รีวิว (Review) Infinix HOT Note X551
สมาร์ทโฟนดีไซน์เรียบหรูราคาประหยัด พร้อมสเปคครบเครื่อง ด้วยจอ HD 5.5 นิ้ว, ซีพียู Octa-core, รอม 16 GB, แรม 2 GB และแบตเตอรี่ใหญ่จุใจ 4000 mAh ในราคาเพียง 4,190 บาท
Review
Date (22-ตุลาคม-2558)

นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2558 เป็นต้นมา จะเห็นได้ว่ามีสมาร์ทโฟนแบรนด์ใหม่ๆ เริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจังหลากหลายแบรนด์ และล่าสุด Infinix แบรนด์มือถือชั้นนำน้องใหม่จากประเทศฮ่องกงก็ได้ส่ง Infinix HOT Note X551 มารุกตลาดในประเทศไทยด้วยเช่นกัน สำหรับ Infinix HOT Note X551 นั้นเป็นสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาที่มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องที่เรียบหรูดูดีด้วยพื้นผิวของฝาหลังที่ดูคล้ายโลหะขัดลาย (Brushed Metal) กับจุดเด่นหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ตัวเครื่องที่บางเพียง 8.9 มิลลิเมตร พร้อมด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมความละเอียดระดับ HD 720p, กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์รับภาพแบบ OV8865 ที่ช่วยให้สามารถถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดี, กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ที่ใหญ่จุใจเป็นพิเศษถึง 4000 mAh พร้อมเทคโนโลยี Super Fast Charging โดยการชาร์จ 20 นาที สามารถใช้งานได้นาน 7 ชั่วโมง (ชาร์จได้ 75% ภายในเวลา 55 นาที)
ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ ตัวเครื่องก็จัดมาให้แบบเหลือๆ เชื่อได้ว่าสามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น หน่วยประมวลผลการทำงานแบบ Octa-Core ARM Cortex-A7 Processor (ชิปเซ็ต MediaTek MT6592) ความเร็วในการประมวลผล 1.4 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-450 MP4, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 5.1 (Lollipop)
นอกจากนี้ Infinix HOT Note X551 ยังรองรับการใช้งานได้พร้อมกันถึง 2 ซิมการ์ด พร้อมทั้งรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 3G ได้อีกด้วย แต่ก็น่าเสียดายเล็กน้อยที่ไม่สามารถรองรับการใช้งานร่วมกับเครือข่ายแบบ 4G LTE ได้ อย่างไรก็ดีโดยรวมแล้วด้วยราคาค่าตัวเพียงแค่ 4,190 บาท ก็ยังถือได้ว่า Infinix HOT Note X551 รุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาที่ครบเครื่องคุ้มค่าไม่แพ้ใคร และเพื่อให้ทุกท่านมองเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่า Infinix HOT Note X551 มีดีไซน์เป็นอย่างไร ตอบสนองต่อการใช้งานดีขนาดไหน และมีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจกันบ้าง ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว Infinix HOT Note X551 พร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Infinix HOT Note X551 จะมาในแพ็กเกจสีขาวที่ดูเรียบสะอาดตา

ซึ่งด้านใต้กล่องจะระบุคุณสมบัติของตัวเครื่องแบบคร่าวๆของ Infinix HOT Note X551 เอาไว้อย่างชัดเจน เช่น หน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว, ซีพียู Octa-Core, แบตเตอรี่ 4000 mAh, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB และกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ส่วนระบบปฏิบัติการที่ระบุไว้เป็น Android 4.4.2 KitKat แท้จริงแล้วในเครื่องนั้นเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุดอย่าง Android 5.1 Lollipop ซึ่งนี่ก็อาจจะเป็นจุดสำคัญที่อาจทำให้ผู้ซื้อเกิดความสับสนลังเลใจ แต่กล่องของเครื่องที่วางจำหน่ายจริงอาจจะมีการแก้ไขข้อมูล ณ จุดนี้แล้วก็เป็นได้

ภายในกล่องก็มีอุปกรณ์ต่างๆ มาให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น คู่มือการใช้งาน, หูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, สาย microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล และอะแดปเตอร์สำหรับชาร์จแบตเตอรี่

