รีวิว vivo Y76 5G สมาร์ทโฟนกล้อง 50MP มีพลังชาร์จ 44W สเปกเร็วลื่นจัดเต็ม บนดีไซน์บางเบา ในราคาไม่เกินหมื่น
14 ธันวาคม 2021 - อีกเพียงไม่กี่สัปดาห์ ปี 2021
ก็จะผ่านพ้นไปแล้ว ดังนั้นจะเห็นว่าช่วงนี้แบรนด์สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่จะเน้นจัดโปรโมชันมากกว่าที่จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่
แต่ก็ยังมีอยู่บ้างที่เปิดตัวออกมาในช่วงส่งท้ายปีแบบนี้ หนึ่งในนั้นคือ vivo
Y76 5G ที่เรานำมารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกัน
vivo Y76 5G คือสมาร์ทโฟนระดับกลางที่เน้นตอบโจทย์ความบันเทิง และการถ่ายรูป
ในราคาไม่เกิน 10,000 บาท โดยตัวเครื่องมาในดีไซน์แบบ Ultra Slim ที่หรูหราสวยงามตามแบบฉบับของ
vivo อีกทั้งยังบางเฉียบเพียง 7.79 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเบาเพียง 175
กรัม จึงพกพาสะดวก และใช้งานได้อย่างคล่องตัวในทุกอิริยาบถ
vivo Y76 5G มากับหน้าจอแสดงผลกว้างถึง 6.58 นิ้ว ที่ละเอียดคมชัดระดับ FHD+
โดยมีขอบจอบางพิเศษเพียง 2.8 มิลลิเมตร
เพื่อการถ่ายทอดคอนเทนต์ความบันเทิงที่เต็มอรรถรส
ภายในขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตจากตระกูลชิปยอดนิยมอย่าง MediaTek Dimensity
700 ที่สามารถรับมือกับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ทุกรูปแบบ
พร้อมรองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G โดยมีแบตเตอรี่ความจุ 4,100 mAh
ที่รองรับระบบชาร์จไว 44W Flash Charge และที่สำคัญ หน่วยความจำ RAM ขนาด 8 GB
ภายใน vivo Y76 5G ยังสามารถขยายเพิ่มได้อีกสูงสุด 4 GB ด้วยเทคโนโลยี Extended
RAM 2.0 ทำให้ vivo Y76 5G มี RAM สูงสุดได้ถึง 12 GB เลยทีเดียว
โดยทั้งหมดนี้ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับด้วย
Funtouch OS 12 เวอร์ชันใหม่
ในส่วนของการถ่ายรูป vivo Y76 5G ก็มีคุณสมบัติที่น่าสนใจเช่นกัน
โดยมากับชุดกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 50
ล้านพิกเซล, กล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Macro ความละเอียด
2 ล้านพิกเซล ที่มีระยะโฟกัส 4 เซนติเมตร ทำงานควบคู่กับระบบ AI
วิเคราะห์ภาพถ่ายอัจฉริยะ พร้อม Super Night Mode
ที่ช่วยยกระดับการถ่ายรูปยามค่ำคืนให้คมชัด และสว่างสดใสยิ่งขึ้น
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลนั้น ก็มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI
Extreme Night Selfie ที่ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยได้ดีเช่นเดียวกัน
จากที่กล่าวมา นับว่า vivo Y76 5G มีคุณสมบัติพร้อมสรรพทั้งดีไซน์,
ประสิทธิภาพ และการถ่ายภาพ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปชม รีวิว
vivo Y76 5G โดยทีมงาน Thaimobilecenter กันเลยดีกว่าครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์
vivo Y76 5G มาในดีไซน์หน้าจอรอยบากทรงหยดน้ำที่เราคุ้นเคยกันดี โดยเป็นหน้าจอแสดงผลประเภท IPS LCD ขนาดใหญ่ 6.58 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ FHD+ (2408x1080 พิกเซล) กับอัตราส่วนการแสดงผลแบบ 20:9 ส่วนที่ด้านบนของจอแสดงผลมีกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.0 และมีการติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้เรียบร้อยแล้วจากโรงงาน โดยหน้าจอนั้นค่อนข้างสว่าง สามารถสู้แสงแดดได้พอสมควร
