รีวิว vivo Y21 สมาร์ทโฟนแบตใหญ่ชาร์จไว เครื่องไม่ร้อน พร้อม 3 กล้อง และฟีเจอร์เกมเมอร์ ในราคาย่อมเยา
 

6 กันยายน 2021 - ยุคนี้การจะซื้อสมาร์ทโฟนใหม่มาใช้งานสักเครื่อง นอกจากฟีเจอร์จะต้องตอบโจทย์แล้ว ราคาก็ต้องเป็นมิตรด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดนี้ทาง vivo ประเทศไทย ได้เปิดตัวมือถือรุ่นเล็กน้องใหม่จากตระกูล Y-Series ออกมาเพิ่มเติมในชื่อ vivo Y21 ที่มาพร้อมการดีไซน์พรีเมียมเกินราคา และสเปกครบครันทุกการใช้งานในระดับเริ่มต้น ทั้งการทำงาน และโซเชียล ในราคาสบายกระเป๋า

vivo Y21 มาในดีไซน์ทันสมัยด้วยตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 8 มิลลิเมตร แบบ Trendy Slim Design จับถือใช้งานสะดวก พร้อมความเงางามพรีเมียมเกินราคาด้วยเทคนิคการเคลือบผิวสัมผัสแบบใหม่ที่ทำให้มีการไล่เฉดสีเวลาแสงตกกระทบในมุมต่าง ๆ โดย vivo Y21 มีหน้าจอไร้ขอบทรงหยดน้ำแบบ Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว ในอัตราส่วนแบบ 20:9 กับความละเอียดระดับ HD+ และครอบทับหน้าจอด้วยกระจก 2.5D รวมถึงรองรับเทคโนโลยีกรองแสงสีฟ้าที่ช่วยถนอมสายตา

อีกหนึ่งจุดเด่นของ vivo Y21 ก็คือรองรับการใช้งานอย่างต่อเนื่องยาวนานตลอดวันด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 18W Fast Charge ที่ช่วยย่นระยะเวลาในการชาร์จให้เร็วกว่าเดิม รวมถึงรองรับฟังก์ชัน Reverse Charging ในการแปลงเป็น Power Bank ให้กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นอีกด้วย

 

ด้านคุณสมบัติพื้นฐาน เลือกใช้การประมวลผลด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio P35 ที่ทำงานร่วมกับ RAM ขนาด 4GB พร้อมเทคโนโลยี Extended RAM 2.0 ที่สามารถขยาย RAM เพิ่มได้อีก 1GB และมี ROM ให้เลือก 2 ความจุ ได้แก่ 64GB กับ 128GB และมีกล้องถ่ายภาพแบบคู่ AI Dual Camera ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล ซึ่งรองรับโหมดถ่ายภาพบุคคล Portrait และอีกมากมาย ผสานกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มีโหมดหน้าสวย Face Beauty โดยทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ถูกครอบทับด้วย Funtouch OS 11.1

จากข้อมูลในข้างต้นก็กล่าวได้ว่า vivo Y21 มีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หลายด้านเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ตัวเครื่องสุดพรีเมียม พร้อมฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในปัจจุบัน กับราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเริ่มต้นที่เพียง 5,499 บาท ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ที่มีอยู่จะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเพียงใด ไปรับชมรีวิว vivo Y21 พร้อมกันได้เลยค่ะ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

vivo Y21 มาในแพ็กเกจสีขาวสะอาดตา พร้อมชื่อรุ่น และระบุขนาดของ RAM + ROM ไว้อย่างชัดเจนที่มุมบนขวา

ภายในกล่องมีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว vivo Fast Charge (9V/2A), สายเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, เคสใส, เข็มสำหรับถอดถาดซิมการ์ด และคู่มือการใช้งาน

