หลังจากประสบความสำเร็จมาอย่างท่วมท้นกับสมาร์ทโฟนกล้องคู่ที่เป็นกระแสร้อนแรงมากที่สุดในปี 2016 อย่าง Huawei P9 สมาร์ทโฟนกล้องคู่สุดคมชัดจาก Leica แบรนด์กล้องถ่ายภาพชื่อดังระดับโลกที่จับมือกับ Huawei สร้างสรรค์นวัตกรรมกล้องมือถือให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ล่าสุดทาง Huawei ก็ได้พัฒนา และอัปเกรดประสิทธิภาพของกล้องถ่ายภาพประจำสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล Huawei P Series พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้วในชื่อ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ภายในงาน MWC 2017 

Huawei P10 และ Huawei P10 Plus เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมคุณสมบัติตัวเครื่องแบบอัปเกรด และฟีเจอร์ใหม่ๆ มาให้ใช้งานกันอย่างมากมาย ซึ่งจุดเด่นที่สุดของสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นนี้ก็คือ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมกับกล้องดิจิทัลจาก Leica ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เหมาะสำหรับการถ่ายภาพระดับมืออาชีพได้เลยทีเดียว ซึ่งฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ และถือเป็นจุดเด่นของ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus นั้นยังมีอีกมากมาย ซึ่งเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ทีมงานของเราก็ได้เกาะติดการการถ่ายทอดสดงานเปิดตัว Huawei P10 และ P10 Plus ด้วยเช่นกัน วันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้ทำการสรุป 11 สุดยอดฟีเจอร์ทีเด็ดใน Huawei P10 และ Huawei P10 Plus มาให้ทุกท่านได้รับชมกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยครับ

 

กล้อง Leica ทั้งกล้องด้านหน้า และกล้องด้านหลัง รุ่นแรกของโลก พร้อม Leica Dual-Camera 2.0 Pro Edition สำหรับการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ

หลังจากที่ Huawei กับ Leica ได้จับมือกันสร้างกล้องมือถือรุ่นสำคัญออกมาใน Huawei P9 และประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายแล้ว การกลับมาของ Huawei P10 ในครั้งนี้จึงมีการพัฒนาให้ดีกว่าเดิมอีกขั้นด้วยการใช้งาน กล้อง Leica ทั้งด้านหน้า และด้านหลังของ Huawei P10 โดยกล้องด้านหลังเป็นแบบกล้องคู่ (Dual-Camera) จาก Leica โดยกล้องตัวแรกมีความละเอียดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องตัวที่สองมีความละเอียดอยู่ที่ 20 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) นอกจากนี้ในด้านของรุ่นใหญ่อย่าง Huawei P10 Plus ยังมาพร้อมกับ Leica Dual-Camera 2.0 Pro Edition ที่ช่วยสำหรับการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ ด้วยการใช้งานเลนส์  Leica SUMMILUX-H พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8 และการซูมภาพแบบ 2x Hybrid Zoom ส่วนกล้องด้านหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9

 

ชิปเซ็ต Kirin 960 ตัวท็อปที่เร็วแรงที่สุด พร้อมเทคโนโลยี Ultra Memory และ Ultra Response

ขาดไปไม่ได้สำหรับขุมพลังแห่งการประมวลผลของสมาร์ทโฟน Huawei นั่นก็คือ ชิปเซ็ตประมวลผล Kirin 960 ที่เร็ว และแรงที่สุดของค่ายในขณะนี้ โดย CPU มึความเร็วเพิ่มขึ้น 18% ขณะที่ GPU แรงขึ้นถึง 180% พร้อมเทคโนโลยี Ultra Memory ที่ช่วยจัดการแอปพลิเคชันแบบ Multi-Tasking ให้ใช้งานได้ลื่นไหล และรวดเร็วเพิ่มขึ้นถึง 30% และเทคโนโลยี Ultra Response ที่ช่วยให้ระบบสัมผัสสามารถตอบสนองต่อนิ้วมือ และการใช้งานได้ดีมากยิ่งขึ้น

 

เซ็นเซอร์สแกนนิ้วโฉมใหม่แบบใต้กระจก พร้อมเทคโนโลยี Smart Touch ที่รวม 3 คำสั่งไว้ในหนึ่งเดียว

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของ Huawei นั้นมาพร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรูปแบบใหม่ที่ฝังเซ็นเซอร์ไว้ภายใต้กระจกเพื่อป้องกันความเสียหาย พร้อมทั้งสามารถใช้งาน Gesture ได้ถึง 3 แบบ ในปุ่มเดียว คือ ถ้าแตะปุ่มโฮมหนึ่งครั้งจะเป็นคำสั่ง ย้อนกลับ (Back), ถ้าแตะปุ่มโฮมค้างไว้จะเป็นการออกสู่หน้า Home Screen และถ้าปัดนิ้วจะเป็นการเปิดเมนู Recent Apps