ฝาหลังของ vivo Y76 5G เป็นพลาสติกผิวด้านเหลือบแสง เคลือบสีด้วยเทคนิค AG ทำให้มีเอฟเฟกต์ระยิบระยับแบบกลิตเตอร์เมื่อมีแสงตกกระทบในมุมที่เหมาะสม สำหรับเครื่องที่เรานำมารีวิวในครั้งนี้เป็น สีฟ้า Cosmic Aurora ซึ่งสามารถมองเห็นเป็นสีเป็นสีชมพู และสีส้มได้ตามมุมตกกระทบของแสง
สำหรับกล้องหลังของ vivo Y76 5G เป็นชุดกล้อง 3 ตัว (AI Triple Camera) มีการล้อมรอบตัวกล้องด้วยวงแหวน ซึ่งเป็นการออกแบบในสไตล์ CD Grooves โดยกล้องแต่ละตัวมีดังนี้ :
- กล้องหลัก (Wide) ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.8, ทางยาวโฟกัส 26 มิลลิเมตร และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF
- กล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4 และระยะโฟกัส 4 เซนติเมตร
ปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียงจะอยู่ที่ด้านขวาของตัวเครื่อง โดยปุ่ม Power จะทำหน้าที่เป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปด้วยในตัว ส่วนด้านซ้ายไม่มีโมดูลใด ๆ
ด้านล่างมีพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และลำโพงเสียง ส่วนด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และช่องใส่ซิมการ์ด
ถาดใส่ซิมของ vivo Y76 5G เป็นแบบ Hybrid-Slot ที่สามารถใส่ซิมการ์ดได้ 2 ซิม หรือใส่ซิมการ์ดคู่กับการ์ดหน่วยความจำ microSD อย่างใดอย่างหนึ่ง
สำหรับอุปกรณ์ในกล่อง ประกอบด้วยคู่มือการใช้งาน, เคสใส, อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ 44W Flash Charge, สายชาร์จ USB Type-C, เข็มถอดถาดใส่ซิมการ์ด และยังมีหูฟังมาให้ด้วย
เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์
vivo Y76 5G ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12 ซึ่งมีการปรับปรุงดีไซน์ของอินเทอร์เฟสเล็กน้อยให้ดูมีเหลี่ยมมุมมากขึ้น และเพิ่มวิดเจ็ตใหม่ ๆ เข้ามา
เมื่อปัดนิ้วจากด้านบนลงมาจะเป็นการเปิด แผงแจ้งเตือน โดยมีทางลัดสำหรับการตั้งค่าที่ใช้บ่อย ๆ เช่น Wi-Fi, โหมดเงียบ, Bluetooth, หมุนจออัตโนมัติ, ปรับความสว่างหน้าจอ เป็นต้น ส่วนด้านล่างจะแสดงแถบแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันต่าง ๆ
หากปัดนิ้วลงมาอีกครั้งจะเป็นการขยายเมนูทางลัด เมื่อกดที่ไอคอนรูปปากกาและกระดาษที่มุมซ้ายล่าง จะเข้าสู่เมนู แก้ไข โดย เราสามารถเลือกไอคอนการตั้งค่าที่เราต้องการเข้ามาไว้ในแผงการแจ้งเตือนได้ตามใจชอบ
เมื่ออยู่ที่หน้าจอเริ่มต้น หากปัดนิ้วจากขอบจอด้านล่างขึ้นมาจะเป็นการเปิดหน้า ลิ้นชัก ซึ่งจะแสดงรายการแอปพลิเคชันทั้งหมดที่ติดตั้งไว้ในเครื่อง
สำหรับแอปพลิเคชันของ Google ที่ติดตั้งมาในเครื่องก็เป็นเวอร์ชันใหม่เช่นกัน และมีแอปพลิเคชันใหม่อย่าง YT Music และ Google One ด้วย
สำหรับฟังก์ชันสำคัญอย่างการโทร ยังคงมีหน้าอินเตอร์เฟสที่สะอาดเรียบง่าย และไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชันก่อนมากนัก
