รีวิว (Review) Huawei GR5 2017

สมาร์ทโฟนกล้องคู่ (Dual-Camera) 12 ล้านพิกเซล ในราคาไม่ถึงหมื่น! พร้อมจอ Full HD ไซส์บิ๊ก 5.5 นิ้ว, ชิปเซ็ต Kirin 655, ROM 32GB, RAM 3GB, Android 6.0, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, แบตเตอรี่ 3340 mAh และเซ็นเซอร์สแกนนิ้ว บนบอดี้โลหะดีไซน์เรียบหรู กับค่าตัวสุดคุ้มเพียง 8,900 บาท

Review Date (5-มกราคม-2560)

สวัสดีครับ หลังจากที่ทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ได้นำเสนอบทความรีวิวสมาร์ทโฟนเรือธงกล้องคู่ตัวท็อปอย่าง Huawei Mate 9 กันไปแล้วเมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา (รีวิว Huawei Mate 9) คราวนี้ก็ถึงคิวของสมาร์ทโฟนกล้องคู่รุ่นเล็กอย่าง Huawei GR5 2017 (ชื่อเดิม Huawei Mate 9 Lite) กันบ้าง ซึ่งสมาร์ทโฟนซีรีส์ GR ถือเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ในบ้านเรา และในครั้งนี้ Huawei GR5 2017 ในฐานะสมาร์ทโฟนซีรีส์ GR รุ่นใหม่ล่าสุด ก็ได้รับการปรับโฉมดีไซน์บางส่วน เพื่อให้มีความโฉบเฉี่ยวดูเรียบหรูมากขึ้น รวมถึงกับการนำกล้องคู่มาใส่ในสมาร์ทโฟนราคาหลักพันเป็นรุ่นแรก และมาพร้อมกับคุณสมบัติที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม

สำหรับจุดขายไฮไลท์ของ Huawei GR5 2017 ก็คงจะหนีไม่พ้นกล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล+2 ล้านพิกเซล พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.25 ไมครอน, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ซึ่งสามารถโฟกัสวัตถุได้ภายในเวลาเพียง 0.3 วินาที, ไฟแฟลช LED พร้อมรองรับโหมดถ่ายภาพโบเก้ (Bokeh) ที่สามารถปรับค่ารูรับแสงได้ที่ระดับ f/0.95-f/16 ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้านั้นมีความละเอียดมากถึง 8 ล้านพิกเซล และเป็นเลนส์มุมกว้าง สำหรับรองรับการถ่ายภาพพร้อมกับกลุ่มเพื่อนๆ หรือกับครอบครัวโดยไม่ต้องกังวลว่าจะหลุดเฟรม

ทางด้านคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เริ่มตั้งแต่ ตัวเครื่องที่ผลิตจากโลหะ พร้อมด้วยพื้นผิวแบบ Sandblast จึงทำให้ตัวเครื่องมีความเรียบหรู และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ, หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาดใหญ่เต็มตา 5.5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass, ฟังก์ชันถนอมสายตาด้วยการกรองแสงสีฟ้า (Eye Comfort), เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาน้อยกว่า 1/3 วินาที, รองรับการใช้งานได้พร้อมกันสองซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับเทคโนโลยีเสียง Super Wide Sound 3.0 และแบตเตอรี่ขนาด 3340 mAh ซึ่งมาพร้อมโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง

ในส่วนของประสิทธิภาพการประมวลผลก็เรียกได้ว่าโดดเด่นไม่แพ้กัน และพร้อมตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Kirin 655 ความเร็วในการประมวลผล 2.1 GHz พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T830 MP2, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า Huawei GR5 2017 นั้นมีความน่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบดีไซน์ตัวเครื่อง หรือแม้แต่คุณสมบัติเด่นต่างๆ ซึ่งถือว่าคุ้มค่ากับราคาค่าตัว 8,900 บาท เป็นอย่างมาก ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร, ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ต่างๆ จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านไปรับชมรีวิว Huawei GR5 2017 พร้อมกันได้เลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Huawei GR5 2017 มาในแพ็กเกจสีแดงสะดุดตา

ซึ่งภายในกล่องก็มีอุปกรณ์มาให้ใช้งานอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น คู่มือการใช้งาน, ใบรับประกัน, เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด (SIM Door Key), อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่, สายเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล และหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

และยังมีเคสใสแถมมาให้ใช้งานอีกด้วย

Huawei GR5 2017 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้วพร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass ส่วนตัวเครื่องมีขนาดอยู่ที่ 150.9x76.2x8.2 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 162 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นเลนส์มุมกว้าง, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา และเซ็นเซอร์ Proximity อีกทั้งภายในของ Huawei GR5 2017 ยังมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Accelerometer และเซ็นเซอร์ Gyroscope ด้วยเช่นกัน

