ตอนนี้คุณอยู่ที่ >> หน้าแรก >> หน้ารวม mobile review >> รีวิว (Review) HTC One M9+ (M9 Plus)


รีวิว (Review) HTC One M9+ (M9 Plus) :: รีวิว ทดสอบ มือถือ :: Thaimobilecenter.com


 
TMC Point

  8.33

การออกแบบดีไซน์

  8.5

ใช้งานง่ายและสะดวก

  8.0

คุณสมบัติเครื่อง

  9.0

ฟังก์ชันการใช้งาน

9.0

เสถียรภาพและประสิทธิภาพ

  9.0

ความคุ้มค่าต่อราคา

  6.5

 
   

รีวิว (Review) HTC One M9+ (M9 Plus)

สมาร์ทโฟนเรือธง เอชทีซี ใหม่ล่าสุด บนดีไซน์ All-Metal Unibody สุดหรู พร้อมจอ 2K QHD, ซีพียู 64-bit Octa-Core สุดแรง, กล้อง Duo Camera 20 ล้านพิกเซลสุดล้ำ และฟีเจอร์ไฮเอนด์จัดเต็ม

 

Review Date (17-กรกฎาคม-2558)

สวัสดีครับ พบกันอีกครั้งกับการรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นเด่น โดยทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะย่างเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่สามของปี 2015 แล้วก็ตาม แต่สมาร์ทโฟนจากแบรนด์ชั้นนำยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือด และหนึ่งในนั้นก็คือ สมาร์ทโฟนจาก เอชทีซี (HTC) โดยล่าสุด เอชทีซี ได้ส่งรุ่นเรือธงอย่าง HTC One M9+ (M9 Plus) ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นต่อยอดของ HTC One M9 ออกมาประชันกับรุ่นเรือธงจากแบรนด์คู่แข่งโดยเฉพาะ ซึ่งสำหรับในประเทศไทยจะใช้รุ่น M9+ นี้ ทำตลาดแทน M9 รุ่นปกติ

สำหรับ HTC One M9+ เป็นอีกรุ่นที่ถูกถามถึงกันมากในช่วงนี้ ด้วยความโดดเด่นประการแรกก็คือ ดีไซน์ตัวเครื่องที่ดูสวยหรูอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ถูกสืบทอดมาจากรุ่นเดิม กับเทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody คือ บอดี้ตัวเครื่องของ HTC One M9+ ถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกันด้วยวัสดุโลหะอะลูมิเนียม ทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทาน และดูพรีเมียมหรูหรา

นอกจากในเรื่องของดีไซน์ที่สวยหรูดูมีราคาแล้ว คุณสมบัติของตัวเครื่องก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลขนาด 5.2 นิ้ว แบบ Super LCD3 ที่มีความละเอียดสูงถึงระดับ 2K QHD (2560x1440 พิกเซล), หน่วยประมวลผลแบบ 64-bit Octa-Core Mediatek MT6795 (Helio X10) ความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ PowerVR G6200, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB (รองรับการเพิ่มหน่วความจำภายนอกแบบ microSD Card ได้สูงสุดถึง 2 TB), หน่วยความแรม (RAM) ขนาด 3 GB, ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 5.0 (Lollipop), รองรับ 4G LTE และรองรับ NFC

ในส่วนของกล้องดิจิทัลก็ได้รับการอัพเกรดใหม่ โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังจะเป็นแบบ Duo Camera คือ มีกล้องดิจิทัล 2 ตัวอยู่คู่กัน กับความละเอียดระดับ 20 ล้านพิกเซล และ 2.1 ล้านพิกเซล ซึ่งจะมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2, ไฟแฟลชแบบคู่ในตัว และการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K UHD 

สำหรับกล้องดิจิทัลด้านหน้าจะเป็นแบบ UltraPixel ซึ่งมีความละเอียด 4 ล้านพิกเซล และอีกอย่างที่สำคัญก็คือมาพร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ซึ่งฟีเจอร์นี้จะมีอยู่ในเฉพาะสมาร์ทโฟนตัวเรือธงบางรุ่นในตลาดปัจจุบันเท่านั้น

สรุปแล้วเรียกได้ว่า จัดมาเต็มสูบกันเลยที่เดียวสำหรับคุณสมบัติตัวเครื่องของ  HTC One M9+ ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร จะมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจกันบ้าง ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว HTC One M9+ พร้อมกันได้เลยครับ

 

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

HTC One M9+ จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Super LCD3 Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 2560x1440 พิกเซล (2K QHD : 534 ppi) ขนาด 5.2 นิ้ว โดยจะมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 150.99x71.99x9.61 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 168 กรัม

ด้านหน้าส่วนบน : จะประกอบไปด้วย ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา หรือลำโพงเสียงภายนอกแบบ HTC BoomSound (ระบบเสียง Dolby Audio), สัญญาณไฟ LED สำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ เช่น กำลังชาร์จแบตเตอรี่ หรือมีข้อความใหม่,  เซ็นเซอร์ Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้, เซ็นเซอร์ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และกล้องดิจิทัลความละเอียด 4 ล้านพิกเซล (ขนาดของเซ็นเซอร์รับภาพ 1/3 นิ้ว) พร้อมเทคโนโลยี UltraPixel ที่ทาง HTC กล่าวไว้ว่าจะทำให้สามารถเก็บแสงได้มากกว่าพิกเซลแบบทั่วไปถึง 300% ซึ่งจะช่วยให้ภาพถ่ายมีความคมชัดมากยิ่งขึ้น แม้จะอยู่ในสถานที่ ที่มีแสงน้อยก็ตาม

