รีวิว (Review) Huawei P8 (GRA-UL00)

สมาร์ทโฟน  4G ดีไซน์พรีเมียมบางเฉียบ พร้อมซีพียู Octa-Core 64-bit, RAM 3 GB, กล้องดิจิทัล 13 ล้านพิกเซล, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และหน่วยประมวลผลเพื่อการถ่ายภาพโดยเฉพาะแบบ DSLR-Level Image Signal

Review Date (6-สิงหาคม-2558)

Huawei P8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายมือถือยักษ์ใหญ่จากแดนมังกร ซึ่งจะว่าไปแล้วแบรนด์ Huawei ก็เพิ่งทำอันดับขึ้นครองตำแหน่งผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 3 ของโลกไปสดๆ ร้อนๆ [ข้อมูลเพิ่มเติม] โดย Huawei P8 รุ่นนี้ โดยเด่นด้วยดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยหรูดูพรีเมียม, มีความบางเฉียบเพียง 6.4 มิลลิเมตร และดูแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน กับเทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Unibody Aluminum Alloy 

และแน่นอนว่าสำหรับเรือธงอย่าง Huawei P8 นั้นก็ไม่ได้มีจุดเด่นในด้านการออกแบบดีไซน์แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติระดับไฮเอนด์ที่จัดมาให้อย่างเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาดใหญ่ 5.2 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p พร้อมหน่วยการประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะแบบ Mali-T624 รวมไปถึงซีพียู Octa-Core 64-bit HiSilicon Kirin 930/935, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB และระบบปฏิบัติการ Android 5.0 (Lollipop) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่สดใหม่ที่สุดในขณะนี้

ส่วนกล้องดิจิทัลที่ด้านหลังของตัวเครื่องนั้นจะมีความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization), เทคโนโลยีเซ็นเซอร์รับภาพแบบ 4-Color RGBW Imaging, หน่วยประมวลผลสำหรับการถ่ายภาพแบบ DSLR-Level Image Signal Processor, ไฟแฟลชแบบ Dual-Tone และกล้องดิจิทัลที่ด้านหน้า ซึ่งมีความละเอียดมากถึง 8 ล้านพิกเซล เรียกได้ว่าชัดเจนถึงรูขุมขนทั้งกล้องด้านหน้า และกล้องด้านหลังเลยทีเดียว ส่วนการใช้งานอินเทอร์เน็ตก็หายห่วงเพราะสามารถรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านทางระบบ 4G LTE และ 3G ได้ครบทุกคลื่นความถี่ในบ้านเรา

และวันนี้ทางทีมงานได้มีโอกาสนำสมาร์ทโฟน Huawei P8 ตัวจริงเสียงจริงมารีวิวให้ผู้อ่านได้ชมกัน โดยเป็นโมเดล GRA-UL00 ซึ่งเป็นโมเดลเดียวกันกับเครื่องที่วางจำหน่ายในประเทศไทย อย่างไรก็ดีสมาร์ทโฟน Huawei P8 ที่ทีมงานนำมารีวิวนั้นยังเป็นเพียงเครื่องทดสอบเท่านั้น ซึ่งระบบเฟิร์มแวร์ของเครื่องทดสอบนั้นอาจยังไม่ใช่เฟิร์มแวร์ที่สมบูรณ์ 100% และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราลองมาติดตามไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าว่า  Huawei P8 รุ่นนี้จะมีความโดดเด่นสมคำร่ำลือหรือไม่ จะสร้างความประทับใจได้มากน้อยเพียงใด และจะคุ้มค่ากับค่าตัวที่ 15,990 บาท ขนาดไหน

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Huawei P8 จะใช้จอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้ว ซึ่งมีความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 พิกเซล) พร้อมกระจกหน้าจอสุดแกร่งแบบ Gorilla Glass 3

ด้านหน้าส่วนบนนั้น จะประกอบไปด้วยเลนส์กล้องดิจิทัล ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถัดมาก็คือ ลำโพงหูฟังสำหรับการสนทนา รวมไปถึงเซ็นเซอร์ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา และระบบ Accelerometer Sensor ที่ช่วยหมุน หรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้

ด้านหน้าส่วนล่างประกอบไปด้วย ปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัสบนหน้าจอ ได้แก่ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Multitasking

