ตอนนี้คุณอยู่ที่ >> หน้าแรก >> หน้ารวม mobile review >> รีวิว (Review) ASUS ZenFone C (ZC451CG)


รีวิว (Review) Asus ZenFone C :: รีวิว ทดสอบ มือถือ :: Thaimobilecenter.com


 
TMC Point

  7.5

การออกแบบดีไซน์

  7.0

ใช้งานง่ายและสะดวก

  8.0

คุณสมบัติเครื่อง

  7.0

ฟังก์ชันการใช้งาน

7.0

เสถียรภาพและประสิทธิภาพ

  7.5

ความคุ้มค่าต่อราคา

  8.5

 
   

รีวิว (Review) ASUS ZenFone C (ZC451CG)

สมาร์ทโฟนทายาท ZenFone 4 รุ่นยอดนิยม กับหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่ชัดขึ้น และแบตเตอรี่ที่อึดกว่าเดิม ในราคาสุดคุ้มสบายกระเป๋าเช่นเคย

Review Date (13-มีนาคม-2558)

ในปัจจุบันผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบรนด์ใหญ่แทบทุกราย ต่างให้ความใส่ใจต่อผู้บริโภคในตลาดระดับล่าง เนื่องจากผู้บริโภคในกลุ่มนี้มีขนาดที่ใหญ่ แต่อาจมีงบประมาณค่อนข้างจำกัด และอยากจะมีสมาร์ทโฟนดีๆ ไว้ใช้งานด้วยเช่นกัน ซึ่งสมาร์ทโฟนดีๆ ในปัจจุบันจะมีราคาค่อนข้างสูงพอสมควร การที่ผู้ผลิตต่างๆ เร่งพัฒนาสมาร์ทโฟนที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้ครบครัน แต่มีราคาย่อมเยามาให้เป็นทางเลือกจึงนับว่าเป็นเรื่องที่ดี และหนึ่งในนั้นก็คือ Asus ZenFone C สมาร์ทโฟนสุดคุ้มรุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ เอซุส แบรนด์สมาร์ทโฟนสุดคุ้มเจ้าเก่า ที่ทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์จะมารีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกันในวันนี้

โดย Asus ZenFone C จะมาพร้อมกับคุณสมบัติระดับพื้นฐานที่ครบครัน สามารถตอบสนองกับการใช้งานทั่วไปได้ดีในระดับหนึ่ง เริ่มตั้งแต่หน้าจอแสดงผลแบบ TFT LCD ความละเอียด 854x480 พิกเซล (FWVGA) พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Intel Atom Z2520 Processor ความเร็ว 1.2 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ PowerVR SGX544MP2, หน่วยความจำแรม (RAM) 1 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 8 GB, ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 4.4.2 (KitKat), กล้องดิจิตอลด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด F/2.0 สำหรับถ่ายภาพในสถานที่ ที่มีแสงน้อย และเทคโนโลยี PixelMaster, เทคโนโลยี SonicMaster สำหรับลำโพงเสียงด้านหลัง, ระบบจีพีเอส (GPS) ในตัว, รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด และรองรับการใช้งานเครือข่าย 3G ทุกคลื่นความถี่ ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร มีฟังก์ชันอะไรน่าสนใจกันบ้าง และจะตอบสนองการใช้งานได้ดีขนาดไหน ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว Asus Zenfone C พร้อมกันได้เลยครับ

 

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

สำหรับ Asus Zenfone C จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 854x480 พิกเซล ขนาด 4.5 นิ้ว โดยจะมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 136.5x67x10.9 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 150 กรัม

 

ด้านหน้าส่วนบน : จะประกอบไปด้วย ไฟ LED สำหรับการแจ้งเตือนสถานะต่างๆ เช่น มีสายที่ไม่ได้รับ เป็นต้น, กล้องดิจิตอลความละเอียดระดับ VGA (640x480 พิกเซล) พร้อมด้วยขนาดรูรับแสง F/2.8, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

 

ด้านหน้าส่วนล่าง : จะประกอบไปด้วยปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส (Touch Panel) ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Multitasking

 

ด้านบนของตัวเครื่อง : จะมีช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

 

ด้านล่างของตัวเครื่อง : จะมี ไมโครโฟน และช่องแบบ microUSB สำหรับเชื่อมต่อกับสายชาร์จแบตเตอรี่ หรือส่งผ่านข้อมูล

 

ด้านขวาของตัวเครื่อง : จะมี ปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อคหน้าจอ และปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง

 

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง : จะไม่มีปุ่มการสั่งงาน หรือฟังก์ชันใดๆ ให้ใช้งาน