ด้านหน้าส่วนล่าง : จะประกอบไปด้วย ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา หรือลำโพงเสียงภายนอกแบบ HTC BoomSound (ระบบเสียง Dolby Audio), ไมโครโฟน, ปุ่มสแกนลายนิ้วมือ และ ปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps

ด้านบนของตัวเครื่อง : จะมีอินฟราเรดสำหรับใช้ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ

ด้านล่างของตัวเครื่อง : จะมีช่องแบบ microUSB สำหรับเชื่อมต่อกับสายชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล และช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านขวาของตัวเครื่อง : จะประกอบไปด้วยถาดสำหรับเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD, ปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง และปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง : จะมีถาดใส่ซิมการ์ด ซึ่งซิมการ์ดที่ใช้จะเป็นแบบ nanoSIM

ด้านหลังของตัวเครื่อง : จะประกอบไปด้วย กล้องดิจิทัล 2 ตัว (Duo Camera) ความละเอียดระดับ 20 ล้านพิกเซล กับ 2.1 ล้านพิกเซล ซึ่งจะมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2, ไฟแฟลชในตัวแบบ Dual-LED และไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนขณะทำการบันทึกวิดีโอ หรือบันทึกเสียง อย่างไรก็ดี ฝาหลังของ HTC One M9+ จะไม่สามารถเปิดออกได้ ซึ่งภายในจะมรแบตเตอรี่ขนาด 2840 mAh บรรจุอยู่ภายใน

สำหรับตัวเครื่องของ HTC One M9+ จะใช้เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody คือ บอดี้ตัวเครื่องของ HTC One M9+ ถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกันด้วยวัสดุโลหะอะลูมิเนียม พร้อมกรอบตัวเครื่องแบบ Dual-Tone ซึ่งด้วยเทคโนโลยีการผลิตแบบนี้จะช่วยให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทาน และช่วยให้ดูเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม

 

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

HTC One M9+ จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 (Lollipop) ส่วนอินเตอร์เฟส จะเป็น HTC Sense UI เวอร์ชัน 7.0 ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และใช้งานได้ง่าย ตามแบบฉบับของทาง HTC

สำหรับ Notification การแจ้งเตือนต่างๆ และการ เปิด-ปิด หังก์ชันลัด ก็มีให้ใช้งานบน HTC One M9+ ด้วยเช่นกัน

สามารถตั้งค่าต่างๆ บนหน้าจอวอลเปเปอร์ได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การเปลี่ยนธีม, การเพิ่มแอปพลิเคชัน หรือวิดเจ็ตที่ต้องการมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และสามารถเพิ่มหน้าจอโฮมสกรีนได้

ส่วนบริการดีๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานครบเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Gmail หรือ Google+ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังสามารถดาวน์โหลดธีมอื่นๆ มาใช้งานได้แบบฟรีๆ ผ่านแอปพลิเคชัน HTC Theme

มาต่อกันที่ฟังก์ชันโทรศัพท์กันบ้าง ซึ่งฟังก์ชันโทรศัพท์บน HTC One M9+ ก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย สามารถเข้าสู่ฟังก์ชันอื่นๆ ได้ทันที เพียงแค่ปัดไปทางซ้าย หรือทางขวา เช่น ประวัติการโทร หรือรายชื่อโทรศัพท์

HTC One M9+ ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่างที่มีชื่อว่า HTC BlinkFeed ที่เป็นแหล่งรวบรวมข่าวสารต่างๆ ทั้งของประเทศไทย กับต่างประเทศ ซึ่งคุณสามารถเปิดอ่านได้ง่ายๆ รับรองได้เลยว่า คุณจะไม่พลาดข่าวสารสำคัญๆ อีกต่อไป

ส่วนแอปพลิเคชันพื้นฐานก็มีให้ใช้งานครบ ซึ่งจะอยู่ในหน้า App Drawer

นอกจากนี้ HTC One M9+ ยังมาพร้อมกับโหมดประหยัดพลังงานแบบดีเยี่ยม คือ ตัวโหมดประหยัดพลังงานจะทำการปิดการทำงานของฟังก์ชันที่ไม่จำเป็น และปรับสีของหน้าจอแสดงผลเป็น ขาว-ดำ เพื่อการประหยัดพลังงานที่ดีที่สุดนั่นเอง นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบได้ว่า ฟังก์ชัน หรือแอปพลิเคชันไหน ใช้พลังงานกี่เปอร์เซ็นต์

และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ HTC One M9+ มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือให้ใช้งาน (Fingerprint Sensor) ซึ่งคุณสามารถบันทึกลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ และการบันทึกลายนิ้วมือจะต้องทำการสัมผัส และยกออก จนว่าเซ็นเซอร์จะบันทึกลายนิ้วมือได้ 100% เพื่อให้ HTC One M9+ จดจำลายนิ้วได้อย่างถูกต้องนั่นเอง

ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถ เปิด-ปิด การใช้งานฟังก์ชันเพิ่มเติมได้อีก 2 แบบ คือ เปิด-ปิด การปลดล็อกหน้าจอด้วยการสแกนลายนิ้วมือ กับ เปิด-ปิด การเข้าสู่หน้าโฮมด้วยการสแกนลายนิ้วมือ รวมถึงคุณสามารถรีเซ็ตเครื่องสแกนลายนิ้วมือทั้งหมดได้อีกด้วย