รูปลักษณ์ภายนอกของ Infinix HOT Note X551 นั้นถือว่าดูเรียบหรูพอตัว ด้วยพื้นผิวด้านหลังตัวเครื่องที่ดูคล้ายกับโลหะขัดลาย (Brushed Metal) โดย Infinix HOT Note X551 จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 พิกเซล (HD 720p) ขนาด 5.5 นิ้ว ซึ่งจะมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 156x77x8.9 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 172 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนจะประกอบไปด้วย ลำโพงหูฟังสำหรับการสนทนา, เซ็นเซอร์ Accelerometer ที่ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และเซ็นเซอร์ Proximity สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และกล้องดิจิทัลความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นเลนส์มุมกว้าง 75 องศา

ด้านหน้าส่วนล่างจะมีปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส (Touch Panel) ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีไมโครโฟน กับช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล

ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ กับปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง

ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะไม่มีปุ่มการสั่งงานใดๆ ให้ใช้งาน

ด้านหลังของตัวเครื่องจะมีพื้นผิวที่ดูคล้ายกับโลหะขัดลาย (Brushed Metal) ซึ่งช่วยให้ดูดีมีราคามากขึ้น โดยจะประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ซึ่งกล้องดิจิทัลนี้ เลือกเซ็นเซอร์คุณภาพสูง (เซ็นเซอร์ OV8865) และสามารถถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดี ส่วนที่ด้านล่างจะเป็นลำโพงเสียงภายนอก

และเมื่อเปิดฝาหลังออกมาก็จะพบกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4000 mAh ซึ่งเป็นแบบ Built-In Battery จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนด้วยตนเองได้

ถัดมาจะพบกับช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 1 แบบ microSIM, ช่องใส่ซิมการ์ดที่ 2 แบบ microSIM และช่องสำหรับเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ซึ่งรองรับได้สูงสุดที่ขนาด 32 GB
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
 
สำหรับ Infinix HOT Note X551 จะขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 5.1 (Lollipop)
 
Infinix HOT Note X551 ยังมีฟังก์ชันสำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ และยังสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้ เช่น หน้าจอหมุนอัตโนมัติตามลักษณะการใช้งาน หรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เป็นต้น
 
นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ ซึ่งภาพวอลเปเปอร์จะมีให้เลือกทั้งภายในเครื่อง และดาวน์โหลดเพิ่มเติมครับ
 
และการนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน
 
สำหรับธีมก็มีให้เลือกเปลี่ยนใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
 
นอกจากนี้ Infinix HOT Note X551 ยังมีแอปพลิเคชันดีๆ อย่าง XContacts สำหรับฝากไฟล์รายชื่อโทรศัพท์ไว้บนระบบคลาวด์อีกด้วย
 
ในส่วนของฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย มีการแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ อย่างชัดเจน และสามารถเข้าสู่รายชื่อโทรศัพท์ได้ทันที เพียงแค่เลือกที่ฟังก์ชันรายชื่อผู้ติดต่อ
 
คุณสามารถบันทึกข้อมูลต่างๆ หรือจดบันทึกไอเดียดีๆ ได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน บันทึกข้อความ
 
สำหรับการใช้งานเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตบน Infinix HOT Note X551 ก็ถือว่าตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี สามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ครบถ้วน แถมยังไม่มีอาการหน่วงอีกด้วย
 
Infinix HOT Note X551 สามารถเปิดอ่านไฟล์เอกสารได้ทั้ง Word, Excel, PowerPoint และ PDF ได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน WPS Office
 
ท่านสามารถสำรองข้อมูลต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น แอปพลิเคชัน, รายชื่อโทรศัพท์ หรือข้อความ ผ่านแอปพลิเคชัน สำรอง และกู้คืน (การสำรองข้อมูลจำเป็นต้องใส่หน่วยความจำภายนอกแบบ microSD เสียก่อน)
 
Infinix HOT Note X551 ยังมีโหมดการประหยัดพลังงานแบบพิเศษ ซึ่งเมื่อเปิดใช้งาน Infinix HOT Note X551 จะทำการปิดฟังก์ชันที่เกี่ยวกับการเชื่อมต่อทั้งหมด เหลือเพียงฟังก์ชันที่จำเป็นเท่านั้น เช่น ฟังก์ชันโทรศัพท์ หรือเครื่องคิดเลข เป็นต้น เพื่อประหยัดพลังงานให้มากที่สุดนั่นเอง
 
สำหรับหน่วยความจำภายในของ Infinix HOT Note X551 จะมีขนาด 16 GB พร้อมหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB
 
ส่วนบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานครบ เช่น Google Maps หรือ Google+ เป็นต้น
 
Infinix HOT Note X551 ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของเสียงด้วยอีควอไลเซอร์ได้อย่างหลากหลาย
 
ส่วนแอปพลิเคชันวิทยุ FM ก็มีให้ใช้งานบน Infinix HOT Note X551 และยังสามารถบันทึกเสียงวิทยุเอาไว้ฟังในภายหลังได้อีกด้วย

Infinix HOT Note X551 ยังสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) ได้แบบสบายๆ แต่ Infinix HOT Note X551 จะสามารถแสดงผลได้ที่ความละเอียดระดับ HD (720p) เท่านั้น เพราะหน้าจอแสดงผลของ Infinix HOT Note X551 มีความละเอียดอยู่ที่ 1280x720 พิกเซล นั่นเอง
 
สำหรับ Infinix HOT Note X551 จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core ARM Cortex-A7 Processor (ชิปเซ็ต MediaTek MT6592) ความเร็วในการประมวลผล 1.4 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-450 MP4, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 5.1 (Lollipop)

ด้วยคุณสมบัติตัวเครื่องที่ดีในระดับกลางๆ จึงทำให้ Infinix HOT Note X551 สามารถตอบโจทย์ด้านการเล่นเกมได้ดีพอสมควร เมื่อทดสอบกับเกมที่มีเอฟเฟกต์ระดับกลาง ก็สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น
 
และเมื่อนำ Infinix HOT Note X551 มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark จะได้คะแนนอยู่ที่ 30163 คะแนน

ต่อด้วยการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน GPUbench จะได้คะแนนอยุ่ที่ 15426 คะแนน

สำหรับ Infinix HOT Note X551 จะรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 5 จุด
 
ถ้าหากท่านใดต้องการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store
กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ
 
สำหรับฟังก์ชันกล้องดิจิทัลจะมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย อีกทั้งยังมีการแบ่งแยกไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน โดยจะมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้งานทั้งหมด 4 โหมดด้วยกัน คือ อัตโนมัติ, HDR, หน้าสวย (Beauty) และพาโนรามา
 
นอกจากนี้ ยังมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพให้เลือกใช้งานมากมาย
 
อีกทั้ง ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานกล้องถ่ายภาพได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การ เปิด-ปิด การระบุตำแหน่งบนภาพถ่าย, สามารถกำหนดฟังก์ชันให้กับปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียงได้ 4 แบบ คือ การเพิ่ม-ลด ระดับของเสียง, ซูม, ถ่ายวิดีโอ และกล้องถ่ายภาพ
 
สามารถ เปิด-ปิด เสียงชัตเตอร์ได้, สามารถ เปิด-ปิด การใช้งานตาราง 9 ช่องได้
 
สามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันการถ่ายภาพด้วยเสียงได้, สามารถ เปิด-ปิด การสัมผัสที่หน้าจอเพื่อถ่ายภาพได้
 
สามารถ เปิด-ปิด การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้ ซึ่งสามารถตั้งเวลาได้สูงสุดที่ 10 วินาที, สามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันการชูสองนิ้วเพื่อสั่งถ่ายภาพได้
 
สามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชัน การตรวจจับรอยยิ้มเพื่อถ่ายภาพได้, สามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้ โดยความละเอียดสูงสุดที่สามารถเลือกใช้งานได้ คือ 8 ล้านพิกเซล
 
สามารถ เปิด-ปิด EIS หรือระบบกันสั่นแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ (Electronic Image Stabilization), สามารถเลือกความละเอียดสำหรับการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 1080p

และยังสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
 
ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็ใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีเอฟเฟกต์ให้ใช้งานหลากหลายเช่นเดียวกับกล้องดิจิทัลด้านหลัง
 
อีกทั้ง ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานกล้องถ่ายภาพได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การ เปิด-ปิด การระบุตำแหน่งบนภาพถ่าย, สามารถกำหนดฟังก์ชันให้กับปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียงได้ 4 แบบ คือ การเพิ่ม-ลด ระดับของเสียง, ซูม, ถ่ายวิดีโอ และกล้องถ่ายภาพ
 
สามารถ เปิด-ปิด เสียงชัตเตอร์ได้, สามารถ เปิด-ปิด การใช้งานตาราง 9 ช่องได้
 
สามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันการถ่ายภาพด้วยเสียงได้, สามารถ เปิด-ปิด การสัมผัสที่หน้าจอเพื่อถ่ายภาพได้
 
สามารถ เปิด-ปิด การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้ ซึ่งสามารถตั้งเวลาได้สูงสุดที่ 10 วินาที, สามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันการชูสองนิ้วเพื่อสั่งถ่ายภาพได้
 
สามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชัน การตรวจจับรอยยิ้มเพื่อถ่ายภาพได้, สามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้ โดยความละเอียดสูงสุดที่สามารถเลือกใช้งานได้ คือ 2 ล้านพิกเซล
 
สามารถ เปิด-ปิด EIS หรือระบบกันสั่นแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ (Electronic Image Stabilization), สามารถเลือกความละเอียดสำหรับการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 720p

และยังสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล ของ Infinix HOT Note X551

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ HDR
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด หน้าสวย (Beauty) ของ Infinix HOT Note X551
 
ภาพถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty)
 
ภาพถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty)
สรุปผลการทดสอบของ Infinix HOT Note X551

นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่คุ้มค่าสมคำร่ำลือเลยทีเดียว สำหรับ Infinix HOT NOTE X551 โดยในด้านของการออกแบบดีไซน์ก็ถือว่าเรียบหรูลงตัวไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นขนาดของตัวเครื่องที่พอเหมาะ กับน้ำหนักที่พอดี จึงสามารถจับ หรือถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว ส่วนงานประกอบก็แน่นหนา อีกทั้งวัสดุที่ใช้ผลิตตัวเครื่องก็มีความแข็งแรงทนทาน นอกจากนี้ ฝาหลังยังเป็นพื้นผิวแบบด้านที่คล้ายโลหะขัดลาย จึงทำให้ไม่เปื้อนรอยนิ้วมือได้ง่ายอีกด้วย
ส่วนจุดขายสำคัญอย่างแรกของ Infinix HOT NOTE X551 ก็เห็นจะเป็นในเรื่องของแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 4000 mAh ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Super Fast Charging) กล่าวคือสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วกว่าปกติ 3 เท่า โดยสามารถชาร์จ 20 นาที และใช้งานต่อได้อีก 7 ชั่วโมงเลยทีเดียว คุณจึงมั่นใจได้ว่าสามารถใช้งาน Infinix HOT NOTE X551 ได้นานตลอดทั้งวันอย่างแน่นอน
และอีกหนึ่งความน่าสนใจบน Infinix HOT NOTE X551 คือ มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ IPS ที่มีขนาดใหญ่เต็มตาถึง 5.5 นิ้ว กับความละเอียดระดับ HD (720p) ที่สามารถตอบโจทย์ด้านการแสดงผลได้อย่างดีเยี่ยม แถมยังมีมุมมองที่กว้างอีกต่างหาก
ในขณะที่คุณสมบัติอื่นๆ ก็ถือว่าครบเครื่องไม่แพ้คู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core ARM Cortex-A7 Processor (ชิปเซ็ต MediaTek MT6592) ความเร็วในการประมวลผล 1.4 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-450 MP4, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 5.1 (Lollipop) ซึ่งจากการทดสอบในด้านของการใช้งานทั่วไป ไปจนถึงการชมภาพยนตร์ความละเอียดสูง หรือการเล่นเกมกราฟิกสวยๆ Infinix HOT NOTE X551 ก็สามารถตอบสนองการใช้งานได้แบบไม่มีอาการหน่วงแต่อย่างใด
สำหรับกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพแบบ OV8865 ที่ช่วยให้ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดี ก็ถือว่าตอบสนองต่อการใช้งานทั่วไปได้อย่างเหลือเฟือ ภาพถ่ายที่ได้ก็มีความคมชัด สีสันสดใส แม้จะถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยก็ตาม แถมยังมีโหมดการถ่ายภาพ กับเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลายอีกด้วย ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล แม้จะมีความละเอียดไม่มากนัก แต่ก็ตอบสนองการใช้งานในระดับพื้นฐานได้ดี อีกทั้งยังเป็นเลนส์มุมกว้าง 75 องศา จึงสามารถถ่ายภาพเซลฟี่พร้อมครอบครัว หรือกับเพื่อนๆ ได้แบบสบายๆ