ภาพตัวอย่างการสวมใส่เคสใสที่แถมมาให้ภายในแพ็กเกจ

vivo Y21 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Halo FullView Display (IPS LCD) ขนาด 6.51 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 กับความละเอียดระดับ HD+ (1600x720 พิกเซล : 269 ppi), สัดส่วนการแสดงผล 89% และครอบทับด้วยกระจกขอบโค้งแบบ 2.5D บนตัวเครื่องมีขนาด 164.26x76.08x8.0 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 182 กรัม

ที่ด้านบนหน้าจอมีรอยบากทรงหยดน้ำ สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f2.0) ซึ่งรองรับโหมดถ่ายบุคคล (Portrait) และ Face Beauty สำหรับปรับแต่งใบหน้าของตัวแบบให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ

โดยมีลำโพงสำหรับสนทนาอยู่ถัดด้านบน พร้อมติดตั้งเซนเซอร์ Proximity สำหรับปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนาเพื่อประหยัดพลังงาน กับเซนเซอร์ Ambient Light สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอ และแผงปุ่มกดให้เหมาะสม

พร้อมกับรองรับระบบสแกนใบหน้าแบบ Face Wake ในการปลดล็อกตัวเครื่อง

ด้านหน้าส่วนล่างประกอบด้วย ปุ่มกดแบบ On-Screen ประกอบด้วย ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps

หรือเลือกใช้งานวิธีควบคุมแบบ Gestures ซึ่งเป็นการลาก และปัดบริเวณขอบหน้าจอเพื่อสั่งการได้ด้วย

ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องสำหรับถาดใส่ซิมการ์ด Nano SIM แบบ Triple-Slot โดยรองรับ 2 Nano SIM และ 1 การ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card ได้พร้อมกัน

ที่ด้านล่างประกอบด้วย ลำโพงเสียงตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา และช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีช่อง หรือปุ่มสั่งการใด ๆ

ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มปรับระดับเสียง พร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่เป็นปุ่ม Power ไปในตัว สำหรับล็อกหน้าจอ และเปิด-ปิด เครื่อง

vivo Y21 มีฝาหลังเงางาม โดยสีที่ทางทีมงานนำมารีวิวให้ได้ชมกันนั้นเป็นสี Metallic Blue ที่เป็นการผสมผสานกันระหว่างนวัตกรรมการเคลือบพื้นผิวสีเงิน และการเคลือบพื้นผิวไวแสงคุณภาพสูง โดยสะท้อนเป็นเฉดสีต่าง ๆ กันตามมุมที่แสงตกกระทบ

vivo Y21 มีกล้องหลังแบบคู่ AI Dual Camera โดยแบ่งออกเป็น

- กล้องตัวที่ 1 แบบ Wide (Main) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2 และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 แบบ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4 และระยะโฟกัสใกล้สุด 4 เซนติเมตร

โดยรองรับโหมดถ่ายภาพบุคคล Portrait พร้อม Portrait Light Effect 6 รูปแบบ, โหมด Face Beauty พร้อมฟังก์ชัน Pose Master ในการแนะนำท่าทางในการโพส, โหมด Super HDR ในการปรับแสงของภาพโดยอัตโนมัติ, โหมด Super Macro โฟกัสวัตถุระยะใกล้สุด 4 เซนติเมตร และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD 1080p

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่าง ๆ

vivo Y21 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 11.1 เวอร์ชันใหม่ โดยมี RAM ขนาด 4GB พร้อมเทคโนโลยี Extended RAM 2.0 ที่สามารถขยาย RAM เพิ่มได้อีก 1GB

และสามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมรองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G แบบ Dual 4G LTE

เมื่อกดปุ่ม Recent Apps จะพบกับหน้าแอปพลิเคชันทั้งหมดที่เปิดใช้งานเอาไว้ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกปิดแอปพลิเคชันที่เปิดค้างเอาไว้ได้ เพียงแค่เลื่อนหน้าต่างแอปนั้น ๆ ไปยังด้านบน หรือปิดแอปพลิเคชันทั้งหมดภายในครั้งเดียวได้อย่างง่ายดาย ด้วยการกดปุ่ม Clear all ที่ด้านล่าง

เมื่อกดค้างที่หน้าจอจะเป็นการเข้าสู่เมนูการ ปรับแต่งหน้าจอ โดยผู้ใช้สามารถปรับตำแหน่งของไอคอน พร้อมตั้งค่า Home, Widgets และเปลี่ยน Wallpaper ได้

เมื่อลากจากขอบด้านบนของหน้าจอลงมาจะพบกับ Notification Center ซึ่งเป็นหน้ารวมสำหรับการแสดงแจ้งเตือนต่าง ๆ และเมื่อปัดลงอีกหนึ่งครั้งจะเป็นการขยายหน้าจอ Toggle Switch ปุ่มลัดสำหรับการเปิด-ปิดฟังก์ชัน ต่าง ๆ

โดยผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งตำแหน่งของคีย์ลัด เองได้ด้วย

พร้อมหน้า Jovi Home ผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่มีเมนู Shortcut ทางลัดสำหรับเข้าถึงการเคลียร์พื้นที่จัดเก็บข้อมูล หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ, Suggestions คำแนะนำช่วยเตือนความจำอันชาญฉลาดเกี่ยวกับสภาพอากาศ การเดินทาง และการพักผ่อนในแต่ละวัน, My Services ช่วยจัดสรรกิจกรรมให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แจ้งเตือนการดื่มน้ำ, รายงานสภาพอากาศ และแจ้งเตือนรายการบันเทิงใหม่ ๆ

เมื่อปัดไปทางด้านขวาจากหน้าโฮมสกรีน จะพบกับ Google Discover หน้าที่รวบรวมข่าวสารที่ได้รับความนิยมในโลกออนไลน์ โดยอ้างอิงจากการค้นหาของผู้ใช้

vivo Y21 สามารถปรับตั้งค่าการแสดงผลของหน้าจอได้อย่างหลากหลาย ได้แก่ การปรับความสว่างแบบอัตโนมัติ พร้อมโหมด Eye Protection

รวมถึงการปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอ

และ Dark theme ในการเปลี่ยนพื้นหลังให้กลายเป็นสีดำ

ในส่วนของการตั้งค่า Lock Screen & Wallpaper สามารถเปลี่ยนธีม และภาพพื้นหลังได้

สามารถเลือกใช้งานปุ่ม Navigation Buttons ที่สามารถปรับตามความถนัดของผู้ใช้

หรือเลือกใช้งานวิธีควบคุมแบบ Navigation Gestures ซึ่งเป็นการลาก และปัดบริเวณขอบหน้าจอเพื่อสั่งการได้ ให้เหมาะกับการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนได้

vivoShare สามารถโอนถ่ายข้อมูลทั้งหมดในเครื่องเก่าไปยังโทรศัพท์เครื่องใหม่ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่คลิกเดียว และแชร์ภาพยนตร์ หรือเพลงให้เพื่อนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของ vivo Y21 มีทั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side Fingerprint) โดยสามารถตั้งค่าการใช้งานเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือสำหรับปลุกการทำงานของเครื่อง หรือปลดล็อกหน้าจอได้ พร้อมทั้งสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ ซึ่งจากการทดสอบตัวเซนเซอร์ก็สามารถปลดล็อกหน้าจอได้รวดเร็วทันใจ

และระบบการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Wake) ที่สามารถปลดล็อกได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถลงทะเบียนได้เพียง 1 ใบหน้าเท่านั้น

vivo Y21 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh พร้อม vivo Energy Guardian(VEG) ระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ ที่ช่วยยืดเวลาในการใช้งานให้นานยิ่งขึ้น และโหมดประหยัดพลังงานแบบ Battery Saver ที่เมื่อเปิดใช้งานสัญลักษณ์แบตเตอรี่จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม พร้อมสัญลักษณ์ + ที่ด้านใน พร้อมปรับการแสดงผลให้เป็น Dark Mode

รวมถึงรองรับฟังก์ชัน Reverse Charging ในการแปลงเป็น Power Bank ให้สมาร์ทโฟนเครื่องอื่นผ่านสาย OTG (วางจำหน่ายแยก)

และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 18W Fast Charge ที่ช่วยย่นระยะเวลาในการชาร์จให้เร็วยิ่งขึ้น

สามารถเปลี่ยนรูปแบบ Animation ได้ที่ Dynamic effect ไม่ว่าจะเป็น การเข้าสู่หน้า Home, การสแกนใบหน้า และการชาร์จ

รองรับฟังก์ชัน App Clone สำหรับโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน ซึ่งในเบื้องต้นนั้นสามารถโคลนนิ่งได้เฉพาะแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์ก เช่น Facebook และ Line จึงทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินแอปพลิเคชันเหล่านี้ได้พร้อมกันถึง 2 แอคเคานท์

สามารถบันทึกภาพสกรีนช็อตแบบยาวได้

และมีฟังก์ชัน Screen-Split ที่สามารถแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานสองแอปพลิเคชันได้พร้อม ๆ กัน โดยรองรับทั้งในแนวตั้ง และแนวนอน

vivo Y21 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Ultra Game Mode ซึ่งเป็นโหมดพิเศษที่ถูกออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ พร้อมรองรับระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม ป้องกันปัญหาเฟรมเรตตกระหว่างเล่นเกมได้ดีขึ้น และฟังก์ชัน 4D Game Vibration ในการสั่นตามเหตุการณ์ในเกม ซึ่งช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับการเล่นเกมอีกด้วย

รวมถึงป้องกันการโดนขัดจังหวะขณะเล่นเกม ยกตัวอย่างเช่น การโชว์เบอร์โทรสายเรียกเข้าในรูปแบบ Pop-up เท่านั้น ทำให้เกมไม่ถูกสลับไปยังหน้ารับสายสนทนา

สำหรับเซนเซอร์ในเครื่อง vivo Y21 นั้นประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor และ Magnetic Sensor

การระบุตำแหน่ง และการใช้งานระบบนำทางนั้นรองรับได้ทั้งระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, BeiDou, Glonass และ Galileo

vivo Y21 มาพร้อมชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio P35 แบบ 8-แกน (Octa-Core) มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.3 GHz โดยมีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) IMG PowerVR GE8320, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB + เทคโนโลยี Extended RAM 2.0 อีก 1GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB ที่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 1TB และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับด้วย Funtouch OS 11.1 เวอร์ชันใหม่

และ vivo Y21 รองรับเทคโนโลยี Multi-Turbo 5.0 สำหรับเร่งการประมวลผลด้านต่าง ๆ ของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น CPU, กราฟิก และการเล่นเกม, การเชื่อมต่อเครือข่าย และการจัดการความร้อน

รวมถึงระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวทั้ง 4 ส่วน ประกอบไปด้วย Graphite Cooling Plate, High Heat Conductivity Copper Foil, Heat Conductive Gel และ Cooling Turbo Intelligent Heat Dissipation Management System

vivo Y21 มีผลทดสอบจากแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ที่ 108,652 คะแนน และจากทาง Geekbench 5 ในด้านการประมวลผลแบบแกนเดี่ยว (Single-Core) ที่ 169 คะแนน และในด้านการประมวลผลหลายแกน (Multi-Core) ที่ 880 คะแนน

สำหรับผลทดสอบการประมวลผลด้านกราฟิกจากแอปพลิเค ชัน 3DMark แบบ OpenGL ES 3.1 อยู่ที่ 461 คะแนน

vivo Y21 รองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด

จากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสาม มิติอย่าง Marvel Future Fight, A3 : Still Alive และ League of Legends : Wild Rift ก็พบว่า vivo Y21 นั้นสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี มีความลื่นไหลกับกราฟิกระดับกลาง และจะมีการหน่วงให้ได้เห็นบ้างเล็กน้อยเมื่อเปิดกราฟิกในระดับสูงสุด

และสามารถเล่นได้ยาวนานต่อเนื่องด้วยแบตเตอรี่ ความจุ 5000 mAh อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charge ที่ช่วยย่นระยะเวลาในการชาร์จให้เร็วยิ่งขึ้น แต่ก็มีการสะสมความร้อนให้รู้สึกได้บ้างเมื่อใช้งานเวลานาน หรือใช้งานขณะชาร์จ แต่ก็เพียงอุ่นมือเท่านั้น

vivo Y21 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล Halo FullView Display (IPS LCD) ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (1600x720 พิกเซล : 269 ppi) มีสัดส่วนการแสดงผล 89% ในอัตราส่วนแบบ 20:9 จึงสามารถรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มอรรถรส และให้มุมมองที่กว้างเต็มตาเป็นพิเศษ อีกทั้งยังใช้งานได้ยาวนาน ด้วยเทคโนโลยีกรองแสงสีฟ้า ที่ช่วยถนอมสายตา

การใช้งานกล้องสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ

vivo Y21 มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ AI Dual Camera โดยแบ่งออกเป็น

- กล้องตัวที่ 1 แบบ Wide (Main) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2 และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 แบบ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4 และระยะโฟกัสใกล้สุด 4 เซนติเมตร

โดย Interface ของแอปพลิเคชันกล้องมีการดีไซน์เรียบหรู สบายตา และมีเมนูให้ได้เลือกใช้อย่างชัดเจน ซึ่งรองรับฟังก์ชันพื้นฐานครบครัน

รองรับการถ่ายภาพบุคคล Portrait Bokeh สำหรับเบลอฉากหลัง

พร้อม Portrait Light Effect ทั้งหมด 6 รูปแบบ โดยจะเป็นการจัดแสงรูปแบบต่าง ๆ ที่ให้อารมณ์แตกต่างกันออกไป

พร้อมโหมด Face Beauty ปรับให้ผิวเนียนสวยเป็นธรรมชาติ

และฟังก์ชัน Pose Master ในการแนะนำท่าโพสที่สวยงามให้กับผู้ถ่าย

รวมถึงการถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตรในโหมด Super Macro

โดย vivo Y21 รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD 1080p

ทางด้านกล้องหน้า vivo Y21 มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f2.0)

โดยรองรับโหมดถ่ายภาพบุคคล Portrait Bokeh ปรับฉากหลังให้เบลอ

พร้อม Portrait Light Effect การแต่งแสงแบบต่าง ๆ ทั้งหมด 6 รูปแบบ

รองรับโหมด Face Beauty ปรับผิวให้เนียนสวยเป็นธรรมชาติ

พร้อมฟังก์ชัน Pose Master ในการแนะนำท่าโพสสำหรับการเซลฟี่ที่สวยงามให้กับผู้ถ่าย

รองรับการบันทึกวิดีโอด้วยกล้องหน้าความละเอียด สูงสุดที่ระดับ Full HD 1080p

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังคู่ AI Dual Camera ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล ของ vivo Y21

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait Bokeh

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Natural Light

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Studio Light

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Stereo Light

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Loop Light

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Rainbow Light

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Monochrome Background

ภาพถ่ายจากโหมด Super Macro

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลของ vivo Y21

ภาพถ่ายเซลฟี่ในโหมดปกติ

ภาพถ่ายเซลฟี่ในโหมด Face Beauty

ภาพถ่ายเซลฟี่ในโหมด Portrait Bokeh

ภาพถ่ายเซลฟี่จากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Natural Light

ภาพถ่ายเซลฟี่จากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Studio Light

ภาพถ่ายเซลฟี่จากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Stereo Light

ภาพถ่ายเซลฟี่จากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Loop Light

ภาพถ่ายเซลฟี่จากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Rainbow Light

ภาพถ่ายเซลฟี่จากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Monochrome Background

