ตอนนี้คุณอยู่ที่ >> หน้าแรก >> หน้ารวม รีวิวมือถือ mobile review >> รีวิวมือถือ Mobile Review
   
Date : 14/12/2022


 

รีวิว Moto G32 รุ่นคุ้มน้องใหม่ ใส่กล้อง 50MP จอ 90Hz FHD+ แบตใหญ่ชาร์จไว 30W และลำโพงคู่ Dolby Atmos ในราคาเพียง 6,499 บาท


14 ธันวาคม 2022 - แม้จะเหลือระยะเวลาอีกเพียงแค่ครึ่งเดือน ก็จะผ่านพ้นปี 2022 กันแล้ว แต่ก็ยังคงมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ทยอยเปิดตัวออกมาเรื่อย ๆ หลายรุ่นหลายแบรนด์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือรุ่นที่คุ้มค่าน่าสนใจในราคาหลักพันอย่าง Moto G32 จากแบรนด์ดังที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง Motorola ที่เราได้นำมารีวิวให้ชมกันในวันนี้ครับ

สำหรับ Moto G32 นับเป็นสมาร์ทโฟนกลุ่มราคาย่อมเยาเข้าถึงง่ายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่แทบจะไม่ผ่านการปรุงแต่งใด ๆ จึงให้ประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นในตลาด และยังมีอินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย พร้อมการทำงานที่เสถียร

ด้านคุณสมบัติแต่ละส่วนก็ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ ในระดับราคาเดียวกัน เริ่มตั้งแต่หน้าจอแสดงผลขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ พร้อมด้วยอัตราการรีเฟรชสูงสุด 90Hz บนบอดี้ที่สามารถป้องกันละอองน้ำได้ เรียกว่าเพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน ภายในมีหัวใจการประมวลผลเป็นชิปเซ็ต Snapdragon 680 พร้อมด้วยหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB ที่สามารถขยายเพิ่มได้อีก 1 GB ด้วยเทคโนโลยี RAM Expansion สำหรับหน่วยความจำภายใน (ROM) ก็ให้มากำลังดีที่ 128 GB จึงสามารถรองรับทั้งแอปพลิเคชัน และไฟล์ต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอ หรือถ้ายังไม่พอ ก็ยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำด้วยการ์ดแบบ microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 1 TB อีกด้วย

 

สำหรับการถ่ายภาพ และวิดีโอ Moto G32 ก็นับว่าจัดชุดมาให้ดีเลยทีเดียว ด้วยการเลือกใช้ชุดกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล จึงสามารถรองรับการถ่ายภาพครอบคลุมทุกระยะ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีโหมดเซลฟี่กลุ่ม และไฟแฟลชแบบ On Screen

นอกจากนี้ Moto G32 ยังมีแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ที่รองรับระบบชาร์จไว TurboPower 30 (30W), ลำโพงคู่ที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos, เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง และรองรับการเชื่อมต่อครบครัน ไม่ว่าจะเป็น NFC, Bluetooth 5.2, Wi-Fi 5, พอร์ต USB-C ไปจนถึงพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

มาถึงตรงนี้ทุกท่านคงอยากจะไปติดตามรายละเอียดแบบเต็ม ๆ กันแล้ว เพราะฉะนั้นเราไปชม รีวิว Moto G32 โดยทีมงาน Thaimobilecenter กันได้เลยครับ


รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Moto G32 มากับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ ในอัตราส่วนการแสดงผลแบบ 20:9 โดยมีอัตราการรีเฟรชสูงสุดที่ 90Hz พร้อมความสว่างของหน้าจอที่สามารถสู้แสงในที่กลางแจ้งได้ค่อนข้างดี ส่วนกล้องหน้าของ Moto G32 จะเป็นแบบเจาะรูฝังใต้จอ ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล กับขนาดของรูรับแสงที่ f2.4


สำหรับสีของตัวเครื่องจะมีให้เลือกเพียงสีเดียวคือสีเทา Mineral Grey โดยฝาหลังเป็นผิวด้านสะท้อนแสงที่ป้องกันคราบรอยนิ้วมือได้ดี ตรงกลางมีโลโก้ Motorola โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ทโฟนค่ายนี้