 

ด้านหลังของตัวเครื่อง : จะประกอบไปด้วย กล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กับเทคโนโลยี PixelMaster ซึ่งจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างซอฟต์แวร์ กับฮาร์ดแวร์ ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีสีสันสดใส และได้คุณภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมขนาดรูรับแสง F/2.0, ไฟแฟลช LED และลำโพงเสียงภายนอก พร้อมระบบเสียง SonicMaster ที่ให้เสียงที่ดังฟังชัด และไพเราะรื่นหู

 

และเมื่อเปิดฝาหลังของตัวเครื่องออกมา ก็จะพบกับช่องสำหรับใส่แบตเตอรี่, ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 1, ช่องสำหรับเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD และช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 2 ซึ่งซิมการ์ดที่ใช้จะเป็นแบบ microSIM ทั้งช่องซิมการ์ดที่ 1 และช่องซิมการ์ดที่ 2

 

โดยตัวแบตเตอรี่จะมีความจุอยู่ที่ 2100 mAh

 

ส่วนฝาหลังจะทำมาจากพลาสติกที่ได้คุณภาพ แถมยังยืดหยุ่นได้ดีอีกด้วย

 

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

สำหรับ Asus Zenfone C จะทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 4.4.2 (KitKat)

โดย Asus Zenfone C สามารถแจ้งเตือนต่างๆ ได้ผ่านส่วนของ Notification เช่น สายที่ไม่ได้รับ หรือข้อความใหม่ และยังสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้ เช่น WiFi, ระบบเสียง และ GPS

นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็น การนำแอปพลิเคชัน หรือวิดเจ็ต ที่ใช้บ่อยมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน, สามารถ เพิ่ม-ลด จำนวนหน้าจอโฮมสกรีนได้, สามารถเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ได้ และสามารถเข้าสู่การตั้งค่าหน้าจอได้ทันทีอีกด้วย

ส่วนบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีมาให้ใช้งานครบ เช่น Gmail หรือ Google Maps เป็นต้น

สำหรับฟังก์ชันโทรศัพท์บน Asus Zenfone C ก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย และยังสามารถเข้าสู่ฟังก์ชันอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การดูรายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมด, ดูรายชื่อโปรด, ดูรายชื่อแบบกลุ่ม และยังสามารถดูบันทึกการโทรทั้งหมดได้

Asus Zenfone C ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชัน Browser Internet สำหรับท่องเว็บไซต์ต่างๆ และยังสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ บนหน้าเว็บไซต์ได้อย่างครบถ้วน

ส่วนตัวคีย์บอร์ดสำหรับพิมพ์ข้อความบน Asus Zenfone C ถึงแม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็สามารถใช้งานได้ง่าย ซึ่งในขั้นต้นสามารถเลือกใช้งานได้ทั้ง ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ และยังสามารถเพิ่มภาษาอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ตามต้องการ

มาต่อกันที่แอปพลิเคชันอัลบั้มรูปภาพกันบ้าง ซึ่งตัวแอปพลิเคชันอัลบั้มรูปภาพสามารถแสดงภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ แบบแยกเป็นอัลบั้ม หรือแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด

ส่วนฟังก์ชัน Multitasking ก็มีให้ใช้งานบน Asus Zenfone C ด้วยเช่นกัน

Asus Zenfone C ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชัน ตัวประหยัดพลังงาน สำหรับการประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ โดยมี 3 โหมดให้เลือกใช้งาน ได้แก่ โหมดประหยัดพลังงานพิเศษ สำหรับยืดอายุแบตเตอรี่ และตัดการเชื่อมต่อบนอุปกรณ์, โหมดที่ดีที่สุด สำหรับยืดอายุแบตเตอรี่ แต่ไม่ตัดการเชื่อมต่อบนสมาร์ทโฟน และโหมดกำหนดค่าด้วยตนเอง ซึ่งสามารถเลือก เปิด-ปิด ฟังก์ชันต่างๆ ได้ ตามต้องการ รวมไปถึงการกำหนดค่าความสว่างของหน้าจอได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังสามารถจดบันทึกสิ่งต่างๆ ที่ต้องการ หรือช่วยเตือนความจำ ผ่านแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า บันทึก ได้

สำหรับท่านใดที่ต้องการตรวจเช็คสภาพอากาศในแต่ละวัน หรือตรวจเช็คสภาพอากาศล่วงหน้า ก็สามารถทำได้บน Asus Zenfone C ผ่านแอปพลิเคชัน สภาพอากาศ

