รีวิว (Review) Aston Luxury S
สมาร์ทโฟน 4G ดีไซน์หรู กล้องชัด ราคาประหยัด กับคุณสมบัติครบเครื่องทุกการใช้งาน ด้วยจอ IPS HD 2.5D Gorilla Glass ขนาด 5 นิ้ว พร้อมกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล, ชิปเซ็ต MediaTek MT6737, RAM 2GB, ROM 16GB, แบตเตอรี่ 2800 mAh และแถมฟรีเคสหนังฟังก์ชันเพียบ ในราคาสุดคุ้มเพียง 3,990 บาท
Review
Date (23-กุมภาพันธ์-2560)

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมาทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ได้นำเสนอบทความรีวิวสมาร์ทโฟนบอดี้โลหะ พร้อมจอไซส์ยักษ์ และสเปกครบเครื่อง ในราคาสบายกระเป๋าอย่าง Aston Idea 3 Plus กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในวันนี้ทางทีมงานก็มีสมาร์ทโฟนจาก ทาง Aston อีกหนึ่งรุ่นซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของสมาร์ทโฟน 4G ราคาประหยัดนั่นคือ Aston Luxury S จึงอยากจะมานำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน
สำหรับสมาร์ทโฟน 4G สุดคุ้มน้องใหม่อย่าง Aston Luxury S นั้นมีจุดขายที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ ดีไซน์ที่เรียบหรูสมกับชื่อรุ่น ด้วยฝาหลังของตัวเครื่องผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียม, หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass, เทคโนโลยี MiraVision 2.0 ที่ช่วยให้หน้าจอแสดงผลได้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด และช่วยถนอมสายตาได้, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ พร้อมรองรับการสั่งงานถ่ายภาพ หรือรับสายเรียกเข้าด้วยการสแกนลายนิ้วมือ, กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED, กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G และแบตเตอรี่ขนาด 2800 mAh
ในส่วนของประสิทธิภาพการประมวลผลนั้นเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต 64-bit Quad-Core MediaTek MT6737 ความเร็วในการประมวลผล 1.25 GHz, พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow
โดย Aston Luxury S นั้นวางจำหน่ายในราคาสุดคุ้มเพียง 3,990 บาท เท่านั้น! พร้อมแถมฟรี Leather Case ที่มีสามารถพิเศษในการเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องเปิดฝาเคส ไม่ว่าจะเป็น การใช้โทรศัพท์, ข้อความ, ฟังเพลง หรือการแสดงหน้าปัดนาฬิกา
และจากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า Aston Luxury S นั้นมีความน่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน ทั้งในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ที่มาพร้อมฝาหลังอะลูมิเนียม, ฟีเจอร์การใช้งานที่ครบเครื่อง และคุณสมบัติตัวเครื่องที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร, ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน, กล้องดิจิทัลสามารถถ่ายภาพได้คมชัดเพียงใด และมีฟีเจอร์อะไรให้ใช้งานกันบ้าง ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว Aston Luxury S พร้อมกันต่อได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Aston Luxury S มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass โดยมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 141x70x8 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 150 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, สัญญาณไฟ LED สำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงาน On Screen ซึ่งประกอบไปด้วยปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล และช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างของตัวเครื่องมีไมโครโฟน กับลำโพงเสียงภายนอก

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง


ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่งรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และในช่องที่สองจะต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ดที่ 2 หรือเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD


ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

นอกจากนี้ ฝาหลังของ Aston Luxury S ยังผลิตจากอะลูเนียม จึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ

สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องก็มีมาให้ใช้งานอย่างครบครัน เริ่มตั้งแต่ Leather Case, ใบรับประกัน, คู่มือการใช้งาน, เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด

ฟิล์มการรอย, ฟิล์มกระจกกันรอย, ผ้าเช็ดทำความสะอาดหน้าจอ

Adapter, สายเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับโอนถ่ายข้อมูล หรือชาร์จแบตเตอรี่ และหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร


ตัวอย่างภาพการสวมใส่ Leather Case

อีกหนึ่งความพิเศษของ Leather Case คือ สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องเปิดฝาเคส ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์, ข้อความ, ฟังเพลง หรือการแสดงหน้าปัดนาฬิกา

ตัวภาพขณะเปิดใช้งานฟีเจอร์สำหรับฟังเพลง
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
 
Aston Luxury S ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow พร้อมรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตฟผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้
 
โดยมีหน่วยความจำแรมขนาด 2 GB และหน่วยความจำภายในขนาด 16 GB
 
อีกทั้ง ยังมีฟังก์ชันสำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ และสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้หลากหลาย เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือไฟฉาย
 
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ หรือการนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน
 
ในส่วนของฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมด้วยปุ่มตัวเลขขนาดใหญ่ และสามารถเข้าดูรายชื่อโทรศัพท์ หรือบันทึกการโทรได้ทันที
 
นอกจากนี้ Aston Luxury S ยังมีฟังก์ชัน Recent Apps ให้ใช้งาน อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยี MiraVision 2.0 ที่ช่วยให้หน้าจอแสดงผลได้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด และช่วยถนอมสายตาได้อีกด้วย
 
สำหรับเว็บเบราว์เซอร์ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี สามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ บนเว็บไซต์ได้ครบถ้วน
 
ทางด้านแอปพลิเคชันอัลบั้มภาพถ่ายนั้นสามารถแสดงภาพถ่ายได้ 3 แบบ คือ แสดงแบบแยกอัลบั้ม, แสดงตามสถานที่ และแสดงตามเวลา
 
สำหรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบน Aston Luxury S สามารถตั้งค่าการใช้งานได้ ซึ่งการเปิดใช้งานระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ ผู้ใช้งานจะต้องทำการลงทะเบียนลายนิ้วมือให้เรียบร้อยเสียก่อน (ลงทะเบียนได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ) และจากการทดสอบตัวเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้รวดเร็วแม่นยำ อีกทั้ง ยังสามารถสั่งงานถ่ายภาพ หรือรับสายเรียกเข้าผ่านทางการสแกนลายนิ้วมือได้อีกด้วย
 
นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดใช้งานสัญญาณไฟ LED สำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น สัญญาณไฟ LED เมื่อพลังงานต่ำ, ขณะกำลังชาร์จแบตเตอรี่ หรือมีสายเรียกเข้า
 
Aston Luxury S ยังมีแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงให้ใช้งาน ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรับค่าอีควอไลเซอร์ได้หลายแบบ เช่น Rock หรือ Jazz
 
ทางด้านของแอปพลิเคชันสำหรับฟังวิทยุ FM ก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งสามารถบันทึกเสียงวิทยุเอาไว้ฟังในภายหลังได้อีกด้วย

อีกทั้งยังสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอที่มีความละเอียดระดับ Full HD (1080) ได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ
 
สำหรับ Aston Luxury S นั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ต 64-bit Quad-Core MediaTek MT6737 ความเร็วในการประมวลผล 1.25 GHz, พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow


ถึงแม้ว่า Aston Luxury S จะมีคุณสมบัติที่จะอยู่ในระดับขั้นพื้นฐาน แต่ก็สามารถตอบโจทย์ด้านการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้อย่างไหลลื่น แต่ในบางช่วงอาจจะมีอาการหน่วงบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด
 
และเมื่อนำ Aston Luxury S มาทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 29700 คะแนน

สำหรับ Aston Luxury S นั้นสามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกัน 10 จุด
 
และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store
กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ
 
ในส่วนของ Interface ของกล้องถ่ายภาพนั้นก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพหน้าสวย หรือโหมดถ่ายภาพพาโนราม่า
 
อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันการชูสองนิ้วมือเพื่อถ่ายภาพ, โหมดถ่ายภาพ HDR, ไฟแฟลช LED และสลับไปใช้งานกล้องดิจิทัลด้านหน้า
 
