Samsung Galaxy Note II (Galaxy Note 2) Video Review
Inspiration Doesn't Wait
Review
Date (25-October-2012)
สวัสดีท่านผู้ชมเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ทุกท่านครับ สำหรับโทรศัพท์มือถือที่เรานำมารีวิวให้ชมกันในวันนี้ก็ได้แก่ Samsung Galaxy Note II (Samsung Galaxy Note 2) ซึ่งถือว่าเป็น สมาร์ทโฟน รุ่นเรือธงจากค่าย ซัมซุง ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2012 ด้วยคุณสมบัติ และความสามารถที่ใส่มาให้อย่างเต็มที่ในทุกด้าน เรียกได้ว่า Samsung Galaxy Note รุ่นแรก หรือ Samsung Galaxy S III (Galaxy S3) มีความโดดเด่นอย่างไร Galaxy Note II นั้นมีความโดดเด่นที่ยิ่งกว่า โดยขณะนี้ Galaxy Note II ได้วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กับราคาขายที่ 22,900 บาท จะคุ้มค่าตัวขนาดไหน ลองมาติดตามกันดูครับ   

Samsung Galaxy Note II (Samsung Galaxy Note 2) Video Review & Focus
เนื้อหา วิดีโอรีวิว Samsung Galaxy Note II (Samsung Galaxy Note 2)
รูปลักษณ์ภายนอก และการออกแบบดีไซน์ (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

การออกแบบดีไซน์ของ Galaxy Note II นั้น ดูรวมๆ แล้วก็เหมือนกับเป็นการนำ Galaxy S III มาผสมผสานเข้ากับ Galaxy Note รุ่นแรกนั่นเองครับ วัสดุทั้งหมดนั้นจะเป็นพลาสติก แต่ก็ดูแน่นหนาแข็งแรงดีครับ อย่างไรก็ตามพื้นผิวจะค่อนข้างมันลื่น และมีขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่ ดังนั้นการจับถือก็ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ความหนาของ Galaxy Note II จะอยู่ที่เพียง 9.4 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งถือว่าบางเฉียบ ส่วนน้ำหนักตัวจะอยู่ที่ 183 กรัม ซึ่งเมื่อจับถือดูแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกว่าหนักมากนัก สำหรับตัวเครื่องที่ใหญ่ขนาดนี้
องค์ประกอบภายนอกของตัวเครื่อง (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ที่ด้านหน้าของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วย ลำโพงหูฟังสำหรับการสนทนา, Proximity Sensor, Ambient Light Sensor, เลนส์กล้องความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล, หน้าจอแบบ Super AMOLED Capacitive ที่มีขนาดใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว และมีความละเอียดสูงถึงระดับ HD 720p หรือ 1280x720 พิกเซล พร้อมกระจก Gorilla Glass เวอร์ชัน 2 ที่ด้านล่างของหน้าจอจะประกอบไปด้วยปุ่มโฮม, ปุ่มฟังก์ชัน และปุ่มย้อนกลับ ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีเพียงปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง ที่ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีเพียงปุ่มเปิด-ปิดตัวเครื่อง
หรือล็อกหน้าจอ ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบสายหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร และไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา ที่ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีช่อง microUSB, ไมโครโฟนสำหรับการสนทนาหรือบันทึกเสียง และช่องเก็บปากกา S Pen โดยลักษณะของปากกานั้นจะมีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบา พร้อมกับมีปุ่มกดสำหรับเรียกใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ส่วนหัวปากกาจะยืดหดได้เล็กน้อย เพื่อการตรวจจับน้ำหนัก และช่องเก็บปากกาก็มีความแน่นหนาดีครับ ที่ด้านหลังของตัวเครื่องจะมีเลนส์กล้องดิจิตอล ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED โดยฝาหลังจะเป็นพลาสติกแบบ
Polycarbonate พร้อมการเคลือบผิวแบบ Hyperglaze และที่ด้านล่างก็จะเป็นลำโพงเสียง
ปากกา S Pen Stylus (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

มาดูปากกา S Pen กันชัดๆ อีกซักครั้งครับ โดยตัวปากกานั้นจะเป็นพลาสติกน้ำหนักเบา มีปุ่มกดที่ด้านข้างของปากกาเพื่อการใช้งานคู่กับฟังก์ชันบางอย่าง ปลายปากกาจะยืดหดได้เล็กน้อย เพื่อตรวจจับน้ำหนักของการกดปากกา ส่วนขนาดของปากกานั้นอาจจะเล็กไปสำหรับผู้ที่มีฝ่ามือขนาดใหญ่ แต่หากใช้งานจนคล่องมือแล้ว ก็จะเกิดความเคยชินไปตามลำดับ

นี่ก็คือตัวอย่างของการจับปากกาด้วยฝ่ามือที่ค่อนข้างใหญ่ ซึ่งการขีดเขียนตามปกติจะคล่องตัวดี แต่หากต้องกดปุ่มที่ด้านข้างของปากการะหว่างการใช้งานไปด้วย ก็อาจจะรู้สึกไม่มั่นคงเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะปากกาทำมาจากพลาสติกน้ำหนักเบาด้วยนั่นเอง
การเปิดฝาหลัง และองค์ประกอบต่างๆ ด้านใน (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

การเปิดฝาหลังของ Galaxy Note II ก็ให้แงะที่ร่องบริเวณด้านข้างของตัวเครื่องดังที่เห็นนี้ แล้วดึงฝาออกมาด้วยความระมัดระวัง เมื่อเปิดออกมาก็จะพบกับช่องใส่ซิมการ์ดแบบ microSIM, ช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ที่มีความจุมากขึ้นเป็น 3100 mAh ดังนั้นจึงสามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องมากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด การใส่ซิมการ์ดแบบ microSIM ก็ไม่ยากแต่อย่างใด ให้สังเกตรูปตัวอย่างที่แสดงอยู่บนช่องใส่ซิมการ์ด แล้วใส่ซิมการ์ดเข้าไปตามรูปดังกล่าว เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงค่อยใส่แบตเตอรี่ลงไป
แล้วปิดฝาหลัง เท่านี้เครื่องก็พร้อมเปิดใช้งานแล้วครับ

ฝาหลังของ Galaxy Note II นั้นเป็นพลาสติกแบบ Polycarbonate ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความบางเบา แต่ก็มีความทนทานแข็งแรง และมีความยืดหยุ่นสูง พร้อมกันนั้นก็ยังเคลือบด้วยพื้นผิวแบบ Hyperglaze ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานให้มากขึ้นได้อีกระดับหนึ่ง
เสารับสัญญาณ NFC (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

หากสังเกตที่บริเวณด้านในของฝาหลัง จะเห็นว่ามีแผ่นสี่เหลี่ยมแปะเอาไว้ ซึ่งนี่ก็คือเสาสำหรับการรับ-ส่งสัญญาณ NFC นั่นเอง
ความเร็วในการบูทเครื่อง (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

คราวนี้เราจะมาลองดูกันครับว่า ด้วยความเร็วความแรงในการประมวลผลของ Samsung Galaxy Note II นั้น จะช่วยให้บูทเครื่องได้เร็วมากน้อยขนาดไหน จากที่เห็น ก็จะใช้เวลาในการบูทเครื่อง พร้อมใช้งาน ประมาณ 25 วินาทีเท่านั้นเองครับ
ข้อมูลพื้นฐานของตัวเครื่อง (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

สำหรับ Samsung Galaxy Note II เครื่องทดสอบนี้ จะเป็นโมเดล GT-N7100 ซึ่งเป็นตัวเดียวกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 4.1.1

จากข้อมูลจะเห็นว่าซีพียูของ Galaxy Note II จะเป็นแบบ Quad-Core และมีความเร็วสูงสุดที่ 1.6 GHz ส่วนจีพียูนั้นจะเป็นแบบ Mali-400MP และหน้าจอจะมีความละเอียด 1280x720 พิกเซล

ส่วนหน่วยความจำ RAM จะมีขนาด 2 GB พร้อมหน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB และหน้าจอจะมีความหนาแน่นของพิกเซลอยู่ที่ 320 จุดต่อนิ้ว
ส่วนติดต่อผู้ใช้ (User Interface) (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

แน่นอนครับว่า User Interface ที่ ซัมซุง เลือกใช้ก็คือ TouchWiz UI นั่นเอง โดยที่หน้าจอ Lock Screen นั้น จะสามารถเข้าถึงฟังก์ชันพื้นฐานได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการสไลด์ขึ้นไปด้านบน อย่างเช่นหากสไลด์ไอคอนโทรศัพท์ขึ้นไป ก็จะเป็นการเข้าไปที่ฟังก์ชันโทรศัพท์นั่นเอง หน้าตาของ TouchWiz UI ก็จะเป็นดังที่เห็นนี้ครับ สามารถสไลด์เลื่อนหน้า Home Screen ได้ลื่นไหลเป็นอย่างมาก ด้วยประสิทธิภาพของการประมวลผลระดับสูง เมื่อกดค้างเอาไว้ที่ Widgets ก็จะสามารถนำ Widgets ต่างๆ มาวางเอาไว้ที่หน้า Home
Screen ได้ และ Widgets บางอย่างก็สามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้ตามต้องการอีกด้วย ดังที่เห็นอยู่นี้ ที่แถบด้านบนของหน้าจอ จะมีการแสดงเครือข่าย, การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต, ระดับสัญญาณ, ระดับแบตเตอรี่ และเวลา เมื่อสไลด์ลงมาก็จะพบกับทางลัดสำหรับการเปิด-ปิดการทำงานของระบบพื้นฐานต่างๆ ซึ่งง่าย และสะดวกมากๆ หรือจะกดเข้าไปตั้งค่าแบบละเอียดอีกครั้งก็ได้เช่นกัน สามารถปรับความสว่างของหน้าจอจากตรงนี้ได้โดยตรง โดยไม่ต้องเสียเวลาเข้าไปที่เมนูการตั้งค่าที่อยู่ด้านใน
ปุ่มฟังก์ชัน, ปุ่มโฮม และเมนูหลัก (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