Asus Zenfone ยังมีแอปพลิเคชันที่น่าสนใจอีก 2 แอปพลิเคชันด้วยกัน คือ REMOTE Link สำหรับควบคุมคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะด้วย Asus Zenfone C กับ Share link สำหรับการแชร์ไฟล์ต่างๆ เช่น ภาพภ่าย หรือเพลง เป็นต้น (ซึ่งการส่งไฟล์ทั้งเครื่องส่ง และเครื่องรับ จะต้องเชื่อมต่อ WiFi เดียวกัน)

สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store

นอกจากนี้ Asus Zenfone C ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง และสามารถปรับค่าอีควอไลเซอร์ได้หลากหลาย เช่น Folk, Jazz และ Pop เป็นต้น

ส่วนท่านใดที่ชื่นชอบในการฟังวิทยุ บน Asus Zenfone C ก็มีแอปพลิเคชันวิทยุให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

Asus Zenfone C ยังสามารถเปิดเล่นไฟล์วีดีโอความสูงระดับ HD (720p) ได้ แต่ไม่สามารถแสดงผลภาพความละเอียด ระดับ HD (720p) ได้ เพราะว่า Asus Zenfone C มีความละเอียดของหน้าจอแสดงผลอยู่ที่ระดับ FWVGA หรือ 854x480 พิกเซล เท่านั้น

โดย Asus Zenfone C จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Intel Atom Z2520 Processor ความเร็วในการประมวลผล 1.2 GHz พร้อมเทคโนโลยี Intel Hyper-Threading (ที่ช่วยในเรื่องของการประมวลผลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น), หน่วยประมวลผลกราฟิก PowerVR SGX544MP2, หน่วยความจำแรม (RAM) 1 GB และหน่วยความจำภายในขนาด 8 GB

 

ด้วยคุณสมบัติของตัวเครื่องที่โดดเด่นขนาดนี้ จึงทำให้ Asus Zenfone C สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการเล่นเกมได้ในระดับที่น่าพอใจ ไม่มีอาการหน่วงให้รำคาญใจเลยแม้แต่น้อย

 

และเมื่อนำ Asus Zenfone C มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark จะได้คะแนนอยู่ที่ 18923 คะแนน ถือว่าเป็นระดับคะแนนที่น่าพอใจ

 

ต่อด้วยการทอสอบด้วยแอปพลิเคชัน GPUbench จะได้คะแนนอยู่ที่ 9286 คะแนน ซึ่งก็ถือว่าเป็นระดับคะแนนที่น่าพอใจอีกเช่นเดียวกัน

 

โดย Asus Zenfone C รองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 5 จุด

 

กล้องดิจิตอล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวีดีโอ

สำหรับ Intelface ของกล้องถ่ายภาพ ก็ดูใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อนจนเกินไป มีการแยกไอคอนแสดงฟังก์ชันต่างๆ อย่างชัดเจน

 

ซึ่งจะมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานมากมาย ได้แก่ โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ, โหมดถ่ายภาพถอยเวลากลับ, โหมดถ่ายภาพ HDR, พาโนราม่า, โหมดถ่ายภาพกลางคืน, โหมดถ่ายภาพแสงน้อย, โหมดเซลฟี่กล้องด้านหลัง, โหมดถ่ายภาพเพิ่มความสวย (Beauty), โหมดถ่ายภาพวัตถุขนาดเล็ก, โหมดถ่ายภาพชัดลึกชัดตื้น, โหมดถ่ายภาพแบบสมาร์ต หรือลบบุคคลที่ไม่ต้องการออกได้, โหมดถ่ายภาพเลือกภาพที่ดีที่สุด และโหมดถ่ายภาพ GIF แอนิเมชัน

 

นอกจากนี้ ยังมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย ได้แก่ ไม่มี, เกรย์สเกล, สีเนกาทีฟ, ซีเปีย, ขอบ, ฮิว, โลโม่, ทำพิกเซล, ดินสอ และการ์ตูน

 

และยังสามารถตั้งค่ากล้องถ่ายภาพได้หลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การปรับค่าไวท์บาลานซ์ ได้แก่ อัตโนมัติ เมฆมาก, แสงกลางวัน, ฟลูออเรสเซนต์ และหลอดไส้

 

สามารถปรับค่า ISO ได้ ตั้งแต่ อัตโนมัติ ไปจนถึง 800

 

สามารถปรับค่าชดเชยแสงได้ ตั้งแต่ -2 ไปจนถึง +2

 

สามารถ เปิด-ปิด การปรับค่าที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพ

 

สามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้ ไม่ว่าจะเป็น 5 ล้านพิกเซล, 4 ล้านพิกเซล, 3 ล้านพิกเซล และ 2 ล้านพิกเซล

 

สามารถ เปิดระบบป้องกันการสั่นไหวแบบอัตโนมัติได้

  

สามารถ เปิด-ปิด การสัมผัสเพื่อถ่ายภาพได้

 

สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้ ตั้งแต่ 2 วินาที, 5 วินาที, 10 วินาที และปิด

สามารถปรับค่าการถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 3 แบบ คือ แบบเร็ว, แบบช้า และปิดการใช้งาน

 

สามารถเลือกระบบโฟกัสได้ 3 แบบ คือ แบบ สมาร์ตออโต้โฟกัส, โฟกัสแบบต่อเนื่อง และอินฟินิตี้

 

สามารถ เปิด-ปิด การกำหนดค่าแสงอัตโนมัติได้ และสามารถ เปิด-ปิด การตรวจจับใบหน้าได้

 

โดย Asus Zenfone C สามารถตั้งค่ากล้องถ่ายวีดีโอได้ ไม่ว่าจะเป็น การปรับค่าไวท์บาลานซ์ได้หลายแบบ ได้แก่ อัตโนมัติ, เมฆมาก, แสงกลางวัน, ฟลูออเรสเซนต์ และหลอดไส้

 

สามารถปรับค่าชดเชยแสงได้ตั้งแต่ -2 ไปจนถึง +2

 

สามารถเลือกความละเอียดของการถ่ายวีดีโอได้ 3 แบบ คือ  VGA (640x480 พิกเซล), HD (720p) และ Full HD (1080p)

 

สามารถ เปิด-ปิด การป้องกันวีดีโอสั่นไหว, การปรับค่าที่ดีที่สุดได้ และการกำหนดค่าแสงอัตโนมัติได้

 

สามารถ เปิด-ปิด ความสว่างหน้าจอ, ตาราง 9 ช่อง และการแสดงข้อมูลการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้

 

สามารถเลือกระยะเวลาดูตัวอย่างภาพถ่ายได้ 5 แบบ คือ 1 วินาที, 3 วินาที, 5 วินาที, จำกัด และปิดการใช้งาน

 

สามารถ เปิด-ปิด การดูตัวอย่างภาพถ่ายของฟังก์ชันถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง และชัตเตอร์แอนิเมชันได้ นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การ เปิด-ปิด เสียงชัตเตอร์ถ่ายภาพ หรือการแท็กสถานที่ของภาพถ่าย

 

สามารถปรับค่าการป้องกันการกระพริบของหน้าได้ 2 แบบ คือ 50Hz และ 60Hz

 

สามารถตั้งเวลาเพื่อการประหยัดงาน เมื่อใช้งานฟังก์ชันกล้องถ่ายภาพได้ 4 แบบ คือ 1 นาที, 3 นาที, 5 นาที และปิดการใช้งาน

 

สามารถตั้งค่าปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง ให้สั่งงานได้ 2 อย่างด้วยกัน คือ ถ่ายภาพ และซูม

 

สามารถดูคำแนะนำการใช้งานกล้องถ่ายภาพ

และคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลด้านหลังความละเอียดระดับ 5 ล้านพิกเซล ของ Asus Zenfone C


ตัวอย่างภาพถ่ายผ่านโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพถ่ายผ่านโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพถ่ายผ่านโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพถ่ายผ่านโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพถ่ายผ่านโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพถ่ายผ่านโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพถ่ายผ่านโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพถ่ายผ่านโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพถ่ายผ่านโหมดถ่ายภาพกลางคืน


ตัวอย่างภาพถ่ายผ่านโหมดถ่ายภาพกลางคืน


ตัวอย่างภาพถ่ายผ่านโหมดถ่ายภาพกลางคืน


ตัวอย่างภาพถ่ายผ่านโหมดถ่ายภาพกลางคืน

 

สรุปผลการทดสอบของ Asus ZenFone C

ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างประทับใจกับ Asus ZenFone C ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งเรื่องของการออกแบบตัวเครื่องที่มีความโค้งมนดูเรียบๆ แต่ก็ดูทันสมัย มีขนาดที่กะทัดรัดพกพาได้สะดวก รวมถึงในเรื่องของคุณสมบัติของตัวเครื่องที่พร้อมจะตอบโจทย์ทุกการใช้งานในระดับพื้นฐานทั่วไปได้แบบสบายๆ ด้วยหน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Intel Atom Z2520 Processor ความเร็วในการประมวลผล 1.2 GHz พร้อมเทคโนโลยี Intel Hyper-Threading (ที่ช่วยในเรื่องของการประมวลผลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น), หน่วยประมวลผลกราฟิก PowerVR SGX544MP2, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 1 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 8 GB, ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 4.4.2 (KitKat) ที่ยังคงสดใหม่ และที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ Asus ZenFone C ยังรองรับการใช้งานพร้อมกันได้ถึง 2 ซิมการ์ด และสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 3G ได้ครบทุกคลื่นความถี่อีกด้วย