ด้านข้างส่วนบนนั้นก็จะประกอบด้วย ช่องสำหรับเชื่อมต่อชุดหูฟังมาตรฐาน ขนาด 3.5 มิลลิเมตร และ ไมโครโฟน ตัวที่ 2 สำหรับการตัดเสียงรบกวน

ด้านข้างส่วนล่างนั้นจะประกอบไปด้วย ไมโครโฟนสำหรับการสนทนา หรือ บันทึกเสียง (ด้านขวา) และลำโพงเสียงภายนอก (ด้านซ้าย) ส่วนตรงกลางจะเป็นช่อง microUSB สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ หรือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์

ด้านข้างฝั่งขวานั้น จะมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM ถาดที่ 1 และถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM ถาดที่ 2 พร้อมทั้งสลับเป็นเป็นถาดใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ที่รองรับได้สูงสุดขนาด 128 GB ได้อีกด้วย โดยฝาที่ปิดถาดซิมการ์ดนั้นสามารถเปิดได้ไม่ยาก เพียงแค่ใช้ SIM Door Key ที่แถมมาให้ในกล่อง ซึ่งสามารถเปิดได้โดยจิ้มเข้าไปในช่อง และถาดซิมการ์ดนั้นจะดันตัวออกมา

ส่วนด้านข้างฝั่งซ้ายนั้น จะไม่มีปุ่ม หรือช่องใดๆ โดยขอบตัวเครื่องจะเป็นวัสดุโลหะ ซึ่งมีพื้นผิวกึ่งมันกึ่งด้าน ทำให้ดูมีความพรีเมียมสวยหรู และดูมีความแข็งแรงทนทาน

วัสดุด้านหลังตัวเครื่องนั้นทำมาจากโลหะ ซึ่งช่วยในการระบายความร้อนของตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี โดย Huawei P8 นั้นไม่สามารถถอดฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ ส่วนแบตเตอรี่จะมีความจุอยู่ที่ 2680 mAh ซึ่งถือว่าไม่มากนักถ้าเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นเรื่อธงของคู่แข่งในปัจจุบัน

ด้านหลังส่วนบนนั้น ประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัล ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4128x3096 Pixels ถัดมาจะเป็นไฟแฟลชแบบ Dual-LED ซึ่งที่พิเศษคือจะเป็นไฟแฟลชแบบ 2 สี (Dual-Tone) ที่ช่วยให้แสงแฟลชที่ได้ดูมีความเป็นธรรมชาติมากกว่าไฟแฟลชแบบทั่วไป

ส่วนด้านหลังส่วนล่างนั้น จะไม่มีปุ่ม หรือช่องเชื่อมต่อใดๆ

สำหรับอุปกรณ์ที่มีมาให้ในชุดจำหน่ายมาตรฐานนั้นจะประกอบไปด้วย หูฟังแบบสเตอริโอ พร้อมหัวต่อมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, คู่มือการใช้งาน, ใบรับประกันตัวเครื่อง, อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ พร้อมสาย microUSB สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ และ SIM Door Key

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

Huawei P8 มาพร้อมหน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core 64-bit HiSilicon Kirin 930/935 (ซีพียู Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 2.0 GHz และ Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.5 GHz) และหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T624 รวมไปถึงหน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB

และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.0 (Lollipop) พร้อม User Interface แบบ Emotion UI เวอร์ชัน 3.1

ส่วนพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลภายในขนาด 16 GB จะเหลือให้ใช้งานได้จริงเพียงแค่ 9.28 GB แต่ก็สามารถรองรับการใส่การ์ดหน่วยความจำเสริมเพิ่มเติมแบบ microSD Card ได้สูงสุดขนาด 128 GB

ในส่วนของการ เปิด-ปิด เครื่องนั้น จะมีคำสั่งปิดเครื่อง, รีบู๊ต, โหมดใช้งานบนเครื่องบิน และการตั้งค่าเสียง

สำหรับ User Interface ในหน้า Lock Screen นั้นจะมี Notification Bar ที่อยู่ด้านล่าง พร้อมทั้งแอปพลิเคชันลัดบางส่วน เพื่อการใช้งานที่สะดวกรวดเร็วอีกด้วย

