ตอนนี้คุณอยู่ที่ >> หน้าแรก >> หน้ารวม mobile review >> รีวิว OPPO A83 2018 64GB สมาร์ทโฟน A.I. Beauty รุ่นย่อมเยา ผสานจอ Full Screen บนตัวเครื่อง Unibody พร้อมชิป Helio P23, RAM 4GB, ROM 64GB, กล้อง 13MP และสแกนใบหน้า ในราคาเพียง 6,990



 
TMC Point

  7.97

การออกแบบดีไซน์

  7.5

ใช้งานง่ายและสะดวก

  8.5

คุณสมบัติเครื่อง

  7.5

ฟังก์ชันการใช้งาน

8.5

เสถียรภาพและประสิทธิภาพ

  8.0

ความคุ้มค่าต่อราคา

  7.5

 
   

รีวิว (Review) OPPO A83 2018 64GB

สมาร์ทโฟน A.I. Beauty รุ่นย่อมเยาใหม่ล่าสุด ผสานจอ Full Screen กว้างสุดขอบ บนตัวเครื่อง Unibody สวยโค้งมน พร้อมชิปเซ็ต Helio P23, RAM 4GB, ROM 64GB, กล้อง 13 ล้านพิกเซล, ระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า, แบตเตอรี่ 3180 mAh และฟีเจอร์ใช้งานครบครัน ในราคาเพียง 6,990 บาท

 

Review Date (13-มิถุนายน-2561)

หากยังจำกันได้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทาง OPPO เพิ่งได้เปิดตัว OPPO A83 2018 รุ่นแรม 3 GB + รอม 32 GB อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2561 ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็ได้ชูจุดเด่นในเรื่องของหน้าจอไร้ขอบแบบ Full Screen ในอัตราส่วน 18:9, ระบบสแกนใบหน้า, กล้องดิจิทัลด้านหน้าที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี A.I. Beauty Recognition, คุณสมบัติตัวเครื่องสำหรับตอบโจทย์การใช้งานในระดับกลางได้ครบทุกรูปแบบ บนดีไซน์เรียบหรูจับถนัดมือแบบ Unibody ในราคาที่ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้ และล่าสุดเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ซื้อ ทาง OPPO ก็ได้วางจำหน่าย OPPO A83 2018 เพิ่มอีก 2 รุ่นด้วยกัน คือ รุ่นแรม 4 GB + รอม 64 GB สำหรับผู้ที่ต้องการหน่วยความจำสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลเยอะๆ กับรุ่นแรม 2 GB + รอม 16 GB สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสเปกระดับกลางในราคาที่ย่อมเยาลงมา

ซึ่งในวันนี้ OPPO A83 2018 64GB รุ่นแรม 4 GB + รอม 64 GB ก็ได้มาอยู่ในมือของทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางทีมงานก็ไม่รอช้ารีบจัดทำรีวิวมาให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน โดย OPPO A83 2018 64GB รุ่นนี้นั้นมีจุดขายหลักอยู่ที่กล้องถ่ายภาพ โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับเทคโนโลยี A.I. Beauty Recognition, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2, มีฟังก์ชัน Bokeh สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ และมีฟังก์ชัน Screen Flash ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหลังจะมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) และไฟแฟลช LED

 

ทางด้านคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็ถือเป็นจุดขายสำคัญของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน เริ่มตั้งแต่ ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody พร้อมความบางเฉียบ 7.7 มิลลิเมตร จึงทำให้ตัวเครื่องมีความเรียบหรูจับถนัดมือ, หน้าจอแสดงผลแบบ TFT Full Screen Display ความละเอียด 1440x720 พิกเซล ขนาด 5.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass, รองรับฟังก์ชัน Split-Screen สำหรับแบ่งหน้าจอ เพื่อให้ใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน, รองรับการโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน, รองรับฟังก์ชันการถนอมสายตา (Blue Light Filter), รองรับฟังก์ชัน Hold of Distraction สำหรับเล่นเกม และสนทนาไปพร้อมๆ กัน, รองรับฟังก์ชันโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน, มีระบบสแกนใบหน้า (Facial Unlock), ถาดซิมการ์ดแบบ Triple-Slot Tray ซึ่งเป็น 3 ช่องอิสระ ที่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้พร้อมๆ กัน, รองรับการสนทนาผ่านระบบ VoLTE, รองรับเทคโนโลยีเสียง Real Original Sound และแบตเตอรี่ขนาด 3180 mAh พร้อมรองรับการเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานได้

ในส่วนของคุณสมบัติการประมวลผลนั้นจัดอยู่ในระดับกลาง ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6763T Helio P23 ความเร็วในการประมวลผล 2.5 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกแบบ Mali-G71, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB, หน่วยความจำแรม ขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.2 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat)

