รีวิว (Review) Aston Idea 3 Plus
สมาร์ทโฟน 4G จอยักษ์สุดคุ้ม บนบอดี้โลหะสวยแกร่ง ด้วยจอ HD 2.5D Gorilla Glass 6.0 นิ้ว, กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล, ชิปเซ็ต MediaTek MT6735, RAM 2GB, ROM 16GB, Android 6.0, เซ็นเซอร์สแกนนิ้ว, แบตเตอรี่ 3800 mAh และแถมฟรีแว่น VR Cardboard ในราคาเพียง 4,990 บาท!
Review
Date (17-กุมภาพันธ์-2560)

ในปัจจุบันสมาร์ทโฟนระดับราคาไม่เกิน 5,000 บาท นั้นกำลังได้รับความสนใจจากผู้ใช้เป็นอย่างมาก เพราะผู้ใช้บางกลุ่มก็ต้องการใช้งานสมาร์ทโฟนที่มีราคาไม่สูงมากนัก พร้อมกับมีฟังก์ชันพื้นฐานครบครัน และสามารถตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบได้ ซึ่งทำให้ตลาดของกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับราคานี้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก โดยในวันนี้ทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ก็มีสมาร์ทโฟนระดับราคาไม่เกิน 5,000 บาท ที่น่าสนใจอยู่หนึ่งรุ่น จึงอยากมานำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักกัน นั่นคือ Aston Idea 3 Plus สมาร์ทโฟนบอดี้โลหะ พร้อมจอไซส์ยักษ์ และสเปกครบเครื่อง ในราคาสบายกระเป๋า ใหม่ล่าสุด
สำหรับ Aston Idea 3 Plus มีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ไซส์ยักษ์ 6.0 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass, เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Metal-Unibody, มีเซ็นเซอร์ Gyroscope, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED, กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง และแบตเตอรี่ขนาด 3800 mAh
ในส่วนของคุณสมบัติพื้นฐานก็เรียกได้ว่าจัดอยู่ในระดับกลาง แต่ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานครบทุกรูปแบบได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต 64-bit Quad-Core MediaTek MT6735 ความเร็วในการประมวลผล 1.30 GHz, พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow
โดย Aston Idea 3 Plus นั้นวางจำหน่ายในราคาเพียง 4,990 บาท พร้อมแถมฟรี VR Cardboard และ Soft Case ซึ่งจากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า Aston Idea 3 Plus นั้นมีความน่าสนใจเป็นพิเศษ ทั้งในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ กับหน้าจอไซส์ยักษ์ 6.0 นิ้ว ที่สามารถดูคอนเทนท์ต่างๆ ได้อย่างสบายตา และคุณสมบัติตัวเครื่องที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร, ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน, กล้องดิจิทัลสามารถถ่ายภาพได้คมชัดเพียงใด และมีฟีเจอร์อะไรให้ใช้งานกันบ้าง ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว Aston Idea 3 Plus พร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

สำหรับ Aston Idea 3 Plus มาในกล่องแพ็กเกจสีขาวที่ดูสะอาดตา

ซึ่งด้านข้างของกล่องจะระบุวีธีประกอบกล่องแพ็กเกจให้เป็นแว่นตา VR (Virtual Reality)

โดยภายในกล่องก็มีอุปกรณ์ไว้ให้ใช้งานอย่างครบครัน เริ่มตั้งแต่ สายเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับโอนถ่ายข้อมูล หรือชาร์จแบตเตอรี่, Adapter, หูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

คู่มือการใช้งาน, ใบรับประกันสินค้า และเคสใส

อย่างที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่ากล่องแพ็กเกจของ Aston Idea 3 Plus นั้นสามารถประกอบร่างเป็นแว่นตา VR (Virtual Reality) ได้ ซึ่งภายในกล่องแพ็กเกจจะมีเลนส์อยู่ด้านใน

ส่วนด้านหน้าจะมีช่องสำหรับวางสมาร์ทโฟน

พร้อมด้วยตีนตุ๊กแกสำหรับล็อกฝากล่อง เพื่อไม่ให้สมาร์ทโฟนหลุดออกมาจากกล่องขณะที่ใช้งานอยู่นั่นเอง

Aston Idea 3 Plus มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 6.0 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกแบบ 2.5D Gorilla Glass โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 81x160x7.5 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 205 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps

ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างของตัวเครื่องมีลำโพงเสียงภายนอก และช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล


ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และถาดใส่ซิมการ์ด ซึ่งรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด ซึ่งในช่องที่สองที่ต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ดที่ 2 หรือการเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง

ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ โดยตัวเครื่องของ Aston Idea 3 Plus นั้นใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องของ Aston Idea 3 Plus นั้นมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
 
Aston Idea 3 Plus ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow ซึ่งรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G
 
โดยมีหน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB
 
อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการแจ้งเตือน พร้อมทั้งสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้ ไม่ว่าจะเป็น การใช้งานอินเทอร์เน็ต, ไฟฉาย หรือ WiFi
 
ในส่วนของหน้าจอโฮมสกรีนก็สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ หรือการนำวิดเจ็ตที่ต้องการมาใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน
 
ทางด้านฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมด้วยปุ่มตัวเลขขนาดใหญ่ จึงช่วยให้กดหมายเลขได้อย่างแม่นยำ และสามารถเข้าดูบันทึกการโทร หรือรายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมดได้อีกด้วย
 
นอกจากนี้ Aston Idea 3 Plus ยังมีฟังก์ชัน Recent Apps ให้ใช้งาน อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยี MiraVision ที่ช่วยให้หน้าจอแสดงผลได้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด
 
สำหรับเว็บเบราว์เซอร์ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี สามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ บนเว็บไซต์ได้ครบ และด้วยหน้าจอแสดงผลใหญ่พิเศษขนาด 6.0 นิ้ว ยิ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูรายละเอียด หรืออ่านเนื้อหาต่างๆ ได้อย่างสบายตา โดยไม่จำเป็นต้องซูมเลยก็ว่าได้
 
แอปพลิเคชันอัลบั้มภาพถ่ายนั้นสามารถแสดงภาพถ่ายได้หลักๆ 3 คือ แสดงแบบแยกอัลบั้ม, แสดงตามสถานที่ และแสดงเรียงตามเวลา
 
นอกจากนี้ Aston Idea 3 Plus ยังมีฟังก์ชัน HotKnot สำหรับโอนถ่ายข้อมูลด้วยการนำหน้าจอแสดงผลมาสัมผัสกับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น (ในการโอนถ่ายข้อมูลนั้นสมาร์ทโฟรอีกหนึ่งเครื่องจะต้องมีฟังก์ชัน HotKnot ด้วยเช่นกัน)
 
สำหรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบน Aston Idea 3 Plus สามารถตั้งค่าการใช้งานได้ ซึ่งการเปิดใช้งานระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ ผู้ใช้งานจะต้องทำการลงทะเบียนลายนิ้วมือให้เรียบร้อยเสียก่อน และจากการทดสอบตัวเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้รวดเร็วแม่นยำ
 
ไม่เพียงเท่านั้น Aston Idea 3 Plus ยังรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้ พร้อมรองรับการสั่งงานขณะที่ตัวเครื่องอยู่ในโหมดสลีปด้วยการวาดตัวอักษรเพื่อเปิดใช้งานฟังก์ต่างๆ ได้ เช่น วาดตัวอักษร C เพื่อเปิดใช้งานกล้องถ่ายภาพ
 
Aston Idea 3 Plus ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง และผู้ใช้สามารถปรับค่าอีควอไลเซอร์ได้หลากหลาย เช่น Pop หรือ Rock
 
ทางด้านแอปพลิเคชันสำหรับฟังวิทยุ FM ก็มีให้ใช้งานบน Aston Idea 3 Plus ด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งสามารถบันทึกเสียงเอาไว้ฟังในภายหลังได้อีกด้วย


ซึ่งสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น
 
Aston Idea 3 Plus มาพร้อมกับชิปเซ็ต 64-bit Quad-Core MediaTek MT6735 ความเร็วในการประมวลผล 1.30 GHz, พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow

ถึงแม้ Aston Idea 3 Plus จะมีคุณสมบัติที่จะอยู่ในระดับขั้นพื้นฐาน แต่ก็สามารถตอบโจทย์ด้านการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้อย่างไหลลื่น แต่ในบางช่วงอาจจะมีอาการหน่วงบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด

และเมื่อนำ Aston Idea 3 Plus มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 33853 คะแนน

ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 2878 คะแนน

Aston Idea 3 Plus สามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 5 จุด
 
และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store
กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ
 
ในส่วนของ Interface กล้องถ่ายภาพนั้นก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งาน 2 แบบ คือ โหมดถ่ายภาพปกติ กับโหมดถ่ายภาพพาโนราม่า
 
อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้งานการสั่งงานถ่ายภาพด้วยการชูนิ้วมือสองนิ้ว, ระบบตรวจจับรอยยิ้มเพื่อถ่ายภาพ, ไฟแฟลช LED และสามารถสลับไปใช้งานกล้องดิจิทัลด้านหน้าได้
 
ในส่วนของเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน
 
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมอีกหลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, โหมดถ่ายภาพหน้าสวย
 
การชดเชยแสงที่สามารถปรับค่าได้ตั้งแต่ -3 ไปจนถึง +3, มีโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูปให้ใช้งาน
 
สามารถปรับค่าไวท์บาลานซ์ได้, สามารถปรับค่าคุณสมบัติของภาพถ่ายได้
 
การเปิดใช้งานฟังก์ชันป้องกันการกระพริบที่หน้าจอได้สูงสุด 60 Hz, สามารถเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มลดระดับเสียงได้ 3 แบบ คือ ชัตเตอร์ถ่ายภาพ, ลดระดับเสียง และซูม
 
สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน ZSD (Zero Shutter Delay), ระบบกันสั่น, การสั่งงานถ่ายภาพด้วยเสียง หรือการตรวจสอบภาพถ่ายอัตโนมัติได้
 
สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที, สามารถถ่ายภาพได้ต่อเนื่องสูงสุด 99 ช็อต
 
สามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, สามารถเลือกอัตราส่วนของภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ แบบเต็มหน้าจอ กับแบบ 4:3

สามารถปรับค่า ISO ได้สูงสุดที่ 1600
 
 
นอกจากนี้ โหมดถ่ายวิดีโอก็สามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานระบบลดเสียงรบกวน, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ EIS (Electronic Image Stabilization), ไมโครโฟน, สามารถตั้งเวลาได้นานสูงสุด 10 วินาที และสามารถเลือกคุณภาพของไฟล์วิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p)

พร้อมทั้งสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
 
ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที เช่น การสั่งงานถ่ายภาพด้วยการชูนิ้วมือสองนิ้ว, ระบบตรวจจับรอยยิ้มเพื่อถ่ายภาพ, ฟังก์ชันถ่ายภาพแบบ HDR และสามารถสลับไปใช้งานกล้องดิจิทัลด้านหลังได้
 
ในส่วนของเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน
 
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, โหมดถ่ายภาพหน้าสวย
 
สำหรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยสามารถปรับค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานปรับค่าแบบอัตโนมัติ หรือการปรับค่าด้วยตนเอง ซึ่งสามารถเลือกได้ 2 แบบ คือ ขจัดรอยย่น กับความขาว
 
การชดเชยแสงสามารถปรับค่าได้ตั้งแต่ -3 ไปจนถึง +3, มีโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูปให้ใช้งาน
 
สามารถปรับค่าไวท์บาลานซ์ได้, สามารถปรับค่าคุณสมบัติของภาพถ่ายได้
 
การเปิดใช้งานฟังก์ชันป้องกันการกระพริบที่หน้าจอได้สูงสุด 60 Hz, สามารถเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มลดระดับเสียงได้ 3 แบบ คือ ชัตเตอร์ถ่ายภาพ, ลดระดับเสียง และซูม
 
สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน ZSD (Zero Shutter Delay), การสั่งงานถ่ายภาพด้วยเสียง หรือการตรวจสอบภาพถ่ายอัตโนมัติได้
 
สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที, สามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
 
สามารถเลือกอัตราส่วนของภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ แบบเต็มหน้าจอ กับแบบ 4:3, สามารถปรับค่า ISO ได้สูงสุดที่ 1600
 
 
นอกจากนี้ โหมดถ่ายวิดีโอก็สามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานระบบลดเสียงรบกวน, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ EIS (Electronic Image Stabilization), ไมโครโฟน, สามารถตั้งเวลาได้นานสูงสุด 10 วินาที และสามารถเลือกคุณภาพของไฟล์วิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ VGA

พร้อมทั้งสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ของ Aston Idea 3 Plus

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย ของ Aston Idea 3 Plus
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมเปิดฟังก์ชันปรับค่าแบบอัตโนมัติ
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมเปิดฟังก์ชันปรับค่าลบรอยย่น กับผิวขาว ในระดับกลาง
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมเปิดฟังก์ชันปรับค่าลบรอยย่น กับผิวขาว ในระดับสูงสุด
สรุปผลการทดสอบของ Aston Idea 3 Plus

