รีวิว (Review) Samsung Galaxy A3 (2017)
สมาร์ทโฟน A-Series รุ่นเล็กสเปกอัปเกรด สดใหม่ครบเครื่องด้วยหน้าจอ Super AMOLED 4.7 นิ้ว, ชิปเซ็ต Exynos 7870, ROM 16GB, RAM 2GB, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล (f/1.9), กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล (f/1.9), USB Type-C, เล่น LINE & Facebook ได้ 2 แอคเคานท์, รองรับ Samsung Pay และเซ็นเซอร์สแกนนิ้ว บนบอดี้ Metal-Glass ดีไซน์ใหม่ที่กันน้ำได้ กับราคาโปรเพียง 6,990 บาท!
Review
Date (8 กุมภาพันธ์ 2560)

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน แม้ว่าเพิ่งจะผ่านพ้นช่วงต้นปีมาหมาดๆ แต่ทางบรรดาแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแต่ละรายก็พากันเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่กันตั้งแต่เริ่มต้นปีเลยทีเดียว เช่นเดียวกับ Samsung แบรนด์สมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลกที่ต้อนรับปี 2017 ด้วยการเปิดตัว Samsung Galaxy A Series 2017 สมาร์ทโฟนซีรีส์ยอดนิยมรุ่นอัปเกรดใหม่ล่าสุดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการถึง 2 รุ่น คือ Samsung Galaxy A7 (2017) ที่มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 16,490 บาท และ Samsung Galaxy A5 (2017) เคาะราคาที่ 14,490 บาท แต่สิ่งที่น่าสนใจคือในปีนี้ Samsung ได้ตัดสินใจส่งน้องเล็กประจำซีรีส์อย่าง Samsung Galaxy A3 (2017) มาวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วย ซึ่งทำให้ปีนี้เป็นปีแรกที่ Samsung ได้ส่ง Samsung Galaxy A Series 2017 มาวางจำหน่ายครบทั้ง 3 รุ่นอีกด้วย โดย Samsung Galaxy A3 (2017) เคาะราคาวางจำหน่ายที่ 11,900 บาท และมาพร้อมกับคุณสมบัติตัวเครื่องที่น่าสนใจไม่แพ้รุ่นพี่อีกสองรุ่นเลยทีเดียว
สำหรับ Samsung Galaxy A3 (2017) ถึงจะเป็นน้องเล็กสุดในซีรีส์ แต่ Samsung ก็พัฒนาฟีเจอร์ และคุณสมบัติต่างๆ ให้ดีขึ้นแบบจัดเต็มเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น บอดี้ดีไซน์ใหม่แบบ Metal-Glass ที่ให้ความรู้สึกหรูหราเพิ่มขึ้นอีกระดับ พร้อมฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น (Waterproof) ตามมาตรฐาน IP68 ที่สามารถป้องกันน้ำลึกได้ถึง 1.5 เมตร นานต่อเนื่อง 30 นาที, หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1280x720 พิกเซล พร้อมฟีเจอร์ Always-On Display, ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core 64-bit Samsung Exynos 7870, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16GB รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner), รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM), รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่าย 4G LTE, รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, แบตเตอรี่ความจุ 2350 mAh และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow
ส่วนฟีเจอร์สำคัญอย่าง กล้องถ่ายภาพนั้น Samsung Galaxy A3 (2017) ก็ได้รับการพัฒนากล้องถ่ายภาพให้มีประสิทธิดียิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9 ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการถ่ายในที่แสงน้อยได้เป็นอย่างดี, ใช้งานระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ, รองรับระบบ Face Detection ที่สามารถตรวจจับใบหน้าในภาพ และทำการโฟกัสให้คมชัดได้ และกล้องด้านหลังนี้ยังสามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080p อีกด้วย ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าของ Samsung Galaxy A3 (2017) มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9 เช่นเดียวกัน พร้อมทั้งมีโหมดบิวตี้สำหรับการปรับความขาวเนียนให้เลือกใช้งานด้วย
นอกจากนี้ Samsung Galaxy A3 (2017) ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์เด่นที่ถูกใจใครหลายคน นั่นก็คือ การเล่น LINE และ Facebook ได้พร้อมกันถึง 2 แอคเคานท์ ภายในเครื่องเดียว โดยการใช้งานผ่านฟีเจอร์ Secure Folder ที่ช่วยเก็บรักษาข้อมูลสำคัญของเราไว้อย่างปลอดภัยที่สุด และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่กำลังมาแรงมากในขณะนี้อย่าง Samsung Pay กระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเก็บบัตรทุกใบของคุณไว้ในสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว และพร้อมใช้จ่ายได้ทุกที่ ทุกเวลา
จะเห็นได้ว่า แม้ Samsung Galaxy A3 (2017) จะอยู่ในฐานะของน้องเล็กประจำซีรีส์ แต่ประสิทธิภาพ และคุณสมบัติตัวเครื่องนั้นพร้อมให้ใช้งานได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ารุ่นพี่ๆ เลยแม้แต่น้อย ส่วนรูปลักษณ์ตัวเครื่องจริงจะเป็นอย่างไร การใช้งานจะไหลลื่นหรือไม่ และกล้องถ่ายภาพจะสวยใสเพียงใด ขอเชิญทุกท่านติดตามชมรีวิว Samsung Galaxy A3 (2017) ไปพร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์


