รีวิว HONOR 70 สมาร์ทโฟนกล้องเรือธง พร้อมชิปแรง จอโค้ง 120Hz พลังชาร์จ 66W และสเปกสดใหม่ บนดีไซน์บางหรูเลอค่า ในราคา 16,990 บาท
30 กันยายน 2022 - ห่างหายจากตลาดเมืองไทยไปนานเลยทีเดียวสำหรับแบรนด์ HONOR ซึ่งล่าสุดก็ได้กลับมาให้แฟน ๆ ชาวไทยได้หายคิดถึงกันแล้ว
ประเดิมด้วยการส่ง HONOR X Series ลุยตลาดพร้อมกันถึง 3 รุ่น
ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าการกลับมาคราวนี้ไม่ใช่แค่การลองตลาดเท่านั้น แต่พร้อมลุยจริงจังอย่างแน่นอน และล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา
HONOR ก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกมาเพิ่มเติม ซึ่งก็คือ HONOR
70 ที่เรานำมารีวิวให้ได้ชมกันในวันนี้ครับ
HONOR 70 เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง-บน ที่มีจุดเด่นเฉพาะตัวหลายอย่าง เริ่มจากดีไซน์ภายนอกที่ดูพรีเมียมน่าใช้งาน
ด้วยฝาหลังที่มีความเงางามคล้ายกระจก
ที่มีลูกเล่นสะท้อนแสงคล้ายเหลี่ยมเพชร
สอดรับกับหน้าจอแสดงผลที่เป็นขอบโค้งทั้งสองด้าน
จึงให้ความรู้สึกหรูหราเหมือนมือถือไฮเอนด์ โดยเป็นจอแบบ OLED FullView Super Curved ขนาด 6.67 นิ้ว
ความละเอียดระดับ FHD+ ที่แสดงผลสีสันได้ถึง 1.07 พันล้านสี
พร้อมอัตราการรีเฟรชสูงสุดที่ 120Hz ซึ่งปรับได้อัตโนมัติตามคอนเทนต์ที่กำลังแสดงอยู่
และรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอในตัว
สำหรับประสิทธิภาพการทำงาน HONOR 70 เลือกใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 778G+
ที่รองรับเครือข่าย 5G ในตัว และเป็นชิปเซ็ตระดับกลางรุ่นท็อปสุดของ Qualcomm ณ
ตอนนี้ ดังนั้นประสิทธิภาพจึงจัดว่าสูงใกล้เคียงเรือธง
เรียกว่าพร้อมรับมือกับการใช้งานได้ทุกประเภท ตั้งแต่งานเบา ๆ อย่างการดูหนัง ฟังเพลง
เล่นโซเชียล ไปจนถึงงานหนักอย่างการเล่นเกม พร้อมด้วยหน่วยความจำ RAM ขนาด 8 GB
และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 256 GB ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานตามมาตรฐานสมาร์ทโฟนยุคใหม่
นอกจากนี้ยังรองรับระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 66W HONOR SuperCharge
อีกด้วย โดยมีความความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ 4800 mAh
ในส่วนของกล้อง ถือว่าเป็นจุดขายสำคัญของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เลยก็ว่าได้
โดยกล้องหลังเป็นชุดกล้อง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก (Wide) ซึ่งเลือกใช้เซนเซอร์ระดับเรือธงอย่าง Sony IMX800
ความละเอียด 54 ล้านพิกเซล (f1.9), กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 50
ล้านพิกเซล (f2.2) ที่สามารถถ่ายภาพ Macro ได้ด้วย และกล้อง Depth
สำหรับวัดระยะชัดลึก ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f2.4) โดยมีฟีเจอร์เด็ด ๆ
อย่าง Solo Cut Mode ที่ทำให้เราถ่ายวิดีโอ 2
มุมพร้อมกันในครั้งเดียว ส่วนกล้องหน้าก็มีความละเอียดสูงถึง 32
ล้านพิกเซล
มาถึงตรงนี้ทุกท่านคงอยากจะไปชมรีวิวเต็ม ๆ กันแล้ว เพราะฉะนั้นเราไปชม รีวิว
HONOR 70 โดยทีมงาน Thaimobilecenter กันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์
