รีวิว Xiaomi 12 | 12 Pro เรือธงระดับมาสเตอร์ เพาเวอร์แห่ง Snapdragon 8 Gen 1 พร้อมกล้องโปรโฟกัสเฉียบ จอสวยระดับ A+ พลังชาร์จสูงสุด 120W และลำโพงเสียงดี ในราคาเริ่มที่ 24,990 บาท
17 มีนาคม 2022 - เรียกว่าห่างหายจากการเปิดตัวแบบ Offline มานาน ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ทาง Xiaomi ได้มีการจัดงานใหญ่เป็นครั้งแรกในปี 2022 เพื่อเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปใหม่ล่าสุดอย่าง Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ทำให้ Xiaomi เริ่มกลับมาได้รับความสนใจในตลาดไฮเอนด์อีกครั้ง หลังจากที่ส่งมือถือระดับกลางบุกตลาดไปแล้วหลายรุ่น สำหรับท่านใดที่สนใจจับจองเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้อยู่ วันนี้พวกเราทีมงาน Thaimobilecenter ก็ได้นำทั้ง 2 รุ่นมารีวิวให้ชมกันแล้วครับ
Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro คือสองพี่น้องเรือธงที่มากับรูปลักษณ์พรีเมียม และคุณสมบัติที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร เริ่มจากหน้าจอแสดงผลที่การันตีคุณภาพระดับ A+ จาก DisplayMate โดยเป็นจอแบบ AMOLED DotDisplay กับ LTPO AMOLED DotDisplay ขอบโค้ง ที่รองรับอัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz และมีค่า Touch Sampling Rate สูงสุด 480Hz พร้อมรองรับการแสดงผลคอนเทนต์แบบ HDR10+ และ Doby Vision เพื่อการถ่ายทอดภาพที่คมกริบ และสีสันที่สวยงามสมจริงติดตาตรึงใจ ส่วนระบบภายในนั้นก็เลือกใช้ชิปเซ็ตรุ่นท็อปล่าสุดอย่าง Snapdragon 8 Gen 1 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 4 นาโนเมตร ซึ่งมาพร้อมกับ GPU และ AI ที่ทรงพลังสมศักดิ์ศรีเรือธง โดยทำงานคู่กับหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR5 และหน่วยความจำภายในแบบ UFS 3.1 ซึ่งมีความเร็วสูงกว่าหน่วยความจำทั่วไปในท้องตลาด ทำให้ Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro มีพลังการประมวลผลที่เร็วแรงเป็นอันดับต้น ๆ ของวงการ ณ เวลานี้
ในส่วนของการถ่ายภาพ และวิดีโอ Xiaomi 12 กับ Xiaomi 12 Pro นั้นจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันอยู่บ้าง โดย Xiaomi 12 จะมีชุดกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักที่ใช้เซนเซอร์รับภาพ Sony IMX766 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (ขนาด 1/1.56 นิ้ว : 1.0 ไมครอน หรือ 2 ไมครอน แบบ 4-in-1 Super Pixel) พร้อมด้วยเทคโนโลยี CyberFocus ช่วยให้จับภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวได้อย่างคมชัด เสริมด้วยกล้อง Telemacro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ในขณะที่ Xiaomi 12 Pro นั้น จะใช้เซนเซอร์รับภาพ Sony IMX707 ขนาด 1/1.28 นิ้ว ซึ่งเป็นรุ่นใหม่กว่าสำหรับกล้องหลัก โดยมีความละเอียดเท่ากันที่ 50 ล้านพิกเซล (เม็ดพิกเซลขนาด 1.22 ไมครอน หรือ 2.44 ไมครอน แบบ 4-in-1 Super Pixel) พร้อมความพิเศษเฉพาะตัวคือกล้องอีก 2 ตัวที่มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซลเท่ากันกับกล้องหลัก คือกล้อง Telemacro ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าของทั้งสองรุ่นจะมีความละเอียดเท่ากันที่ 32 ล้านพิกเซล
นอกจากเรื่องกล้องแล้ว Xiaomi 12 Pro ยังได้อัปเกรดคุณสมบัติขึ้นมาอีกหลายส่วนจาก Xiaomi 12 ได้แก่หน้าจอที่มีขนาดใหญ่เต็มตากว่าที่ 6.73 นิ้ว พร้อมเพิ่มความละเอียดขึ้นเป็นระหับ WQHD+, ใช้เทคโนโลยีหน้าจอแบบ LTPO 2.0 กับวัสดุแบบ E5 AMOLED, เพิ่มความสว่างจอสูงสุดเป็น 1500 nits และรองรับระบบชาร์จไวที่มีกำลังไฟสูงถึง 120W อีกด้วย
นอกจากนี้คุณสมบัติด้านเสียงก็นับว่าจัดเต็มด้วยลำโพงเสียงถึง 4 ตัวใน Xiaomi 12 Pro เรียกว่าอรรถรสด้านความบันเทิงจัดมาให้แบบเต็ม ๆ ทั้งภาพ และเสียงเลยทีเดียว
ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมา จัดว่า Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro มีความโดดเด่นรอบด้านสมฐานะสมาร์ทโฟนเรือธง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมใน รีวิว Xiaomi 12 | 12 Pro โดยทีมงาน Thaimobilecenter กันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์
Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro มีดีไซน์ภายนอกที่เหมือนกันทุกประการ ต่างกันเพียงแค่ขนาดเท่านั้น โดย Xiaomi 12 จะมีหน้าจอแสดงผลขนาด 6.28 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ ส่วน Xiaomi 12 Pro จะมีหน้าจอขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียดระดับ WQHD+ โดยเป็นแบบ AMOLED DotDisplay และ LTPO AMOLED DotDisplay ตามลำดับ พร้อมรองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุดที่ 120Hz, รองรับการแสดงผลคอนเทนต์แบบ HDR 10+ กับ Dolby Vision โดยทั้งสองรุ่นต่างมีกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล แบบ In-Display Selfie Camera พร้อมรูรับแสงขนาด f2.45
