รีวิว (Review) Huawei P20 Pro
เรือธงกล้อง Leica Triple Camera 40 ล้านพิกเซล ผสาน Master AI สุดอัจฉริยะ ที่เกิดมาเพื่อการถ่ายภาพ! พร้อมจอไร้ขอบ OLED FullView Display ขนาด 6.1 นิ้ว, ชิปเซ็ต Kirin 970, RAM ใหญ่ 6GB, ROM จุใจ 128GB, กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล, เทคโนโลยี Dual 4.5G, แบตเตอรี่ SuperCharge สุดอึด 4000 mAh และระบบปฏิบัติการ Android 8.1 ใหม่ล่าสุด บนบอดี้กันน้ำสี Twilight ไล่เฉดที่สวยเด่นเกินใคร!
Review
Date (5 เมษายน 2561)

เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ Huawei P20 และ P20 Pro สองสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดประจำช่วงต้นปีของ Huawei โดยภายในงานเปิดตัวในช่วงค่ำคืนวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมานั้น Huawei ก็ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ใช้ทั่วโลก ด้วยการเผยโฉม Huawei P20 Pro ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีกล้องถ่าย
าพที่ก้าวล้ำขึ้นไปอีกขั้นด้วยกล้องถ่ายภาพที่ด้านหลัง 3 ตัว (Leica Triple Camera) กับความละเอียดที่สูงถึง 40 ล้านพิกเซล และล่าสุดวานนี้ก็มีการประกาศราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยออกมาแล้วเช่นกัน โดยมีราคาอยู่ที่ 19,990 บาท และ 27,990 บาท ตามลำดับ
สำหรับกล้อง Leica Triple Camera ที่ด้านหลังนั้นแบ่งออกเป็น กล้องตัวแรกความละเอียด 40 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์รับภาพสี (RGB), กล้องตัวที่สองความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochrome) และกล้องตัวที่สามเป็นเลนส์ Telephoto ทางยาวโฟกัส 80mm ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สำหรับการละลายฉากหลังในการถ่ายภาพบุคคลโดยเฉพาะ โดยกล้องทั้ง 3 ตัวใช้เลนส์ LEICA VARIO-SUMMILUX-H1:1.6-2.4/27-80ASPH ซึ่งมีคุณภาพสูงที่สุดของ
Huawei ด้วย ส่วนขนาดเม็ดพิกเซลมีขนาดอยู่ที่ 2 ไมครอน ซึ่งขนาดเม็ดพิกเซลที่ใหญ่เช่นนี้ทำให้กล้องสามารถเก็บรายละเอียดภาพได้มากยิ่งขึ้น พร้อมระบบโฟกัสที่รวดเร็วฉับไวด้วย Laser Duo Focus พร้อมฟีเจอร์เด็ดที่สามารถซูมภาพได้สูงสุดถึง 5 เท่า ผ่านระบบ Hybrid Zoom โดยแบ่งเป็นแบบ Optical Zoom ที่ 3 เท่า (Optical Zoom 3x) นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์การถ่ายถ่ายภาพวิดีโอแบบ Super Slow Motion 960fps และชูโรงในด้านการถ่ายภาพในที่แสงน้อย รวมถึงเทคโนโลยี Huawei AIS (AI Image Stabilization)
สำหรับป้องกันภาพสั่นไหวที่พัฒนาขึ้นเองอีกด้วย ซึ่งด้วยความสามารถด้านการถ่ายภาพมากมายข้างต้นนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจที่สถาบันทดสอบกล้องถ่ายภาพชื่อดังของโลกอย่าง DxOMark ได้ให้คะแนนกล้องถ่ายภาพของ Huawei P20 Pro ไว้สูงถึง 109 คะแนน เรียกได้ว่าเป็นคะแนนที่สูงที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่ทาง DxOMark ทดสอบมาก่อนหน้านี้เลยทีเดียว

