รีวิว (Review) iPhone 6
ภาคต่อของสมาร์ทโฟนเรือธงจาก Apple ที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่เต็มตากว่าที่เคย กับสเปคที่สมบูรณ์แบบขึ้น และระบบปฏิบัติการ iOS 8 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ อีกเพียบ
Review
Date (20-พฤศจิกายน-2557)
สำหรับ iPhone 6 นั้นก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับ Hi-End ของทางฝั่ง Apple ที่ไม่ว่าใครก็ให้ความสนใจ และจับตามองมาโดยตลอด นับตั้งแต่วันเปิดตัวมาจนถึงวันนี้ ก็เรียกได้ว่ากระแสยังคงร้อนแรงแบบไม่มีตก โดย iPhone 6 นั้นก็ได้เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปหลายสัปดาห์แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะมีหลายท่าน ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่า จะซื้อหา iPhone 6 มาใช้กับเค้าบ้างดีหรือไม่ ซึ่งวันนี้ทีมงานเว็บไซต์ Thaimobilecenter ก็ได้มีโอกาสนำเอา iPhone 6 มารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกัน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ ได้มีการรวบรวมทั้งในส่วนของสเปค และฟีเจอร์เด่นๆ มากมายที่มีอยู่บน iPhone 6 ลองมาดูกันว่า iPhone 6 นั้นจะน่าสนใจแค่ไหน และ จะมีฟีเจอร์ใด ที่น่าสนใจกันบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ลองมาชมกันเลยครับ
สเปคในเบื้องต้นของ iPhone 6
- บอดี้ตัวเครื่องหล่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน พร้อมวัสดุแบบ Anodized Aluminum และ Stainless Steel
- ขนาดตัวเครื่อง 138.1x67x6.9 มิลลิเมตร
- น้ำหนักตัวเครื่อง 129 กรัม
- หน้าจอ Retina HD IPS LCD ขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334x750 พิกเซล (326 ppi)
- กระจกหน้าจอแบบ Ion-Strengthened Glass ซึ่งมีความโค้งมนที่บริเวณขอบ
- ชิปประมวลผล Apple A8 (64-bit)
- ชิปประมวลผลการเคลื่อนไหว M8 Motion Co-Processor
- ระบบปฏิบัติการ iOS 8
- กล้องดิจิตอล ด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช แบบ True Tone
- กล้องดิจิตอล ด้านหน้า ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิตอลมาพร้อมกับเทคโนโลยี Focus Pixels
- ระบบสัญญาณ Tri Mode (LTE/WCDMA/GSM)
- ซิมการ์ด แบบ nanoSIM
- รองรับการใช้งาน Apple Pay
- รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth และ NFC
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทาง WiFi, LTE, 3G, EDGE, GPRS
- รองรับการใช้งานระบบนำทางด้วย GPS, A-GPS, GLONASS
- พื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16, 64 หรือ 128 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB
- ระบบสแกนลายนิ้วมือ Touch ID
- ระบบ Accelerometer Sensor และ Proximity Sensor
การออกแบบ ดีไซน์ ของ iPhone 6
สำหรับ iPhone 6 นั้นมาพร้อมกับ หน้าจอกว้าง 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334x750 พิกเซล (326 ppi) ซึ่งใช้กระจกหน้าจอแบบ Ion-Strengthened Glass ที่มีความโค้งมน บริเวณ ขอบของตัวเครื่องโดยรอบหน้าจอ ซึ่งหน้าจอโค้งดังกล่าว ช่วยให้ใช้งาน Gestures ประเภท ปัดซ้ายไปขวา หรือ ขวาไปซ้าย ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ตัวเครื่องด้านหน้าส่วนบนมาพร้อมกับ กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียดระดับ 1.2 ล้านพิกเซล (Facetime HD) และ ลำโพงสำหรับสนทนา รวมถึง Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา ก็อยู่ในบริเวณนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องก็จะเป็นปุ่ม โฮม (HOME) ที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Touch ID สำหรับสแกนลายนิ้วมือ เพื่อปลดล็อคเครื่อง หรือสำหรับซื้อสินค้า หรือเพื่อยืนยันตัวตนในกรณีอื่นๆ