สำหรับการถ่ายภาพ และวิดีโอ Moto G32 จะใช้ชุดกล้องหลักด้านหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ดังนี้ :

- กล้อง Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพขนาด 1/2.76 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 0.64 ไมครอน (หรือ 1.28 ไมครอน ด้วยเทคโนโลยี Quad Pixel), รูรับแสงขนาด f1.8 และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพขนาด 1/4.0 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f2.2 และมุมรับภาพ 118 องศา
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.75 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f2.4 และระยะโฟกัสใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร


ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มล็อกหน้าจอ และปุ่มปรับระดับเสียง โดยปุ่มล็อกหน้าจอจะทำหน้าที่เป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วยในตัว ส่วนด้านขวามีช่องใส่ซิมการ์ด


ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และมีสัญลักษณ์ Dolby Atmos ที่แสดงถึงคุณสมบัติลำโพงคู่สเตอริโอ ที่มากับระบบเสียง Dolby Atmos ส่วนพอร์ตต่าง ๆ จะอยู่ด้านล่างทั้งหมด ซึ่งได้แก่ไมโครโฟนหลัก, พอร์ต USB Type-C, ช่องลำโพง และพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร


ช่องใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ Triple-Slot ซึ่งสามารถใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM ได้ 2 ใบ และการ์ด microSD ได้พร้อมกัน โดยรองรับได้สูงสุดที่ขนาด 1TB


ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่อง นอกจากตัวเครื่อง Moto G32 แล้ว ก็จะประกอบไปด้วย เคส TPU (ใส่มากับตัวเครื่องตั้งแต่แกะกล่อง), สายเคเบิ้ล USB Type-C, อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่แบบ 33W (ตัวเครื่องรองรับกำลังไฟสูงสุด 30W), เข็มถอดถาดซิมการ์ด, คู่มือการใช้งาน และมีหูฟังมาให้ด้วย


เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์

Moto G32 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่ผ่านการดัดแปลงมาน้อยมาก ดังนั้นอินเทอร์เฟซเกือบทั้งหมดจะเหมือนกับระบบ Android แท้ ๆ อาจไม่หวือหวาแต่ให้อารมณ์ที่แตกต่างจากยี่ห้ออื่น ๆ ที่คนไทยคุ้นเคย โดยมีระบบรักษาความปลอดภัย ThinkShield ที่ช่วยป้องกันมัลแวร์ และปกป้องความเป็นส่วนตัวอีกชั้นหนึ่ง


เมื่อเปิดเครื่องเข้ามาครั้งแรกจะพบว่า Moto G32 มีเพียงแอปพลิเคชันระบบ และบริการของ Google เท่านั้น ไม่มีแอปพลิเคชันอื่นติดมาด้วยเลย ซึ่งก็น่าจะถูกใจคนที่ชอบอะไรคลีน ๆ


เมนูแจ้งเตือน และคำสั่งลัด (ปัดนิ้วจากจอด้านบนลงมา) ก็จะมีหน้าตาที่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น แต่วิธีการใช้งานโดยรวมยังคงเหมือนกันจึงทำความเข้าใจได้ไม่ยาก นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกสำหรับปิด/รีสตาร์ทเครื่อง และการตั้งค่าด้วย


หากกดค้างบริเวณที่ว่างบนหน้าจอโฮม จะมีเมนูสำหรับการปรับแต่งหน้าจอปรากฏขึ้น


ในส่วนการปรับแต่งจะสามารถปรับหน้าตาอิน เทอร์เฟซได้หลายส่วน ตั้งแต่รูปแบบการจัดวางไอคอน, ตัวอักษร, สี, รูปร่างไอคอน และอื่น ๆ


หากต้องการเปลี่ยนธีม จะมีให้เลือกทั้งแแบบสำเร็จรูป และสามารถสร้างเองได้ แต่จะไม่มีร้านค้าธีมให้ดาวน์โหลดเหมือนแบรนด์อื่น