 

โดย OPPO A83 ได้วางจำหน่ายในราคาเพียง 6,990 บาท เท่านั้น! และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว OPPO A83 2018 64GB ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบดีไซน์, กล้องถ่ายภาพที่มาพร้อมเทคโนโลยี A.I. Beauty Recognition และคุณสมบัติตัวเครื่อง ซึ่งจะสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเพียงใด ไปชมพร้อมกันได้เลยครับ

 

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

สำหรับ OPPO A83 2018 64GB นั้นมาพร้อมกันแพ็กเกจสีขาว

 

ด้านมุมซ้ายบนของแพ็กเกจก็ได้มีการระบุไว้ด้วยว่า OPPO A83 2018 64GB รุ่นนี้มาพร้อมกับหน่วยความจำแรมขนา 4 GB และหน่วยความจำภายในขนาด 64 GB

 

ซึ่งภายในแพ็กเกจก็มีอุปกรณ์เอาไว้ให้ใช้งานหลายอย่างด้วยกัน เช่น คู่มือการใช้งาน หรือใบรับประกัน

 

สำหรับ OPPO A83 2018 64GB นั้นมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ TFT Full Screen Display ความละเอียด 1440x720 ขนาด 5.7 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูน 2.5D Glass โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 150.5x73.1x7.7 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 143 กรัม

 

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2 และไฟแฟลช LED, ลำโพงเสียงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, เซ็นเซอร์ Accelerometer ที่ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และเซ็นเซอร์ Proximity สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

 

นอกจากนี้ กล้องดิจิทัลด้านหน้ายังรองรับเทคโนโลยี A.I. Beauty Recognition สำหรับเรียนรู้ลักษณะเฉพาะใบหน้าของตัวแบบ เพื่อนำมาปรับแต่งภาพถ่ายให้มีความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด

 

ด้านล่างของตัวเครื่องมีปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps

 

ด้านบนของตัวเครื่องไม่มีปุ่มฟังก์ชันใดๆ ให้ใช้งาน

 

ด้านล่างของตัวเครื่องมีลำโพงเสียงภายนอก, ช่องสำหรับเชื่อมต่อกับสายชาร์จแบบ microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล, ไมโครโฟน และช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

 

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด

 

ซึ่งถาดใส่ซิมการ์ดของ OPPO A83 2018 64GB นั้นเป็นแบบ Triple-Slot Tray ซึ่งเป็น 3 ช่องอิสระ ที่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้พร้อมๆ กัน และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดถึง 256 GB เลยทีเดียว

 

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง

 

ด้านหลังของตัวเครื่องมาพร้อมกล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งมีรูรับแสงขนาด f/2.2 พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) และไฟแฟลช LED

 

สำหรับตัวเครื่องของ OPPO A83 2018 64GB นั้นเทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Unibody อีกทั้งฝาหลังยังมีความโคงมน จึงทำให้ตัวเครื่องมีความสวยงาม และจับ หรือถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว

 

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

สำหรับ OPPO A83 2018 64GB นั้นขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS เวอร์ชัน 3.2 ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat โดยรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และสามารถรองรับอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้ นอกจากนี้ ยังรองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่าย 4G (Voice over LTE)

 

มีหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB พร้อมด้วยหน่วยความจำภายในขนาด 64 GB

 

อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการแจ้งเตือนต่างๆ และสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันลัดได้หลากหลาย เช่น การเปิดใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือฟังก์ชันการถนอมสายตา (Blue Light Filter)

 

อีกทั้งยังมีบริการจากทาง Google ให้ใช้งานอย่างครบครัน

 

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนธีม, การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และการเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้า

 

ทางด้านฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย และสามารถเข้าดูรายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมดได้ทันที

 

มีแอปพลิเคชัน "ตัวจัดการโทรศัพท์" ที่สามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวต่างๆ ได้ โดยผู้ใช้สามารถเคลียร์ข้อมูลขยะที่ไม่ได้ใช้ เพื่อให้มีพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลเพิ่มมากขึ้น, การสแกนไวรัส หรือการกำหนดสิทธิ์เข้าใช้งาน

 

สำหรับเว็บเบราว์เซอร์ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี และสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ บนเว็บไซต์ได้ครบถ้วน

 

สำหรับอัลบั้มภาพถ่ายนั้นสามารถแสดงภาพถ่ายได้หลักๆ 2 แบบ คือ แบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด กับแสดงแบบแยกอัลบั้ม

 