HONOR 70 มากับหน้าจอแสดงผล OLED FullView Super Curved Display ขนาด 6.67 นิ้ว ซึ่งเป็นแบบขอบโค้ง 2 ด้าน พร้อมอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz, รองรับการแสดงผลแบบ 10-bit และเฉดสีมากกว่า 1.07 พันล้านสี ความสว่างของหน้าจอสามารถสู้แสงในที่กลางแจ้งได้ค่อนข้างดี พร้อมทั้งรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
กล้องหน้าของ HONOR 70 จะเป็นแบบเจาะรูฝังใต้จอ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงที่ f2.4
สำหรับเครื่องที่นำมารีวิวนี้เป็นสีเงิน Crystal Silver ซึ่งเป็นฝาหลังเคลือบผิวมันวาวคล้ายกระจก สะท้อนแสงเป็นแพทเทิร์นเหลี่ยมเพชร ซ่อนประกายเกล็ดกลิตเตอร์ แม้จะเป็นผิวมันเงาแต่ก็ปกปิดคราบรอยนิ้วมือได้ดีด้วยลวดลาย และการเล่นแสง จึงไม่ต้องเช็ดบ่อย ๆ
โดยกล้องหลักที่ด้านหลังอ HONOR 70 จะใช้ชุดกล้อง 3 ตัว (Triple Camera) ซึ่งประกอบไปด้วย
- กล้อง Wide (Main : Super Sensing) ความละเอียด 54 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony IMX800 ขนาด 1/1.49 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f1.9 และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF
- กล้อง Ultra Wide & Macro ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2, มุมรับภาพ 122 องศา และระบบโฟกัสอัตโนมัติ
- กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4
ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มล็อกหน้าจอ และปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านซ้ายไม่มีปุ่ม หรือโมดูลใด ๆ
ด้านบนของตัวเครื่องมีการติดตั้งไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนเอาไว้ ส่วนพอร์ตต่าง ๆ จะอยู่ด้านล่างทั้งหมด ซึ่งได้แก่ช่องใส่ซิมการ์ด, ไมโครโฟนหลัก, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพง
ช่องใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ Dual-SIM ซึ่งสามารถใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM ได้ 2 ช่อง แต่ไม่รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD หรือแบบอื่น ๆ
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องประกอบด้วย เคส TPU, สายเคเบิ้ล USB Type-C, อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่แบบ 66W, เข็มถอดถาดซิมการ์ด และคู่มือการใช้งาน
เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์
HONOR 70 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่ถูกครอบทับด้วย Magic UI 6.1 ซึ่งมีดีไซน์ที่สะอาด สบายตา ดูเป็นผู้ใหญ่ ในบางมุมจะมีความคล้ายคลึงกับ EMUI ของ HUAWEI โดยสามารถใช้งาน Google Services ได้ตามปกติ
หากต้องการปรับหน้าตาของอินเทอร์เฟซให้เป็น ไปตามสไตล์ของเรา สามารถลากนิ้ว 2 นิ้วเข้าหากันบนหน้าจอโฮมเพื่อเข้าสู่โหมดการตั้งค่าได้ หรือเข้าไปที่การ ตั้งค่า > หน้าจอหลัก & วอลเปเปอร์ เพื่อเข้าสู่การตั้งค่าที่ละเอียดยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถเลือกเปลี่ยนได้ทุกอย่างตั้งแต่ธีม, ภาพพื้นหลัง, ไอคอน และภาพ Always on Display (แสดงเสมอ), รวมถึงการตั้งค่าปลีกย่อยอื่น ๆ
สามารถดาวน์โหลดธีม วอลเปเปอร์ และฟอนต์สวย ๆ ได้จากแอป ธีม ในตัวเครื่อง ซึ่งมีให้เลือกมากพอสมควร และที่สำคัญคือฟรีครับ