สามารถตั้งวอลเปเปอร์แบบเคลื่อนไหวที่มีในระบบได้ และเพิ่ม-ลบวิดเจ็ตได้


สำหรับการตั้งค่าหน้าจอเพิ่มเติม จะมีธีมมืดให้เลือกใช้งาน และปรับค่าสีของจอได้


ในเมนู ประสิทธิภาพ จะมีตัวเลือกเพิ่มประสิทธิภาพ RAM ซึ่งจะเพิ่ม RAM อีก 1 GB ทันที โดยยืมหน่วยความจำภายในส่วนหนึ่งมาใช้ ช่วยให้ตัวเครื่องรับมือกับงานหนัก ๆ ได้ดีขึ้น


Moto G32 มีแอปสำหรับดูแลอุปกรณ์ในชื่อ ความช่วยเหลืออุปกรณ์ ซึ่งสามารถล้างไฟล์ขยะ (ผ่าน Files ของ Google), ตรวจสอบข้อมูลการรับประกัน และตรวจหาความผิดปกติของอุปกรณ์เบื้องต้นได้


การวินิจฉัยอุปกรณ์ จะเป็นการทดสอบการทำงานของฟังก์ชันแต่ละส่วนว่าทำงานถูกต้องเป็นปกติหรือไม่ ทำให้รู้ว่ามือถือมีปัญหาตรงส่วนไหน และบอกกับช่างซ่อมได้


นอกจากนี้ ยังมีคู่มือการใช้งานให้อ่านอย่างละเอียดด้วย


ในส่วนของฟังก์ชันด้านความปลอดภัย Moto G32 รองรับการสแกนลายนิ้วมือ และการสแกนใบหน้า


และยังมี ความปลอดภัยและกรณีฉุกเฉิน ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เหมือนกับ Medical ID ของ iPhone โดยเราสามารถเพิ่มข้อมูลทางการแพทย์ เช่น กรุ๊ปเลือด หรืออาการแพ้ และยังตั้งเบอร์ติดต่อฉุกเฉินได้ เมื่อเราประสบอุบัติเหตุ ทีมแพทย์จะสามารถดูข้อมูลที่เราบันทึกไว้ และโทรหาเบอร์ติดต่อฉุกเฉินได้ทันที


อีกหนึ่งการตั้งค่าที่น่าสนใจคือสถานะแบตเตอรี ซึ่งมีระบบ AI เรียนรู้รูปแบบการชาร์จในแต่ละวัน และปรับการใช้ลพังานให้เหมาะสม พร้อมระบบป้องกันการชาร์จไฟเกินสำหรับการชาร์ทิ้งไว้ข้ามวันข้ามคืน


สำหรับฟังก์ชันความบันเทิง Moto G32 จะใช้แอป Files ในการเล่นเพลงและวิดีโอ ซึ่งมีเฉพาะฟังก์ชันพื้นฐานกับการปรับความเร็วในการเล่น


ในการตั้งค่าระบบเสียง Dolby Atmos จะมีโปรไฟล์เสียงสำหรับการใช้งานในลักษณะต่าง ๆ เช่น เกม, เพลง, หนังเป็นต้น ซึ่งจะมีผลกับทั้งลำโพงภายนอก และหูฟังที่เชื่อมต่ออยู่ หากโปรไฟล์ของระบบยังไม่โดนใจ สามารถสร้างโปรไฟล์เองได้เช่นกัน


ส่วนการเล่นเกม Moto G32 จะมีฟีเจอร์สนับสนุนการเล่นเกมมาให้ ซึ่งจะช่วยปิดกั้นแจ้งเตือน, สายโทรเข้า และล็อกการใช้ gesture เพื่อป้องกันมือลั่น เป็นต้น โดยเราสามารถเรียกเมนูตัวช่วยออกมาระหว่างเล่นได้ด้วยการแตะที่ปุ่มลอยมุมจอ


สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกม เราได้ทดสอบด้วยเกม 3 เกม ได้แก่ PUBG Mobile, RoV และ Genshin Impact โดยตั้งค่ากราฟิกของแต่ ละเกมไว้ดังนี้ :


