มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 47142 คะแนน

ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 8032 คะแนน

Samsung Galaxy A7 (2017) สามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด

และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store

กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ

สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพนั้นมีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ, โหมดถ่ายภาพโปร หรือโหมดถ่ายภาพอาหาร

ซึ่งในโหมดถ่ายภาพโปรก็สามารถปรับค่าเพื่อถ่ายภาพได้หลายอย่างด้วยกัน ได้แก่ การชดเชยแสง, ISO และไวท์บาลานซ์

และมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย

นอกจากนี้ ยังสามารถปรับค่าการใช้งานไฟแฟลช LED ได้

ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้านั้นมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกับกล้องดิจิทัลด้านหลัง พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ หรือโหมดถ่ายภาพแบบกลุ่ม

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งาน ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับค่าผิวเนียน, ใบหน้าเรียว และตาโตได้ถึง 8 ระดับ อีกทั้งยังสามารถเลือกปรับค่าเฉพาะบางอย่างได้ตามต้องการอีกด้วย

กล้องดิจิทัลด้านหน้ายังมีฟังก์ชันที่ใช้แสงสว่างจากหน้าจอแทนไฟแฟลช LED มาให้ใช้งานด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเปิดใช้งานอัตโนมัติ, เปิดใช้งานตลอดเวลา หรือปิดการใช้งานได้

และยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ ได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพด้านหลัง ที่สามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)

การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพด้านหน้า ที่สามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)

สามารถเปิดใช้งานการแสดงตัวอย่างภาพถ่าย และสามารถเปิดใช้ฟังก์ชันการสั่งงานถ่ายภาพด้วยท่าทางได้

สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที, สามารถเปิดใช้งานตารางเก้าช่องๆ, เปิด-ปิด การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, ตรวจสอบภาพถ่าย, การเปิดใช้งานกล้องถ่ายภาพแบบด่วนด้วยการดับเบิ้ลคลิกที่ปุ่มโฮม และการสั่งงานด้วยเสียง

สามารถเพิ่มความสามารถให้กับปุ่มลดระดับเสียงได้ 3 แบบ ได้แก่ ถ่ายภาพ, ถ่ายวิดีโอ หรือลดระดับเสียง

และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ของ Samsung Galaxy A7 (2017)

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพอาหาร

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพอาหาร

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย ของ Samsung Galaxy A7 (2017)

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 4

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 8

 ภาพซ้ายถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ ส่วนภาพขวาถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ พร้อมเปิดใช้งานแสงสว่างจากหน้าจอแทนไฟแฟลช จะเห็นได้ว่าภาพถ่ายทางขวามีความสว่าง และสีสันที่เป็นธรรมชาติมากกว่า

ภาพซ้ายถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ ส่วนภาพขวาถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ พร้อมเปิดใช้งานแสงสว่างจากหน้าจอแทนไฟแฟลช จะเห็นได้ว่าภาพถ่ายทางขวามีความสว่าง และสีสันที่เป็นธรรมชาติมากกว่า

สรุปผลการทดสอบของ Samsung Galaxy A7 (2017)

ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับสมาร์ทโฟนตัวท็อปในตระกูล A-Series อย่าง Samsung Galaxy A7 (2017) อันดับต้องยอมรับว่าสิ่งที่ Samsung Galaxy A7 (2017) ได้รับการปรับปรุง และพัฒนาเข้าไปนั้นช่วยให้ Samsung Galaxy A7 (2017) นั้นมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นกว่าเดิม เริ่มตั้งแต่ บอดี้โลหะผสานกระจกสุดแกร่ง พร้อมความสามารถในการกันน้ำ กันฝุ่น, หน้าจอไซส์ยักษ์, แบตเตอรี่สุดอึด, กล้องถ่ายภาพมีความละเอียดเพิ่มขึ้นทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง, รองรับพอร์ตเชื่อมต่อแบบใหม่ และมีแอปพลิเคชันสำหรับปกป้องข้อมูลส่วนตัว

สำหรับการออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องของ Samsung Galaxy A7 (2017) นั้นถือว่ามีความสวยงามพรีเมียม และมีความแข็งแรงทนทานเป็นอย่างมาก เนื่องจากใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Glass ซึ่งมีกรอบตัวเครื่องโลหะ ผสานกับกระจกขอบโค้งแบบ 3D Glass ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง พร้อมด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Corning Gorilla Glass ที่ด้านหน้าของตัวเครื่องนั่นเอง พร้อมทั้งได้รับการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่จากทางซัมซุง ซึ่งมีประโยชน์แก่ผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก นั่นคือ ตัวเครื่องที่รองรับการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น (Waterproof) ตามมาตรฐาน IP68 โดยสามารถป้องกันน้ำได้ลึก 1.5 เมตร นานต่อเนื่องถึง 30 นาที เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ดี ด้วยการที่ตัวเครื่องมีกระจกเป็นส่วนประกอบ จึงทำให้ตัวเครื่องค่อนข้างลื่น ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการถือเครื่องใช้งาน