และมีแอปพลิเคชันสำหรับจัดการไฟล์ให้ใช้งาน และด้วยความที่มีหน่วยความจำภายในมากถึง 64 GB จึงสามารถใส่ภาพยนตร์, เพลง หรือซีรี่ส์หลายๆ ตอน เอาไว้ดูบน OPPO A83 2018 64GB ได้อย่างสบายๆ พร้อมทั้งสามารถใช้บริการฝากไฟล์สำหรับเก็บรายชื่อโทรศัพท์ หรือข้อความ SMS ผ่านทางฟังก์ชัน OPPO Cloud ได้

 

และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ บน OPPO A83 2018 64GB มีระบบสแกนใบหน้า (Facial Unlock) ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน โดยตัวฟังก์ชันจะทำการสแกนใบหน้าเพื่อเก็บรายละเอียดใบหน้าของผู้ใช้ ซึ่งมีประโยชน์ในการป้องกันผู้อื่นแอบอ้างเองภาพถ่ายของผู้ใช้มาทำการปลดล็อกเครื่อง ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่าสามารถปลดล็อกได้รวดเร็วทันใจ และแม่นยำ

 

อีกหนึ่งความน่าสนใจบน OPPO A83 2018 64GB ก็คือสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันการเร่งความเร็วฮาร์ดแวร์ให้ทำงานในประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้เล่นเกมได้อย่างไหลลื่น เนียนตามากยิ่งขึ้นได้

 

อีกหนึ่งฟังก์ชันที่มาพร้อมกับ OPPO A83 2018 64GB คือ ฟังก์ชัน Hold of distraction (ห้ามรบกวน) เมื่อมีสายเรียกเข้าผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะรับสายหรือไม่ ถ้าหากกดรับสาย ตัวฟังก์ชันก็จะเปิดลำโพงเสียงภายนอกให้ทันทีเพื่อสนทนากับอีกฝ่าย โดยที่หน้าจอไม่สลับไปเป็นฟังก์ชันโทรศัพท์ ซึ่งผู้ใช้ก็ยังสามารถเล่นเกมต่อได้ และสนทนาไปพร้อมๆ กัน

 

นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชัน Split-Screen สำหรับแบ่งหน้าจอ เพื่อให้ใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน ส่วนทางด้านโคลนนิ่งแอปพลิเคชันก็สามารถใช้งานได้บน OPPO A83 2018 64GB ด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้ใช้สามารถโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน Line, Facebook หรือ Instagram นั้นหมายว่าความว่าผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Line ได้ พร้อมๆ กัน ถึง 2 แอคเคานท์

 

OPPO A83 2018 64GB ยังรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้ ไม่ว่าจะเป็น เช่น เคาะที่หน้าจอแสดงผล 2 ครั้ง เพื่อปลุกการทำงานของเครื่อง, วาดตัว V เพื่อเปิดไฟฉาย และสามารถกำหนดรูปแบบการลากนิ้วแบบอื่นๆ เข้ากับการสั่งงานต่างๆ เพิ่มเติมได้เองอีกมากมาย

 

สามารถ เปิด-ปิด การสั่งงานด้วยนิ้วมือได้อีกหลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การใช้ 3 นิ้วเลื่อนขึ้น หรือลง เพื่อจับภาพหน้าจอ และการเปิดโหมดการใช้งานมือเดียวด้วยการใช้นิ้วเลื่อนจากมุมขวาล่าง หรือซ้ายล่าง ของหน้าจอ นอกจากนี้ ยังมีโหมดการโทรอัจฉริยะให้ใช้งานอีกด้วย

 

มีเซ็นเซอร์พื้นฐานติดตั้งมาให้อย่างครบครัน และมี Gyroscope Sensor ให้ใช้งาน

 

ทางด้านแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงก็มีให้ใช้งานบน OPPO A83 2018 64GB ด้วยเช่นกัน และสามารถเปิดใช้งานระบบเสียง Dirac ได้ โดยผู้ใช้สามารถสามารถปรับรูปแบบอีควอไลเซอร์ได้หลากหลาย เช่น Rock หรือ Pop (ระบบเสียง Dirac จะต้องใช้งานร่วมกับหูฟังเท่านั้น)

 

และสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น และสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างคมชัด

 

สำหรับ OPPO A83 2018 64GB มาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6763T Helio P23 ความเร็วในการประมวลผล 2.5 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกแบบ Mali-G71 MP2, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB, หน่วยความจำแรม ขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.2 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat)

 

ถึงแม้ว่าคุณสมบัติตัวเครื่องของ OPPO A83 2018 64GB นั้นจะจัดอยู่ในระดับกลาง แต่ก็สามารถตอบโจทย์การเล่นเกมที่มีกราฟิกสวยๆ อย่างเกม PUBG ได้อย่างไหลลื่น และไม่มีอาการหน่วง หรืออาการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องให้พบเจอ

 