ก็นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ ที่เลือกใช้วัสดุชนิดโลหะเป็นส่วนประกอบหลัก จึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ, หน้าจอไซส์ยักษ์ ที่ช่วยให้สามารถดูคอนเทนท์ต่างๆ ได้อย่างสบายตา และคุณสมบัติตัวเครื่องที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีทุกรูปแบบ ในราคาสบายกระเป๋า
สำหรับจุดขายหลักของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ไซส์ยักษ์ 6.0 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass ที่สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเป็นพิเศษ ซึ่งด้วยหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ จึงช่วยให้สามารถรับชมคอนเทนท์ต่างได้อย่างสบายตา โดยไม่จำเป็นต้องฝช้ฟังก์ชันซูม หรือเพ่งสายตาเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น การรับชมวิดีโอสนุกๆ หรืออ่าน E-Book ก็ตาม นอกจากนี้ ทางด้านการออกแบบดีไซน์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายสำคัญของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน โดยทาง Aston ได้เลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องของ Aston Idea 3 Plus มีความเรียบหรู แถมยังมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ อีกทั้งตรงมุมทั้งสี่ด้านยังมีความโค้งมน บวกกับพื้นผิวด้านที่ด้านหลังของตัวเครื่อง จึงช่วยให้สามารถจับ หรือถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว และไม่เกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมือได้ง่ายอีกด้วย
ซึ่งนอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ กับบอดี้โลหะแล้ว ทางด้านกล้องถ่ายภาพก็ถือเป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจบน Aston Idea 3 Plus โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหลังที่มีความละเอียดมากถึง 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED ซึ่งจากการทดสอบพบว่ากล้องดิจิทัลด้านหลังนั้นสามารถถ่ายภาพได้สวยคมชัด ทั้งในสภาวะแสงปกติ หรือในสภาวะแสงน้อย อีกทั้งยังสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ บนภาพถ่ายได้อย่างครบถ้วน แต่สีสันบนภาพถ่ายจะดูจืดไปเล็กน้อย ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ก็ตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กัน และยังสามารถทำงานร่วมกับโหมดถ่ายภาพเซลฟี่ได้เป็นอย่างดี บอกได้เลยว่า ต้องถูกอกถูกใจคนรักการถ่ายภาพเซลฟี่อย่างแน่นอน
ในส่วนของคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ที่ติดตัวมานั้นก็ถือว่าครบเครื่อง และคุ้มค่ากับราคาอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, เซ็นเซอร์ Gyroscope, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง และแบตเตอรี่ขนาด 3800 mAh ชิปเซ็ต 64-bit Quad-Core MediaTek MT6735 ความเร็วในการประมวลผล 1.30 GHz, พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow ซึ่งจากการทดสอบด้วยการถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) หรือเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติอย่างต่อเนื่อง ก็พบว่า Aston Idea 3 Plus นั้นสามารถตอบสนองสนองต่อการใช้งานต่างๆ ได้อย่างไหลลื่น แต่ก็มีอาการหน่วงบ้างเล็กน้อย แต่ไม่มีผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด
และหลังจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า Aston Idea 3 Plus น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับกลางในราคาย่อมเยา ที่มาพร้อมหน้าจอแสดงผลไซส์ยักษ์, บอดี้โลหะดีไซน์เรียบหรู, สเปกเครื่องที่สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีทุกรูปแบบ และมีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย ซึ่ง Aston Idea 3 Plus ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับท่านใดที่สนใจ Aston Idea 3 Plus ก็สามารถสั่งซื้อได้ที่ www.lazada.co.th ในราคาสบายกระเป๋าเพียง 4,990 บาท เท่านั้น! พร้อมแถมฟรี VR Cardboard และ Soft Case สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Aston ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Aston Idea 3 Plus มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Aston Idea 3 Plus
- ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels ขนาด 6.0 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Gorilla Glass
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Quad-Core MediaTek MT6735 ความเร็วในการประมวลผล 1.30 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T720
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB พร้อมรองรับการเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุด 128 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full-HD (1080p)
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ VGA
- รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual SIM)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- มีเซ็นเซอร์ Gyroscope
- แบตเตอรี่แบบ Li-Ion 3800 mAh
- ราคาเพียง 4,990 บาท พร้อมแถมฟรี VR Cardboard และ Soft Case
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Aston Idea 3 Plus
- เนื่องจากตัวเครื่องเป็นดีไซน์แบบไม่มีฝาหลัง จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยตนเองได้
- ถาดใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ Hybrid Slot ซึ่งไม่สามารถใส่ซิมการ์ดที่สอง กับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD พร้อมกันได้
- ความละเอียดของหน้าจอไม่มากนัก เมื่อเทียบกับขนาดของหน้าจอที่ใหญ่ถึง 6 นิ้ว
- ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วไป เนื่องจากต้องซื้อผ่านเว็บไซต์ Lazada เท่านั้น
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ ASTON Idea 3 Plus ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ ASTON Idea 3 Plus
>>> สั่งซื้อ ASTON Idea 3 Plus ราคาพิเศษ 4,990 บาท <<<

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|