Huawei P20 Pro ไม่ได้มีเพียงแต่จุดเด่นด้านกล้องถ่ายภาพอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในด้านคุณสมบัติตัวเครื่องก็เรียกได้ว่าจัดเต็มมาให้ใช้งานในระดับไฮเอนด์เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ 3D Curved Metal-Glass ด้วยกรอบโลหะผสานกระจกที่ด้านหน้า และด้านหลัง, หน้าจอแสดงผลแบบไร้ขอบ OLED FullView Display ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (2240x1080 พิกเซล) ในอัตราส่วน 18.7:9, ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core 64-bit Hisilicon Kirin
970 ความเร็วในการประมวลผล 2.4 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G72 MP12, หน่วยประมวลผลแยกแบบ Neural Network Processing Unit (NPU) สำหรับช่วยประมวลผลการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ (A.I.) โดยเฉพาะ, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) ที่สามารถแสตนบาย 4.5G ได้ทั้งสองซิมการ์ด, รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่าย 4G LTE, ลำโพงเสียงคู่แบบ Stereo Spaeker, รองรับระบบเสียง
Dolby Atmos, ฟีเจอร์ปลดล็อกตัวเครื่องด้วยใบหน้า (Face Unlock), คุณสมบัติป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นมาตรฐาน IP67, แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh รองรับระบบ SuperCharge และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ซึ่งถูกครอบทับด้วย EMUI 8.1 เวอร์ชันล่าสุด
จากคุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้นที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นก็อาจสรุปได้อย่างคร่าวๆ ว่า Huawei P20 Pro จัดเต็มเรื่องเทคโนโลยี และประสิทธิภาพในการใช้งานต่างๆ สมฐานะเรือธงมากทีเดียว วันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter จึงจะพาทุกท่านไปเจาะลึกถึงประสิทธิภาพ, ความสามารถ และความรู้สึกหลังจากได้ทดลองใช้งาน Huawei P20 Pro มาสักระยะหนึ่ง พร้อมรับชมภาพถ่ายทดสอบกันว่าจะสวยงามเพียงใด หากพร้อมแล้วขอเชิญติดตามชมรีวิว (Review) Huawei P20 Pro ฉบับนี้ไปพร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Huawei P20 Pro มีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 155x73.9x7.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 180 กรัม ส่วนหน้าจอแสดงผลเป็นแบบไร้ขอบ OLED FullView Display ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (2240x1080 พิกเซล) ในอัตราส่วน 18.7:9

ด้านหน้าส่วนบนประกอบด้วย ตัวรับสัญญาณ, Accelerometer Sensor, Proximity Sensor และ Ambient Light Sensor, ลำโพงสำหรับการสนทนา และกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0

ด้านหน้าส่วนล่างประกอบด้วย ปุ่ม Home Edgeless Fingerprint แบบใหม่ ที่ใช้งานแบบ Smart Navigation พร้อมติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ไว้ในตัว

ด้านขวาประกอบด้วย ปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับเสียง


ด้านซ้ายประกอบด้วย ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ 2 Slot ซึ่งสามารถแสตนบายการใช้งานอินเทอร์เน็ต 4.5G ได้ทั้ง 2 ซิมการ์ด

ด้านล่างประกอบด้วย ลำโพงหลักของตัวเครื่อง และช่องเชื่อมต่อ USB Type-C

ด้านบนประกอบด้วยไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน และเซ็นเซอร์อินฟราเรด

ด้านหลังประกอบด้วย กล้องด้านหลัง 3 ตัว (Triple-Camera) ความละเอียด 40+20+8 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8+F/1.6+F/2.4 พร้อมฟีเจอร์ Super Slow Motion 960fps และเทคโนโลยี Huawei AIS (AI Image Stabilization)

ตัวเครื่องด้านหลังของ Huawei P20 Pro ใช้ดีไซน์แบบ Metal-Glass ทำให้ด้านหลังถูกครอบทับด้วยกระจกทั้งหมด ซึ่งช่วยให้ Huawei P20 Pro ดูหรูหราพรีเมียมขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่เป็นกระจก จึงอาจทำให้เกิดรอยนิ้วมือ และอาจลื่นหลุดจากมือได้ง่ายเช่นเดียวกัน

และถึงแม้ว่าหน้าจอของ Huawei P20 Pro จะมีการติดฟิล์มกันรอยมาให้ตั้งแต่ในกล่องแล้ว แต่เท่าที่ได้ลองใช้งานแค่ราว 2 สัปดาห์ รอยขนแมวบนแผ่นฟิล์มก็เริ่มมีให้เห็นบางแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฟิล์มกันรอยที่ติดแถมมาให้เน้นการปกป้องหน้าจอในเบื้องต้นเท่านั้น ดังนั้นเพื่อให้มีความสวยงามเข้ากับจอ FullView OLED ของ Huawei P20 Pro มากขึ้น และปกป้องได้มั่นใจเต็มร้อย ทางแบรนด์ฟิล์มกันรอยชั้นนำในบ้านเราอย่าง Focus จึงได้ผลิตฟิล์มกันกระจกกันรอยคุณภาพสูงออกมารองรับเรียบร้อยแล้วครับ