เมื่อกดปุ่มฟังก์ชัน ก็จะมีเมนูย่อยออกมาให้เลือกใช้ดังที่เห็นนี้ และหากกดค้างเอาไว้ ก็จะเป็นการเข้าสู่ฟังก์ชันการค้นหาด้วย Google เมื่อกดปุ่มโฮมค้างเอาไว้ ก็จะเห็นรายการของแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เปิดค้างเอาไว้ในระบบการทำงานแบบ Multi-tasking ซึ่งถ้าหากเราไม่ต้องการใช้งานแล้ว ก็สามารถลากไปด้านซ้าย หรือด้านขวา เพื่อปิดแอพพลิเคชั่นได้ทันที เมื่อเข้าไปที่หน้าเมนูหลัก ซึ่งรวมแอพพลิเคชั่นต่างๆ เอาไว้ ก็จะเห็นว่าจะอยู่ในหน้าเดียวกันกับ Widgets ซึ่งเลือกได้จากเมนูด้านบน สามารถสร้างทางลัดเพื่อการเข้าสู่แอพพลิเคชั่นไว้ที่หน้า
Home Screen ได้ด้วยการกดค้าง แล้วลากไปที่หน้า Home Screen และหากไม่ต้องการ ก็ลากลงถังขยะได้ทันที สามารถย้ายตำแหน่งของแอพพลิเคชั่นได้อย่างอิสระ ทั้งภายในหน้าเดียวกัน และการย้ายข้ามไปยังหน้าอื่น ซึ่งก็นับว่าเป็นความยืดหยุ่นในการใช้งานอีกรูปแบบหนึ่ง และหากต้องการลบการติดตั้งแอพพลิเคชั่นใด ก็สามารถลากลงถังขยะได้ทันที ส่วนการแสดงผลก็มีให้เลือกทั้งแบบตาราง และแบบรายการ
การสร้างโฟลเดอร์ (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

หากไม่ต้องการให้มีไอคอนของแอพพลิเคชั่นอยู่รกหน้าจนเกินไป เราก็สามารถสร้างโฟลเดอร์ขึ้นมา เพื่อรวมกลุ่มของแอพพลิเคชั่นประเภทเดียวกันเอาไว้ได้ เช่นตัวอย่างที่เห็นอยู่นี้ก็คือการสร้างโฟลเดอร์เกมส์ขึ้นมา เพื่อรวมเกมส์ต่างๆ เอาไว้ในที่เดียวกันนั่นเอง สามารถเลือกทีละแอพพลิเคชั่น หรือจะเลือกทีเดียวหลายๆ แอพพลิเคชั่นก็ได้เช่นกัน
ทางลัดสำหรับเข้าใช้งานฟังก์ชันพื้นฐาน (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ทางลัดของฟังก์ชันพื้นฐาน บนหน้าจอหลักก็จะประกอบไปด้วยฟังก์ชันโทรศัพท์, รายชื่อ, S Note และข้อความ
ภาพรวมของหน้า Home Screen (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ที่หน้า Home Screen เมื่อเราหุบนิ้วเข้าหากัน ก็จะเห็นภาพรวมของหน้า Home Screen ทั้งหมด รวมไปถึงสามารถย้ายตำแหน่งของหน้า Home Screen แต่ละหน้าได้อีกด้วย
การเริ่มใช้งานฟังก์ชันสำหรับปากกา S Pen แบบอัตโนมัติ (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ในขณะที่เราปิดหน้าจอ หรือล็อกหน้าจอเอาไว้ เพียงแค่เราดึงปากกา S Pen ออกมา เครื่องก็จะเปิดฟังก์ชันสำหรับปากกา S Pen ขึ้นมาให้โดยอัตโนมัติ
ฟังก์ชัน S Voice (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

เมื่อกดปุ่มโฮมติดๆ กันสองครั้ง ก็จะเป็นการเข้าสู่ฟังก์ชัน S Voice หรือการสั่งงานด้วยเสียง

เราสามารถเริ่มการใช้งานโต้ตอบกับเครื่อง ด้วยการพูดคำว่า Hi Galaxy หลังจากนั้นก็ให้เราพูดโต้ตอบกับตัวเครื่องได้ทันที เช่นหากเราต้องการทราบว่าขณะนี้เป็นเวลาเท่าไหร่ ก็ให้พูดคำว่า Hi Galaxy แล้วตามด้วยการพูดว่า What Time เครื่องก็จะแสดงเวลาให้เห็น หรือหากต้องการให้เครื่องเปิดเพลงให้ฟัง ก็ให้พูดคำว่า Play Music ดังนี้เป็นต้น
การแสดงแกลอรี่แบบ 3 มิติ (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ในโปรแกรมแกลอรี่ เราสามารถปรับมุมมองให้เป็นแบบ 3 มิติสวยงามได้ ทั้งแบบ 3 มิติที่เรียงแถวตรงๆ แบบนี้ หรือจะเป็นแบบ 3 มิติที่มีลักษณะหมุนเป็นเกลียวดังที่เห็นนี้ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่น่าสนใจของการใช้งาน Galaxy Note II และนอกจากจะดูสวยงามแล้ว ก็ยังสามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็วลื่นไหลอีกด้วย
การสร้างอัลบั้มใหม่ (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

การสร้างอัลบั้มรูปภาพขึ้นมาใหม่ สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการตั้งชื่ออัลบั้ม เลือกรูปภาพที่ต้องการได้ทีละหลายๆ ภาพ กดค้างเอาไว้ แล้วลากไปไว้ที่อัลบั้มใหม่ได้ทันที
ฟังก์ชัน Air View (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

เมื่อเราจ่อปากกาเอาไว้ใกล้ๆ หน้าจอ โดยไม่ต้องสัมผัสกับหน้าจอ ก็จะสังเกตเห็นจุดแสงเล็กๆ ของฟังก์ชัน Air View ซึ่งฟังก์ชัน Air View นี้สามารถแสดงให้เห็นถึงรายละเอียด หรือเนื้อหาด้านใน ของแต่ละส่วนที่เราเอาปากกาไปจ่อไว้ได้ทันที โดยที่เรายังไม่ต้องกดเข้าไปดูเนื้อหาแบบเต็มๆ ที่ด้านใน หรือยังไม่ต้องเลือกใช้งานฟังก์ชันนั้นๆ

อย่างเช่นในหน้ารวมวิดีโอ เมื่อเราจ่อปากกาเอาไว้ที่รายการใดรายการหนึ่ง ก็จะมีหน้าจอใหม่ Popup ขึ้นมา แล้วเล่นวิดีโอให้เราดูทันที ซึ่งทำให้เราเห็นก่อนว่าวิดีโอในรายการดังกล่าวมีรายละเอียด หรือมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง เพื่อที่เราจะตัดสินใจกดเข้าไปดูแบบเต็มๆ อีกครั้งหนึ่ง

ในส่วนของโปรแกรมเครื่องเล่นวิดีโอ เมื่อเราจ่อปากกาไปที่แถบเวลา ก็จะเห็นได้เลยว่า แต่ละช่วงเวลาของไฟล์วิดีโอนั้นๆ มีรายละเอียดเป็นอย่างไร

เมื่ออยู่ในหน้ารวมข้อความในกล่องข้อความ เมื่อเราจี้ปากกาไปที่ข้อความรายการใดรายการหนึ่ง ก็จะมีหน้าต่าง Popup ขึ้นมา โดยจะมีรายละเอียดด้านในของข้อความนั้นๆ แสดงให้เห็นโดยทันที

ในปฏิทินก็เช่นเดียวกัน หากวันใดมีข้อมูลบันทึกนัดหมายอยู่ เมื่อเราจี้ปากกาไปที่วันดังกล่าว ก็จะเห็นรายละเอียดของนัดหมายได้ทันที
โปรแกรมเครื่องเล่นวิดีโอ (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ด้วยหน้าจอแสดงผลที่มีขนาดใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว ก็ทำให้การเปิดดูวิดีโอ มีความชัดเจนเต็มตา ได้อรรถรสในการรับชมมากยิ่งขึ้น

ในหน้ารวมของไฟล์วิดีโอทั้งหมดที่อยู่ภายในเครื่อง จะเห็นว่ามีภาพเคลื่อนไหวของไฟล์วิดีโอแต่ละไฟล์แสดงให้เห็นเป็นตัวอย่าง ในลักษณะของภาพเคลื่อนไหว และแน่นอน เมื่อเราจ่อปากกาเข้าไปใกล้ๆ ด้วยฟังก์ชัน Air View ก็จะช่วยให้เรามองเห็นภาพตัวอย่างของวิดีโอได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ฟังก์ชัน Popup Play (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