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมอีกหลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, การชดเชยแสงที่สามารถปรับค่าได้ตั้งแต่ -3 ไปจนถึง +3
 
มีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพ, มีโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูป
 
สามารถปรับค่าไวท์บาลานซ์ได้, สามารถปรับคุณภาพของภาพถ่ายได้

การเปิดใช้งานฟังก์ชันป้องกันการกระพริบที่หน้าจอได้สูงสุด 60 Hz
 
สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน ZSD (Zero Shutter Delay), ระบบตรวจจับใบหน้า, ระบบตรวจจับรอยยิ้มเพื่อสั่งงานถ่ายภาพ หรือการตรวจสอบภาพถ่ายอัตโนมัติได้
 
สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที, สามารถถ่ายภาพได้ต่อเนื่องสูงสุด 99 ช็อต
 
สามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ 16 ล้านพิกเซล, สามารถเลือกอัตราส่วนของภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ แบบเต็มหน้าจอ กับแบบ 4:3

สามารถปรับค่า ISO ได้สูงสุดที่ 1600
 
 
นอกจากนี้ โหมดถ่ายวิดีโอก็สามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานระบบลดเสียงรบกวน, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ EIS (Electronic Image Stabilization), ไมโครโฟน, สามารถตั้งเวลาได้นานสูงสุด 10 วินาที และสามารถเลือกคุณภาพของไฟล์วิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ HD (720p)

พร้อมทั้งสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
 
ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกับกล้องดิจิทัลด้านหลัง พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งาน 2 แบบ คือ โหมดถ่ายภาพปกติ กับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย
 
อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันการชูสองนิ้วมือเพื่อสั่งงานถ่ายภาพ กับโหมดถ่ายภาพ HDR ได้
 
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมอีกหลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, การชดเชยแสงที่สามารถปรับค่าได้ตั้งแต่ -3 ไปจนถึง +3
 
มีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพ กับโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูปให้ใช้งาน
 
สามารถปรับค่าไวท์บาลานซ์ได้, สามารถปรับคุณภาพของภาพถ่ายได้

การเปิดใช้งานฟังก์ชันป้องกันการกระพริบที่หน้าจอได้สูงสุด 60 Hz
 
สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน ZSD (Zero Shutter Delay), ระบบตรวจจับใบหน้า, ระบบตรวจจับรอยยิ้มเพื่อสั่งงานถ่ายภาพ หรือการตรวจสอบภาพถ่ายอัตโนมัติได้
 
สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที, สามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ 13 ล้านพิกเซล
 
สามารถเลือกอัตราส่วนของภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ แบบเต็มหน้าจอ กับแบบ 4:3, สามารถปรับค่า ISO ได้สูงสุดที่ 1600
 
นอกจากนี้ โหมดถ่ายวิดีโอก็สามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานระบบลดเสียงรบกวน, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ EIS (Electronic Image Stabilization), ไมโครโฟน, สามารถตั้งเวลาได้นานสูงสุด 10 วินาที และสามารถเลือกคุณภาพของไฟล์วิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ VGA

และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ของ Aston Luxury S

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย ของ Aston Luxury S
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย
สรุปผลการทดสอบของ Aston Luxury S