แน่นอนว่าโหมดมืด หรือใน HONOR 70 จะเรียกว่าโหมดเข้ม ก็มีให้ใช้เช่นกัน สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติได้ อีกทั้งยังช่วยประหยัดแบตเตอรีได้ส่วนหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งค่าปลีกย่อยอื่น ๆ เช่น การปรับโหมดสีและอุณหภูมิสีของจอ, ปรับขนาดตัวอักษร และปรับอัตรารีเฟรชหน้าจอได้ 3 แบบ คือ 60Hz, 120Hz และแบบไดนามิกที่จะปรับอัตรารีเฟรชหน้าจออัตโนมัติตามคอนเทนต์ที่แสดง
หากต้องการแสดงเลขเปอร์เซ็นต์แบตเตอรีที่แถบ สถานะด้านบน สามารถเข้าไปเปิดได้ที่หน้าการตั้งค่า > แบตเตอรี่ และในเมนูนี้ยังสามารถดูสถิติการใช้งานแบตเตอรีอย่างละเอียดได้ด้วย
นอกจากการตั้งค่าทั่วไป ยังมี ตัวจัดการระบบ ที่ช่วยล้างไฟล์ขยะ, ปิดกั้นเบอร์แปลก, สแกนไวรัส และตรวจสอบการใช้ดาต้า เป็นต้น สามารถกดปุ่ม เพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อให้ระบบจัดการทุกอย่างในคราวเดียวได้แบบง่าย ๆ
ส่วนฟังก์ชันพื้นฐานอย่างการโทร มีอินเทอร์เฟซที่สะอาด เข้าใจง่าย ไม่ได้มีฟังก์ชันพิเศษหรือหวือหวา
ในส่วนของฟังก์ชันด้านความปลอดภัย HONOR 70 รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และการสแกนใบหน้า
และยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง การล็อคแอป ที่จะต้องยืนยันตัวตนด้วย PIN หรือการสแกนนิ้ว/ใบหน้า จึงจะสามารถใช้งานได้ และ PrivateSpace ที่จะสร้างระบบการทำงานแยกออกมาเสมือนเป็นมือถืออีกเครื่องหนึ่ง โดยไฟล์และแอปพลิเคชันใน PrivateSpace จะถูกแยกออกจากตัวระบบหลักอย่างสิ้นเชิง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแยกการใช้งานสำหรับเรื่องส่วนตัวและการทำงาน หรือต้องการพื้นที่ส่วนตัวที่มิดชิดยิ่งขึ้น
สำหรับฟังก์ชันความบันเทิง HONOR 70 จะไม่มีแอปสำหรับเล่นเพลงหรือวิดีโอโดยเฉพาะติดมาให้ แต่สามารถเล่นไฟล์ได้จากแอป YT Music หรือ แกลเลอรี
ส่วนการเล่นเกม HONOR 70 ยังไม่มีฟีเจอร์สนับสนุนการเล่นเกมอย่างการปิดกั้นแจ้งเตือน หรือปิดกั้นสายโทรเข้า โดยครั้งนี้เราได้ทดสอบด้วยเกม 3 เกม ได้แก่ Apex Legends, Ni no Kuni และ Sky โดยตั้งค่ากราฟิกของแต่ ละเกมไว้ดังนี้ :
การตั้งค่าเกม Apex Legends
การตั้งค่าเกม Ni no Kuni
การตั้งค่าเกม Sky (กราฟิกสูงสุด)
สำหรับการเล่นเกม HONOR 70 สามารถ รันทุกเกมข้างต้นได้อย่างราบรื่นด้วยพลังของชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 778G+ ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพสูงในระดับที่ใกล้เคียงกับชิปเซ็ตระดับเรือธง แม้ว่าจะไม่ลื่นถึงระดับ 60 fps แต่ก็อยู่ที่ 40 fps ขึ้นไป และมีความนิ่งพอสมควร ส่วนการตอบสนองต่อการควบคุมก็มีความแม่นยำ ฉับไว ไม่มีปัญหาใด ๆ เหมาะกับการเล่นเกมที่ต้องอาศัยความรวดเร็วอย่างแนว Shooting แต่ด้วยความที่เป็นจอโค้งจึงอาจจะจับถือไม่ค่อยเต็มมือ และมีโอกาสที่จะไปกดโดนบริเวณขอบโดยไม่ตั้งใจ อีกทั้งตัวเครื่องยังไม่มีฟีเจอร์ปิดกั้นการแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าระหว่างเล่น ด้วย จึงอาจจะไม่เหมาะกับเกมเมอร์ที่แข่งขันแบบจริงจัง เพราะอาจเสียจังหวะระหว่างเล่นได้ แต่ถ้าเป็นเกมเมอร์ทั่วไปก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่อย่างใดครับ
มาดูในส่วนของการทดสอบประสิทธิภาพเชิงเทคนิคกันบ้างครับ เริ่มกันที่ผลการทดสอบ Benchmark บน AnTuTu ของ HONOR 70 ซึ่งได้คะแนนอยู่ที่ 558373 คะแนน
และผลการทดสอบ Benchmark บน Geekbench 5 แบบ Single-Core ได้ 815 และแบบ Multi-Core ได้ 2926 คะแนน
HONOR 70 ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 778G+ แบบ 8-แกน (Octa-Core) แต่ที่แอปพลิเคชันระบุว่าเป็น Snapdragon 778G นั้น เป็นเพราะว่าชิปเซ็ตทั้งสองรุ่นมีรหัสเดียวกันคือ SM7325 แต่ Snapdragon 778G+ จะมี Clock Speed สูงสุดที่ 2.5GHz ในขณะที่ Snapdragon 778G จะอยู่ที่ 2.4GHz สำหรับหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 642L พร้อมด้วยหน่วยความจำแรม RAM ขนาด 8 GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 256 GB
สำหรับเซนเซอร์ในเครื่อง HONOR 70 ประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor, Sound Sensor, Magnetic Sensor, Orientation Sensor ส่วนหน้าจอแสดงผลรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด
การระบุตำแหน่ง และการนำทาง ถือว่ามีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมตามมาตรฐาน ด้วยการรองรับกับระบบดาวเทียมชั้นนำของโลกอย่างครบถ้วน ทั้ง GPS+A-GPS, Glonass, BeiDou และ Galileo
การใช้งานกล้องสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ
โหมดการถ่ายภาพหลักจะเป็นโหมด รูปภาพ ซึ่งมีระบบวิเคราะห์ภาพถ่ายด้วย AI ตกแต่งภาพให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ สามารถเปิด/ปิดได้ที่เมนูด้านบน พร้อมกันนี้ยังมีฟิลเตอร์ให้ใช้งาน และมีปุ่มลัดสลับระหว่างมุมมอง Ultra Wide และซูม 2 เท่า
หากถ่ายใกล้วัตถุในระยะประมาณ 4 เซนติเมตร ระบบจะสลับไปยังโหมด ซูเปอร์ มาโคร โดยอัตโนมัติ หรือเปิดใช้งานโหมดนี้โดยตรงจากในเมนูก็ได้
โหมด ภาพถ่ายบุคคล หรือโหมด Portrait จะมีฟังก์ชันบิวตี้ และโบเก้ให้ใช้งาน โดยบิวตี้จะปรับได้ 10 ระดับ แต่โบเก้จะไม่สามารถปรับระดับความเบลอหลังได้ เลือกได้แค่เปิดหรือปิดเท่านั้น
หากต้องการถ่ายวัตถุให้มีฉากหลังเบลอ สามารถทำได้ในโหมด รูรับ แสง ซึ่งสามารถปรับความเบลอได้ตั้งแต่ F0.95 (เบลอมาก) จนถึง F16 (เบลอน้อย)
โหมด โปร จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ตั้งค่าการถ่ายรูปได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นค่า ISO, Shutter Speed, การชดเชยแสง, หรือ White Balance และยังเลือกถ่ายเป็นไฟล์ RAW ได้ด้วย
โหมด กลางคืน เป็นโหมดที่ช่วยให้ภาพถ่ายดูสว่าง และคมชัดขึ้นในเวลากลางคืน สามารถซูม หรือถ่ายในมุมมอง Ultra Wide ได้ โดยจะใช้เวลาเปิดหน้ากล้องนานประมาณ 4 วินาที
สำหรับการถ่ายวิดีโอปกติ สามารถบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K ที่เฟรมเรต 30fps และเปิดบิวตี้ได้ 10 ระดับ
การถ่ายวิดีโอจะมีโหมดที่น่าสนใจคือ หลายวิดีโอ ซึ่งจะเป็นการถ่ายวิดีโอพร้อมกัน 2 มุมมอง ทั้งถ่ายกล้องหน้ากับกล้องหลังพร้อมกัน หรือกล้องหลัง 2 มุมพร้อมกันก็ได้ พร้อม Preset รูปแบบการตัดต่อ ที่จะทำวิดีโอสวย ๆ ออกมาให้เราโดยอัตโนมัติ
และโหมด Solo Cut ที่จะถ่ายวิดีโอ 2 ไฟล์พร้อมกัน โดยเป็นวิดีโอแบบปกติ และวิดีโอที่ซูมจับภาพเฉพาะบุคคลที่เราเลือกไว้ หากนึกไม่ออกให้ลองนึกภาพว่าเรากำลังถ่ายวิดีโอวงดนตรีแสดงสด และเราต้องการวิดีโอที่เห็นทั้งวง กับเห็นเฉพาะนักร้องนำ ซึ่งปกติแล้วเราจะต้องใช้มือถือ 2 เครื่อง แต่โหมด Solo Cut จะช่วยให้เราถ่ายวิดีโอทั้งสองแบบได้พร้อมกันในเครื่องเดียวนั่นเองครับ
ในส่วนของกล้องหน้านั้น โหมด ภาพถ่ายบุคคล จะปรับบิ
วตี้ได้ละเอียดกว่ากล้องหลัง แต่ยังปรับระดับความเบลอของฉากหลังไม่ได้
ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ จะเหมือนกับกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 54+50+2 ล้านพิกเซล ของ
HONOR 70
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดอัตโนมัติ
ตัวอย่างภาพถ่ายมุมกว้างพิเศษจากกล้อง Ultra Wide
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดกลางคืน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Macro
ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่จากกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ของ HONOR 70
สรุปผลการทดสอบของ HONOR 70
HONOR 70 เป็นสมาร์ทโฟนที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ลองใช้งาน เริ่มจากดีไซน์ที่ดูพรีเมียมราวกับสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ราคาหลายหมื่น ซึ่งเกิดจากการผสมผสานของฝาหลังลวดลายประกายเพชร และหน้าจอแสดงผลขอบโค้งที่มักจะได้เห็นในสมาร์ทโฟนระดับบน ๆ ทำให้ตัวเครื่องดูหน้าใช้งานมากทีเดียว
ด้านการใช้งานทั่วไป HONOR 70 มากับระบบปฏิบัติการ Android 12 ซึ่งถูกครอบทับด้วยอินเทอร์เฟซ Magic UI 6.1 ที่ออกแบบมาค่อนข้างดี ดูสะอาด และใช้งานง่าย ให้ความรู้สึกที่คล้ายกับ EMUI ของ HUAWEI แต่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ใครชอบสไตล์คลีน ๆ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
ในเชิงประสิทธิภาพ HONOR 70 มีหัวใจการทำงานเป็นชิปเซ็ต Snapdragon 778G+ แม้จะไม่ใช่ชิปเซ็ตระดับเรือธง แต่ก็เป็นรุ่นท็อปของ Snapdragon 700 Series จึงมีประสิทธิภาพเป็นรองชิปเซ็ตตระกูล 800 Series อยู่ไม่มาก สามารถรับมือกับการใช้งานได้ทุกประเภทไม่ว่าจะงานหนัก หรืองานเบา แม้กระทั่งการเล่นเกมที่ต้องใช้พลังการประมวลผลด้านกราฟิกสูง ๆ ก็ยังเล่นได้อย่างไหลลื่น แม้จะเปิดโหมดเฟรมเรตสูงไว้ก็ตาม ขณะเดียวกัน หน้าจอแสดงผล OLED ก็ให้สีสันที่สดใสสวยงาม เหมาะทั้งการเล่นเกมและดูหนัง จึงตอบโจทย์การใช้งานด้านความบันเทิงได้ดี แต่ด้วยความที่เป็นมือถือจอขอบโค้ง ภาพบริเวณขอบจะล้นออกไปตามความโค้งของจอ ซึ่งบางคนอาจจะยังไม่ชินสักเท่าไหร่
นอกจากนี้ HONOR 70 ยังไม่มีฟีเจอร์สนับสนุนการเล่นเกมอย่างการปิดกั้นแจ้งเตือนหรือสายโทรเข้า หากใครที่ซีเรียสในเรื่องนี้ก็อาจจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจาก PlayStore มาใช้งานทดแทนกันไปก่อน โดยหวังว่าทาง HONOR จะอัปเดตเพิ่มเข้ามาให้ในอนาคต
สำหรับใครที่กังวลเรื่อง Google ก็สบายใจได้ เพราะ HONOR 70 สามารถรองรับบริการของ Google ได้เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น PlayStore, Gmail, Maps, Drive, Photos ไปจนถึง YouTube และ YT Music เหมือนมือถือ Android ทั่วไปครับ
นอกเหนือจากดีไซน์ และประสิทธิภาพทั่วไปแล้ว การถ่ายภาพ และวิดีโอก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ HONOR 70 ทำได้ดีเยี่ยมเช่นกัน และนับว่าเป็นจุดขายสำคัญของรุ่นนี้
ในการถ่ายภาพโหมดปกติ AI จะปรับแต่งภาพถ่ายให้ดูดีขึ้น โดยยังให้สีสันและบรรยากาศของรูปถ่ายที่แม่นยำเมื่อเทียบกับ AI ของสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น เหมาะกับการถ่ายวิว หรือภาพบรรยากาศ
