รีวิว Nokia Lumia 1020 Review (Nokia Pro Camera) :: รีวิว ทดสอบ มือถือ

ถ่ายภาพสวยอย่างมือโปรได้ง่ายๆ ด้วยแอพพลิเคชั่น Nokia Pro Camera

หากพูดถึงคุณสมบัติในด้านฮาร์ดแวร์ภายในกล้องดิจิตอลของ Nokia Lumia 1020 ก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า ถูกจัดให้อยู่ในระดับสูงสุดในตลาดสมาร์ทโฟนปัจจุบัน ซึ่งทีมงานของเราก็ได้นำเสนอข้อมูลในส่วนนี้ไปบ้างแล้วพอสมควร (ข้อมูลเพิ่มเติม) และในวันนี้เราก็คงจะไม่ได้มาพูดถึงรายละเอียดทางด้านฮาร์ดแวร์ เพราะยังมีอีกส่วนสำคัญที่ทำให้การถ่ายภาพออกมาสมบูรณ์แบบได้ นั่นก็คือส่วนของแอพพลิเคชั่น ซึ่งแอพพลิเคชั่นตัวสำคัญที่เกิดมาคู่กับ Nokia Lumia 1020 ก็คือ Nokia Pro Camera ที่สามารถเปลี่ยนโฉม Nokia Lumia 1020 เครื่องนี้ ให้กลายเป็นกล้องระดับโปรได้เลยทีเดียว ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งค่าต่างๆ ได้อย่างอิสระ ตั้งแต่การปรับโฟกัสด้วยตนเอง (Manual Focus), การปรับค่าความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed), การปรับค่าสมดุลสีขาว (White Balance), การปรับค่าความไวแสง (ISO) และการปรับค่าชดเชยแสง (Exposure) ซึ่งถึงแม้ว่าจะปรับค่าต่างๆ ได้มากมายขนาดนี้ แต่การใช้งานจริงถือว่าง่ายดาย ไม่ว่าใครก็สามารถศึกษาการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยในวันนี้ทีมงานของเราก็ขออาสานำทุกท่านไปทดสอบกันว่า การใช้งานแอพพลิเคชั่น Nokia Pro Camera นั้นจะมีประสิทธิภาพ และมีความสะดวกง่ายดายขนาดไหน

Nokia Lumia 1020 Video Review & Focus (ถ่ายภาพสวยอย่างมือโปรได้ง่ายๆ ด้วยแอพพลิเคชั่น Nokia Pro Camera)

วิดีโอรีวิว (Video Review) Nokia Lumia 1020 (ถ่ายภาพสวยอย่างมือโปรได้ง่ายๆ ด้วยแอพพลิเคชั่น Nokia Pro Camera)

เนื้อหาเพิ่มเติม วิดีโอรีวิว (Video Review) Nokia Lumia 1020 (ถ่ายภาพสวยอย่างมือโปรได้ง่ายๆ ด้วยแอพพลิเคชั่น Nokia Pro Camera)

การปรับค่าสมดุลสีขาว (White Balance) ด้วยแอพพลิเคชั่น Nokia Pro Camera จะช่วยให้สีสันที่ได้ มีความถูกต้องตามความเป็นจริง ไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่ตามองเห็น หรือได้สีสันตามที่ตากล้องต้องการ โดยสามารถปรับได้ 5 รูปแบบ ได้แก่ อัตโนมัติ, มีเมฆมาก, แสงอาทิตย์, หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ และหลอดไฟทังสเตน

ตัวอย่างภาพถ่ายที่มีสีสันเป็นธรรมชาติ ด้วยการปรับค่าสมดุลสีขาวให้เหมาะสมกับสภาพแสง