นั่นคือ Focus Full Frame Tempered Glass ฟิล์มกระจกกันรอยเต็มจอแบบใส ที่มีความแข็งแกร่งทนทาน, ปกป้องได้เต็มหน้าจอ, ให้ภาพที่สวยคมชัดสีสันสดใสไม่ผิดเพี้ยนไปจากหน้าจอเดิมๆ และสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีเยี่ยมด้วยความแข็งแกร่งระดับ 9H นอกจากนี้ยังมีการเคลือบสารพิเศษ จึงทำให้การสัมผัสหน้าจอมีความลื่นไหลไม่สะดุด รวมทั้งยังช่วยลดรอยนิ้วมือได้ ส่วนการติดตั้งนั้นก็ง่ายดาย มีความสวยกลมกลืนกับตัวเครื่องเนื่องจากขอบกระจกมีสีเดียวกับตัวเครื่อง
สำหรับฟิล์มกระจกกันรอย Focus Full Frame Tempered Glass สำหรับ Huawei P20 Pro และ P20 จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงหลังสงกรานต์นี้ ซึ่งก็พอดิบพอดีกับช่วงเวลาที่ Huawei P20 Pro กับ P20 จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเลยนั่นเองครับ
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
 

Huawei P20 Pro ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนกลุ่มแรกๆ ที่ได้ใช้งานระบบปฏิบัติการเวอร์ชันนี้ก่อนใครในโลก พร้อมถูกครอบทับโดย EMUI 8.1 เวอร์ชันล่าสุดด้วยเช่นกัน
 
 
เมื่อกดค้างที่หน้าจอจะเป็นการเข้าสู่เมนูการปรับแต่งหน้าจอ โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่ง Themes และ Wallpaper ของตัวเครื่องได้อย่างอิสระ พร้อมเลือกใช้งาน Widget ที่ต้องการได้เช่นเดียวกัน
 
เมื่อปัดนิ้วจากด้านบนลงมาจะเป็นการการเปิดแถบแสดงการแจ้งเตือน (Notification) และถ้าปัดนิ้วลงมาอีกครั้งจะเป็นการเปิดเมนู Quick Setting ทั้งหมด
 
 
แอปพลิเคชันพื้นฐานจาก Google และ Huawei ก็มีการติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานทันที
 
แอปพลิเคชัน Phone Manager จะช่วยในเรื่องการจัดการข้อมูลต่างๆ ด้วยการ Cleanup ข้อมูลที่ไม่จำเป็น เพื่อเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำ หรือลดการสิ้นเปลืองแบตเตอรี่ เพื่อให้ตัวเครื่องใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด
 
 
Huawei P20 Pro รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ที่แสดงผลเสียงได้สมจริง และคมชัด โดยผู้ใช้สามารถเลือกปรับแต่งได้ 3 แบบ คือ Smart, Film และ Music โดยถ้าเลือกโหมด Music จะมีเมนูการปรับ Equaliser เพิ่มเติมด้วย
 
สำหรับใครที่เป็นคนชอบออกกำลังกาย และรักษาสุขภาพ Huawei ก็มีแอปพลิเคชัน Health ให้ใช้งาน โดยแอปพลิเคชัน Health สามารถวัดจำนวนก้าว, ระยะทาง หรือจำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญ รวมถึงตัวผู้ใช้สามารถสร้างแผนกำลังกายสำหรับตนเองได้ด้วย
 
สำหรับข้อมูลในเครื่อง หรือไฟล์ต่างๆ ที่บันทึกไว้สามารถมาจัดการคัดลอก หรือย้ายโฟลเดอร์ได้ที่แอปพลิเคชัน Files
 
แอปพลิเคชัน Tips เป็นแหล่งรวบรวมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้ทราบถึงวิธีการ หรือเคล็ดลับบางอย่าง เช่น Tips เรื่องการถ่ายภาพ เป็นต้น
 
หากใครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งาน หรือกำลังหาวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น ก็สามารถค้นหาได้ที่แอปพลิเคชัน HiCare ที่รวบรวมข้อมูลการใช้งานเบื้องต้นไว้อย่างครบถ้วน
 
สำหรับใครที่ใช้ Huawei P20 Pro เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่แล้วอยากย้ายข้อมูลจากสมาร์ทโฟนเครื่องเดิม ก็สามารถโอนย้ายข้อมูลได้ที่แอปพลิเคชัน Phone Clone ได้ทันที
 
ฟีเจอร์ที่ผู้ใช้หลายๆ คนชื่นชอบกันเป็นอย่างมากก็คือ Apps Twin หรือการสร้างแอปพลิเคชันแบบเดียวกันขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งโปรแกรม ซึ่งทำงานแยกจากแอปพลิเคชันตัวเก่าโดยสิ้นเชิง เช่น Facebook ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook ได้ 2 บัญชี หรือใช้ไลน์ได้ 2 บัญชีนั่นเอง
 