การถ่ายในมุมมอง Ultra Wide ให้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพใกล้เคียงกล้องหลัก ส่วนการถ่ายแบบ Macro ก็ทำได้ดีมาก สามารถโฟกัสได้อย่างคมชัด สว่าง และแทบไม่มี Noise เลย ถือว่าน่าประทับใจเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีระบบ Autofocus ในโหมดนี้ ทำให้หลุดโฟกัสบ่อย และถูกสลับกลับไปโหมดปกติ บางครั้งจึงถ่ายยากพอสมควร
ในส่วนของการถ่ายรูป Portrait ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังสามารถทำได้ค่อนข้างดี โดยมีโทนสีที่สมจริง และการตัดขอบเบลอที่แม่นยำ หน้าตัวแบบคมชัดแม้ถ่ายในที่แสงน้อย หรือย้อนแสง แต่ทั้งนี้เอฟเฟกต์บิวตี้จะค่อนข้างเข้ม แนะนำให้ปรับไม่เกิน 3 ระดับเพื่อความสมจริง
สำหรับโหมดกลางคืน HONOR 70 ก็ทำได้ดีเช่นกัน สามารถดึงเอาสีสันของแสงไฟออกมาได้อย่างมีชีวิตชีวา โดยรวมถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นหนึ่งที่ถ่ายภาพกลางคืนได้ดี แต่ในบางสถานการณ์ ระบบประมวลผลภาพจะเพิ่มแสงขึ้นหลายระดับ ทำให้ภาพดูสว่างเกินไป ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับมู้ดที่เราต้องการ
การถ่ายวิดีโอ มีโหมดที่น่าสนใจคือโหมด Multi Videos และ Solo Cut โดยโหมด Multi Videos จะเป็นการถ่ายวิดีโอทั้งกล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกัน รวมทั้งเลือกได้ว่าจะถ่ายแบบแบ่งจอ หรือแบบหน้าต่างลอยเหมือนการวิดีโอคอลก็ได้ หรือจะเลือกถ่ายด้วยกล้องหลังแบบซูม 2 เท่าคู่กับ ซูม 1 เท่าก็ได้ สามารถประยุกต์ใช้กับการถ่ายวิดีโอแนว Vlog ได้หลายแบบ ซึ่งเหล่าครีเอเตอร์น่าจะถูกใจฟีเจอร์นี้
จากทั้งหมดที่กล่าวมา HONOR 70 เป็นสมาร์ทโฟนซึ่งมีดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมเกินราคา พร้อมคุณสมบัติที่โดดเด่นรอบด้านทั้งประสิทธิภาพ และการถ่ายภาพ แม้จะมีลูกเล่นน้อยแต่มีฟังก์ชันที่สำคัญครบ ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องในราคาหมื่นกลาง ๆ ครับ
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ HONOR ประเทศไทย
ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง HONOR 70
มาให้ทางทีมงานได้รีวิวกันในโอกาสนี้ รวมทั้งร้าน Milk Mountain Cafe
บางแสน ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายภาพด้วยครับ
รายละเอียดการวางจำหน่าย และโปรโมชัน
HONOR 70 มีราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยที่ 16,990 บาท มีให้เลือก 2 สีมาตรฐาน ได้แก่ สีเงิน Crystal Silver และสีดำ Midnight Black โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
พิเศษ! โปรโมชันสำหรับผู้ที่สั่งซื้อ HONOR 70 ล่วงหน้าระหว่างวันที่ 28 กันยายน - 5 ตุลาคม 2565 รับฟรี HONOR Band 6 มูลค่า 1,290 บาท และประกันหน้า จอแตก คุ้มครอง 90 วัน มูลค่า 5,200 บาท
สรุปคุณสมบัติเด่นของ HONOR 70
- ดีไซน์ตัวเครื่องมีความสวยหรูเป็นพิเศษ มีความโค้งมนทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง ดูพรีเมียมในลักษณะเดียวกับสมาร์ทโฟนราคาแพง
- ขนาดตัวเครื่อง 161.4x73.3x7.91 มิลลิเมตร พร้อมน้ำหนัก 178 กรัม
- หน้าจอแสดงผลประเภท OLED FullView Super Curved Display ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด
2400x1080 พิกเซล (FHD+) พร้อมอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz (Adaptive), รองรับการแสดงผล 1.07 พันล้านสี และรอบรับช่วงสีแบบ DCI-P3 ได้ 100%