นอกจากนี้ Infinix HOT NOTE X551 ยังรองรับการใช้งานได้พร้อมกันถึง 2 ซิมการ์ด พร้อมรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 3G แต่ก็น่าเสียดายไม่น้อย ที่ไม่รองรับ 3G ในคลื่นความถี่ 850 MHz รวมถึงไม่รองรับการใช้งานร่วมกับเครือข่ายความเร็วสูงแบบ 4G LTE ซึ่งนี่ก็อาจจะเป็นจุดที่ทำให้ผู้ซื้อต้องพิจารณาเป็นพิเศษ
สำหรับ Infinix HOT NOTE X551 ได้เปิดราคาค่าตัวออกมาเพียงแค่ 4,190 บาท เท่านั้น ซึ่งหากเทียบกับคุณสมบัติโดยรวมก็นับว่าคุ้มค่าไม่แพ้สมาร์ทโฟนรุ่นคู่แข่งในระดับราคาไม่เกิน 5,000 บาท โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 สีด้วยกัน คือ สีเขียวมิ้นต์, สีเทา, สีทองแชมเปญ และสีน้ำตาลแดง สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถสั่งซื้อ Infinix HOT NOTE X551 ได้ที่ Lazada.co.th สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Infinix ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Infinix HOT NOTE X551 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Infinix HOT Note X551
- มีดีไซน์ภายนอกที่ดูเรียบหรู ด้วยฝาหลังที่มีพื้นผิวคล้ายโลหะขัดลาย (Brushed Metal)
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels (HD 720p : กว้าง 5.5 นิ้ว : 267 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-450 MP4
- ประมวลผลการทำงานด้วย Octa-Core ARM Cortex-A7 Processor (ชิปเซ็ต MediaTek MT6592) ความเร็วในการประมวลผล 1.4 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1 (Lollipop)
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 32 GB
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 5.1 (Lollipop)
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์รับภาพแบบ OV8865 พร้อมไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels : 30 fps)
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 2 ล้าน Pixels พร้อมเลนส์มุมกว้าง 75 องศา
- โหมดถ่ายภาพแบบ Beauty
- รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Video Calling (สนทนาพร้อมภาพวิดีโอ)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 3G HSPA+, EDGE และ GPRS
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby)
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
- ชนิดแบตเตอรี่ Li-Ion Polymer 4000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Super Fast Charging) (ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วกว่าปกติ 3 เท่า : ชาร์จ 20 นาที ใช้งานได้นาน 7 ชั่วโมง : ชาร์จได้ 75% ภายในเวลา 55 นาที)
- มีวิทยุ FM Stereo ในตัว
- มีราคาที่ย่อมเยาเพียง 4,190 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Infinix HOT Note X551
- ไม่รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE
- ไม่รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 3G ในคลื่นความถี่ 850 MHz (รองรับเพียงคลื่นความถี่ 900/2100 MHz)
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักค่อนข้างมาก
- มีจำหน่ายเฉพาะที่เว็บไซต์ Lazada.co.th เท่านั้น
- กล้องดิจิทัลด้านหน้ามีความละเอียดเพียงแค่ 2 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่เป็นแบบ Built-In จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Infinix HOT NOTE X551 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
Infinix HOT NOTE X551 Specification

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|