Samsung Galaxy A3 (2017) มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels (HD 720p : กว้าง 4.7 นิ้ว : 120.4 มิลลิเมตร : 312 ppi) และฟีเจอร์ Always-On Display โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 135.4x66.2x7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 138 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วย : Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้, Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน, RGB Light Sensor สำหรับตรวจวัดสภาพแสงในสภาพแวดล้อม เพื่อปรับระดับความสว่าง หรือสีสันของหน้าจอให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา และกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9

ด้านหน้าส่วนล่างประกอบไปด้วย : ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮมแบบ Hard-Key พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) และปุ่มย้อนกลับ

ด้านซ้ายประกอบด้วย : ปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับเสียง

ด้านขวาประกอบด้วย : ปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และลำโพงหลักของตัวเครื่อง


ด้านบนประกอบด้วย : ไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับการตัดเสียงรบกวนภายนอก และถาดใส่ซิมการ์ด โดยถาดของ Samsung Galaxy A3 (2017) จะเป็นแบบ Hybrid Slot ซึ่งในช่องที่ 2 ผู้ใช้ต้องเลือกว่าจะใส่ซิมการ์ด หรือ microSD

ด้านล่างประกอบด้วย : ช่องเชื่อมต่อ USB Type-C, ไมโครโฟนสำหรับการบันทึกเสียง และการสนทนา และช่องเชื่อมต่อหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร

ด้านหลังประกอบด้วย : กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9 ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการถ่ายในที่แสงน้อยได้เป็นอย่างดี, ใช้งานระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ, รองรับระบบ Face Detection ที่สามารถตรวจจับใบหน้าในภาพ และทำการโฟกัสให้คมชัดได้ และสามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080p

Samsung Galaxy A3 (2017) มาพร้อมตัวเครื่องดีไซน์ใหม่แบบ Metal-Glass ด้วยกรอบตัวเครื่องโลหะ ผสานกระจกแบบ 3D Glass ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง และกระจก 2.5D Glass ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง เพิ่มความหรูหรา และความคงทนแข็งแรงให้มากยิ่งขึ้น


นอกจากนี้ Samsung Galaxy A3 (2017) ยังมาพร้อมกับตัวเครื่องที่ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 สามารถกันน้ำลึกได้ถึง 1.5 เมตร นานต่อเนื่อง 30 นาที และถ้าหากตัวเครื่องเปียกน้ำก็จะมีการแจ้งเตือนปรากฏขึ้นด้วยว่าให้ช่องเชื่อมต่อแห้งสนิทเสียก่อน ก่อนที่จะชาร์จแบตเตอรี่ หรือถ่ายโอนข้อมูล
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
 
 
เมื่อเปิดเครื่อง Samsung Galaxy A3 (2017) ขึ้นมา และตั้งค่าทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะพบกับหน้าจอ Home Screen ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Samsung ในชื่อ TouchWiz UI โดยแอปพลิเคชันพื้นฐานต่างๆ ก็มีมาให้ใช้งานอย่างครบครัน ซึ่งแอปพลิเคชันสำคัญอย่าง Samsung Pay ก็มีติดตั้งไว้ให้ที่หน้าแรกอีกด้วย
 