Huawei P20 Pro มาพร้อมกับแบตเตอรี่สุดอึดที่มีความจุสูงถึง 4000 mAh พร้อมรองรับระบบ SuperCharge และมาพร้อมโหมดประหยัดพลังงาน ซึ่งหนึ่งในวิธีการประหยัดพลังงานก็คือ การปรับ Interface ให้เป็นสีดำ โดยให้ความสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง

Huawei P20 Pro ใช้งาน EMUI 8.1 เวอร์ชันใหม่ล่าสุดที่ไม่มี App Drawer ให้ใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น ทำให้ไอคอนแอปพลิเคชันทุกโปรแกรมจะถูกติดตั้งอยู่ในหน้า Home Screen ทั้งหมด ซึ่งถ้าหากท่านใดที่อยากใช้งาน App Drawer สามารถไปเปิดได้ที่เมนู Home Screen Style
 
นอกจากนี้ Huawei P20 Pro ยังสามารถตั้งค่าปิดรอยบากที่ด้านหน้าส่วนบนของตัวเครื่อง เพื่อให้หน้าจอดูกลมกลืนกันได้ด้วย

เนื่องจาก Huawei P20 Pro มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบไร้ขอบ FullView Display ในอัตราส่วน 18.7:9 จึงส่งผลให้บางแอปพลิเคชันสามารถแสดงผลในสัดส่วนแบบเต็มหน้าจอได้ด้วย

Huawei P20 Pro มี Motion Control สำหรับการใช้งานพื้นฐาน เช่น การเคาะหน้าจอ 2 ครั้ง จะเป็นการแคปเจอร์หน้าจอ เป็นต้น
 
 
ระบบรักษาความปลอดภัยของ Huawei P20 Pro นั้นใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock)

ส่วนหน้าจอแสดงผลของ Huawei P20 Pro มาพร้อมกับฟีเจอร์ Natural Tone ที่สามารถปรับอุณภูมิสีของหน้าจอให้เหมาะสมตามสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ เพื่อเป็นการถนอมสายตา

สำหรับผู้ที่ใช้งานสมาร์ทโฟน Huawei ด้วยกันก็สามารถแชร์ข้อมูลหากันได้ทันทีผ่านระบบ Huawei Share

สำหรับการใช้งานมือเดียวก็สามารถทำได้ด้วยการเปิดโหมด Mini Screen ซึ่งทำได้ง่ายๆ โดยการปัดนิ้วไปทางด้านซ้าย หรือด้านขวาตรงแถบ Navigation Bar
 

ในส่วนของคุณสมบัติตัวเครื่องนั้น Huawei P20 Pro มาพร้อมกับ ชิปเซ็ตประมวลผล Huawei Kirin 970 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.36GHz, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) แบบ UFS 2.1 ขนาด 128GB
 
ทดสอบประสิทธิภาพการประมวลผลของ Huawei P20 Pro ด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu BenchMark ได้คะแนนทดสอบ 208,396 คะแนน และได้ผลคะแนนทดสอบจากแอปพลิเคชัน GeekBench 4 ได้คะแนนในส่วนของ Single-Core ที่ 1,922 คะแนน และในส่วนของ Multi-Core ได้ 6,765 คะแนน

สำหรับการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน 3D Mark แบบ OpenGL ES 3.1 ได้คะแนนการทดสอบที่ 2,986 คะแนน ส่วนการทดสอบแบบ Vulkan ได้คะแนนการทดสอบที่ 3,318 คะแนน

สำหรับเซ็นเซอร์ในเครื่องนั้นประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor และ Magnetic Sensor

ประสิทธิภาพตัวเครื่องของ Huawei P20 Pro เรียกได้ว่าอยู่ในระดับไฮเอนด์ที่ใช้งานได้หลากหลาย, ครอบคลุม และประมวลผลได้รวดเร็วต่อการใช้งานทุกรูปแบบ โดยทีมงานได้ทดสอบเล่นเกมที่มีกราฟิกสูงๆ ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล แต่มีอาการหน่วงช้าบ้างเป็นบางช่วง และตัวเครื่องมีการสะสมความร้อนพอสมควร


ส่วนหน้าจอแสดงผลแบบ OLED FullView Display บนความละเอียดสูงระดับ Full HD+ กับขนาดใหญ่เต็มตาถึง 6.1 นิ้ว ก็แสดงผลได้คมชัดเต็มตา และมีสีสันจัดจ้าน ซึ่งน่าจะถูกใจผู้ที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์ หรือชมคลิปวิดีโอบนสมาร์ทโฟนเป็นอย่างมาก ประกอบกับลำโพงคู่ (Stereo Dual-Speaker) ก็มีความดังในระดับที่น่าพอใจ และมีมิติของเสียงที่ดีเลยทีเดียว

และด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.1 นิ้ว ก็ทำให้ Huawei P20 Pro ที่มีฟังก์ชัน Split Screen มีพื้นที่ในการแสดงผลเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ทำให้ผู้ใช้สามารถรับชมคลิปวิดีโอ และเล่นโซเชียล หรือแชทกับเพื่อนไปพร้อมกันได้ในทันที
กล้องดิจิตอล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวีดีโอ
 

สำหรับกล้องถ่ายภาพของ Huawei P20 Pro นั้น มาพร้อมกล้องด้านหลังที่มีให้ใช้งานถึง 3 ตัว (Triple-Camera) กับความละเอียดสูงถึง 40 ล้านพิกเซล โดย Interface ของแอปพลิเคชันกล้องจะมีความคล้ายคลึงกับรุ่นก่อนหน้า แต่จะเปลี่ยนการเลือกโหมดต่างๆ จากแถบด้านบนมาไว้ที่ด้านล่าง

Huawei P20 Pro มาพร้อมกับฟีเจอร์ Master AI ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Huawei Mate 10 Pro ด้วยการนำเอา AI เข้ามาช่วยในการประมวลผลภาพในซีนต่างๆ ว่าควรใช้โหมดถ่ายภาพแบบใดเพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามที่สุด
 
 
 
 

โหมดถ่ายภาพบุคคล (Portrait) ถูกพัฒนาขีดความสามารถให้เพิ่มมากขึ้น โดยการใช้งาน Sudio Lightning หรือการปรับแสงแบบต่างๆ ให้กับตัวแบบ เพื่อความเหมาะสม และอารมณ์ของภาพในขณะนั้น ซึ่งมีให้เลือก 5 สภาพแสงด้วยกัน คือ Soft Lightning, Butterfly Lightning, Split Lightning, Stage Lightning และ Classic Lightning พร้อมทั้งมีโหมด Beauty ให้ใช้งานด้วย
 
โหมดรูรับแสง (Aperture) ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ทโฟนจาก Huawei ก็ยังมีให้ใช้งานเช่นเคย โดยผู้ใช้สามารถปรับความกว้างของรูรับแสงได้ตั้งแต่ F/0.95-F/16 ซึ่งความพิเศษของการถ่ายภาพด้วยโหมดนี้คือ ผู้ใช้สามารถนำมาปรับจุดโฟกัส และระดับความเบลอได้ในภายหลังด้วย
 
 
 
 

สำหรับโหมดโปร (Pro) บน Huawei P20 Pro ก็มาพร้อมกับรายละเอียดการตั้งค่าต่างๆ ที่ครบครัน และครอบคลุมสำหรับช่างภาพแทบทั้งหมด อีกทั้งยังมี AI Assist Composition ระบบมาตรวัดระดับน้ำเพื่อรักษาความสมมาตรไม่ให้ภาพเอียงให้ใช้งานด้วย แต่สำหรับฟีเจอร์สุดเด็ดอย่าง ISO ที่สูงถึง 102400 นั้นจะใช้งานได้ในโหมดอัตโนมัติเท่านั้น ส่วนในโหมด Pro จะดัน ISO ได้สูงสุดเพียง ISO 3200
 
หากใครที่ชื่นชอบการถ่ายวิดีโอด้วยสมาร์ทโฟนก็คาดว่าน่าจะชื่นชอบระบบการถ่ายวิดีโอบน Huawei P20 Pro ไม่น้อย เพราะ Huawei P20 Pro ใช้งานระบบป้องกันภาพสั่นไหวในชื่อ Huawei AIS (AI Image Stabilization) ที่มีความนิ่งเป็นอย่างมากแม้ถือถ่ายด้วยมือเปล่า ซึ่งนอกจากการถ่ายวิดีโอแล้ว ระบบกันสั่นนี้ยังช่วยในการถ่ายภาพกลางคืน หรือโหมด Night Shot ด้วยเช่นกัน
 
นอกจากนี้ Huawei P20 Pro ยังสามารถถ่ายวิดีโอ Super Slow Motion ได้ที่ความเร็วสูงสุด 960fps ในความละเอียดระดับ HD
 

ด้วยการที่ Huawei P20 Pro ใช้งานเลนส์ถ่ายภาพถึง 3 เลนส์ จึงทำให้ Huaewi P20 Pro มีประสิทธิภาพในเรื่องการซูมภาพมากยิ่งขึ้น โดย Huawei P20 Pro สามารถซูมภาพแบบ Optical Zoom ได้ถึง 3 เท่า และใช้กำลังขยายความละเอียด 40 ล้านพิกเซล เพิ่มได้อีก 2 เท่า รวมเป็นระบบซูมภาพแบบ Hybrid ได้ไกลถึง 5 เท่าเลยทีเดียว

ส่วนโหมดการถ่ายภาพอื่นๆ จะอยู่ในหัวข้อ More ซึ่งมีให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย และครอบคลุมแทบทุกสถานการณ์
 
สำหรับกล้องด้านหน้ามาพร้อมความละเอียด 24 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
 
การถ่ายวิดีโอด้วยกล้องด้านหน้ารองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD+ ในอัตราส่วน 18:9 พร้อมมีโหมด Beauty ให้ใช้งาน แต่ถ้าหากเปิดโหมด Beauty จะสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดระดับ HD เท่านั้น
 
 
 
 
ส่วนโหมด Portrait สำหรับกล้องหน้านั้นสามารถใช้งานได้แบบเดียวกับกล้องหลังทุกประการ ทั้งการปรับ Lightning, โหมด Bokeh และการปรับค่าผิวเนียน (Beauty)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Leica ด้านหลังแบบ Triple-Camera ความละเอียด 40+20+8 ล้านพิกเซล ของ Huawei P20 Pro












ภาพถ่ายจากโหมดปกติ พร้อมเปิดฟังก์ชัน Master AI


บน - ภาพความละเอียด 40 ล้านพิกเซล (Crop 100%), ล่าง - ภาพถ่ายความละเอียด 10 ล้านพิกเซล (Crop 100%)


บน - ภาพความละเอียด 40 ล้านพิกเซล (Crop 100%), ล่าง - ภาพถ่ายความละเอียด 10 ล้านพิกเซล (Crop 100%)



ภาพถ่ายซูมแบบ Hybrid ตั้งแต่ระดับ 1x, 3x และ 5x



ภาพถ่ายซูมแบบ Hybrid ตั้งแต่ระดับ 1x, 3x และ 5x


ภาพถ่ายจากโหมด Aperture โดยปรับขนาดรูรับแสงที่ F/2.0








ภาพถ่ายในที่แสงน้อย และภาพถ่ายจากโหมด Night Shot






ภาพถ่ายจากโหมด Portrait






ภาพถ่ายจากโหมดขาว-ดำ (Monochrome)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ของ Huawei P20 Pro


 
 
 
สรุปผลการทดสอบของ Huawei P20 Pro

หลังจากที่ผู้เขียนได้ทดลองใช้งาน Huawei P20 Pro มาเป็นระยะเวลาพอสมควร ก็มีความเห็นว่า Huawei P20 Pro ถูกพัฒนาขีดความสามารถ และประสิทธิภาพให้เหนือชั้นจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Huawei P10 Series ค่อนข้างมากทีเดียว ทั้งในเรื่องของการดีไซน์, ประสิทธิภาพตัวเครื่อง หรือกล้องถ่ายภาพ โดยในเรื่องของการดีไซน์นั้น Huawei P20 Pro ใช้ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Metal-Glass ที่ครอบทับด้วยกระจกทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ซึ่งช่วยให้ Huawei P20 Pro ดูหรูหราพรีเมียมขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่เป็นกระจกจึงอาจทำให้เกิดรอยนิ้วมือ
และอาจลื่นหลุดจากมือได้ง่ายเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งการใช้สีสันแบบใหม่ในสี Twilight ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมากจากสีของท้องฟ้ายามโพล้เพล้ที่มีการไล่เฉดสีอย่างสวยงาม ก็ส่งผลให้ Huawei P20 Pro รุ่นนี้มีความพรีเมียม และมีสีสันค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์มากทีเดียว

ส่วนหน้าจอแสดงผลเป็นแบบไร้ขอบ OLED FullView Display ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (2240x1080 พิกเซล) ในอัตราส่วน 18.7:9 ที่แสดงผลได้อย่างคมชัดเต็มตา และมีพื้นที่ให้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น ขณะที่คุณสมบัติตัวเครื่องก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น ขุมพลังชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core 64-bit Hisilicon Kirin 970 ความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.4 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G72 MP12, หน่วยประมวลผลแยกแบบ Neural
Network Processing Unit (NPU) สำหรับช่วยประมวลผลการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ (A.I.) โดยเฉพาะ, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) ที่สามารถแสตนบาย 4.5G ได้ทั้งสองซิมการ์ด, รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่าย 4G LTE, ลำโพงเสียงคู่แบบ Stereo Spaeker, รองรับระบบเสียง Dolby Atmos, ฟีเจอร์ปลดล็อกตัวเครื่องด้วยใบหน้า (Face Unlock), คุณสมบัติป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นมาตรฐาน IP67,
แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh รองรับระบบ SuperCharge และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ซึ่งถูกครอบทับด้วย EMUI 8.1 เวอร์ชันล่าสุด โดย Huawei P20 Pro สามารถตอบสนองการใช้งานทุกอย่างได้เป็นอย่างดี และมีความรวดเร็วในการประมวลผลในระดับที่น่าพอใจ แต่ถ้าหากมีการใช้งานที่ต้องการการประมวลผลระดับสูงเป็นเวลานาน ตัวเครื่องก็จะมีการสะสมความร้อนในระดับหนึ่ง

สำหรับกล้องถ่ายภาพด้านหลังนับว่าเป็นฟีเจอร์เด่นที่สุดของรุ่น และเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนให้ก้าวล้ำด้วยการใช้งานกล้องถึง 3 ตัว (Triple-Camera) กับความละเอียดสูงถึง 40 ล้านพิกเซล โดยแบ่งออกเป็น กล้องตัวแรกความละเอียด 40 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์รับภาพสี (RGB), กล้องตัวที่สองความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochrome) และกล้องตัวที่สามเป็นเลนส์ Telephoto ทางยาวโฟกัส 80mm ความละเอียด
8 ล้านพิกเซล สำหรับการละลายฉากหลังในการถ่ายภาพบุคคลโดยเฉพาะ โดยกล้องทั้ง 3 ตัวใช้เลนส์ LEICA VARIO-SUMMILUX-H1:1.6-2.4/27-80ASPH ซึ่งมีคุณภาพสูงที่สุดของ Huawei ด้วย ส่วนขนาดเม็ดพิกเซลมีขนาดอยู่ที่ 2 ไมครอน ซึ่งขนาดเม็ดพิกเซลที่ใหญ่เช่นนี้ทำให้กล้องสามารถเก็บรายละเอียดภาพได้มากยิ่งขึ้น พร้อมระบบโฟกัสที่รวดเร็วฉับไวด้วย Laser Duo Focus พร้อมฟีเจอร์เด็ดที่สามารถซูมภาพได้สูงสุดถึง 5 เท่า ผ่านระบบ Hybrid Zoom โดยแบ่งเป็นแบบ Optical Zoom ที่ 3 เท่า (Optical Zoom 3x) นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์การถ่ายถ่าย
าพวิดีโอแบบ Super Slow Motion 960fps และชูโรงในด้านการถ่ายภาพในที่แสงน้อย รวมถึงเทคโนโลยี Huawei AIS (AI Image Stabilization) สำหรับป้องกันภาพสั่นไหวที่พัฒนาขึ้นเองอีกด้วย
ซึ่งหลังจากทดสอบถ่ายภาพมาในเบื้องต้น รวมถึงการนำไปใช้ถ่ายภาพในชีวิตประจำวันแล้วก็พบว่า Huawei P20 Pro มาพร้อมประสิทธิภาพกล้องที่พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เริ่มตั้งแต่ความละเอียดระดับ 40 ล้านพิกเซล ที่สามารถถ่ายภาพที่ต้องการเก็บรายละเอียดของงสิ่งต่างๆ ได้คมชัด, ซอฟต์แวร์การเบลอฉากหลังในโหมด Portrait ที่ตัดขอบตัวแบบได้เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น และดูเนียนตากว่าเดิมทั้งการถ่ายในที่กลางแจ้ง หรือที่แสงน้อย, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว Huawei AIS (AI Image Stabilization) ที่นำ AI มาช่วยกันสั่นได้เป็นอย่างดี
ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพกลางคืนด้วยการถือมือเปล่าได้นานถึง 8 วินาที ซึ่งจากที่ทีมงานทดสอบถ่ายด้วยโหมด Night Shot ที่ใช้เวลาประมาณ 4-5 วินาที ก็พบว่าภาพที่ได้แทบไม่มีความเบลอจากการสั่นไหวเลยทีเดียว นอกจากนี้ระบบ Huawei AIS ยังช่วยในเรื่องการกันสั่นของการถ่ายวิดีโออีกด้วย โดยระบบ AIS จะทำการล็อกเฟรมภาพภายในเวลา 2 วินาที และช่วยให้ผู้ใช้ถือถ่ายได้ด้วยมือเปล่าในเวลานานถึง 8 วินาที อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็คือเบื้องหลังของผลทดสอบ DxOMark ที่สูงถึง 109 คะแนน ตามข่าวที่เราได้เคยนำเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้

เรียกได้ว่าคุณสมบัติตัวเครื่องทั้งหมดของ Huawei P20 Pro นั้นสามารถตอบโจทย์การทำงานได้ครอบคลุมทุกระดับตั้งแต่ฟีเจอร์พื้นฐานไปจนถึงการทำงานระดับสูง พร้อมทั้งฟีเจอร์กล้องถ่ายภาพที่เรียกได้ว่าก้าวล้ำเป็นอย่างมาก และสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ด้วย Master AI ที่ปรับโหมดภาพให้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพสวยได้โดยไม่ต้องปรับค่าเอง หรือจะเป็นการเบลอฉากหลังที่ทำได้เนียนตาขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าเป็นอย่างมาก ซึ่งภาพรวมของ Huawei P20 Pro น่าจะเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเรือธงที่มีคุณสมบัติตัวเครื่องตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
ทั้งการเล่นเกม, ความบันเทิง หรือการใช้งานระดับสูง พร้อมทั้งมีกล้องถ่ายภาพที่สวยงาม คมชัด และถ่ายได้สวยงามไม่แพ้กล้องโปรเลยทีเดียว หากคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมานี้ตรงกับหลักเกณฑ์ที่ท่านตั้งไว้ในใจ Huawei P20 Pro ก็เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงอีกรุ่นหนึ่งที่นับว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมทีเดียวครับ
สำหรับราคาเปิดตัว และวันวางจำหน่ายในประเทศไทยของ Huawei P20 Pro นั้น ล่าสุดวานนี้ (4 เมษายน 2018) ก็ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการออกมาแล้ว โดยมีราคาอยู่ที่ 27,990 บาท ส่วนรุ่นเริ่มต้นอย่าง Huawei P20 มีราคาอยู่ที่ 19,990 บาท พร้อมเปิดให้เริ่มสั่งจองได้ระหว่างวันที่ 6-16 เมษายน 2018 และจะเริ่มวางจำหน่ายจริงอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2018 เป็นต้นไป ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ท่านที่สั่งจองล่วงหน้าจะได้รับของสมนาคุณพิเศษไปแบบฟรีๆ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
- Huawei P20 Pro ราคา 27,990 บาท สั่งจองล่วงหน้ารับฟรี กล้อง 360 องศา Huawei Envizion 360 Camera มูลค่า 4,490 บาท
- Huawei P20 ราคา 19,990 บาท สั่งจองล่วงหน้ารับฟรี หูฟังบลูทูธ Huawei Sport Bluetooth Headphones Lite มูลค่า 1,990 บาท
ก็นับว่า Huawei P20 Pro เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เป็นอีกรุ่นที่ไม่ควรพลาด ทั้งในแง่ของกล้องถ่ายภาพ, ฟีเจอร์, ราคา และโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่สั่งจองล่วงหน้า สำหรับวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในรีวิวฉบับหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Huawei P20 Pro
- เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ 3D Curved Metal-Glass ด้วยกรอบโลหะผสานกระจกที่ด้านหน้า และด้านหลัง
- ตัวเครื่องมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่น ได้ที่ระดับ IP67 ตามมาตรฐาน IEC Standard 60529
- ตัวเครื่องมีขนาด 155x73.9x7.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 180 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบไร้ขอบ OLED FullView Display ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (2240x1080 พิกเซล) ในอัตราส่วน 18.7:9
- ชิปเซ็ตประมวลผล Huawei Kirin 970 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.36GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G72 MP12
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ UFS 2.1 ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB
- กล้องด้านหลัง 3 ตัว (Triple-Camera) ความละเอียด 40+20+8 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8+F/1.6+F/2.4 พร้อมฟีเจอร์ Super Slow Motion 960fps และเทคโนโลยี Huawei AIS (AI Image Stabilization)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) ที่แสตนบาย 4.5G ได้ทั้งสองซิมการ์ด
- รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่าย LTE
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh รองรับระบบ SuperCharge
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ซึ่งถูกครอบทับด้วย EMUI 8.1
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- ฟีเจอร์ปลดล็อกตัวเครื่องด้วยใบหน้า
- สีสันตัวเครื่องแบบใหม่กับสี Twilight
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Huawei P20 Pro
- ตัวเครื่องใช้ดีไซน์แบบ Metal-Glass จึงอาจเกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมือได้ง่าย
- ตัวเครื่องมีการสะสมความร้อน เมื่อมีการประมวลผลระดับสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน
- หน้าจอ FullView Display ยังไม่สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันทั้งหมดได้
- ด้วยความที่หน้าจอมีขอบบาง อาจทำให้อุ้งมือของผู้ใช้ไปสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ
- ไม่มีวิทยุ FM ในตัว
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
ข้อมูลอื่นๆ ที่น่าสนใจ
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียด (สเปก) ของ Huawei P20
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียด (สเปก) ของ Huawei P20 Pro
พรีวิว (Preview) Huawei P20 Pro

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|