ตอนนี้คุณอยู่ที่ >> หน้าแรก >> หน้ารวม รีวิวมือถือ mobile review >> รีวิวมือถือ Mobile Review
   
Date : 20/03/2024

รีวิว OPPO Find X7 Ultra เรือธงสำหรับสายถ่ายภาพ กล้อง Hasselblad 50MP พร้อม Periscope 2 ตัว ซูมไกล 120 เท่า ก้าวสู่ยุค AI ด้วย AIGC ลบวัตถุอย่างชาญฉลาด และชิป Snapdragon 8 Gen 3 ชาร์จไว 100W SUPERVOOC

OPPO Find X7 Ultra เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศจีนแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาซึ่งรุ่นนี้ยังคงชูจุดเด่นเรื่องของกล้องถ่ายรูปเป็นหลัก ด้วยการอัปเกรดกล้องด้านหลัง จากระบบกล้องหลัก 3 ตัวบน OPPO Find X6 Pro รุ่นก่อนหน้า เป็นระบบกล้องหลัก 4 ตัว อีกทั้งยังเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลก ที่มาพร้อมกับกล้อง Periscope ถึง 2 ตัว รวมถึงใช้เซ็นเซอร์ Sony LYT-900 เป็นรุ่นแรกด้วยเช่นกัน

สำหรับดีไซน์ของ OPPO Find X7 Ultra นั้น ยังคงมีดีไซน์คล้ายกับ OPPO Find X6 Pro ด้วยตัวเครื่องแบบทูโทน เพิ่มความคลาสสิคด้วยหนังวีแกนโค้งมน จับถือได้ถนัดมือมากขึ้น อีกทั้งยังรองรับคุณสมบัติในการทนน้ำและทนฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 มีให้เลือก 3 สีด้วยกัน ได้แก่ สีฟ้า Ocean Blue, สีน้ำตาล Sepia Brown และสีดำ Tailored Black

ด้านกล้องถ่ายรูป ถือว่าเป็นครั้งแรกกับสมาร์ตโฟนเรือธงที่รวมกล้องประสิทธิภาพสูง ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล มากถึง 4 ตัว ซึ่งประกอบด้วย กล้อง Wide, กล้อง Ultra Wide และกล้อง Periscope อีก 2 ตัว ครอบคลุมระยะตั้งแต่ 0.6x ไปจนถึง 12x พร้อมเทคโนโลยีการถ่ายภาพจากแบรนด์กล้อง Hasselblad กับโหมด Hasselblad Portrait โบเก้คมชัด มีมิติ รวมถึงโหมดถ่ายภาพระดับโปรอย่าง Master Mode ที่สามารถปรับแต่งการถ่ายภาพแบบแมนนวล ซึ่งภาพที่ได้จะมีโทนสีใกล้เคียงกับกล้อง Hasselblad X2D 100C นั่นเอง

สำหรับการประมวลผล รุ่นนี้มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 รุ่นล่าสุด และหน่วยความจำ RAM มากถึง 16GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จไว 100W SUPERVOOC ใช้เวลาในการชาร์จเต็มเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

 

กล้องด้านหลังระดับเรือธง ความละเอียด 50MP เท่ากันทั้ง 4 เลนส์

ไฮไลท์ของรุ่นนี้ก็คือ ระบบกล้องด้านหลังของ OPPO Find X7 Ultra ที่มีมากถึง 4 ตัว ความละเอียดเท่ากันที่ 50 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ HyperTone Image Engine ช่วยประมวลผลภาพ ทำให้ได้ภาพที่คมชัด และเป็นธรรมชาติ

สำหรับกล้องด้านหลังทั้ง 4 ตัวบน OPPO Find X7 Ultra มีรายละเอียดดังนี้

  • กล้อง Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ Sony LYT-900, ขนาดเซ็นเซอร์ 1", รูรับแสง F/1.8, ระบบกันสั่น OIS, ทางยาวโฟกัส 23 มม.
  • กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ Sony LYT-600, รูรับแสง F/2.0, มุมมองกว้าง 112 องศา, ทางยาวโฟกัส 14 มม., ระบบโฟกัสภาพแบบอัตโนมัติ
  • กล้อง Periscope Telephoto ตัวที่ 1 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ Sony IMX890, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56", รูรับแสง F/2.6 พร้อม Prism OIS, ทางยาวโฟกัส 65 มม., ซูม 3x
  • กล้อง Periscope Telephoto ตัวที่ 2 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ Sony IMX858, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.51", รูรับแสง F/4.3 พร้อม Prism OIS, ทางยาวโฟกัส 135 มม., ซูม 6x