แต่อย่างไรก็ดี ด้วยความจำเป็นที่ต้องลดต้นทุนในการผลิตให้จำหน่ายได้ในราคานี้ จึงทำให้ Asus ZenFone C อาจจะต้องลดคุณสมบัติบางส่วนลงไปบ้าง เช่นการเลือกใช้หน้าจอแสดงผลแบบธรรมดาอย่าง TFT LCD ความละเอียด FVGA (854x480 พิกเซล) ขนาด 4.5 นิ้ว ซึ่งสีสันบนหน้าจออาจจะจืดลงบ้าง หรืออาจจะสู้แสงได้ไม่ดีนัก แต่ก็ถือว่ายังสามารถใช้งานในสถานการณ์ทั่วๆ ไปได้ดีอยู่ 

นอกจากนี้ Asus Zenfone C ยังสามารถตอบโจทย์ในด้านความบันเทิงได้ดีไม่แพ้กัน ทั้งการชมภาพยนตร์ที่เป็นไฟล์ความละเอียดสูงระดับ HD (720p) ก็สามารถเปิดเล่นได้แบบไม่มีอาการกระตุกแต่อย่างใด ส่วนการฟังเพลงก็มีฟังก์ชันอีควอไลเซอร์ให้ปรับแต่ง จึงช่วยเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงได้พอประมาณ และแน่นอนว่า Asus ZenFone C ยังสามารถเล่นเกมในระดับกลางได้แบบไม่มีอาการหน่วงให้รู้สึกรำคาญใจอีกด้วย

อีกหนึ่งความประทับใจบนตัว Asus ZenFone C คือในเรื่องของกล้องถ่ายภาพด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี PixelMaster ซึ่งภาพถ่ายที่ได้นั้นมีสีสันที่สดใสไม่เบา แถมยังเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน และด้วยขนาดรูรับแสง F/2.0 จึงทำให้ Asus ZenFone C สามารถถ่ายภาพในที่ ที่มีแสงน้อยได้ดีอีกเช่นเดียวกัน

ซึ่งเมื่อพิจารณาจากทั้งหมดทั้งมวลแล้ว ต้องยอมรับว่า Asus ZenFone C นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนสุดคุ้มอีกรุ่นที่ไม่ควรมองข้าม เป็นทางเลือกที่สดใหม่กว่า ที่ดูเหมือนจะเข้ามาแทนที่รุ่นยอดนิยมก่อนหน้านี้อย่าง Asus ZenFone 4 โดย Asus ZenFone C นั้นมีวางจำหน่ายทั่วไปแล้วในราคาเพียงแค่ 3,490 บาท เท่านั้น ซึ่งน่าจะเหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณค่อนข้างจำกัด แต่ต้องการสมาร์ทโฟนที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีในระดับกลางๆ และต้องมีราคาไม่เกิน 4,000 บาท สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Asus ประเทศไทยที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Asus Zenfone C มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ทีมงานต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

 

จุดเด่นของ Asus ZenFone C

- ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด พกพาได้สะดวก ใช้งานได้คล่องตัว
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby)
- จอแสดงผลแบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 854x480 Pixels (FWVGA : กว้าง 4.5 นิ้ว : 218 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ PowerVR SGX544MP2
- ประมวลผลการทำงานด้วย Dual-Core Intel Atom Z2520 Processor ความเร็วในการประมวลผล 1.2 GHz - เทคโนโลยี Intel Hyper-Threading ที่ช่วยในเรื่องของการประมวลผลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.4.2 (KitKat)
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 8 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card ได้สูงสุดขนาด 64 GB
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, 3G, EDGE และ GPRS
- รองรับการใช้งานระบบเครือข่ายแบบ 3G ทุกคลื่นความถี่ในประเทศไทย
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ในตัว และระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ
- เทคโนโลยี PixelMaster ซึ่งจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างซอฟต์แวร์ กับฮาร์ดแวร์ ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีสีสันสดใส และได้คุณภาพมากยิ่งขึ้น
- ขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.0
- รองรับการถ่ายภาพวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels)
- เทคโนโลยี SonicMaster สำหรับลำโพงเสียงที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
- วิทยุ FM Stereo ในตัว
- มีราคาจำหน่ายเพียง 3,490 บาท