และเมื่อนำ OPPO A83 2018 64GB มาทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ก็พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 79671 คะแนน ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน Geekbench 4 จะได้คะแนนอยู่ที่ 917 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 3891 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core

 

ส่วนการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark ก็จะได้คะแนนอยู่ที่ 5120 คะแนน

 

OPPO A83 2018 64GB นั้นสามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด

 

และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store

 

กล้องดิจิทัล ถ่ายภาพนิ่ง และถ่ายภาพวิดีโอ

สำหรับกล้องถ่ายภาพด้านหน้าของ OPPO A83 2018 64GB ก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ เอาใว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพปกติ หรือโหมดถ่ายภาพหน้าสวย

 

ซึ่งโหมดถ่ายภาพหน้าสวยของ OPPO A83 2018 64GB นั้นมาพร้อมกับเทคโนโลยี A.I. Beauty Recognition สำหรับเรียนรู้ลักษณะเฉพาะใบหน้าของตัวแบบ เพื่อนำมาปรับแต่งภาพถ่ายให้มีความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด อีกทั้งยังสามารถจำแนกเพศในการปรับแต่งได้อีกด้วย โดยผู้ใช้สามารถปรับค่าได้มากถึง 6 ระดับ

 

มีฟังก์ชัน Bokeh ให้ใช้งาน โดยตัวฟังก์ชันนั้นจะทำการปรับฉากหลังเบลอให้แบบอัตโนมัติ เรียกได้ว่า สะดวกสบายเป็นอย่างมาก

 

มีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพให้ใช้งานหลากหลายรูปแบบ

 

นอกจากนี้ ยังสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p) และมีโหมดถ่ายวิดีโอ Time-Lapse ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ ในขณะที่ถ่ายวิดีโอผู้ใช้สามารถปรับค่าผิวเนียนได้

 

สำหรับกล้องถ่ายภาพด้านหลังก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย พร้อมแสดงไอคอนฟังก์ชันเอาไว้ให้เลือกใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย เช่น ฟังก์ชัน HDR หรือการตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพปกติ, โหมดถ่ายภาพหน้าสวย หรือโหมดถ่ายภาพโปร

 

สำหรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยนั้นสามารถปรับค่าผิวเนียนได้ 6 ระดับ

 

ส่วนโหมดถ่ายภาพโปรจะสามารถตั้งค่าเพื่อถ่ายภาพได้หลายอย่างด้วยกัน เช่น การชดเชยแสง หรือการปรับค่า ISO นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถถ่ายภาพ พร้อมเก็บบันทึกภาพความละเอียด 50 ล้านพิกเซลได้ ผ่านฟังก์ชัน Ultra-HD ในโหมดถ่ายภาพโปรได้อีกด้วย

 

ส่วนเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

 

นอกจากนี้ ยังสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p) และมีโหมดถ่ายวิดีโอ Time-Lapse ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ ในขณะที่ถ่ายวิดีโอผู้ใช้สามารถปรับค่าผิวเนียนได้

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 13  ล้านพิกเซล ของ OPPO A83 2018 64GB


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 3


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 6


ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยโหมด Ultra-HD


ซึ่งเมื่อครอปภาพเฉพาะส่วน พร้อมขยาย 100% ก็จะเห็นได้ว่าภาพที่ได้ยังมีรายละเอียดคมชัด

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (AI Beauty Recognition) ของ OPPO A83 2018 64GB


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (AI Beauty Recognition) พร้อมปรับค่าผิวเนียนแบบอัตโนมัติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (AI Beauty Recognition) พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 3


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (AI Beauty Recognition) พร้อมปรับค่าระดับ 6


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (AI Beauty Recognition) พร้อมปรับค่าผิวเนียนแบบอัตโนมัติ และเปิดใช้งานฟังก์ชันโบเก้


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (AI Beauty Recognition) พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 3 และเปิดใช้งานฟังก์ชันโบเก้

 

สรุปผลการทดสอบของ OPPO A83 2018 64GB


นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่นเลยทีเดียว สำหรับ OPPO A83 2018 64GB (รุ่นแรม 4 GB + รอม 64 GB) ซึ่งจากการทดสอบ ก็พบว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีความสามารถที่หลากหลาย และสามารถตอบโจทย์การใช้งานในระดับกลางได้อย่างน่าพอใจเลยทีเดียว นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody บวกกับฝาหลังมีความโค้งมนเข้ารูปกับอุ้งมือ จึงทำให้ตัวเครื่องมีความสวยงาม และสามารถจับ หรือถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว แม้แต่มือเรียวเล็กของคุณสมภาพสตรี ก็สามารถถือใช้งานได้อย่างง่ายดาย