ตัวเครื่องด้านหลังเป็นสีพื้นขัดผิวด้าน เรียบง่ายแต่ดูดี
งานประกอบดูแข็งแรง และให้สัมผัสที่ดี
สำหรับเครื่องที่นำมารีวิวในครั้งนี้เป็น Xiaomi 12 สีม่วง (Purple) และ Xiaomi 12
Pro สีเทา (Gray)
ชุดกล้องหลังของ Xiaomi 12 กับ Xiaomi 12 Pro แม้จะมีหน้าตาเหมือนกัน แต่มีคุณสมบัติที่ต่างกัน โดยกล้องหลังของ Xiaomi 12 จะเป็นชุดกล้อง 3 ตัว ประกอบด้วย :
- กล้อง Wide (Main) ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony IMX766 ขนาด 1/1.56 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 1.0 ไมครอน (หรือ 2 ไมครอน แบบ 4-in-1 Super Pixel), รูรับแสงขนาด f1.88, ทางยาวโฟกัส 26 มิลลิเมตร, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF และระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพขนาด 1/3.06 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f2.4 และมุมรับภาพ 123 องศา (ทางยาวโฟกัส 12 มิลลิเมตร)
- กล้อง Telemacro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4, ทางยาวโฟกัส 50 มิลลิเมตร และระบบโฟกัสอัตโนมัติ (3-7 เซนติเมตร)
ส่วนกล้องหลังของ Xiaomi 12 Pro เป็นชุดกล้อง 3 ตัวเช่นกัน แต่จะมีคุณสมบัติที่ดีกว่า โดยเฉพาะการใช้เซนเซอร์รับภาพที่มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซลทั้ง 3 กล้อง โดยประกอบด้วย :
- กล้อง Wide (Main) ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony IMX707 ขนาด 1/1.28 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 1.22 ไมครอน (หรือ 2.44 ไมครอน แบบ 4-in-1 Super Pixel), รูรับแสงขนาด f1.9, ทางยาวโฟกัส 24 มิลลิเมตร, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ Dual Pixel PDAF, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และโครงสร้างแบบ 7 ชิ้นเลนส์
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2, มุมรับภาพ 115 องศา และโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.9, ทางยาวโฟกัส 48 มิลลิเมตร, ระบบซูมแบบ 2x Optical Zoom, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF และโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์
ปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียงจะอยู่ที่ขอบด้านขวา ส่วนด้านซ้ายไม่มีพอร์ต หรือปุ่มกดใด ๆ
ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องลำโพงเสียง, ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และเซนเซอร์ IR Blaster ที่ทำให้ Xiaomi 12 กับ Xiaomi 12 Pro ใช้งานเป็นรีโมทสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ โดยใช้ร่วมกับแอปพลิเคชัน Mi รีโมท
ด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ และโอนถ่ายข้อมูล, ไมโครโฟนหลัก, ช่องลำโพง และถาดใส่ซิมการ์ด ซึ่งเป็นแบบ Dual-Slot รองรับ 5G ทั้ง 2 ซิมการ์ด โดยช่องลำโพงกับถาดใส่ซิมของทั้งสองรุ่นจะสลับตำแหน่งกัน
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องประกอบด้วย อะแดปเตอร์ชาร์จไว 67W (120W สำหรับรุ่น Pro), สาย USB Type-C, คู่มือการใช้งาน, เข็มถอดถาดซิมการ์ด และเคสใส
เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์
Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ MIUI 13 ที่พัฒนาอยู่บนพื้นฐานของ Android 12 ในหน้าต่างของระบบจะมีโฆษณาให้เห็นประปราย ซึ่งเป็นปกติของสมาร์ทโฟน Xiaomi เพื่อให้ทางผู้ผลิตสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนในราคาที่ย่อมเยากว่าคู่แข่งได้
ภายในมีแอปพลิเคชันของ Google ให้ใช้งานอย่างพร้อมสรรพ พร้อมเครื่องมือจิปาถะต่าง ๆ รวมถึง รีโมท Mi ที่ช่วย ให้เราควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทุกประเภทผ่านเซนเซอร์ IR Blaster บนตัวเครื่องได้
ในการตั้งค่าการแสดงผล สามารถเปิดใช้งาน โหมดมืด ได้ ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดแบตเตอรีมากขึ้น และปวดตาน้อยลงเวลาใช้งานในเวลากลางคืน และสามารถตั้งเวลาเปิดใช้งานอัตโนมัติได้ด้วย
นอกจากนี้ เรายังสามารถเลือกปรับโทนสีของหน้าจอได้ตามต้องการ สำหรับคนที่รู้สึกว่าจอติดโทนฟ้า หรือโทนเหลือง เป็นต้น
สำหรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอบน Xiaomi 12 Pro จะสามารถเลือกได้ 2 แบบ คือ แบบอัตโนมัติ กับ กำหนดเอง หากเลือกแบบอัตโนมัติ ระบบ AdaptiveSyncPro จะปรับอัตรารีเฟรชที่เหมาะสมให้โดยอัตโนมัติแบบ Real-Time ตั้งแต่ 1Hz-120Hz ส่วนแบบกำหนดเอง จะสามารถเลือกได้ 3 ระดับ คือ 60Hz, 90Hz และ 120Hz โดยเป็นอัตราคงที่ตลอดการใช้งาน (Xiaomi 12 เลือกได้แค่ 60Hz และ 120Hz)
หากต้องการเปลี่ยนวอลเปเปอร์ หรือธีม สามารถเข้าไปเลือกซื้อจากร้านค้าธีมได้โดยตรง ซึ่งทั้งหมดเปิดให้ดาวน์โหลดไปใช้กันฟรี ๆ โดยที่บางไอเทมอาจต้องดูโฆษณาก่อนจึงจะดาวน์โหลดได้ และยังมีให้เลือกเยอะมาก ๆ เหมาะสำหรับคนขี้เบื่อครับ
นอกจากวอลเปเปอร์กับธีมแล้ว ล่าสุดยังมีริงโทนให้ดาวน์โหลดอีกด้วย และที่สำคัญคือฟรีครับ
หากรู้สึกว่าตัวหนังสือเล็ก หรือใหญ่ไป ก็สามารถเข้าไปปรับแต่งได้ในหน้าการตั้งค่าเช่นกัน
ความพิเศษของสมาร์ทโฟนระดับเรือธงอย่าง Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro คือฟีเจอร์ปรับปรุงคุณภาพของวิดีโอด้วย AI ไม่ว่าจะเป็นการอัปสเกล (เพิ่มความละเอียด) ให้กับวิดีโอ, ปรับการแสดงผลแบบ HDR หรือการเพิ่มเฟรมเรตให้ลื่นไหลสบายตายิ่งขึ้น และยังสามารถปรับปรุงภาพในแกลเลอรีให้สวยงามโดยอัตโนมัติได้อีกด้วย โดยฟีเจอร์เหล่านี้จะทำให้กินแบตเตอรีมากขึ้นเล็กน้อย
หรือถ้ายังไม่ชินกับรูกล้องหน้า ก็มีตัวเลือกในการเปิดแถบดำที่ขอบบนหน้าจอเพื่อซ่อนรูกล้องได้
และสามารถเลือกปรับความละเอียดของการแสดงผลได้ 2 ระดับ คือ FHD+ (2400x1080) กับ WQHD+ (3200x1440) หากต้องการประหยัดแบตเตอรี แนะนำให้เลือก FHD+ แม้ภาพจะลดความละเอียดลง แต่ก็สังเกตด้วยตาเปล่าได้ยากครับ
ด้านความปลอดภัย Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro รองรับทั้งการสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง และการสแกนใบหน้า
แอปพลิเคชัน ความปลอดภัย เป็นเครื่องมือสำหรับบำรุง รักษาระบบ ซึ่งมีฟังก์ชันภายในให้เลือกใช้หลายอย่างด้วยกัน และมีฟังก์ชันปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมแบบเร่งด่วน ด้วยการกดที่ปุ่ม เพิ่มประสิทธิภาพ ระบบจะทำการแสกนหาจุดบกพร่อง และแก้ไขให้โดยอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ต้องตั้งค่าใด ๆ ให้ยุ่งยาก
สำหรับ ตัวทำความสะอาด ก็จะเป็นการทำความสะอาดไฟล์ขยะตกค้างในระบบทั่วไป เพื่อให้หน่วยความจำในเครื่องโล่งขึ้น หากรู้สึกว่าเครื่องช้าลง ก็สามารถเข้ามาเคลียร์ไฟล์ขยะได้
ทดสอบเครือข่าย จะเป็นการทดสอบสถานะการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนเครือข่ายปัจจุบันว่ามีการรับ-ส่ง ข้อมูลตามปกติหรือไม่ ไม่ใช่การแสดงความเร็วสูงสุดของอินเทอร์เน็ต ซึ่งบางคนอาจเข้าใจผิด หากไม่ได้ดาวน์โหลด หรือเปิดแอปบางตัวทิ้งไว้ ปริมาณดาต้าก็จะวิ่งอยู่ที่ 1-2 kbps ซึ่งเป็นการรับ-ส่งข้อมูลตามปกติ ไม่ได้หมายความว่าเน็ตเราช้าแต่อย่างใด
ล็อกแอป เป็นฟังก์ชันสำหรับการล็อกแอปพลิเคชันด้วยรหัสผ่าน, การสแกนใบหน้า หรือลายนิ้วมือ เป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลส่วนตัวอีกชั้นหนึ่ง ไม่ให้เข้าถึงข้อมูลของเราโดยง่าย
แอปโคลน เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราแยกแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียออกมาเป็น 2 แอป และใช้ล็อกอินคนละบัญชีได้ หรือก็คือทำให้ใช้งาน LINE หรือ Facebook ได้ 2 บัญชีในเครื่องเดียวนั่นเอง
พื้นที่ทับซ้อน เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่คล้ายกับแอปโคลน แต่จะเป็นการโคลนทั้งระบบ เสมือนเรามีสมาร์ทโฟน 2 เครื่องในเครื่องเดียว โดยแอปพลิเคชันและไฟล์ทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่ทับซ้อนจะแยกจากระบบปกติอย่างสิ้นเชิง เหมือนเป็นสมาร์ทโฟนอีกเครื่องหนึ่งไปเลย
ในส่วนของแอปพลิเคชันฟังเพลงของ Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro นอกจากจะเปิดเพลงจากในเครื่องฟังได้แล้ว ยังมีคลิปมิวสิกวิดีโอให้ชมแบบออนไลน์ด้วย
ฟังก์ชันที่น่าสนใจของแอปพลิเคชันนี้ คือการที่เราสามารถตัดเพลงมาส่วนมาทำเป็นริงโทนได้ โดยไม่ต้องใช้แอปตัดต่ออื่น ๆ แต่อย่างใด แถมยังใช้งานง่ายมากอีกด้วย
ในแอปพลิเคชัน Mi วิดีโอ ก็มีคลิปวิดีโอต่าง ๆ ให้รับชมแบบออนไลน์ได้เช่นกัน ในลักษณะที่คล้ายกับ YouTube และแน่นอนว่าสามารถเปิดไฟล์วิดีโอที่อยู่ในเครื่องขึ้นมารับชมได้
สำหรับการรับชมวิดีโอจากในเครื่อง จะมีฟังก์ชันพื้นฐานทั่วไปไม่ว่าจะเป็น การจับภาพหน้าจอ, การขยาย, ปรับความเร็วในการเล่น, ล็อกหน้าจอ และอื่น ๆ
นอกจากนี้ยังสามารถเรียกใช้เมนูลัดที่ซ่อนอยู่บริเวณมุมซ้ายของหน้าจอ เพื่อเรียกใช้ฟังก์ชันบางอย่างแบบรวดเร็ว รวมถึงการเปิด-ปิดระบบเสียง Dolby Atmos และการอัปสเกลวิดีโอด้วย AI
ที่น่าสนใจคือ เราสามารถเปิดแอปพลิเคชันอื่นขึ้นมาซ้อนกับวิดีโอได้ด้วย ซึ่งเปิดได้ทุกแอป แม้กระทั่งเกมก็เปิดได้
สำหรับการเล่นเกม Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro จะมีฟีเจอร์ Game Turbo มาช่วยในการตั้งค่าต่าง ๆ และปิดกั้นการแจ้งเตือนไม่ให้มาขัดจังหวะเราขณะเล่นเกม โดยสามารถตั้งค่าสำหรับใช้กับทุกเกม หรือจะตั้งค่าแยกเป็นเกม ๆ ไปก็ได้
เมื่อเข้าสู่ตัวเกม เราจะสามารถเรียกเมนูช่วยเหลือออกมาจากมุมซ้ายบนของจอได้ ซึ่งจะมีทางลัดต่าง ๆ เช่น เคลียร์ RAM, จับภาพหน้าจอ, บันทึกวิดีโอหน้าจอ, ปรับความสว่าง และปิดจอโดยปล่อยให้เกมเล่นต่อไป เป็นต้น ซึ่งเป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่มีอยู่ใน Game Assistant ทั่วไป พร้อมทั้งมีการโชว์อัตราการทำงานของ GPU, CPU และค่า FPS ของตัวเกมให้ดูด้วย