หน้า Home Screen นั้นถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่าย พร้อมทั้งยังมีแอปพลิเคชันติดตั้งมาให้อย่างครบครัน  ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันพื้นฐานจาก Google  และแอปพลิเคชัน เบ็ดเตล็ด ต่างๆ อย่างเช่น แอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศ ,เครื่องคิดเลข, เครื่องบันทึกเสียง และวิทยุ เป็นต้น

เมื่อกดปุ่มตั้งค่าหน้าจอ ผู้ใช้งานก็สามารถทำการตกแต่ง เพิ่มวิดเจ็ต, ธีม, วอลเปเปอร์ ในหน้า Home Screen ได้ด้วยตัวเอง และยังมี วิดเจ็ต ให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ

เมื่อกดปุ่ม Multitasking ก็จะเข้าสู่โหมด Recent Apps ซึ่งจะแสดงประวัติแอปพลิเคชันทั้งหมดที่เคยใช้งานล่าสุด และสามารถแตะที่ไอคอนแอปพลิเคชันนั้น เพื่อสลับการทำงานของแอปพลิเคชันในปัจจุบัน รวมไปถึงการปัดขึ้นเพื่อปิดการทำงานของแอปพลิเคชัน

และเมื่อปัดขอบหน้าจอด้านบนลงมาก็จะเข้าสู่โหมด Notification Bar โดยด้านบนนั้นจะมีการแจ้งเตือนสถานะต่างๆ พร้อมทั้งยังสามารถบล็อค หรือ ลบการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันที่ไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย พร้อมทั้งยังสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้ ไม่ว่าจะเป็น WiFi, บลูทูธ, การสั่นเตือน, หมุนหน้าจออัตโนมัติ, การเชื่อมต่อข้อมูล GPS และการปรับแสงหน้าจอ เป็นต้น

ในส่วนของฟังก์ชันโทรศัพท์ มีการออกแบบให้ใช้งานง่าย และสามารถ เลือกเก็บบันทึกเบอร์ผู้ติดต่อใหม่ได้ตามที่ต้องการ พร้อมทั้งยังมีคีย์บอร์ดแบบ Swype Keyboard มาให้ใช้งานเช่นกัน และสามารถพิมพ์ด้วยเสียงได้อีกด้วย

และยังรองรับการใช้งาน Email ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Hotmail รวมไปถึงการใช้งาน POP3 เป็นต้น

ส่วนการใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ ไม่ว่าจะป็นเบราว์เซอร์ Android หรือ เบราว์เซอร์ Chrome นั้นถือว่ามีความรวดเร็ว และราบรื่น

Huawei P8 มาพร้อมกับโปรแกรมเรียกดูไฟล์ ซึ่งสามารถเรียกดูไฟล์ และข้อมูลแบบแยกประเภทได้ พร้อมทั้งยังรองรับ เทคโนโลยี USB OTG (USB On-the-Go) ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นทางผ่าน

ส่วนการใช้งานด้านฟังเพลง Huawei P8 จะมีแอปพลิเคชันสำหรับการฟังเพลง พร้อมระบบเสียงแบบ DTS มาให้ในเครื่อง ซึ่งสามารถดูรายการเพลงทั้งหมด, ชื่อศิลปิน, อัลบั้ม, และรายการเพลงโปรด รวมไปถึงการรองรับไฟล์เพลงมาตรฐานแบบ MP3, WAV, AAC, WMA และอื่นๆ

ส่วนแอปพลิเคชัน Youtube ในการเข้าชมคลิปวีดีโอต่างๆ แบบออนไลน์ ก็ติดตั้งมาให้ใช้งานด้วย พร้อมทั้งแอปพลิเคชันสำหรับการชมภาพยนตร์ ก็สามารถเปิดเล่นไฟล์ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD) ได้อย่างราบรื่นเลยทีเดียว รวมไปถึงระบบเสียงแบบ DTS ก็ติดตั้งมาให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

ด้านความสามารถในการเล่นเกม ถือว่าดีในระดับหนึ่ง โดย Huawei P8 นั้นมาพร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก แบบ Mali-T624 ซึ่งสามารถรองรับการเล่นเกมที่ใช้กราฟิกในระดับสูงได้ดี และผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดเกม หรือแอปพลิเคชันมาติดตั้งเพิ่มเติมได้จาก Google Play Store