เมื่อกดค้างลงบนพื้นที่ว่างบนหน้าจอหลัก จะมีเมนูสำหรับการปรับแต่งหน้าจอปรากฏขึ้น ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าเกี่ยวกับหน้าจอเริ่มต้น, เปลี่ยนภาพพื้นหลัง และวิดเจ็ตได้
หากรู้สึกเบื่อกับหน้าจอเดิม ๆ เราสามารถเข้าไปยัง ธีม เพื่อดาวน์โหลดภาพพื้นหลัง, ธีม และรูปแบบอักษรใหม่ ๆ ได้ มีทั้งที่ดาวน์โหลดฟรี และแบบเสียเงิน โดยจะมีราคาแจ้งไว้ชัดเจนทุกรายการ
ในส่วนการตั้งค่าหน้าจอยังมี ธีมมืด ที่จะเปลี่ยนโทนสีของหน้าจอให้มืดลง ช่วยถนอมสายตาเมื่อใช้งานในเวลากลางคืน
หากรู้สึกว่าสีสันบนหน้าจอยังไม่ถูกใจ สามารถเข้ามาปรับอุณหภูมิสีได้ในหน้าการตั้งค่า เพื่อให้หน้าจอมีโทนอุ่น หรือเย็นขึ้นตามชอบ
หรือถ้ารู้สึกว่าตัวอักษรเล็กเกินไป ก็สามารถเข้ามาปรับขนาดได้เช่นกัน โดยปรับได้ถึง 5 ขนาด
และยังเลือกซื้อฟอนต์ใหม่ ๆ ในร้านค้าธีมมาใช้งานได้ด้วย โดยเราจะต้องเติมเงินเพื่อแลกเป็น T-coins ก่อนจึงจะซื้อได้
นอกจากการตั้งค่าหน้าจอทั่วไปแล้ว vivo Y76 5G ยังมีฟีเจอร์การรักษาหน้าจอ หรือ Screen Saver คล้ายกับฟังก์ชัน Always On Display ของสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ โดยเลือกได้ว่าจะให้แสดงเป็นนาฬิกา หรือภาพสไลด์จาก Google Photos
ในด้านความปลอดภัย vivo Y76 5G รองรับทั้งการสแกนใบหน้าและลายนิ้วมือ โดยตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะอยู่ที่ปุ่ม Power ทางขวาของตัวเครื่อง เหมาะกับการสแกนด้วยนิ้วโป้ง
vivo Y76 5G มีแอปพลิเคชัน iManager สำหรับปรับปรุงสมรรถนะของตัวเครื่องให้รวดเร็วอยู่เสมอ โดยสามารถล้างข้อมูลที่ไม่จำเป็น, สแกนไวรัส, ตรวจสอบการใช้ข้อมูลเน็ต, จัดการแอปพลิเคชัน และอื่น ๆ เมื่อเปิดแอปขึ้นมา ตัวแอปจะตรวจสอบสถานะการทำงานของระบบทันที หากผลการประเมินต่ำกว่า 100 เราสามารถสั่งให้ระบบจัดการโดยอัตโนมัติได้ในปุ่มเดียว ซึ่งใช้เวลาจัดการเพียงครู่เดียวเท่านั้น
ในเมนู ล้างพื้นที่ จะแสดงการใช้งานหน่วยความจำภายใน และตัวเลือกในการล้างข้อมูลที่ไม่จำเป็น เมื่อกดปุ่ม ล้างข้อมูล ทั้งหมด ระบบจะลบไฟล์ขยะทั้งหมดทันที การลบไฟล์เหล่านี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของตัวเครื่องแต่อย่างใด
ในเมนู การตรวจสอบความปลอดภัย จะเป็นการสแกนหาช่องโหว่ในระบบ และมัลแวร์ต่าง ๆ
ในเมนู การจัดการข้อมูล จะแสดงปริมาณดาต้าอินเทอร์เน็ตที่เราใช้ไปทั้งหมด ทั้งแบบ LTE และ Wi-Fi พร้อมทั้งแสดงสถิติการใช้ปริมาณดาต้าของแต่ละแอปพลิเคชันด้วย
เมนู แอปและการแจ้งเตือน ช่วยให้เราจัดการสิทธิ์การ เข้าถึง และการตั้งค่าอื่น ๆ ของแอปพลิเคชันในเครื่องได้ รวมถึงดูสถิติการใช้งานได้
นอกจากเมนูหลักข้างต้นแล้ว ยังมีเมนูอื่น ๆ ใน เครื่องมือยูทิลิ ตี้ ให้ใช้งานด้วย ซึ่งเมนูการตั้งค่าของ Ultra Game Mode จะอยู่ในส่วนนี้
Ultra Game Mode คือฟีเจอร์สนับสนุนการเล่นเกมของ vivo ที่นอกจากจะปิดกั้นการแจ้งเตือน และการโทรระหว่างเล่นได้แล้ว ยังตั้งค่าการสั่น และคุณภาพเสียงเอฟเฟกต์ในเกมได้ด้วย
โหมด E-Sport จะเป็นโหมดที่ vivo ใช้ในการแข่งขัน E-Sport เกม RoV โดยจะปิดกั้นการแจ้งเตือน, ปิดเกสเจอร์ท่าทาง และล็อคความสว่างหน้าจอ เพื่อให้การเล่นเกมถูกรบกวนน้อยที่สุด
ด้านความบันเทิง vivo Y76 5G มีแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงติดตั้งมาให้แล้ว ซึ่งก็มีอินเทอร์เฟซการใช้งานที่เข้าใจได้ไม่ยาก และมีฟังก์ชันการใช้งานครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นตั้งค่าการสับเปลี่ยนเพลง, วนซ้ำ, ดูเพลย์ลิสต์, ตั้งเป็นเสียงเรียกเข้า เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ยังมีเอฟเฟกต์เสียง DeepField ที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับเสียงเพลง, เพิ่มเบส และปรับ Equalizer ได้
สำหรับการเล่นไฟล์วิดีโอก็มีเครื่องเล่นของตัวเองติดตั้งมาให้แล้วเช่นกัน โดยมีปุ่มลัดในการล็อกการสัมผัสหน้าจอ (รูปแม่กุญแจทางซ้าย), ภ่ายสกรีนช็อต (ปุ่มสี่เหลี่ยมทางขวา), เปิดหน้าตางลอย (ไอคอนสี่เหลี่ยมมุมซ้ายล่าง) และ แผงควบคุมทั่วไป ส่วนการตั้งค่าอื่น ๆ จะอยู่ที่ไอคอนไข่ปลา 3 จุดมุมขวาบน
ในเมนูการตั้งค่าเพิ่มเติม จะมีให้ปรับความสว่างของจอ, ปรับสัดส่วนภาพ, ปรับความเร็วในการเล่น และเปิด/ปิดซับไตเติ้ล (เฉพาะวิดีโอที่มีซับไตเติ้ลมาให้)
สำหรับการเล่นเกม vivo V20 มี Ultra Game Mode ช่วยเร่งประสิทธิภาพของตัวเครื่องขณะเล่นเกม และปิดกัเนการแจ้งเตือนต่าง ๆ สามารถตั้งค่าแยกแต่ละเกมได้อย่างละเอียด และเพิ่มแอปพลิเคชันที่ไม่ใช่เกมเข้ามาใน Ultra Game Mode เพื่อใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ได้ด้วย
สำหรับฟีเจอร์ Ultra Game Mode ใน vivo Y76 5G เป็นเวอร์ชัน 2.0 ซึ่งปรับปรุงการแสดงข้อมูลต่าง ๆ และปรับปรุง UI ให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น โดยมีการแสดงการใช้งาน CPU, GPU และแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ พร้อมทางลัดการสลับโหมดอย่างรวดเร็ว
Ultra Game Mode 2.0 จะมีลูกเล่นระบบสั่น 4 มิติ ที่จะทำให้เครื่องสั่นเมื่อเรากดยิง แต่ในตอนนี้จะใช้งานได้แค่บางเกมเท่านั้น เช่น PUBG Mobile เป็นต้น
หากต้องการปล่อยบอททิ้งไว้ สามารถเปิดโหมดประหยัดพลังงานได้ ในโหมดนี้ตัวเกมจะยังคงเล่นไปเรื่อย ๆ แต่ระบบจะปิดหน้าจอเอาไว้เพื่อประหยัดพลังงาน
ส่วนโหมด E-Sport จะเป็นโหมดที่ช่วยให้ผู้ใช้โฟกัสกับเกมได้มากที่สุด โดยจะปิดการแจ้งเตือนทุกอย่าง พร้อมเร่งประสิทธิภาพตัวเครื่องให้ทำงานอย่างเต็มที่ เหมาะสำหรับแมทช์การเล่นที่จริงจัง
ในการทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมของ vivo Y76 5G ทางทีมงานได้เลือกทดสอบด้วยเกม 3 เกม ได้แก่ PUBG Mobile, Blue Archive และ Figure Fantasy โดยตั้งค่ากราฟิกของตัวเกมไว้ดังนี้ :
การตั้งค่าเกม PUBG Mobile
การตั้งค่าเกม Blue Archive
การตั้งค่าเกม Figure Fantasy
ในการทดสอบ ทางทีมงานได้ลองเล่นทั้ง 3 เกมอย่างต่อเนื่องราว 2 ชั่วโมง ซึ่ง vivo Y76 5G สามารถรับมือกับทั้ง 3 เกมได้อย่างน่าพอใจ แม้ว่าจะปรับกราฟิกได้แค่ระดับกลาง ๆ ก็ตาม ตัวเครื่องมีการตอบสนองต่อการทัชที่ดี สามารถเล็ง และยิงได้อย่างแม่นยำในเกม PUBG Mobile โดยไม่มีการกระตุก หรือหลอน ส่วนเกมแนวอื่นอย่าง Blue Archive และ Figure Fantasy ก็เล่นได้อย่างลื่นไหลที่กราฟิกระดับกลางเช่นกัน แต่ข้อดีก็คือตัวเครื่องแทบไม่ร้อนเลย โดยรวมแล้วทางทีมงานเห็นว่า vivo Y76 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่เล่นเกมได้ดีในระดับกลาง ๆ แม้จะไม่ได้โดดเด่นเรื่องกราฟิกมาก แต่ก็ประหยัดแบตกว่ารุ่นอื่น และไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนครับ
vivo Y76 5G ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 700 แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.2 GHz มีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G57 MC2, หน่วยความจำแรม RAM ขนาด 8 GB มาตรฐาน LPDDR4x และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128 GB
vivo Y76 5G วัดค่า benchmark จากแอปพลิเคชัน GeekBench 5 ในส่วน Single-Core ได้ 549 คะแนน และ Multi-Core 1562 คะแนน และจากแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ได้ 322291 คะแนน
สำหรับเซ็นเซอร์ในเครื่อง vivo Y76 5G นั้นประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor และ Magnetic Sensor ส่วนหน้าจอแสดงผลรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด
การระบุตำแหน่ง และการนำทาง รองรับทั้งระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, Glonass, Galileo และ BeiDou โดยสามารถจับสัญญาณดาวเทียมในที่กลางแจ้งได้ดี อย่างไรก็ดีคุณภาพของสัญญาณดาวเทียมนั้นขึ้นอยู่กับพื้นที่และสภาพอากาศด้วย ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่และช่วงเวลา
การใช้งานกล้องสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ
vivo Y76 5G มีระบบ AI ระบุฉากที่จะวิเคราะห์ และปรับตั้งค่าให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ รองรับการถ่ายรูปแบบโบเก้ (ละลายหลัง) และแบบมาโคร พร้อมด้วยเอฟเฟกต์บิวตี้ที่ปรับแต่งได้อย่างละเอียด
สำหรับกล้องหลังของ vivo Y76 5G เป็นชุดกล้อง 3 ตัว (AI Triple Camera) ประกอบด้วย :
- กล้องหลัก (Wide) ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.8, ทางยาวโฟกัส 26 มิลลิเมตร และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF
- กล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4 และระยะโฟกัส 4 เซนติเมตร
ในโหมด ภาพถ่าย (โหมดอัตโนมัติ) สามารถเลือกปิด หรือเปิดใช้งานการวิเคราะห์ภาพถ่ายด้วย AI ได้ และเปิดใช้ฟิลเตอร์ กับเอฟเฟกต์แสงเพื่อถ่ายรูปคนได้ แต่จะไม่มีเอฟเฟกต์ละลายหลังให้ใช้งาน
หากกดที่ไอคอนรูปดอกไม้ด้านบนจะเข้าสู่โหมด Super Macro ซึ่งมีระยะโฟกัส 4 เซนติเมตร
โหมด ภาพคน สำหรับถ่ายรูป Portrait แบบหน้าชัดหลังเบลอ มีเอฟเฟกต์บิวตี้ให้ปรับหลายอย่าง พร้อมกันนี้ยังมีสไตล์, ฟิลเตอร์ และเอฟเฟกต์แสงให้ใช้งาน และปรับความเบลอของฉากหลังได้ เรียกได้ว่ามีลูกเล่นเยอะมาก ๆ สำหรับโหมดนี้
ใน โหมดกลางคืน นอกจากจะเป็นการถ่ายรูปแสงไฟกลางคืนทั่วไป ยังมีสไตล์ภาพให้ใช้อีก 4 แบบ ที่จะเปลี่ยนอารมณ์ของภาพถ่ายให้แตกต่างออกไป ช่วยให้ถ่ายรูปกลางคืนสนุกยิ่งขึ้น
ในโหมด โปร เราสามารถตั้งค่ากล้องได้ด้วยตนเอง ได้แก่ค่า ISO, Shutter Speed, ชดเชยแสง และ White Balance อีกทั้งยังถ่าย แบบ RAW ได้ด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่มีทักษะการถ่ายรูปอยู่แล้ว
กล้องหน้าของ vivo Y76 5G มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสง f/2.0 สามารถใช้โหมดภาพถ่าย (อัตโนมัติ), ภาพคน (โบเก้) รวมถึงโหมดกลางคืน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 50+2+2 ล้านพิกเซล