ลูกเล่นหนึ่งที่น่าสนใจคือโปรแกรมเปลี่ยนเสียงที่ทำให้เราเปลี่ยนเสียง เวลาคุยไมค์ในเกมได้ ทำให้การเล่นมีสีสันมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดแอปพลิเคชันอื่นเป็นหน้าต่างลอยขึ้นมาได้ด้วย เหมาะสำหรับการหาข้อมูลระหว่างเล่นเกม ไม่ต้องสลับจอไปมา หรือจะเปิดเกมขึ้นมาซ้อนกัน 2 เกมก็ยังได้
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพในการเล่นเกม ทีมงานจะทดสอบด้วย Xiaomi 12 Pro เป็นหลัก โดยเลือกทดสอบด้วยเกม 3 เกมด้วยกัน ได้แก่ PUBG New State, Genshin Impact และ Seven Knights 2 โดยมีการตั้งค่าของแต่ละเกมเอาไว้ดังนี้ :
การตั้งค่าเกม PUBG New State
การตั้งค่าเกม Genshin Impact
การตั้งค่าเกม Seven Knights 2
ด้วยความที่ Xiaomi 12 Pro เป็นสมาร์ทโฟนเรือธง พลังการประมวลผล และการขับเน้นความสวยงามของกราฟิกจึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล เพราะชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 ภายในตัวเครื่องนั้น จัดว่าทรงประสิทธิภาพที่สุดในวงการแล้ว ณ ขณะนี้ อีกทั้งยังมีหน่วยความจำ RAM มาตรฐาน LPDDR5 และ ROM มาตรฐาน UFS 3.1 ที่มีความเร็วสูง การเล่นเกมบน Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro จึงมีความลื่นไหลฉับไว พร้อมกับกราฟิกที่สวยงามขั้นสุดเท่าที่ตัวเกมจะให้ได้ ขณะเดียวกัน หน้าจอแสดงผล AMOLED ก็มีความสว่าง และคมชัด เสริมด้วยลำโพงสเตอริโอจาก Harman Kardon ยื่งทำให้การเล่นเกมมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม จุดที่ยังกวนใจมีเพียงอย่างเดียว คือระบบระบายความร้อนที่ไม่ค่อยมี ประสิทธิภาพ ทำให้เครื่องร้อนมาก และร้อนเร็ว โดยเฉพาะในรุ่น Pro เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่ง ความร้อนยังทำให้เฟรมเรตในเกมตกอีกด้วย ดังนั้น หากต้องการเล่นอย่างราบรื่นจริง ๆ แนะนำว่าให้ปรับกราฟิกของตัวเกมไว้ที่ระดับกลาง ๆ จะช่วยได้พอสมควรครับ
Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm
Snapdragon 8 Gen 1 แบบ 8-แกน (Octa-Core)
ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.9 GHz มีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
Adreno 730, หน่วยความจำแรม RAM แบบ LPDDR5 ขนาด 8
GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 256 GB
พร้อมทั้งผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย
Widevine DRM L1 ทำให้รับชมคอนเทนต์สตรีมมิ่งแบบ HD ได้
Xiaomi 12 Pro วัดค่า Benchmark จากแอปพลิเคชัน AnTuTu ได้ 967198 คะแนน และจากแอปพลิเคชัน Geekbench 5 ทำได้ 1220 คะแนนสำหรับ Single-Core และ 3367 คะแนนสำหรับ Multi-Core
ส่วน Xiaomi 12 วัดค่า Benchmark จากแอปพลิเคชัน AnTuTu ได้ 965168 คะแนน และจากแอปพลิเคชัน Geekbench 5 ทำได้ 1248 คะแนนสำหรับ Single-Core และ 3399 คะแนนสำหรับ Multi-Core
สำหรับเซนเซอร์ในเครื่อง Xiaomi 12 Pro นั้น ประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor, Magnetic Sensor และ Pressure Sensor ส่วนหน้าจอแสดงผลรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันอย่างน้อย 10 จุด
ส่วนเซ็นเซอร์ในเครื่อง Xiaomi 12 จะมีเหมือนกับ Xiaoni 12 Pro แต่ไม่มี Pressure Sensor สำหรับหน้าจอแสดงผลรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันอย่างน้อย 10 จุดเช่นกัน
การระบุตำแหน่ง และนำทางสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ ด้วยการรองรับระบบดาวเทียมชั้นนำของโลกอย่างครบถ้วน ทั้ง GPS+A-GPS, Glonass, BeiDou, Galileo และ NavIC
การใช้งานกล้องสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ
ด้านการถ่ายภาพ Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro มี UI ในการใช้งานที่สะอาดตา และเข้าใจง่าย โดยแถบด้านบนจะเป็นคีย์ลัดสำหรับเปิดใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้แก่ การเปิด-ปิด ไฟแฟลช, การเปิดใช้งาน HDR และการเปิดใช้งาน AI Camera ส่วนด้านล่างมีทางลัดสำหรับการซูมที่ระยะ 0.6x (Ultra-wide) และ 2x โดยมีระยะไกลสุดที่ 10x และ 20x สำหรับ Xiaomi 12 Pro
จุดเด่นของกล้อง Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro คือระบบโฟกัสแบบติดตามดวงตา และบุคคล ที่ใช้ได้ทั้งกับการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ ทำให้ภาพไม่หลุดโฟกัสแม้มีการเคลื่อนไหวมาก
ในโหมด ภาพบุคคล จะสามารถปรับความเบลอของฉากหลังได้ผ่านรูรับแสงจำลอง ตั้งแต่ f1.0 - f16 และสามารถเปิดฟรุ้งฟริ้ง หรือเอฟเฟกต์บิวตี้ได้
และมีโหมด โปร ที่ผู้ใช้สามารถตั้งค่าต่าง ๆ ในการถ่ายรูปได้ด้วยตัวเอง
ในส่วนของการถ่ายวิดีโอ รองรับการบันทึกภาพที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 8K (24 fps)
อีกหนึ่งลูกเล่นที่น่าสนใจ และมีให้ใช้ทั้งสองรุ่นคือโหมด โคลน ที่ช่วยให้เราถ่ายรูปหรือวิดีโอที่มีเอฟเฟกต์แยกร่างได้ ช่วยสร้างความแปลกใหม่ และเพิ่มความสนุกในการถ่ายรูป และวิดีโอมากยิ่งขึ้น
