รีวิว HUAWEI Pura 70 Ultra เรือธงตัวท็อปกล้อง XMAGE ยืดหดได้ ตัวจบสายถ่ายภาพ พร้อมสเปกไฮเอนด์สดใหม่ บนดีไซน์หรูนำเทรนด์
ถ้านึกถึงสมาร์ตโฟนกล้องเทพ HUAWEI P Series จะต้องเป็นชื่อแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงอย่างแน่นอน และเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา HUAWEI ก็ได้มีการเปิดตัวเรือธง P Series รุ่นใหม่ แต่ในรอบนี้ได้ตัดสินใจทำการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ด้วยการเปลี่ยนเป็น Pura Series แทน และเริ่มการเดินทางครั้งใหม่ด้วย Pura 70 Series โดยมาด้วยกัน 3 รุ่นคือ Pura 70, Pura 70 Pro และ Pura 70 Ultra และในที่สุดวันนี้ HUAWEI Pura70 Ultra ตัวท็อปของซีรีส์ก็มาอยู่ในมือทีมงาน Thaimobilecenter เรียบร้อยแล้วครับ
HUAWEI Pura 70 Ultra ยังคงนำเสนอความโดดเด่นทั้งในด้านของนวัตกรรมกล้องถ่ายภาพระดับหัวแถว ดีไซน์ที่หรูหรา และฟีเจอร์ระดับไฮเอนด์ โดยมาพร้อมกับหน้าจอ LTPO OLED HUAWEI X-True Display ขนาด 6.8 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรชในระดับ 120Hz ซึ่งช่วยให้การแสดงผลภาพมีความคมชัดลื่นไหลเนียนตา และมีการครอบทับด้วยกระจกนิรภัยสุดแกร่งอย่าง Crystal Armor Kunlun Glass อีกทั้งยังประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Kirin 9010 รุ่นใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพสูงในทุกการใช้งาน
สำหรับชุดกล้องหลังของ HUAWEI Pura 70 Ultra ก็ยังคงเป็นจุดขายอันดับหนึ่งเช่นเดิม โดยพระเอกของการอัปเกรดรอบนี้คือการมาพร้อมกับกลไกกล้องที่สามารถยืดหดได้ (Retractable Camera) ที่ผ่านการทดสอบกลไกการยืดหดมากกว่า 300,000 ครั้ง ดังนั้นความทนทานจึงไว้ใจได้ โดยชุดกล้องหลังทั้ง 3 ตัวประกอบไปด้วย กล้อง Ultra Lighting Pop-out ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์รับภาพ CMOS ขนาดใหญ่ถึง 1 นิ้ว กับระบบป้องกันการสั่นแบบ Sensor Shift OIS, กล้อง Ultra-Wide Angle ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล และกล้อง Ultra Lighting Macro Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมระบบซูมแบบ 3.5x Optical Zoom ซึ่งสุดท้ายแล้วจะมีช่วงซูมรวมถึง 200x (0.5x-100x) รวมทั้งมีฟีเจอร์ถ่ายภาพมาโครตัวทีเด็ดอย่าง 35x Super Macro Zoom
นอกจากนี้ HUAWEI Pura 70 Ultra ยังมีแบตเตอรี่ความจุสูง 5200mAh ที่มากับระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 100W HUAWEI SuperCharge กับระบบชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายความเร็วสูงแบบ 80W Wireless HUAWEI SuperCharge และคุณสมบัติระดับไฮเอนด์อื่น ๆ อีกมากมาย
เกริ่นนำกันมาพอสมควรแล้ว ถึงเวลาที่เราจะพาทุกท่านไปสำรวจฟีเจอร์ และคุณสมบัติของสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นนี้แบบเต็ม ๆ กันต่อใน รีวิว HUAWEI Pura 70 Ultra ถ้าพร้อมแล้วเราไปติดตามกันได้เลยครับ
ดีไซน์ภายนอก และอุปกรณ์ภายในกล่อง