และนอกจากจะมีการออกแบบได้สวยงามลงตัวแล้ว ทางด้านกล้องถ่ายภาพก็ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างน่าประทับใจ เรียกได้ว่า เป็นจุดขายของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหน้าที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2 และมีฟังก์ชัน Screen Flash ที่สามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างคมชัด อีกทั้งยังทำงานร่วมกับเทคโนโลยี A.I. Beauty Recognition ได้เป็นอย่างดี สามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างเนียนตาดูเป็นธรรมชาติไม่แพ้สมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่ของค่าย นอกจากนี้ ยังมีลูกเล่นเพิ่มเติมอย่างฟังก์ชัน Bokeh สำหรับเบลอฉากหลังเพื่อให้ตัวแบบนั้นมีความโดดเด่นมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพได้สนุกสนานได้อีกด้วย

 

ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2 พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) และไฟแฟลช LED ก็สามารถตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กัน อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพ Ultra-HD สำหรับถ่ายภาพวิว หรือภาพบุคคล โดยภาพที่ได้จะมีความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล ซึ่งสามารถเอาไปปริ้นเป็นภาพขนาดใหญ่เอาไว้แขวนบนผนังบ้านได้โดยตัวภาพก็ยังมีรายละเอียดต่างๆ คมชัดเช่นเดิม

ทางด้านคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับราคาค่าตัว เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ TFT Full Screen Display ความละเอียด 1440x720 พิกเซล ขนาด 5.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9 พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass, รองรับฟังก์ชัน Split-Screen สำหรับแบ่งหน้าจอ เพื่อให้ใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน, รองรับการโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน, รองรับฟังก์ชันการถนอมสายตา (Blue Light Filter), รองรับฟังก์ชัน Hold of Distraction สำหรับเล่นเกม และสนทนาไปพร้อมๆ กัน, รองรับฟังก์ชันโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน, มีระบบสแกนใบหน้า (Facial Unlock), ถาดซิมการ์ดแบบ Triple-Slot Tray ซึ่งเป็น 3 ช่องอิสระ ที่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้พร้อมๆ กัน, รองรับการสนทนาผ่านระบบ VoLTE, รองรับเทคโนโลยีเสียง Real Original Sound และแบตเตอรี่ขนาด 3180 mAh พร้อมรองรับการเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานได้

สำหรับคุณสมบัติพื้นฐานของ OPPO A83 2018 64GB รุ่นนี้นั้นจัดอยู่ในระดับกลาง ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6763T Helio P23 ความเร็วในการประมวลผล 2.5 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกแบบ Mali-G71, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.2 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat) ซึ่งจากที่ทดสอบผ่านการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติอย่างเกม PUBG Mobile ก็พบว่า OPPO A83 2018 64GB สามารถตอบสนองต่อการเล่นเกม PUBG Mobile ได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ อีกทั้งยังไม่มีการสะสมความร้อนภายในตัวเครื่องอีกด้วย

 

และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านก็พอที่จะสรุปได้ว่า OPPO A83 2018 64GB น่าจะเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเซลฟี่เป็นพิเศษ ซึ่งกำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับกลางที่สามารถถ่ายภาพได้คมชัดทั้งกล้องด้านหน้า-กล้องด้านหลัง พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI, ดีไซน์สวย จับถนัดมือ, มีฟังก์ชันให้ใช้งานหลากหลาย และคุณสมบัติตัวเครื่องที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานต่างๆ ได้อย่างครบครัน ซึ่ง OPPO A83 2018 64GB ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

หากท่านใดที่สนใจก็สามารถหาซื้อ OPPO A83 2018 64GB ได้แล้วที่ OPPO Brand Shop หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ในราคา 6,990 บาท โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ Red กับ Blue ไม่เพียงเท่านั้น OPPO A83 2018 ยังได้มีวางจำหน่ายอีก 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ OPPO A83 2018 32GB (รุ่นแรม 3 GB + รอม 32 GB) ซึ่งปรับราคาลดเหลือเพียง 6,490 บาท โดยมีให้เลือก 2 สี คือ Champagne Gold, Black หรือ Blue และ OPPO A83 2018 16GB (รุ่นแรม 2 GB + รอม 16 GB) วางจำหน่ายในราคาเพียง 4,990 บาท โดยมีให้เลือก 2 สี คือ Champagne Gold กับ Red

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง OPPO ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง OPPO A83 2018 64GB มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

 

จุดเด่นของ OPPO A83 2018 64GB

- ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody และมีความบางเฉียบเพียง 7.7 มิลลิเมตร
- มีระบบจดจำใบหน้า (Facial Unlock) สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน
- จอแสดงผลแบบ TFT Full Screen Display Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1440x720 พิกเซล ขนาด 5.7  นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9 พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-G71
- รองรับฟังก์ชันถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้า 
- รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง
- รองรับฟังก์ชัน Split-Screen สำหรับแบ่งหน้าจอ เพื่อให้ใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน
- รองรับฟังก์ชัน Hold of Distraction สำหรับเล่นเกม และสนทนาไปพร้อมๆ กัน
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6763T Helio P23 ความเร็วในการประมวลผล 2.5 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.2 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 64 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash)
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus), ไฟแฟลช LED  และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับเทคโนโลยี A.I. Beauty Recognition, มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2, มีฟังก์ชัน Bokeh และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- ถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot Tray ซึ่งเป็น 3 ช่องอิสระ ที่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้พร้อมๆ กัน
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- รองรับเทคโนโลยีเสียง Real Original Sound (ผู้ใช้จะต้องเชื่อมต่อกับหูฟังเสียก่อนถึงจะสามารถเปิดใช้งานเทคโนโลยีนี้ได้)
- มีวิทยุ FM ในตัว 
- ชนิดแบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 3180 mAh พร้อมอะแดปเตอร์แบบ 5V/2A (10W) และรองรับการเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน
- ราคา 6,990 บาท

 

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPO A83 2018 64GB

- ตัวเครื่องเป็นพลาสติก ในขณะที่สมาร์ทโฟนในระดับราคาที่ใกล้เคียงกันบางรุ่นเป็นโลหะ
- เทคโนโลยีจอแสดงผลยังคงเป็นแบบ TFT ซึ่งอาจมีสีสัน และความสามารถของการใช้งานในที่กลางแจ้งเป็นรองเทคโนโลยีใหม่ๆ
- ไม่มีหูฟังแถมมาให้ในกล่อง
- ระบบปฏิบัติการพื้นฐานยังคงเป็น Android 7.1.1 Nougat (ยังไม่ใช่ Android 8.0 Oreo)

 

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

 

 

 

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ ThA.I.mobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::

 

 

 


 












 รีวิว OPPO A5x | Enco Buds3
สมาร์ตโฟนแบตอึด 6000 mAh พร้อมชาร์จไว 45W SUPERVOOC บนบอดี้สวยแกร่ง ในราคาไม่ถึง 4 พัน และ OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สายตัวคุ้ม

[รายละเอียด]
 รีวิว Alldocube iPlay60 Pad Pro
แท็บเล็ตจอใหญ่ 12.1 นิ้ว โทรได้ พร้อมคีย์บอร์ด ปากกา และรองรับ PC Mode ครบจบในเครื่องเดียว ในราคาไม่ถึง 9 พันบาท

[รายละเอียด]
 รีวิว OPPO Find N5
สมาร์ตโฟนจอพับบางที่สุดในโลก พร้อมกล้อง Hasselblad 3x Optical Zoom ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite พลังชาร์จไว 80W และฟีเจอร์ AI ใหม่ล่าสุด

[รายละเอียด]
 รีวิว POCO F7 Pro | F7 Ultra
สมาร์ตโฟนทรงพลังที่สุดของค่าย แรงระดับเรือธง ฟีเจอร์ AI พร้อมใช้ ในราคาแค่ครึ่งเดียว เริ่มเพียง 15,990 บาท

[รายละเอียด]
 รีวิว Xiaomi 15 | Xiaomi 15 Ultra
เรือธงกล้อง Leica ที่น่าจับจองกว่าเดิม เพิ่มกล้อง 200MP ใหม่ซูมได้ 120x พร้อมฟีเจอร์ AI จัดเต็ม

[รายละเอียด]
 รีวิว Alldocube iPlay 50 mini
แท็บเล็ตไซส์มินิสุดคุ้ม โทรได้ มี GPS พร้อมฟีเจอร์ตอบโจทย์คนชอบดูหนัง และอ่าน e-Book ในราคาประหยัดเพียง 3,990 บาท