ในส่วนของอัลบั้มภาพถ่ายจะสามารถแสดงภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ แสดงภาพเป็นแบบแยกอัลบั้ม และแสดงภาพถ่ายทั้งหมด


และอีกหนึ่งความพิเศษบน HTC One M9+ คือ มาพร้อมกับฟีเจอร์ตกแต่งภาพที่มีชื่อว่า UFocus ซึ่งข้อดีของฟังก์ชัน UFocus คือ เมื่อถ่ายภาพที่ต้องการเสร็จเรียบร้อย ผู้ใช้งานสามารถมาเลือกจุดโฟกัสที่หลังได้ แถมยังสามารถปรับค่าความเบลอได้อีกด้วย เรียกได้ว่า เหมาะกับการถ่ายภาพ หน้าชัดหลังเบลอ หรือหน้าเบลอหลังชัด เป็นอย่างยิ่ง


ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถตกแต่งภาพถ่ายแบบอื่นๆ ได้อีกหลายอย่างด้วยกัน เช่น การตกแต่งภาพด้วยเอฟเฟกต์ต่างๆ


การปรับภาพแบบ 3D หรือ Dimension Plus คือ การเอียงตัวเครื่อง ขึ้น-ลง หรือซ้าย-ขวา เพื่อให้สามารถดูภาพแบบสามมิติได้นั่นเอง


สามารถตกแต่งภาพด้วยรูปทรงเลขาคณิตต่างๆ ได้ ซึ่งตัวรูปทรงเรขาคณิตสามารถปรับเปลี่ยนสีได้อีกด้วย


และยังมีเอฟเฟกต์แบบเคลื่อนไหวให้เลือกใช้งาน ซึ่งเมื่อตกแต่งภาพที่ต้องการได้เรียบร้อยแล้ว สามารถเลือกบันทึกเป็นภาพนิ่ง หรือบันทึกเป็นแบบวิดีโอได้ตามต้องการ (การตกแต่งภาพด้วยฟังก์ชัน UFocus หรือฟังก์ชันอื่นๆ จะต้องถ่ายภาพผ่านกล้องคู่จากด้านหลัง หรือ Duo Camera เท่านั้น จึงจะใช้งานการตกแต่งภาพฟังก์ชันดังที่กล่าวมาได้)

นอกจากนี้ คุณยังสามารถสร้างเรื่องราวต่างๆ ด้วยภาพถ่าย หรือวิดีโอได้แบบมืออาชีพผ่านแอปพลิเคชัน Zoe และเมื่อสร้างวิดีโอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังสามารถแชร์วิดีโอผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กให้เพื่อนๆ รับชมกันได้อีกด้วย

HTC One M9+ ยังสามารถเปิดอ่าน หรือสร้างไฟล์เอกสารได้ ไม่ว่าจะเป็น Word, Excel, PowerPoint และ PDF บอกได้เลยว่า ช่วยให้ชีวิตการทำงานสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย

ส่วนแอปพลิเคชันฟังเพลงก็มีให้ใช้งานบน HTC One M9+ ด้วยเช่นกัน บวกกับลำโพงเสียงภายนอกแบบ HTC BoomSound กับระบบเสียง Dolby Audio ยิ่งช่วยเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงมากขึ้นกว่าเดิม


HTC One M9+ สามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K UHD ได้อย่างสบายๆ และด้วยหน้าจอแสดงผลที่มีความละเอียดมากถึงระดับ 2K QHD จึงทำให้ผู้ใช้งานได้รับอรรถรสด้านภาพมาแบบเต็มๆ

สำหรับ HTC One M9+ จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลแบบ 64-bit Octa-Core Mediatek MT6795 Processor ความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ PowerVR G6200, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB, หน่วยความแรม (RAM) ขนาด 3 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 (Lollipop)


 

ด้วยคุณสมบัติของตัวเครื่องที่อยู่ในระดับสูง จึงทำให้ HTC One M9+ สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการเล่นเกมได้ดีเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่เกมกราฟิกระดับกลาง ไปจนถึงเกมกราฟิกระดับสูง โดยสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ภายในตัวเกมได้อย่างครบถ้วน และการเคลื่อนไหวมีความลื่นไหลไร้อาการสะดุด

และเมื่อนำ HTC One M9+ มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Banchmark จะได้คะแนนอยู่ที่ 53392 คะแนน

ต่อด้วยการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน GPUbench จะได้คะแนนอยู่ที่ 17107 คะแนน

โดย HTC One M9+ จะรองรับการสัมผัสพร้อมกันได้สูงสุด 10 จุด

นอกจากนี้ ยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ เพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store

 

กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ

สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพของ HTC One M9+ ก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย โดยจะแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน

โดยโหมดการถ่ายด้วยกล้องเดี่ยวจะโหมดการถ่ายภาพให้เลือก 3 โหมดด้วยกันได้แก่ โหมดการถ่ายภาพปกติ, โหมดการถ่ายภาพพาโนราม่า และสามารถเปลี่ยนไปใช้งานกล้องดิจิทัลคู่ได้ โดยการกดเลือกที่ไอคอนคำว่า Switch to Duo