การตั้งค่าเกม PUBG Mobile


การตั้งค่าเกม RoV


การตั้งค่าเกม Genshin Impact


สำหรับการเล่นเกม Moto G32 สามารถ รันทุกเกมข้างต้นได้ แต่อาจต้องตั้งค่ากราฟิกไว้ที่ระดับต่ำ หรือกลาง ๆ จึงจะได้เฟรมเรตที่น่าพอใจ บางเกมที่กินสเปกไม่สูงมากอย่าง RoV สามารถตั้งค่ากราฟิกสูง ๆ และเปิดใช้ 60 FPS ได้ การตอบสนองต่อการควบคุมนับว่ามีความแม่นยำ ฉับไว ไม่มีปัญหาใด ๆ ส่วนฟีเจอร์ช่วยเหลือระหว่างเล่นเกมก็ใช้งานง่าย และไม่รบกวนสมรรถนะของตัวเครื่องขณะเล่น โดยรวมอาจพูดได้ว่า Moto G32 นั้นไม่ได้มีความสามารถด้านเกมมิ่งที่โดดเด่นเท่าไหร่ แต่ก็อยู่ในระดับที่เล่นได้เพลิน ๆ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องกราฟิกสูงสุดครับ


มาดูในส่วนของการทดสอบประสิทธิภาพในการทำงานกันบ้าง เริ่มกันที่ผลการทดสอบ Benchmark ด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu ของ Moto G32 ซึ่งได้ผลการทดสอบที่ 249824 คะแนน


และผลการทดสอบ Benchmark ของแอปพลิเคชัน Geekbench 5 ได้ผลทดสอบแบบ Single-Core ที่ 375 คะแนน และแบบ Multi-Core ที่ 1588 คะแนน


Moto G32 ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680 แบบ 8-แกน (Octa-Core) Clock Speed สูงสุดที่ 2.4GHz พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 610 กับหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128 GB


สำหรับเซนเซอร์ในเครื่อง Moto G32 ประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor, Sound Sensor, Magnetic Sensor, Orientation Sensor, Gyroscope ส่วนหน้าจอแสดงผลรองรับการสัมผัสได้พร้อมกัน 10 จุด


การระบุตำแหน่ง และนำทางของ Moto G32  นั้นสามารถจับสัญญาณดาวเทียมในที่กลางแจ้งได้ดี ด้วยการรองรับระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, Glonass และ Galileo โดยจากภาพตัวอย่างจะเห็นว่าจับสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งหมด 44 ดวง และมีความแม่นยำในระดับบวกลบ 3 เมตร แต่อย่างไรก็ดีคุณภาพของสัญญาณดาวเทียม GPS ขึ้นอยู่กับพื้นที่และสภาพอากาศด้วย ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่และช่วงเวลา


การใช้งานกล้องสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ

โหมดการถ่ายภาพหลักจะเป็นโหมด รูปภาพ ซึ่งมีระบบวิเคราะห์ภาพถ่ายด้วย AI ตกแต่งภาพให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ พร้อมกันนี้ยังมีฟิลเตอร์ให้ใช้งาน และมีปุ่มลัดสลับระหว่างมุมมอง Ultra Wide และ Macro และยังมีโหมดการถ่ายภาพอื่น ๆ ในเมนู เพิ่มเติม


ในการถ่ายภาพแบบ Macro สามารถใส่ฟิลเตอร์ และเปิดแฟลชได้ โดยมีระยะโฟกัสแบบคงที่ ที่ 4 เซนติเมตร


โหมด ภาพบุคคล หรือโหมด Portrait จะสามารถปรับได้แค่ความเบลอของฉากหลัง ไม่มีเอฟเฟกต์บิวตี้ให้ใช้งาน แต่ AI จะตกแต่งใบหน้า และสีผิวให้แบบบาง ๆ โดยอัตโนมัติ