 

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Asus ZenFone C

- หน้าจอแสดงผลยังคงเป็นแบบ TFT LCD ซึ่งสู้แสงไม่ค่อยดีนัก และมีสีสันที่ค่อนข้างจืด
- กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง มีความละเอียดเพียงแค่ระดับ VGA
- แบตเตอรี่ Li-Ion ขนาด 2100 mAh เมื่อใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน แบตเตอรี่อาจไม่เพียงพอต่อการใช้งาน
- ไม่รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE

 

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

 

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Asus ZenFone C ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้

Asus ZenFone C Specification

 

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::

 

 

 














 รีวิว OPPO Watch X
OPPO Watch X สมาร์ตวอทช์แฟลกชิป สวยแกร่งพรีเมียม แบตอึดชาร์จไว ใส่ว่ายน้ำได้ พร้อมแทร็คการวิ่งแม่นยำด้วย GPS ความถี่คู่ โดนใจทั้งสายฟิตเนส และสายแฟชั่น ในราคา 11,990 บาท

[รายละเอียด]
 รีวิว Samsung Galaxy S24 Ultra
ยอดเรือธง Galaxy AI ยุคใหม่ ฉลาดล้ำกว่าใคร พร้อมการอัปเกรดกล้อง ดีไซน์ และฟีเจอร์ภายในให้ลงตัวกว่าเดิม

[รายละเอียด]
 รีวิว OPPO Reno11 5G
สมาร์ตโฟนถ่ายคนอย่างโปร กับกล้องพอร์ตเทรตซูมได้ 32MP พร้อมระบบชาร์จไว 67W SUPERVOOC บนดีไซน์จอโค้ง 120Hz

[รายละเอียด]
 รีวิว Redmi Note 13 Series
Redmi Note 13 Series สมาร์ตโฟน 3 รุ่นน้องใหม่ กล้องคมชัดสูงสุด 200MP พร้อมจอ AMOLED บางเฉียบ

[รายละเอียด]
 รีวิว OPPO A79 5G
สมาร์ตโฟน 5G ตัวคุ้มดีไซน์ใหม่ Glowing Feather พร้อมจอสู้แสง กล้อง AI 50MP ชาร์จไว 33W SUPERVOOC และลำโพงคู่

[รายละเอียด]
 รีวิว OPPO Find N3 Flip
จอพับกล้อง Hasselblad อัปเกรดใหม่ บนดีไซน์สวยหรูกว่าเก่า พร้อมจอนอกใหญ่ฟีเจอร์เยอะ และสเปกระดับท็อป ในราคาน่าลอง