และยังสามารถตั้งค่าฟังก์ชันการใช้งานกล้องดิจิทัลเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกฟังก์ชันการถ่ายภาพได้หลายแบบ ได้แก่ ปกติ, การถ่ายภาพกลางคืน, การถ่ายภาพย้อนแสง หรือ HDR, การถ่ายภาพแบบแมนนวล, การถ่ายภาพบุคคล, การถ่ายภาพวิว, การถ่ายภาพตัวอักษร และการถ่ายภาพมาโคร, สามารถตั้งค่าการถ่ายวิดีโอได้ 3 แบบ คือ แบบปกติ, แบบสโลว์โมชัน และวิดีโอแบบเร็ว

สามารถปรับค่า ISO ได้ ไม่ว่าจะเป็น อัตโนมัติ, 200, 400, 800 และ 1600, สามารถปรับค่าชดเชยแสงได้ตั้งแต่ -2 ไปจนถึง +2

สามารถปรับค่าไวท์บาลานซ์ได้หลายแบบ ได้แก่ อัตโนมัติ, แสงหลอดไส้, แสงฟลูออเรสเซนต์, แสงจ้า และเมฆมาก

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การบันทึกการตั้งค่าการใช้งาน โดยไม่ต้องปรับค่าใหม่อีกครั้งเมื่อทำการเปิดใช้งานอีก, สามารถเลือกอัตราส่วนของภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ แบบ 16:9 กับแบบ 10:7

สามารถ เปิด-ปิด การถ่ายอัตโนมัติเมื่อตรวจจับรอยยิ้ม, สัมผัสเพื่อถ่ายภาพ และล็อกโฟกัสระหว่างบันทึกวีดีโอได้, สามารถปรับค่าฟังก์ชันการถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 3 แบบ ได้แก่ เปิดการใช้งานฟังก์ชันถ่ายภาพต่อเนื่อง, จำกัดการถ่ายภาพสูงสุดไว้ที่ 20 เฟรม ต่อการถ่ายต่อเนื่อง 1 ครั้ง และการเปิดดูภาพแบบอัตโนมัติเมื่อทำการถ่ายภาพเสร็จเรียบร้อย

สามารถเปิดใช้งานดูภาพถ่ายได้หลายแบบด้วยกัน ได้แก่ ไม่เปิดใช้งาน, 5 วินาที, 10 วินาที และดูแบบไม่จำกัดเวลา, สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้ ตั้งแต่ 2 วินาที ไปจนถึง 10 วินาที

สามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้ 3 แบบ คือ 5376x3024 พิกเซล, 4672x2624 พิกเซล และ 3808x2144 พิกเซล, สามารถปรับค่าต่างๆ ของภาพถ่ายได้ตั้งแต่ -2 ไปจนถึง +2 ไม่ว่าจะเป็น ความเข้มของภาพถ่าย, ความเข้มของสี และความคมชัดของภาพถ่าย,

สามารถเลือกความละเอียดของการถ่ายวิดีโอได้ ไม่ว่าจะเป็น 3840x2176 พิกเซล, 1920x1080 พิกเซล, 1280x720 พิกเซล, 320x240 พิกเซล และ 176x144 พิกเซล สามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ ได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การ เปิด-การใช้งานการแท็กสถานที่ของภาพถ่าย และเสียงชัตเตอร์,

สามารถเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มปรับระดับเสียงได้ ไม่ว่าจะเป็น การปรับระดับของเสียง, ถ่ายภาพ และซูม รวมถึงสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้

ส่วนโหมดการถ่ายภาพด้วยกล้องคู่ก็สามารถตั้งค่าการใช้งานได้หลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การปรับค่า ISO ได้ ไม่ว่าจะเป็น อัตโนมัติ, 200, 400, 800 และ 1600, สามารถปรับค่าชดเชยแสงได้ตั้งแต่ -2 ไปจนถึง +2

สามารถปรับค่าไวท์บาลานซ์ได้หลายแบบ ได้แก่ อัตโนมัติ, แสงหลอดไส้, แสงฟลูออเรสเซนต์, แสงจ้า และเมฆมาก, สามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ

สามารถเปิดใช้งานดูภาพถ่ายได้หลายแบบด้วยกัน ได้แก่ ไม่เปิดใช้งาน, 5 วินาที, 10 วินาที และดูแบบไม่จำกัดเวลา, สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้ ตั้งแต่ 2 วินาที ไปจนถึง 10 วินาที

สามารถปรับค่าต่างๆ ของภาพถ่ายได้ตั้งแต่ -2 ไปจนถึง +2 ไม่ว่าจะเป็น ความเข้มของภาพถ่าย, ความเข้มของสี และความคมชัดของภาพถ่าย, นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ ได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การ เปิด-การใช้งานการแท็กสถานที่ของภาพถ่าย และเสียงชัตเตอร์

สามารถเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มปรับระดับเสียงได้ ไม่ว่าจะเป็น การปรับระดับของเสียง, ถ่ายภาพ และซูม, สามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้

ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็สามารถปรับค่าการใช้งานต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น การปรับค่าผิวเนียนได้ตามใจชอบ ซึ่งสามารถปรับได้ตั้งแต่น้อยไปหามาก

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้กล้องดิจิทัลได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ได้แก่ การเลือกฟังก์ชันเพื่อถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็น ปกติ, HDR และบุคคล การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพตั้งแต่ 2 วินาที ไปจนถึง 10 วินาที, สามารถปรับค่าชดเชยแสงได้ตั้งแต่ -2 ไปจนถึง +2

สามารถปรับค่าไวท์บาลานซ์ได้หลายแบบ ได้แก่ อัตโนมัติ, แสงหลอดไส้, แสงฟลูออเรสเซนต์, แสงจ้า และเมฆ นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ ได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเลือกอัตราส่วนของภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ แบบ 16:9 กับแบบ 4:3

สามารถ เปิด-ปิด การใช้งานการปรับค่าผิวเนียนได้, สามารถ เปิด-ปิด การใช้งาน ฟังก์ชันเซลฟี่อัตโนมัติ, สัมผัสเพื่อถ่ายภาพ และจัดเก็บข้อมูลภาพถ่าย

สามารถเปิดใช้งานดูภาพถ่ายได้หลายแบบด้วยกัน ได้แก่ ไม่เปิดใช้งาน, 5 วินาที, 10 วินาที และดูแบบไม่จำกัดเวลา, สามารถเลือกความละเอียดของกล้องดิจิทัลด้านหน้าสำหรับถ่ายภาพได้ 3 แบบ ได้แก่ 2688x1520 พิกเซล, 2560x1440 พิกเซล, 1920x1088 พิกเซล

สามารถปรับค่าต่างๆ ของภาพถ่ายได้ตั้งแต่ -2 ไปจนถึง +2 ไม่ว่าจะเป็น ความเข้มของภาพถ่าย, ความเข้มของสี และความคมชัดของภาพถ่าย, สามารถเลือกความละเอียดของการถ่ายวิดีโอได้ 4 แบบ ได้แก่ 1920x1080 พิกเซล, 1280x720 พิกเซล,  320x240 พิกเซล และ 176x144 พิกเซล

สามารถ เปิด-ปิด การใช้งานตาราง 9 ช่อง, การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย และเสียงชัตเตอร์ได้, สามารถเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มปรับระดับเสียงได้ ไม่ว่าจะเป็น การปรับระดับของเสียง, ถ่ายภาพ และซูม

และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่องแบบ Duo Camera ความละเอียดระดับ 20 ล้านพิกเซล กับ 2.1 ล้านพิกเซล ของ HTC One M9+ (M9 Plus)


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกล้องคู่ (Duo Camera) ปรับภาพด้วยฟังก์ชัน UFocus แบบหน้าชัดหลังเบลอ


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกล้องคู่ (Duo Camera) ปรับภาพด้วยฟังก์ชัน UFocus แบบหน้าเบลอหลังชัด


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกล้องคู่ (Duo Camera) ปรับภาพด้วยฟังก์ชัน UFocus แบบหน้าชัดหลังเบลอ


ตัวอย่างภาพ : ที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกล้องคู่ (Duo Camera) ปรับภาพด้วยฟังก์ชัน UFocus แบบหน้าเบลอหลังชัด

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Beauty ของ HTC One M9+ (M9 Plus)


ภาพถ่ายด้วยโหมด Smart Beauty (หน้าสวย) ซึ่งปรับค่าระดับกลาง


ภาพถ่ายด้วยโหมด Smart Beauty (หน้าสวย) ซึ่งปรับค่าระดับสูงสุด

 

สรุปผลการทดสอบของ HTC One M9+ (M9 Plus)

จากการทดสอบใช้งาน HTC One M9+ (M9 Plus) เป็นระยะเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ อันดับแรกเลย คือ ประใจในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ ที่มีความสวยงาม หรูหรา บวกกับความโค้งมนที่ช่วยจับถือได้ง่าย แถมยังมีเทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody ที่บอดี้ตัวเครื่องของ HTC One M9+ ถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกันด้วยวัสดุโลหะอะลูมิเนียม จึงทำให้ HTC One M9+ ดูมีความพรีเมียมมากยิ่งขึ้น

ส่วนคุณสมบัติตัวเครื่องก็เรียกได้ว่าไฮเอนด์จัดเต็มไม่แพ้สมาร์ทโฟนเรือธงจากแบรนด์คู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ Super LCD3 Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียดระดับ 2K QHD (2560x1440 พิกเซล) ขนาด 5.2 นิ้ว, หน่วยประมวลผลแบบ 64-bit Octa-Core MediaTek MT6795 Processor ความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ PowerVR G6200, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB (รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card ได้สูงสุดถึง 2 TB), หน่วยความแรม (RAM) ขนาด 3 GB, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner), แบตเตอรี่ขนาด 2840 mAh และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 (Lollipop)

ด้วยคุณสมบัติดังที่กล่าวมา บอกได้เลยว่า HTC One M9+ จะสามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างเต็มที่แน่นอน ทั้งในเรื่องของการเล่นเกม หรือชมภาพยนตร์ความละเอียดสูง ก็สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ HTC One M9+ ยังรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านระบบ 4G LTE และ 3G ได้ครบทุกคลื่นความถี่อีกด้วย รวมถึงยังรองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายระยะใกล้แบบ NFC อีกต่างหาก

ส่วนจุดขายสำคัญอีกอย่างของ HTC One M9+ ก็คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของกล้องถ่ายภาพตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง โดยเป็นกล้องดิจิทัลแบบ Duo Camera ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ความละเอียดระดับ 20 ล้านพิกเซล กับเซ็นเซอร์ความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล ซึ่งจะมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2, ไฟแฟลชแบบ Dual-LED ในตัว และการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K UHD ซึ่งจากการทดสอบก็ถือว่าตอบสนองการใช้งานได้ดีมากๆ ทั้งการถ่ายภาพด้วยกล้องตัวเดียวกับความละเอียด 20 ล้านพิกเซล หรือกล้องคู่แบบ Duo Camera 

ซึ่งการถ่ายภาพด้วยฟังก์ชัน Duo Camera จะเหมาะกับการถ่ายภาพมุมกว้าง, ถ่ายภาพเน้นวัตถุ, ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ หรือถ่ายภาพหน้าเบลอหลังชัด เป็นพิเศษ เพราะการถ่ายภาพด้วยกล้อง 2 ตัว จะเก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างดี แถมยังสามารถใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน UFocus ได้ โดยสามารถเลือกจุดโฟกัสได้ตามต้องการ จึงทำให้คุณสามารถถ่ายภาพสวยๆ ได้ ไม่แพ้มือโปร

และที่ต้องถูกอกถูกใจสาวกเซลฟี่ คือ กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 4 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี UltraPixel ที่สามารถเก็บแสงได้ดี ไม่ว่าจะคุณจะถ่ายภาพเซลฟี่ในสภาพแสงใดๆ ก็ตาม ภาพของคุณก็จะออกมาสวย ดูมีน้ำมีนวลอย่างแน่นอน

สำหรับ HTC One M9+ ที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย จะมีราคาอยู่ที่ 24,990 บาท ซึ่งดูโดยรวมแล้วสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้ก็น่าจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีสเปคในระดับที่ดีที่สุด บนดีไซน์ที่สวยหรูเตะตา และต้องมีงบประมาณสูงพอประมาณ หากเป็นเช่นนั้นก็บอกได้เลยว่า HTC One M9+ คือ สมาร์ทโฟนที่คุณกำลังมองหาอยู่แน่นอน สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง HTC ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง HTC One M9+ มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสถัดไป สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

 

จุดเด่นของ HTC One M9+ (M9 Plus)

- ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody ด้วยวัสดุโลหะอะลูมิเนียม พร้อมขอบตัวเครื่องแบบ Dual-Tone ซึ่งช่วยให้รูปลักษณ์โดยรวมของตัวเครื่องมีความหรูหราพรีเมียมมากเป็นพิเศษ
- จอแสดงผลแบบ Super LCD3 Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 2560x1440 Pixels (2K QHD : กว้าง 5.2 นิ้ว : 534 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ PowerVR G6200
- รองรับการใช้งาน HTC Themes และ HTC BlinkFeed
- ประมวลผลการทำงานด้วย Octa-Core ARM Cortex-A53 Processor (ชิปเซ็ต 64-bit Mediatek MT6795 : Helio X10) ความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.0.2 (Lollipop)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 2 TB
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่องแบบ Duo Camera ความละเอียดระดับ 20 ล้านพิกเซล และ 2.1 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชในตัวแบบ Dual-LED 
- ขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.2
- รองรับการถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K UHD (2160p : 3840x2160 Pixels : 30 fps)
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 4 ล้าน Pixels (UltraPixel) พร้อมรองรับการถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels : 30 fps)
- รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G HSPA+, EDGE และ GPRS
- รองรับการใช้งาน 4G LTE, 3G ทุกคลื่นความถี่ในประเทศไทย
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS และรองรับระบบดาวเทียม GLONASS ของรัสเซีย กับ Beidou ของจีน
- รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายระยะใกล้แบบ NFC
- ลำโพงเสียงภายนอกแบบ HTC BoomSound (ระบบเสียง Dolby Audio)

 

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ HTC One M9+ (M9 Plus)

- ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody ทำให้เปิดฝาหลังไม่ได้ และไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
- แบตเตอรี่ขนาด 2840 mAh ยังไม่ใช่ความจุที่สูงเท่าที่ควร ถ้าใช้งานติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน แบตเตอรี่อาจอยู่ได้ไม่ครบวัน และอาจต้องทำการการชาร์จแบตเตอรี่อยู่เป็นระยะ
- กล้องดิจิทัลไม่มีระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization) ในขณะที่สมาร์ทโฟนเรือธงหลายๆ รุ่นจะมีติดตั้งมาให้
- ตัวเครื่องค่อนข้างหนา และหนักเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนเรือธงคู่แข่งรุ่นอื่นๆ
- ราคาจำหน่าย 24,990 บาท ถือเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง

 

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

 

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ HTC One M9+ (M9 Plus) ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้

HTC One M9+ (M9 Plus) Specification

 

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::

 

 

 


 












 รีวิว OPPO A5x | Enco Buds3
สมาร์ตโฟนแบตอึด 6000 mAh พร้อมชาร์จไว 45W SUPERVOOC บนบอดี้สวยแกร่ง ในราคาไม่ถึง 4 พัน และ OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สายตัวคุ้ม

[รายละเอียด]
 รีวิว Alldocube iPlay60 Pad Pro
แท็บเล็ตจอใหญ่ 12.1 นิ้ว โทรได้ พร้อมคีย์บอร์ด ปากกา และรองรับ PC Mode ครบจบในเครื่องเดียว ในราคาไม่ถึง 9 พันบาท

[รายละเอียด]
 รีวิว OPPO Find N5
สมาร์ตโฟนจอพับบางที่สุดในโลก พร้อมกล้อง Hasselblad 3x Optical Zoom ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite พลังชาร์จไว 80W และฟีเจอร์ AI ใหม่ล่าสุด

[รายละเอียด]
 รีวิว POCO F7 Pro | F7 Ultra
สมาร์ตโฟนทรงพลังที่สุดของค่าย แรงระดับเรือธง ฟีเจอร์ AI พร้อมใช้ ในราคาแค่ครึ่งเดียว เริ่มเพียง 15,990 บาท

[รายละเอียด]
 รีวิว Xiaomi 15 | Xiaomi 15 Ultra
เรือธงกล้อง Leica ที่น่าจับจองกว่าเดิม เพิ่มกล้อง 200MP ใหม่ซูมได้ 120x พร้อมฟีเจอร์ AI จัดเต็ม

[รายละเอียด]
 รีวิว Alldocube iPlay 50 mini
แท็บเล็ตไซส์มินิสุดคุ้ม โทรได้ มี GPS พร้อมฟีเจอร์ตอบโจทย์คนชอบดูหนัง และอ่าน e-Book ในราคาประหยัดเพียง 3,990 บาท

[รายละเอียด]
รายการรีวิวมือถือทั้งหมด








วางจำหน่ายแล้ว OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สาย แบตอึด 48 ชม. น้ำหนัก 3.8 กรัม ราคา 799 บาท
วางจำหน่ายแล้ว OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สาย แบตอึด 48 ชม. น้ำหนัก  
วางจำหน่ายแล้ว หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ “OPPO Enco Buds3” พร้อมมอบการใช้งานที่ดื่มดำเต็มอรรถรสได้ตลอดวัน ในราค
realme Neo7 Turbo เตรียมเปิดตัวที่จีน 29 พฤษภาคมนี้ พร้อมดีไซน์ฝาหลังใสและชิป Dimensity 9400e
realme Neo7 Turbo เตรียมเปิดตัวที่จีน 29 พฤษภาคมนี้ พร้อมดีไซน์ฝา 
realme Neo7 Turbo สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดเตรียมเปิดตัวในประเทศจีนวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ โดยล่าสุดได้เผยภาพเ
iPhone 7 Plus และ iPhone 8 ถูกจัดเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า (Vintage) แล้ววันนี้
iPhone 7 Plus และ iPhone 8 ถูกจัดเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า (Vintage)  
Apple ได้อัปเดตรายการผลิตภัณฑ์เก่า (Vintage) และผลิตภัณฑ์ล้าสมัย (Obsolete) อีกครั้งในวันนี้ โดยมีการเปลี
เทคนิคตั้งค่ากล้องมือถือให้ถ่ายสวยระดับโปร ทำอย่างไรไปดู!
เทคนิคตั้งค่ากล้องมือถือให้ถ่ายสวยระดับโปร ทำอย่างไรไปดู! 
ในปัจจุบันกล้องถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนได้รับการอัปเกรดให้ล้ำกว่าแต่ก่อนมาก ไม่ว่าจะเป็นจำนวนกล้องที่มากขึ้น,
AirPods หายข้างเดียวทำไงดี ซื้อใหม่ข้างเดียวได้ไหม?
AirPods หายข้างเดียวทำไงดี ซื้อใหม่ข้างเดียวได้ไหม? 
ฝันร้ายของคนที่ใช้ AirPods คงจะหนีไม่พ้นการที่หูฟังหาย ซึ่งเท่าที่เคยพบเจอมาส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้หายทั้งเค
มือถือราคาไม่เกิน 10,000 ปี 2025 อัปเดตล่าสุดเดือน มี.ค. 2025 มีรุ่นไหนบ้างไปดู!
มือถือราคาไม่เกิน 10,000 ปี 2025 อัปเดตล่าสุดเดือน มี.ค. 2025 มีร 
ปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีหลายรุ่นหลายราคาให้เลือกสรรกันตามกำลังทรัพย์ โดยรุ่นที่มักจะเป็นที่ต้องการอยู่เสมอคือร
มือถือเล่นเกมราคาไม่เกิน 10,000 บาท สเปกคุ้มค่า อัปเดตราคาล่าสุด ก.พ. 2025
มือถือเล่นเกมราคาไม่เกิน 10,000 บาท สเปกคุ้มค่า อัปเดตราคาล่าสุด  
สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง หรือมือถือเล่นเกมยังคงได้รับความสนใจอยู่เสมอ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีราคาไม่เกิน 10,000 บาท สำ
Samsung เปิดตัว Galaxy S25 Series ในไทย โชว์พลัง Galaxy AI ผ่านงานดนตรีสุดล้ำ ในงาน Here AI am Music Fest
Samsung เปิดตัว Galaxy S25 Series ในไทย โชว์พลัง Galaxy AI ผ่านงา 
ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S25 Series สุดยิ่งใหญ่ในไทย โชว์ความเก่ง Galaxy AI ผู้ช่วยส่วนตัวคนใหม่ ผ่านงานดนตร
HMD Skyline วางขายในไทยแล้ววันนี้ในราคา 14,990 บาท มากับชิป Snapdragon 7s Gen 2, จอ 144Hz, ชาร์จไร้สาย และกล้องซูม
HMD Skyline วางขายในไทยแล้ววันนี้ในราคา 14,990 บาท มากับชิป Snapd 
HMD Skyline สมาร์ทโฟนผู้สืบทอดทางจิตวิญญาณของ Nokia Lumia ในตำนานเปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยเรียบร้อย
อินฟินิกซ์ โปรกลางเดือน สมาร์ทโฟนรุ่นฮิต สเปคเทพ ราคาพิเศษ ส่วนลดจัดเต็ม [สิงหาคม 2024]
อินฟินิกซ์ โปรกลางเดือน สมาร์ทโฟนรุ่นฮิต สเปคเทพ ราคาพิเศษ ส่วนลด 
อินฟินิกซ์ อัดโปรฯ แรงกลางเดือน ขนสมาร์ทโฟนรุ่นฮิต สเปคเทพ ราคาโดน มาให้เลือกช้อป พร้อมส่วนลดจัดเต็มอีกเพ
รายการอัพเดททั้งหมด



ราคามือถือ อัพเดทล่าสุด !!


OPPO Reno13 5G 16,999 บาท ราคาลดลง 1,000 บาท จากราคาเดิม 17,999  บาท
Samsung Galaxy S25+ 34,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 36,900  บาท
Samsung Galaxy S25 27,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 29,900  บาท
Samsung Galaxy S25 Ultra 44,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 46,900  บาท
Samsung Galaxy S24 FE 17,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 19,900  บาท
OPPO Find N5 69,999 บาท
iPhone 13 128GB 15,900 บาท
iPhone 15 20,900 บาท ราคาลดลง 6,000 บาท จากราคาเดิม 26,900  บาท
OPPO Reno13 F 5G 12,999 บาท
Samsung Galaxy Z Fold6 58,900 บาท
Samsung Galaxy Z Flip6 34,900 บาท
POCO F6 Pro 13,490 บาท ราคาลดลง 2,500 บาท จากราคาเดิม 15,990  บาท
Samsung Galaxy A05s 4,499 บาท ราคาลดลง 500 บาท จากราคาเดิม 4,999  บาท
iPhone 15 Pro Max 39,500 บาท ราคาลดลง 7,400 บาท จากราคาเดิม 46,900  บาท
iPhone 15 Pro 35,400 บาท ราคาลดลง 3,100 บาท จากราคาเดิม 38,500  บาท
iPhone 15 Plus 29,900 บาท ราคาลดลง 3,300 บาท จากราคาเดิม 33,200  บาท
Redmi Pad SE 4,999 บาท
Samsung Galaxy Tab S9+ 35,900 บาท
vivo Y27 5G 6,999 บาท
รายการ ราคามือถือ ทั้งหมด



อัพเดท ข่าวสารล่าสุด (New update)

Xbox ปล่อย Copilot for Gaming (Beta) บนอุปกรณ์มือถือ พร้อมรองรับทั้ง iOS และ Android ผู้ช่วยเกมเมอร์อัจฉริยะ
Xbox ปล่อย Copilot for Gaming (Beta) บนอุปกรณ์มือถือ พร้อมรอ 
Xbox เปิดให้เหล่าเกมเมอร์ได้ทดลองใช้งานฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด Copilot for Gaming (Beta) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกร
LINE อัปเดตฟีเจอร์ “รีแอคชั่น” ใหม่! เพิ่มสีสันให้การแชทผ่านการส่งรีแอคชั่นข้อความด้วย LINE Emoji ได้ทุกรูปแบบแล้ววันนี้
LINE อัปเดตฟีเจอร์ “รีแอคชั่น” ใหม่! เพิ่มสีสันให้การแชทผ่าน 
LINE อัปเดตฟีเจอร์ “รีแอคชั่น” ใหม่ ผู้ใช้งานทุกท่านสามารถเลือกใช้ LINE Emoji ทุกรูปแบบในการส่งรีแอคชั่นต
MAHAJAK สบายใจ สบายจ่าย ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน อยู่ที่ไหนก็ผ่อนได้ กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
MAHAJAK สบายใจ สบายจ่าย ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน อยู่ที่ไห 
มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จัดให้กับโปรโมชันผ่อนได้นานสูงสุดถึง 10 เดือน พร้อมให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของเครื่องเสียง
Samsung เปิดตัวทีวี AI รุ่นใหม่ การันตีอัปเดต OS ฟรี 7 ปี พร้อมรับโปรพิเศษ 7 ต่อ
Samsung เปิดตัวทีวี AI รุ่นใหม่ การันตีอัปเดต OS ฟรี 7 ปี พร 
ซัมซุง มอบความมั่นใจให้ลูกค้า การันตีอัปเดต OS ฟรีนาน 7 ปี บนไลน์อัปทีวี AI รุ่นใหม่
Xiaomi รายได้พุ่งทะลุ 111.3 พันล้านหยวน ไตรมาสแรกปี 2025 กำไรโต 64.5%
Xiaomi รายได้พุ่งทะลุ 111.3 พันล้านหยวน ไตรมาสแรกปี 2025 กำไ 
เสียวหมี่ทำรายรับทะลุ 111.3 พันล้านหยวนในไตรมาสแรกของปี 2568 ซึ่งทำยอดทะลุ 1 แสนล้านหยวนเป็นไตรมาสที่สองต
รายการอัพเดททั้งหมด


    Catalog มือถือ     market     Review มือถือ      ราคามือถือ     forum
Catalog มือถือ
Catalog มือถือ Nokia
Catalog มือถือ Samsung
Catalog มือถือ SonyEricsson
Catalog มือถือ i-mobile
Catalog มือถือ LG
Catalog มือถือ BlackBerry
ลงประกาศสินค้ามือถือ
สมัครสมาชิก
หน้าแรกตลาดซื้อขายมือถือ
 
หน้าแรกรีวิว
รีวิว มือถือ Nokia
รีวิว มือถือ Samsung
รีวิว มือถือ Motorola
รีวิว มือถือ LG
 

ราคามือถือ Samsung
ราคามือถือ iPhone
ราคามือถือ Huawei
ราคามือถือ OPPO
ราคามือถือ Vivo
   
   
หน้าแรก cafe
Nokia club
ตั้งหัวข้อใหม่
 

© Copyright all rights reserved : ThaiMobileCenter.com