หากใครเคยได้ลองใช้งาน Samsung Galaxy S III ก็คงจะรู้จักกับฟังก์ชันนี้อย่างแน่นอน นั่นก็คือฟังก์ชัน Popup Play นั่นเอง และฟังก์ชันนี้ก็มาอยู่ใน Galaxy Note II เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้เราสามารถเปิดดูวิดีโอได้ตลอดเวลา แม้ในขณะที่กำลังใช้งานแอพพลิเคชั่นอื่นอยู่ โดยจะปรากฏเป็นหน้าต่างเล็กๆ เหมือนจอทีวีที่เลื่อนย้ายตำแหน่งได้อย่างอิสระ สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นอื่นได้อย่างไม่ติดขัด และไม่เกิดอาการหน่วงให้เห็นแต่อย่างใด
ฟังก์ชัน Popup Note (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

อีกหนึ่งฟังก์ชันที่น่าสนใจมากๆ ของ Galaxy Note II ก็คือฟังก์ชัน Popup Note นั่นเองครับ การใช้งานก็คือ ระหว่างที่เรากำลังสนทนาโทรศัพท์อยู่นั้น หากเกิดต้องการจดบันทึกอะไรบางอย่างไปด้วย เช่นหากต้องการจดเบอร์โทร เราก็เพียงแค่ดึงปากกาออกมา ฟังก์ชัน Popup Note ก็จะถูกเรียกใช้งานทันทีดังที่เห็นนี้ ซึ่งก็เหมือนกับการเรียกใช้โปรแกรม S Note ขนาดย่อมๆ ขึ้นมาเลยทีเดียวครับ
โปรแกรม Gmail (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ด้วยโปรแกรม Gmail ก็ทำให้เราสามารถเช็คอีเมลของ Gmail ได้โดยง่าย และจะสังเกตเห็นว่า เราสามารถเลื่อนหน้าขึ้น-ลงด้วยการจี้ปากกาไปที่ด้านบน และด้านล่างได้ด้วย ดังที่เห็นนี้
การใช้งานด้วยมือข้างเดียว (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ด้วยขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่เป็นพิเศษของ Galaxy Note II การใช้งานด้วยมือข้างเดียวก็ย่อมลำบากมากขึ้น ดังนั้น ซัมซุง จึงได้ออกแบบฟังก์ชันบางอย่างเพื่อการใช้งานมือเดียว ยกตัวอย่างเช่นคีย์บอร์ดแบบ QWERTY สำหรับการพิมพ์ข้อความที่สามารถเลื่อนไปทางด้านขวา เพื่อคนถนัดมือขวา หรือเลื่อนไปทางด้านซ้าย เพื่อคนถนัดมือซ้ายได้ หรือหากไม่ต้องการใช้งานฟังก์ชันนี้ ก็สามารถเลือกปิดได้เช่นกัน

แต่อย่างไรก็ตาม คีย์บอร์ดที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานแบบมือเดียวนั้น จะรองรับการใช้งานในแนวตั้งเท่านั้น หากใช้งานในแนวนอน คีย์บอร์ดก็จะมีรูปแบบตามมาตรฐานทั่วไป

โปรแกรมเครื่องคิดเลข ก็มีฟังก์ชันที่รองรับการใช้งานด้วยมือข้างเดียว ได้เช่นกันครับ
ฟังก์ชัน Quick Command (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ขณะที่อยู่บนหน้า Home Screen หากเรากดปุ่มที่ปากกาค้างเอาไว้ แล้วลากเส้นจากด้านล่างของหน้าจอ ไปยังด้านบนของหน้าจอ ก็จะเป็นการเรียกใช้ฟังก์ชัน Quick Command โดยการสั่งงานต่างๆ ทำได้ด้วยการเขียนลงไปบนหน้าจอ เช่นหากเขียนเครื่องหมาย ? แล้วตามด้วยคำว่า Weather ก็จะเป็นการค้นหาข้อมูลสภาพอากาศ ณ ตำแหน่งที่เราอยู่นั่นเอง

หรือหากต้องการค้นหาแผนที่ ก็ให้เขียนเครื่องหมาย ! แล้วตามด้วยสถานที่ๆ เราต้องการดูแผนที่ เช่นหากเราต้องการดูแผนที่จังหวัดกรุงเทพ ก็ให้เขียนคำว่า Bangkok นั่นเอง
ฟังก์ชัน Quick Glance (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ฟังก์ชัน Quick Glance ก็เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันเด่นของ Galaxy Note II ครับ ซึ่งใช้งานได้ด้วยการนำมือไปบังตัวเซ็นเซอร์เอาไว้ ในขณะที่หน้าจอกำลังดับอยู่ เมื่อรออึดใจเดียว หน้าจอก็จะสว่างขึ้น และจะแสดงข้อมูลพื้นฐานต่างๆ ให้เราเห็นได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องปลดล็อกหน้าจอแต่อย่างใด
การเลือกพื้นที่เพื่อจับภาพหน้าจอ (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ไม่ว่าเราจะอยู่ที่หน้าจอใด หรือแอพพลิเคชั่นใดก็ตาม เราก็สามารถเลือกเก็บรูปภาพหน้าจอในส่วนที่เราต้องการได้ทันที ด้วยการกดปุ่มบนปากกา แล้วลากเส้นล้อมกรอบเป็นพื้นที่ๆ เราต้องการเก็บเป็นรูปภาพ เพียงเท่านี้ ภาพหน้าจอส่วนที่เราเลือกไว้ ก็จะถูกเก็บบันทึกเข้าไปในคลิปบอร์ดให้ทันที และพร้อมนำไปใช้งานต่อไป โดยจะล้อมกรอบเป็นรูปร่างแบบไหนก็ได้ครับ แต่ก็อย่าลืมว่าต้องลากเส้นให้ครบรอบ ไม่เช่นนั้นการเลือกรูปภาพก็จะไม่เสร็จสมบูรณ์ ส่วนการนำรูปภาพมาใช้งาน เราก็เข้าไปที่โปรแกรม S Note แล้วเข้าไปเลือกที่เมนูคลิปบอร์ด
ก็จะเห็นรูปภาพหน้าจอที่เราเคยเลือกเอาไว้ และสามารถเลือกนำมาใช้งานต่อในสมุดบันทึกได้ทันที
การจดบันทึกนัดหมายด้วยลายมือ (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

โดยทั่วไปของโปรแกรมปฏิทินนัดหมายบนสมาร์ทโฟน จะสามารถบันทึกนัดหมายได้ด้วยแบบฟอร์มที่ถูกกำหนดเอาไว้เท่านั้น แต่สำหรับ Galaxy Note II ได้เพิ่มความสามารถในส่วนของการบันทึกนัดหมายด้วยการวาด หรือเขียนลงไปบนปฏิทินได้โดยตรง สามารถเลือกสีสัน หรือชนิดของปากกาได้ตามใจชอบ ซึ่งการใช้งานในลักษณะนี้ก็เหมือนกับปฏิทินแผ่นใหญ่ๆ ที่ติดตามฝาบ้านนั่นเองครับ
ฟังก์ชัน Idea Sketch (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

แน่นอนว่า มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้มีทักษะที่ดีด้านการวาดภาพ ดังนั้นการวาดภาพให้สวยจึงกลายเป็นเรื่องยาก แต่ด้วยฟังก์ชัน Idea Sketch บนโปรแกรม S Note ก็จะรูปภาพสำเร็จรูปสวยๆ ให้นำมาใช้งานได้มากมาย เช่นหาต้องการรูปรถยนต์ ก็ให้เขียนคำว่า Car หลังจากนั้นก็จะปรากฏเป็นรูปรถยนต์หลายๆ แบบให้เราเลือกใช้งานได้ทันที

หรือหากเราต้องการรูปนก เราก็เพียงแค่เขียนคำว่า Bird ลงไป โปรแกรมก็จะค้นหารูปนกแบบต่างๆ มาให้เลือกใช้งานดังที่เห็นนี้

นอกจากรูปรถยนต์ หรือนกแล้ว ก็ยังมีรูปประเภทอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย และหากรูปเหล่านั้นยังไม่ตรงกับความต้องการ เราก็สามารถสร้างรูปใหม่ของเราขึ้นมาได้เอง เช่นหากต้องการสร้างลายเซ็นที่เราสามารถนำกลับมาใช้งานได้บ่อยๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาเซ็นใหม่ ก็สามารถสร้างลายเซ็นของเราเก็บเอาไว้ได้ ซึ่งก็เป็นแนวทางหนึ่งในการประยุกต์ใช้ ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น

ประเภทของรูปภาพใน Idea Sketch ก็จะมีดังนี้คือ กิจกรรม, เครื่องใช้ไฟฟ้า, นก, สิ่งก่อสร้าง, ธุรกิจ, รถยนต์, การเฉลิมฉลอง, ใบหน้าแสดงอารมณ์, ปลา, อาหาร, เฟอร์นิเจอร์, แผนภูมิ, วันหยุด, เครื่องดนตรี, สัตว์, ธรรมชาติ, มนุษย์, เครื่องบิน, เรือ และกีฬา
การเลือกสีจากรูปภาพ (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

หากใครเคยใช้โปรแกรมประเภทตกแต่งรูปภาพบนคอมพิวเตอร์ ก็คงจะคุ้นเคยกับฟังก์ชันดูดสีกันเป็นอย่างดี ซึ่งในโปรแกรม S Note ก็มีฟังก์ชันนี้มาให้เช่นกัน โดยเราสามารถดูสีที่ต้องการ มาจากรูปภาพ แล้วกำหนดให้เป็นสีของปากกาได้ทันที ซึ่งทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาในการเลือกสีให้ตรงกับสีที่เราต้องการ และทำให้ได้เฉดสีที่ถูกต้องแม่นยำกว่าอีกด้วย
การกดปุ่มเพื่อเลือกรูปแบบของปากกา (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

เชื่อว่าทุกท่านในที่นี้ก็คงเคยใช้ปากกาที่มีหมึกหลายสีในด้ามเดียวกัน ซึ่งปากกา S Pen ก็สามารถเลือกสีได้เช่นกัน ซึ่งทำได้ด้วยการกดปุ่มที่ด้านข้างของปากกา ก็จะเห็นว่ารูปแบบ และสีสันของปากกาก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดยรองรับได้สูงสุดถึง 10 รูปแบบ และพร้อมกันนั้น ก็ยังมียางลบให้เลือกใช้ในลำดับสุดท้ายอีกด้วย
ฟังก์ชัน S Pen Keeper (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

อีกฟังก์ชันเด่นสำหรับการใช้งานปากกา S Pen ก็คือฟังก์ชัน S Pen Keeper นั่นเองครับ โดยฟังก์ชัน S Pen Keeper นั้นจะช่วยแจ้งเตือน เมื่อผู้ใช้เผลอลืมปากกาเอาไว้ โดยการทำงานก็คือ หากมีการนำปากกาออกมาใช้ แล้วปิดหน้าจอ แต่ไม่ได้เก็บปากกาไว้ในช่องเก็บปากกา เมื่อเดินไปสักประมาณ 10 วินาที เครื่องก็จะตรวจจับการเดิน ซึ่งหากไม่มีปากกาอยู่ในช่อง เครื่องก็จะส่งเสียง และข้อความเตือนดังที่เห็นนี้ครับ
เทมเพลต สำหรับการจดบันทึก (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

โปรแกรม S Note นั้น จะมีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ เช่นเทมเพลตแนวธุรกิจ หรือเทมเพลตแนวไลฟ์สไตล์ เป็นต้น ซึ่งเมื่อเลือกเทมเพลตที่ต้องการได้แล้ว เราก็สามารถเติมแต่งรายละเอียดของเราเอง บนเทมเพลตสวยๆ นั้นต่อได้ทันที
ฟังก์ชัน Shape Match และ Formula Match (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ฟังก์ชันที่น่าสนใจอีกอย่างในโปรแกรม S Note ก็คือฟังก์ชัน Shape Match และ Formula Match ครับ โดยฟังก์ชัน Shape Match นั้นก็จะช่วยแปลงการลากเส้น หรือการวาดรูปทรงต่างๆ ของเรา ให้มีความสวยงามสมบูรณ์มากขึ้น ทั้งเส้นตรง, สามเหลี่ยม, วงกลม, สี่เหลี่ยม และอื่นๆ ส่วนฟังก์ชัน Formula Match ก็จะช่วงแปลงการเขียนสมการทางคณิตศาสตร์ของเรา ให้อยู่ในรูปแบบที่เป็นระเบียบเรียบร้อย และอีกฟังก์ชันก็คือกล่องข้อความ ซึ่งจะแปลงการเขียนด้วยลายมือของเรา ให้กลายเป็นฟอนต์ที่สวยงาม และสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขได้ง่ายนั่นเองครับ
ลายเส้นของปากกาแต่ละแบบ (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

คราวนี้เราจะมาลองดูกันว่าปากกาแต่ละแบบ มีสไตล์เป็นอย่างไร แบบแรกก็คือปากกาเมจิก ซึ่งสามารถลากเส้นให้หนาหรือบาง ตามน้ำหนักของการกดปากกาได้ แบบที่สองก็คือพู่กันหัวใหญ่ ซึ่งหมึกจะหนาหรือจาง ก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักในการกดปากกาเช่นเดียวกัน แบบที่สามก็คือพู่กันหัวเล็ก ซึ่งก็จะใช้เส้นสายที่ละเอียดมากกว่าพู่กันหัวใหญ่ แบบที่สี่ก็คือดินสอ ซึ่งน่าจะเหมาะกับการเล่นแสงเงา หรือใช้ในเรื่องของการร่างภาพ และแบบที่ห้าก็คือปากกาไฮไลท์ ซึ่งก็จะเหมาะกับการเน้นสีตามจุดต่างๆ นั่นเอง
การใส่วัตถุแบบต่างๆ ในหน้ากระดาษ (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ในโปรแกรม S Note เราสามารถใส่องค์ประกอบเพิ่มเติมได้หลายอย่าง ทั้งการถ่ายภาพ, ไฟล์รูปภาพ, ถ่ายวิดีโอ, ไฟล์วิดีโอ, คลิปบอร์ด, แผนที่, ไอเดียสเก็ตช์, ภาพตัดปะ, กล่องข้อความ และรูปร่าง อย่างเช่นภาพตัดปะ ก็จะเป็นภาพไอคอนที่ออกแนวน่ารักสดใสดังที่เห็นนี้ ส่วนรูปร่างก็จะเป็นรูปทรงต่างๆ ที่มักจะใช้งานกันบ่อยๆ โดยสามารถปรับขนาด หรือย้ายตำแหน่งได้อย่างอิสระ
ฟังก์ชัน Image Note (Photo Note) (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

บ่อยครั้งที่เราอยากจะเก็บบันทึกเรื่องราวภายในรูปภาพสำคัญเอาไว้ กันหลงกันลืม ซึ่งฟังก์ชัน Image Note ช่วยได้ครับ โดยระหว่างการเปิดดูรูปภาพ เมื่อเราเลือกเมนู Image Note โปรแกรมก็จะกลับด้านหลังภาพมาให้เราเขียนรายละเอียดต่างๆ ด้วยลายมือของเราเอง

และหากรูปภาพใดที่เคยมีการจดบันทึกที่ด้านหลังภาพเอาไว้ จะสังเกตว่าที่มุมบนขวาของรูปภาพจะมีสัญลักษณ์ปรากฏอยู่ ซึ่งเราสามารถพลิกรูปภาพเข้าไปดูรายละเอียดที่เคยจดบันทึกเอาไว้ได้ทันที
โปรแกรม Paper Artist (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

แอพพลิเคชั่นดีๆ สำหรับตกแต่งรูปภาพ ที่มาพร้อมกับ Galaxy Note II ก็คือแอพพลิเคชั่น Paper Artist นั่นเองครับ ซึ่งจริงๆ แล้วการใช้งานแอพพลิเคชั่นนี้แบบเต็มๆ จะต้องเสียเงินซื้อ และในขณะนี้ยังไม่เปิดให้ซื้อ หรือดาวน์โหลดใน Google Play Store จะมีเฉพาะใน Galaxy Note II เท่านั้น ซึ่งเราสามารถใช้งาน Paper Artist ตัวเต็มใน Galaxy Note II ได้แบบฟรีๆ เลยทีเดียว ซึ่งในตัวโปรแกรม Paper Artist ก็มีลูกเล่น และเอฟเฟคต่างๆ สำหรับตกแต่งรูปภาพ ให้เลือกใช้งานมากมายจริงๆ ครับ โดยมีเครื่องมือหลักๆ
ให้เลือกก็คือ แปรงทาสี, ดินสอ และยางลบ ซึ่งสามารถปรับขนาดได้ รวมไปถึงมีกรอบรูปให้เลือกอีกด้วย

เอฟเฟคในโปรแกรม Paper Artist นั้นมีให้เลือกเยอะมากๆ ครับ โดยเมื่อเราเลือกเอฟเฟคไหน สไตล์ของรูปก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย อย่างเช่นเอฟเฟคปากกาสักหลาดนี้ ก็จะเน้นสีสันที่สดใส
การค้นหาข้อมูล และเว็บเบราเซอร์ (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

นอกจากที่เราจะสามารถป้อนข้อมูลค้นหาได้ด้วยการใช้คีย์บอร์ดได้แล้ว ก็ยังมีฟังก์ชันที่ช่วยแปลงการเขียนด้วยลายมือ ให้กลายเป็นตัวอักษรได้ด้วยครับ ซึ่งใครที่ถนัดการเขียนด้วยลายมือก็น่าจะชื่นชอบฟังก์ชันนี้มากเป็นพิเศษ ส่วนการแสดงผลหน้าเว็บไซต์นั้น โปรแกรมเว็บเบราเซอร์บน Galaxy Note II สามารถทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ แสดงผลได้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งไฟล์ Flash และข้อความภาษาไทย มีการประมวลผลที่รวดเร็วลื่นไหล ทั้งการเลื่อนหน้า และการซูม แม้กระทั่งหน้าเว็บไซต์ขนาดใหญ่ก็ตาม และแน่นอนว่าสามารถรองรับการเปิดใช้งานหลายหน้าต่างพร้อมกันได้
ซึ่งก็มีการทำงานที่ไหลลื่นเช่นเดียวกัน
โปรแกรม Samsung Apps (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

โปรแกรม Samsung Apps ก็คือศูนย์รวมแอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจ ประเภทต่างๆ ที่ทาง ซัมซุง คัดสรรไว้ให้ มาอยู่ภายในที่เดียวกัน
โปรแกรม ChatON (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

โปรแกรม ChatON ก็คือโปรแกรมสำหรับแชท ที่พัฒนาโดย ซัมซุง เอง ซึ่งปัจจุบันก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีฟังก์ชันพื้นฐานเกี่ยวกับการแชทอยู่อย่างครบถ้วน รวมไปถึงมีไอคอนแสดงอารมณ์แบบต่างๆ ให้เลือกใช้มากมาย
ฟังก์ชัน AllShare Play (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ด้วยฟังก์ชัน AllShare Play ก็ทำให้เราสามารถแชร์ไฟล์ข้อมูลทุกประเภท ระหว่างอุปกรณ์ที่มีฟังก์ชัน AllShare Play ด้วยกันได้ ผ่านทางระบบ WiFi หรือเครือข่ายมือถือ ได้ทันที
โปรแกรม Dropbox (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

Samsung Galaxy Note II นั้นสามารถเก็บบันทึกข้อมูลไว้บน Cloud Storage ได้แบบฟรีๆ ด้วยบริการ Dropbox นั่นเองครับ โดยสิทธิพิเศษสำหรับผู้ใช้ Galaxy Note II เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วก็คือ จะมีพื้นที่ให้ใช้งานได้ฟรีถึง 50 GB เลยทีเดียว
โปรแกรม Game Hub (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

Game Hub ก็คือศูนย์รวมของเกมส์ประเภทต่างๆ ที่สามารถกดเข้าไปดูรายละเอียด และดาวน์โหลดได้ทันที โดยมีการทำงานร่วมกับโปรแกรม Samsung Apps นั่นเอง
โปรแกรม Google+ (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

แน่นอนว่าระบบโซเชียลเน็ตเวิร์กของ Google เอง อย่าง Google+ ก็มีติดตั้งมาให้ พร้อมใช้งานในตัวอย่างแน่นอน โดยมีฟังก์ชันใช้งานที่ครบครัน อย่างที่คุ้นเคยกันดี
โปรแกรม Learning Hub (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ในโปรแกรม Learning Hub ก็จะเป็นเหมือนกับชั้นหนังสือ ที่รวบรวมสื่อการสอนต่างๆ เอาไว้ ซึ่งน่าจะเหมาะกับเด็กนักเรียนมากเป็นพิเศษ ซึ่งสื่อการสอนบางรายการ ก็อาจจะมีทั้งรูปแบบของหนังสือสำหรับเปิดอ่าน และคลิปวิดีโอประกอบเนื้อหา ที่ช่วยให้เด็กนักเรียนเกิดความรู้สึกสนุกสนานกับการเรียนรู้เนื้อหาต่างๆ มากขึ้นนั่นเอง และแม้กระทั่งผู้ใหญ่เอง ก็สามารถเปิดดูเพื่อความเพลิดเพลิน หรือเพื่อเสริมความรู้ได้ด้วยเช่นกันครับ
โปรแกรม Google Maps (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

โปรแกรมแผนที่ๆ มาพร้อมกับ สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ ทุกเครื่องก็คือโปรแกรม Google Maps นั่นเองครับ ซึ่งก็มีฟังก์ชันพื้นฐานที่น่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ส่วนฟังก์ชันใหม่ ที่เพิ่งจะใช้งานในประเทศไทยได้เมื่อไม่นานมานี้ ก็คือฟังก์ชัน Street View ซึ่งช่วยให้เห็นภาพของสถานที่นั้นๆ แบบสมจริง ในลักษณะของภาพ 3 มิติรอบทิศทาง สามารถเลื่อนจุดศูนย์กลางของการแพนกล้องไปยังตำแหน่งที่เราต้องการได้ มีการประมวลผลที่รวดเร็วลื่นไหล ทั้งการหมุน, การเลื่อน และการซูม
โปรแกรม Reader Hub (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

โปรแกรม Reader Hub นั้นก็เป็นเหมือนกับชั้นวางหนังสือ ที่รวบรวมเอาหนังสือประเภทต่างๆ มาไว้ในที่เดียวกัน โดยหนังสือแต่ละเล่มก็จะใช้เวลาในการโหลดที่มากน้อยต่างกันไป ขึ้นอยู่กับจำนวนหน้าของหนังสือแต่ละเล่ม และแน่นอนว่า สามารถใช้ประโยชน์จากปากกา S Pen ในการทำไฮไลท์ส่วนของเนื้อหาที่สำคัญ หรือขีดเขียนลงไปบนหนังสือได้ทันที ส่วนกราฟฟิคที่แสดงเวลาเปลี่ยนหน้า ก็จะดูเหมือนเป็นการเปิดหน้าหนังสือจริงๆ และหากต้องการนำหนังสือใหม่ๆ มาวางไว้บนชั้นหนังสือเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าไปค้นหา และดาวน์โหลดหนังสือได้ใน
Reader Hub Store นั่นเอง
โปรแกรม S Suggest (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

โปรแกรม S Suggest ก็คือศูนย์รวมของแอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจมากเป็นพิเศษ ในหมวดหมู่ต่างๆ ซึ่งระบบของทาง ซัมซุง เองได้คัดเลือกเอาไว้ให้ หากซื้อเครื่องมาแล้วไม่แน่ใจว่าจะลงแอพพลิเคชั่นอะไรดี โปรแกรม S Suggest ช่วยคุณได้ครับ
โปรแกรม YouTube (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

แน่นอนครับว่าโปรแกรมพื้นฐานอย่าง YouTube ก็มีติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานอย่างแน่นอน โดยสามารถรองรับคลิปวิดีโอความละเอียดสูงได้แบบสบายๆ และยิ่งดูกับจอภาพขนาดใหญ่ 5.5 นิ้วของ Galaxy Note II ด้วยแล้ว ก็ยิ่งได้อรรถรสมากเป็นพิเศษครับ
กล้องดิจิตอล (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

กล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซลของ Galaxy Note II นั้นสามารถเลือกจุดโฟกัสภาพด้วยการสัมผัสได้ และมีการโฟกัสที่รวดเร็ว สลับใช้กล้องหน้า 1.9 ล้านพิกเซลได้ ปรับค่าชดเชยแสงได้ เลือกโหมดของการถ่ายภาพได้ ทั้งแบบ Single Shot, Best Pic, Best Face, ตรวจจับใบหน้า, พาโนรามา, แชร์ภาพ, HDR, แชร์รูปภาพกับคู่หู, บิวตี้, ตรวจจับรอยยิ้ม และแสงน้อย มีเอฟเฟคให้เลือกใช้งานหลายอย่าง ทั้งโคลด์วินเทจ, วอร์มวินเทจ, โพสเตอร์ไรซ์, โซลาไรซ์, กรีนพอยต์, บลูพอยต์, เรด-เยลโลวพอยต์, วอชท์เอาท์, ภาพการ์ตูน, ขาวดำ,
ซีเปีย และเนกาทีฟ ส่วนทางลัดที่ด้านซ้ายของหน้าจอ เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ แล้วแต่ว่าเราต้องการใช้ทางลัดไหนบ่อยมากกว่ากัน

การถ่ายภาพต่อเนื่อง ก็ให้เรากดปุ่มชัตเตอร์ค้างเอาไว้ ซึ่งด้วยคุณสมบัติของระบบ Zero Shutter Lag ก็ทำให้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้อย่างรวดเร็ว โดยถ่ายต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 20 ภาพ ซึ่งก็น่าจะเหมาะกับการถ่ายภาพเหตุการณ์ที่วัตถุมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา สามารถเปิดใช้งานไฟแฟลชได้, เลือกซีนสำเร็จรูปได้, ปรับโหมดการโฟกัสภาพได้, ตั้งเวลาถ่ายภาพล่วงหน้าได้ 2, 5 และ 10 วินาที, กำหนดความละเอียดของภาพได้สูงสุดที่ 8 ล้านพิกเซล, ปรับค่าสมดุลสีขาว, ปรับค่าความไวแสงได้สูงสุดที่ ISO 800,
เลือกการวัดแสงแบบเมทริกซ์, เน้นตรงกลาง และแบบจุด, ระบบถ่ายภาพกลางแจ้ง, ปรับความคมชัดอัตโนมัติ, ไกด์ไลน์, แชร์ภาพอัตโนมัติ, ระบบป้องกันการสั่น, การแนบพิกัด, ชื่อไฟล์แบบบอกพิกัด, ถ่ายภาพโดยใช้เสียง, คุณภาพของรูปภาพ

ส่วนโหมดกล้องวิดีโอก็จะมีหน้าตาดังนี้ครับ สามารถสลับใช้กล้องด้านหน้าได้, เปิดไฟส่องสว่างได้, เลือกโหมดของการถ่ายวิดีโอได้, เลือกเอฟเฟคแบบต่างๆ ได้มากมาย, ปรับค่าชดเชยแสงได้, ตั้งเวลาถ่ายล่วงหน้าได้, กำหนดความละเอียดสูงสุดได้ที่ระดับ Full HD 1080p, ปรับค่าสมดุลสีขาว, ระบบการถ่ายกลางแจ้ง, ไกด์ไลน์, ระบบป้องกันการสั่น, การแนบพิกัด, ชื่อไฟล์แบบบอกพิกัด และคุณภาพของวิดีโอ โดยการถ่ายวิดีโอ เราสามารถเลือกจุดโฟกัสได้อย่างอิสระ ด้วยการสัมผัสไปยังจุดที่ต้องการโฟกัส หรือจะเลือกใช้ระบบโฟกัส
าพอัตโนมัติแบบต่อเนื่องก็ได้เช่นกัน

เมื่อเลือกใช้กล้องด้านหน้า อินเทอร์เฟสของโหมดการถ่ายภาพนิ่ง และโหมดการถ่ายภาพวิดีโอก็จะมีลักษณะเป็นดังนี้ครับ
ฟังก์ชัน Best Face (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ฟังก์ชันที่น่าสนใจเป็นพิเศษ สำหรับการใช้งานกล้องดิจิตอลก็คือ ฟังก์ชัน Best Face ครับ โดยฟังก์ชัน Best Face นั้นจะทำงานด้วยการถ่ายภาพต่อเนื่อง 5 ภาพ แล้วอนุญาตให้ผู้ใช้เลือกใบหน้าที่ดีที่สุดมา 1 ใบหน้า เพื่อเก็บบันทึกเป็นรูปภาพได้ ซึ่งก็น่าจะเหมาะกับการถ่ายภาพหมู่ ซึ่งบ่อยครั้งที่มีคนยังไม่พร้อม, กระพริบตา หรือยังไม่ยิ้มนั่นเองครับ
โปรแกรมวิทยุ FM Radio (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

Samsung Galaxy Note II นั้นจะมีโปรแกรมวิทยุ FM Stereo ติดตั้งมาให้ในตัว ซึ่งมีหน้าตาดังที่เห็นนี้ โดยรองรับจุดทศนิยมแบบสองหลัก มีระบบค้นหาคลื่นความถี่อัตโนมัติ สามารถสร้างทางลัดไว้ที่ด้านหน้าได้ เก็บบันทึกรายการสถานีวิทยุได้มากมาย และรองรับระบบ RDS ได้
แนะนำวิธีการใช้งาน (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ต้องยอมรับว่า ฟังก์ชันการทำงานต่างๆ ที่มีอยู่ใน Galaxy Note II นั้นมีอยู่อย่างมากมาย ดังนั้น การศึกษาวิธีการใช้งานอย่างถูกต้องก็นับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จาก Galaxy Note II ได้อย่างเต็มที่ โดยใน Galaxy Note II ก็จะมีส่วนของ วิธีใช้ ซึ่งแนะนำวิธีการใช้งานเครื่อง และฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้ศึกษากันอย่างละเอียด
การจับภาพหน้าจอ (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

การจับภาพหน้าจอสำหรับ Galaxy Note II สามารถทำได้ด้วยการเอาฝ่ามือปัดไปบนหน้าจอ จากทางด้านขวา ไปทางด้านซ้าย ดังที่เห็นนี้ หรือจะกดปุ่มบนปากกา S Pen ค้างไว้ แล้วแตะไปที่หน้าจอก็ได้เช่นกัน
โปรแกรมเครื่องเล่นเพลง (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ฟังก์ชัน SoundAlive ในโปรแกรมเครื่องเล่นเพลง จะมีรูปแบบเสียงต่างๆ ให้เลือกมากมาย, สามารถปรับความเร็วในการเล่นเพลงได้, กำหนดเมนูที่จะแสดงได้, เปิดการแสดงเนื้อเพลงได้ และมีฟังก์ชันปิดเพลงอัตโนมัติ ส่วนหน้าตาของเครื่องเล่นเพลงก็จะดูเรียบง่ายดังที่เห็นนี้

ฟังก์ชัน Music Square จะช่วยเลือกเพลงตามลักษณะของอารมณ์ให้โดยอัตโนมัติ ทั้งตื่นเต้น, สนุกสนาน, สะเทือนอารมณ์ และสงบ
ทดสอบการเล่นเกม Heroes Call (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

คราวนี้เราก็จะมาลองทดสอบประสิทธิภาพในการเล่นเกมส์ 3 มิติ ความละเอียดสูงกันบ้างครับ โดยเริ่มทดสอบด้วยเกม Heroes Call ซึ่งถือว่าเป็นเกมแนว Action RPG ซึ่งมีภาพกราฟฟิคที่สวยงาม, มีความละเอียดสูง, มีแสงเงาที่หลากหลาย ดังนั้น ก็ต้องอาศัยประสิทธิภาพของการประมวลผลด้านกราฟฟิคที่สูงพอสมควรจึงจะสามารถทำงานได้อย่างลื่นไหล แต่ด้วยจีพียูแบบ Mali-400MP ของ Galaxy Note II ซึ่งเป็นจีพียูที่แรงมากที่สุดตัวหนึ่ง ในตลาดปัจจุบัน แม้ว่า Mali-400MP จะเปิดตัวมานานแล้วก็ตาม ก็ช่วยให้สามารถรับมือกับการประมวลผล
าพกราฟฟิคความละเอียดสูงๆ แบบนี้ได้อย่างสบายๆ ครับ
ทดสอบการเล่นเกม Subway Surfers (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ต่อไปเป็นเกม 3 มิติสนุกๆ ซึ่งมีกราฟฟิคออกแนวน่ารัก สีสันสดใส อย่างเกม Subway Surfers กันบ้างครับ ด้วยภาพกราฟฟิคที่ไม่ซับซ้อนนัก ดังนั้น Galaxy Note II ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่มีปัญหา และด้วยหน้าจอแบบ Super AMOLED ก็ช่วยเสริมความสดใสของสีสันในเกมได้อีกระดับหนึ่งด้วยครับ
ทดสอบการเล่นเกม Prince of Percia Classic (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

หากใครเป็นคอเกมส์มานาน ต้องรู้จักเกม Prince of Percia อย่างแน่นอนครับ ด้วยระบบการเล่นที่ชาญฉลาด และภารกิจที่ซับซ้อน ต้องอาศัยการวิเคราะห์อยู่ตลอดเวลา โดยใน แอนดรอยด์ ก็มีเกม Prince of Percia Classic ให้ดาวน์โหลดมาลองเล่นกันแบบฟรีๆ โดยมีภาพกราฟฟิคที่สวยงามคลาสสิคไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ที่ผ่านไปแล้ว ก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของฟีเจอร์ที่มีอยู่ใน Galaxy Note II เท่านั้นครับ ยังมีฟีเจอร์ หรือฟังก์ชันต่างๆ อีกมากมายที่น่าสนใจ และสามารถนำไปใช้งานให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้
การตั้งค่าใช้งานเครื่อง (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

สำหรับการตั้งค่าการทำงานของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วย การตั้งค่าไวไฟ, บลูทูธ, การใช้ข้อมูล, เครือข่ายมือถือ, NFC, S Beam, DLNA, AllShare Cast, โหมดหน้าหลัก, โหมดการห้าม, เสียง, จอภาพ, ไฟ LED, โหมดหน้าจอ ซึ่งจะเป็นการเลือกโทนสีแบบต่างๆ, การหมุนอัจฉริยะ ซึ่งเหมาะกับการใช้งานเวลานอนอยู่บนเตียง, การตรวจสอบพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูล, การจัดการแอพพลิเคชั่น, การระบุตำแหน่ง, ล็อกหน้าจอ ซึ่งรองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า และการกำหนดรายละเอียดต่างๆ, ระบบป้องกัน, การทำงานมือเดียว ซึ่งเลือกได้ว่าจะใช้งานกับฟังก์ชันไหนบ้าง,
การตั้งค่าภาษา, Cloud Storage, การสำรองข้อมูล และการตั้งค่าใหม่, แอคเคาท์ต่างๆ, การเคลื่อนไหว ซึ่งรองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ, การตั้งค่าปากกา S Pen, อุปกรณ์เสริม, วันที่และเวลา, การเข้าใช้งาน, ทางเลือกผู้พัฒนา และข้อมูลพื้นฐานของตัวเครื่อง
ทดสอบการสัมผัสพร้อมกันหลายจุด (Multi-touch) (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ต่อไปเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของระบบ Multi-touch ซึ่งจะเห็นว่า Galaxy Note II นั้นรองรับการสัมผัสพร้อมกันได้ถึง 10 จุด และเมื่อทดสอบการใช้งานในลักษณะต่างๆ ก็จะเห็นว่าสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ แต่ละจุดมีการทำงานแยกกันอย่างอิสระ ไม่ว่าจะลากตัดกันในลักษณะใดก็ตาม ไม่มีข้อผิดพลาดในการทำงานให้เห็นแต่อย่างใด
ทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวมด้วยโปรแกรม Quadrant Standard (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ต่อไปเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวม ด้วยโปรแกรม Quadrant Standard

ซึ่งผลคะแนนรวมที่ได้ก็คือ 5820 คะแนน ซึ่งถือว่าสูงมากๆ โดยแบ่งออกเป็นคะแนนต่างๆ ดังนี้
ทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวมด้วยโปรแกรม Smartbench 2012 (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ต่อไปเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวม ด้วยโปรแกรม Smartbench 2012

ซึ่งผลคะแนน Productivity Index จะอยู่ที่ 4785 คะแนน ส่วนคะแนน Gaming Index จะอยู่ที่ 1665 คะแนน
ทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวมด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ต่อไปเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวม ด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark

ซึ่งผลคะแนนรวมที่ได้ก็คือ 13604 คะแนน โดยมีคะแนนในส่วนต่างๆ ดังนี้
ทดสอบประสิทธิภาพของการประมวลผลด้วยโปรแกรม Linpack for Android (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ต่อไปเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของการประมวลผลด้วยโปรแกรม Linpack for Android ซึ่งผลคะแนนที่ได้ ก็จะเป็นดังที่เห็นนี้
ทดสอบประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟฟิคด้วยโปรแกรม NenaMark1 (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ต่อไปเป็นการทดสอบประสิทธิภาพในการประมวลผลภาพกราฟฟิค ด้วยโปรแกรม NenaMark1

ซึ่งผลคะแนนที่ได้ก็คือ 58.2 เฟรมต่อวินาที
ทดสอบประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟฟิคด้วยโปรแกรม NenaMark2 (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ต่อไปเป็นการทดสอบประสิทธิภาพในการประมวลผลภาพกราฟฟิค ด้วยโปรแกรม NenaMark2

ซึ่งผลคะแนนที่ได้ก็คือ 58.0 เฟรมต่อวินาที
ทดสอบประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟฟิคด้วยโปรแกรม GPU Bench (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ต่อไปเป็นการทดสอบประสิทธิภาพในการประมวลผลภาพกราฟฟิค ด้วยโปรแกรม GPU Bench

ซึ่งผลคะแนน Absolute ที่ได้ก็คือ 41085 คะแนน ส่วนคะแนน Relative ที่ได้ก็คือ 40458 คะแนน
ทดสอบประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟฟิคด้วยโปรแกรม An3DBenchXL (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ต่อไปเป็นการทดสอบประสิทธิภาพในการประมวลผลภาพกราฟฟิค ด้วยโปรแกรม An3DBenchXL

ซึ่งผลคะแนนรวมที่ได้ก็คือ 40218 คะแนน
ทดสอบประสิทธิภาพการรับสัญญาณดาวเทียมจีพีเอส (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

ต่อไปเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของการรับสัญญาณดาวเทียมจีพีเอส ณ บริเวณริมหน้าต่าง ซึ่งเป็นพื้นที่ๆ ไม่ได้เปิดโล่ง โดยเมื่อทดสอบแล้ว จะเห็นว่าสามารถจับสัญญาณดาวเทียมจีพีเอสได้รวดเร็วมากๆ ครับ ซึ่งหากเป็นพื้นที่ๆ เปิดโล่ง ก็จะสามารถจับสัญญาณได้ดียิ่งขึ้นไปอีกอย่างแน่นอนครับ

เพื่อความแน่ใจ เราจึงทำการทดสอบกับอีกโปรแกรมหนึ่งครับ ซึ่งผลการทดสอบก็จะเห็นว่ายังสามารถจับสัญญาณจีพีเอสได้รวดเร็วมากๆ เช่นเดิมครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล ของ Samsung Galaxy Note II (Samsung Galaxy Note 2)
ตัวอย่างภาพถ่ายความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (3264x2448) : คุณภาพสูงสุด : ไม่ผ่านการปรับแต่งใดๆ

ตัวอย่างภาพถ่ายในแนวกว้าง (Panorama)

ทดสอบการถ่ายภาพด้วยการซูมตั้งแต่ระดับ 1x ถึง 4x


ตัวอย่างการถ่ายภาพด้วยเอฟเฟคแบบ Cold Vintage, Warm Wintage, Posterize, Solarize, Green Point, Blue Point, Red-Yellow Point, Washed Out, Cartoonify, Black and White, Sepia และ Negative

ตัวอย่างการปรับสมดุลสีขาว (White Balance) แบบอัตโนมัติ, Daylight, Cloudy, Incandescent และ Fluorescent
สรุปผลการทดสอบของ Samsung Galaxy Note II (Samsung Galaxy Note 2)

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ Samsung Galaxy Note II (Samsung Galaxy Note 2) รุ่นนี้
ก็ต้องถือว่าการที่ได้รีวิว สมาร์ทโฟน ที่มีฟีเจอร์มากมายขนาดนี้ ทำให้วิดีโอรีวิวที่ท่านกำลังชมอยู่นี้ เป็นวิดีโอรีวิว สมาร์ทโฟน ที่มีเนื้อหามากที่สุดรุ่นหนึ่งเท่าที่ทีมงานเคยจัดทำมาเลยทีเดียวครับ หากจะให้ตัดเนื้อหาส่วนหนึ่งส่วนใดออกไปก็คงจะตัดสินใจได้ลำบาก เนื่องจากแต่ละฟีเจอร์ของ Samsung Galaxy Note II นั้นล้วนแล้วแต่น่าสนใจแทบทั้งสิ้น ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ กับการที่สัปดาห์แรกที่มีการวางจำหน่าย Galaxy Note II อย่างเป็นทางการ กระแสตอบรับจากผู้ซื้อนั้นถาโถมเข้ามาแบบถล่มทลาย จนเป็นปรากฏการณ์ที่ต้องจดจำครั้งหนึ่งในวงการ
สมาร์ทโฟน เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นช่วงแรกๆ สินค้าก็อาจจะขาดตลาดไปบ้าง แต่ ณ เวลานี้ การหาซื้อ Galaxy Note II ก็คงจะง่ายขึ้นแล้ว ทั้ง Galaxy Note II สีขาว (Marble White) และสีเทา (Titanium Gray)
สำหรับ Samsung Galaxy Note II (Samsung Galaxy Note 2) นั้น จริงๆ แล้วก็คงจะไม่ได้เรียกว่าเป็น
สมาร์ทโฟน ได้แบบ 100% เพราะ Galaxy Note II ถูกจัดให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นการผสมผสานระหว่าง สมาร์ทโฟน และ แท็บเล็ต เอาไว้ในตัวเดียวกัน ด้วยลักษณะของการใช้งานที่จะใช้งานแบบ สมาร์ทโฟน ก็ได้ ด้วยขนาดของตัวเครื่องซึ่งยังพอที่จะจับถือด้วยมือข้างเดียวได้ หรือจะใช้งานในลักษณะของ แท็บเล็ต ก็พอไหว ด้วยจอแสดงผลที่มีขนาดใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว แต่แท้จริงแล้ว สิ่งที่ทำให้ Galaxy Note II นั้นมีความโดดเด่น และมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกับ สมาร์ทโฟน รุ่นใดในตลาด ก็คือการใช้งานในลักษณะของ สมุดวาดเขียน, สมุดจดบันทึก,
สมุดโน้ต หรือจะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่ คู่กับปากกา S Pen Stylus นั่นเอง โดยประสิทธิภาพของการใช้งานคู่กับปากกา S Pen Stylus นั้นถือว่าสมบูรณ์แบบกว่า Galaxy Note รุ่นแรกมาก ด้วยการพัฒนาร่วมกับบริษัท Wacom จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง Wacom นั้นเป็นบริษัทชั้นแนวหน้าที่มีชื่อเสียงในระดับโลกมานานแล้ว ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการวาดเขียนต่างๆ ดังนั้นการเลือก Wacom มาเป็นพันธมิตรสำหรับโครงการ Galaxy Note II นั้นถือว่ามาถูกทาง
ส่วนคุณสมบัติต่างๆ ของ Samsung Galaxy Note II (Samsung Galaxy Note 2) นั้นอยู่ในระดับไฮเอนด์
เรียกว่าใส่มาให้อย่างไม่อั้น เช่น ซีพียูแบบ Quad-Core 1.6 GHz, จอภาพ Super AMOLED ความละเอียดสูงระดับ HD 720p หรือแบตเตอรี่สุดอึด ที่มีความจุสูงถึง 3,100 มิลลิแอมป์ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ก็ใช่ว่า Galaxy Note II จะสมบูรณ์แบบไปเสียทุกเรื่อง ก็ยังมีจุดด้อยอยู่บ้าง เช่นวัสดุตัวเครื่องที่เป็นพลาสติกทั้งหมด พร้อมพื้นผิวที่มันลื่น เมื่อบวกกับตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่ การจับถือก็ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ หรือไม่มีปุ่มกล้องดิจิตอลโดยเฉพาะที่ด้านข้างของตัวเครื่อง เป็นต้น แต่โดยรวมแล้ว กับราคาค่าตัว
22,900 บาท ของ Galaxy Note II นั้น หากมองกันแค่จำนวนเงิน ก็อาจจะแพงไปสำหรับ สมาร์ทโฟน สักเครื่อง แต่สำหรับ Galaxy Note II นั้น ราคานี้ถือว่าคุ้มค่า โดยเฉพาะกับผู้ที่สามารถใช้งาน Galaxy Note II ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเองครับ สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม พบกันได้ใหม่ในวิดีโอรีวิวรุ่นต่อไป สวัสดีครับ

สรุปจุดเด่น ของ Samsung Galaxy Note II (Samsung Galaxy Note 2)
- รองรับการใช้งานร่วมกับปากกา S Pen Stylus พร้อมเทคโนโลยีที่พัฒนาร่วมกับบริษัท Wacom ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงมากที่สุดบริษัทหนึ่ง ในเรื่องของการพัฒนาอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการวาดเขียน
- มีการนำเทคโนโลยีการเหนี่ยวนำไฟฟ้าสถิตมาใช้ (Electromagnetic Induction) เพื่อให้ปากกา S Pen Stylus และหน้าจอแสดงผลสามารถทำงานร่วมกันได้ และทำให้ตัวปากกา S Pen Stylus ไม่จำเป็นต้องมีแบตเตอรี่
- ปากกา S Pen สามารถตรวจจับความหนักเบาของการกดได้ถึง 1024 ระดับ ซึ่งมีความละเอียดมากกว่า Galaxy Note รุ่นแรกถึง 4 เท่า
- ฟังก์ชัน Air View รองรับการจ่อปากกา (ไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ) ไปบนส่วนที่ต้องการให้แสดงตัวอย่างของเนื้อหาภายใน เช่นหากจ่อไปที่โฟลเดอร์รูปภาพ ก็จะเห็นตัวอย่างของรูปภาพที่อยู่ภายในโฟลเดอร์นั้น เป็นต้น
- ฟังก์ชัน Popup Note สามารถเรียกใช้กระดาษจดบันทึกได้ทันที ในขณะที่กำลังสนทนา เพียงแค่ดึงปากกา S Pen ออกมาจากช่องเก็บเท่านั้น
- ตัวเครื่องมีการออกแบบดีไซน์ที่สวยหรู และบางเฉียบเพียง 9.4 มิลลิเมตร โดยมีให้เลือกทั้งสีขาว (Marble White) และสีเทา (Titanium Gray)
- จอแสดงผลแบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16 ล้านสี ขนาดใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว พร้อมความละเอียดระดับ HD 720p (1280x720 พิกเซล) และกระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 2
- รองรับคลื่นความถี่ 3G ได้ทุกคลื่นความถี่ภายในเครื่องเดียวกัน (HSPA 850/900/1900/2100 MHz) ไม่มีการแยกรุ่นจำหน่ายสำหรับเครือข่ายใดโดยเฉพาะ
- ประมวลผลการทำงานด้วย Quad-Core Cortex-A9 Processor (ชิปเซ็ต Exynos 4412 Quad) ความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะแบบ Mali-400MP
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.1 (Jelly Bean)
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูล ขนาด 16 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card ได้สูงสุด ขนาด 64 GB
- รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Multi Windows (แสดงผลแอพพลิเคชั่นได้พร้อมกัน 2 หน้าต่าง)
- รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Popup Play (เล่นวิดีโอบนจอภาพขนาดเล็ก ขณะที่กำลังใช้งานฟังก์ชันอื่นๆ อยู่ได้)
- รองรับการแสดงผลแกลอรี่แบบ 3 มิติ (3D Gallery) ซึ่งมีความสวยงาม และทำงานได้อย่างลื่นไหล
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels พร้อมเซนเซอร์รับภาพแบบ Backside-illuminated Sensor (BSI), ไฟแฟลช, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ, ระบบเลือกจุดโฟกัสภาพด้วยการสัมผัส
- ฟังก์ชัน Best Face ถ่ายภาพต่อเนื่อง 5 ภาพ แล้วเลือกหน้าตาที่ดีที่สุดของแต่ละคนได้
- ฟังก์ชัน Image Note (Photo Note) รองรับการจดบันทึกรายละเอียดของรูปภาพ ไว้ที่ด้านหลังของรูปภาพแต่ละรูปได้
- มีโปรแกรม Paper Artist ติดตั้งมาให้ในตัว เพื่อรองรับการตกแต่งรูปภาพได้หลากหลายสไตล์
- ถ่ายภาพวิดีโอ (Full HD : 1080p : 1920x1080 Pixels : 30 fps) พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบต่อเนื่อง และแบบกำหนดเอง
- กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 1.9 ล้าน Pixels พร้อมเซนเซอร์รับภาพแบบ Backside-illuminated Sensor (BSI)
- รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อระยะใกล้แบบ NFC (Near Field Communication : การสื่อสารข้อมูลระยะใกล้ : อ่าน, เขียน, แชร์) พร้อมฟังก์ชัน S Beam
- รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth เวอร์ชัน 4.0
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi Dual Band, HSPA+, EDGE, GPRS
- รองรับเทคโนโลยี WiFi Direct และ DLNA
- รองรับการใช้งานระบบดาวเทียมนำร่อง (GPS) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
- รองรับการเชื่อมต่อกับจอแสดงผลภายนอกผ่านทางสาย MHL (Mobile High-Definition Link) (ต้องซื้อตัวแปลงเพิ่มเติมในภายหลัง)
- รองรับเทคโนโลยี USB OTG (USB On-the-Go)
- แบตเตอรี่มีขนาดความจุมากถึง 3,100 mAh ช่วยให้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะไม่เพียงพอ
- วิทยุ FM Stereo ในตัว พร้อมรองรับการใช้งานระบบ RDS (Radio Data System)
- มีฟังก์ชันที่ช่วยให้การใช้งานด้วยมือข้างเดียวมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น (One Hand Operation)
- ฟังก์ชัน Quick Command รองรับการสั่งงานอย่างรวดเร็วด้วยการเขียนเป็นลายมือด้วยปากกา
- ฟังก์ชัน Screen Crop สามารถใช้ปากกาล้อมกรอบไปบนหน้าจอ เพื่อจับภาพหน้าจอเฉพาะส่วนที่ต้องการได้
- รองรับการบันทึกนัดหมายบนโปรแกรม S Planner ด้วยลายมือ
- ฟังก์ชัน Idea Sketch รองรับการนำรูปภาพสำเร็จรูปมาใช้งานได้ทันที พร้อมการเก็บบันทึกรูปภาพของผู้ใช้ที่ต้องการเรียกใช้งานอยู่บ่อยๆ
- ฟังก์ชัน Color Picker (ดูดสี) รองรับการคัดลอกสีสันที่ต้องการมาจากรูปภาพ เพื่อตั้งเป็นสีให้กับปากกา
- ฟังก์ชัน Pen Switch รองรับการสลับสี หรือรูปแบบของปากกาได้อย่างรวดเร็ว เพียงกดที่ปุ่มด้านข้างปากกา โดยรองรับการบันทึกรูปแบบของปากกาได้สูงสุดถึง 10 รูปแบบ
- ฟังก์ชัน S Pen Keeper ช่วยแจ้งเตือน เมื่อผู้ใช้ลืมนำปากกามาเก็บไว้ในช่องเก็บปากกา
- ฟังก์ชัน Shape Match สำหรับการแปลงเป็นเส้นตรง หรือรูปทรงเรขาคณิตโดยอัตโนมัติ
- ฟังก์ชัน Formula Match สำหรับการแปลงสมการทางคณิตศาสตร์
สรุปจุดด้อยของ Samsung Galaxy Note II (Samsung Galaxy Note 2)
- ตัวเครื่องมีขนาดที่ใหญ่เป็นพิเศษ ประกอบกับพื้นผิวตัวเครื่องที่มันลื่น ทำให้การจับถือใช้งานมือเดียวนั้นเป็นไปได้ยาก และอาจจะเกิดการตกหล่นเสียหายได้ง่าย
- วัสดุของตัวเครื่องเป็นพลาสติกทั้งหมด เพราะฉะนั้นความทนทานแข็งแรง หรือความสวยหรู อาจจะเป็นรองตัวเครื่องที่เป็นโลหะ
- ไม่มีปุ่มกล้องดิจิตอลโดยเฉพาะที่ด้านข้างของตัวเครื่อง ต้องกดชัตเตอร์จากหน้าจอแสดงผลเท่านั้น
- ปากกา S Pen Stylus มีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก และน้ำหนักเบา ซึ่งจะมีข้อดีในเรื่องของการพกพา แต่เมื่อเวลาที่ต้องกดปุ่มบนปากกาจะกดได้ไม่ถนัดมากนัก
- ใช้งานได้กับซิมการ์ดแบบ microSIM เท่านั้น
- ฟังก์ชัน Quick Glance ยังตอบสนองต่อการใช้งานจริงได้ไม่ดีนัก โดยส่วนใหญ่แล้วจะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อมีการวางเครื่องบนพื้นราบ หรือต้องมีสภาพแสงที่ไม่ซับซ้อน (Quick Glance คือการใช้มือบังเซ็นเซอร์ที่อยู่บริเวณด้านบนของหน้าจอแสดงผล ขณะอยู่ในสถานะล็อกหน้าจอ เพื่อให้เครื่องแสดงข้อมูลการทำงานพื้นฐานบางอย่าง)
- ปากกา S Pen Stylus น่าจะสามารถใช้งานร่วมกับปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม หรือปุ่มฟังก์ชันได้ด้วย (ปุ่ม 3 ปุ่มที่บริเวณด้านล่างของหน้าจอ) เนื่องจากมีบ่อยครั้ง ที่การเรียกคำสั่งย้อนกลับ, การออกจากหน้าต่างปัจจุบัน, หรือคำสั่งอื่นๆ จำเป็นต้องอาศัยการกดปุ่มทั้งสามปุ่ม และต้องลำบากเล็กน้อยในการเปลี่ยนท่าทางในการจับปากกา และเอื้อมนิ้วมากด

โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Samsung Galaxy Note II (Samsung Galaxy
Note 2) ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้
Samsung Galaxy Note II (Samsung Galaxy Note 2) Specification

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|