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟน 4G สุดคุ้มน้องใหม่อย่าง Aston Luxury S อันดับแรกต้องขอยอมรับในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ โดยตัวฝาหลังของ Aston Luxury S นั้นผลิตจากอะลูมิเนียม จึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ อีกทั้งตัวเครื่องยังมีความโค้งมน พร้อมด้วยพื้นผิวแบบด้านที่ด้านหลังของตัวเครื่อง บวกกับขนาดที่กำลังดี ผู้ใช้จึงสามารถจับ หรือถือใช้งานได้อย่างถนัดมือ และสามารถพกพาไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว
สำหรับจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ที่สามารถตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีเป็นอย่างมาก ซึ่งจากการทดสอบจะเห็นได้ว่าภาพถ่ายที่ได้นั้นมีรายละเอียดที่คมชัด พร้อมสีสันสดใส อีกยังมีฟีเจอร์รองรับการถ่ายภาพที่หลากหลาย และยังสามารถถ่ายภาพได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 99 ช็อต เลยทีเดียว ซึ่งจะช่วยให้คุณไม่พลาดการถ่ายภาพช็อตสำคัญนั่นเอง
ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ก็สามารถตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กัน อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty Mode) ให้ใช้งาน ซึ่งภาพถ่ายที่ได้ก็ดูมีเป็นธรรมชาติ และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ มีฟีเจอร์สำหรับการสั่งงานถ่ายภาพด้วยรอยยิ้ม หรือการชูสองนิ้ว ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายต่อการถ่ายภาพเป็นอย่างมาก บอกได้เลยว่า ต้องถูกอกถูกใจคนรักการถ่ายภาพเซลฟี่อย่างแน่นอน
ทางด้านจุดขายของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ก็สามารถตอบสนองการใช้งานได้ดีทุกรูปแบบ เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass, เทคโนโลยี MiraVision 2.0 ที่ช่วยให้หน้าจอแสดงผลได้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด และช่วยถนอมสายตาได้, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ พร้อมรองรับการสั่งงานถายภาพ หรือรับสายเรียกเข้าด้วยการสแกนลายนิ้วมือ, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G และแบตเตอรี่ขนาด 2800 mAh
และถึงแม้ว่าประสิทธิภาพในการประมวลผลของ Aston Luxury S จะอยู่ในระดับเริ่มต้น แต่ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีกว่าที่คาดเอาไว้มาก ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต 64-bit Quad-Core MediaTek MT6737 ความเร็วในการประมวลผล 1.25 GHz, พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow ซึ่งจากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติสวยๆ หรือจะเป็นการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ HD (720p) Aston Luxury S ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี และถึงแม้ว่าจะมีอาการหน่วงบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด
และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า Aston Luxury S น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนในระดับเริ่มต้น ที่มาพร้อมกับสเปกครบเครื่องทุกการใช้งาน, กล้องถ่ายภาพสวยคมชัดทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง, มีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย และต้องมีราคาไม่เกิน 4,000 บาท ซึ่ง Aston Luxury S ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม หากท่านใดที่สนใจก็สามารถสั่ง Aston Luxury S ได้ที่ www.lazada.co.th หรือ www.aston1.net ในราคาสุดคุ้มเพียง 3,990 บาท เท่านั้น! พร้อมแถมฟรี Leather Case ให้ภายในกล่อง สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Aston ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Aston Luxury S มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Aston Luxury S
- ฝาหลังผลิตจากอะลูมิเนียม จึงทำให้ตัวเครื่องดูสวยหรู และมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน พร้อมรองรับการสั่งงานถ่ายภาพ หรือรับสาย
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels ขนาด 5.0 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Quad-Core MediaTek MT6737 ความเร็วในการประมวลผล 1.25 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T720
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB พร้อมรองรับการเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุด 128 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ HD (720p)
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ VGA
- รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual SIM)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- แบตเตอรี่แบบ Li-Ion Polymer 2800 mAh
- ราคาคุ้มค่าเพียง 3,990 บาท พร้อมแถมฟรี Leather Case
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Aston Luxury S
- เนื่องจากตัวเครื่องเป็นดีไซน์แบบไม่มีฝาหลัง จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยตนเองได้
- ถาดใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ Hybrid Slot ซึ่งไม่สามารถใส่ซิมการ์ดที่สอง กับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD พร้อมกันได้
- ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วไป เนื่องจากต้องซื้อผ่านเว็บไซต์ Lazada หรือเว็บไซต์ Aston เท่านั้น
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Aston Luxury S ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Aston Luxury S
>>> สั่งซื้อ Aston Luxury S ราคาพิเศษ 3,990 บาท <<<

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|