โดยปกติแล้ว กล้องดิจิตอลบนโทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟนทั่วไป จะไม่สามารถปรับระยะโฟกัสได้ด้วยตนเอง (Manual Focus) ซึ่งในบางสถานการณ์ การโฟกัสไปยังจุดที่ต้องอาจจะเป็นไปได้ยาก แต่สำหรับ Nokia Lumia 1020 นั้นสามารถปรับระยะโฟกัสได้เองตามที่ตาเห็น ซึ่งมีความยืดหยุ่นคล่องตัว และมีความแม่นยำสูง ลดโอกาสของการเกิดโฟกัสผิดจุดที่เห็นได้บ่อยครั้งในระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ (Auto Focus) และสำหรับใครที่ชอบถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ (ชัดตื้น) การที่สามารถเลือกระยะชัดได้ด้วยตนเองแบบนี้ นับว่าช่วยเพิ่มความสะดวกได้มากพอสมควร

เลือกระยะชัดได้ตามที่ตาเห็นด้วยการโฟกัสภาพแบบ Manual Focus

ค่าความไวแสง หรือค่า ISO ก็มีความหมายตรงตัว คือ เป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้ตัวเซ็นเซอร์นั้นมีความสามารถในการรับแสงได้มากน้อยตามค่าที่กำหนดเอาไว้ ซึ่งค่าความไวแสงมักจะเห็นผลชัดเจน เมื่อต้องถ่ายภาพในสภาวะที่แสงน้อย หรือในที่มืด รวมไปถึงเมื่อจำเป็นต้องถ่ายภาพต้องความเร็วชัตเตอร์สูงๆ แต่การปรับค่าความไวแสงมากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี แม้ว่า Nokia Pro Camera จะสามารถปรับค่าความไวแสงได้สูงสุดถึง ISO 4000 ก็ตาม เนื่องจากจะเกิดจุดรบกวนตามมา (Noise) ด้วย ดังนั้นทางที่ดี หากต้องถ่ายภาพในที่แสงน้อย หรือถ่ายภาพในเวลากลางคืน ก็ควรปรับค่าความไวแสงไม่ให้เกิน ISO 800 เพื่อให้รายละเอียดของภาพยังคงดูเนียนตา และให้ใช้ขาตั้งกล้องมาช่วยอีกแรง เพื่อไม่ให้ภาพเกิดการสั่นไหว

แม้สภาพแสงจะไม่สว่างมากนัก แต่ด้วยการปรับค่าความไวแสงที่เหมาะสม ประกอบกับมือที่นิ่งๆ หรือใช้ร่วมกับขาตั้งกล้อง ก็ช่วยให้ภาพสวยใส ดูเนียนตาได้ไม่ยาก

การปรับความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) นั้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการถ่ายภาพได้หลายรูปแบบ ซึ่ง Nokia Pro Camera บน Nokia Lumia 1020 สามารถปรับความเร็วชัตเตอร์ได้สูงสุดถึง 1/16000 วินาที และปรับความเร็วชัตเตอร์ได้ต่ำสุดถึง 4 วินาที โดยความเร็วชัตเตอร์สูงๆ นั้นจะเหมาะกับการนำไปถ่ายภาพวัตถุที่มีการเคลื่อนไหวเร็วๆ และเมื่อถ่ายภาพออกมาแล้ว วัตถุนั้นดูหยุดนิ่งได้ เช่นการถ่ายภาพกีฬา, ภาพคนกระโดด, ภาพนกบิน, ภาพหยดน้ำ หรืออื่นๆ ส่วนการปรับความเร็วชัตเตอร์ต่ำๆ นั้นจะเหมาะกับการถ่าย าพที่ดูเป็นเส้นสายนุ่มนวล เช่น การถ่ายภาพน้ำตกให้ดูไหลเป็นสาย หรือการถ่ายภาพแสงไฟตอนกลางคืนให้มีเส้นสายสวยงาม แต่การใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำๆ นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้งานร่วมกับขาตั้งกล้อง ซึ่งอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้ Nokia Lumia 1020 สามารถนำไปติดตั้งกับขาตั้งกล้องได้ก็คือ Nokia Camera Grip นั่นเอง