อีกโหมดหนึ่งที่น่าสนใจคือโหมด สีเฉพาะจุด ซึ่งจะเป็นการถ่ายรูปด้วยการแสดงเพียงสีใดสีหนึ่งเท่านั้น และสามารถปรับความเข้มของสีอื่นในฉากได้ หากปรับต่ำสุดทั้งภาพจะเป็นสีขาวดำ ยกเว้นสีที่เราเลือกไว้เท่านั้น สามารถประยุกต์ใช้เพื่อถ่ายภาพขาวดำได้ด้วยการไม่เลือกสี และใช้กับวิดีโอได้ด้วย


โหมด จับภาพสองกล้อง ใช้ได้ทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอ เป็นการถ่ายโดยเปิดทั้งกล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกัน โดยจอหนึ่งจะเป็นจอเล็กลอยอยู่ที่มุมภาพ สามารถสลับกล้องหน้า-หลังได้

 

โหมด โปร เป็นโหมดสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่ปรับการตั้ง ค่าได้อย่างอิสระ และมีตัวเลือกให้ถ่ายภาพแบบ RAW ด้วย


ในส่วนของกล้องหน้าจะสามารถใช้โหมด ภาพบุคคล และ โปร ได้ แต่จะไม่มีเอฟเฟกต์บิวตี้เช่นเดียวกับกล้องหลัง


ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Moto G32

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดอัตโนมัติ


ตัวอย่างภาพถ่ายมุมกว้างพิเศษ (Ultra Wide)


ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดกลางคืน


ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Macro


ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดสีเฉพาะจุด


ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่จากกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ของ Moto G32


สรุปผลการทดสอบของ Moto G32

หลังจากที่ได้สัมผัสกับ Moto G32 มาระยะหนึ่ง ก็สามารถพูดได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้นั้นมีความแตกต่าง และมอบประสบการณ์การใช้งานที่ไม่เหมือนรุ่นใดในระดับราคาเดียวกัน

เริ่มจากดีไซน์กันก่อน Moto G32 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์เรียบง่าย ไม่หวือหวา ต่างจากรุ่นอื่น ๆ ในตลาดที่มักจะมาในดีไซน์โดดเด่นอลังการด้วยเอฟเฟกต์ฝาหลังสะท้อนแสงเป็นเฉดสี หรือริ้วแสงต่าง ๆ แต่ Moto G32 เลือกที่จะใช้ฝาหลังผิวด้านแบบโมโนโทน ไม่ได้มีลูกเล่นเตะตาอะไร อย่างไรก็ตาม ดีไซน์แบบนี้กลับให้ความรู้สึกสุขุม เข้ากันได้กับผู้คนทุกเพศทุกวัย และดูดีไม่ว่าจะอยู่ในมือใคร

ความไม่เหมือนใครอีกอย่างหนึ่งของ Moto G32 คือระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่ผ่านการปรับแต่งมาน้อยที่สุด จึงมีความใกล้เคียงกับ Android แท้ ๆ มาก สวนทางกับแบรนด์มือถืออื่น ๆ ที่ครอบ UI ของตัวเองทับลงไป จึงให้ประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่าง แต่จุดนี้ก็อาจมองได้ 2 ด้าน ข้อดีคือมีอินเทอร์เฟซที่เข้าใจง่าย ใช้งานง่าย ปราศจากโฆษณา และมีเพียงฟีเจอร์สำคัญ ๆ เท่านั้น แต่ในอีกมุมหนึ่งก็อาจมองได้ว่าลูกเล่นน้อย ไม่ค่อยตื่นตาตื่นใจ ดังนั้นสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายในการใช้งาน และระบบที่ไม่จุกจิกมากกว่า

 

ด้านการใช้งานทั่วไป Moto G32 มีความลื่นไหลติดมือไม่แพ้สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นในระดับราคาเดียวกัน สเปกโดยรวมจัดว่าอยู่ในระดับพอดี ๆ ไม่หวือหวา หรือมีความโดดเด่นในด้านใดเป็นพิเศษ แต่สามารถตอบโจทย์การใช้งานทุกด้านได้อย่างน่าพึงพอใจ

อย่างไรก็ดี หากใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟนเพื่อการเล่นเกม Moto G32 ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ เพราะชิปเซ็ต Snapdragon 680 ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกม หรือการประมวลผลกราฟิกหนัก ๆ จึงอาจจะไม่สามารถเล่นเกมบางเกมพร้อมกับปรับกราฟิกสูงได้ บางเกมอาจจะต้องยอมปรับกราฟิกให้ต่ำเพื่อให้ตัวเกมลื่นไหลเพียงพอ แต่ถ้าคุณเป็นสายชิลที่เล่นเกมเพื่อแก้เบื่อ ไม่ได้ซีเรียสกับกราฟิกมากนัก Moto G32 ก็ยังตอบโจทย์ได้อยู่

แต่ถ้าเป็นการใช้งานเสพคอนเทนต์ด้านความบันเทิง เช่นการดูหนัง หรือฟังเพลง Moto G32 ก็สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ด้วยจอที่มีความละเอียดระดับ FHD+ กับลำโพงคู่ระบบเสียง Dolby Atmos ที่ให้มิติเสียงรอบทิศทาง โดยเฉพาะเมื่อใช้กับหูฟัง มิติของเสียงจะชัดเจนมากขึ้น

 

สำหรับการถ่ายภาพ และวิดีโอ Moto G32 สามารถถ่ายรูปได้ทุกระยะด้วยชุดกล้องหลังที่มีทั้งกล้อง Wide, Ultra Wide และ Macro โดยที่กล้องหลักจะใช้เซนเซอร์ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่มีเทคโนโลยี Quad Pixel สำหรับรวมเม็ดพิกเซลแบบ 4 in 1 เพื่อให้รับแสงได้มากขึ้น และมี AI ประมวลผลภาพถ่ายหลังจากกดชัตเตอร์ สามารถถ่ายรูปได้ดีในสภาวะแสงธรรมชาติ โดยมีการวัดสี และแสงที่แม่นยำ ดูเป็นธรรมชาติไม่ปรุงแต่ง อย่างไรก็ตาม หากซูมดูรายละเอียดใกล้ ๆ จะเห็นว่าภาพอาจยังมี Noise อยู่บ้าง และอาจไม่คมกริบเสียทีเดียว อีกทั้งตัวกล้องดูจะไม่เหมาะกับการถ่ายภาพภายในอาคารที่มีแสงไฟนีออน เนื่องจากจะมี Noise เข้ามาในภาพอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก็หวังว่าจะมีแพทช์อัปเดตปรับปรุงประสิทธิภาพเข้ามาในเร็ว ๆ นี้

ในส่วนของกล้อง Ultra Wide นั้น Moto G32 ทำได้ดีเลยทีเดียว โดยให้รูปถ่ายที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับกล้องหลัก ต่างจากมือถือส่วนใหญ่ที่คุณภาพรูปถ่ายในโหมดนี้จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ในทางกลับกัน ในกล้อง Macro นั้นรับแสงได้น้อย ทำให้สีเพี้ยนและมี Noise มาก ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดกับสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่อยู่แล้ว จึงแนะนำให้ถ่ายโหมดนี้ภายใต้สภาวะที่แสงสว่างเพียงพอ และลด Exposure ลง

ส่วนโหมดกลางคืน Moto G32 ทำได้ดีกว่าที่คาดไว้ โดยสามารถเกลี่ยแสงจุดที่มืดและสว่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมชาติ แต่โหมดนี้จะไม่ทำงานหากสภาวะโดยรอบไม่มืดพอ

 

จากทั้งหมดที่กล่าวมา Moto G32 ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่ง สามารถตอบโจทย์การใช้งานทุกอย่างได้ดี เหมาะกับผู้ใช้ทุกกลุ่มที่เน้นการใช้งานทั่วไป และยังให้ประสบการณ์การใช้งานที่ไม่เหมือนใครด้วยระบบปฏิบัติการที่เรียบง่าย คล่องตัว ในราคาย่อมเยาครับ

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ Motorola ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Moto G32 มาให้ทางทีมงานได้รีวิวกันในโอกาสนี้ และร้าน วรรค Cafe and Bistro รัชโยธิน ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายภาพด้วยครับ


ราคา การวางจำหน่าย และโปรโมชัน ของ Moto G32

Moto G32 เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ววันนี้ในราคา 6,499 บาท ที่ Motorola Official Store บน Shopee และ Lazada, TG FONE Online Store, BaNANA Shop และร้านค้าที่ร่วมรายการ


 

สรุปคุณสมบัติเด่นของ Moto G32

- ตัวเครื่องมีคุณสมบัติของการทนน้ำ (Water-Repellent) (ป้องกันละอองน้ำได้)
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ (2400x1080 พิกเซล : 405 PPI) พร้อมอัตราการรีเฟรช (Refresh Rate) สูงสุดที่ 90Hz, พื้นที่แสดงผล 89.8% และอัตราส่วนแบบ 20:9
- ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 4G (SM6225)
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 610
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 4 GB พร้อมระบบ RAM Expansion สำหรับช่วยขยายขนาด RAM ด้วย ROM (Virtual RAM) เพิ่มเติมได้สูงสุด 1 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูล (ROM) ขนาด 128 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 1 TB
- แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh พร้อมระบบชาร์จแบตเตอรี่แบบ TurboPower 30 (30W)
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่แทบไม่ผ่านการปรับแต่งใด ๆ

------------------------------------------

กล้องหลักที่ด้านหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ประกอบด้วย

- กล้อง Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพขนาด 1/2.76 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 0.64 ไมครอน (หรือ 1.28 ไมครอน ด้วยเทคโนโลยี Quad Pixel), รูรับแสงขนาด f1.8 และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพขนาด 1/4.0 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f2.2 และมุมรับภาพ 118 องศา
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.75 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f2.4 และระยะโฟกัสใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร

พร้อมไฟแฟลชในตัว (LED Flash), ฟีเจอร์ Ultra-Res, Dual Capture, Spot Colour, Night Vision, Macro Vision, Portrait, Live Filter, Panorama, AR Stickers, Pro Mode, Smart Composition, Shot Optimization, Auto Smile Capture, Google Lens, Active Photos, Timer, High-Res Digital Zoom (สูงสุด 8 เท่า), RAW Photo Output, HDR, Burst Shot, Assistive Grid, Leveller, Watermark, Barcode Scanner, Quick capture และ Tap Anywhere to Capture

กล้องด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4, เม็ดพิกเซลขนาด 1.0 ไมครอน (หรือ 2.0 ไมครอน ด้วยเทคโนโลยี Quad Pixel) และรองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดระดับ 720P HD (1280x720 พิกเซล : 30 fps)

------------------------------------------

- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side Mounted Fingerprint Sensor) พร้อมระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock)
- ลำโพงเสียงแบบคู่ (Dual Stereo Speakers) พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ Wi-Fi 5, 4G LTE, 3G WCDMA และ 2G EDGE/GPRS
- รองรับการใช้งานระบบซิมคู่ (Dual SIM : Nano SIM + Nano SIM) บนถาดแบบ Triple Slot
- เชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.2 และ NFC
- ระบุตำแหน่ง และนำทางด้วยระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, Glonass และ Galileo
- พอร์ต USB Type-C (USB 2.0)
- พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- ราคา 6,499 บาท ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม

 

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Moto G32

- ฟีเจอร์เสริมน้อยเพราะเป็นระบบปฏิบัติการ Android ที่ใกล้เคียงต้นฉบับ แทบไม่ผ่านการปรับแต่งเพิ่มเติม
- กล้องถ่ายภาพไม่มีเอฟเฟกต์บิวตี้
- กล้องหลังมี Noise ค่อนข้างมาก ในกรณีของการถ่ายภาพภายในอาคาร
- ตัวเครื่องมีให้เลือกเพียงสีเดียวคือสีเทา Mineral Grey


สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ Moto G32 ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้

สรุปคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ Motorola Moto G32

 

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากผู้ผลิต ดังนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริง รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจถูกแก้ไขให้ดีขึ้นแล้วในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบ หรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่งเพื่อความมั่นใจ *


วันที่ : 14/12/2022

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy