รีวิว (Review) nubia N1
สมาร์ทโฟนพันธุ์อึดสุดคุ้มใหม่ล่าสุด ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh พร้อมกล้องกระจก Sapphire 13 ล้านพิกเซล ทั้งด้านหน้าด้านหลัง, จอ LTPS Full HD 2.5D Gorilla Glass 3 ใหญ่เต็มตา 5.5 นิ้ว, ชิปเซ็ต Helio P10, RAM 3 GB, ROM 32 GB, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และระบบเสียง DTS Sound บนบอดี้โลหะสุดแกร่ง ในราคาเพียง 5,490 บาท
Review
Date (26-ธันวาคม-2559)

สวัสดีครับ พบกันอีกครั้งกับการรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นเด็ดโดยทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ ซึ่งในช่วงระยะเวลา 2-3 ปี ที่ผ่านมานั้นจะเห็นได้ว่าทางบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดังจากประเทศจีนได้หันเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการหลากหลายแบรนด์ด้วยกัน และล่าสุด คือ สมาร์ทโฟนจากแบรนด์ nubia ที่ได้เข้ามาประเดิมตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนถึง 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ nubia Z11 และ Z11 Special Gold Black (รุ่นสีพิเศษ), nubia Z11 Max, nubia Z11 Mini และ nubia N1 ไปเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา โดยทั้ง 4 รุ่น ต่างมาพร้อมกับคุณสมบัติตัวเครื่องแบบจัดเต็ม ในราคาที่คุ้มค่า และพร้อมตอบโจทย์ผู้ใช้งานในทุกระดับ
ซึ่งการรีวิวในครั้งนี้จะมาเริ่มกันที่รุ่นเล็กอย่าง nubia N1 สมาร์ทโฟนพันธุ์อึดสุดคุ้มใหม่ล่าสุด โดยจุดขายของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้นั้นจะมีอยู่หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 5000 mAh พร้อมเทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่มีชื่อว่า NeoPower ซึ่งช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน, เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Metal-Unibody, หน้าจอแสดงผลแบบ LTPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass 3, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที, รองรับการใช้งานได้พร้อมกันสองแอปพลิเคชัน และรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้
ทางด้านคุณสมบัติพื้นฐาน ก็ถือว่าครบเครื่องพอตัว และสามารถตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เริ่มตั้งแต่ ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek Helio P10 ความเร็วในการประมวลผล 1.8 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T860, หน่วยความจำแรมขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB พร้อมรองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดที่ 128 GB, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับการใช้งานฟังก์ชัน VoLTE และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย nubia UI 4.0
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายสำคัญของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ โดยกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีมุมกว้าง 80 องศา, โครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์, กระจกชั้นนอกแบบ Sapphire Glass สำหรับป้องกันรอยขีดข่วนของเลนส์, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.2 พร้อมรองรับฟังก์ชันใช้แสงสว่างจากหน้าจอทำหน้าที่เป็นไฟแฟลช, กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์, กระจกชั้นนอกแบบ Sapphire Glass สำหรับป้องกันรอยขีดข่วนของเลนส์, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.2, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Auto Focus) ที่สามารถโฟกัสภาพได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที พร้อมไฟแฟลช LED
สำหรับ nubia N1 นั้นวางจำหน่ายในราคาสุดคุ้มเพียง 5,490 บาท เท่านั้น! และจากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า nubia N1 นั้นมีความน่าสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคา ทั้งในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ กับเทคโนโลยีการผลิต, คุณสมบัติตัวเครื่องที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ และกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงทั้งด้านหน้าด้านหลัง ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร, ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน, กล้องถ่ายภาพสามารถถ่ายภาพได้คมชัดเพียงใด และมีฟีเจอร์อะไรให้ใช้งานกันบ้าง ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว nubia N1 พร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

nubia มาในกล่องแพ็กเกจสีขาว

ซึ่งภายในกล่องนั้นมีอุปกรณ์มาให้ใช้งานหลายอย่าง ได้แก่ คู่มือการใช้งาน, Adapter และสายเชื่อมต่อยุคใหม่แบบ USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล

nubia N1 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ LTPS IPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass 3 โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 150.9x75x8.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 190 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีมุมกว้าง 80 องศา, โครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์, กระจกชั้นนอกแบบ Sapphire Glass สำหรับป้องกันรอยขีดข่วนของเลนส์, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.2 พร้อมรองรับฟังก์ชันใช้แสงสว่างจากหน้าจอทำหน้าที่เป็นไฟแฟลช, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส (Touch Panel) ได้แก่ ปุ่มเมนู, ปุ่มโฮม พร้อมสัญญาณไฟ LED สำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ และปุ่มย้อนกลับ

ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนขณะบันทึกเสียง หรือบันทึกวิดีโอ และช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างของตัวเครื่องมีลำโพงเสียงภายนอก, ช่องเชื่อมต่อยุคใหม่แบบ USB Type-C และไมโครโฟน

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ, ปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง


ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่งรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด โดยในช่องที่ 2 จะต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ดที่ 2 หรือการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ไม่สามารถใช้งานพร้อมกันได้


ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์, กระจกชั้นนอกแบบ Sapphire Glass สำหรับป้องกันรอยขีดข่วนของเลนส์, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.2, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Auto Focus) ที่สามารถโฟกัสภาพได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที พร้อมไฟแฟลช LED และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที สำหรับตัวเครื่อง nubia N1 ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องสวยงามดูเรียบหรู และมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ ไม่เพียงเท่านั้น nubia N1 ยังมีแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh พร้อมเทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่มีชื่อว่า NeoPower ซึ่งช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
 
nubia N1 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย nubia UI 4.0 โดยสามารถรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้ และสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน VoLTE ได้อีกด้วย
 
nubia N1 มีหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB พร้อมด้วยหน่วยความจำภายในขนาด 32 GB
 
นอกจากนี้ nubia N1 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันสำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ และยังสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ลัดได้อีกด้วย เช่น บลูทูธ, GPS, การใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือเปิดโหมดการใช้งานบนเครื่องบิน
 
ทางด้านบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานอย่างครบครัน
 
ในส่วนของฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย พร้อมด้วยปุ่มตัวเลขขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยให้สามารถกดหมายเลขที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถเข้าดูรายชื่อทั้งหมดได้ทันทีอีกด้วย
 
nubia N1 นั้นสามารถตกแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ทีหน้าจอโฮมสกรีน และยังสามารถจัดเรียงแอปพลิเคชันได้ตามความต้องการอีกด้วย
 
อีกหนึ่งความพิเศษบน nubia N1 คือ สามารถถ่ายภาพหน้าจอได้ 3 แบบ ได้แก่ ถ่ายภาพหน้าจอแบบยาว, ถ่ายภาพหน้าจอแบบอิสระ และสามารถบันทึกวิดีโอบนหน้าจอได้อีกด้วย
 
นอกจากนี้ nubia N1 ยังสามารถแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานสองแอปพลิเคชันพร้อมกันได้อีกด้วย ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งแบบแนวตั้ง และแนวนอน โดยผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันนี้ด้วยการ Swip จากขอบด้านล่างของหน้าจอขึ้นด้านบน
 
nubia N1 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Dual instance สำหรับโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน เช่น โคลนนิ่งแอปพลิเคชัน Facebook ซึ่งผู้ใช้งานสามารถล็อกอินเข้าใช้งาน Facebook ได้พร้อมๆ กันถึง 2 แอ็คเค้าท์ บน nubia N1 (สามารถโคลนนิ่งได้เฉพาะบางแอปพลิเคชันเท่านั้น)
 
และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ nubia ยังรองรับการสั่งงานที่ขอบหน้าจอได้ (Edge gestures) ไม่ว่าจะเป็น การแตะที่ขอบจอเพื่อเปลี่ยนหน้าเดสก์ทอป, สไลด์ขอบหน้าจอจากบนลงล่างเพื่อเปลี่ยนแอปพลิเคชัน, สไลด์เร็วๆ แบบบนล่างที่ขอบหน้าเพื่อเคลียร์แอปพลิเคชัน, สไลด์ขึ้น หรือลงที่ขอบจอทั้งสองข้างพร้อมๆ กันเพื่อปรับความสว่างของหน้าจอ และดับเบิ้ลคลิกที่ขอบหน้าจอ เพื่อย้อนกลับ
 
nubia N1 ยังสามารถรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้ ไม่ว่าจะเป็น การดับเบิ้ลคลิกที่หน้าจอเพื่อปลุกการทำงานของเครื่อง, การใช่ฝ่ามือมาปิดที่หน้าจอเพื่อสั่งงานล็อกหน้าจอ, ลากสามนิ้วเพื่อถ่ายภาพหน้าจอ และใช้สามนิ้วสไลด์ไปทางซ้าย หรือขวา เพื่อเปลี่ยนการใช้งานแอปพลิเคชัน

อีกทั้งยังมีการสั่งงานอัจฉริยะให้ใช้งานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การยกเครื่องแนบใบหูเพื่อโทรออก (ต้องเปิดหน้ารายชื่อโทรศัพท์ของบุคคลที่ต้องการติดต่อ) หรือรับสายได้ทันที, การพลิกคว่ำตัวเครื่องเพื่อปิดเสียง และการเขย่าตัวเครื่องเพื่อเคลียร์หน่วยความจำแรม

นอกจากนี้ ยังสามารถสลับตำแหน่งปุ่มการสั่งงานได้อีกด้วย
 
และยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้ โดยผู้ใช้งานสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ อีกทั้งยังสามารถใช้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในการสั่งงานถ่ายภาพ หรือปลดล็อกหน้าจอได้อีกด้วย
 
สำหรับเว็บเบราว์เซอร์ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี พร้อมทั้งสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ครบ และไม่มีอาการหน่วงให้พบเจอ
 
นอกจากนี้ nubia ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง พร้อมทั้งยังสามารถเปิดใช้งานระบบเสียง DTS Sound ได้อีกด้วย

ทางด้านแอปพลิเคชันสำหรับฟังวิทยุก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

และสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ
 
nubia N1 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek Helio P10 ความเร็วในการประมวลผล 1.8 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T860, หน่วยความจำแรมขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย nubia UI 4.0

ด้วยคุณสมบัติตัวเครื่องที่จัดอยู่ในระดับที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้ครบทุกรูปแบบ จึงทำให้ nubia N1 สามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้อย่างไหลลื่น และไม่มีอาการหน่วงให้พบเจอ
 
และเมื่อนำ nubia N1 มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benckmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 47232 คะแนน

ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 7229 คะแนน

nubia N1 สามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด
 
และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store
กล้องดิจิทัล ถ่ายภาพนิ่ง และถ่ายภาพวิดีโอ
 
สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพบน nubia N1 นั้นมีหน้าตาที่ใช้งานง่าย อีกทั้งยังทำการแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพการวาดแสง, โหมดถ่ายภาพโปร, โหมดถ่ายภาพ Time-Lapse หรือโหมดถ่ายภาพดวงดาว
 
สำหรับโหมดถ่ายภาพโปรนั้นสามารถปรับค่าเพื่อถ่ายภาพได้หลากหลาย เช่น การปรับค่ารูรับแสง, การชดเชยแสง หรือการเลือกจุดโฟกัส
 
และยังมีเอฟเฟกต์ให้เลือกใช้งานหลากหลาย และสามารถเปิดใช้งานไฟแฟลช LED หรือโหมดถ่ายภาพ HDR ได้อีกด้วย
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่ากล้องถ่ายภาพได้ ไม่ว่าจะเป็น ตาราง 9 ช่อง, ระบบตรวจจับใบหน้า, การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, เสียงชัตเตอร์, สัดส่วนของภาพถ่าย หรือการสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ
 
และยังสามารถตั้งค่าเพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานกระจกเงาสะท้อน, กล้องดิจิทัลด้านหน้าสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p), กล้องดิจิทัลด้านหลังสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p) และสามารถเพิ่มความสามารถให้กับปุ่มลดระดับเสียงให้เป็นชัตเตอร์ถ่ายภาพได้
 
ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้ใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพปกติ หรือโหมดถ่ายภาพหน้าสวย
 
โดยโหมดถ่ายภาพหน้าสวยนั้นสามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 10 ระดับ
 
และยังมีเอฟเฟกต์ให้เลือกใช้งานหลากหลาย หรือสามารถเปิดใช้งานแสงสว่างจากหน้าจอแทนไฟแฟลช และสามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่ากล้องถ่ายภาพได้ ไม่ว่าจะเป็น ตาราง 9 ช่อง, ระบบตรวจจับใบหน้า, การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, การเปิด-ปิด เสียงชัตเตอร์, การปรับสัดส่วนของภาพถ่าย หรือการสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, ระบบตรวจจับรอยยิ้ม และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ nubia N1

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ Slow Shutter พร้อมปรับความเร็วชัตเตอร์ที่ 20 วินาที

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ Light Painting
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวยของ nubia N1
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 5
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 10
 
ภาพซ้ายถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ ส่วนภาพขวาถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ พร้อมเปิดใช้งานแสงสว่างจากหน้าจอแทนไฟแฟลช จะเห็นได้ว่าภาพถ่ายทางขวามีความสว่าง และสีสันที่เป็นธรรมชาติมากกว่า
 
ภาพซ้ายถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ ส่วนภาพขวาถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ พร้อมเปิดใช้งานแสงสว่างจากหน้าจอแทนไฟแฟลช จะเห็นได้ว่าภาพถ่ายทางขวามีความสว่าง และสีสันที่เป็นธรรมชาติมากกว่า
สรุปผลการทดสอบของ nubia N1

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟนพันธุ์อึดสุดคุ้มใหม่ล่าสุดอย่าง nubia N1 สำหรับการออกแบบดีไซน์นั้น เรียกได้ว่า มีความสวยงามลงตัวไม่น้อย อีกทั้งตัวเครื่องยังมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ เนื่องด้วยใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Unibody นอกจากนี้ ตรงมุมทั้งสี่ด้านยังมีความโค้งมน บวกกับพื้นผิวด้านที่ด้านหลังของตัวเครื่อง จึงช่วยให้สามารถจับ หรือถือใช้งานได้ได้อย่างคล่องตัว
ทางด้านจุดเด่นสำคัญของ nubia N1 ก็สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเป็นอย่างมาก เริ่มตั้งแต่ แบตเตอรี่สุดอึดที่มีขนาดใหญ่ถึง 5000 mAh พร้อมเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานที่มีชื่อว่า NeoPower ซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานตลอดทั้งวัน, หน้าจอแสดงผลแบบ LTPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass 3, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที, รองรับการใช้งานได้พร้อมกันสองแอปพลิเคชัน และรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้
สำหรับกล้องถ่ายภาพก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายสำคัญของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ โดยกล้องดิจิทัลด้านหน้านั้นมีความละเอียดมากถึง 13 ล้านพิกเซล ซึ่งมีมุมมองกว้าง 80 องศา พร้อมโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์, กระจกชั้นนอกแบบ Sapphire Glass สำหรับป้องกันรอยขีดข่วนของเลนส์, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.2 พร้อมรองรับฟังก์ชันใช้แสงสว่างจากหน้าจอทำหน้าที่เป็นไฟแฟลช ซึ่งจากการทดสอบพบว่าภาพถ่ายที่ได้จากกล้องดิจิทัลด้านหน้านั้นมีความสวยคมชัด และสามารถถ่ายภาพพร้อมๆ กับกลุ่มเพื่อน หรือครอบครัวโดยไม่ต้องกลัวหลุดเฟรมอีกด้วย นอกจากนี้ กล้องดิจิทัลด้านหน้ายังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวย ที่สามารถปรับค่าผิวเนียนได้ 10 ระดับ ให้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเซลฟี่เป็นอย่างมาก
ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล นั้นมีโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ พร้อมกระจกชั้นนอกแบบ Sapphire Glass สำหรับป้องกันรอยขีดข่วนของเลนส์, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.2, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Auto Focus) ที่สามารถโฟกัสภาพได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที และไฟแฟลช LED ก็ตอบสนองต่อการถ่ายภาพได้ดีในทุกสภาวะแสง และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ มีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น Slow Shutter หรือ Light Painting ซึ่งโหมดถ่ายภาพเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การถ่ายภาพแบบใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
ส่วนประสิทธิภาพการประมวลผลนั้นก็ถือว่าสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มที่ครบทุกรูปแบบ เริ่มตั้งแต่ ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek Helio P10 ความเร็วในการประมวลผล 1.8 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T860, หน่วยความจำแรมขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับการใช้งานฟังก์ชัน VoLTE และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย nubia UI 4.0 ซึ่งจากการทดสอบด้วยการถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) หรือเล่นเกมที่มีกราฟิกสามมิติแบบต่อเนื่อง ก็พบว่า nubia N1 ยังสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ และไม่มีการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องอีกด้วย
และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า nubia N1 น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนสุดคุ้มราคาย่อมเยา ที่มาพร้อมแบตเตอรี่สุดอึดที่สามารถใช้งานได้ตลอดวัน, บอดี้โลหะ, วัสดุแข็งแรงทนทาน, จอใหญ่คมชัด, มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, ถ่ายภาพสวยคมชัดทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง, มีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย และมีราคาที่เอื้อมถึงได้ไม่ยาก ซึ่ง nubia N1 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม โดย nubia N1 มีราคาอยู่ที่ 5,490 บาท เท่านั้น! ซึ่งถ้าหากเทียบกับคุณสมบัติระดับนี้ ก็ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับท่านใดที่สนใจ nubia N1 ก็สามารถสั่งซื้อได้ผ่านทั้งช่องทางออนไลน์ที่ nubia Store (Thailand) สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง nubia ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง nubia N1 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสถัดไป สวัสดีครับ
จุดเด่นของ nubia N1
- ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องมีความสวยงามลงตัวเป็นอย่างมาก และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านข้างของตัวเครื่อง สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน ซึ่งสามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T860
- ครอบทับด้วยกระจกหน้าจอขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass 3
- รองรับเปิดใช้งานได้พร้อมกัน 2 หน้าต่าง จึงช่วยให้สามารถใช้ 2 แอปพลิเคชันได้พร้อมๆ กัน
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek Helio P10 ความเร็วในการประมวลผล 1.8 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย nubia UI 4.0
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ พร้อมกระจกชั้นนอกแบบ Sapphire Glass สำหรับป้องกันรอยขีดข่วนของเลนส์, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.2, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Auto Focus) ที่สามารถโฟกัสภาพได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที, ไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งมีมุมมองกว้าง 80 องศา, โครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ พร้อมกระจกชั้นนอกแบบ Sapphire Glass สำหรับตัวป้องกันรอยขีดข่วนของเลนส์, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.2, รองรับฟังก์ชันใช้แสงสว่างจากหน้าจอทำหน้าที่เป็นไฟแฟลช และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- รองรับการใช้งานฟังก์ชัน VoLTE
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- ชนิดแบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 5000 mAh พร้อมเทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่มีชื่อว่า NeoPower
- รองรับระบบเสียง DTS Sound
- ราคา 5,490 บาท และสามารถสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ nubia Store (Thailand)
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ nubia N1
- เนื่องจากตัวเครื่องเป็นดีไซน์แบบไม่มีฝาหลัง จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยตนเองได้
- ในช่องซิมการ์ดที่ 2 จะต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ดที่ 2 หรือเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ไม่สามารถใช้งานพร้อมกันได้
- ในขณะนี้สามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ได้เพียงช่องทางเดียว คือ nubia Store (Thailand)
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
title="Sony Xperia ZL Specification">

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|