[รายละเอียด]
รายการรีวิวมือถือทั้งหมด








OPPO เปิดตัว OPPO Air Glass 3 พร้อมเป็นผู้ริเริ่มนวัตกรรมในยุค AI ในงาน MWC 2024
OPPO เปิดตัว OPPO Air Glass 3 พร้อมเป็นผู้ริเริ่มนวัตกรรมในยุค AI 
OPPO เปิดตัว OPPO Air Glass 3 ใหม่ ที่งาน MWC 2024 พร้อมเป็นผู้ริเริ่มนวัตกรรมในยุค AI
ซัมซุงขนโปรเด็ด ลดสูงสุด 10,000 บาท! พบ Galaxy AI และเอ็กซ์พีเรียนซ์สเปซสุดล้ำ ที่งาน Thailand Mobile Expo 2024
ซัมซุงขนโปรเด็ด ลดสูงสุด 10,000 บาท! พบ Galaxy AI และเอ็กซ์พีเรีย 
ซัมซุงจัดเต็มโปรแรง พร้อมวาร์ปที่งาน Thailand Mobile Expo 2024 ลดสูงสุด 10,000.- พร้อมเล่นใหญ่ ยกหอไอเฟลม
OPPO Reno11 F 5G วางจำหน่ายแล้ว! ถ่ายคนสวยทุกระยะ สนุกทุกโมเมนต์ เริ่มต้นเพียง 10,990 บาท
OPPO Reno11 F 5G วางจำหน่ายแล้ว! ถ่ายคนสวยทุกระยะ สนุกทุกโมเมนต์  
สมาร์ตโฟนถ่ายคนอย่างโปร มาพร้อมกล้อง AI Portrait 40MP ถ่ายสวยทุกระยะ กล้องหน้า 32MP เซลฟี่คมชัด หน้าจอ AM
iPhone 15 ยอดขายในจีนลดลง 30% เหตุกระแสชาตินิยมในจีนทำให้ชาวจีนเลือกซื้อมือถือ HUAWEI แทน
iPhone 15 ยอดขายในจีนลดลง 30% เหตุกระแสชาตินิยมในจีนทำให้ชาวจีนเล 
Bloomberg เปิดเผยสถิติจากสถาบันด้านการลงทุน Jefferies ซึ่งชี้ว่าในปี 2023 ที่ผ่านมา iPhone 15 Series มียอ
Samsung Galaxy Z Fold5 / Z Flip5 ผ่าน Geekbench ด้วยชิประดับท็อป Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy รุ่นพิเศษ
Samsung Galaxy Z Fold5 / Z Flip5 ผ่าน Geekbench ด้วยชิประดับท็อป  
มือถือจอพับรุ่นใหม่ล่าสุด Samsung Galaxy Z Fold5 กับ Samsung Galaxy Z Flip5 นั้นมีข้อมูลหลุดออกมาอยู่เรื่
OPPO Find N2 Flip เปิดตัว Global แล้ว เตรียมเข้าไทยเร็ว ๆ นี้ พร้อมการันตีอัปเดตยาวถึง Android 17
OPPO Find N2 Flip เปิดตัว Global แล้ว เตรียมเข้าไทยเร็ว ๆ นี้ พร้ 
หลังจากที่เปิดตัวในประเทศจีนไปช่วงปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดก็เปิดตัวแบบ Global เตรียมวางจำหน่ายทั่วโลก รวมถึ
motorola Edge 40 Pro หลุดผล benchmark มากับ RAM 12GB และอาจใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2
motorola Edge 40 Pro หลุดผล benchmark มากับ RAM 12GB และอาจใช้ชิป 
motorola Edge 40 Pro เป็นมือถือเรือธงอีกรุ่นหนึ่งที่คาดว่าจะเปิดตัวในโซนยุโรปเร็ว ๆ นี้ ล่าสุดในวันวาเลนไ
ยังไม่ถอดใจ! Samsung ฟอร์มทีมพัฒนาชิปเซ็ตมือถือใหม่ เตรียมเปิดตัวสุดยอดชิปเซ็ตในปี 2025
ยังไม่ถอดใจ! Samsung ฟอร์มทีมพัฒนาชิปเซ็ตมือถือใหม่ เตรียมเปิดตัว 
The Elec สำนักข่าวจากเกาหลีใต้ รายงานว่า Samsung ได้ตั้งทีมวิจัยและพัฒนาชิปเซ็ตขึ้นมาใหม่ภายในแผนกสมาร์ทโ
Lenovo โชว์มือถือจอยืด (Rollable) รุ่นต้นแบบ ขยายจอจาก 5 นิ้วเป็น 6.5 นิ้ว อาจมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้
Lenovo โชว์มือถือจอยืด (Rollable) รุ่นต้นแบบ ขยายจอจาก 5 นิ้วเป็น 
Lenovo เทคคอมปานียักษ์ใหญ่จากไต้หวัน ได้จัดอีเวนต์ Tech World 2022 ขึ้นในวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีก
ห้ามพลาด! ซัมซุงจับมือช้อปปี้ ส่งโปรจัดเต็มต้อนรับ  Samsung x Shopee Super Brand Day มอบส่วนลดสูงสุด 90%  วันที่ 21 กรกฎาคมวันเดียวเท่านั้น
ห้ามพลาด! ซัมซุงจับมือช้อปปี้ ส่งโปรจัดเต็มต้อนรับ Samsung x Sho 
ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ผนึกกำลังร่วมกับช้อปปี้ ผู้นำอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แ
รายการอัพเดททั้งหมด



ราคามือถือ อัพเดทล่าสุด !!