และยังมีโหมดการใช้งานอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น โหมดกลางคืน ที่ช่วยให้ถ่ายรูปในเวลากลางคืนได้ชัดขึ้น, โหมด เปิดรูรับแสงนาน สำหรับถ่ายภาพแบบเส้นแสง และโหมด ซูเปอร์มูน สำหรับถ่ายรูปดวงจันทร์โดยฉพาะ เป็นต้น
สำหรับ Xiaomi 12 จะมีโหมด ซูเปอร์มาโคร ให้ใช้งานด้วย แถมยังมีระบบ Auto Focus ทำให้ถ่ายง่าย และถ่ายสวยกว่าโหมดมาโครของสมาร์ทโฟนทั่วไป
สำหรับกล้องหน้าของทั้งสองรุ่น มีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอ พร้อมเอฟเฟกต์บิวตี้ได้เช่นเดียวกับกล้องหลัง และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 1080P (60 fps)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Xiaomi 12 Pro และ Xiaomi 12
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดอัตโนมัติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Ultra Wide
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดกลางคืน (Night)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Long Exposure
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Super Moon
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Clone
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Super Macro (มีเฉพาะ Xiaomi 12)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
สรุปผลการทดสอบของ Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro
หลังจากที่ได้ลองใช้งาน และเปรียบเทียบกันมาระยะหนึ่ง จุดเด่นอย่างแรกที่ทางทีมงานรู้สึกได้ คือหน้าจอแสดงผลของทั้ง Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro นั้นมีความคมชัดสวยงาม ถ่ายทอดคอนเทนต์ต่าง ๆ ออกมาได้ดีกว่าสมาร์ทโฟนระดับกลางอย่างรู้สึกได้ เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดูหนัง และเล่นเกม อีกทั้งยังมีความสว่างพอที่จะสู้แดดได้สบาย ขณะเดียวกัน ยังประหยัดพลังงานกว่าหน้าจอแบบ IPS อีกด้วย ทำให้เราใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ Always-On Display และโหมดมืดได้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีคุณภาพการแสดงผลดีในระดับต้น ๆ เลยทีเดียว
ในเชิงประสิทธิภาพ ทั้ง Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 ซึ่งเป็นรุ่นท็อป และทรงพลังที่สุดในฝั่ง Android ในตอนนี้ อีกทั้งยังใช้หน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR5 และ ROM แบบ UFS 3.1 ที่มีความเร็วสูง ดังนั้นเรื่องประสิทธิภาพการทำงานถือว่าสูงที่สุดเท่าที่สมาร์ทโฟน Android เครื่องหนึ่งจะให้ได้แล้ว ไม่ว่าจะทำงาน, ดูหนัง-ฟังเพลง, แต่งรูป หรือเล่นเกม ก็ลื่นไหลไร้กังวล โดยทั้งสองรุ่นมีพลังการประมวลผลที่ใกล้เคียงกันมาก และมอบประสบการณ์การใช้งานที่ไม่แตกต่างกัน อย่างไรก็ดี สิ่งที่ตามมากับความแรง คือความร้อนที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แม้ว่า Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro จะมีระบบระบายความร้อน VC Cooling ในตัวแล้วก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนว่ายังไม่สามารถจัดการกับความร้อนได้ดีนัก โดยเฉพาะรุ่น Xiaomi 12 Pro ที่ร้อนง่าย และร้อนเร็วกว่า Xiaomi 12
ด้านการเล่นเกม ทั้ง Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro สามารถเค้นความสวยงามของกราฟิกออกมาได้อย่างน่าประทับใจ และยังคงรักษาความลื่นไหลเอาไว้ได้แม้จะเล่นบนการตั้งค่ากราฟิกระดับสูงสุด อีกทั้งยังมีหน้าจอคุณภาพสูง และระบบเสียงของ Harman Kardon ทำให้เรือธงทั้งสองรุ่นนี้กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์การเล่นเกมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ Xiaomi 12 Pro นั้นมากับลำโพงเสียงถึง 4 ตัว (ลำโพง Tweeters จำนวน 2 ตัว และลำโพง Woofers จำนวน 2 ตัว) ซึ่งทำให้สามารถมอบอรรถรสด้านเสียงได้ดีเยี่ยมเป็นพิเศษ แต่จุดอ่อนสำคัญยังคงหนีไม่พ้นความร้อนที่รบกวนการเล่น และยังทำให้เฟรมเรตของตัวเกมตกเมื่อถึงจุด ๆ หนึ่ง ดังนั้นแนะนำว่าควรปรับการตั้งค่ากราฟิกไว้ที่ระดับกลาง ๆ และหลีกเลี่ยงการชาร์จไปเล่นไปเพื่อลดความร้อนขณะเล่นครับ
สำหรับแบตเตอรี่ที่ให้มานั้น Xiaomi 12 มีแบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh ส่วน Xiaomi 12 Pro มีแบตเตอรี่ความจุ 4600 mAh ซึ่งถือว่าไม่มากไม่น้อยเกินไปสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธง สามารถอยู่ได้ทั้งวันโดยไม่ต้องพักชาร์จหากไม่ถ่ายรูป หรือเล่นเกมติดต่อกันนาน ๆ ส่วนการชาร์จก็รองรับชาร์จไวทั้งแบบมีสาย และไร้สาย โดยเฉพาะ Xiaomi 12 Pro ที่รองรับการชาร์จไวด้วยกำลังไฟมากถึง 120W ซึ่งเร็วเป็นอันดับต้น ๆ ของวงการ กล่าวคือสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100% ได้ภายในเวลาเพียง 18 นาที เท่านั้น (ด้วย Boost Mode) ดังนั้นแม้แบตจะหมดระหว่างวันก็เติมพลังกลับมาได้อย่างรวดเร็วหายห่วง
ในส่วนของการถ่ายรูป ชุดกล้องหลังของ Xiaomi 12 กับ Xiaomi 12 Pro มีคุณสมบัติที่ต่างกันอยู่พอสมควร โดยรุ่น Pro จะเป็นกล้องที่มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซลทุกตัว และแทนที่กล้อง Telemacro ด้วยกล้อง Telephoto คุณภาพของรูปถ่ายโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี และแทบจะไม่แตกต่างกัน โดยสีสันของภาพจะดูอิ่มนวล และมีคอนทราสต์สูง พร้อมจุดเด่นที่ระบบโฟกัสที่ติดตามดวงตา และตัวบุคคลอัตโนมัติ ทำให้ภาพมีความคมชัดเสมอ ไม่มีหน้าเบลอ แม้กระทั่งในการถ่ายวิดีโอก็ยังสามารถติดตามใบหน้า และตัวบุคคลได้อย่างต่อเนื่องไม่มีหลุด ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูดีขึ้นมาก ส่วนโหมดภาพถ่ายบุคคลสามารถแยกแยะตัวแบบออกจากฉากหลังได้อย่างแนบเนียน และมีเอฟเฟกต์การเบลอที่สวยงาม โดยมีการปรับดวงไฟเป็นโบเก้โดยอัตโนมัติ รวมถึงการปรับ HDR ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจและโหมดกลางคืนที่มีการประมวลผลเร็วมาก เรียกได้ว่ากดปุ๊บได้ปั๊บ ไม่ต้องรอ 2-4 วินาทีเหมือนที่ผ่าน ๆ มา ส่วนกล้องหน้าก็ทำได้ดี และมีเอฟเฟกต์บิวตี้ที่ใช้งานง่าย ให้ภาพออกมาสวยงาม แต่ก็ไม่หลอกตาจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นที่น่าสนใจอย่างโหมดโคลนอีกด้วย รวมแล้วนับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปได้ดีสมฐานะเรือธง และน่าจะถูกใจผู้ใช้ส่วนใหญ่ครับ
จากทั้งหมดนี้ก็กล่าวได้ว่าทั้ง Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่เก่งสมฐานะ และตอบโจทย์การทำงานได้อย่างดีเยี่ยมรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูป, ถ่ายวิดีโอ, เล่นเกม, ดูหนัง และอื่น ๆ จุดที่ต้องพิจารณาหลัก ๆ เพียงอย่างเดียวคือความร้อนที่อาจจะยังจัดการได้ไม่ดีนัก แต่อย่างน้อยก็ยังไม่ถึงกับเกิดอาการเครื่องค้างระหว่างใช้งาน และน่าจะมีซอฟต์แวร์มาอัปเดตให้ดีขึ้นในอนาคต สรุปรวมแล้วหากต้องการสัมผัสประสบการณ์แบบเรือธงตัวท็อป ในราคาที่ไม่แรงจนเกินไป Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro ถือว่าตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดีครับ
สำหรับผู้ที่สนใจจับจองเป็นเจ้าของ Xiaomi 12 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 24,990 บาท ในรุ่น 8GB+256GB ส่วน Xiaomi 12 Pro (12GB+256GB) มีราคาอยู่ที่ 31,990 บาท นอกจากนี้ยังมี Xiaomi 12 (12GB+256GB) ที่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น ในราคา 26,990 บาท สามารถสั่งจองได้แล้ววันนี้ที่ Xiaomi Official Store ทุกสาขาทั้งทางออนไลน์ และออฟไลน์ หรือ AIS, dtac, TrueMove H รวมถึงตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยสามารถดูรายละเอียดโปรโมชั่น Pre-Order เพิ่มเติมได้ที่ : เปิดตัว Xiaomi 12 | Xiaomi 12 Pro
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ Xiaomi ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro มาให้ทางทีมงานได้รีวิวกันในโอกาสนี้ด้วยครับ
จุดเด่นของ Xiaomi 12
- ตัวเครื่องมีขนาดเหมาะมือ มีความโค้งมน สามารถใช้งานมือเดียวได้อย่างสะดวกคล่องตัว พร้อมพื้นผิวฝาหลังแบบด้านที่ไม่เกิดรอยนิ้วมือ หรือคราบมัน
- ด้านหลังตัวเครื่องครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
- ระบบระบายความร้อนแบบ LiquidCool Technology (Super Big VC + Multilayer Graphite Sheets + BN Film) ด้วยชั้น VC LiquidCool ที่บางเฉียบเพียง 0.3 มิลลิเมตร
----------------------------
- จอแสดงผลแบบ AMOLED DotDisplay ขนาด 6.28 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ (2400x1080 พิกเซล : 419 PPI) ในอัตราส่วนแบบ 20:9
- อัตราการรีเฟรช (Refresh Rate) สูงสุดที่ 120Hz พร้อมอัตราการตอบสนองของระบบสัมผัส (Touch Sampling Rate) สูงสุดที่ 480Hz
- รองรับการแสดงสีได้ 68 พันล้านสี พร้อมเทคโนโลยี TrueColor, รองรับช่วงสีแบบ DCI-P3, ค่า JNCD ประมาณ 0.61 และค่า Delta E ประมาณ 0.59
- ความสว่างสูงสุด 1,100 nits พร้อมเซนเซอร์วัดแสงแบบ 360° Ambient Light Sensor และสามารถปรับระดับความสว่างแบบอัตโนมัติได้ 16,000 ระดับ
- ค่า Contrast Ratio 5,000,000:1
- รองรับการแสดงผลคอนเทนต์แบบ HDR10+ และ Dolby Vision
- ได้รับการรับรองมาตรฐานการแสดงผลระดับ A+ จาก DisplayMate
- ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบใต้หน้าจอ (In-Screen Fingerprint Sensor) พร้อมระบบปลดล็อกด้วยหน้าจอ (AI Face Unlock)
----------------------------
- ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 (SM8450) ที่ใช้กระบวนการผลิตระดับ 4 nm และมี 7th Gen Qualcomm AI Engine
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 730
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR5 ขนาด 8 GB หรือ 12 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูล (ROM) แบบ UFS 3.1 ขนาด 256 GB
- แบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh พร้อมระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 67W Wired Turbo Charging, 50W Wireless Turbo Charging, ระบบชาร์จแบตเตอรี่ย้อนกลับแบบ 10W Reverse Wireless Charging และเทคโนโลยี Xiaomi AdaptiveCharge
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ MIUI 13 (พัฒนาอยู่บนพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Android 12)
- ฟีเจอร์ Game Turbo ที่สามารถเร่งการประมวลผลตัวเกมให้เร็วขึ้น พร้อมกับบล็อกการแจ้งเตือน Pop-Up ต่าง ๆ
รวมถึงการล็อกระดับความสว่างของหน้าจอขณะเล่นเกม
----------------------------
กล้องตัวหลักด้านหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ประกอบด้วย
- กล้อง Wide (Main) ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony IMX766 ขนาด 1/1.56 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 1.0 ไมครอน (หรือ 2 ไมครอน แบบ 4-in-1 Super Pixel), รูรับแสงขนาด f1.88, ทางยาวโฟกัส 26 มิลลิเมตร, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF และระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพขนาด 1/3.06 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f2.4 และมุมรับภาพ 123 องศา (ทางยาวโฟกัส 12 มิลลิเมตร)
- กล้อง Telemacro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4, ทางยาวโฟกัส 50 มิลลิเมตร และระบบโฟกัสอัตโนมัติ (3-7 เซนติเมตร)
รวมทั้งมีเทคโนโลยี Xiaomi ProFocus, โหมด Long Exposure, โหมด Night, โหมด Portrait Night, รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 8K UHD (24 fps), รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion ที่ความเร็วสูงสุด 1920 fps, ฟีเจอร์ Ultra Night Video และฟีเจอร์ One-Click AI Cinema
กล้องด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (In-Display Selfie Camera)
พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 0.7 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f2.45, ทางยาวโฟกัส 26 มิลลิเมตร, ฟีเจอร์ Selfie Night Mode, โหมด AI Portrait และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 1080P FHD (60 fps)
----------------------------
- ลำโพงเสียงแบบคู่ (Dual Speakers) ที่พัฒนาร่วมกับ Harman Kardon พร้อมระบบเสียงแบบ Dolby Atmos
- ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ Wi-Fi 6/6E, 5G, 4G LTE, 3G WCDMA และ 2G EDGE/GPRS พร้อมเทคโนโลยี 4x4 MIMO
- รองรับการใช้งานระบบซิมคู่ (Dual SIM : Nano SIM + Nano SIM) บนถาดแบบ Dual Slot
- เชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.2 และ NFC
- ระบุตำแหน่ง และนำทางผ่านระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, Galileo, Glonass, BeiDou และ NavIC
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- มอเตอร์ระบบสั่นแบบ X-Axis Linear Vibration Motor
จุดเด่นของ Xiaomi 12 Pro
- ตัวเครื่องมีหน้าจอค่อนข้างใหญ่ อาจเหมาะกับการดูหนัง
และเล่นเกมมากกว่ารุ่น Xiaomi 12
- พื้นผิวฝาหลังแบบด้าน จึงไม่เกิดรอยนิ้วมือ หรือคราบมัน
- ระบบระบายความร้อนแบบ LiquidCool Technology (Super Big Vapour Chamber + 3 Graphite Sheets)
----------------------------
- จอแสดงผลแบบ LTPO AMOLED DotDisplay ขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียดระดับ WQHD+ (3200x1440 พิกเซล : 522 PPI) ในอัตราส่วนแบบ 20:9
- เทคโนโลยี Microlens
- ผลิตจาก E5 AMOLED ที่ช่วยเพิ่มระดับความสว่าง และความเปรียบต่าง ในขณะที่บริโภคพลังงานลดลง 25%
- อัตราการรีเฟรช (Refresh Rate) สูงสุดที่ 120Hz แบบ AdaptiveSyncPro Display (1Hz/10Hz/30Hz/60Hz/90Hz/120Hz)
- อัตราการตอบสนองของระบบสัมผัส (Touch Sampling Rate) สูงสุดที่ 480Hz (Xiaomi SmartTouch)
- รองรับการแสดงสีได้มากกว่า 1 พันล้านสี พร้อมเทคโนโลยี TrueColor, รองรับช่วงสีแบบ DCI-P3, ค่า JNCD ประมาณ 0.43 และค่า Delta E ประมาณ 0.4
- ความสว่างสูงสุด 1,500 nits พร้อมเซนเซอร์วัดแสงแบบ 360° Ambient Light Sensor และสามารถปรับระดับความสว่างแบบอัตโนมัติได้ 16,000 ระดับ
- ค่า Contrast Ratio 8,000,000:1
- รองรับการแสดงผลคอนเทนต์แบบ HDR10+ และ Dolby Vision
- รองรับ HDR Display เมื่อเปิดเล่นคอนเทนต์วิดีโอแบบ HDR, HDR10+ และ Dolby Vision
- ได้รับการรับรองมาตรฐานการแสดงผลระดับ A+ จาก DisplayMate
- ได้รับการรับรองมาตรฐาน SGS Eye Care Display และ SGS Seamless Pro
- ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบใต้หน้าจอ (In-Screen Fingerprint Sensor) พร้อมระบบปลดล็อกด้วยหน้าจอ (AI Face Unlock)
----------------------------
- ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 (SM8450) ที่ใช้กระบวนการผลิตระดับ 4 nm และมี 7th Gen Qualcomm AI Engine
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 730
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR5 ขนาด 12 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูล (ROM) แบบ UFS 3.1 ขนาด 256 GB
- แบตเตอรี่ความจุ 4600 mAh พร้อมระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 120W Xiaomi HyperCharge, 50W Wireless Turbo Charging, ระบบชาร์จแบตเตอรี่ย้อนกลับแบบ 10W Reverse Wireless Charging และเทคโนโลยี Xiaomi AdaptiveCharge
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ MIUI 13 (พัฒนาอยู่บนพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Android 12)
- ฟีเจอร์ Game Turbo ที่สามารถเร่งการประมวลผลตัวเกมให้เร็วขึ้น พร้อมกับบล็อกการแจ้งเตือน Pop-Up ต่าง ๆ
รวมถึงการล็อกระดับความสว่างของหน้าจอขณะเล่นเกม
----------------------------
กล้องตัวหลักด้านหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ประกอบด้วย
- กล้อง Wide (Main) ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony IMX707 ขนาด 1/1.28 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 1.22 ไมครอน (หรือ 2.44 ไมครอน แบบ 4-in-1 Super Pixel), รูรับแสงขนาด f1.9, ทางยาวโฟกัส 24 มิลลิเมตร, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ Dual Pixel PDAF, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และโครงสร้างแบบ 7 ชิ้นเลนส์
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2, มุมรับภาพ 115 องศา และโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.9, ทางยาวโฟกัส 48 มิลลิเมตร, ระบบซูมแบบ 2x Optical Zoom, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF และโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์
รวมทั้งมีเทคโนโลยี Xiaomi ProFocus, โหมด Long Exposure, โหมด Ultra Night Photo, โหมด Portrait Night, รองรับการบันทึกภาพแบบ RAW, รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 8K UHD (24 fps), รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion ที่ความเร็วสูงสุด 1920 fps, ฟีเจอร์ Ultra Night Video และฟีเจอร์ One-Click AI Cinema
กล้องด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (In-Display Selfie Camera)
พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 0.7 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f2.45, ทางยาวโฟกัส 26 มิลลิเมตร, ฟีเจอร์ Selfie Night Mode, โหมด AI Portrait และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 1080P FHD (60 fps)
----------------------------
- ลำโพงเสียง 4 ตัว (Quad Speakers) ประกอบด้วยลำโพง Tweeters จำนวน 2 ตัว และลำโพง Woofers จำนวน 2 ตัว ที่พัฒนาร่วมกับ Harman Kardon พร้อมระบบเสียงแบบ Dolby Atmos
- ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ Wi-Fi 6/6E, 5G, 4G LTE, 3G WCDMA และ 2G EDGE/GPRS พร้อมเทคโนโลยี 4x4 MIMO
- รองรับ 2x2 MIMO, 8x8 Sounding for MU-MIMO และ Wi-Fi Direct
- รองรับการใช้งานระบบซิมคู่ (Dual SIM : Nano SIM + Nano SIM) บนถาดแบบ Dual Slot
- เชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.2 และ NFC
- ระบุตำแหน่ง และนำทางผ่านระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, Galileo, Glonass, BeiDou และ NavIC
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- มอเตอร์ระบบสั่นแบบ X-Axis Linear Vibration Motor
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ
Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro
- ตัวเครื่องไม่มีคุณสมบัติของการทนน้ำ หรือทนฝุ่น
- ตัวเครื่องยังคงมีความร้อนเมื่อต้องมีการประมวลผลหนัก ๆ
- ยังคงใช้มาตรฐาน USB 2.0
- ไม่มีพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากผู้ผลิต เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริง รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจถูกแก้ไขให้ดีขึ้นแล้วในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบ หรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่งเพื่อความมั่นใจ *
สรุปคุณสมบัติ และราคาของ Xiaomi 12 | 12 Pro
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ Xiaomi 12 | 12 Pro ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
สรุปคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ Xiaomi 12 8GB+256GB
สรุปคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ Xiaomi 12 12GB+256GB
สรุปคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ Xiaomi 12 Pro 12GB+256GB
วันที่ : 17/03/2022