 

บอดี้ที่ไม่กลัวน้ำ พร้อมการเคลือบแผงวงจรด้วยเทคโนโลยี Nano-Coating

แน่นอนว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอกนิกส์นั้นไม่ถูกกับน้ำเป็นอย่างมาก เพราะถ้าตัวอุปกรณ์สัมผัสกับน้ำก็อาจเกิดความเสียหายได้ แต่ Huawei P10 ได้รับการเคลือบตัวเครื่องแบบ Nano-Coating ซึ่งสามารถป้องกันน้ำกระเซ็นได้อย่างสบายๆ และการเคลือบแบบ Nano-Coating นี้ยังเคลือบไปถึงแผงวงจรด้านในด้วยเช่นกัน จึงสบายใจได้เลยว่า Huawei P10 แม้จะโดนน้ำหรือโดนฝนก็ใช้งานได้ทุกสถานการณ์

 

จอ 2K QHD ขอบบางเฉียบสุดคมชัดเต็มตา พร้อมขอบเขตสี 96% และกระจก Gorilla Glass 5 สุดแกร่ง

Huawei P10 มาพร้อมกับหน้าจอความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080p ขนาด 5.1 นิ้ว ขณะที่ Huawei P10 Plus มาพร้อมกับหน้าจอความละเอียดสูงถึงระดับ 2K Quad HD ความละเอียด 1440x2560 พิกเซล กับขนาดใหญ่เต็มตาถึง 5.5 นิ้ว พร้อมขอบจอที่บางเฉียบ และแสดงสีสันได้อย่างครอบคลุมกับขอบเขตสีที่มากถึง 96% และกระจกป้องกันหน้าจอสุดแกร่ง Corning Gorilla Glass 5 ที่พร้อมปกป้องทุกการขีดข่วน

 

สมาร์ทโฟน 4.5G LTE รุ่นแรกของโลก พร้อม 4 เสารับสัญญาณในเครื่องเดียว

สำหรับเทคโนโลยี 4.5G เป็นเทคโนโลยที่พัฒนาเพิ่มเติมจาก 4G ซึ่งทางเครือข่ายผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือจะต้องมีสถานีฐานที่สามารถส่งข้อมูลได้แบบ 4T4R (4 Transmit 4 Receiver) ที่สามารถรับ-ส่ง Data ได้ถึง 4 ช่องสัญญาณในเวลาเดียวกัน และต้องมีเทคโนโลยีการรวมคลื่นความถี่ (Carrier Aggregation) ที่ให้บริการ 4G LTE มารวมกันเพื่อขยายช่องสัญญาณให้ใหญ่มากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้มีความเร็วมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีเครือข่ายผู้ให้บริการที่สามารถนำคลื่นมารวมกันได้สูงสุด 3 คลื่น หรือเรียกง่ายๆ ว่า 3CA

สำหรับ Huawei P10 Plus เป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งาน 4.5G อย่างเต็มรูปแบบเป็นรุ่นแรกของโลก ด้วยการใช้งานเสารับสัญญาณ LTE ถึง 4 เสา ภายในเครื่องเดียว (4x4 LTE MIMO Antenna) ที่สอดคล้องกับสถานีส่งแบบ 4T4R ทำให้รับส่ง Data ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Huawei P10 Plus ยังมาพร้อมกับ เสารับสัญญาณ Wi-Fi ถึง 2 เสา (2x2 Wi-Fi MIMO Antenna) ซึ่งจะช่วยให้ Huawei P10 Plus สามารถใช้งานการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่เร็ว และแรงมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวอุปกรณ์ Access Point ก็ต้องมีเสาส่งสัญญาณมากกว่า 2 เสาขึ้นไป และรองรับเทคโนโลยี MIMO (Multi Input Multi Output) ด้วยเช่นกัน จึงจะสามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ลื่นไหลไร้สะดุดด้วย RAM สูงสุด 6GB พร้อม ROM ใหญ่จุใจสูงสุด 128GB

Huawei P10 Plus มาพร้อมกับหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาดใหญ่จุใจถึง 6GB ที่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันได้หลายโปรแกรมพร้อมกัน โดยไม่เกิดอาการหน่วง หรือค้างแต่อย่างใด และ Huawei P10 Plus ยังมาพร้อมกับหน่วยความจำภายในที่มีความจุสูงถึง 128GB เรียกได้ว่าใครที่ชอบรับชมภาพยนตร์, ชอบฟังเพลง หรือเก็บข้อมูลภายในสมาร์ทโฟนไว้เยอะๆ รับรองได้ว่ามีพื้นที่มากพออย่างแน่นอน