[รายละเอียด]
รายการรีวิวมือถือทั้งหมด








วางจำหน่ายแล้ว OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สาย แบตอึด 48 ชม. น้ำหนัก 3.8 กรัม ราคา 799 บาท
วางจำหน่ายแล้ว OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สาย แบตอึด 48 ชม. น้ำหนัก  
วางจำหน่ายแล้ว หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ “OPPO Enco Buds3” พร้อมมอบการใช้งานที่ดื่มดำเต็มอรรถรสได้ตลอดวัน ในราค
realme Neo7 Turbo เตรียมเปิดตัวที่จีน 29 พฤษภาคมนี้ พร้อมดีไซน์ฝาหลังใสและชิป Dimensity 9400e
realme Neo7 Turbo เตรียมเปิดตัวที่จีน 29 พฤษภาคมนี้ พร้อมดีไซน์ฝา 
realme Neo7 Turbo สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดเตรียมเปิดตัวในประเทศจีนวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ โดยล่าสุดได้เผยภาพเ
iPhone 7 Plus และ iPhone 8 ถูกจัดเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า (Vintage) แล้ววันนี้
iPhone 7 Plus และ iPhone 8 ถูกจัดเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า (Vintage)  
Apple ได้อัปเดตรายการผลิตภัณฑ์เก่า (Vintage) และผลิตภัณฑ์ล้าสมัย (Obsolete) อีกครั้งในวันนี้ โดยมีการเปลี
เทคนิคตั้งค่ากล้องมือถือให้ถ่ายสวยระดับโปร ทำอย่างไรไปดู!
เทคนิคตั้งค่ากล้องมือถือให้ถ่ายสวยระดับโปร ทำอย่างไรไปดู! 
ในปัจจุบันกล้องถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนได้รับการอัปเกรดให้ล้ำกว่าแต่ก่อนมาก ไม่ว่าจะเป็นจำนวนกล้องที่มากขึ้น,
AirPods หายข้างเดียวทำไงดี ซื้อใหม่ข้างเดียวได้ไหม?
AirPods หายข้างเดียวทำไงดี ซื้อใหม่ข้างเดียวได้ไหม? 
ฝันร้ายของคนที่ใช้ AirPods คงจะหนีไม่พ้นการที่หูฟังหาย ซึ่งเท่าที่เคยพบเจอมาส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้หายทั้งเค
มือถือราคาไม่เกิน 10,000 ปี 2025 อัปเดตล่าสุดเดือน มี.ค. 2025 มีรุ่นไหนบ้างไปดู!
มือถือราคาไม่เกิน 10,000 ปี 2025 อัปเดตล่าสุดเดือน มี.ค. 2025 มีร 
ปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีหลายรุ่นหลายราคาให้เลือกสรรกันตามกำลังทรัพย์ โดยรุ่นที่มักจะเป็นที่ต้องการอยู่เสมอคือร
มือถือเล่นเกมราคาไม่เกิน 10,000 บาท สเปกคุ้มค่า อัปเดตราคาล่าสุด ก.พ. 2025
มือถือเล่นเกมราคาไม่เกิน 10,000 บาท สเปกคุ้มค่า อัปเดตราคาล่าสุด  
สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง หรือมือถือเล่นเกมยังคงได้รับความสนใจอยู่เสมอ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีราคาไม่เกิน 10,000 บาท สำ
Samsung เปิดตัว Galaxy S25 Series ในไทย โชว์พลัง Galaxy AI ผ่านงานดนตรีสุดล้ำ ในงาน Here AI am Music Fest
Samsung เปิดตัว Galaxy S25 Series ในไทย โชว์พลัง Galaxy AI ผ่านงา 
ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S25 Series สุดยิ่งใหญ่ในไทย โชว์ความเก่ง Galaxy AI ผู้ช่วยส่วนตัวคนใหม่ ผ่านงานดนตร
HMD Skyline วางขายในไทยแล้ววันนี้ในราคา 14,990 บาท มากับชิป Snapdragon 7s Gen 2, จอ 144Hz, ชาร์จไร้สาย และกล้องซูม
HMD Skyline วางขายในไทยแล้ววันนี้ในราคา 14,990 บาท มากับชิป Snapd 
HMD Skyline สมาร์ทโฟนผู้สืบทอดทางจิตวิญญาณของ Nokia Lumia ในตำนานเปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยเรียบร้อย
อินฟินิกซ์ โปรกลางเดือน สมาร์ทโฟนรุ่นฮิต สเปคเทพ ราคาพิเศษ ส่วนลดจัดเต็ม [สิงหาคม 2024]
อินฟินิกซ์ โปรกลางเดือน สมาร์ทโฟนรุ่นฮิต สเปคเทพ ราคาพิเศษ ส่วนลด 
อินฟินิกซ์ อัดโปรฯ แรงกลางเดือน ขนสมาร์ทโฟนรุ่นฮิต สเปคเทพ ราคาโดน มาให้เลือกช้อป พร้อมส่วนลดจัดเต็มอีกเพ
รายการอัพเดททั้งหมด



ราคามือถือ อัพเดทล่าสุด !!


OPPO Reno13 5G 16,999 บาท ราคาลดลง 1,000 บาท จากราคาเดิม 17,999  บาท
Samsung Galaxy S25+ 34,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 36,900  บาท
Samsung Galaxy S25 27,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 29,900  บาท
Samsung Galaxy S25 Ultra 44,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 46,900  บาท
Samsung Galaxy S24 FE 17,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 19,900  บาท
OPPO Find N5 69,999 บาท
iPhone 13 128GB 15,900 บาท
iPhone 15 20,900 บาท ราคาลดลง 6,000 บาท จากราคาเดิม 26,900  บาท
OPPO Reno13 F 5G 12,999 บาท
Samsung Galaxy Z Fold6 58,900 บาท
Samsung Galaxy Z Flip6 34,900 บาท
POCO F6 Pro 13,490 บาท ราคาลดลง 2,500 บาท จากราคาเดิม 15,990  บาท
Samsung Galaxy A05s 4,499 บาท ราคาลดลง 500 บาท จากราคาเดิม 4,999  บาท
iPhone 15 Pro Max 39,500 บาท ราคาลดลง 7,400 บาท จากราคาเดิม 46,900  บาท
iPhone 15 Pro 35,400 บาท ราคาลดลง 3,100 บาท จากราคาเดิม 38,500  บาท
iPhone 15 Plus 29,900 บาท ราคาลดลง 3,300 บาท จากราคาเดิม 33,200  บาท
Redmi Pad SE 4,999 บาท
Samsung Galaxy Tab S9+ 35,900 บาท
vivo Y27 5G 6,999 บาท
รายการ ราคามือถือ ทั้งหมด



อัพเดท ข่าวสารล่าสุด (New update)

Xbox ปล่อย Copilot for Gaming (Beta) บนอุปกรณ์มือถือ พร้อมรองรับทั้ง iOS และ Android ผู้ช่วยเกมเมอร์อัจฉริยะ
Xbox ปล่อย Copilot for Gaming (Beta) บนอุปกรณ์มือถือ พร้อมรอ 
Xbox เปิดให้เหล่าเกมเมอร์ได้ทดลองใช้งานฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด Copilot for Gaming (Beta) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกร
LINE อัปเดตฟีเจอร์ “รีแอคชั่น” ใหม่! เพิ่มสีสันให้การแชทผ่านการส่งรีแอคชั่นข้อความด้วย LINE Emoji ได้ทุกรูปแบบแล้ววันนี้
LINE อัปเดตฟีเจอร์ “รีแอคชั่น” ใหม่! เพิ่มสีสันให้การแชทผ่าน 
LINE อัปเดตฟีเจอร์ “รีแอคชั่น” ใหม่ ผู้ใช้งานทุกท่านสามารถเลือกใช้ LINE Emoji ทุกรูปแบบในการส่งรีแอคชั่นต
MAHAJAK สบายใจ สบายจ่าย ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน อยู่ที่ไหนก็ผ่อนได้ กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
MAHAJAK สบายใจ สบายจ่าย ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน อยู่ที่ไห 
มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จัดให้กับโปรโมชันผ่อนได้นานสูงสุดถึง 10 เดือน พร้อมให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของเครื่องเสียง
Samsung เปิดตัวทีวี AI รุ่นใหม่ การันตีอัปเดต OS ฟรี 7 ปี พร้อมรับโปรพิเศษ 7 ต่อ
Samsung เปิดตัวทีวี AI รุ่นใหม่ การันตีอัปเดต OS ฟรี 7 ปี พร 
ซัมซุง มอบความมั่นใจให้ลูกค้า การันตีอัปเดต OS ฟรีนาน 7 ปี บนไลน์อัปทีวี AI รุ่นใหม่
Xiaomi รายได้พุ่งทะลุ 111.3 พันล้านหยวน ไตรมาสแรกปี 2025 กำไรโต 64.5%
Xiaomi รายได้พุ่งทะลุ 111.3 พันล้านหยวน ไตรมาสแรกปี 2025 กำไ 
เสียวหมี่ทำรายรับทะลุ 111.3 พันล้านหยวนในไตรมาสแรกของปี 2568 ซึ่งทำยอดทะลุ 1 แสนล้านหยวนเป็นไตรมาสที่สองต
รายการอัพเดททั้งหมด


    Catalog มือถือ     market     Review มือถือ      ราคามือถือ     forum
Catalog มือถือ
Catalog มือถือ Nokia
Catalog มือถือ Samsung
Catalog มือถือ SonyEricsson
Catalog มือถือ i-mobile
Catalog มือถือ LG
Catalog มือถือ BlackBerry
ลงประกาศสินค้ามือถือ
สมัครสมาชิก
หน้าแรกตลาดซื้อขายมือถือ
 
หน้าแรกรีวิว
รีวิว มือถือ Nokia
รีวิว มือถือ Samsung
รีวิว มือถือ Motorola
รีวิว มือถือ LG
 

ราคามือถือ Samsung
ราคามือถือ iPhone
ราคามือถือ Huawei
ราคามือถือ OPPO
ราคามือถือ Vivo
   
   
หน้าแรก cafe
Nokia club
ตั้งหัวข้อใหม่
 

© Copyright all rights reserved : ThaiMobileCenter.com