หากผู้ใช้ปัดนิ้วจากด้านบนลงด้านล่างก็จะพบกับส่วนแสดงข้อความแจ้งเตือน (Notifications) และถ้าปัดนิ้วลงมาอีกครั้งก็จะพบกับส่วนควบคุม หรือการตั้งค่าลัดในแบบต่างๆ
 
หากแตะนิ้วค้างไว้ที่บริเวณหน้าจอจะเป็นการเข้าสู่การปรับแต่งหน้าจอแสดงผล ไม่ว่าจะเป็น ภาพพื้นหลัง, วิดเจ็ต หรือตำแหน่งการจัดเรียงแอปพลิเคชัน

สำหรับแอปพลิเคชัน Samsung Pay ที่กำลังมาแรงมากในขณะนี้ก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy A3 (2017) เช่นเดียวกัน โดยผู้ใช้ต้องเข้าไปลงทะเบียนใช้งานภายในแอปพลิเคชัน และผูกบัตรเครดิตไว้กับ Samsung Account ของตนเอง จากนั้นก็สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที




นอกจากนี้ Samsung Galaxy A3 (2017) ยังมีฟีเจอร์เด็ดอีกหนึ่งอย่างที่ถูกอกถูกใจผู้ใช้หลายคนเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ การใช้งานแอปพลิเคชัน LINE และ Facebook ได้ถึง 2 แอคเคานท์ ในเวลาเดียวกัน ผ่านทาง Secure Folder ซึ่งใน Secure Folder นี้ จะเป็นการฟังก์ชันรักษาความปลอดภัยข้อมูลทุกอย่างที่เจ้าของเครื่องต้องการเก็บเป็นความลับ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ, อีเมล, ไฟล์ข้อมูล ฯลฯ และเมื่อผู้ใช้เข้าไปใน Secure Folder จะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันใหม่อีกครั้งผ่าน Play Store เสมือนเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ที่เก็บรักษาข้อมูลไว้แบบลับเฉพาะด้วยการเข้ารหัสเท่านั้น
 
ขยับมาดูกันที่คุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้นของ Samsung Galaxy A3 (2017) กันบ้าง โดย Samsung Galaxy A3 (2017) ใช้งานชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core 64-bit Samsung Exynos 7870 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 1.6GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T830 MP2, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16GB และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow
 
ทดสอบการประมวลผลกราฟิกของ Samsung Galaxy A3 (2017) ด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 46,601 คะแนน และทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน GeekBench 4 ได้คะแนนแบบ Single-Core ที่ 692 คะแนน ส่วนแบบ Multi-Core ได้คะแนน 3,320 คะแนน


แม้จะเป็นรุ่นเล็กสุดประจำซีรีส์ แต่ก็ยังสามารถใช้เล่นเกมที่มีภาพกราฟิกสวยๆ ได้อย่างไม่เป็นปัญหา แต่ความสวยงาม, เอฟเฟคต์ และความละเอียดของภาพจะค่อนข้างแสดงผลได้น้อยกว่ารุ่นพี่บ้าง และถ้าหากเล่นเกมที่ต้องประมวลผลหนักๆ เป็นเวลานานก็อาจมีการกระตุกให้พบเห็นได้บ้างเล็กน้อยเช่นกัน แต่ไม่มีผลต่อการทำงานของตัวเครื่องแต่อย่างใด


สำหรับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ก็ใช้งานในการชมภาพยนตร์ หรือคลิปวิดีโอความละเอียดสูงได้อย่างไหลลื่นไม่มีติดขัด
กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ของ Samsung Galaxy A3 (2017)

สำหรับฟังก์ชันกล้องของ Samsung Galaxy A3 (2017) นั้นก็จะคล้ายคลึงกับรุ่นพี่อย่าง Galaxy A5 (2017) และ Galaxy A7 (2017) โดย Interface ของกล้องค่อนข้างจะเรียบง่าย และมีเมนูที่ไม่ซับซ้อนมากนัก แม้ว่าผู้ใช้ท่านใดที่เพิ่งเคยใช้งานมือถือ Samsung เป็นครั้งแรก ก็สามารถเข้าใจ และใช้งานได้คล่องในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งกล้องดิจิทัลด้านหลังของ Samsung Galaxy A3 (2017) มาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9 โดยสัญลักษณ์ด้านบนเรียงจากซ้ายไปขวา คือ สลับกล้องหน้า-กล้องหลัง, ไฟแฟลช และการตั้งค่า