HUAWEI Pura 70 Ultra ที่นำมารีวิวในครั้งนี้เป็นสีดำ (Black) ซึ่งใช้ดีไซน์ตัวเครื่องใหม่หมดจดแบบ Forward Symbol Design โดยมากับฝาหลังหนังเทียม (Vegan Leather) ที่มีการพิมพ์ลวดลายนูนที่ด้านหลังตัวเครื่องแบบ Starry Pattern Design และมีกรอบตัวเครื่องที่ผลิตจากอะลูมิเนียม ซึ่งให้ภาพลักษณ์โดยรวมดูมีความหรูหราพรีเมียมเป็นพิเศษ ตัวเครื่องมีงานประกอบที่ประณีตในทุกจุด ให้ความรู้สึกในการจับถือที่ดีเยี่ยม แต่ตัวเครื่องจะหนักพอสมควร โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 226 กรัม นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีความโค้งมนรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณขอบ หรือมุม ก็โค้งรับกันพอดีทุกส่วน ทำให้ดีไซน์โดยรวมดูลงตัว และสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจด้วยคุณสมบัติของการทนน้ำ และทนฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68
สำหรับตัวเครื่องด้านหน้ามีหน้าจอแสดงผลแบบ LTPO OLED HUAWEI X-True Display ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด 2844x1260 พิกเซล (460 PPI) พร้อมอัตราการรีเฟรชแบบปรับอัตโนมัติตามการใช้งานตั้งแต่ 1-120Hz แสดงผลได้มากกว่าหนึ่งพันล้านสี (10-bit) และมีความสว่างสูงสุด 2500 nits ซึ่งทำให้สามารถใช้งานกลางแจ้งได้ดี ส่วนกระจกหน้าจอเป็นขอบโค้งรอบด้าน ทำให้ดูเหมือนหน้าจอนูนขึ้นมาจากตัวเครื่อง อย่างไรก็ตามมุมโค้งไม่ได้ชันมาก และพื้นที่หน้าจอก็ไม่ได้กินลงไปบริเวณขอบเครื่อง จึงจับถือได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเผลอไปโดนขอบจอโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยหน้าจอนี้ครอบทับด้วยกระจก Crystal Armor Kunlun Glass ซึ่งป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น 300% และทนทานต่อการตกหล่นได้ดีขึ้น 100% เมื่อเทียบกับกระจก Kunlun Glass รุ่นแรก
กล้องหน้าเป็นแบบเจาะรูฝังใต้จอ ความละเอียด 13MP พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4 และมีระบบโฟกัสดวงตา
โมดูลกล้องหลังมีขนาดที่ใหญ่โดดเด่นเป็นพิเศษ และนูนขึ้นมาจากฝาหลังค่อนข้างมาก แต่ก็เป็นดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเป็นชุดกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ประกอบด้วย
- กล้อง Ultra Lighting Pop-out ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony IMX989 ขนาด 1 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f1.6-f4.0, ทางยาวโฟกัส 24.5 มิลลิเมตร, ระบบป้องกันการสั่นแบบ Sensor Shift OIS และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ Phase+Contrast Focus+Laser AF
- กล้อง Ultra-Wide Angle ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2, ทางยาวโฟกัส 13 มิลลิเมตร และระบบโฟกัสอัตโนมัติ
- กล้อง Ultra Lighting Macro Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.1, ทางยาวโฟกัส 90 มิลลิเมตร, ระบบซูมแบบ 3.5x Optical Zoom, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF, ระยะโฟกัสใกล้สุด 5 เซนติเมตร และระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS
รอบ ๆ ตัวเครื่องมีเสาสัญญาณ 8 ตำแหน่ง
ซึ่งจัดวางอยู่ในจุดที่ไม่โดนมือบังขณะถือใช้งาน
และยังเพิ่มความโดดเด่นให้กับปุ่มเปิด/ปิดเครื่องด้วยแถบสีแดง
สำหรับระบบเสียงจะเป็นระบบสเตอริโอด้วยลำโพงเสียงแบบคู่ โดยเสียงจะออกจากลำโพงหลักด้านล่างตัวเครื่อง และลำโพงสนทนาด้านบน