 

อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่า OPPO Find X7 Ultra เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลกที่มีกล้องซูมแบบ Periscope ถึง 2 ตัว ซึ่งตัวแรกใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX890 มีกำลังซูมแบบออปติคอล 3 เท่า เทียบเท่าระยะ 65 มม. ส่วนกล้อง Periscope ตัวที่ 2 จะใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX858 กำลังซูมแบบออปติคอล 6x เทียบเท่าระยะ 135 มม. รวมถึงรองรับการซูมแบบดิจิทัลสูงสุด 120x อีกด้วย

สำหรับกล้องหลัก เลนส์ Wide บน OPPO Find X7 Ultra นั้น มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Sony LYT-900 ขนาด 1 นิ้วใหม่ ที่ถูกออกแบบมาสำหรับสมาร์ตโฟนโดยเฉพาะ ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า Sony IMX989 รุ่นก่อนหน้าถึง 32% ส่วนกล้อง Ultra Wide มาพร้อมเซ็นเซอร์ขนาด 1/1.95" ที่จับคู่กับรูรับแสงขนาด F/2.0 เร็วที่สุดในบรรดากล้องใด ๆ ที่มีอยู่ในตอนนี้ เรียกได้ว่า กล้องบน OPPO Find X7 Ultra ครอบคลุมการซูมด้วยเซ็นเซอร์ตั้งแต่ 0.6x ไปจนถึง 12x เลยทีเดียว

 

พัฒนาร่วมกับ Hasselblad แบรนด์กล้องระดับโลก กับ Master Mode

ซอฟท์แวร์กล้องบน OPPO Find X7 Ultra ยังคงได้รับการพัฒนาร่วมกับแบรนด์ Hasselblad ด้วยโหมด Master Mode ซึ่งจะเป็นการควบคุมการถ่ายภาพแบบแมนนวล ผู้ใช้สามารถเลือกเลนส์, จัดเฟรมภาพ, จุดโฟกัส, ISO, ความเร็วชัตเตอร์ รวมถึงปรับแต่งความอิ่มตัว, คอนทราสต์, ความคมชัด และขอบภาพได้เมื่อเปิดใช้งาน Master Effect โดยภาพที่ได้จากโหมด Master Mode นั้น จะมีโทนสีที่ใกล้เคียงกับภาพที่ได้จากกล้อง Hasselblad X2D 100C

 

Hasselblad Portrait ภาพพอร์ตเทรตโบเก้สวย และมีมิติ

นอกเหนือจากเรื่องการซูมแล้ว OPPO Find X7 Ultra ยังถ่ายภาพพอร์ตเทรตแบบโบเก้คมชัด ด้วยโหมด Hasselblad Portrait ซึ่งโหมดนี้สามารถเลือกระยะถ่ายภาพได้ 4 ระยะด้วยกัน ได้แก่

  • ระยะ 1x จะได้ลักษณะของภาพเทียบเท่าเลนส์ XCD 3.5/30 ของ Hasselblad
  • ระยะ 2x จะได้ลักษณะของภาพเทียบเท่าเลนส์ XCD 2.8/65 ของ Hasselblad
  • ระยะ 3x จะได้ลักษณะของภาพเทียบเท่าเลนส์ XCD 1.9/80 ของ Hasselblad
  • ระยะ 6x จะได้ลักษณะของภาพเทียบเท่าเลนส์ XCD 2.8/135 ของ Hasselblad

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง

 

 

AIGC ฉลาดมากขึ้น ลบวัตถุที่ไม่ต้องการ แล้วแทนที่อย่างชาญฉลาด

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ถือว่า เป็นฟีเจอร์ชูโรงของ OPPO Find X7 Ultra ก็คือ AIGC ซึ่งจะเป็นการใช้ความสามารถของ AI ในการปรับแต่งรูปภาพ โดยฟีเจอร์ AIGC สามารถเข้าใจฉากที่ซับซ้อน, ลบวัตถุ และมีการแทนที่ได้อย่างชาญฉลาด ยกตัวอย่างเช่น มีการถ่ายรูปตนเองติดวัตถุ หรือบุคคลอื่น ซึ่งสามารถแก้ไขรูปดังกล่าวได้ ด้วยการเปิดรูปที่ต้องการแก้ไข > เลือก Edit > AIGC Remover จากนั้นให้วงหรือระบายจุดที่ต้องการลบออกจากภาพ AI จะทำการประมวลผลและลบวัตถุดังกล่าวออกไปจากภาพ และแทนที่ด้วยวัตถุที่ใกล้เคียง