จากหน้าจอหลักของโหมดถ่ายภาพปกติ ถ้าปัดมาทางซ้ายจะเป็นการเลือกเอฟเฟกต์ภาพถ่าย ซึ่งจะมีให้เลือกมากมาย รวมไปถึงเอฟเฟกต์ภาพแบบ Beauty ด้วย
 
 
ถ้าหากปัดนิ้วมาทางด้านขวาก็จะพบกับโหมดอื่นๆ ของกล้องถ่ายภาพ คือ โหมดโปร, พาโนรามา, ถ่ายต่อเนื่อง, ถ่ายแบบ HDR (High Dynamic Range), ถ่ายกลางคืน และถ่ายภาพอาหาร โดยโหมดโปรนั้นผู้ใช้สามารถปรับแต่งค่าต่างๆ ได้เหมือนกับกล้องโปรเพื่อให้เหมาะสมกับการถ่ายภาพในสภาวะนั้นๆ โดยโหมดโปรของ Samsung Galaxy A3 (2017) จะมีให้เลือกปรับ 3 ค่าด้วยกัน คือ การชดเชยแสง, ค่าความไวแสง (ISO) และค่าสมดุลแสงขาว (White Balance)
 
นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าเกี่ยวกับกล้องถ่ายภาพได้เช่นกันเพียงกดไปที่สัญลักษณ์ฟันเฟืองที่ด้านบนขวาของหน้าจอ
 
 
สำหรับกล้องด้านหน้าของ Samsung Galaxy A3 (2017) มาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9 โดยฟังก์ชันต่างๆ ยังคงใกล้เคียงกับการใช้งานกล้องดิจิทัลด้านหลัง โดยมีโหมดให้เลือกใช้งาน 4 โหมดด้วยกัน คือ ถ่ายภาพเซลฟี่, ถ่ายภาพเซลฟี่มุมกว้าง, ถ่ายภาพต่อเนื่อง แลพถ่ายภาพกลางคืน แต่จะมีโหมด Beauty ให้ใช้งานเพิ่มเติมด้วย

การใช้งานปรับแต่งโหมดบิวตี้จะอยู่ที่ไอคอนรูปหน้าผู้หญิงที่มุมขวาล่างของหน้าจอ เมื่อแตะที่ไอคอนดังกล่าวจะปรากฏฟังก์ชันขึ้นมาให้ปรับ 3 แบบด้วยกัน คือ ผิวเนียน, หน้าเรียว และตาโต โดยทั้ง 3 ฟังก์ชันสามารถปรับได้ตั้งแต่ 0 ถึง 8 ระดับด้วยกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ของ Samsung Galaxy A3 (2017)













ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ของ Samsung Galaxy A3 (2017)
 

ภาพถ่ายด้วยโหมด Beauty โดยปรับระดับที่ 0, 4 และ 8 ตามลำดับ
สรุปผลการทดสอบของ Samsung Galaxy A3 (2017)

