ดูเหมือนสเปคฮาร์ดแวร์ที่สูงกว่าภายในเครื่องสมาร์ทโฟน จะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายเสมอไปเสียแล้ว เพราะคงต้องมีเหตุผลบางอย่างที่ทาง แอปเปิ้ล (Apple) ได้จงใจใส่หน่วยความจำแรม (RAM) มาให้เพียงแค่ 1 GB บน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ในขณะที่สมาร์ทโฟนตัวเรือธงรุ่นใหม่ๆ ในฝั่งของแอนดรอยด์หลายๆ รุ่น กลับใส่หน่วยความจำแรมมาให้มากถึง 3 GB หรืออย่างน้อยๆ ก็เริ่มต้นกันที่ขนาด 2 GB ขึ้นไป 
แต่การอ้างอิงจาก Glyn Williams แห่งเว็บไซต์ Quora และ John Brownlee แห่งเว็บไซต์ Cultofmac ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญที่เป็นการบ่งบอกว่า iPhone 6 ที่มาพร้อมแรมขนาด 1 GB กลับทำงานได้เร็วกว่าสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในสเปคใกล้เคียงกัน แต่มาพร้อมแรมขนาด 2 GB ซึ่งใหญ่กว่าเท่าตัว โดยปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ iPhone 6 ทำงานได้ดีกว่าบนแรมที่น้อยกว่าก็คือ เทคนิคการจัดการแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการ iOS ที่แตกต่างจากระบบปฏิบัติการ Android นั่นเอง ตามที่ Glyn Williams ได้วิเคราะห์เอาไว้ในบทความของเขาบนเว็บไซต์ Quora เหตุที่สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ในแพลทฟอร์ม iOS สามารถทำงานได้ดีกว่าสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ในแพลทฟอร์ม Android ที่มีแรมมากกว่าเท่าตัว นั่นเป็นเพราะว่าแอปพลิเคชันแอนดรอยด์พัฒนาอยู่บนพื้นฐานของภาษา Java และต้องอาศัยหน่วยความจำแรมที่มากกว่า หรือหน่วยความจำพิเศษ เพื่อการทำงานบางอย่าง ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ภาษาในวงการโปรแกรมมิ่งเรียกว่า Garbage Collection หรือระบบการจัดการ และจัดสรรหน่วยความจำสำหรับการทำงานของแอปพลิเคชันต่างๆ นั่นเอง 
กระบวนการของ Garbage Collection นี้จะเป็นการรีไซเคิลหน่วยความจำที่ถูกใช้งานมาแล้วครั้งหนึ่งโดยแอปพลิเคชันแอนดรอยด์บางตัว ซึ่งโดยปกติแล้วจะสามารถทำงานได้ราบรื่นดีบนระบบที่มีหน่วยความจำแรมเหลืออยู่จำนวนมาก แต่ในกรณีที่มีแอปพลิเคชันแอนดรอยด์หลายๆ ตัวกำลังทำงานอยู่พร้อมกัน ก็จะเริ่มมองเห็นสัญญาณอันตรายมากขึ้นตามลำดับ โดยหน่วยเก็บขยะบนแอนดรอยด์ที่เราเรียกว่า Garbage Collectors จะเริ่มทำงานเมื่อมี 4 ถึง 8 ครั้ง ที่แอปพลิเคชันแอนดรอยด์ร้องขอหน่วยความจำมากที่สุดเท่าที่ต้องใช้งานจริง เพื่อให้กระบวนการของ Garbage Collection ดำเนินต่อไปได้ และเมื่อกระบวนการนี้หยุด หรือสิ้นสุดลง ก็มีจะหน่วยความจำว่างให้ใช้งานต่อได้ตามปกติ แม้ว่าประสิทธิภาพในการเริ่มต้นงานต่อไปจะดูน่าอึดอัด หรือยากลำบากอยู่บ้างก็ตามที แต่หากมาดูกันในฝั่งของระบบปฏิบัติการ iOS จะพบว่าระบบนี้ไม่ได้ต้องการหน่วยความจำพิเศษใดๆ เหมือนกับที่ต้องใช้กับ Java หรือ Android เนื่องจากระบบปฏิบัติการ iOS ถูกออกแบบมาให้หลีกเลี่ยงการทำงานในลักษณะของ Garbage Collection ดังกล่าว โดย iOS ต้องการเพียงแค่หน่วยความจำเฉพาะที่ต้องใช้งานจริงเท่านั้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นการบอกว่าเพราะเหตุใดอุปกรณ์ในแพลทฟอร์ม Android จึงต้องการหน่วยความจำแรมเพื่อการทำงานของแอปพลิเคชันมากกว่าอุปกรณ์ในแพลทฟอร์ม iOS กว่าเท่าตัว และยิ่งไปกว่านั้น การที่ต้องใช้งานพื้นที่หน่วยความจำแรมมากกว่า ก็จะส่งผลให้เกิดการบริโภคพลังงานจากแบตเตอรี่มากกว่าเช่นเดียวกัน ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ว่าทำไมสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จึงจำเป็นต้องมีแบตเตอรี่ความจุสูงกว่า เพื่อให้สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องเท่ากับ iPhone 6 ที่มีแบตเตอรี่ความจุน้อยกว่า ที่มา : cultofmac, quora Thaimobilecenter.com
วันที่ : 17/11/57
|