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps พร้อมโลโก้ Huawei

ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะทำการสนทนา หรือบันทึกเสียง และช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านหน้าส่วนล่างประกอบไปด้วยไมโครโฟนสำหรับการสนทนา หรือบันทึกเสียง, ลำโพงเสียงภายนอก และช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่งสามารถรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด แต่ในช่องที่ 2 จะต้องเลือกใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างซิมการ์ดที่ 2 หรือเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD

ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลแบบ Dual-Camera (ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล+2 ล้านพิกเซล) ที่มีเม็ดพิกเซลขนาด 1.25 ไมครอน พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ซึ่งสามารถโฟกัสวัตถุได้ภายในเวลาเพียง 0.3 วินาที, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาน้อยกว่า 1/3 วินาที และไฟแฟลช LED ส่วนตัวเครื่องของ Huawei GR5 นั้นผลิตจากโลหะ ซึ่งมีพื้นผิวตัวเครื่องแบบ Sandblast จึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ อีกทั้งยังดูสวยหรูอีกด้วย

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

Huawei GR5 2017 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow พร้อมรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้

มาพร้อมหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32 GB

ทางด้านฟังก์ชันการแจ้งเตือนต่างๆ ก็มีให้ใช้งาน และยังสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้หลากหลาย เช่น WiFi, GPS และการใช้งานอินเทอร์เน็ต

นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การการเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน, การเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้าจอ และยังสามารถเปลี่ยนสัดส่วนหน้าจอได้อีกด้วย

สำหรับฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย พร้อมด้วยปุ่มตัวเลขขนาดใหญ่ช่วยให้สามารถกดหมายเลขได้อย่างแม่นยำ และเข้าดูรายชื่อทั้งหมดได้

ในส่วนของบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานอย่างครบครันบน Huawei GR5 2017

นอกจากนี้ ยังสามารถสลับตำแหน่งของปุ่มการสั่งงาน พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้

ส่วนแอปพลิเคชันสำหรับจัดการโทรศัพท์ก็มีความสามารถที่หลากหลาย เช่น การเคลียร์ Cache, การเคลียร์หน่วยความจำแรม (RAM) หรือแม้แต่ดูการใช้งานปริมาณอินเทอร์เน็ตก็สามารถทำได้จากส่วนนี้เช่นเดียวกัน

อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้งานระบบประหยัดพลังงานขั้นสูงได้

ทางด้านเว็บเบราเซอร์ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุก ถึงแม้ว่าจะเปิดเว็บไซต์ซ้อนๆ กันหลายหน้าต่างก็ตาม

สำหรับอัลบั้มภาพถ่ายนั้นสามารถแสดงภาพถ่ายได้ 2 แบบหลักๆ คือ แสดงแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด และแสดงแบบแยกอัลบั้ม

 ทางด้านเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือนั้นสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้หลายลายนิ้วมือ อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันการสั่งงานถ่ายภาพ, รับสายเรียกเข้า หรือปิดนาฬิกาปลุก ด้วยการสแกนลายนิ้วมือได้อีกด้วย

อีกหนึ่งความน่าสนใจ คือ มีฟังก์ชัน Eye Comfort สำหรับช่วยถนอมสายตา ด้วยการกรองแสงสีฟ้า (Blue Light Filter) ให้ใช้งาน

Huawei GR5 2017 ยังสามารถเปิดอ่าน, แก้ไข หรือสร้างไฟล์เอกสารได้ ไม่ว่าจะเป็น Word, Excel หรือ PowerPoint ผ่านแอปพลิเคชัน WPS Office

Huawei GR5 2017 มีแอปพลิเคชันฟังเพลงให้ใช้งาน พร้อมทั้งสามารถใช้งานควบคู่กับเทคโนโลยีเสียง Super Wide Sound (SWS) 3.0 ซึ่งช่วยให้เสียงมีมิติมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของแอปพลิเคชันสำหรับฟังวิทยุ FM ก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

และสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น พร้อมทั้งแสดงผลได้เต็มความละเอียดของไฟล์วิดีโอ เนื่องด้วยหน้าจอแสดงผลของ Huawei GR5 2017 นั้นมีความละเอียดที่ 1920x1080 พิกเซล ด้วยเช่นกัน

รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Popup Play ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเปิดดูวิดีโอบนหน้าต่างขนาดเล็ก ไปพร้อมๆ กับการทำงานอย่างอื่นได้

Huawei GR5 2017  มาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Kirin 655 ความเร็วในการประมวลผล 2.1 GHz พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T830 MP2, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow

ถึงแม้ว่าคุณสมบัติตัวเครื่องจะจัดอยู่ในระดับกลาง แต่ก็สามารถตอบโจทย์การเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ อีกทั้งยังไม่มีการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องด้วยเช่นกัน

และเมื่อนำ Huawei GR5 2017 มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 56562 คะแนน

ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 7059 คะแนน

Huawei GR5 2017 สามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกัน 10 จุด

และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store

กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ

สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพบน Huawei GR5 2017 นั้นมีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพปกติ, โหมดถ่ายภาพโปร, โหมดถ่ายภาพหน้าสวย, โหมดถ่ายภาพ HDR และโหมดถ่ายภาพกลางคืน

สำหรับโหมดถ่ายโปรภาพนั้นสามารถปรับค่าเพื่อถ่ายภาพได้หลายอย่างด้วยกัน เช่น การวัดแสง, ISO, ความเร็วชัตเตอร์ และการชดเชยแสง

สามารถปรับค่าเพื่อถ่ายภาพเพิ่มเติมได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานไฟแฟลช LED, ฟังก์ชันถ่ายภาพ Bokeh พร้อมฟังก์ชัน Refocus และเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพ

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ความละเอียดของกล้องถ่ายภาพที่สามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ 12 ล้านพิกเซล, สามารถเปิด-ปิด การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย

สามารถเปิดใช้งานตารางเก้าช่อง, เสียงชัตเตอร์, การสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, ระบบตรวจจับรอยยิ้ม และการโฟกัสติดตามวัตถุ

ตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ และสามารถสั่งงานถ่ายภาพด้วยเสียงได้

สามารถเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มชัตเตอร์ได้อีก 2 แบบ คือ การถ่ายภาพต่อเนื่อง หรือการโฟกัสภาพ, สามารถเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มลดเสียงได้ 3 แบบ ได้อีก ชัตเตอร์ถ่ายภาพ, ซูมภาพ หรือการโฟกัสภาพ

สามารถปรับสมดุลของภาพถ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็น ความเข้ม, ความคมชัด หรือความสว่าง และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้

นอกจากนี้ ยังมีโหมดถ่ายวิดีโอ Time-Lapse ให้ใช้งาน และยังสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p) พร้อมระบบเสียงแบบสเตอริโอ

สามารถเปิดใช้งานโหมดหน้าสวยในโหมดถ่ายวิดีโอได้ พร้อมทั้งสามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากสุด 10 ระดับ

ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งแสดงฟังก์ชันต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลายแบบ เช่น โหมดถ่ายภาพหน้าสวย หรือโหมดถ่ายภาพพาโนราม่า

สำหรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยนั้นสามารถปรับค่าเนียนได้มากถึง 10 ระดับ ตามความต้องการ และยังมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพให้ใช้งาน อีกทั้งยังมีโหมดแต่งหน้า สำหรับถ่ายภาพแบบอื่นๆ ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

และยังมีโหมดแต่งหน้าให้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งในโหมดถ่ายภาพนี้จะมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพหลากหลายรูปแบบ

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ความละเอียดของกล้องถ่ายภาพที่สามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ 8 ล้านพิกเซล, สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, กระจกเงาสะท้อน และปิดเสียงชัตเตอร์

สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที, สามารถเปิดใช้งานการสั่งงานถ่ายภาพด้วยเสียงได้

สามารถเปิดใช้งานการสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ กับระบบตรวจจับรอยยิ้มได้ และสามารถเพิ่มความสามารถให้กับปุ่มลดระดับเสียงได้ 2 แบบ ได้แก่ ชัตเตอร์กล้องถ่ายภาพ กับซูม

สามารถปรับค่าไวท์บาลานซ์ได้หลายแบบ เช่น หลอดไส้ หรือฟลูออเรสเซนต์, สามารถปรับค่า ISO ได้สูงสุดที่ 1600

สามารถปรับสมดุลของภาพถ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็น ความเข้ม, ความคมชัด หรือความสว่าง และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้

กล้องดิจิทัลด้านหน้าสามารถเลือกความละเอียดของไฟล์วิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p) พร้อมระบบเสียงแบบสเตอริโอ

สามารถเปิดใช้งานโหมดหน้าสวยในโหมดถ่ายวิดีโอได้ พร้อมทั้งสามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากสุด 10 ระดับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ของ Huawei GR5 2017