ถาดใส่ซิมเป็นแบบ Dual-Slot สามารถใช้งานพร้อมกันได้ 2 ซิมการ์ด
แต่ไม่รองรับการใส่การ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD หรือแบบอื่น ๆ อย่างไรก็ดี HUAWEI Pura 70 Ultra
นั้นไม่รองรับการใช้งานร่วมกับเครือข่าย 5G โดยจะรองรับได้สูงสุดเพียงแค่ 4G LTE เท่านั้น
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องจะมีตัวเครื่อง, เคส Monogram, อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ HUAWEI SuperCharge
100W, สาย USB-C to USB-C และเข็มถอดถาดซิมการ์ด
ระบบพื้นฐาน และฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
HUAWEI Pura 70 Ultra เครื่องที่นำมารีวิวเป็น ROM แบบ Global ซึ่งมากับระบบปฏิบัติการ EMUI 14.2 โดยยังคงมีพื้นฐานอยู่บน Android และมี HMS Core สำหรับการใช้งานเซอร์วิสต่าง ๆ ทำให้ไม่สามารถติดตั้ง และใช้งานแอปพลิเคชันของ Google ได้ด้วยตัวมันเอง แต่จริง ๆ แล้วเราคงยังสามารถใช้แอปพลิเคชัน และบริการของ Google ได้ผ่านแอปที่มีชื่อว่า GBox ซึ่งเราจะมาพูดถึงกันในส่วนถัดไป
EMUI 14.2 ออกแบบอินเทอร์เฟซได้สวยงาม และเข้าใจง่าย การควบคุมสั่งการไม่ได้ต่างจากสมาร์ตโฟน Android ทั่วไป จากการทดสอบในเบื้องต้น ระบบมีความเสถียรสูง มีการตอบสนองที่รวดเร็ว ไม่มีปัญหากระตุก หน่วง ค้าง โดยรวมแล้วให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีทีเดียว
แม้ว่าจะไม่มีแอปพลิเคชัน และบริการของ Google แต่ก็มีแอปพลิเคชันทดแทนมาให้ครบครัน
ไม่ว่าจะเป็นสโตร์ AppGallery ที่มีแอปสำคัญ ๆ ให้ดาวน์โหลดครบ, Petal Maps
สำหรับดูแผนที่ และนำทาง และ Petal Search สำหรับค้นหาข้อมูล เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีบริการ HUAWEI Cloud สำหรับสำรองข้อมูล และฝากไฟล์แทน Google
Drive โดยให้พื้นที่มา 5GB อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แอประบบอย่าง AppGallery
หรือเว็บเบราว์เซอร์จะมีโฆษณาแทรกขึ้นมาในบางครั้งตอนเปิดใช้งาน
ซึ่งอาจจะสร้างการรบกวนขณะใช้งานเล็กน้อย
HUAWEI Pura 70 Ultra เครื่องทดสอบที่เรานำมารีวิวนี้ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Kirin 9010 ที่มากับหน่วยประมวลผลกราฟิก Maleoon 910 พร้อมด้วย RAM แบบ LPDDR5X ขนาด 16GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในขนาด 1TB แต่ทั้งนี้โมเดลที่วางจำหน่ายจริงในบ้านเราจะมีพื้นที่เก็บข้อมูล 512GB
จากการทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu และ Geekbench 6 พบว่าผลคะแนนมีตัวเลขที่ค่อนข้างสูง แต่ยังเป็นรองชิปเซ็ตตัวท็อปรุ่นใหม่จากค่ายอื่น ๆ เช่นชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 แต่ในแง่ของการใช้งานจริงแบบไม่อิงคะแนน Kirin 9010 ก็สามารถทำได้ดี ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
การใช้งานแอปพลิเคชัน Google ผ่าน GBox
HUAWEI Pura 70 Ultra รวมถึงอุปกรณ์ HUAWEI รุ่นใหม่ ๆ จะมีแอปพลิเคชัน GBox ติดตั้งมาให้จากโรงงาน โดยแอปพลิเคชันนี้จะช่วยให้เราสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน และบริการของ Google ได้ และสามารถเข้าถึง Play Store ได้ด้วย ซึ่งการใช้งานก็ง่ายมาก เพียงแค่เปิดเข้าไปในแอปพลิเคชัน แล้วแตะที่ Google Play Store ทำการ Log in แล้วดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่ต้องการมาใช้งานได้เลย รวมถึงแอปพลิเคชัน ทางรัฐ ก็สามารถดาวน์โหลดได้เช่นกัน