ซึ่งนอกจากจะมีความโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบดีไซน์แล้ว ทางด้านกล้องถ่ายภาพทั้งด้านหน้า และด้านหลังก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งได้รับการปรับปรุง พร้อมพัฒนาให้มีประสิทธิภาพด้านการถ่ายภาพได้ดียึ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหลังที่มีความละเอียดมากถึง 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus), ทางยาวโฟกัส 27 มิลลิเมตร และไฟแฟลช LED ซึ่งจากการทดสอบพบว่ากล้องดิจิทัลด้านหลังนั้นสามารถตอบโจทย์การถ่ายภาพได้ดีเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายภาพในสภาวะแสงปกติ หรือการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย แถมภาพถ่ายที่ได้ยังมีสีสันสดใส และยังสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ภายในภาพได้อย่างคมชัดครบถ้วน อีกทั้ง ยังมีโหมดถ่ายภาพโปรให้เลือกใช้งาน ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับค่าต่างๆ ได้อย่างอิสระ เพื่อสร้างสรรค์ภาพถ่ายรูปแบบใหม่ๆ ได้อีกด้วย

ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้านั้นก็มีความละเอียดเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งมีความละเอียดมากถึง 16 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 และฟังก์ชันที่ใช้แสงสว่างจากหน้าจอแทนไฟแฟลช LED ก็ตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กัน ไม่เพียงเท่านั้น กล้องดิจิทัลด้านหน้ายังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยที่สามารถปรับค่าผิวเนียน, ตาโต หรือใบหน้าเรียว ได้มากถึง 8 ระดับ ตามความต้องการ ซึ่งเหมาะสำหรับคนรักการถ่ายภาพเซลฟี่ตัวจริงเป็นอย่างมาก

ทางด้านจุดขายของ Samsung Galaxy A7 (2017)  ก็นับว่ามีน่าสนใจเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.7 นิ้ว, รองรับฟังก์ชัน Always-On Display, รองรับบริการ Samsung Pay ผ่าน NFC หรือ MST, แบตเตอรี่ขนาด 3600 mAh พร้อมรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมช่องแยกสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, มีแอปพลิเคชัน Secure Folder พร้อมรองรับการใช้งาน Line ได้ 2 แอคเคานท์ในเครื่องเดียวกัน และรองรับฟังก์ชัน Multi-Windows สำหรับใช้งานพร้อมกันสองแอปพลิเคชัน

สำหรับด้านการประมวลผลของ Samsung Galaxy A7 (2017) นั้นจัดอยู่ว่าในระดับกลาง ซึ่งเหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ เริ่มตั้งแต่  ชิปเซ็ต 64-bit Octa-Core Exynos 7880 ความเร็วในการประมวลผล 1.9 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T830 MP3, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, หน่วยความภายในขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่า Samsung Galaxy A7 (2017) นั้นสามารถตอบโจทย์การใช้งานต่างๆ ได้อย่างไหลลื่นจนน่าประทับใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ หรือจะเป็นการใช้งานพร้อมๆ กันบนสองหน้าต่าง และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ ในขณะเล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก็ไม่พบอาการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องอีกด้วย

และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาราวๆ หนึ่งสัปดาห์ก็พอที่จะสรุปได้ว่า Samsung Galaxy A7 (2017) นั้นน่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มีระดับราคาหมื่นกลางๆ ที่มาพร้อมดีไซน์สวยหรูพรีเมียม, วัสดุแข็งแรงทนทาน, ตัวเครื่องรองรับการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น, สเปกเครื่องที่สามารถตอบสนองการใช้งานทุกรูปแบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพใกล้เคียงกับรุ่นเรือธง, ถ่ายภาพสวยคมชัดทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง, มีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย และรวมถึงฟีเจอร์ Samsung Pay ที่สามารถจ่ายเงินผ่านมือถือได้ทันที ซึ่ง Samsung Galaxy A7 (2017) ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Samsung ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Samsung Galaxy A7 (2017) มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

โปรโมชั่นสิทธิพิเศษกว่า 6,000 บาท เมื่อซื้อ Samsung Galaxy A7 (2017)