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
สรุปผลการทดสอบของ vivo Y76 5G
สำหรับสมาร์ทโฟนของ vivo
สิ่งแรกที่ดึงดูดความสนใจของทีมงานได้เสมอคือดีไซน์ที่สวยงามแฝงความนุ่มละมุน
vivo Y76 5G รุ่นนี้ก็เช่นกัน
ความน่าสนใจของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อยู่ที่ฝาหลังที่สามารถเหลือบแสงได้ทั้งสีส้ม
และสีชมพู บางครั้งยังเหลือบแสงเป็นสีทองได้ด้วย ขณะเดียวกัน
ชุดกล้องหลังที่มีวงแหวนล้อมรอบด้วยดีไซน์แบบ CD Grooves ก็ช่วยเสริมให้ตัวกล้องดูโดดเด่นขึ้นมา
นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นหนึ่งที่ถือใช้งานได้อย่างไม่อายใครแน่นอน
ด้านหน้าจอแสดงผลของ vivo Y76 5G นั้นมีความคมชัด ถ่ายทอดสีสันได้ดี และมีความสว่างพอสมควร สามารถสู้แสงแดดได้บ้าง โดยรวมถือว่าดีทีเดียวสำหรับจอ IPS LCD บนสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 10,000 บาท นอกจากนี้ หน้าจอที่มีความกว้างถึง 6.58 นิ้ว ยังช่วยให้การดูหนัง และการเล่นเกมมีอรรถรสมากขึ้นด้วย
ในเชิงประสิทธิภาพ vivo Y76 5G เลือกใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700 ซึ่งเป็นชิปเซ็ต 5G ระดับกลาง แม้จะไม่ใช่รุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของตระกูล Dimensity แต่ก็ประหยัดพลังงานกว่า ทำให้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น และทรงพลังพอที่จะรับมือกับการใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง, ฟังเพลง, เล่นโซเชียล ไปจนถึงการเล่นเกม สามารถทำได้อย่างลื่นไหลไม่มีกระตุกแต่อย่างใด นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีหน่วยความจำ RAM ขนาด 8 GB ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว แต่ยังสามารถขยายเพิ่มได้อีกถึง 4 GB จากเทคโนโลยี Extended RAM 2.0 รวมเป็น 12 GB จึงมีหน่วยความจำ RAM ให้ใช้งานอย่างเหลือเฟือ เรียกได้ว่าลืมเรื่องเครื่องค้าง หรือเครื่องกระตุกไปได้เลย
vivo Y76 5G มีแบตเตอรี่มีความจุ 4,100 mAh
ถือว่าไม่มากไม่น้อยสำหรับสมาร์ทโฟนระดับนี้
แต่ด้วยความประหยัดพลังงานของชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700
ทำให้ใช้งานข้ามวันได้สบาย ๆ ถ้าไม่เล่นเกมติดต่อกันหลายชั่วโมง
ส่วนเรื่องการชาร์จก็หายห่วงเพราะมีระบบชาร์จไว 44W Flash Charge
ที่ชาร์จไม่ถึงชั่วโมงก็เต็ม 100% แล้ว เรื่องแบตเตอรี่จึงไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
สำหรับการเล่นเกม ถึงแม้ vivo Y76 5G จะโปรโมตตัวเองว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นเล่นเกม แต่จริง ๆ แล้ว ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 700 มีพลังการประมวลผลกราฟิกแค่ในระดับกลาง ๆ เท่านั้น ซึ่งก็เพียงพอต่อการเล่นเกมทั่วไปได้อย่างราบรื่น อย่างไรก็ดี MediaTek Dimensity 700 สามารถจัดการพลังงาน และความร้อนได้ดีกว่าชิปเซ็ตรุ่นอื่น ๆ โดยรวมจึงเหมาะกับการเล่นเกมแบบเรื่อย ๆ ยาว ๆ เสียมากกว่า แต่ถ้าต้องการเล่นแบบปรับสุด กราฟิกจัดเต็ม ก็ยังมีสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่ทำได้ดีกว่าในราคาใกล้เคียงกัน
แม้การเล่นเกมอาจจะไม่โดดเด่นอย่างที่คาดไว้ แต่การถ่ายรูปนั้น vivo Y76 5G