จากการทดสอบ สามารถใช้แอปพลิเคชันของ Google ได้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Google Docs, Sheets, Slides, Maps, Drive หรือ YouTube มีเพียงแอปพลิเคชันเดียวที่ติดตั้งไม่ได้คือ Gboard อย่างไรก็ดี บางแอปพลิเคชันอาจใช้งานได้ไม่เต็มที่ เช่น Google Maps ที่บางครั้งหมุดนำทางจะไม่หมุนไปตามทิศที่เราหัน แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหามากนักเพราะสลับไปใช้ Petal Maps แทนได้ ซึ่งก็ใช้ได้ดีเหมือนกัน แต่สถานที่บางแห่งอาจจะยังไม่ได้อัปเดตเข้ามาเมื่อเทียบกับ Google Maps
อีกปัญหาหนึ่งที่พบในการใช้งาน GBox คือแอปพลิเคชันบางตัวจะไม่สามารถติดตั้งลงในเครื่องได้ เช่นเกม PUBG Mobile จึงจำเป็นต้องดาวน์โหลดจากทาง AppGallery แทน
ทดสอบประสิทธิภาพด้านการเล่นเกม
สำหรับการเล่นเกม เราได้ทดสอบด้วยเกม PUBG Mobile, Ragnarok Origin และ Genshin Impact แม้ว่าผล Benchmark จะไม่สูงเท่ากับสมาร์ตโฟนเรือธงตัวท็อปรุ่นอื่นในปีนี้ แต่ HUAWEI Pura 70 Ultra กลับเล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น PUBG Mobile ที่ตั้งค่ากราฟิกระดับ HDR HD พร้อมเฟรมเรตระดับ Ultra, Ragnarok Origin ที่ตั้งค่ากราฟิกสูงสุด พร้อมเฟรมเรต 60fps หรือแม้แต่ Genshin Impact ที่ตั้งค่ากราฟิกระดับสูงสุด และเปิดเฟรมเรต 60fps ก็สามารถเล่นอย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด ประสิทธิภาพโดยรวมถือว่าดีมาก จนทีมงานค่อนข้างเซอร์ไพรส์เลยทีเดียว จุดที่ต้องพิจารณามีเพียงอย่างเดียวคือไม่มีฟีเจอร์ช่วยเหลือขณะเล่นเกมอย่างการล็อกแสงหน้าจอ, ปิดแจ้งเตือน, บูสต์ประสิทธิภาพ หรือดูอัตราเฟรมเรต ใครที่ชินกับการใช้ฟีเจอร์เสริมอาจจะต้องหาแอปพลิเคชันอื่นมาทดแทนกันไปก่อน
ส่วนเรื่องความร้อน HUAWEI Pura 70 Ultra มีการสะสมความร้อนพอประมาณ โดยจะร้อนเป็นพิเศษบริเวณเฟรมรอบตัวเครื่อง แต่ฝาหลังจะแทบไม่ร้อนเลย จุดนี้อาจจะเป็นจุดที่ต้องพิจารณาเพราะความร้อนบริเวณขอบจะโดนมือของเราโดยตรง
ระบบชาร์จไว 100W HUAWEI SuperCharge
HUAWEI Pura 70 Ultra มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 5200 mAh ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะสำหรับสมาร์ตโฟนเรือธง และมีระบบชาร์จไวแบบ 100W HUAWEI SuperCharge ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100% ได้ภายในเวลาเพียงแค่ประมาณ 35 นาที ส่วนอะแดปเตอร์ที่มีให้ในกล่องก็เป็นอะแดปเตอร์ที่รองรับ 100W HUAWEI SuperCharge อยู่แล้ว จึงนำมาใช้ชาร์จแบบเต็มสปีดได้ทันทีโดยไม่ต้องซื้อเพิ่ม ขณะเดียวกัน ตัวอะแดปเตอร์ยังสามารถเสียบได้ทั้งหัว USB-C และ USB-A จึงหาสายชาร์จอื่น ๆ มาใช้ด้วยกันได้ไม่ยาก
นอกจากนี้ HUAWEI Pura 70 Ultra ยังรองรับระบบชาร์จไวไร้สายแบบ 80W Wireless HUAWEI SuperCharge ด้วย แต่ต้องใช้กับแท่นชาร์จของ HUAWEI รุ่นที่รองรับเท่านั้นจึงจะชาร์จได้เร็วเต็มสปีด หากใช้แท่นชาร์จไร้สายอื่น ๆ จะชาร์จได้ช้าลง
การใช้งานกล้องสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ
ชุดกล้องหลังของ HUAWEI Pura 70 Ultra มีลูกเล่นที่สามารถยื่นเลนส์กล้องตัวหลักออกมาได้เมื่อเปิดใช้งาน ซึ่งเรียกว่า Pop-out Camera ด้วยกลไกแบบ Advanced Rotatory Transmission พร้อมเสียง Mechanical Sound โดยเมื่อผู้ใช้เปิดแอปพลิเคชันกล้อง เลนส์จะยื่นออกมาเองโดยอัตโนมัติ และจะเก็บกลับเองเมื่อออกจากแอปพลิเคชันถ่ายภาพ รวมทั้งมีนวัตกรรมรูรับแสงแบบปรับได้ที่ f1.6-f4.0
ในโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ จะมีทางลัดสำหรับเลือกระยะการถ่ายภาพ ตั้งแต่ Ultrawide (0.5x), 1x, 2x, 3.5x และ 10x สามารถแตะค้างเพื่อเลือกระยะซูมอื่น ๆ ได้ตามต้องการ โดยสามารถซูมได้ไกลสุด 100x รวมระยะซูมทั้งหมดเป็น 200x (0.5x-100x) แต่ระยะซูมแบบ Optical นั้นจะสูงสุดที่ 3.5x ขณะเดียวกัน ยังมีฟีเจอร์ AI ปรับแต่งรูปถ่ายอัตโนมัติ ซึ่งสามารถเปิด หรือปิดใช้งานได้ตามต้องการที่แถบทางลัดด้านบน
โหมดภาพถ่ายบุคคล จะจำกัดระยะซูมไว้ที่ 1x-5x สามารถเลือกเอฟเฟกต์โบเก้ได้ 5 รูปแบบ และปรับเอฟเฟกต์บิวตี้ได้ 10 ระดับ
โหมดถ่ายเร็ว เป็นจุดเด่นเฉพาะตัวของ HUAWEI Pura 70 Ultra ซึ่งสามารถจับภาพวัตถุที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วได้อย่างชัดเจน คล้ายกับกล้อง Action Cam ส่วนการใช้งานก็ง่ายมาก เพราะไม่ต้องตั้งค่าอะไรเลย แค่เล็งแล้วถ่าย ระบบจะประมวลผลให้โดยอัตโนมัติ โดยโหมดนี้จะจำกัดระยะการถ่ายไว้ที่ 1x-10x
โหมดกลางคืน สามารถถ่ายได้ทุกระยะ และปรับค่า ISO กับ Shutter Speed ได้ ในโหมดนี้จะใช้เวลาประมวลผล 2.5 วินาทีหลังกดถ่าย ซึ่งผู้ใช้สามารถกดปุ่มชัตเตอร์อีกครั้งเพื่อหยุดกลางคันได้
โหมดซูเปอร์มาโคร หรือการถ่ายในระยะใกล้ จะใช้เลนส์ Telephoto ในการถ่าย
ข้อดีคือมีระบบกันสั่น OIS ในตัว, มีระบบออโต้โฟกัส
และมีระยะโฟกัสที่ไกลกว่าเลนส์ Macro ทั่วไป ทำให้ไม่ต้องเข้าไปใกล้วัตถุมาก
หรือถ้าใครเชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพอยู่แล้ว ก็มีโหมดโปรมาให้ใช้งานเช่นกัน
ซึ่งสามารถตั้งค่ากล้องได้อย่างละเอียด และสามารถเลือกถ่ายเป็นไฟล์ RAW ได้
สำหรับการถ่ายวิดีโอ กล้องหลังของ HUAWEI Pura 70 Ultra บันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K (60fps) แต่ถ้าเปิดระบบกันสั่นด้วยจะได้สูงสุดที่ระดับ 1080P (60fps) นอกจากนี้ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกคือฟังก์ชันติดตามวัตถุ ที่จะพยายามล็อกให้วัตถุ หรือบุคคล ให้อยู่กลางเฟรมตลอด โดยวัตถุจะต้องอยู่ในระยะไม่เกิน 2 เมตร
ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4, ฟีเจอร์ Smart Eye-Tracking, ฟีเจอร์ Intelligent Field Of View รวมทั้งรองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K (60fps) เช่นเดียวกับกล้องหลัง และการเซลฟี่ด้วยโหมดภาพถ่ายบุคคลสามารถเลือกเอฟเฟกต์โบเก้ได้เช่นกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดมาโคร
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดอัตโนมัติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดภาพบุคคล
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดกลางคืน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดถ่ายเร็ว
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
สรุปประสบการณ์หลังใช้งาน HUAWEI Pura 70 Ultra
หลังจากที่มีโอกาสได้ทดลองใช้งาน HUAWEI Pura 70 Ultra มาได้ระยะหนึ่ง ก็สามารถบอกได้ว่าสมาร์ตโฟนเรือธงแดนมังกรรุ่นนี้ยังคงรักษาฉายา กล้องเทพ เอาไว้ได้เป็นอย่างดี และมีจุดเด่นเฉพาะตัวที่น่าสนใจไม่แพ้เรือธงรุ่นอื่นในตลาดตอนนี้เลย
ดีไซน์ของ HUAWEI Pura 70 Ultra ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบ Forward Symbol Design ที่แค่มองเห็นไกล ๆ ก็รู้ได้ทันทีตัวเครื่องมีความโค้งรับกันทุกด้าน ฝาหลังหนังเทียมพิมพ์ลายแบบ Starry Pattern Design ที่ดูหรูหรา งานประกอบมีความประณีต แน่นหนา รู้สึกได้ถึงความทนทาน และให้ความรู้สึกในการจับถือที่ดีสมกับที่เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงแห่งปีของค่าย
จุดขายเรื่องการถ่ายภาพ และวิดีโออยู่ในระดับที่น่าประทับใจไม่มีผิดหวัง เรียกว่าอยู่ในระดับหัวแถวของวงการขณะนี้
กล้องสามารถเก็บรายละเอียดในภาพได้อย่างคมกริบ พร้อมกับการวัดแสงที่แม่นยำ
และคอนทราสต์ที่กำลังดี สีสันออกมาตรงกับความเป็นจริง
เอฟเฟกต์บิวตี้ในโหมดภาพถ่ายบุคคลมีความเป็นธรรมชาติสูง
โดยยังคงเก็บรายละเอียดของริ้วรอย และรูขุมขนเอาไว้
ส่วนโหมดมาโครก็มีความคมชัด และมีคุณภาพสูง
รวมแล้วเรียกได้ว่าน่าประทับใจในทุกสถานการณ์
ฟีเจอร์เด่นในการถ่ายภาพของ HUAWEI Pura 70 Ultra คือโหมดถ่ายภาพเร็ว ซึ่งสามารถจับภาพวัตถุที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วได้อย่างชัดเจน ราวกับทุกอย่างหยุดนิ่งไม่ไหวติง และใช้ง่ายมาก ไม่ต้องปรับชัตเตอร์สปีด หรือตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยากเลย เป็นอีกโหมดหนึ่งที่ทำได้ดี ใครที่ชอบถ่ายภาพกิจกรรมแนวแอ็กชันน่าจะถูกใจโหมดนี้
ขณะเดียวกัน โหมดกลางคืนก็มีประสิทธิภาพที่น่าประทับใจ สามารถเฉลี่ยจุดที่มืด และสว่างได้อย่างลงตัว ออกมาเป็นบรรยากาศแสงไฟที่สวยงาม และมีรายละเอียดที่คมชัด
ในส่วนของการทำงานทั่วไป HUAWEI Pura 70 Ultra สามารถตอบโจทย์การใช้งานทุกประเภทได้เป็นอย่างดี ระบบปฏิบัติการ EMUI 14.2 มีความเสถียรสูง การควบคุมไหลลื่นติดมือ โหลดแอปรวดเร็ว ส่วนการเล่นเกมโดยทั่วไปถือว่าทำได้ดี แต่หากเทียบกับสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ ๆ แล้วอาจจะยังเป็นรอง เพราะชิปเซ็ต Kirin 9010 เป็นชิปเซ็ตที่ผลิตด้วยกระบวนการระดับ 7 นาโนเมตร ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเก่า จึงมีประสิทธิภาพต่างจากชิปเซ็ตรุ่นใหม่ ๆ ในปีนี้ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตรอยู่พอสมควร ดังนั้นหากต้องการสมาร์ตโฟนที่เน้นเล่นเกมแบบจริงจัง เรือธงรุ่นอื่นในปัจจุบันจะทำได้ดีกว่า
ด้านการใช้งานแอปพลิเคชัน หรือบริการของ Google ผ่าน GBox ทำได้ง่าย และสะดวกกว่ายุคแรก ๆ มาก และสามารถใช้งานได้เกือบทุกแอป ใครที่ยังต้องพึ่งพาแอปพลิเคชัน และบริการของ Google อยู่จึงสามารถใช้งาน HUAWEI Pura 70 Ultra ได้ แต่ทั้งนี้ การใช้งานผ่าน GBox ก็ยังไม่ถึงกับสมบูรณ์แบบ 100% เพราะแอปพลิเคชันบางตัวไม่สามารถติดตั้งได้ จึงจำเป็นต้องหาแอปพลิเคชันทดแทนจาก AppGallery กันไปก่อน
โดยรวมแล้ว HUAWEI Pura 70 Ultra เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่น่าประทับใจมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของดีไซน์ที่หรูหรา การถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม และการใช้งานทั่วไปที่มีความเสถียร แม้จะมีข้อจำกัดบางประการในเรื่องของประสิทธิภาพชิปเซ็ต แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนเรือธงกล้องเทพในชั่วโมงนี้ครับ
ราคา และโปรโมชันของ HUAWEI Pura 70 Ultra
HUAWEI Pura 70 Ultra มีวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีให้เลือกรุ่นความจุเดียวคือ RAM 16GB+ROM 512GB ในราคา 49,990 บาท และมีให้เลือก 2 สีได้แก่ สีเขียว (Green) และสีดำ (Black) ท่านที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ HUAWEI (ประเทศไทย) รวมทั้งหน้าร้าน HUAWEI Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
โปรโมชันพิเศษใหม่ล่าสุดระหว่างวันที่ 1-8 กันยายน 2567 สำหรับ HUAWEI Pura 70 Ultra รับส่วนลดค่าเครื่องเปล่าจากปกติ 49,990 บาท เหลือเพียง 45,990 บาท พร้อมรับฟรีนาฬิกา HUAWEI Watch GT4 มูลค่า 6,990 บาท, อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ HUAWEI SuperCharge Power Adapter 100W มูลค่า 2,490 บาท, HUAWEI Care+ นาน 1 ปี มูลค่า 3,790 บาท และส่วนลดเพิ่ม 3,000 บาททันที กรณีนำสมาร์ตโฟนเครื่องเก่ามาเทรดแลกซื้อเครื่องใหม่ (เครื่องเก่าตีราคารับส่วนลดเพิ่มได้อีกต่อ)
สรุปคุณสมบัติเด่นของ HUAWEI Pura 70 Ultra
- ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Forward Symbol Design
- การพิมพ์ลวดลายนูนที่ด้านหลังตัวเครื่องแบบ Starry Pattern Design
- ด้านหลังตัวเครื่องหุ้มด้วยวัสดุแบบหนังเทียม (Vegan Leather)
- กรอบตัวเครื่องผลิตจากอะลูมิเนียม
- ตัวเครื่องมีคุณสมบัติของการทนน้ำ และทนฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68 (ทนน้ำได้ลึกสูงสุด 2 เมตร นานต่อเนื่องสูงสุด 30 นาที)
-----------------------------
- จอแสดงผลแบบ LTPO OLED HUAWEI X-True Display ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด 2844x1260 พิกเซล (460 PPI)
- อัตราการรีเฟรช (Refresh Rate) สูงสุดที่ 120Hz (1-120 Hz Adaptive High Dynamic Refresh Rates)
- อัตราการตอบสนองของระบบสัมผัส (Touch Sampling Rate) สูงสุดที่ 300Hz
- แสดงผลสีได้ 1.07 พันล้านสี (10-bit)
- ความสว่างสูงสุด 2500 nits
- เทคโนโลยี 1440Hz High Frequency PWM Dimming สำหรับช่วยถนอมสายตาจากการกะพริบของหน้าจอ
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint Sensor)
- ครอบทับด้วยกระจก Crystal Armor Kunlun Glass
-----------------------------
- ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Kirin 9010
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Maleoon 910
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR5X ขนาด 16GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูล (ROM) แบบ UFS ขนาด 512GB
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ EMUI 14.2
- รองรับการใช้งานแอปพลิเคชัน และบริการของ Google ผ่านทาง GBox
-----------------------------
- แบตเตอรี่ความจุ 5200 mAh
- ระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 100W HUAWEI SuperCharge (20V/5A)
- ระบบชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายความเร็วสูงแบบ 80W Wireless HUAWEI SuperCharge
- ฟีเจอร์ 18W Reverse Wired Charging สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่นแบบผ่านสาย
- ฟีเจอร์ 20W Reverse Wireless Charging สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่นแบบไร้สาย
-----------------------------
กล้องหลัก 3 ตัว (Triple Camera) ที่ด้านหลังตัวเครื่อง ประกอบด้วย
- กล้อง Ultra Lighting Pop-out ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony IMX989 ขนาด 1 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f1.6-f4.0, ทางยาวโฟกัส 24.5 มิลลิเมตร, ระบบป้องกันการสั่นแบบ Sensor Shift OIS และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ Phase+Contrast Focus+Laser AF
- กล้อง Ultra-Wide Angle ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2, ทางยาวโฟกัส 13 มิลลิเมตร และระบบโฟกัสอัตโนมัติ
- กล้อง Ultra Lighting Macro Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.1, ทางยาวโฟกัส 90 มิลลิเมตร, ระบบซูมแบบ 3.5x Optical Zoom, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF, ระยะโฟกัสใกล้สุด 5 เซนติเมตร และระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS
รวมทั้งมีกลไกกล้องที่สามารถยืดหดได้ (Retractable Camera) (เฉพาะกล้องหลัก Ultra Lighting Pop-out) ซึ่งทำงานด้วยระบบ Advanced Rotatory Transmission พร้อมเสียง Mechanical Sound, ระยะซูมสูงสุดที่ 3.5x Optical Zoom/100x Digital Zoom, ช่วงซูมรวม 200x (0.5x-100x), เทคโนโลยี HUAWEI XD Motion Engine, โหมด Ultra Speed Snapshot, ฟีเจอร์ 35x Super Macro Zoom และรองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K UHD (60fps)
กล้องด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4, ระบบโฟกัสอัตโนมัติ, รองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K UHD (60fps)
-----------------------------
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 4G LTE, 3G WCDMA และ 2G EDGE/GPRS
- รองรับเทคโนโลยี 2x2 MIMO, HE160, 1024 QAM และ 8 Spatial-Stream Sounding MU-MIMO
- รองรับการใช้งานระบบซิมคู่ (Dual SIM : Nano SIM + Nano SIM)
- เชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.2 และ NFC
- IR Blaster สำหรับการใช้งานเป็นรีโมตควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า
- ระบตำแหน่ง และนำทางผ่านทางระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, BeiDou, Glonass, Galileo, QZSS และ NavIC
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C (USB 3.1 GEN1)
-----------------------------
- ลำโพงเสียงแบบคู่ (Dual Stereo Speakers)
- ระบบเสียงแบบ HUAWEI Histen
- ฟีเจอร์ AI Gesture Control และ AI Privacy View
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ HUAWEI Pura 70 Ultra
- ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับเครือข่าย 5G
- ไม่รองรับการใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD หรือแบบอื่น ๆ
- ชิปเซ็ตมีความเร็วในการประมวลผลค่อนข้างน้อยหากเทียบกับชิปเซ็ตเรือธงรุ่นอื่น
ๆ ในปัจจุบัน
วันที่ : 01/09/2024