สำหรับด้านหลังของตัวเครื่องนั้นก็จะเห็นโลโก้ Apple อย่างชัดเจน โดยเครื่องที่ทีมงานนำมาทดสอบนั้นจะเป็นสีเทา (Space Gray) วัสดุที่ใช้นั้นก็จะเป็นอลูมิเนียม ที่มีความทนทาน และให้ความรู้สึกพรีเมียมหรูหรา เมื่อได้สัมผัส
ด้านหลังของตัวเครื่องจะมาพร้อมกับกล้องดิจิตอลความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ True Tone โดยระหว่างเลนส์กล้อง และไฟแฟลช จะมีไมโครโฟนอยู่ในบริเวณนี้ด้วย ซึ่งไมโครโฟนตัวนี้ ใช้เพื่อช่วยตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา หรือบันทึกเสียง
ลองมาดูส่วนด้านข้างของตัวเครื่องกันบ้าง ตัวเครื่องด้านข้าง ส่วนบนนั้น จะไม่มีปุ่มหรือช่องใดๆ อยู่ในบริเวณนี้ แต่ในส่วนล่างนั้น จะประกอบด้วย ลำโพงภายนอก, ช่องสำหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ และชาร์จแบตเตอรี่แบบ Lightning Connector, ลำโพงหลักสำหรับสนทนา และช่องสำหรับเชื่อมต่อชุดหูฟังขนาดมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร
สำหรับด้านข้างฝั่งขวา จะมาพร้อมกับปุ่ม Sleep/Wake หรือปุ่มเปิด-ปิด และช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM ส่วนฝั่งซ้าย ก็จะมีปุ่ม สำหรับเพิ่ม-ลดเสียง และ Ring/Silent Switch สำหรับ เปิด-ปิดเสียง หรือล็อคการหมุนของหน้าจอ
ลองมาดูปุ่ม ปรับเพิ่มลดเสียง และ Ring/Silent Switch กันแบบชัดๆ ซึ่งตัวปุ่มนั้นจะค่อนข้างเล็ก แต่สามารถกดได้อย่างถนัด ส่วน Ring/Silent Switch นั้นจะมีแถบสีแดง เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณสลับไปที่โหมด Silent หรือ Ring
ส่วนอีกฝั่ง ก็จะเป็นช่องสำหรับถอดซิมการ์ดแบบ nanoSIM และสิ่งที่แตกต่างไปจาก iPhone รุ่นก่อนหน้าก็คือ ปุ่ม Sleep/Wake ถูกย้ายมาอยู่ด้านข้างแทน ในขณะที่รุ่นก่อนๆ จะอยู่ด้านบนของตัวเครื่อง
อุปกรณ์ภายในกล่องของ iPhone 6
สำหรับกล่องของ iPhone 6 นั้นจะมีดีไซน์เรียบง่ายดูเป็นงานเป็นการ ไม่เน้นสีสัน หรือรูปตัวเครื่องใดๆ แต่ด้านหน้าของกล่อง จะมีความนูน ตามขนาดจริงของตัวเครื่องที่อยู่ด้านใน โดยทั้ง iPhone 6 Plus และ iPhone 6 นั้น กล่องจะเป็นแบบเดียวกัน ต่างกันเพียงขนาดของกล่องเท่านั้น
อุปกรณ์ภายในกล่องหลักๆ ก็จะเป็น ชุดหูฟัง Earpod, อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และ สาย Lightning Connector นอกจากนี้ ยังมีคู่มือ และเข็มสำหรับจิ้มเพื่อเปิดถาดซิมการ์ด (SIM Door Key) อยู่ภายในกล่องด้วยเช่นเดียวกัน
iPhone 6 กับฟีเจอร์ใหม่ Apple Pay
สำหรับ iPhone 6 นั้นยังคงมาพร้อมกับชิป NFC ซึ่งสามารถนำมาใช้งานร่วมกับบริการใหม่จาก Apple อย่าง Apple Pay คุณสามารถเก็บข้อมูลบัตรเครดิตของคุณไว้ และ นำไปใช้จ่ายได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย อย่างไรก็ดี บริการดังกล่าวนี้ยังคงเปิดให้ใช้บริการในเฉพาะ สหรัฐอเมริกา และต้องยืนยันตัวตนกับธนาคารก่อนใช้บริการดังกล่าว โดยจะขยายบริการไปยังประเทศอื่นในเร็วๆ นี้
ระบบการเชื่อมต่อที่รวดเร็วยิ่งขึ้นบน iPhone 6
สำหรับ iPhone 6 นั้นรองรับการเชื่อมต่อแบบ LTE ที่มีความเร็วสูงขึ้นกว่าเดิม รวมถึงการเชื่อมต่อ Wi-Fi ผ่าน iPhone 6 นั้นสามารถทำความเร็วได้สูงกว่าเดิมถึง 3 เท่าเลยทีเดียว ทั้งนี้ ในส่วนของความเร็วในการเชื่อมต่อแบบ LTE นั้นจะขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการเครือข่ายด้วย
iPhone 6 มีให้เลือก 3 สีสัน
สำหรับตัวเครื่องของ iPhone 6 นั้นจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีสันด้วยกัน เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้านี้ คือ สีเทา, สีเงิน และ สีทอง (Space Gray, Silver และ Gold) โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นความจุคือ รุ่น 16GB, 64GB และ 128GB
แอปพลิเคชัน และการใช้งาน iPhone 6
สำหรับ iPhone 6 นั้นมาพร้อมกับ ระบบปฏิบัติการ iOS 8 ตั้งแต่แกะกล่อง โดยเมื่อเปิดเครื่องแล้ว อาจพบกับข้อความให้อัพเดทเป็นเวอร์ชัน 8.1 ในภายหลัง โดยภาพด้านบนเป็น อินเทอร์เฟสของหน้า Lock Screen และ Home Screen
ซึ่ง iPhone 6 นั้นจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ Reachability คือเมื่อแตะที่ปุ่มโฮม (ไม่ต้องกด) สองครั้ง หน้าจอจะถูก ย่อลงมาเหลือครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานด้วยมือเดียว
สำหรับฟีเจอร์ Spotlight ของ iPhone 6 นั้น ก็จะสามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยสามารถหาได้ทั้ง แอปพลิเคชันในเครื่อง หรือจะหาข้อมูลต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
หากเรากดปุ่มโฮมสองครั้ง ก็จะเข้าสู่ Task Manager ที่คุณจะสามารถเข้าสู่แอปพลิเคชัน หรือปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ได้ด้วย โดยหากคุณต้องการปิดแอปพลิเคชัน ก็เพียงแค่ปัดแอปพลิเคชัน นั้นๆ ขึ้นทางด้านบน แอปพลิเคชันดังกล่าวก็จะถูกปิดในทันที
ภาพด้านบนเป็นอินเทอร์เฟสสำหรับการ โทรเข้าออก และ รับ-ส่งข้อความ ซึ่งตัวเลขปุ่มกดถือว่าใหญ่พอสมควร สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้คุณยังสามารถจัดการ Contact หรือรายชื่อผู้ติดต่อได้ตลอดเวลา
สำหรับแอปพลิเคชัน แจ้งเตือนที่เข้ามาอำนวยความสะดวกให้กับคุณอย่าง Calendar ก็มีให้ได้ใช้งานเหมือนเคย รับรองว่าคุณจะไม่พลาดทุกการนัดหมายอย่างแน่นอน
แอปพลิเคชัน Weather ที่มาพร้อมกับ อินเทอร์เฟสที่สวยงาม ตามสภาพอากาศในขณะนั้น โดยคุณสามารถดูสภาพอากาศล่วงหน้าทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ
ในส่วนของแอปพลิเคชัน Clock ก็มีให้เลือกใช้งานมากมายไม่ว่าจะเป็น การดูเวลาโลก, การตั้งปลุก, จับเวลา, ตั้งเวลานับถอยหลัง คุณสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายในที่เดียว
หากคุณจำเป็นต้องจดบันทึกสั้นๆ ก็สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน Note ที่มาพร้อมกับอินเทอร์เฟสแบบเรียบง่าย เหมือนกับสมุดโน๊ตเล็กๆ ที่ติดตัวคุณไปในทุกที่
แอปพลิเคชันเล็กๆ อย่าง เครื่องคิดเลข ก็มาพร้อมกับ สูตรคำนวณ ต่างๆ มากมาย เมื่อใช้ในแนวนอน ซึ่งก็เรียกได้ว่า ครอบคลุมการใช้งานด้านการคำนวณพื้นฐาน และการคำนวณขั้นสูงไว้อย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ iPhone 6 ยังมี เข็มทิศดิจิตอล (Digital Compass) ให้ได้ใช้งานด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้งานด้านบันทึกเสียง ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนนักศึกษา หรือใช้เพื่อบันทึกการประชุม ด้วยไมโครโฟน บน iPhone 6 นั้น จะช่วยให้เสียงบันทึกที่ได้นั้นมีความคมชัดมากเลยทีเดียว
iPhone 6 มาพร้อมกับระบบนำทาง GPS, A-GPS และ GLONASS ในตัว จึงช่วยให้คุณสามารถใช้งานแอปพลิเคชันประเภทแผนที่ และการนำทางได้อย่างสะดวกสบาย เรียกได้ว่าไปไหนไม่มีหลงอย่างแน่นอน
สำหรับเบราว์เซอร์พื้นฐานที่มากับตัวเครื่องนั้นก็จะเป็น Safari แต่อย่างไรก็ดี คุณสามารถหาดาวน์โหลด เบราว์เซอร์ที่ถนัด หรือชื่นชอบ เพิ่มเติมได้ใน App Store
iPhone 6 นั้นมาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือ Touch ID คุณสามารถตั้งค่าได้อย่างง่ายดาย ภายในเมนู Setting โดยจะมีคำแนะนำในการเพิ่มลายนิ้วมือทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
หากคุณต้องการใช้ iPhone 6 เพื่อทำงาน คุณจะต้องชอบ Numbers แอปพลิเคชัน ที่เปรียบได้กับ Excel ของ Microsoft แต่ Numbers นั้นจะมาพร้อมกับ Template ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Apple โดยเฉพาะ
หรือจะเป็น Pages ที่เปรียบได้กับ Microsoft Word ที่ให้คุณสร้างไฟล์เอกสารได้ด้วยปลายนิ้ว ผ่าน iPhone 6 ของคุณ คุณสามารถแทรกภาพ หรือปรับแต่งแก้ไขข้อความ ได้ตามใจชอบ
และ Keynote ที่เปรียบเสมือน PowerPoint ที่มาพร้อมกับ Template มากมายสไตล์ Apple เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่า iPhone 6 เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนไว้สร้างไฟล์เอกสาร
หากคุณชื่นชอบในเสียงดนตรี ก็สามารถใช้แอปพลิเคชัน Garageband เพื่อแต่งเพลง หรือฝึกการเล่นดนตรีไปพร้อมๆ กันได้ด้วย
นอกจากนี้คุณยังสามารถตัดต่อคลิปวีดีโอความละเอียดสูง ผ่าน iPhone 6 ของคุณด้วยแอปพลิเคชัน iMovies
ไม่ว่าจะเป็นเพลงเก่าเพลงใหม่ หนังไทย หนังเทศ พร้อมซับไตเติ้ลภาษาไทย คุณสามารถซื้อหาผ่านทาง iTunes Store ได้แล้ววันนี้
และแน่นอนว่า ยังมีแอปพลิเคชันอีกนับแสนรายการ ที่รอให้คุณดาวน์โหลดไปใช้งานเพิ่มเติม บน App Store
การใช้งานกล้องดิจิตอลบน iPhone 6
สำหรับ iPhone 6 นั้นมาพร้อมกับกล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Focus Pixel ที่ช่วยให้ระบบ Auto Focus ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ไฟแฟลชด้านหลังยังเป็นแบบ True Tone ซึ่งช่วยให้ภาพที่ได้นั้น มีสีสันที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น แม้ในสภาวะแสงน้อย เราลองมาดูกันว่า กล้องดิจิตอลบน iPhone 6 นั้น สามารถถ่ายภาพในโหมดใดได้บ้าง
ในโหมด Photo จะเป็นการถ่ายภาพในสเกลปกติ โดยจะให้ภาพขนาดใหญ่ สามารถเปิดปิด HDR และไฟแฟลช ได้ตามใจชอบ หรือจะตั้งเวลาถ่าย ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
ส่วนในโหมด SQUARE นั้นจะเป็นการถ่ายภาพในสเกลสี่เหลี่ยมจัตุรัส สามารตั้งค่าการถ่ายอย่าง HDR และ ไฟแฟลช ได้เช่นเดียวกัน
สำหรับการถ่ายวีดีโอนั้นก็รองรับสูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (60 fps)
นอกจากนี้ยังถ่ายภาพในโหมด Slow-Motion ที่ความเร็วถึง 240 เฟรมต่อวินาที ได้อีกด้วย
และ ยังมีโหมด Time-Lapse หรือ โหมดเร่งเวลา ให้ได้เลือกใช้งานตามความต้องการ
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ได้จากกล้องดิจิตอลของ iPhone 6
สรุปผลการทดสอบของ iPhone 6

อย่างที่ทราบกันดีกว่า สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่หลายๆ คนรอคอย และคาดหวังจากสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของทางฝั่งแอปเปิ้ล นั่นก็คือ ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น และด้วยขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว ของ iPhone 6 รุ่นนี้ ที่ใหญ่ขึ้นจากขนาด 4.0 นิ้ว บน iPhone 5S ก็ถือว่าตอบโจทย์ผู้ซื้อได้อย่างตรงจุด มีขนาดใหญ่กำลังดี ไม่ใหญ่ หรือเล็กจนเกินไปสำหรับการใช้งาน สามารถพกพาไปไหนต่อไหนได้อย่างคล่องตัว และใช้งานด้วยมือเดียวได้สะดวกคล่องมือ ซึ่งก็เรียกได้ว่า iPhone 6 รุ่นนี้นั้นก็น่าจะถูกใจใครหลายๆ คนเลยทีเดียว นอกจากนี้ ในเรื่องของคุณสมบัติโดยรวม และฟีเจอร์ต่างๆ สำหรับการใช้งานนั้น ก็ถือว่ามีการอัพเกรดจากรุ่นก่อนหน้าพอสมควรตามที่ได้พูดถึงกันไปแล้วข้างต้น เรียกได้ว่าแต่เดิมใน iPhone 5S มีดีอย่างไร พอมาถึง iPhone 6 รุ่นนี้ก็ยิ่งสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งถ้าหากคุณกำลังสนใจสมาร์ทโฟนอย่าง iPhone 6 อยู่ในตอนนี้ ก็ลองไปสัมผัสตัวจริงกันได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สำหรับวันนี้ทีมงานก็ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ iPhone 6
- ตัวเครื่องมีการออกแบบดีไซน์ที่สวยหรูบางเฉียบ บนบอดี้ตัวเครื่องที่หล่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน พร้อมวัสดุแบบ Anodized Aluminum และ Stainless Steel
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Touch ID Sensor : Fingerprint Identity Sensor) บนปุ่ม Home
- จอแสดงผลแบบ Retina HD IPS LCD (LED-Backlit) Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1334x750 Pixels (กว้าง 4.7 นิ้ว : 326 ppi)
- กระจกหน้าจอแบบ Ion-Strengthened Glass มีความโค้งมนที่บริเวณขอบ พร้อมเทคโนโลยีการเคลือบกระจกแบบ Oleophobic Coating ช่วยป้องกันรอยนิ้วมือบนหน้าจอ
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Apple A8 (64-bit)
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 8
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB, 64 GB หรือ 128 GB
- กล้องดิจิตอล iSight Camera ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels พร้อมไฟแฟลชในตัว (Dual-LED Flash : True Tone), ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ (Auto Focus) และเทคโนโลยี Focus Pixels
- ถ่ายภาพวีดีโอ (Full HD : 1080p : 1920x1080 Pixels : 60 fps) พร้อมการถ่ายวีดีโอแบบ Slow-Motion ที่ความเร็ว 240 เฟรมต่อวินาที และระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบต่อเนื่อง (Continuous Auto-Focus)
- โหมดถ่ายวีดีโอแบบ Time-Lapse (30 นาที ถึง 30 ชั่วโมง)
- กล้องดิจิตอล FaceTime Camera ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 1.2 ล้านพิกเซล
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, LTE, 3G, EDGE และ GPRS
- รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง NFC และ Bluetooth
- เซ็นเซอร์ตรวจวัดความกดอากาศ (Barometer Sensor)
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS และรองรับการใช้งานกับระบบดาวเทียมของรัสเซีย (GLONASS : Global Navigation Satellite System)
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ iPhone 6
- แบตเตอรี่ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วยตัวเอง
- ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้
- หน่วยความจำ RAM มีขนาดเพียง 1 GB
- กล้องดิจิตอลด้านหน้ามีความละเอียดเพียง 1.2 ล้านพิกเซล
- ราคาจำหน่ายค่อนข้างสูง หากเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติ (Specification) และข้อมูลเพิ่มเติมของ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ได้โดยการคลิกที่ Link ด้านล่างนี้
iPhone 6 Specification
iPhone 6 Plus Specification

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|