สรุปผลการทดสอบของ vivo Y21

จากที่มีโอกาสได้ใช้งาน vivo Y21 มาระยะหนึ่งก็พอจะสรุปได้ว่า vivo Y21 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีความน่าสนใจในช่วงงบ 5,000 บาท ด้วยการดีไซน์พรีเมียมเทียบชั้นรุ่นใหญ่แบบ Trendy Slim Design ที่มีตัวเครื่องบาง 8 มิลลิเมตร พร้อมฝาหลังเงางามเรียบหรูด้วยเทคโนโลยีการเคลือบผิวสัมผัสแบบใหม่ ที่ทำให้เกิดการไล่เฉดตามมุมที่แสงตกกระทบ ซึ่งเพิ่มความพรีเมียมในขณะถือได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังตอบโจทย์สายบันเทิงด้วยหน้าจอไร้ขอบแบบ Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว ที่มีความคมชัดระดับ HD+ ในอัตราส่วนแบบ 20:9 กับพื้นที่แสดงผล 89% จึงรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มตาเต็มอารมณ์ และรับชมได้ยาวนานโดยไม่ต้องกังวลเพราะมาพร้อมกับเทคโนโลยีกรองแสงสีฟ้าที่ช่วยถนอมดวงตาขณะใช้งานนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือสำหรับปลดล็อกหน้าจอที่ด้านข้างตัวเครื่อง รวมถึงรองรับระบบสแกนใบหน้าด้วยเช่นกัน

 

vivo Y21 ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องตลอดวันด้วยแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 5000 mAh พร้อม vivo Energy Guardian (VEG) ระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ ที่ช่วยยืดเวลาในการใช้งานให้นานยิ่งขึ้น และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 18W Fast Charge ที่ช่วยย่นระยะเวลาในการชาร์จให้เร็วกว่าเดิม รวมถึงรองรับฟังก์ชัน Reverse Charging ในการแปลงเป็น Power Bank ให้สมาร์ทโฟนเครื่องอื่นผ่านสาย OTG (วางจำหน่ายแยก)

ภายในประมวลผลการทำงานต่าง ๆ ด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio P35 รองรับเทคโนโลยี Multi-Turbo 5.0 สำหรับเร่งการประมวลผลด้านต่าง ๆ ของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น CPU, กราฟิก และการเล่นเกม, การเชื่อมต่อเครือข่าย และการจัดการความร้อน รวมถึงระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว ที่ช่วยให้ตัวเครื่องไม่ร้อนเกินไปขณะใช้งาน โดยทำงานร่วมกับ RAM ขนาด 4GB ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Extended RAM 2.0 ที่สามารถขยาย RAM เพิ่มได้อีก 1GB จากพื้นที่ ROM จึงสามารถใช้งานแบบ Multi-Task รวมถึงเล่นเกมที่เน้นกราฟิก 3 มิติในระดับกลางได้อย่างลื่นไหล ซึ่งมี ROM ให้ได้เลือกใช้งาน 2 ความจุ ได้แก่ 64GB กับ 128GB โดยสามารถใส่การ์ด microSD Card ได้อีกสูงสุดที่ขนาด 1TB

 

vivo Y21 มีระบบกล้องหลังแบบคู่ AI Dual Camera ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องรองแบบ Super Macro Camera ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่รองรับโหมดถ่ายภาพครบครัน ทั้งการถ่ายภาพบุคคล Portrait, การถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ Bokeh พร้อม Portrait Light Effect ทั้งหมด 6 รูปแบบ สำหรับปรับเปลี่ยนอารมณ์ของภาพให้ต่างกันออกไป, โหมด Face Beauty สำหรับปรับแต่งใบหน้าของตัวแบบให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ รวมถึงฟังก์ชัน Pose Master แนะนำท่าทางในการโพส, โหมด Super HDR ในการปรับแสงของภาพโดยอัตโนมัติ, โหมด Super Macro โฟกัสวัตถุระยะใกล้สุด 4 เซนติเมตร และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD 1080P สำหรับกล้องหน้ามีความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล ที่รองรับโหมด Face Beauty ซึ่งช่วยปรับผิวให้สวยเป็นธรรมชาติ พร้อม Pose Master ในการแนะนำท่าโพสที่สวยงามให้กับผู้ถ่าย และโหมดถ่ายภาพบุคคล Portrait พร้อม Portrait Light Effect ทั้งหมด 6 รูปแบบเหมือนกล้องหลัง

 

vivo Y21 ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่คอรบทับด้วย Funtouch OS 11.1 เวอร์ชันใหม่ โดยมากับ UI/UX ดีไซน์เรียบหรูสบายตา พร้อมโหมด Dark theme ในการปรับการแสดงผลพื้นหลังหน้าจอให้เป็นสีดำสำหรับใช้งานในที่มืดได้อย่างสบายตา นอกจากนี้ยังตอบโจทย์การใช้งานด้านความบันเทิงโดยเฉพาะการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี ด้วยฟีเจอร์เอาใจเกมเมอร์อย่าง Ultra Game Mode โหมดพิเศษที่ถูกออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น การโชว์เบอร์โทรสายเรียกเข้าในรูปแบบ Pop-Up เท่านั้น ทำให้เกมไม่ถูกสลับไปยังหน้ารับสายสนทนา และการย่อขนาดคีย์บอร์ดภายในเกมให้มีขนาดเล็กลง เพื่อป้องกันปัญหาคีย์บอร์ดบดบังการแสดงผล นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม และป้องกันปัญหาเฟรมเรตตกระหว่างเล่นเกมได้ดีขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์ 4D Game Vibration ในการสั่นตามเหตุการณ์ในเกม ซึ่งช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับการเล่นเกมนั่นเอง

vivo Y21 มีตัวเลือก 2 สี  2 สไตล์ ได้แก่ Diamond Glow และ Metallic Blue โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2564 เป็นต้นไป ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย โดยมีราคา และช่องทางจัดจำหน่ายดังนี้

- vivo Y21 รุ่น 4GB+64GB ราคา 5,499 บาท วางจำหน่ายที่ร้าน vivo Brand Shop ทุกสาขา, ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ, ผู้ให้บริการเครือข่าย (AIS, truemove H และ dtac) รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่ vivo Official store ( lazada, Shopee, JD Central และ Thisshop)
- vivo Y21 รุ่น 4GB+128GB ราคา 6,199 บาท วางจำหน่ายที่ร้านค้าชั้นนำ ได้แก่ BaNANA, IT City | CSC, TG Fone, Jaymart, Kingkong, BKK, Big C, Maxlink, Power buy ,Lotus , STAMP, Advice,  แม่วังสื่อสาร, PTE, Boonchai และ Power Mall

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง vivo ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง vivo Y21 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีค่ะ

จุดเด่นของ vivo Y21

- ตัวเครื่องดีไซน์พรีเมียมด้วยเทคนิคการเคลือบพื้นผิวใหม่ล่าสุด ที่ช่วยให้เกิดความเงางาม พร้อมการไล่เฉดสีแบบใหม่
- ตัวเครื่องสี Diamond Glow ใช้พื้นผิวที่ออกแบบด้วยนวัตกรรมล่าสุด เหมือนเพชรที่เจียระไนอย่างประณีต ส่องแสงประกายให้ความหรูหรา และความรู้สึกสบายตา
- ตัวเครื่องสี Metallic Blue ใช้การผสมผสานระหว่างนวัตกรรมการเคลือบพื้นผิวสีเงิน และการเคลือบพื้นผิวไวแสงคุณภาพสูง ทำให้สีเงินอมม่วงนี้โดดเด่นด้วยความแวววาวที่เปลี่ยนไปตามแสง และการเคลื่อนไหว
- ระบบระบายความร้อนแบบ 4 ส่วน ประกอบด้วย Graphite Cooling Plate, High Heat Conductivity Copper Foil, Heat Conductive Gel และ Cooling Turbo Intelligent Heat Dissipation Management System
- หน้าจอแสดงผลแบบ Halo FullView Display (IPS LCD) ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ พร้อมเทคโนโลยี In-Cell, อัตราส่วนแบบ 20:9, พื้นที่แสดงผล 89% และครอบทับด้วยกระจกขอบโค้งแบบ 2.5D
- ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio P35 (MT6765) ความเร็ว 2.35 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) PowerVR GE8320
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB พร้อมเทคโนโลยี Extended RAM 2.0 ที่สามารถขยาย RAM เพิ่มได้อีก 1GB ด้วย Internal Storage (ROM)
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB หรือ 128GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 1TB
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 พร้อมครอบทับด้วย Funtouch OS 11.1
- แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh พร้อมระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ vivo Energy Guardian (VEG)
- รองรับเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 18W Fast Charge และฟังก์ชัน Reverse Charging สำหรับแปลงเป็น Power Bank ให้กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นผ่านสาย OTG (วางจำหน่ายแยก)

กล้องด้านหลังแบบคู่ (AI Dual Camera) ประกอบด้วย

- กล้องตัวที่ 1 แบบ Wide (Main) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2 และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 แบบ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4 และระยะโฟกัสใกล้สุด 4 เซนติเมตร

โดยมีไฟแฟลช LED ในตัว พร้อมรองรับโหมดถ่ายบุคคล Portrait กับ Portrait Light Effect ทั้งหมด 6 รูปแบบ, โหมด Face Beauty สำหรับปรับแต่งใบหน้าของตัวแบบให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ รวมถึงฟังก์ชัน Pose Master แนะนำท่าทางในการโพส, โหมด Super HDR ในการปรับแสงของภาพโดยอัตโนมัติ, โหมด Super Macro โฟกัสวัตถุระยะใกล้สุด 4 เซนติเมตร และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD 1080P

กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

พร้อมรูรับแสงขนาด f2.0, รองรับโหมด Face Beauty ปรับผิวให้สวยเป็นธรรมชาติ, Pose Master ในการแนะนำท่าโพสที่สวยงามให้กับผู้ถ่าย, โหมดถ่ายภาพบุคคล Portrait พร้อม Portrait Light Effect ทั้งหมด 6 รูปแบบ และการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD 1080P

- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side Mounted Fingerprint Sensor) พร้อมระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Wake) 
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE, GPRS และ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5.0 GHz)
- เชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.0
- ระบุตำแหน่ง และนำทางด้วยระบบดาวเทียม GPS+A-GPS ของประเทศสหรัฐอเมริกา, GLONASS ของประเทศรัสเซีย, Beidou ของประเทศจีน และ GALILEO ของสหภาพยุโรป
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C พร้อมรองรับ OTG (USB On-the-Go)
- พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- ฟังก์ชัน Multi-Turbo 5.0
- ฟีเจอร์ Ultra Game Mode พร้อมฟังก์ชัน Game Picture-in-Picture, Do Not Disturb, Esports Mode และ 4D Game Vibration
- ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ Jovi Home
- ฟังก์ชัน Easy Share
- แอปพลิเคชัน iManager
- วิทยุ FM ในตัว
- ฟังก์ชัน App Clone สำหรับใช้งานแอปพลิเคชันประเภทโซเชียลมีเดียได้พร้อมกัน 2 แอคเคานท์
- รุ่น RAM 4GB+ROM 64GB ราคา 5,499 บาท และรุ่น RAM 4GB+ROM 128GB ราคา 6,199 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ย่อมเยา จับต้องได้ง่าย

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ vivo Y21

- หน้าจอแสดงผลมีความละเอียดที่ระดับ HD+ ซึ่งอาจไม่มากนักเมื่อเทียบกับขนาดที่ใหญ่ถึง 6.51 นิ้ว
- ลำโพงเสียงเป็นแบบเดี่ยว
- ไม่มีกล้องมุมกว้างพิเศษ หรือ Ultra Wide

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ vivo Y21 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้

สรุปคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ vivo Y21 4GB+64GB
สรุปคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ vivo Y21 4GB+128GB

 

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางผู้ผลิต เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบ หรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

วันที่ : 06/09/2021