ตัวอย่างของการหยุดการเคลื่อนไหวด้วยการปรับความเร็วชัตเตอร์ให้สูงๆ

แม้ว่าความชาญฉลาดของระบบการประมวลผลแสงในกล้องดิจิตอลยุคใหม่จะมีความแม่นยำกว่าในอดีตมากแล้ว แต่อย่างไรก็ดี ในบางครั้งเครื่องก็ไม่สามารถวิเคราะห์ระดับแสงให้เราได้อย่างที่ต้องการ ซึ่งทำให้บางครั้งภาพที่ได้ก็จะดูมืดเกินไป หรือในบางครั้งภาพที่ได้ก็จะดูสว่างเกินไป ดังนั้นในแอพพลิเคชั่น Nokia Pro Camera จึงเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถปรับค่าชดเชยแสงได้ตามที่ต้องการ โดยปรับได้ต่ำสุดที่ -3 ไปจนถึงระดับสูงสุดที่ +3

เมื่อสามารถปรับค่าชดเชยแสงได้ด้วยตนเอง ภาพที่ได้จึงมีระดับของความสว่างตามที่ต้องการ

สรุปประสบการณ์จากการใช้งานแอพพลิเคชั่น Nokia Pro Camera บน Nokia Lumia 1020

จากที่ได้ทดสอบกันไปกับแอพพลิเคชั่น Nokia Pro Camera บน Nokia Lumia 1020 ก็สรุปภาพรวมได้ว่า Nokia Pro Camera นั้นเป็นแอพพลิเคชั่นระดับคุณภาพ ที่มีความยืดหยุ่น และช่วยให้สามารถถ่ายภาพได้ทุกสถานการณ์ แต่อย่างไรก็ดี การที่จะถ่ายภาพสวยๆ ได้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับการปรับแต่งที่ถูกต้องเหมาะสมกับภาพที่ต้องการจะถ่ายด้วยเช่นกัน เช่นหากต้องการถ่ายภาพระยะใกล้ หรือภาพมาโคร ก็แนะนำให้ถือกล้องในระยะที่ใกล้ที่สุดที่สามารถจะโฟกัสภาพได้คือ 15 เซนติเมตร แล้วปรับโฟกัสภาพด้วยตนเอง รวมถึงใช้การซูมเข้าไปอีก เพื่อให้ใกล้กับวัตถุมากยิ่งขึ้น หรือหากอยากถ่ายภาพตอนกลางคืนให้สวยๆ เนียนๆ ก็ไม่ควรปรับค่าความไวแสงให้มากจนเกินไป ไม่เช่นนั้นภาพที่ได้ก็มีโอกาสที่จะเกิดจุดรบกวนภายในภาพ ให้อาศัยขาตั้งกล้องแทน แล้วปรับความเร็วชัตเตอร์ให้น้อยๆ เข้าไว้จะดีที่สุด เป็นต้น ซึ่งจริงๆ แล้วก็ยังเทคนิคสำหรับการถ่ายภาพที่น่าสนใจอีกมากมาย ที่สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมกันได้ไม่รู้จบกับ Nokia Lumia 1020 รุ่นนี้ และหากใครฝีมือดีๆ คิดว่าถ่ายภาพได้สวยงามไม่แพ้ใคร ก็อย่าลืมแวะไปร่วมส่งภาพเพื่อลุ้นรางวัลรวมถึง 1.2 ล้านบาทได้ในกิจกรรม SeeMoreThailand ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็มีรูปภาพสวยๆ ถูกส่งเข้าไปประกวดมากมาย รวมถึงมีผู้ได้รับรางวัลกันไปแล้วไม่น้อย ส่วนการรีวิวตอนต่อไปของ Nokia Lumia 1020 ที่ทีมงานจะนำมาเสนอนั้น จะเป็นฟีเจอร์ใด ก็รอติตดามกันต่อได้ในเร็วๆ นี้ครับ