และจากการทดสอบใช้งานฟีเจอร์ AIGC พบว่า การลบภาพและแทนที่ด้วยวัตถุใกล้เคียง ยังไม่เนียนเท่าใดนัก คาดว่าเป็นเพราะยังเป็นเวอร์ชันเบต้าอยู่ ซึ่งในอนาคตเชื่อว่า จะมีการปรับปรุงฟีเจอร์ดังกล่าวให้ดีกว่านี้ขึ้นอย่างแน่นอน

 

เซลฟี่คมชัด ด้วยกล้องด้านหน้า ความละเอียด 32MP

สำหรับกล้องหน้าของ OPPO Find X7 Ultra มีความละเอียดอยู่ที่ 32 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Sony LYT-506, รูรับแสง F/2.4 และระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดระดับ 4K ที่ 60fps

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า

 

ดีไซน์สุดคลาสสิค กันน้ำ IP68

OPPO Find X7 Ultra ยังคงมาพร้อมกับดีไซน์สุดคลาสสิค สไตล์เดียวกับ OPPO Find X6 Pro รุ่นก่อนหน้า ด้วยผิวสัมผัส 2 แบบ ด้านบนเป็นโลหะ ส่วนด้านล่างเป็นหนังวีแกน ทำให้จับถือได้ถนัดมือมากขึ้น พร้อมคุณสมบัติในการกันน้ำและกันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68

โดย OPPO Find X7 Ultra มีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 164.3 x 76.2 x 9.5 มม. หนัก 221 กรัม

 

มาดูดีไซน์รอบ ๆ ตัวเครื่องกันบ้าง ด้านขวาของตัวเครื่อง จะเป็นปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่องจะเป็นปุ่ม Alert Slider ซึ่งจะเป็นโหมดการแจ้งเตือนด้วยการสไลด์ สามารถสลับระหว่างการเปิดเสียงกับการส่น และโหมด VIP ซึ่งจะเป็นการปิดกล้อง, ปิดการเข้าถึงตำแหน่ง และปิดไมโครโฟน

 

ด้านบนตัวเครื่อง จะเป็นไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับลดเสียงรบกวนรอบข้าง, เซ็นเซอร์อินฟราเรด (IR Blaster) สามารถใช้ตัวเครื่องเป็นรีโมตควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า และลำโพงเสียงสเตอริโอ ซึ่งจะทำงานร่วมกับลำโพงเสียงที่อยู่ด้านล่างตัวเครื่อง

 

ด้านล่างตัวเครื่อง จะเป็นถาดใส่ซิมการ์ด (รองรับ 2 ซิม), พอร์ต USB-C, ไมโครโฟน และลำโพงเสียง ทั้งนี้ OPPO Find X7 Ultra จะไม่รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card

 

หน้าจอ QHD+ สว่างที่สุดในบรรดาสมาร์ตโฟนทุกรุ่น

OPPO Find X7 Ultra มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Quad Curve ขอบจอโค้งทั้ง 4 ด้าน ขนาด 6.82 นิ้ว แบบ AMOLED ความละเอียด 3168x1440 พิกเซล หรือระดับ QHD+ ที่สว่างที่สุดในบรรดาสมาร์ตโฟนทุกรุ่น สว่างสูงสุดถึง 1600 nits เมื่อถูกแสงแดดส่องโดยตรง และสูงถึง 4500 nits เมื่อรับชมเนื้อหา HDR

หน้าจอแสดงผลของ OPPO Find X7 Ultra ยังรองรับเทคโนโลยี ProXDR ซึ่งรองรับมาตรฐาน Ultra HDR ของ Google ในอนาคต รวมถึงยังได้คะแนนจาก DisplayMate ระดับ A+ และได้รับการรับรองจาก T?V Rheinland Eye Comfort Certification ช่วยลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาอีกด้วย

 

นอกจากนี้ OPPO Find X7 Ultra ยังรองรับอัตรารีเฟรช 1-120Hz ซึ่งเป็นแบบ Adaptive Refresh Rate เลือกได้ 2 ระดับคือ 60Hz และ 120Hz หรือเลือกอัตโนมัติตามคอนเทนต์ที่ใช้งาน

 

แรงด้วย Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ชิปเรือธงรุ่นล่าสุด พร้อม RAM สูงสุด 16GB