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint Sensor) พร้อมระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock)
- ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 778G+ 5G (SM7325-AE) ความเร็ว 2.5 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 642L
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8 GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 256 GB
- แบตเตอรี่ความจุ 4800 mAh พร้อมระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 66W HONOR SuperCharge (11V/6A)
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 12 พร้อมครอบทับด้วย Magic UI 6.1
-------------------------------------------
กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) ประกอบด้วย
- กล้อง Wide (Main : Super Sensing) ความละเอียด 54 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพ Sony IMX800 ขนาด 1/1.49 นิ้ว, รูรับแสงขนาด f1.9 และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF
- กล้อง Ultra Wide & Macro ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2, มุมรับภาพ 122 องศา และระบบโฟกัสอัตโนมัติ
- กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4
พร้อมไฟแฟลชในตัว (LED Flash), ระบบป้องกันการสั่นแบบ EIS (Electronic Image Stabilization) และรองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K UHD
กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4, รองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดระดับ 1080P FHD และระบบป้องกันการสั่นแบบ EIS Video Stabilization
-------------------------------------------
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ Wi-Fi 6, 5G, 4G LTE, 3G WCDMA และ 2G EDGE/GPRS
- รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด (Dual Nano SIM + Dual Standby)
- เชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.2 และ NFC
- ระบุตำแหน่ง และนำทางผ่านระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, Glonass, BeiDou และ Galileo
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C (USB 2.0)
- มี 2 สีมาตรฐานให้เลือก ได้แก่
สีเงิน Crystal Silver และ สีดำ Midnight Black
- ราคา 16,990 บาท ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ
HONOR 70
- ตัวเครื่องไม่มีคุณสมบัติของการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น
- ไม่รองรับการเพิ่มหน่วยความจำเสริมด้วยการ์ดแบบ microSD หรือแบบอื่น ๆ
- กล้องไม่มีระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS
- หน้าจอขอบโค้งอาจไม่เหมาะกับผู้ใช้บางกลุ่ม
- ลำโพงเสียงเป็นแบบเดี่ยว
- ไม่มีพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเครื่องทดสอบจากผู้ผลิต ดังนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริง รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจถูกแก้ไขให้ดีขึ้นแล้วในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบ หรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่งเพื่อความมั่นใจ *
วันที่ : 30/09/2022