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับสมาร์ทโฟนน้องเล็กสุดประจำซีรีส์ แต่คุณภาพไม่ได้เล็กตาม สำหรับ Samsung Galaxy A3 (2017) ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ของสมาร์ทโฟน Galaxy A Series 2017 ก็เรียกได้ว่าแทบจะยกเครื่องใหม่ทั้งหมดจริงๆ เริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงในด้านดีไซน์ตัวเครื่องที่หันมาใช้ดีไซน์แบบ Metal-Glass ที่เน้นความหรูหราพรีเมียม แต่ยังมีความคงทนแข็งแรง ด้วยการใช้งานกรอบตัวเครื่องโลหะ (Metal) ร่วมกับกระจกป้องกันหน้าจอขอบนูนแบบ 2.5D Corning Gorilla Glass ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน ได้เป็นอย่างดี และ Samsung ยังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่ถือว่าเป็นประโยชน์ และโดนใจผู้ใช้อย่างมาก นั่นก็คือ การป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น (Waterproof) ตามมาตรฐาน IP68 โดยสามารถป้องกันน้ำได้ลึก 1.5 เมตร นานต่อเนื่อง 30 นาที ซึ่งปกติแล้วเราจะพบเห็นได้เฉพาะในสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงเท่านั้น
ส่วนจุดเด่นของ Samsung Galaxy A3 (2017) ก็มีมาให้ใช้อย่างเต็มที่ ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ที่แสดงสีสันได้คมชัด ขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1280x720 พิกเซล, รองรับฟีเจอร์ Always-On Display, รองรับบริการ Samsung Pay ผ่าน NFC หรือ MST, แบตเตอรี่ขนาด 2350 mAh พร้อมรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Fast Charge), เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner), รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) พร้อมช่องแยกสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, แอปพลิเคชัน Secure Folder และรองรับการใช้งาน LINE ได้พร้อมกัน 2 แอคเคานท์
สำหรับกล้องถ่ายภาพที่น่าจะเป็นฟีเจอร์สำคัญของใครหลายคน ก็ถือว่า Samsung Galaxy A3 (2017) สอบผ่านไปได้อย่างสบายๆ ด้วยความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9 ก็ช่วยให้ภาพถ่ายของคุณเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน คมชัด อีกทั้งขนาดรูรับแสงที่กว้างก็จะช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยเป็นไปอย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น และยังทำภาพแบบ หน้าชัด-หลังเบลอ ได้ง่ายอีกด้วย ขณะที่กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9 ก็ทำงานได้ดีเช่นเดียวกัน เพราะกล้องด้านหน้าของ Samsung Galaxy A3 (2017) รุ่นนี้น่าจะเป็นที่นิยมของสุภาพสตรีที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเซลฟี่ ด้วยโหมดถ่ายภาพ Beauty ที่สามารถปรับค่า ผิวเนียน, หน้าเรียว และตาโต ได้มากถึง 8 ระดับ และยังมีฟังก์ชันไฟแฟลชจากหน้าจอสำหรับกล้องด้านหน้า เพื่อช่วยในการถ่ายภาพเซลฟี่ในเวลากลางคืนด้วย
ทางด้านคุณสมบัติตัวเครื่องของ Samsung Galaxy A3 (2017) นั้นก็เรียกว่าเพียงพอ และครบครันในทุกๆ การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core 64-bit Samsung Exynos 7870 ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 1.6GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T830 MP2, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16GB และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งหลังจากที่ทีมงานได้ทดลองใช้งานในเบื้องต้นมาสักระยะก็พบว่า Samsung Galaxy A3 (2017) ถือว่าตอบสนองต่อการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ได้ดีกว่าที่คิดไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอปพลิเคชันหลายๆ โปรแกรมไว้พร้อมกัน, การรับชมภาพยนตร์ความละเอียดสูง หรือการเล่นเกมที่มีการประมวลผลกราฟิกค่อนข้างหนัก ก็สามารถทำได้อย่างสบายๆ แต่ความสวยงาม หรือเอฟเฟกต์ภายในเกมอาจจะแสดงผลได้ไม่เท่ารุ่นพี่อีกสองรุ่น
หลังจากที่ทีมงานได้ทดลองใช้ Samsung Galaxy A3 (2017) มาได้สักระยะก็อาจจะสรุปได้ว่า Samsung Galaxy A3 (2017) เหมาะกับผู้ใช้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนในราคาประมาณหมื่นต้นๆ ที่มีดีไซน์พรีเมียมหรูหราน่าใช้งาน, วัสดุแข็งแรงทนทาน, มีคุณสมบัติป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น, คุณสมบัติตัวเครื่องสามารถใช้งานได้ครบครันในทุกรูปแบบ, ถ่ายภาพได้สวย และคมชัด ทั้งกล้องด้านหน้า และกล้องด้านหลัง, มีฟีเจอร์ให้ใช้งานได้หลากหลาย และยังรองรับ Samsung Pay ที่ถือว่าเป็นระบบการจ่ายเงินด้วยสมาร์ทโฟนที่สะดวกสบายมากที่สุดในขณะนี้อีกด้วย ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ก็ทำให้ Samsung Galaxy A3 (2017) เป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับท่านใดที่ต้องการมือถือดีๆ สักหนึ่งเครื่อง โดย Samsung Galaxy A3 (2017) นั้นมีวางจำหน่ายแบบ Exclusive แล้วที่AIS Shop ในราคา 11,900 บาท ท่านใดที่สนใจก็ลองแวะไปลองสัมผัสลองใช้งานกันก่อนได้ สำหรับวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
โปรโมชั่นพิเศษสำหรับ Samsung Galaxy A3 (2017) จาก AIS

สำหรับ Samsung Galaxy A3 (2017) จะวางจำหน่ายแบบ Exclusive กับ AIS เท่านั้น ที่ AIS Shop ทุกสาขา โดย Samsung Galaxy A3 (2017) มาพร้อมกับโปรโมชั่นสุดเด็ดลดราคาเหลือเพียง 6,990 บาท จากราคาเต็ม 11,900 บาท เมื่อสมัครแพ็กเกจเริ่มต้น 499 บาท เป็นระยะเวลา 12 เดือน พร้อมชำระค่าบริการล่วงหน้า 2,000 บาท (นำไปลดค่าแพ็กเกจเดือนละ 200 บาท นาน 10 เดือน) โดย Samsung Galaxy A3 (2017) นั้นได้เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา
จุดเด่นของ Samsung Galaxy A3 (2017)
- ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Metal-Glass ด้วยกรอบตัวเครื่องโลหะ ผสานกระจกแบบ 3D Glass ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง และกระจก 2.5D Glass ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง
- ตัวเครื่องมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68 ป้องกันน้ำได้ลึก 1.5 เมตร นานต่อเนื่อง 30 นาที
- จอแสดงผลแบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels (HD 720p : กว้าง 4.7 นิ้ว : 120.4 มิลลิเมตร : 312 ppi) พร้อมฟังก์ชัน Always-On Display
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Exynos 7870 ความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz (ซีพียู Octa-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.6 GHz)
- หน่วยประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T830 MP2
- หน่วยความจำ RAM (LPDDR3) ขนาด 2 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB (เหลือให้ใช้งานจริงประมาณ 9.7 GB)
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0.1 (Marshmallow)
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels, ความละเอียดสูงสุดของภาพถ่าย 4128x3096 Pixels, ขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ f/1.9, ไฟแฟลชในตัว (LED Flash) และถ่ายภาพวิดีโอ (Full HD : 1080p : 1920x1080 Pixels : 30 fps)
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels (3264x2448 Pixels) และขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ f/1.9
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ปุ่มโฮม สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby : Hybrid Slot)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS
- รองรับบริการ Samsung Pay ผ่านทาง NFC หรือ MST และรองรับฟังก์ชัน Tap and Pay
- แอปพลิเคชัน Secure Folder พร้อมรองรับการใช้งาน Line ได้ 2 แอคเคานท์พร้อมกันภายในเครื่องเดียว
- แบตเตอรี่แบบ Li-Ion Polymer 2350 mAh
- ราคาวางจำหน่าย 11,900 บาท
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy A3 (2017)
- เครื่องที่วางจำหน่ายในประเทศไทย มีเพียง 2 สีให้เลือก คือสีดำ (Black Sky) และสีทอง (Gold Sand)
- หน้าจอมีขนาดเล็ก และความละเอียดค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในช่วงราคาเดียวกัน
- แบตเตอรี่เป็นแบบ Built-in Battery จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนด้วยตนเองได้
- ด้วยการที่ตัวเครื่องผลิตจากโลหะอะลูมิเนียมอัลลอย ผสานกระจก Gorilla Glass จึงทำให้ตัวเครื่องค่อนข้างลื่น ซึ่งต้องระมัดระวังขณะถือใช้งานเป็นพิเศษ
- หน่วยความจำ RAM มีขนาดเพียง 2GB ซึ่งถือว่าไม่มากนัก หากเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน
- ถาดใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ Hybrid Slot ซึ่งไม่สามารถใส่ซิมการ์ดที่สอง กับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD พร้อมกันได้
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
ข้อมูลเพิ่มเติม
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy A3 (2017)
โปรโมชั่น Samsung Galaxy A3 (2017) จาก AIS
เจาะลึกฟีเจอร์ Samsung Galaxy A3, A5, A7 (2017)
รีวิว (Review) Samsung Galaxy A5 (2017)
title="Sony Xperia ZL Specification">

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|