OPPO Find X7 Ultra มาพร้อมกับขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 รุ่นล่าสุด พร้อมหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR5X สูงสุด 16GB พร้อมฟีเจอร์ RAM Expansion ขยายหน่วยความจำเพิ่มได้สูงสุด 12GB รวมเป็น 28GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ UFS 4.0 สูงสุด 512GB สามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างลื่นไหล และติดตั้งแอปพลิเคชันได้มากมายโดยไม่ต้องกังวลว่าพื้นที่จะหมด

 

ทดสอบประสิทธิภาพผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu พบว่า สามารถทำคะแนนทดสอบได้สูงถึง 2,018,580 คะแนนเลยทีเดียว

 

แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 100W แบบ SUPERVOOC

OPPO Find X7 Ultra พร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000 mAh รองรับฟีเจอร์ชาร์จเร็วขนาด 100W SUPERVOOC สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

นอกจากนี้ OPPO Find X7 Ultra ยังสามารถชาร์จแบบไร้สายด้วยความเร็วสูงสุด 50W ด้วยเครื่องชาร์จ AIRVOOC และสามารถใช้ชาร์จอุปกรณ์อื่นแบบไร้สายได้ด้วย เพียงแค่วางอุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จไร้สายไว้ที่ด้านหลังตัวเครื่อง

 

ทำงานบนระบบปฏิบัติการ ColorOS14

OPPO Find X7 Ultra ทำงานบนระบบปฏิบัติการ ColorOS14 (มีพื้นฐานบน Android 14) ตั้งแต่แกะกล่อง ซึ่ง ColorOS 14 มาพร้อมกับความปลอดภัย, ประสิทธิภาพการทำงาน, ความน่าเชื่อถือ รวมถึงฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

 

File Dock สามารถบันทึกรูปภาพ, ข้อความ หรือไฟล์ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ลากแล้ววางบนแอปต่าง ๆ ที่ต้องการ ซึ่งรูปภาพหรือข้อความต่าง ๆ ที่อยู่ใน File Dock จะถูกซิงค์แบบข้ามอุปกรณ์ที่ลงชื่อเข้าใช้บัญชี OPPO ทำให้เข้าถึง File Dock ที่ถูกแชร์ไว้ได้ง่ายขึ้น

 

Smart Image Matting ฟีเจอร์ไดคัทรูปภาพอัจฉริยะ ซึ่งมีวิธีการใช้งานที่ง่ายมาก เพียงแค่เปิดรูปภาพที่ต้องการไดคัท > กดค้างเพื่อใช้งาน Smart Image Matting > ลากไฟล์ภาพที่ไดคัทแล้วไปยัง File Dock > ลากจาก File Dock ไปยังแอปข้อความ หรือโน้ต ซึ่งฟีเจอร์นี้ นอกจากจะสามารถไดคัทภาพคนได้แล้ว ยังสามารถไดคัทภาพและองค์ประกอบอื่น ๆ ได้ เช่น รองเท้าผ้าใบ, กระเป๋าถือ รวมถึงสัตว์เลี้ยงได้อีกด้วย

 

สรุปประสบการณ์หลังใช้งาน OPPO Find X7 Ultra

ถ้าพูดถึงการเป็นมือถือเรือธงที่ถ่ายรูปสวย ถือว่า OPPO Find X7 Ultra รุ่นนี้ มีความโดดเด่นไม่เป็นรองรุ่นไหนเลยก็ว่าได้ ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ มาพร้อมกับกล้องด้านหลังถึง 4 ตัว ที่มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซลเท่ากันทั้ง 4 เลนส์ โดยยังคงพัฒนาร่วมกับแบรนด์ Hasselblad และที่พิเศษยิ่งกว่านั้นก็คือ มีกล้อง Periscope ถึง 2 ตัว และใช้เซ็นเซอร์ Sony LYT-900 เป็นรุ่นแรกอีกด้วย เรียกได้ว่า จะซูมใกล้ ซูมไกล หรือถ่ายมุมกว้าง ก็ครอบคลุมครบทุกระยะ

 

นอกจากนี้ ยังตอบสนองต่อการใช้งานทั่วไป รวมถึงการเล่นเกมภาพกราฟิกได้อย่างลื่นไหล เนื่องจากใช้ชิปประมวลประสิทธิภาพสูงอย่าง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 รุ่นล่าสุด พร้อมหน่วยความจำ RAM มากถึง 16GB พร้อมฟีเจอร์ RAM Expansion ที่ขยายหน่วยความจำเพิ่มได้สูงสุด 12GB รวมเป็น 28GB อีกทั้งยังรองรับการใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000 mAh และรองรับชาร์จเร็ว 100W แบบ SUPERVOOC อีกด้วย

แต่น่าเสียดายที่ผู้ใช้งานในไทยยังไม่มีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับ OPPO Find X7 Ultra เนื่องจากสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นนี้ มีขายที่ประเทศจีนเท่านั้น และยังไม่มีแผนที่จะเข้ามาทำตลาดในไทยในตอนนี้

 

สรุปคุณสมบัติเด่นของ OPPO Find X7 Ultra

ขนาดตัวเครื่อง

- ความสูง : 164.3 มม.

- ความกว้าง : 76.2 มม.

- ความหนา : 9.5 มม.

- น้ำหนักตัวเครื่อง : 221 กรัม

------------------------------

จอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 6.82 นิ้ว ความละเอียด 3168x1440 พิกเซล : 510 PPI

- อัตราการรีเฟรชแบบ Dynamic 1-120Hz

- ความสว่างสูงสุด 1600 nits เมื่อถูกแสงแดดส่องโดยตรง และสูงถึง 4500 nits เมื่อรับชมเนื้อหา HDR

- อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง : 90.3%

- 100% DCI-P3

- รองรับ HDR10+, HDR10, HLG, HDR Vivid และ Dolby Vision

- ได้รับการรับรองจาก T?V Rheinland Eye Comfort Certification ช่วยลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตา

- ฟีเจอร์ Rain Water Touch สามารถใช้งานได้แม้หน้าจอหรือมือเปียกน้ำ

------------------------------

- ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3

- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 750

- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 16GB แบบ LPDDR5X

- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูล (ROM) ขนาด 512GB แบบ UFS 4.0

- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh พร้อมระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง SUPERVOOC ขนาด 100W ชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 45 นาที

- รองรับการชาร์จไร้สาย ขนาด 50W

- รองรับการชาร์จแบบ Reverse Wireless Charging ขนาด 10W

- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ ColorOS 14 ที่มีพื้นฐานบนระบบปฏิบัติการ Android 14

------------------------------

กล้องตัวหลักด้านหลัง 4 ตัว (Quad Camera)

- กล้องตัวที่ 1 แบบ Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ Sony LYT-900, เซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้ว, รูรับแสงขนาด F/1.8, ระบบกันสั่น OIS, เลนส์ 1G + 7P และรองรับระบบโฟกัสภาพแบบอัตโนมัติ

- กล้องตัวที่ 2 แบบ Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ Sony LYT-600, เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.95", รูรับแสงขนาด F/2.0, ทางยาวโฟกัส 14 มม.

- กล้องตัวที่ 3 แบบ Periscope ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ Sony IMX890, รูรับแสงขนาด F/2.6, ซูม 3x, ระบบกันสั่นแบบ Prism OIS, ทางยาวโฟกัส 65 มม.

- กล้องตัวที่ 4 แบบ Periscope ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ Sony IMX858, รูรับแสงขนาด F/4.3, ซูม 6x, ระบบกันสั่นแบบ Prism OIS, ทางยาวโฟกัส 135 มม.

- ไฟแฟลชในตัว

- รองรับการบันทึกวิดีโอ ความละเอียดระดับ 4K สูงสุดที่ 60fps

- รองรับการบันทึกวิดีโอ ความละเอียดระดับ 1080p ที่ 30fps

กล้องด้านหน้า (Selfie Camera) ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล

- รูรับแสงขนาด F/2.4

- เซ็นเซอร์ Sony LYT-506

- ทางยาวโฟกัส 21 มม.

- ระบบโฟกัสภาพแบบอัตโนมัติ

- รองรับการบันทึกวิดีโอ ความละเอียดระดับ 4K สูงสุดที่ 60fps

- รองรับการบันทึกวิดีโอ ความละเอียดระดับ 1080p ที่ 30fps

------------------------------

- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด

- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ (Under-Display Fingerprint Sensor) พร้อมระบบการปลดล็อกตัวเครื่องด้วยใบหน้า (Face Unlock)

- เชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.4

- รองรับ NFC

- รองรับเครือข่าย 5G, 4G LTE, 3G, 2G และ Wi-Fi 7

- ระบุตำแหน่ง และนำทางด้วยระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, Glonass, BDS, Galileo และ QZSS

- พอร์ต USB Type-C

 

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPO Find X7 Ultra

- ไม่รองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card

- ไม่มีพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

- ยังไม่มีแผนวางจำหน่ายในประเทศไทย

 

วันที่ : 20/03/2024

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy