รีวิว vivo V29e 5G สมาร์ตโฟนออร่าพอร์ตเทรตใหม่ ใส่ไฟวงแหวน 360° พร้อมกล้องหน้าโฟกัสอัตโนมัติ จอ 120Hz E4 AMOLED สวยลื่น เมมเยอะ บนดีไซน์หรูบางเฉียบ ในราคา 11,999 บาท
คงพอจะยังจำกันได้ เมื่อราว 2 เดือนที่ผ่านมา vivo
V29 5G
นั้นเพิ่งจะเปิดตัว และวางจำหน่ายในประเทศไทยไปสด ๆ ร้อน ๆ
โดยมากับจุดเด่นเรื่องไฟแฟลชวงแหวน Aura Light Portrait 2.0
ที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับการถ่ายรูปแนวพอร์ตเทรตบนสมาร์ตโฟนได้เป็นอย่างดี
และในช่วงสิ้นเดือนตุลาคมนี้เอง ก็มีการเปิดตัว vivo V29e 5G
ตามออกมาอีกรุ่น ในฐานะสมาร์ตโฟนออร่าพอร์ตเทรตรุ่นน้องที่มีความสามารถครบเครื่องไม่แพ้กัน
แต่มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเพียงแค่ระดับหมื่นต้น ๆ
vivo V29e 5G นั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่สืบทอดตัวตนของรุ่นพี่อย่าง vivo V29 5G มาอย่างเต็มเปี่ยม ด้วยไฟวงแหวน Aura Light Portrait 2.0 ที่สามารถปรับอุณหภูมิของแสงไฟได้ตั้งแต่โทนอุ่นไปจนถึงโทนเย็น พร้อม AI ปรับโทนแสงให้เข้ากับบรรยากาศโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ภาพถ่ายมีแสงที่ดูกลมกลืน เป็นธรรมชาติ และสวยงามไม่แพ้รุ่น V29 5G
สำหรับชุดกล้องด้านหลังของ vivo V29e 5G นั้นมีการเปลี่ยนไปใช้เซนเซอร์รับภาพรุ่นใหม่ที่มีความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่สูงกว่ารุ่นพี่ที่มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Pixel-Binning ที่ช่วยให้รับแสงได้มากขึ้น เพิ่มความคมชัดในที่แสงน้อย ประกบด้วยกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สำหรับการถ่ายรูปในมุมกว้างพิเศษ พร้อมด้วยระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS, ระบบ AI วิเคราะห์ฉาก และเอฟเฟกต์โบเก้หลังละลายแบบครบครัน ขณะเดียวกัน กล้องหน้ายังมีความละเอียดมากถึง 50 ล้านพิกเซล เท่ากับกล้องหน้าของ vivo V29 5G เลยทีเดียว และยังมาพร้อมกับระบบโฟกัสอัตโนมัติอีกด้วย
นอกจากเรื่องกล้องแล้ว vivo V29e 5G
ยังมากับคุณสมบัติในด้านอื่นที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผลแบบ FHD+ E4 AMOLED ที่ลื่นไหลเนียนตาระดับ 120Hz, ชิปเซ็ต Snapdragon 695,
รองรับการใช้งานร่วมกับเครือข่าย 5G, หน่วยความจำ RAM ขนาดใหญ่ 12GB, ระบบชาร์จไว 44W FlashCharge, ตัวเครื่องที่ถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียว ซึ่งมีทั้งความเรียบหรู และบางเฉียบ รวมทั้งมีคุณสมบัติของการทนน้ำ-ทนฝุ่นในระดับ IP54 อีกด้วย
มาถึงตรงนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมใน รีวิว vivo V29e
5G โดยทีมงาน Thaimobilecenter กันได้เลยครับ
ดีไซน์ภายนอก และสัมผัสการใช้งาน
vivo V29e 5G
ยังคงมาในดีไซน์ที่เรียบหรูพรีเมียมตามแบบฉบับของ vivo โดยมีให้เลือก 2
สีด้วยกันคือสีฟ้ากลาเซียร์
(Ice Creek Blue) ซึ่งมีลวดลายเกล็ดน้ำแข็ง 3 มิติบนพื้นผิวชั้นใน
ให้ความรู้สึกเย็น สดชื่น
และสีดำฟอเรสท์ (Forest Black)
ซึ่งเป็นสีดำด้าน ซ่อนลวดลายระยิบระยับแบบกลิตเตอร์ และทนทานต่อการขีดข่วน
กับป้องกันรอยนิ้วมือได้
ตัวเครื่องด้านหน้าเป็นหน้าจอ E4 AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ ที่มีอัตราการรีเฟรชสูงสุดระดับ 120Hz ส่วนกล้องหน้าแบบเจาะรูด้านบนมีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/2.0) ซึ่งถือว่าเป็นความละเอียดที่สูงมากทีเดียวเมื่อเทียบกับกล้องหน้าของสมาร์ตโฟนรุ่นอื่น ๆ ในตลาดตอนนี้
เฟรมรอบตัวเครื่องของ vivo V29e 5G เป็นสันแบน เมื่อดูจากด้านข้างจะตัวเครื่องค่อนข้างบาง โดยบางเพียง 7.69 มิลลิเมตร ซึ่งปุ่มล็อกหน้าจอกับปุ่มปรับเสียงจะอยู่ที่ด้านขวา
ที่ขอบด้านบนของตัวเครื่องมีไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างจะมีช่องลำโพง, พอร์ต USB-C, ไมโครโฟนตัวหลัก
และช่องใส่ซิมการ์ด โดยระบบเสียงจะออกจากช่องลำโพงด้านล่างแค่ทางเดียว
(Mono) ซึ่งเป็นลำโพงขนาดใหญ่แบบ SK16 ที่มาพร้อมกับฟังก์ชัน Audio Booster
สำหรับถาดใส่ซิมการ์ดจะเป็นแบบ Dual-Slot ที่ใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM ได้พร้อมกัน 2 ใบ แต่ไม่รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD หรือแบบอื่น ๆ
ส่วนอุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่องจะเป็นเคสใส, ฟิล์มกันรอย (ติดตั้งมาให้แล้ว), คู่มือการใช้งาน, ใบรับประกัน, เข็มถอดถาดใส่ซิม, สาย USB-C และอแดปเตอร์ชาร์จไวแบบ 44W FlashCharge
กล้องหลัง 64MP Aura Light Portrait 2.0 และระบบกันสั่น OIS
ในส่วนมอดูลกล้องหลังของ vivo V29e 5G จะเป็นกล้องคู่ โดยมีไฟแฟลชแบบวงแหวน Aura Light Portrait 2.0 และแฟลช LED ปกติอีกดวงหนึ่ง โดยกล้องแต่ละตัวมีคุณสมบัติดังนี้
- กล้อง Wide ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/1.79, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ และระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.2
รวมทั้งมีวงแหวน Aura Light Portrait 2.0 (2-Tone Aura Light) ที่ให้แสงแบบ 360° (ปรับอุณหภูมิสีได้ตั้งแต่ 1800-4500 เคลวิน), โหมด 2x Professional Portrait, เอฟเฟกต์โบเก้, รองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดระดับ 1080P FHD (60fps) และแอปพลิเคชัน VLOG
ไฟวงแหวน Aura Light Portrait 2.0 ของรุ่นนี้จะมีขนาดใหญ่พอ ๆ กับไฟวงแหวนของรุ่น V29 5G และปรับโทนสีของไฟได้เช่นเดียวกัน โดยปรับได้ตั้งแต่ 1800 เคลวิน (อุ่น) จนถึง 4500 เคลวิน (เย็น) สามารถปรับแสงให้เข้ากับบรรยากาศได้โดยอัตโนมัติ หรือผู้ใช้จะปรับเองก็ได้ ช่วยให้ตัวแบบดูสว่างอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อถ่ายภาพในที่แสงน้อย และที่สำคัญ แสงออร่า 2.0 ยังมีความนุ่มนวลกว่าแฟลชปกติ จึงไม่ต้องกลัวว่าถ่ายออกมาแล้วแสงจะแข็งกระด้าง
ตัวอย่างรูปถ่ายจากโหมดพอร์ตเทรต
ตัวอย่างรูปถ่ายจากโหมดพอร์ตเทรตพร้อมไฟ Aura Light Portrait 2.0
ตัวอย่างรูปถ่ายจากโหมดอัตโนมัติ
ตัวอย่างรูปถ่ายจากกล้อง Ultra Wide
ตัวอย่างรูปถ่ายจากโหมดกลางคืน
กล้องหน้าความละเอียดสูง 50MP พร้อมระบบโฟกัสอัตโนมัติ
กล้องหน้าของ vivo V29e 5G ก็มีความสามารถโดดเด่นไม่แพ้กล้องหลัง โดยมีความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนรุ่นอื่น ๆ และมีระบบโฟกัสอัตโนมัติที่จะจับไปที่ใบหน้าของเราตลอดเวลา ทำให้ใบหน้าคมชัดเสมอ
นอกจากนี้ กล้องหน้าของ vivo V29e 5G ยังมีระบบแสงแฟลชจากหน้าจอสำหรับการถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อย แต่จะไม่สามารถปรับโทนสีของแสงได้เหมือนกับ vivo V29 5G
และยังมีโหมดการถ่ายรูป และวิดีโอแบบกลุ่มด้วยกล้องหน้า ซึ่งสามารถขยายมุมรับภาพได้กว้างสุด 92° ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่เป็นหมู่คณะได้โดยไม่เกิดอาการภาพเบี้ยวบริเวณขอบ พร้อมด้วยระบบโฟกัสอัตโนมัติ
ตัวอย่างรูปถ่ายเซลฟี่จากกล้องหน้า
ประสิทธิภาพ, ระบบพื้นฐาน และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สำหรับคุณสมบัติ และประสิทธิภาพการทำงานโดยทั่วไปของ vivo V29e 5G นั้นเลือกใช้ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 ความเร็วสูงสุด 2.2 GHz ซึ่งจัดเป็นชิปเซ็ตระดับกลางบน (Upper-Midrange) ที่มีประสิทธิภาพสูงพอสมควร ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไป และความบันเทิงได้อย่างลื่นไหล รวมไปถึงการเล่นเกม
สำหรับหน่วยความจำภายใน vivo V29e 5G รุ่นที่นำมารีวิวให้ชมกันนี้มากับหน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 256GB ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปจริง ๆ หน่วยความจำอาจจะเต็มเร็ว และรุ่นนี้ไม่รองรับการใส่การ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD หรือแบบอื่น ๆ ได้ จึงอาจจะต้องย้ายรูปลงคอมพิวเตอร์เป็นพัก ๆ
ส่วนซอฟต์แวร์ภายในจะเป็นระบบปฏิบัติการ
Funtouch OS 13 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก Android 13
สามารถทำงานเข้ากับตัวชิปเซ็ต Snapdragon 695 ได้อย่างไม่มีปัญหา
จากการทดสอบใช้งาน ยังไม่พบบั๊ก หรืออาการกระตุกแต่อย่างใด
นอกจากนี้ vivo V29e 5G ยังมีระบบ Extended RAM 3.0 ที่ช่วยเพิ่ม RAM ได้อีก 8GB รวมเป็น 20GB ซึ่งในแง่การใช้งานจริง RAM 12GB ที่ติดมากับเครื่องนั้นก็ถือว่าเยอะมากจนเหลือใช้แล้ว ยิ่งได้ RAM เพิ่มมาอีกแบบนี้ รับรองว่าเหลือเฟือแน่นอน ไม่ต้องกังวลว่า RAM จะไม่พอ
หลังจากพูดถึงไฮไลท์สำคัญกันไปหมดแล้ว เราก็มาดูฟีเจอร์เสริมอื่น ๆ ที่น่าสนใจของ vivo V29e 5G กันบ้าง
ตรวจสอบคุณภาพอากาศ (AQI) แบบ Real-time ได้โดยตรงด้วยแอปสภาพอากาศ
การเข้ารหัสแอป และซ่อนแอป ล็อกแอปที่ต้องการไม่ให้ใครมายุ่มย่ามด้วยการตั้งรหัสเช้าใช้งาน หรือซ่อนจากหน้าจอหลัก
โคลนแอป
แยกร่างแอปโซเชียลอย่าง Facebook ให้ใช้งานได้ 2 บัญชีในเครื่องเดียว
เพื่อให้เห็นประสิทธิภาพของชิปเซ็ตรุ่นนี้ชัดเจนขึ้น vivo V29e 5G สามารถทำคะแนน Benchmark บน AnTuTu ได้ 454780 คะแนน
และเมื่อทดสอบประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลด้วยแอปพลิเคชัน Geenbench 6 พบว่าได้ 899
คะแนนสำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 2133 คะแนนสำหรับการประมวลผลแบบ
Multi-Core
โดยรวมถือว่ามีประสิทธิภาพสูงพอสมควรสำหรับสมาร์ตโฟนระดับกลาง
ประสิทธิภาพด้านการเล่นเกม
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพด้านการเล่นเกม เพื่อให้เหมาะสมกับคุณสมบัติของตัวเครื่อง ทางทีมงานได้เลือกใช้เกมที่มีกราฟิกระดับกลาง และได้รับความนิยมสูงอย่าง PUBG Mobile และ Ragnarok Origin
จากการทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile ที่ระดับกราฟิก HD เฟรมเรตสูง พบว่า vivo V29e 5G สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลตลอดทั้งเกม โหลดฉาก และโหลดเข้าเกมรวดเร็ว สามารถตอบสนองต่อการควบคุมได้อย่างแม่นยำฉับไว สามารถเล่นแบบจริงจังได้เลยทีเดียว
ส่วนเกม Ragnarok Origin ทำการทดสอบบนกราฟิกระดับ UHD (สูงสุด) เฟรมเรต 30fps พบว่าตัวเกมรันได้บนเฟรมเรตประมาณ 15fps และค่อนข้างกระตุกเมื่อมีผู้เล่นอื่นอยู่ในฉาก แต่โดยรวมยังอยู่ในระดับที่เล่นได้ และไม่ได้แย่เลยหากเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นในราคาใกล้เคียงกัน แต่ทั้งนี้แนะนำให้ปรับลดกราฟิกลงมาที่ระดับ HD หรือ SD เพื่อการเล่นที่ราบรื่นยิ่งขึ้น
สำหรับฟีเจอร์ช่วยเล่นเกมอย่าง Game BOOST Mode จะคล้ายกับของแบรนด์อื่น ๆ โดยมีโหมด BOOST เพิ่มความแรงในการเล่นเกม ซึ่งระบบจะให้ความสำคัญกับการประมวลผลเกมเป็นอันดับแรก และโหมดประหยัดพลังงานที่เน้นการเล่นเกมแบบมาราธอน รวมไปถึงการปล่อยเล่นแบบปิดจอสำหรับเปิดบอทฟาร์มของ และอื่น ๆ
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Game BOOST Mode คือระบบ 4D Game Vibration ที่จะให้การสั่นที่สมจริงกว่าขณะยิงปืนในเกม โดยจะมีการสั่นหนัก-เบาบริเวณมุมเครื่องบน-ล่าง-ซ้าย-ขวา ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นได้ในระดับหนึ่ง แต่ในเบื้องต้นจะยังใช้แค่เฉพาะบางเกมที่รองรับฟีเจอร์นี้เท่านั้น
แบตเตอรี่ และระบบชาร์จไว 44W FlashCharge
vivo V29e 5G มีแบตเตอรี่ขนาด 4800 mAh จัดว่าไม่มากไม่น้อยสำหรับสมาร์ตโฟนยุคใหม่ จากการทดสอบในเบื้องต้นทีมงานได้ลองเปิดบอท Ragnarok Origin ทิ้งไว้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง พบว่าแบตเตอรี่ลดลงไปประมาณ 16% ถือว่าแบตลดเร็วพอสมควร แต่ไม่น่าจะมีปัญหาหากเป็นการใช้งานทั่วไประหว่างวัน
ส่วนเรื่องการชาร์จ เราได้ทดสอบโดยชาร์จจาก 1-100% ซึ่งใช้เวลาไปประมาณ 54 นาที โดยการชาร์จจะช้าลงในช่วง 10% สุดท้าย ซึ่งเกิดจากระบบรักษาความปลอดภัยที่ลดกระแสไฟลงเมื่อแบตใกล้เต็มเพื่อป้องกันการจ่ายไฟเกิน
ราคา และโปรโมชันของ vivo V29e 5G
สำหรับราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของ vivo V29e 5G รุ่น RAM 12GB+ROM 256GB นั้นอยู่ที่ 11,999 บาท (ในไทยมีให้เลือกรุ่นความจุเดียว) ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เอื้อมถึงได้ไม่ยาก โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา, ช่องทางออนไลน์ที่ vivo Official Store และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมรับฟรีของสมนาคุณเป็น V29e 5G Exclusive Box Set มูลค่า 8,389 บาท ซึ่งประกอบด้วยเคส 2 ชิ้น พร้อมบัตร VIP Card สำหรับการรับประกันตัวเครื่อง 2 ปี และรับประกันจอแตก 2 ปี 1 ครั้ง
สรุปประสบการณ์หลังใช้งาน vivo V29e 5G
หลังจากที่มีโอกาสได้ใช้งาน vivo V29e 5G มาระยะหนึ่ง สิ่งแรกที่รู้สึกได้ก็คือดีไซน์ของ vivo V29e 5G นั้นจัดว่าดูดีน่าใช้ไม่แพ้รุ่นอื่นในตลาด โดยมีให้เลือก 2
สี 2 สไตล์ ใครที่ชอบสีเข้ม ๆ ดูสุขุม ก็มีสีดำฟอเรสท์ (Forest Black) ให้เลือก
ส่วนใครที่ชอบสีสันที่สดใสขึ้นมาหน่อยก็มีสีฟ้ากลาเซียร์ (Ice Creek Blue) ให้เลือกเช่นกัน
โดยสีฟ้ากลาเซียร์จะมีความพิเศษกว่าตรงที่มีลวดลายเกล็ดน้ำแข็งบนฝาหลัง
ซึ่งเราไม่ค่อยได้เห็นลวดลายแบบนี้บนสมาร์ทโฟนสักเท่าไหร่ จึงมีความโดดเด่นแปลกตา ส่วนสัมผัสการใช้งานก็ค่อนข้างดี โดยตัวเครื่องมีขนาด
และน้ำหนักที่เหมาะมือ อีกทั้งยังค่อนข้างบางเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในตลาด
จึงหยิบจับใช้งานได้อย่างเข้ามือ
ต่อมาเรื่องหน้าจอแสดงผลเรียกได้ว่าเป็นอีกจุดขายของ vivo V29e 5G เพราะเป็นจอแบบ E4 AMOLED ความละเอียดระดับ FHD+ ขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว ที่แสดงผลช่วงสีแบบ DCI-P3 ได้เต็ม 100% กับความสว่างสูงสุดที่ 1150 nits และมีอัตราการรีเฟรชสูงสุดที่ 120Hz เรียกได้ว่าเป็นจอที่ใกล้เคียงกับจอบนสมาร์ตโฟนเรือธงเลยทีเดียว ทำให้สู้แสงกลางแจ้งได้ดี มีความลื่นไหลเนียนตา และมีสีสันที่สวยสดใส
เรื่องความลื่นไหลในการใช้งานของ vivo V29e 5G ก็ไม่มีปัญหา สามารถใช้งาน,
เล่นเกม และเล่นโซเชียลได้สบายโดยไม่มีอาการกระตุก หรือหน่วง
ประสิทธิภาพการทำงานรวดเร็วเหมาะสมตามราคา ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 695 กับหน่วยความจำ RAM ขนาดใหญ่ 12GB ที่ขยายเพิ่มได้อีก 8GB ด้วยฟีเจอร์ Extended RAM 3.0 อีกทั้งยังมียูทิลิตี้ต่าง ๆ
อย่างการซ่อนแอป และล็อกแอปให้ใช้ด้วย ส่วนการเล่นเกมก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียว
สามารถเล่นเกมฮิตทั่วไป รวมถึงเกมส่วนใหญ่บน Play Store ได้แบบลื่น ๆ
และไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนแต่อย่างใด
แบตเตอรี่ของ vivo V29e 5G มีความจุ 4800 mAh สามารถใช้งานได้นานข้ามวันตามเกณฑ์ของสมาร์ตโฟนระดับกลางในปัจจุบัน แต่จุดที่ทำให้ได้เปรียบรุ่นอื่นในตลาดคือระบบชาร์จเร็ว 44W FlashCharge จึงไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่เท่าไหร่ และไม่จำเป็นต้องพกแบตเตอรี่สำรองให้หนักกระเป๋า
จุดขายสำคัญของ vivo V29e 5G คือการถ่ายภาพ โหมดอัตโนมัติมีการวัดแสง และสีที่แม่นยำ โดย AI ของกล้องจะปรับสมดุลแสงขาว และชดเชยแสงให้เองในระดับหนึ่ง การประมวลผล HDR ดีพอสมควร แต่ทีเด็ดของรุ่นนี้คือโหมดพอร์ตเทรต ที่ทำได้ดีใกล้เคียงกับรุ่น V29 โดยมากับเอฟเฟกต์บิวตี้ ที่ปรับสี และความเนียนของตัวแบบได้อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกับเอฟเฟกต์ดวงไฟโบเก้ให้เลือกใช้หลายแบบ
และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ไฟแฟลชแบบวงแหวน Aura Light Portrait 2.0 เหมือนกับรุ่น V29 ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาแสงแข็งซึ่งเป็นปัญหาคลาสสิกของแฟลชทั่วไปได้ และยังช่วยเติมแสง หรือลบเงาในบางสถานการณ์ได้ด้วย ส่วนการปรับอุณหภูมิแสงไฟออร่าก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลายแบบเช่นกัน ส่วนการใช้งานแนะนำว่าให้เปิดแสงไฟออร่าแบบ Auto จะได้แสงที่เข้ากับบรรยากาศที่สุด
นอกจากนี้โหมดกลางคืนก็ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้กัน สามารถเฉลี่ยแสงในจุดมืด และสว่างได้อย่างเหมาะสม พร้อมเพิ่มความคมชัดให้กับภาพถ่าย แม้อาจจะยังมี Noise อยู่บ้างก็ตาม
ส่วนกล้องหน้าความละเอียดสูง 50MP ก็ทำได้ดีเช่นกัน โดยมีแฟลชแบบแสงไฟหน้าจอให้ใช้งาน แต่น่าเสียดายที่ปรับอุณหภูมิสีไม่ได้ อย่างไรก็ดี โหมดเซลฟี่กลุ่มหรือ Group Selfie ไม่ได้มีมุมมองภาพที่กว้างเท่าไรนัก หากเป็นการถ่าย 2-3 คนก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามากกว่านี้อาจจะเริ่มมีคนที่หลุดเฟรมไปบ้าง
จากทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ก็พอที่จะสรุปได้ว่า vivo V29e 5G
นั้นน่าจะเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนระดับกลางที่ถ่ายรูปพอร์ตเทรตได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้รุ่นพี่อย่าง vivo V29 5G
พร้อมจอแสดงผลที่ยอดเยี่ยม มีคุณสมบัติภายในที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ และมีดีไซน์ที่สวยหรูบางเฉียบ ในงบที่ไม่สูงจนเกินไป หรือในราคาช่วงหมื่นต้น ๆ ครับ
สรุปคุณสมบัติเด่นของ vivo V29e 5G
- ด้านหลังตัวเครื่องครอบทับด้วยกระจก 2.5D AG Glass พร้อมเทคนิคการผลิตตัวเครื่องแบบขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน
- ตัวเครื่องสี Ice Creek Blue มีลวดลายคริสตัลน้ำแข็ง ซึ่งช่วยให้ดูโปร่งแสง และมีมิติ
- ตัวเครื่องสี Forest Black มีพื้นผิวที่แวววาว พร้อมมีความทนทานต่อแรงขีดข่วน และป้องกันคราบเปื้อนได้
- ตัวเครื่องมีความบางเบา ด้วยความหนาเพียง 7.69 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 190 กรัม จึงเหมาะสำหรับการพกพา
- ตัวเครื่องมีคุณสมบัติของการทนน้ำ-ทนฝุ่นตามมาตรฐาน IP54
------------------------------
- จอแสดงผลแบบ E4 AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ (2400x1080 พิกเซล : 394 PPI)
- อัตราการรีเฟรช (Refresh Rate) สูงสุดที่ 120Hz
- อัตราการตอบสนองของระบบสัมผัส (Touch Sampling Rate) สูงสุดที่ 1200Hz
- แสดงผลช่วงสีแบบ NTSC ได้ 107%
- แสดงผลช่วงสีแบบ DCI-P3 ได้ 100%
- ความสว่างสูงสุด 1150 nits
- วัสดุเปล่งแสงแบบ E4
- ได้รับการรับรองการปล่อยแสงสีฟ้าในระดับต่ำ (SGS)
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint Sensor)
------------------------------
- ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 695 5G (SM6375)
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 619
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 12GB
- ฟีเจอร์ Extended RAM 3.0 สำหรับช่วยเพิ่มขนาดหน่วยความจำ RAM เสมือน (Virtual RAM) ได้สูงสุด 8 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูล (ROM) แบบ UFS 2.2 ขนาด 256GB
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 13 พร้อมครอบทับด้วย Funtouch OS 13
------------------------------
- แบตเตอรี่ความจุ 4800 mAh
- ระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 44W FlashCharge (11V/4A)
------------------------------
กล้องตัวหลักด้านหลัง 2 ตัว (Dual Camera) ประกอบด้วย
- กล้อง Wide ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/1.79, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ และระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.2
รวมทั้งมีวงแหวน Aura Light Portrait 2.0 (2-Tone Aura Light) ที่ให้แสงแบบ 360° (ปรับอุณหภูมิสีได้ตั้งแต่ 1800-4500 เคลวิน), โหมด 2x Professional Portrait, เอฟเฟกต์โบเก้, รองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดระดับ 1080P FHD (60fps) และแอปพลิเคชัน VLOG
โดยไฟแฟลชวงแหวน Aura Light Portrait 2.0 นั้นให้แสงแฟลชที่นุ่มนวลกว่าไฟแฟลชทั่วไป พร้อมปรับอุณหภูมิของแสงได้ ทำให้ถ่ายรูปพอร์ตเทรตในสภาพแสงต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กล้องด้านหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล
พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.0, ระบบโฟกัสอัตโนมัติ, ระบบตรวจจับดวงตา-ใบหน้า, มุมรับภาพ 92° (ทางยาวโฟกัส 22 มิลลิเมตร) และรองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดระดับ 1080P FHD (30fps)
------------------------------
- ลำโพงเสียง SK16 พร้อมฟังก์ชัน Audio Booster
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5 GHz), 5G, 4G LTE, 3G WCDMA และ 2G EDGE/GPRS
- รองรับการใช้งานระบบซิมคู่ (Dual SIM : Nano SIM + Nano SIM : Dual Standby)
- เชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.1
- ระบุตำแหน่ง และนำทางผ่านระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, Glonass, BeiDou, Galileo และ QZSS
- พอร์ต USB Type-C
- โหมดเกม (Game Mode) พร้อมโหมดเร่งเกม (Game BOOST Mode), ฟีเจอร์ควบคุมเกมด้วยท่าทาง (Motion Control) และระบบสั่นแบบ 4D (4D Game Vibration)
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียด (สเปก) และราคา ของ vivo V29e 5G
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ vivo V29e 5G
- ไม่รองรับการใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD หรือแบบอื่น ๆ
- ไม่มีพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- กล้องไม่มีโหมด Macro ให้ใช้งาน
- บันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 1080P FHD
- ลำโพงเสียงเป็นแบบเดี่ยว
วันที่ : 27/10/2023