ตอนนี้คุณอยู่ที่ >> หน้าแรก >> หน้ารวม เคล็ดลับมือถือ >> UFS 2.1, UFS 2.0 และ eMMC 5.1 คืออะไร และต่างกันอย่างไร? ไขข้อสงสัยเทคโนโลยีหน่วยความจำบนสมาร์ทโฟน แบบไหนอ่านเขียนได้เร็วกว่ากัน?


UFS 2.1, UFS 2.0 และ eMMC 5.1 คืออะไร และต่างกันอย่างไร? ไขข้อสงสัยเทคโนโลยีหน่วยความจำบนสมาร์ทโฟน แบบไหนอ่านเขียนได้เร็วกว่ากัน?



 

สวัสดีครับ กลับมาพบทีมงาน Thaimobilecenter กับนานาสาระน่ารู้ และข่าวสารในวงการสมาร์ทโฟนกันอีกครั้งนะครับ ในปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่าสมาร์ทโฟนตัวท็อปหลายๆ รุ่นมักจะมาพร้อมกับหน่วยความจำภายใน (Flash Storage) ที่มีความจุค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่ระดับ 16GB ไปจนถึง 256GB ซึ่งถ้าหากว่ากันตามจริงแล้ว จำนวนความจุนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับรองลงมา ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดของเทคโนโลยี Flash Storage เพราะเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุด และส่งผลโดยตรงกับการใช้งานสมาร์ทโฟนก็คือ เทคโนโลยีการเขียน/อ่านข้อมูลของ Flash Storage รุ่นนั้นๆ วันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter จึงจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ Flash Storage ให้มากขึ้นกันครับ

 

หน่วยความจำภายในคืออะไร?


หน่วยความจำภายใน หรือ Flash Storage ที่ใช้งานบนสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน คือพื้นที่เก็บข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แอปพลิเคชัน, รูปถ่าย, เพลง, วิดีโอ ฯลฯ (ในกรณีที่ไม่ใช้หน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card) ซึ่งหน่วยความจำภายในนี้ก็จะมีความจุที่แตกต่างกันออกไปตั้งแต่ 16GB, 32GB, 64GB จนถึงระดับสูงสุดในขณะนี้ที่ 256GB และสำหรับความจุที่อาจเป็นปัจจัยสำคัญของผู้ใช้หลายๆ คนที่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลได้เยอะ แต่เทคโนโลยีอีกสิ่งหนึ่งของหน่วยความจำภายในที่ควรพิจารณาเพิ่มเติมด้วยก็คือ ความเร็วในการเขียน/อ่านข้อมูล ซึ่งในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีที่ใช้งานบนสมาร์ทโฟนเป็นหลักสามารถแบ่งออกได้เป็น eMMC และ UFS

 

รู้จักกับหน่วยความจำแบบ eMMC และ UFS


หน่วยความจำภายในที่ใช้งานกันบนสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในปัจจุบันแบบแรกคือ eMMC (Embedded Multimedia Card) ซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์ขนาดเล็กที่ติดตั้งลงบน Mother Board ของสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นๆ โดยผู้ใช้ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้เหมือนกับ SD Card ทั่วไป เทคโนโลยีหน่วยความจำแบบ eMMC ที่ใช้งานกันในปัจจุบันเป็นเวอร์ชัน 5.1 ที่เปิดตัวล่าสุดในปี 2015 ซึ่งมีความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลประมาณ 250/125 MB/s

ขณะที่หน่วยความจำแบบ UFS (Universal Flash Storage) เป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาแทนที่ eMMC และ SD Card โดยหน่วยความจำแบบ UFS ที่ช้งานบนสมาร์ทโฟนเป็นผลงานการพัฒนาของบริษัท JEDEC Solid State Technology Association โดยหน่วยความจำแบบ UFS ที่ใช้งานบนสมาร์ทโฟนเปิดตัวมาครั้งแรกในปี 2014 ในชื่อ UFS 2.0 โดยมีความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลประมาณ 350/150 MB/s และทาง JEDEC ก็ได้พัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวพร้อมเปิดตัวหน่วยความจำ UFS เวอร์ชันใหม่ในชื่อ UFS 2.1 เมื่อปี 2016 ที่มีความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงกว่า 700-800 MB/s ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยความจำภายในที่สามารถอ่านข้อมูลได้เร็วที่สุดในขณะนี้

 

หน่วยความจำแบบ eMMC และ UFS แตกต่างกันอย่างไร?


อย่างที่กล่าวไปในหัวข้อที่แล้วว่าเทคโนโลยีหน่วยความจำแบบ UFS จะเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาแทนที่ eMMC และ SD Card ในอนาคต เพราะหน่วยความจำแบบ UFS สามารถอ่าน/เขียนข้อมูลได้รวดเร็วกว่าแบบ eMMC หลายเท่า และที่สำคัญก็คือ หน่วยความจำแบบ eMMC จะต้องประมวลผลอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนเท่านั้น คือ ถ้าหากจะอ่านข้อมูลก็ต้องอ่านข้อมูลให้เสร็จก่อน จึงจะย้ายมาเขียนข้อมูลได้ แต่หน่วยความจำแบบ UFS สามารถอ่าน และเขียนข้อมูล หรือรับส่งข้อมูลได้พร้อมกันทั้งสองทางทันที อีกทั้งหน่วยความจำแบบ UFS ยังใช้พลังงานน้อยกว่าแบบ eMMC ทำให้ช่วยประหยัดการใช้แบตเตอรี่ในสมาร์ทโฟนไปได้พอสมควรด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม หน่วยความจำแบบ UFS 2.1 ยังมีให้ใช้งานบนสมาร์ทโฟนเรือธงบางรุ่นเท่านั้น และยังไม่ค่อยแพร่หลายเท่าที่ควร เพราะใช้ต้นทุนในการผลิตค่อนข้างสูง และยังผลิตได้ในจำนวนจำกัด ทำให้แบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้งานหน่วยความจำแบบ eMMC 5.1 หรือ UFS 2.0 ก่อน โดยหน่วยความจำแบบ eMMC 5.1 มักพบในสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น, สมาร์ทโฟนระดับกลาง และสมาร์ทโฟนเรือธงบางรุ่น ส่วนหน่วยความจำแบบ UFS 2.0 มักพบในสมาร์ทโฟนระดับ Mid-High หรือสมาร์ทโฟนเรือธงเป็นหลัก

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลของหน่วยความจำภายในรูปแบบต่างๆ ทั้ง eMMC 5.1, UFS 2.0 หรือ UFS 2.1 ซึ่งจะเห็นได้ว่าหน่วยความจำภายในแต่ละแบบนั้นก็มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปค่อนข้างมากทีเดียว และความเร็วในการอ่าน หรือเขียนข้อมูลมักจะส่งผลโดยตรงถึงรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้โดยตรง เช่น เวลาเปิดดูภาพถ่ายในเครื่องที่มีประมาณ 2,000 ภาพ หน่วยความจำแบบ eMMC และ UFS ก็จะโหลดรูปภาพได้ช้า/เร็วแตกต่างกันไป ซึ่งเป็นผลมาจากความเร็วในการอ่านข้อมูลนั่นเองครับ และสำหรับท่านที่อ่านบทความนี้จนจบแล้ว เวลาเลือกซื้อสมาร์ทโฟนครั้งหน้าก็อย่าเลือกดูแต่ความจุเพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาเรือเทคโนโลยีของหน่วยความจำประกอบด้วยนะครับ

 

นำเสนอ ทิป&ทริค น่ารู้สำหรับผู้ใช้มือถือ, สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต โดย : thaimobilecenter.com



วันที่ : 25/4/60



  แสดงความคิดเห็นที่นี่
ชื่อผู้โพสต์  (สมาชิกlogin ที่นี่) / สมัครสมาชิก
*
รายละเอียด
*

 
           Tags | More Smiles
ใส่ปี พ.ศ. ปัจจุบัน   ใส่เฉพาะปี พ.ศ. 4 ตัวเท่านั้น  
 














    Catalog มือถือ     market     Review มือถือ      ราคามือถือ     forum
Catalog มือถือ
Catalog มือถือ Nokia
Catalog มือถือ Samsung
Catalog มือถือ SonyEricsson
Catalog มือถือ i-mobile
Catalog มือถือ LG
Catalog มือถือ BlackBerry
ลงประกาศสินค้ามือถือ
สมัครสมาชิก
หน้าแรกตลาดซื้อขายมือถือ
 
หน้าแรกรีวิว
รีวิว มือถือ Nokia
รีวิว มือถือ Samsung
รีวิว มือถือ Motorola
รีวิว มือถือ LG
 

ราคามือถือ Samsung
ราคามือถือ iPhone
ราคามือถือ Huawei
ราคามือถือ OPPO
ราคามือถือ Vivo
   
   
หน้าแรก cafe
Nokia club
ตั้งหัวข้อใหม่
 

© Copyright all rights reserved : ThaiMobileCenter.com