แอปพลิเคชัน และฟังก์ชันอื่นๆ ที่น่าสนใจบน Huawei P8

Huawei P8 จะมาพร้อมฟีเจอร์ตัดภาพหน้าจอ และจับภาพหน้าจอแบบ Knuckle Sense Technology ซึ่งผู้ใช้งานสามารถใช้ข้อนิ้วมือ แตะหน้าจอสองครั้ง เพื่อแคปภาพหน้าจอ หรือตัดภาพหน้าจอ เพียงข้อนิ้วมือหมุนที่หน้าจอเป็นวงกลม ก็จะสามารถเลือกตัดภาพหน้าจอได้ตามที่ต้องการ

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ Director Mode ซึ่งจะเป็นโหมดผู้กำกับที่ช่วยให้คุณ และเพื่อนๆ จัดทำวิดีโอแบบพิเศษร่วมกัน โดยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้สูงสุด 3 เครื่อง ผ่านระบบ Wi-Fi พร้อมทั้งยังสามารถตัดต่อวิดีโอได้ตามที่ต้องการอีกด้วย

ทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้วยโปรแกรมทดสอบต่างๆ

 Huawei P8 นั้นรองรับการสัมผัสพร้อมกันได้สูงสุด 10 จุด แต่เมื่อลองทดสอบระบบสัมผัสแล้ว มีบางช่วงที่ระบบระบบสัมไม่ตอบสนอง ซึ่งเป็นไปได้ว่าซอฟต์แวร์ในเครื่องทดสอบนี้อาจจะยังไม่สมบูรณ์

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้าน GPS ในพื้นที่เปิดโล่ง ด้วยแอปพลิเคชัน AndroiTS GPS Test จะเห็นว่าสามารถรับสัญญาณจากดาวเทียมได้โดยประมาณ 18 ดวง ล็อกสัญญาณได้ 10 ดวง และระดับความแรงของสัญญาณ อยู่ในช่วงประมาณ 1-88 ส่วนระดับความแม่นยำโดยประมาณอยู่ที่ 12 เมตร

และเมื่อทดสอบอีกครั้งบนพื้นที่เปิดโล่งด้วยแอปพลิเคชัน GPS Test ซึ่งรับสัญญาณจากดาวเทียมได้โดยประมาณ 18 ดวง ล็อกสัญญาณได้โดยประมาณ 10 ดวง และระดับความแรงของสัญญาณอยู่ในช่วงประมาณ 14-43 ส่วนระดับความแม่นยำโดยประมาณอยู่ที่ 20 ฟุต อย่างไรก็ดี ผลการทดสอบการรับสัญญาณดาวเทียมในแต่ละช่วงเวลาก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมขณะทดสอบ เช่นท้องฟ้าเปิดโล่งมากน้อยขนาดไหน หรือมีอาคารสถานที่มาบดบังสัญญาณมากน้อยเพียงใด

ในตัวเครื่อง Huawei P8 นั้นสามารถใช้งานระบบ GPS และ A-GPS ร่วมกับ แอปพลิเคชัน Google Maps และแอปพลิเคชันนำทางต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

รวมไปถึงเกม ต่างๆ ที่ต้องใช้ระบบ GPS และ A-GPS ในการนำทาง ก็สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวมด้วยแอปพลิเคชัน Antutu Benchmark แบบ 64-Bit ผลคะแนนจะออกมาอยู่ที่ 33,552 คะแนน

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวมด้วยแอปพลิเคชัน PCMark for Android ผลคะแนนจะออกมาอยู่ที่ 3,530 คะแนน

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวมด้วยแอปพลิเคชัน Vellamo ผลคะแนนในส่วนของเบราว์เซอร์จะแบ่งออกเป็น 2 เบราว์เซอร์ ซึ่งเบราว์เซอร์ที่ติดตั้งมากับเครื่อง คะแนนจะออกมาอยู่ที่ 1,851 คะแนน และเบราว์เซอร์ Chrome จะออกมาอยู่ที่ 2,153 คะแนน ส่วนผลคะแนนของ Multicore จะออกมาอยู่ที่ 1,658 คะแนน และคะแนนในส่วนของ Metal จะออกมาอยู่ที่ 1,147 คะแนน