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพโปร

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพวาดด้วยแสง พร้อมเลือกฟังก์ชันไฟท้ายรถยนต์

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

 ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

ตัวอย่างภาพถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ หรือภาพโบเก้ (Bokeh)

ตัวอย่างภาพถ่ายหน้าเบลอหลังชัด หรือภาพโบเก้ (Bokeh)

ตัวอย่างภาพถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ หรือภาพโบเก้ (Bokeh)

ตัวอย่างภาพถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ หรือภาพโบเก้ (Bokeh)

ตัวอย่างภาพถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ หรือภาพโบเก้ (Bokeh)

ตัวอย่างภาพถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ หรือภาพโบเก้ (Bokeh) โดยใช้ฟังก์ชัน Refocus พร้อมปรับค่าแบบชัดทั้งภาพ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย ของ Huawei GR5 2017

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 3

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 5

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 7

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 10

สรุปผลการทดสอบของ Huawei GR5 2017

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟนกล้องคู่รุ่นเล็กสุดคุ้มใหม่ล่าสุดอย่าง Huawei GR5 2017 ซึ่งจากการรีวิวทั้งหมดที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากกล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล+2 ล้านพิกเซล พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.25 ไมครอน, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ซึ่งสามารถโฟกัสวัตถุได้ภายในเวลาเพียง 0.3 วินาที พร้อมไฟแฟลช LED ที่สามารถตอบโจทย์การถ่ายภาพได้ดีเป็นอย่างมาก ทั้งการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย หรือการถ่ายภาพในสภาวะแสงปกติ แถมภาพถ่ายที่ได้ก็สวยคมชัด สีสันสดใสอีกด้วย และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ มีโหมดถ่ายภาพโบเก้ (Bokeh) สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ หรือหน้าเบลอหลังชัด อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนจุดโฟกัสในภายหลังได้ผ่านฟังก์ชัน Refocus เรียกได้ว่า ช่วยเพิ่มความสนุกสนาน พร้อมมอบประสบการณ์การถ่ายภาพแบบใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้ได้ดีเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ กล้องดิจิทัลด้านหลังยังมีโหมดถ่ายภาพโปรให้ใช้งานด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรับค่าต่างๆ ได้เอง ราวกับมีกล้อง DSLR ขนาดพกพาติดตัวไว้ใช้งานตลอดเวลาเลยก็ว่าได้

ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้า 8 ล้านพิกเซล ก็มีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพที่ดี อีกทั้งยังเป็นเลนส์มุมกว้าง จึงช่วยให้สามารถ่ายภาพพร้อมกับกลุ่มเพื่อนๆ หรือครอบครัวได้แบบไม่มีหลุดเฟรม อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยที่สามรถปรับค่าผิวเนียนได้ถึง 10 ระดับ ให้ใช้งานอีกด้วย บอกได้เลยว่า สาวกที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเซลฟี่ต้องหลงรักสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อย่างแน่นอน

ทางด้านรูปลักษณ์ภายนอกก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ โดยตัวเครื่องของ Huawei GR5 2017 นั้นเป็นโลหะ พร้อมด้วยพื้นผิวแบบ Sandblast จึงทำให้ตัวเครื่องมีความเรียบหรู และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ อีกทั้งตรงมุมทั้งสี่ด้านยังมีความโค้งมน ซึ่งช่วยให้สามารถจับ หรือถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว

สำหรับคุณสมบัติอื่นๆ ของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็ถือว่าครบเครื่องคุ้มค่า และสามารถตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาดใหญ่เต็มตา 5.5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass, ฟังก์ชันถนอมสายตาด้วยการกรองแสงสีฟ้า (Eye Comfort) เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 1/3 วินาที, รองรับการใช้งานได้พร้อมกันสองซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับเทคโนโลยีเสียง Super Wide Sound (SWS) 3.0 และแบตเตอรี่ขนาด 3340 mAh พร้อมรองรับการใช้งานโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง

ทางด้านประสิทธิภาพการประมวลผลที่ทางหัวเว่ยมอบให้แก่ Huawei GR5 2017 ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Kirin 655 ความเร็วในการประมวลผล 2.1 GHz พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T830 MP2, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow ก็ถือว่าครบเครื่องในทุกๆ ด้าน อีกทั้งยังสามารถตอบสนองต่อการใช้งานต่างๆ ได้อย่างไหลลื่น ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) หรือการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ Huawei GR5 2017 ก็ยังตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ และไม่มีการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องอีกด้วย

และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านก็พอที่จะสรุปได้ว่า Huawei GR5 2017 น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ครบทุกรูปแบบ พร้อมกล้องถ่ายภาพสวยคมชัดขั้นโปร ในราคาไม่ถึงหมื่น, ดีไซน์เรียบหรู วัสดุแข็งแรงทนทาน และมีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย ซึ่ง Huawei GR5 2017 ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม

นอกจากนี้ ทาง dtac ยังมีโปรโมชันส่งท้ายปีมาตอบรับลูกค้าด้วยเช่นกัน สำหรับลูกค้าปัจจุบัน, ลูกค้าที่ทำการเปิดเบอร์ใหม่ และลูกค้าที่เปลี่ยนจากระบบเติมเงินมาเป็นระบบรายเดือน รวมถึงลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิมกับทาง dtac รับสิทธิ์สั่งซื้อ Huawei GR5 2017 สมาร์ทโฟนกล้องคู่ (Dual Camera) รุ่นเล็ก พร้อมส่วนลด 3,000 บาท เหลือเพียง 5,900 บาท (จากราคาปกติ 8,900 บาท) เพียงสมัครใช้งานแพ็กเกจรายเดือน Super Non-Stop ขั้นต่ำ 599 บาท พร้อมชำระค่าบริการล่วงหน้า 2,000 บาท (รับส่วนลดนาน 10 เดือน) ซึ่งจะได้รับค่าโทรฟรี 300 นาทีทุกเครือข่าย, เล่นอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบ 4G/3G เดือนละ 16GB (กรณีเปิดเบอร์ใหม่ รับอินเทอร์เน็ตฟรีอีก 48GB), ฟรีพื้นที่เก็บรูปภาพ และวิดีโอ 50GB, ใช้งาน dtac wifi ได้ไม่จำกัด,  ฟังเพลงสตรีมมิ่งผ่านแอปพลิเคชัน dtac Music Infinite ฟรีโดยไม่เสียค่าอินเทอร์เน็ต และรับชมภาพยนตร์คมชัดระดับ HD ผ่านแอปพลิเคชัน Peimetime สูงสุดเดือนละ 20 เรื่อง โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง รวมถึง dtac Life Care ประกันอุบัติเหตุวงเงินคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาท และพิเศษสุดๆ สำหรับลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิมกับทาง dtac รับส่วนลดเพิ่มเติมอีก 1,500 บาท จึงสามารถสั่งซื้อ Huawei GR5 2017 ได้ในราคาเพียง 4,400 บาท เท่านั้น! หากท่านใดที่สนใจสามารถสั่งซื้อ และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นเด่นจากแบรนด์ชั้นนำที่ร่วมรายการได้ที่ศูนย์บริการ dtac ทุกสาขา หรือผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ http://www.dtac.co.th/camp/device/best-deal.html ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้เท่านั้น

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Huawei ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Huawei GR5 2017 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

จุดเด่นของ Huawei GR5 2017

- ตัวเครื่องเป็นโลหะ พร้อมด้วยพื้นผิวแบบ Sandblast จึงทำให้ตัวเครื่องมีความเรียบหรู และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน ที่สามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 1/3 วินาที พร้อมรองรับการสั่งถ่ายภาพ หรือรับสายเรียกเข้า
- จอแสดงผลแบบ  IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass และหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T830 MP2
- ฟังก์ชันถนอมสายตาด้วยการกรองแสงสีฟ้า (Eye Comfort)
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Kirin 655 ความเร็วในการประมวลผล 2.1 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32GB และรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล+2 ล้านพิกเซล พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.25 ไมครอน, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ซึ่งสามารถโฟกัสวัตถุได้ภายในเวลาเพียง 0.3 วินาที, ไฟแฟลช LED พร้อมรองรับฟังก์ชันถ่ายภาพ Bokeh และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นเลนส์มุมกว้าง พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบอัตโนมัติ, โหมดถ่ายภาพหน้าสวย และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual SIM)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- แบตเตอรี่แบบ Li-Ion Polymer 3340 mAh
- ระบบเสียง Super Wide Sound 3.0
- ราคา 8,900 บาท ซึ่งหากเทียบกับคุณสมบัติโดยรวมถือว่าคุ้มค่า

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Huawei GR5 2017

- แบตเตอรี่เป็นแบบ Built-in Battery จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนด้วยตนเองได้
- ถาดซิมการ์ดเป็นแบบ Hybrid Slot ซึ่งในช่องที่สองจะต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ดที่ 2 หรือเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอก
- ไม่รองรับเทคโนโลยี Full NetCom 3.0
- ไม่รองรับการใช้งาน NFC

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Huawei GR5 2017 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Huawei GR5 2017

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::