Samsung Galaxy S24 Ultra 46,900 บาท
vivo X100 26,999 บาท
HONOR 70 7,990 บาท ราคาลดลง 5,000 บาท จากราคาเดิม 12,990  บาท
OPPO Find N3 Flip 29,990 บาท ราคาลดลง 1,500 บาท จากราคาเดิม 31,490  บาท
Xiaomi 13T Pro 19,990 บาท
Xiaomi 13T 15,990 บาท
vivo V29 5G 13,999 บาท ราคาลดลง 1,000 บาท จากราคาเดิม 14,999  บาท
Samsung Galaxy Z Flip5 31,900 บาท ราคาลดลง 8,000 บาท จากราคาเดิม 39,900  บาท
OPPO A78 5G 8GB+128GB 8,499 บาท ราคาลดลง 500 บาท จากราคาเดิม 8,999  บาท
OPPO A78 5G 4GB+128GB 6,999 บาท ราคาลดลง 1,000 บาท จากราคาเดิม 7,999  บาท
realme 10 Pro 5G 9,499 บาท ราคาลดลง 1,000 บาท จากราคาเดิม 10,499  บาท
vivo Y02 2,999 บาท ราคาคงที่
realme C33 4,199 บาท ราคาลดลง 100 บาท จากราคาเดิม 4,299  บาท
OPPO A17k 3,599 บาท ราคาลดลง 200 บาท จากราคาเดิม 3,799  บาท
Samsung Galaxy A04 3,599 บาท ราคาลดลง 400 บาท จากราคาเดิม 3,999  บาท
vivo Y22s 5,499 บาท ราคาลดลง 300 บาท จากราคาเดิม 5,799  บาท
HONOR X6 3,299 บาท ราคาลดลง 400 บาท จากราคาเดิม 3,699  บาท
Samsung Galaxy A23 5G 8,499 บาท ราคาลดลง 500 บาท จากราคาเดิม 8,999  บาท
vivo Y02s 3,799 บาท ราคาคงที่
รายการ ราคามือถือ ทั้งหมด



อัพเดท ข่าวสารล่าสุด (New update)

ซัมซุงยกทัพมอนิเตอร์สุดล้ำ ลดสูงสุด 30,000 บาท พบกันที่งาน Commart Thailand 2024
ซัมซุงยกทัพมอนิเตอร์สุดล้ำ ลดสูงสุด 30,000 บาท พบกันที่งาน C 
ซัมซุงจัดเต็มยกขบวนมอนิเตอร์สุดล้ำพร้อมโปรโมชันสุดคุ้มแห่งปีให้ได้จัดตัวจบ ลดสูงสุดถึง 30,000 บาท พร้อมขอ
ทรู คอร์ปอเรชั่น นำ Cell Broadcast ระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินผ่านมือถือ พัฒนาความปลอดภัยให้คนไทยและนักท่องเที่ยว
ทรู คอร์ปอเรชั่น นำ Cell Broadcast ระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินผ่ 
ทรู คอร์ปอเรชั่นผุด “Cell Broadcast” ระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินผ่านมือถือ เดินหน้าร่วมมือ ดีอี กสทช. และ ปภ.
MAHAJAK PLUS BIRTHDAY PRIVILEGE 2024 สิทธิพิเศษในเดือนเกิด สำหรับสมาชิก “มหาจักรพลัส”
MAHAJAK PLUS BIRTHDAY PRIVILEGE 2024 สิทธิพิเศษในเดือนเกิด ส 
สิทธิพิเศษเพื่อลูกค้าคนพิเศษจาก Mahajak Plus สำหรับลูกค้าที่ใช้สินค้า หรือซื้อสินค้า
realme 12 Pro+ 5G เตรียมพบกับมือถือเลนส์เทเลโฟโต้แบบเพอริสโคป ในตลาดมือถือระดับกลาง
realme 12 Pro+ 5G เตรียมพบกับมือถือเลนส์เทเลโฟโต้แบบเพอริสโค 
realme นำกล้องเพอริสโคปเปิดตลาด midrange ครั้งแรกและหนึ่งเดียวกับ realme 12 Pro+ 5G
HONOR ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี AI คว้า 45 รางวัลจากงาน MWC 2024
HONOR ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี AI คว้า 45 รางวัลจากง 
HONOR เผยกลยุทธ์ “AI-Empowered All-scenario” พัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมแกร่ง พร้อมคว้า 45 รางวัล

รายการอัพเดททั้งหมด


    Catalog มือถือ     market     Review มือถือ      ราคามือถือ     forum
Catalog มือถือ
Catalog มือถือ Nokia
Catalog มือถือ Samsung
Catalog มือถือ SonyEricsson
Catalog มือถือ i-mobile
Catalog มือถือ LG
Catalog มือถือ BlackBerry
ลงประกาศสินค้ามือถือ
สมัครสมาชิก
หน้าแรกตลาดซื้อขายมือถือ
 
หน้าแรกรีวิว
รีวิว มือถือ Nokia
รีวิว มือถือ Samsung
รีวิว มือถือ Motorola
รีวิว มือถือ LG
 

ราคามือถือ Samsung
ราคามือถือ iPhone
ราคามือถือ Huawei
ราคามือถือ OPPO
ราคามือถือ Vivo
   
   
หน้าแรก cafe
Nokia club
ตั้งหัวข้อใหม่
 

© Copyright all rights reserved : ThaiMobileCenter.com