เเมื่อทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวมด้วยแอปพลิเคชัน AndEBench ผลคะแนน Native จะออกมาอยู่ที่ 10,077 คะแนน และผลคะแนน Java จะออกมาอยู่ที่ 1,362 คะแนน

กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ

สำหรับกล้องดิจิทัลด้านหลังบน Huawei P8 นั้นมีความละเอียดสูงสุดที่ 13 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.0, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization), เทคโนโลยีเซ็นเซอร์รับภาพแบบ 4-Color RGBW Imaging (Red, Green, Blue, White), หน่วยประมวลผลสำหรับการถ่ายภาพโดยเฉพาะแบบ DSLR-Level Image Signal Processor พร้อมทั้งสามารถสลับเปลี่ยนเป็นกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ซึ่งมีความละเอียดสูงสุดถึง 8 ล้านพิกเซล ได้ด้วยการกดที่ไอคอนรูปม้วนกลับที่ด้านซ้ายของรูปภาพ และยังสามารถเปลี่ยนโหมดการใช้งานต่างๆ เช่น ภาพวาดด้วยแสง, แต่งสวย และวิดีโอ เป็นต้น

และโหมดการถ่ายภาพ นั้นสามารถปรับระดับแสงได้ตามที่ต้องการ

โดยจะมีโหมดการถ่ายภาพที่น่าสนใจต่างๆ ให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็น โหมดถ่ายภาพแบบ HDR, โหมดถ่ายภาพแบบ พาโนรามา, ลายน้ำ, โหมดกลางคืนขั้นสูง และโหมดโฟกัสทั้งหมด เป็นต้น

รวมไปถึงโหมดการถ่ายภาพแสงสวยๆ แบบต่างๆ และโหมดแต่งสีภาพถ่าย ก็มีมาให้ใช้งานเช่นกัน

ในส่วนของการตั้งค่านั้นยังสามารถปรับแต่งความละเอียดของภาพถ่ายได้หลายระดับ รวมไปถึงตั้งค่า GPS, ปิดเสียง ตั้งเวลาถ่ายภาพ, ค่าไวต์บาลานซ์ และค่า ISO เป็นต้น

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ Huawei P8

ทดสอบถ่ายภาพด้วยโหมด HDR

ทดสอบถ่ายภาพด้วยโหมด พาโนรามา

สรุปผลการทดสอบของ Huawei P8 (GRA-UL00)

หลังจากที่ได้ทำการทดสอบสมาร์ทโฟน Huawei P8 (GRA-UL00) รุ่นนี้มาพอสมควรแล้ว ก็พอจะสรุปได้ว่า Huawei P8 นั้นเป็นสมาร์ทโฟน 4G ที่มีจุดขายสำคัญในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องที่มีความสวยหรูบางเฉียบ ดูเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมอย่างแท้จริง โดยวัสดุตัวเครื่องทำมาจากโลหะ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody Aluminum Alloy และตัวเครื่องยังมีขนาดที่กำลังเหมาะมือ สามารถพกพาได้สะดวกคล่องตัว มีหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่กำลังดีที่ 5.2 นิ้ว กับความละเอียดคมชัดระดับ Full HD 1080p ที่ชัดเจนเหลือเฟือ

ส่วนประสิทธิภาพของการประมวลผลก็ถือว่าสามารถรองรับกับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ ด้วยซีพียู Octa-Core 64-bit HiSilicon Kirin 930/935 พร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB และระบบปฏิบัติการ Android 5.0 (Lollipop) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่สดใหม่ที่สุดในขณะนี้

และอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญก็คือ กล้องดิจิทัลด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ที่มาระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization) และเทคโนโลยีเซ็นเซอร์รับภาพแบบ 4-Color RGBW Imaging (Red, Green, Blue, White) รวมไปถึงหน่วยประมวลผลสำหรับการถ่ายภาพโดยเฉพาะแบบ DSLR-Level Image Signal Processor ซึ่งทำให้การถ่ายภาพในแต่ละครั้ง ออกมาสดใส และสวยงาม มากเลยทีเดียว โดยเฉพาะการถ่ายภาพแสงไฟแบบต่างๆ นั้น ถือว่าทำได้โดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง และด้วยไฟแฟลชแบบ Dual-Tone จึงช่วยให้แสงแฟลชมีโทนสีที่ดูเป็นธรรมชาติ ถ่ายหน้าคนออกมาได้สวยๆ หล่อๆ มากกว่าที่เคย ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีความคมชัดไม่แพ้กัน ด้วยความละเอียดที่มากถึง 8 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว

ส่วนด้านมัลติมีเดียก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ตั้งแต่การรับชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงระดับ Full HD ซึ่งหน้าจอแสดงผลออกมาได้อย่างลื่นไหลคมชัดเต็มประสิทธิภาพ รวมไปถึงการเล่นเกมต่างๆ ที่มีความละเอียดกราฟิกในระดับสูง ก็ทำออกมาได้ดี แต่อาจมีบางเกมที่จะมีอาการสะดุด หรือหน่วงอยู่บ้าง ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นเพราะสมาร์ทโฟน Huawei P8 ที่ทีมงานนำมารีวิว ยังเป็นแค่เครื่องทดสอบเท่านั้น ดังนั้นซอฟต์แวร์ระบบที่อยู่ภายในนั้นก็อาจจะยังไม่ใช่ซอฟต์แวร์ที่สมบูรณ์ 100%

นอกจากนี้ Huawei P8 นั้นสามารถรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด พร้อมทั้งสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านทางระบบ 3G และ 4G LTE ได้ทุกคลื่นความถี่ แต่ก็น่าเสียดายเล็กน้อยที่ Huawei P8 โมเดล GRA-UL00 นี้ ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC

สำหรับราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของ Huawei P8 รุ่นนี้ จะอยู่ที่ 15,990 บาท ซึ่งก็ถือว่าเป็นราคาที่ไม่สูงจนเกินไปสำหรับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงสักเครื่องหนึ่ง ท่านใดที่สนใจก็สามารถหาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ สุดท้ายนี้ทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ ต้องขอขอบคุณทาง หัวเว่ยประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Huawei P8 มาให้ทางทีมงานรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

จุดเด่นของ Huawei P8 (GRA-UL00)

- ตัวเครื่องมีการออกแบบดีไซน์ที่สวยหรูบางเฉียบ ดูเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม ด้วยเทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody Aluminum Alloy
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.2 นิ้ว : 424 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T624
- กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 3 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน 
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit HiSilicon Kirin 930/935 (ซีพียู Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 2.0 GHz และ Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.5 GHz)
- User Interface แบบ Emotion UI เวอร์ชัน 3.1
- เทคโนโลยี Knuckle Sense รองรับการสั่งงานด้วยข้อนิ้ว
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.0 (Lollipop)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, 4G LTE, HSPA+, EDGE และ GPRS
- รองรับการใช้งานระบบ 4G LTE และ 3G ทุกคลื่นความถี่
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
- รองรับเทคโนโลยี USB OTG (USB On-the-Go) ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นทางผ่าน
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization), ไฟแฟลชในตัว (Dual-LED : Dual Tone) และมีขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.0
- เทคโนโลยีเซ็นเซอร์รับภาพแบบ 4-Color RGBW Imaging (Red, Green, Blue, White)
- หน่วยประมวลผลสำหรับการถ่ายภาพโดยเฉพาะแบบ DSLR-Level Image Signal Processor
- รองรับการถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels : 30 fps)
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Huawei P8 (GRA-UL00)

- ไม่รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC (Near Field Communication)
- พื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลภายในขนาด 16 GB เหลือให้ใช้งานจริงอยู่เพียงแค่ประมาณ 9.28 GB
- แบตเตอรี่มีความจุไม่มากนัก คือมีความจุ 2680 mAh ซึ่งด้วยหน้าจอที่ใหญ่ถึง 5.2 นิ้ว และฟีเจอร์โดยรวม หากมีการใช้งานหนักๆ ก็อาจจะต้องมีการชาร์จแบตเตอรี่อยู่เป็นระยะ
- เมื่อเล่นเกมไปสักพัก ตัวเครื่องจะร้อนพอสมควร
- ซอฟต์แวร์โดยรวมของเครื่องทดสอบยังไม่เสถียรเท่าที่ควร (แต่อาจมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นในเวอร์ชันที่วางจำหน่ายจริง)
- ไม่สามารถถอดฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Huawei P8 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้

Huawei P8 Specification

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::