ทำได้ดีเกินคาด ไม่ว่าจะเป็นโทนสีที่สวยงาม, การเก็บรายละเอียด, ความคมชัด
และการวัดแสง ชัตเตอร์จับภาพได้รวดเร็วทันใจ ช่วยให้เราจับภาพ ณ
วินาทีที่ต้องการได้โดยไม่พลาด
ส่วนโหมดกลางคืนที่เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ก็ทำได้ดีเช่นกัน
โดยสามารถเก็บรายละเอียดของภาพได้คมชัด มี Noise น้อยมาก หรืออาจไม่มีเลย
อีกทั้งยังมีสไตล์รูปถ่ายแบบสำเร็จรูปให้ใช้หลายแบบ
ช่วยให้การถ่ายภาพยามค่ำคืนสนุกยิ่งขึ้น นอกจากนี้โหมดกลางคืนยังใช้กับกล้องหน้าได้ด้วย
ซึ่งมีสมาร์ทโฟนไม่มากนักที่จะทำแบบนี้ได้
อย่างไรก็ดี การถ่ายรูปของ vivo Y76 5G ยังมีจุดที่ต้องพิจารณาอยู่บ้าง
อย่างการที่ไม่มีเลนส์ Ultra Wide ให้ใช้, การตัดขอบเบลอในโหมด Portrait
ที่ยังไม่ค่อยเนียนเท่าที่ควร และโหมด Super Macro
ที่ยังต้องอาศัยแสงมากจึงจะได้รูปถ่ายที่มีคุณภาพ
จากทั้งหมดที่กล่าวมานี้ สามารถพูดได้ว่า vivo Y76 5G เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีจุดเด่นด้านการถ่ายรูป และดีไซน์ ส่วนประสิทธิภาพการทำงานอาจไม่สูงที่สุดในคลาส แต่ก็มีจุดเด่นด้านการประหยัดพลังงาน โดยรวมเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปเป็นหลักครับ
สำหรับท่านที่สนใจ vivo Y76 5G จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป ในราคา 9,999 บาท โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ Midnight Space และ สีฟ้า Cosmic Aurora สามารถเป็นเจ้าของกันได้ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศทั่วประเทศ
และสุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ vivo ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง vivo Y76 5G มาให้ทางทีมงานได้รีวิวกันในโอกาสนี้ครับ
จุดเด่นของ vivo Y76 5G
-
ดีไซน์แบบ Ultra Slim ซึ่งตัวเครื่องบาง และเบากว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป โดยมีความบางเพียง 7.79
มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 175 กรัม
- พื้นผิวตัวเครื่องสวยงามด้วยเทคนิคการเคลือบสีแบบ AG Frosted Rear Surface Cover
ให้เอฟเฟกต์เหลือบแสงที่พิเศษกว่ารุ่นอื่น ๆ
- พื้นผิวด้านหลังเป็นผิวด้าน ซึ่งช่วยป้องกันรอยนิ้วมือได้ในระดับหนึ่ง
- ดีไซน์กล้องหลังที่สวยงามโดดเด่นแบบ CD Grooves
- ระบบระบายความร้อนแบบ Five-Dimensional Liquid Cooling System
- หน้าจอแสดงผล IPS LCD Incell ขนาดใหญ่ 6.58 นิ้ว
ความละเอียดระดับ FHD+ (2408x1080 พิกเซล) ที่สามารถสู้แสงแดดได้พอสมควร พร้อมอัตราส่วนการแสดงผลลแบบ 20:9, พื้นที่แสดงผล 90.6%, รองรับช่วงสีแบบ NTSC ได้ 96%, ความสว่างสูงสุด 460 nit และ Eye Protection Mode
- ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 700
ที่สามารถจัดสรรพลังงานได้ดี ไม่กินแบตเตอรี่ และไม่ร้อน
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G57 MC2 สามารถเล่นเกมทั่วไปได้อย่างราบรื่น
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8 GB ที่สามารถขยายเพิ่มได้อีกสูงสุด 4GB (รวมเป็น 12 GB)
ด้วยเทคโนโลยี Extended RAM 2.0
- หน่วยความจำภายใน (ROM) แบบ UFS 2.1 ขนาด 128 GB
