วีดีโอรีวิว (Video Review) Nokia XL Dual SIM
สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ไซส์ใหญ่จาก โนเกีย ในสไตล์ที่แตกต่าง พร้อมจอชัดแจ่มเต็มตาขนาด 5 นิ้ว
Review
Date (8-สิงหาคม-2557)

สวัสดีครับ หลังจากที่ทีมงานของเราได้นำ Nokia X Dual SIM มารีวิวให้ชมกันไปแล้วก่อนหน้านี้ เพื่อไม่ให้ขาดตอนเราจึงนำสมาร์ทโฟนสายพันธุ์แอนดรอยด์จาก โนเกีย อีกรุ่น มารีวิวให้ชมกันครับ นั่นก็คือ Nokia XL Dual SIM ซึ่งถือเป็นรุ่นที่มีจุดเด่นในเรื่องของขนาดหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่ที่สุดในตระกูล Nokia X ดังนั้นหากใครอยากได้สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Nokia X Software Platform ที่แสดงผลได้ชัดเจนเต็มตา Nokia XL รุ่นนี้ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งครับ
วีดีโอรีวิว (Video Review) Nokia XL Dual SIM
รูปลักษณ์ภายนอก และการออกแบบดีไซน์ของ Nokia XL Dual SIM


การออกแบบดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกของ Nokia XL นั้น ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Nokia ตระกูล Asha และ Lumia นั่นเองครับ โดยฝาหลังจะทำมาจากโพลีคาร์บอเนตที่มีพื้นผิวแบบด้าน ตัวเครื่องมีความหนาอยู่ที่ 10.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 190 กรัม ดังนั้นเมื่อจับถือก็จะรู้สึกเต็มไม้เต็มมือ และหนักพอสมควรครับ


ขนาดของ Nokia XL เมื่อเทียบกับ Nokia X ก็จะใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัดนะครับ ด้วยขนาดของหน้าจอที่ต่างกันมากคือ 5 นิ้ว กับ 4 นิ้ว และเมื่อพลิกดูที่ด้านหลัง ในฝั่งของ Nokia XL จะมีไฟแฟลช LED ติดมาให้ด้วย และมีลำโพงเสียงที่ใหญ่กว่าครับ

ที่ด้านหน้าของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยกล้องดิจิตอลความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, ลำโพงหูฟังสำหรับการสนทนา, Ambient Light Sensor และ Proximity Sensor

หน้าจอแบบ IPS LCD ขนาด 5.0 นิ้ว ความละเอียดระดับ WVGA ซึ่งถือเป็นหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดในตระกูล Nokia X

และที่ด้านล่างของหน้าจอก็จะมีเพียงปุ่มย้อนกลับเพียงปุ่มเดียวครับ

ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีอะไรนอกจากพื้นผิวเรียบๆ

ที่ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อคหน้าจอ

ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ที่ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีช่อง microUSB สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ หรือเชื่อมต่อข้อมูล

ที่ด้านหลังของตัวเครื่องจะมีกล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมกับไฟแฟลชแบบ LED ในตัว

ส่วนที่บริเวณด้านล่างจะมีลำโพงเสียง


การแกะฝาหลังก็ไม่ยากครับ เพียงแค่ออกแรงดันที่บริเวณมุมตัวเครื่อง แล้วค่อยๆ ดึงฝาออกมาแบบนี้

ฝาหลังของ Nokia XL จะทำมาจากโพลีคาร์บอเนต ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน และมีความยืดหยุ่นสูงครับ

แบตเตอรี่ที่ใช้จะเป็นแบบ Li-ion รุ่น BN-02 ซึ่งมีความจุ 2,000 mAh

ซิมการ์ดที่ 1 จะสามารถใช้งานได้ทั้งระบบ 2G และ 3G แต่ซิมการ์ดที่ 2 จะใช้งานได้เพียงแค่ระบบ 2G เท่านั้น ส่วนช่อง microSD นี้ จะสามารถใส่การ์ด microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 32 GB ครับ
ฟีเจอร์ และฟังก์ชันต่างๆ ที่น่าสนใจบน Nokia XL Dual SIM

สำหรับ Nokia XL เครื่องนี้ ได้รับการอัพเดทเป็น Nokia X Software Platform เวอร์ชัน 1.2 เรียบร้อยแล้วครับ ซึ่งมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นหลายจุดเลยทีเดียว

Nokia XL จะประมวลผลด้วยซีพียู Dual-Core Cortex-A5 ความเร็ว 1 GHz, มีหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 203, พัฒนาอยู่บนพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 Jelly Bean, มีหน่วยความจำ RAM ขนาด 768 MB, มีพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลภายในขนาด 4 GB, มีเซ็นเซอร์ Accelerometer, Light Sensor และ Proximity Sensor


หน้าใช้งานหลักของ Nokia XL จะประกอบไปด้วยหน้า App Tiles ที่จะรวมทั้งแอปพลิเคชัน และวิดเจ็ตต่างๆ เอาไว้ภายในหน้าเดียวกัน และอีกหน้าก็คือหน้า Fastlane ซึ่งรวมการนัดหมาย, ประวัติการใช้งาน และการเข้าถึงทุกอย่างเอาไว้ในที่เดียวกัน


App Tile แต่ละอัน สามารถย้ายตำแหน่งได้อย่างอิสระครับ รวมทั้งยังสามารถปรับขนาดได้, สามารถถอนการติดตั้งได้ และเปลี่ยนสีได้ตามใจชอบ

นอกจากนั้นเราก็ยังสามารถสร้างโฟลเดอร์ใหม่เอาไว้ในหน้า App Tiles ได้ และสามารถนำวิดเจ็ตไปใส่ไว้บนหน้า App Tiles ได้ตามต้องการ


ในหน้า Fastlane หากเราอยากลบรายการไหนออก ก็แค่กดค้างเอาไว้ แล้วกดที่เครื่องหมายกากบาทครับ หรือจะสั่งให้ลบทั้งหมดทีเดียวก็ได้เช่นกัน นอกจากนั้นเราก็ยังสามารถจัดการกับการแจ้งเตือนต่างๆ บนหน้า Fastlane และจัดการกับประวัติการใช้งานต่างๆ บนหน้า Fastlane ได้ด้วยครับ


เมื่อลากหน้าจอมาจากด้านบน ก็จะพบกับแถบแจ้งเตือน ซึ่งบอกสถานะการทำงานของทั้ง 2 ซิมการ์ด, มีส่วนของ Apps Switcher สำหรับจัดการกับแอปพลิเคชันที่กำลังเปิดใช้งานอยู่, มีทางลัดสำหรับการตั้งค่า, ทางลัดสำหรับฟังก์ชันพื้นฐาน และการแจ้งเตือน

ที่หน้า Glance Screen หากเราเคาะที่หน้าจอ 2 ครั้ง ก็จะเป็นการปลุกการทำงานขึ้นมาครับ และรายการแจ้งเตือนต่างๆ ที่เห็นอยู่นี้ เราสามารถลากไปทางซ้ายเพื่อลบออกได้ หรือลากไปทางขวา เพื่อเข้าใช้งานแอปพลิเคชันได้ทันทีครับ


เราสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแอนดรอยด์ได้มากมายจาก Nokia Store ครับ ทั้งแอปพลิเคชันเด่น, แอปพลิเคชันยอดนิยม และเกมส์ยอดนิยม รวมทั้งยังสามารถจัดการกับแอปพลิเคชันที่เราดาวน์โหลดเอาไว้แล้วได้ และสามารถค้นหาแอปพลิเคชันตามคีย์เวิร์ดได้

และหากแอปพลิเคชันไหนไม่มีอยู่บน Nokia Store เช่นแอปพลิเคชัน 3Dmark ทาง Nokia Store ก็จะมีทางเลือกให้ไปดาวน์โหลดที่แอปสโตร์อื่นๆ ให้ทันทีครับ

แอปพลิเคชันอย่างแรกที่ไม่สามารถหาได้จากแอนดรอยด์รุ่นอื่นๆ ก็คือ HERE Maps กับ HERE Drive นั่นเองครับ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า เป็นแอปพลิเคชันแผนที่ และระบบนำทางที่มีประสิทธิภาพสูงมากที่สุดตัวหนึ่งบนสมาร์ทโฟน สามารถแสดงผลสถานที่แบบ 3 มิติได้ และสามารถดาวน์โหลดไฟล์แผนที่มาใช้งานแบบออฟไลน์ได้ สามารถดูแผนที่แบบดาวเทียม และแบบภูมิประเทศได้ พร้อมรองรับการแสดงข้อมูลสภาพการจราจร และระบบขนส่งมวลชน


หากเราต้องการไปที่ใด เช่นอยากไปสยามพารากอนก็ไม่ยากครับ สามารถทำการค้นหาตามคีย์เวิร์ดได้ทันที โดยแอปพลิเคชันจะทำการคำนวณเส้นทางที่เหมาะสมให้เราอย่างรวดเร็ว และสามารถกดเริ่มใช้งานระบบนำทางได้ทันทีครับ

แอปพลิเคชัน Nokia MixRadio ก็เป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่มีเฉพาะบน Nokia X เท่านั้นครับ ซึ่งสามารถเล่นเพลงของศิลปินคนโปรดที่เราเลือกเอาไว้ได้โดยอัตโนมัติ

สามารถสร้าง Mix อันใหม่ จากศิลปินที่เราชื่นชอบได้หลายรายการ

มี Mix เด่นๆ ให้เลือกมากมาย รวมทั้ง Mix ตามหมวดหมู่ และ Mix ตามประเภทของเพลง

และที่สำคัญก็คือเราสามารถดาวน์โหลดเพลงมาเก็บเอาไว้ฟังแบบออฟไลน์ โดยที่ไม่ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อีกด้วยครับ

สามารถโทรศัพท์ผ่านทางแอปพลิเคชัน Skype ได้ฟรีทั่วโลก เป็นระยะเวลา 1 เดือนเต็ม

สามารถใช้งานพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลของบริการ OneDrive ได้ฟรี 15 GB

มีแอปพลิเคชัน Outlook สำหรับการจัดการกับอีเมล ติดตั้งมาให้ใช้งานแบบฟรีๆ



กล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สามารถซูมได้ 4 เท่า, เปิด-ปิดไฟแฟลชได้, ปรับค่าสมดุลสีขาวได้, ปรับค่าชดเชยแสงได้, มีโหมดถ่ายวีดีโอ, โหมดพาโนราม่า และสลับไปใช้งานกล้องหน้า, มีระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ และเลือกจุดโฟกัสได้อย่างอิสระ, ตั้งค่าความละเอียดของรูปภาพได้หลายระดับ, เลือกรูปแบบของการโฟกัสภาพได้หลากหลาย, สามารถเลือกเอฟเฟคสีได้, รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ Time Lapse และสามารถปรับความละเอียดของวีดีโอได้สูงสุดที่ระดับ FWVGA

การเปิดเล่นไฟล์วีดีโอความละเอียดสูงบน Nokia XL ตั้งแต่ความละเอียดระดับ 720p ขึ้นไป อาจจะมีอาการกระตุกบ้างเป็นระยะ แต่ก็ยังพอดูได้ครับ

เครื่องเล่นเพลงบน Nokia XL สามารถเลือกเล่นตามศิลปิน, ตามอัลบั้ม, ตามรายชื่อเพลง และตามรายการเล่น รวมถึงสามารถแสดงรูปปกอัลบั้มได้ด้วยครับ

นอกจากนี้ก็ยังสามารถนำเพลงที่ฟังอยู่ไปกำหนดเป็นเสียงเรียกเข้าได้ทันที และสามารถปรับรูปแบบของเสียงด้วยอีควอไลเซอร์ได้ พร้อมเอฟเฟคเสียงแบบ Bass Boost และ 3D

Nokia XL นั้นมีแอปพลิเคชันวิทยุ FM ติดตั้งมาให้ใช้งานกันด้วยนะครับ ซึ่งมีฟังก์ชันพื้นฐานครบครันตามมาตรฐาน เช่นระบบค้นหาสัญญาณอัตโนมัติ, การค้นหาสัญญาณด้วยตนเอง, การเพิ่มสถานีโปรด และการเปิดเสียงผ่านทางลำโพงภายนอก

ประสิทธิภาพในการประมวลผลภาพกราฟิกของ Nokia XL นั้นถือว่าอยู่แค่ระดับพื้นฐาน ดังนั้นจึงเหมาะกับการเล่นเกมส์ที่มีกราฟิกระดับพื้นๆ ถึงกลางๆ อย่างเกมเหล่านี้ซึ่งมีกราฟิกที่ไม่ซับซ้อนมากนัก ก็สามารถเล่นได้สบายๆ ครับ

ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ 5 นิ้ว การแสดงผลหน้าเว็บไซต์ต่างๆ จึงมีความชัดเจนมากขึ้นครับ ส่วนความรวดเร็วในการประมวลผลก็อยู่ในระดับที่พอใช้ได้

นอกจากนี้ก็ยังรองรับกับแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ครบทุกตัวครับ ทั้ง Twitter, Facebook, Viber, Vine, Facebook Messenger, Line, WeChat และอื่นๆ อีกมากมาย


คีย์บอร์ดภาษาไทยก็มีมาให้พร้อมใช้งานได้ทันทีนะครับ รองรับทั้งการใช้งานในแนวตั้ง และแนวนอน
ทดสอบประสิทธิภาพในการทำงานของ Nokia XL Dual SIM

เรามาทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวมด้วยแอปพลิเคชัน Quadrant Standard กันครับ ซึ่งผลคะแนนที่ได้จะอยู่ที่ 2821 คะแนน

ต่อไปทำการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน Antutu Benchmark กันบ้างครับ ซึ่งผลคะแนนที่ได้จะอยู่ที่ 7574 คะแนน

ระบบสัมผัสบน Nokia XL สามารถรองรับกับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 5 จุด แต่ดูเหมือนการทำงานจะยังไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าที่ควรนะครับ

Nokia XL นั้นมีตัวรับสัญญาณดาวเทียมมาให้ในตัวครับ ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่าสามารถจับสัญญาณได้อย่างดีเยี่ยมครับ แม้ว่าจะอยู่ในตัวอาคาร ก็ยังสามารถจับสัญญาณได้อย่างรวดเร็ว
สรุปผลการทดสอบของ Nokia XL Dual SIM

สรุปแล้วก็นับว่า Nokia XL รุ่นนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในระดับราคา 5 พันบาทนะครับ ซึ่งจุดขายของ Nokia XL ที่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์แบรนด์อื่นๆ ก็มีตั้งแต่เรื่องของการออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว, อินเทอร์เฟซต่างๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสมาร์ทโฟนตระกูล Nokia Lumia และ Nokia Asha และที่สำคัญก็คือมาพร้อมกับบริการ และแอปพลิเคชันระดับคุณภาพหลายตัวจาก โนเกีย
และ ไมโครซอฟท์ ซึ่งหาไม่ได้จากสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นใด ส่วนคุณสมบัติโดยรวมอาจจะอยู่เพียงแค่ระดับพื้นฐาน แต่อย่างน้อย Nokia XL ก็มีหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่ถึง 5 นิ้ว ซึ่งก็น่าจะช่วยให้ประสบการณ์ในการใช้งานต่างๆ ดีขึ้นพอสมควรครับ ส่วนราคาจำหน่าย ณ ขณะนี้ ทาง โนเกีย ปรับลดลงมาเหลือเพียง 5,350 บาท (จากเดิม 5,650) ซึ่งก็น่าจะทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายขึ้น สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Nokia XL Dual SIM
- ตัวเครื่องมีการออกแบบดีไซน์ที่สวยทันสมัย และมีสีสันที่ดูสดใส
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว - จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 800x480 Pixels (WVGA : กว้าง 5.0 นิ้ว : 187 ppi : อัตราส่วน 15:9)
- หน้าจอหลักแบบ App Tiles และหน้า Fastlane
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 203 - ประมวลผลการทำงานด้วย Dual-Core Cortex-A5 Processor (ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8225 Snapdragon
S4 Play) ความเร็วในการประมวลผล 1 GHz - ระบบปฏิบัติการ Nokia X Software Platform เวอร์ชัน 1.2 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android OS 4.1.2 Jelly Bean)
- สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันแอนดรอยด์ได้เช่นเดียวกันกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นอื่นๆ
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 32 GB
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels พร้อมไฟแฟลช LED และระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ
- รองรับการถ่ายภาพวีดีโอได้ที่ความละเอียดระดับ FWVGA (854x480 Pixels : 30 fps)
- กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 2 ล้าน Pixels (1600x1200 Pixels) - รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, 3G, EDGE และ GPRS - ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
- รองรับการใช้งานแอปพลิเคชัน HERE Maps และ HERE Drive ได้ฟรีตลอดชีพ
- รองรับการใช้งานแอปพลิเคชัน Nokia MixRadio
- รองรับการใช้งานแอปพลิเคชัน Outlook
- รองรับการใช้งานแอปพลิเคชัน Skype (โทรฟรีทั่วโลกเป็นระยะเวลา 1 เดือน)
- ฟรีพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลแบบ Cloud Storage บนบริการ OneDrive ขนาด 15 GB
- วิทยุ FM Stereo ในตัว
- มีราคาจำหน่ายเพียง 5,350 บาท
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Nokia XL Dual SIM
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูล
มีขนาดเพียง 4 GB ซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้งานจริง ต้องอาศัยการเพิ่มหน่วยความจำด้วยการ์ด microSD
- ไม่รองรับการใช้งานบริการต่างๆ ของกูเกิล (Google Services)
- รองรับการใช้งาน 3G ได้เพียง 2 คลื่นความถี่ (900/2100 MHz)
- มีหน่วยความจำ RAM เพียง 768 MB ซึ่งส่งผลให้การใช้งานบางอย่างไม่ราบรื่นเท่าที่ควร
- การเปิดเล่นไฟล์วีดีโอความละเอียดสูงมีอาการกระตุกให้เห็นเป็นระยะ
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Nokia XL Dual SIM ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้
Nokia XL Dual SIM Specification
title="Sony Xperia ZL Specification">

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|