สำหรับ Samsung Galaxy A5 (2017) และ Samsung Galaxy A7 (2017) จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการที่ Samsung Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2560 เป็นต้นไป ที่ราคา 14,490 บาท โดยมี 2 สีให้เลือกคือสีดำ (Black Sky) และสีทอง (Gold Sand) และผู้ซื้อจะได้รับบัตร Galaxy Gift Card Mastercard แบบเติมเงินทันทีภายในกล่อง และจะได้รับเงินคืนจำนวน 1,500 บาท (หลังจากลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน Galaxy Gift ซึ่งเงินจะคืนเข้าบัตรโดยอัตโนมัติ) โดยบัตร Galaxy Gift Card Mastercard สามารถใช้งานได้แบบเดียวกับบัตรเครดิต Mastercard ทั่วไป สามารถรับสิทธิพิเศษ หรือโปรโมชันที่ร่วมรายการกับ Mastercard ได้ทันที และยังสามารถเพิ่มเข้า Samsung Pay เพื่อใช้จ่ายผ่านระบบ Samsung Pay ได้ด้วย นอกจากนี้ผู้ซื้อ Samsung Galaxy A7 (2017) หรือ A5 (2017) ยังได้รับสิทธิ์การเปลี่ยนหน้าจอฟรีภายใน 1 ปี รวมถึงได้รับฟรีตั๋วชมภาพยนตร์ในเครือ SF Cineplex อีกต่างหาก โดยท่านที่สนใจโปรโมชั่นสุดพิเศษนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ครับ

Samsung Galaxy A 2017 เปิดขายพร้อมโปรแรง แถมรวมกว่า 6,000 บาท! ได้สิทธิ์คุ้ม 3 ต่อ ด้วยรับเงินคืน 1,500 บาท, เปลี่ยนจอฟรี 1 ปี และตั๋วหนัง เริ่มขาย 20 มกราคมนี้!

จุดเด่นของ Samsung Galaxy A7 (2017)

- ตัวเครื่องที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Glass ซึ่งกรอบตัวเครื่องเป็นโลหะ ผสานกับกระจกแบบ 3D Glass ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง พร้อมด้วยกระจก 2.5D Corning Gorilla Glass ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง จึงทำให้ตัวเครื่องมีความเรียบหรู และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ
- ตัวเครื่องรองรับการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น (Waterproof) ตามมาตรฐาน IP68
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน
- จอแสดงผลแบบ  Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels ขนาด 5.7 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Corning Gorilla Glass
- ฟังก์ชันถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้า พร้อมรองรับฟังก์ชัน Always-On Display
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Octa-Core Exynos 7880 ความเร็วในการประมวลผล 1.9 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T830 MP3
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0.1 Marshmallow
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 256 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus), ทางยาวโฟกัส 27 มิลลิเมตร พร้อมไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 พร้อมฟังก์ชันที่ใช้แสงสว่างจากหน้าจอแทนไฟแฟลช LED, โหมดถ่ายภาพหน้าสวย และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual SIM) พร้อมช่องแยกสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- แบตเตอรี่แบบ Li-Ion Polymer 3600 mAh พร้อมรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Fast Charge)
- รองรับบริการ Samsung Pay, รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC หรือ MST และรองรับฟังก์ชัน Tap and Pay
- แอปพลิเคชัน Secure Folder พร้อมรองรับการใช้งาน Line ได้ 2 แอคเคานท์พร้อมกันภายในเครื่องเดียว
- ราคา 16,490 บาท พร้อมโปรโมชั่นรับเงินคืน 1,500 บาท ผ่านบัตร Galaxy Gift Card และเปลี่ยนจอฟรี 1 ปี

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy A7 (2017)

- แบตเตอรี่เป็นแบบ Built-in Battery จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนด้วยตนเองได้
- ด้วยการที่ตัวเครื่องผลิตจากโลหะอะลูมิเนียมอัลลอย ผสานกระจก Gorilla Glass จึงทำให้ตัวเครื่องค่อนข้างลื่น ซึ่งต้องระมัดระวังขณะถือใช้งานเป็นพิเศษ
- หน่วยความจำ RAM มีขนาดเพียง 3GB ซึ่งถือว่าไม่มากนัก หากเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

ข้อมูลเพิ่มเติม

 โปรโมชั่น Samsung Galaxy A 2017 แถมรวมกว่า 6,000 บาท! ได้สิทธิ์คุ้ม 3 ต่อ ด้วยรับเงินคืน 1,500 บาท, เปลี่ยนจอฟรี 1 ปี และตั๋วหนัง เริ่มขาย 20 มกราคมนี้!

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy A7 (2017)
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy A5 (2017)
เปรียบเทียบ Samsung Galaxy A5, A7 (2017) กับ Galaxy A5, A7 (2016) รุ่นปีใหม่ดีกว่ารุ่นปีเก่าอย่างไร มีอะไรอัปเกรดขึ้นบ้าง เราสรุปมาให้ท่านแล้ว!

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::