- รองรับการการเพิ่มหน่วยความจำด้วยการ์ดแบบ microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 512 GB
- แบตเตอรี่ความจุ 4,100 mAh
พร้อมเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 44W FlashCharge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 70% ภายในเวลา 32 นาที
โดยมีอแดปเตอร์ชาร์จเร็วแถมมาให้ในกล่อง
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11
พร้อมครอบทับด้วย Funtouch OS 12
กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) ประกอบด้วย
- กล้องหลัก (Wide) ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.8, ทางยาวโฟกัส 26 มิลลิเมตร และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF
- กล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4 และระยะโฟกัส 4 เซนติเมตร
พร้อมไฟแฟลช LED, ระบบวิเคราะห์ภาพถ่ายด้วย AI, เอฟเฟกต์เบลอฉากหลัง, โหมด Super Macro สำหรับถ่ายภาพระยะประชิด, Super Night Mode, โหมด Photo, Portrait, Night, Video, 50 MP, Pano, Live Photo, Slow-Mo, Time-Lapse, Pro, AR Stickers, DOC, Double Exposure, รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ FHD 1080P (30 fps), Ultra Steady Video และ Dual-View Video
กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
พร้อมรูรับแสงขนาด f2.0, AI Face Beauty, Smart Softlight Band, Super Night Mode และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ FHD 1080P (30 fps)
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side Mounted Fingerprint Scanner) และฟังก์ชัน Face Unlock
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 5G (SA/NSA), 4G/4G+, 3G, EDGE, GPRS และ Wi-Fi (Dual Band : 2.4/5 GHz)
- รองรับการใช้งานระบบซิมคู่ (Dual SIM) บนถาดซิมการ์ดแบบ Triple Slot
- รองรับการระบุตำแหน่ง และนำทางด้วยระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo และ QNSS
- เชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.1
- พอร์ต USB Type-C พร้อมรองรับการใช้งาน OTG (USB On-The-Go)
- พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- ฟีเจอร์ Multi Turbo
- ฟีเจอร์ Ultra Game Mode บล็อกการแจ้งเตือน Pop-up ต่าง
ๆ พร้อมกับเร่งประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องขณะเล่นเกม
- ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Midnight Space
และ Cosmic Aurora
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ vivo Y76 5G
- หน้าจอเป็นแบบ IPS LCD
- ไม่มีกล้อง Ultra Wide ให้ใช้งาน
- โหมด Super Macro จำเป็นต้องใช้แสงมากเพื่อให้ภาพมีความคมชัด
- ประสิทธิภาพการเล่นเกมยังเป็นรองสมาร์ทโฟนหลายรุ่นในราคาใกล้เคียงกัน
- ลำโพงเสียงเป็นแบบเดี่ยว
- ใช้ถาดซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางผู้ผลิต เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริง รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจถูกแก้ไขให้ดีขึ้นแล้วในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบ หรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่งเพื่อความมั่นใจ *
วันที่ : 14/12/2021