 

สี Greenary และ Dazzling Blue ใหม่ล่าสุดจาก Pantone พร้อมเทคโนโลยี Hyper Diamond-Cut Finishing รุ่นแรกในวงการ

นอกจากคุณสมบัติเด่นด้านอื่นๆ ที่ทำให้ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus เป็นที่น่าจับตามองแล้ว ทาง Huawei ยังยกระดับสมาร์ทโฟนในค่ายให้มีความเป็นแฟชั่นมากยิ่งขึ้นด้วยการร่วมมือกับ Pantone บริษัทชื่อดังระดับโลกในด้านการกำหนดเฉดสีที่ใช้ในงานด้านต่างๆ พร้อมเปิดตัวสีใหม่ 2 สี คือ สีเขียว (Greenary) และสีน้ำเงิน (Dazzling Blue) พร้อมตัวเครื่องที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Hyper Diamond-Cut Finishing เป็นรุ่นแรกในวงการ ซึ่งจะช่วยให้พื้นผิวมีความเงางาม และแวววาว แต่ไม่เกิดรอยนิ้วมือ พร้อมทั้งมีการป้องกันรอยขีดข่วน และไม่ลื่นหลุดจากมือด้วย

 

แบตเตอรี่สุดอึด พร้อมเทคโนโลยี SuperCharge และระบบ Super Safe 5-Gate Protection

Huawei P10 และ Huawei P10 Plus มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 3200 mAh และ 3750 mAh ตามลำดับ ซึ่งรองรับเทคโนโลยี Huawei SuperCharge พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย Super Safe 5-Gate Protection ที่ช่วยปรับกระแสไฟฟ้า และอุณหภูมิให้สมดุลขณะทำการชาร์จ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง ที่มักทำให้แบตเตอรี่ร้อน หรือจ่ายไฟเกินกระแส

 

ระบบ EMUI 5.1 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด พร้อมฟังก์ชัน Highlights ที่พัฒนาร่วมกับ GoPro

Huawei P10 และ Huawei P10 Plus มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat ที่ถูกครอบทับด้วย EMUI 5.1 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด พร้อมฟีเจอร์ Highlights ที่พัฒนาร่วมกับ GoPro บริษัทกล้องชื่อดังระดับโลก โดยฟีเจอร์ Highlights จะอยู่ใน คลังภาพ (Photos หรือ Gallery) โดยจะเป็นการจัดกลุ่มรูปภาพภายในตัวเครื่องที่ยึดตามใบหน้าของบุคคล หรือกิจกรรมที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งจัดทำคลิปวิดีโอจากภาพกิจกรรมเดียวกัน และให้ผู้ใช้เลือก Template หรือปรับแต่งได้อย่างอิสระ พร้อมแชร์ให้เพื่อนๆ ในโซเชียลได้เห็นในทันที

 

อุปกรณ์เสริมหลากหลายรูปแบบ บนดีไซน์ และสีสันที่เลือกได้

Huawei P10 และ Huawei P10 Plus มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น แม่เหล็กติดรถยนต์ (Magnetic Car Kit), เคสหนังจาก Leica และเคสป้องกันตัวเครื่องหลากสีสัน พร้อมกระเป๋าใส่โทรศัพท์แบบ Limited Edition ด้วย
 

ราคา และวันวางจำหน่าย Huawei P10 และ Huawei P10 Plus

- Huawei P10 รุ่น ROM 64GB + RAM 4GB ราคา 649 ยูโร (ประมาณ 23,900 บาท)
- Huawei P10 Plus รุ่น ROM 64GB + RAM 4GB ราคา 699 ยูโร (ประมาณ 25,700 บาท)
- Huawei P10 Plus รุ่น ROM 128GB + RAM 6GB ราคา 799 ยูโร (ประมาณ 29,400 บาท)

โดยทั้ง Huawei P10 และ Huawei P10 Plus จะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคมนี้ ในประเทศ Australia, Austria, Chile, China, Columbia, Denmark, Finland, France, Germany, Greece, Italy, Malaysia, Mexico, Netherlands, New Zealand, Norway, Peru, Philippines, Poland, Russia, Saudi Arabia, Singapore, South Africa, Spain, Sweden, Turkey, UAE, United Kingdom, Vietnam รวมไปถึงประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งราคา Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ในไทย จะเปิดราคาอย่างเป็นทางการที่มูลค่าเท่าใดนั้น จะรายงานให้ทราบกันต่อไป

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 27/2/2560