รีวิว (Review) Meizu M5c
สมาร์ทโฟนราคาประหยัด สเปกคุ้มค่า ใหม่ล่าสุด ด้วยจอ GFF Full Lamination HD ขนาด 5 นิ้ว, ชิปเซ็ต MediaTek MT6737, RAM 2GB, ROM 16GB, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง, มี Gyro และแบตเตอรี่ 3000 mAh บนดีไซน์ Unibody โค้งมนจับถนัดมือ ในราคาเพียง 3,890 บาท
Review
Date (21-มีนาคม-2561)
สวัสดีครับ ปัจจุบันสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นราคาประหยัดนั้นมีวางจำหน่ายในตลาดบ้านเรามากมายหลายรุ่น และถึงแม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนในระดับเริ่มต้น แต่ด้วยความที่คุณสมบัติภายในได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าแต่ก่อน จึงทำให้สมาร์ทโฟนในกลุ่มนี้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีมากขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งในเรื่องของการเล่นเกม, การชมวิดีโอความละเอียดสูง, การใช้งานด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ก และกล้องดิจิทัลที่สามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัด เรียกได้ว่า สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครันในทุกรูปแบบเลยก็ว่าได้
ซึ่งในวันนี้ทางทีมงานก็มีสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น จึงอยากจะมาแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักกันนั่นคือ Meizu M5c สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับดีไซน์เรียบหรูจับถนัดมือ และสเปกครบเครื่องทุกการใช้งานขั้นพื้นฐาน ในราคาเพียง 3,890 บาท เท่านั้น! โดย Meizu M5c นั้นถือเป็นสมาร์ทโฟนน้องเล็กสุดในตระกูล M-Series อีกทั้งยังถูกตัดคุณสมบัติบางอย่างออกไป เช่น เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ กับกล้องดิจิทัลที่มีความละเอียดลดลงกว่ารุ่นพี่อย่าง
Meizu M5s เพื่อที่วางจำหน่ายในราคาที่จับต้องได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง
สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็จะมีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการแบบผลิต Unibody (กรอบตัวเครื่องถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน), หน้าจอแสดงผลแบบ GFF Full Lamination ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5 นิ้ว, กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบ 4 ชิ้นเลนส์ ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0 พร้อมไฟแฟลชแบบ
Dual-Tone LED, กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งมีรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2, มี Gyroscope Sensor, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, และแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh
ในส่วนของคุณสมบัติด้านการประมวลผลก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับราคาค่าตัว ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6737 ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow
ซึ่งจากข้อมูลทั้งหมดที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า Meizu M5c นั้นมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งในเรื่องของ การออกแบบดีไซน์, กล้องถ่ายภาพ, คุณสมบัติตัวเครื่องที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานขั้นพื้นฐานได้ครบทุกรูปแบบ ในราคาสบายกระเป๋า ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร, ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน, กล้องดิจิทัลสามารถถ่ายภาพได้คมชัดเพียงใด และมีฟีเจอร์อะไรให้ใช้งานกันบ้าง ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว Meizu M5c พร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์
Meizu M5c มาในแพ็กเกจสีขาวที่ดูสะอาดตา
ซึ่งภายในกล่องก็มีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้ใช้งานอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น คู่มือการใช้งาน, ใบรับประกันสินค้า, เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด, อะแดปเตอร์ และสาย microUSB (ไม่มีชุดหูฟังแถมมาให้ในแพ็กเกจ)
Meizu M5c มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ GFF Full Lamination ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5 นิ้ว โดยมีตัวเครื่องขนาด 144x70.51x8.3 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 135 กรัม
ซึ่งด้วยเทคโนโลยี GFF Full Lamination นั้นช่วยให้หน้าจอของ Meizu M5c สามารถแสดงสีสัน, คอนทราสต์ ได้ความคมชัด สมจริง อีกทั้งยังรองรับการสัมผัสได้แม่นยำ
ด้านหน้าส่วนบนมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งมีรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานเพียงปุ่มเดียว ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นทั้งปุ่มโฮม (กดลงไป 1 ครั้ง) กับปุ่มย้อนกลับ (แตะเบาๆ 1 ครั้ง)
ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ด้านล่างของตัวเครื่องมีลำโพงเสียงภายนอก, ไมโครโฟน และช่องเชื่อมต่อกับสาย microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล
ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่งเป็นแบบ Hybrid Slot ซึ่งรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด แต่ในช่องที่ 2 จะต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ดที่ 2 หรือเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบ 4 ชิ้นเลนส์ ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0 พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-Tone LED
โดยตัวเครื่องของ Meizu M5c นั้นเป็นวัสดุประเภทโพลีคาร์บอเนต พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีการแบบผลิต Unibody (กรอบตัวเครื่องถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน) อีกทั้งภายในยังมีแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
Meizu M5c ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย Flyme UI พร้อมรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้
มีหน่วยความแรม (RAM) ขนาด 2 GB และหน่วยความจำภายในขนาด 16 GB พร้อมรองรับการเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุดที่ 128 GB
มีฟังก์ชันการแจ้งเตือนให้ใช้งาน และสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้หลากหลาย เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือการหมุนหน้าจออัตโนมัติ
นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้ ไม่ว่าจะเป็น การจัดเรียงแอปพลิเคชัน, เพิ่มวิดเจ็ตที่ต้องการมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน, เปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ และยังมีธีมให้เลือกใช้งานหลากหลายอีกด้วย
สำหรับฟังก์ชันโทรศัพท์นั้นมีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมด้วยปุ่มตัวเลขที่ขนาดพอดีกับนิ้วมือ ช่วยให้ผู้ใช้กดหมายเลขได้อย่างสะดวกสบาย และสามารถเข้าดูบันทึกการโทร หรือเข้าดูรายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมดได้ทันที
ทางด้านแอปพลิเคชันสำหรับจัดการส่วนต่างๆ ภายในเครื่องก็มีให้ใช้งานบน Meisu M5c ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถจัดการส่วนต่างๆ ภายในเครื่องได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น การเคลียร์แรม และการตรวจสอบหน่วยความจำภายในว่ายังสามารถใช้งานได้อีกเท่าไหร่
อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้งานระบบประหยัดพลังงานขั้นสูงได้
มีเซ็นเซอร์พื้นฐานติดตั้งมาให้อย่างครบครัน และมี Gyroscope Sensor ให้ใช้งาน
นอกจากนี้ รองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้ เช่น การดับเบิ้ลคลิกที่หน้าจอ เพื่อปลุกการทำงานเครื่อง หรือการเลื่อนลงเพื่อดูการแจ้งเตือนต่างๆ บนเครื่อง ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถวาดตัวอักษรเพื่อนเรียกใช้งานฟังก์ชันได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การวาดตัวอักษร C เพื่อเรียกใช้งานกล้องถ่ายภาพ หรือการวาดตัวอักษร M เพื่อเรียกใช้งานแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง
และยังมีแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง ซึ่งสามารถปรับค่าอีควอไลเซอร์ได้หลากหลาย เช่น Rock หรือ Pop (การปรับค่าอีควอไลเซอร์จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับหูฟังเสียก่อนถึงจะใช้งานได้)
สามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น
และยังมีฟังก์ชัน Popup Play ให้ใช้งาน
Meizu M5c มาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6737 ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow
ซึ่งจากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ ก็พบว่า Meizu M5c นั้นสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรืออาการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องให้พบเจอ
และเมื่อนำ Meizu M5c มาทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 28420 คะแนน ส่วนการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน Geekbench 4 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 563 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 1480 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core
ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 1827 คะแนน
รองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด
ในเบื้องต้นบน Meizu M5c นั้นจะยังไม่มีแอปพลิเคชัน Google Play Store ติดตั้งมาให้ ผู้ใช้จึงต้องทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Google Play Store ผ่านทางแอปพลิเคชัน Hot Store บนเครื่องเสียก่อน หลังจากนั้นก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานผ่านทางแอปพลิเคชัน Google Play Store ได้ตามปกติ
กล้องดิจิทัล ถ่ายภาพนิ่ง และถ่ายภาพวิดีโอ
สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมแสดงฟังก์ชันเอาไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานไฟแฟลช LED, ฟังก์ชัน HDR หรือเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพ และยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย ได้แก่ โหมดถ่ายภาพโปร, โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า และโหมดถ่ายภาพเป็นไฟล์ .GIF
โดยโหมดถ่ายภาพโปรนั้นสามารถปรับค่าได้หลากหลาย เช่น การปรับค่า ISO, การชดเชยแสง, และไวท์บาลานซ์ อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งาน ซึ่งสามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 5 ระดับ
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานตาราง 9 ช่อง, การระบุวันที่บนภาพถ่าย, การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, การเลือกตำแหน่งบันทึกภาพถ่ายระหว่างหน่วยความจำภายในเครื่อง หรือการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD และสามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ทางด้านกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมแสดงฟังก์ชันเอาไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ หรือเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพ และยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย ได้แก่ โหมดถ่ายภาพโปร, โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า และโหมดถ่ายภาพเป็นไฟล์ .GIF
โดยโหมดถ่ายภาพโปรนั้นสามารถปรับค่าได้หลากหลาย เช่น การปรับค่า ISO, การชดเชยแสง, และไวท์บาลานซ์ อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งาน ซึ่งสามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 5 ระดับ
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานฟังก์ชันกระจกเงาสะท้อน, การเปิดใช้งานตาราง 9 ช่อง, การระบุวันที่บนภาพถ่าย, การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, การเลือกตำแหน่งบันทึกภาพถ่ายระหว่างหน่วยความจำภายในเครื่อง หรือการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD และสามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล ของ Meizu M5c
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย ของ Meizu M5c
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 2
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 4
สรุปผลการทดสอบของ Meizu M5c
นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับ Meizu M5c สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กใหม่ล่าสุด บนดีไซน์เรียบหรูดูน่าใช้งานแบบ Polycarbonate Unibody พร้อมสเปกครบเครื่องทุกการใช้งานขั้นพื้นฐาน ในราคาที่ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้ ซึ่งหลังจากที่ได้ทดลองใช้งานเป็นเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ ก็ต้องขอบอกเลยว่า Meizu M5c ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์สวยงามไม่ใช้น้อย อีกทั้งด้านหลังยังมีความโค้งมนที่เข้ารูปกับอุ้งมือ ยิ่งช่วยให้จับ หรือถือใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย
บวกกับตัวเครื่องที่มีขนาดไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้ผู้ใช้สามารถพกพาไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว ไม่เพียงเท่านั้น พื้นผิวของตัวเครื่องยังเป็นพื้นผิวแบบด้าน จึงเกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมือได้ยากอีกด้วย
ซึ่งนอกจากในเรื่องของการออกแบบดีไซน์อันโดดเด่นแล้วนั้น ทางด้านกล้องถ่ายภาพก็ถือเป็นหนึ่งจุดขายสำคัญของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบ 4 ชิ้นเลนส์ ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0 พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-Tone LED ที่สามารถถ่ายภาพออกมาได้สวยคมชัด สีสันสดใสสมจริง อีกทั้งยังมีระบบออโต้โฟกัส ซึ่งช่วยให้สามารถถ่ายภาพได้สะดวกสบายมากขึ้น ส่วนทางด้านกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด
5 ล้านพิกเซล ซึ่งมีรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2 ก็ตอบโจทย์ในเรื่องของการถ่ายภาพเซลฟี่ได้ดีไม่แพ้กัน และยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งาน และสามารถปรับระดับความเนียนของใบหน้าได้มากถึง 5 ระดับตามความต้องการ บอกได้เลยว่าต้องถูกอกถูกใจคนรักการถ่ายภาพเซลฟี่อย่างแน่นอน
สำหรับจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ GFF Full Lamination ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5 นิ้ว, มี Gyroscope Sensor, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, และแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh
ทางด้านคุณสมบัติด้านการประมวลผล หรือคุณสมบัติพื้นฐาน ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับราคาค่าตัว ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6737 ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow ซึ่งจากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ ก็พบว่า Meizu M5c ยังสามารถเล่นเกมได้อย่างไหลลื่น
และถึงแม้จะมีอาการหน่วงบ้างเล็กน้อย แต่ก็ถือว่ายังสามารถใช้งานในระดับที่น่าพอใจ
และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า Meizu M5c น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนในระดับเริ่มต้น ที่มีฟีเจอร์พื้นฐานให้ใช้งานอย่างครบครัน พร้อมดีไซน์สวยงามโค้งมนจับถือได้ง่าย และกล้องถ่ายภาพคมชัดทั้งด้านหน้าด้านหลัง ในราคาประหยัดย่อมเยา ซึ่ง Meizu M5c ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
สำหรับท่านใดที่สนใจก็สามารถหาซื้อ Meizu M5c ได้ที่ร้าน CSC Shop โดยมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ชมพู, น้ำเงิน, ดำ, ทอง และแดง สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Meizu ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Meizu M5c มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Meizu M5c
- ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการแบบผลิต Unibody (กรอบตัวเครื่องถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน)
- จอแสดงผลแบบ GFF Full Lamination ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T720
- รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Quad-Core MediaTek MT6737 ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash)
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบ 4 ชิ้นเลนส์ พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0, ไฟแฟลชแบบ Dual-Tone LED, รองรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ HD (720p)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งมีรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2, รองรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ VGA
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby) (Hybrid Slot)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- มี Gyroscope Sensor
- ชนิดแบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 3000 mAh
- มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ชมพู, น้ำเงิน, ดำ, ทอง และแดง
- ราคา 3,890 บาท ซึ่งหากเทียบกับคุณสมบัติโดยรวมถือว่าคุ้มค่า
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Meizu M5c
- ไม่มีชุดหูฟังแถมมาให้ในแพ็กเกจ
- ระบบปฏิบัติการยังคงเป็น Android 6.0 Marshmallow
- ถาดใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ Hybrid Slot ไม่ใช่ Triple Slot
- ไม่มีวิทยุ FM ในตัว
- บอดี้ตัวเครื่องผลิตจากโพลีคาร์บอเนต ไม่ใช่โลหะ
- ช่องทางจัดจำหน่ายมีช่องทางเดียวคือ CSC Shop
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus :: |