- ตัวเครื่องมีการออกแบบดีไซน์ที่ดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมวัสดุระดับพรีเมียม และคุณภาพชิ้นงานของตัวเครื่องแบบ Unibody ที่ละเอียดประณีต ดูทนทานแข็งแรงเป็นพิเศษ
- จอแสดงผลแบบ AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x768 Pixels พร้อมเทคโนโลยี PureMotion HD+ ClearBlack Display
- กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 3 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน
- คุณสมบัติแบบ Super Sensitive Touch ช่วยให้สามารถสั่งงานด้วยระบบสัมผัสได้ในขณะสวมถุงมือ หรือใช้เล็บมือ
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 225
- ประมวลผลการทำงานด้วย Dual-Core Krait Processor (ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8960 Snapdragon S4 Plus) ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows Phone 8 (Amber Update)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- กล้อง PureView ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 41 ล้าน Pixels (ความละเอียดสูงสุดที่ได้ถ่ายได้จริงคือ 38 ล้านพิกเซล หรือ 34 ล้านพิกเซล) พร้อมขนาดของจุดพิกเซล 1.12 ไมโครเมตร
- เลนส์กล้องคุณภาพสูงจาก Carl Zeiss Optics (โครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์)
- ขนาดของเซ็นเซอร์รับภาพ 1/1.5 นิ้ว BSI (Backside-illuminated Sensor)
- ไฟแฟลชแบบซีนอน (Xenon)
- รองรับซูมภาพแบบไม่สูญเสียรายละเอียด (Lossless Zoom)
- ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization) ทั้งการถ่ายภาพนิ่ง และภาพวีดีโอ
- ขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.2
- ทางยาวโฟกัส (Focal Length) 26 มิลลิเมตร
- ฟังก์ชัน Dual Capture รองรับการถ่ายภาพความละเอียด 38 ล้านพิกเซล (หรือ 34 ล้านพิกเซล) และ 5 ล้านพิกเซลพร้อมกัน
- สามารถนำภาพความละเอียดสูงที่บันทึกไว้ มาทำการ Reframe เฉพาะส่วนที่ต้องการได้ โดยที่ภาพยังคงมีความคมชัด
- รองรับการถ่ายภาพวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels : 30 fps)
- ระบบการบันทึกเสียงวีดีโอแบบ Nokia Rich Recording
- แอพพลิเคชั่น Nokia Pro Camera ซึ่งรองรับการปรับตั้งค่าสำหรับการถ่ายภาพด้วยตนเองแบบ Manual ได้ (ความเร็วชัตเตอร์, สมดุลสีขาว, ระยะโฟกัส, ความไวแสง และการชดเชยแสง)
- แอพพลิเคชั่น Nokia Smart Camera ซึ่งมีฟังก์ชันสำหรับการถ่ายภาพแบบพิเศษ 5 ฟังก์ชัน (Best Shot, Action Shot, Motion Focus, Remove Moving Object และ Change Face)
- กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 1280x960 Pixels พร้อมรองรับการถ่ายภาพวีดีโอได้ที่ความละเอียดระดับ HD 720p (1280x720 Pixels : 30 fps)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, LTE, 3G, EDGE และ GPRS
- รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง NFC และ Bluetooth
- รองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย (Wireless Charging : ต้องใช้ร่วมกับ Nokia Wireless Charging Cover ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่ต้องซื้อแยก)
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
- แอพพลิเคชั่น Here Maps และ Here Drive ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นแผนที่ และการนำทางที่มีประสิทธิภาพสูง รวมถึงสามารถใช้งานได้ฟรีตลอดชีพ
- แอพพลิเคชั่น Microsoft Office สำหรับเปิดอ่าน และแก้ไขไฟล์เอกสาร Word, Excel, PowerPoint, OneNote
- วิทยุ FM Stereo RDS ในตัว

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Nokia Lumia 1020

- แบตเตอรี่มีความจุเพียง 2,000 mAh ซึ่งหากต้องใช้งานหนักๆ เช่นต้องเปิดใช้กล้องถ่ายภาพอยู่บ่อยๆ พลังงานจะหมดค่อนข้างไว
- ไม่สามารถใส่การ์ดหน่วยความจำเพิ่มได้
- ไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
- หากเปิดใช้งานกล้องดิจิตอลต่อเนื่องเป็นเวลานาน บริเวณด้านหลังตัวเครื่องจะค่อนข้างร้อน
- ราคาจำหน่ายยังค่อนข้างสูง (24,990 บาท)

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Nokia Lumia 1020 ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้