TMC Point

  8.42

การออกแบบดีไซน์

  8.5

ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ

  8.5

คุณสมบัติเครื่อง

  8.5

ฟังก์ชันการใช้งาน

 8.5

เสถียรภาพและประสิทธิภาพ

  8.0

ความคุ้มค่าต่อราคา

  8.5

 
   

Samsung F400 Review & Focus
Passionate Sound On The Go!
Review Date (11-August-2008)

เริ่มวางจำหน่ายกันอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้วสำหรับ Music Phone จาก Samsung ในชื่อรุ่นว่า F400 ซึ่งโปรโมทความสามารถที่โดดเด่นมากที่สุดในเรื่องของการฟังเพลง ตั้งแต่การออกแบบดีไซน์ให้มีการสไลด์แบบ 2 ทิศทาง (Dual Slider) ซึ่งเมื่อสไลด์ขึ้นด้านบน จะเป็นแป้นปุ่มกดเหมือนกับสไลด์โฟนทั่วไป แต่ความพิเศษคือถ้าหากสไลด์ลงด้านล่างก็จะเผยให้เห็นลำโพงแบบ Stereo ขนาดใหญ่ ซึ่งมีไว้เพื่อการฟังเพลงโดยเฉพาะ ดีไซน์ลักษณะนี้จะคล้ายกับรุ่นก่อนหน้านี้อย่าง i450 ที่มาจากค่ายเดียวกัน แต่จะแตกต่างกันตรงที่ i450 เป็น Symbian Smartphone ในขณะที่ F400 ไม่ใช่ Smartphone นั่นเอง

คุณสมบัติของการฟังเพลงที่อยู่ใน F400 นั้นมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม เริ่มตั้งแต่เทคโนโลยีระบบเสียงคุณภาพสูงจาก Bang & Olufsen ICEpower ฟังก์ชัน Smart Bass ที่ช่วยให้เสียงเบสแน่นมีพลัง ฟังก์ชัน Smart Limiter ที่ช่วยให้สัญญาณเสียงมีแอมพลิจูดที่ไม่เกินค่าที่กำหนดไว้ ระบบเสียงสมจริงแบบ DNSe เวอร์ชัน 2.0 ลำโพงแบบ Stereo ขนาดใหญ่ที่สไลด์เข้าออกได้ สามารถปรับ Equalizer ได้ ปุ่ม Music Hotkey ที่สามารถกดเข้าเครื่องเล่นเพลงได้อย่างรวดเร็ว ปุ่มควบคุมการทำงานแบบวงล้อ ช่องต่อสายหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร รองรับ A2DP วิทยุ FM Stereo ในตัว และฟังก์ชัน Music Recognization ที่ช่วยหาข้อมูลเพลงได้อย่างง่ายดาย ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ เรียกได้ว่า F400 เกิดมาเพื่อเป็น Music Phone อย่างแท้จริง

นอกจากความสามารถที่โดดเด่นในเรื่องของการฟังเพลงแล้ว ความสามารถในด้านอื่นๆ ก็ถือว่ามีใส่มาให้อย่างครบครันเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 3G/HSPDA, EDGE หรือ GPRS รองรับการโทรแบบ Video Calling รองรับ microSD Card ได้สูงสุด 8 GB เชื่อมต่อข้อมูลผ่าน Bluetooth หรือสาย USB กล้องดิจิตอลในตัวความละเอียด 3 ล้านพิกเซล รับ-ส่งข้อความ MMS หรือ Email และอื่นๆ อีกมากมาย และเมื่อเทียบความสามารถทั้งหมดของ F400 กับราคาเปิดตัวที่แว่วมาว่าเคาะขายกันที่หมื่นนิดๆ เท่านั้น ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ในการใช้งานจริงๆ จะมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด คงต้องมาทดสอบกันต่อ

Samsung F400 Video Review & Focus
 

 

 วิดีโอรีวิว Samsung F400

อุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่อง

สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ ที่มาพร้อมกับชุดขายมาตรฐานของ Samsung F400 นั้นก็มีอยู่อย่างครบถ้วนเพียงพอต่อการใช้งาน  เริ่มตั้งแต่ตัวเครื่อง, แบตเตอรี่ Li-Ion ขนาด 960 mAh จำนวน 1 ก้อน, สายชาร์จแบตเตอรี่ จำนวน 1 เส้น, สาย USB Data Cable จำนวน 1 สาย, หูฟังแบบ Stereo จำนวน 1 เส้น, การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD Card ขนาด 2 GB, แผ่นซีดีซอฟต์แวร์ และคู่มือการใช้งาน เรียกได้ว่าผู้ใช้แทบจะไม่ต้องไปหาซื้ออะไรมาเพิ่มก็ว่าได้

เมื่อแรกเห็นตัวเครื่อง


ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง จะมีการออกแบบที่ทันสมัย โฉบเฉี่ยว และแอบหรูอยู่พอประมาณ โทนสีเป็นสีดำสลับกับเงิน วัสดุที่ใช้ในส่วนที่เป็นสีดำจะเป็นพลาสติกที่มีความมันวาว และวัสดุที่ใช้ในส่วนที่เป็นสีเงินจะเป็นพลาสติกเคลือบโครเมียมมันวาว


ที่ด้านบนจะมีลำโพงสำหรับการสนทนา และเลนส์กล้องสำหรับการใช้งานในการสนทนาแบบ Video Calling ซึ่งไม่สามารถใช้ถ่ายภาพได้ ถัดมาที่ด้านล่างจะเป็นหน้าจอแสดงผล TFT LCD ความละเอียด QVGA ที่มีความกว้าง 2.2 นิ้ว


ที่ด้านล่างจะมีปุ่ม Softkey ปุ่มรับสาย-โทรออก ปุ่มวางสาย และปุ่มควบคุมการทำงานแบบวงล้อ ซึ่งสามารถทำงานได้ 2 รูปแบบคือ หมุนวงล้อเพื่อเลื่อนซ้าย-ขวา หรือเลื่อนขึ้นลง และในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถกดควบคุมทิศทางในลักษณะเดียวกันกับโทรศัพท์มือถือทั่วไปได้ด้วยในตัว


ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้มีความทันสมัยเช่นกัน ด้วยโทนสีบรอนซ์เงินตัดกับสีดำ


ที่ด้านบนจะเป็นรูสำหรับร้อยสายคล้อง ถัดมาที่ตรงกลางจะเป็นปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง และด้านล่างสุดจะเป็นช่องสำหรับใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD Card ซึ่งมีฝาพลาสติกปิดเอาไว้


การใส่การ์ดเข้าไปนั้นก็ไม่ยาก ให้นำตัวการ์ดเสียบลงไปในทิศทางที่ถูกต้อง แล้วใช้เล็บกดลงไปจนสุดจนได้ยินเสียงคลิ๊กเพื่อเป็นการล็อกการ์ดเอาไว้ ก็เป็นอันเสร็จ ส่วนการถอดการ์ดออกก็ให้ใช้เล็บกดลงไปจนได้ยินเสียงคลิ๊กเพื่อเป็นการปลดล็อก ก็จะสามารถดึงตัวการ์ดออกมาได้


ที่ด้านขวาของตัวเครื่องมีการออกแบบดีไซน์ในลักษณะเดียวกันกับที่ด้านซ้าย


ที่ด้านบนจะเป็นช่องสำหรับการเชื่อมต่อต่างๆ เช่น สายหูฟัง สาย USB หรือสายชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งมีฝาพลาสติกปิดเอาไว้ด้วย


ถัดมาที่ตรงกลาง จะเป็นปุ่มสีเขียว และปุ่มสีแดง ซึ่งปุ่มสีเขียวจะเป็นปุ่ม Music Hotkey ที่ช่วยให้สามารถเข้าไปยังโปรแกรมเครื่องเล่นเพลงได้อย่างรวดเร็ว ส่วนปุ่มสีแดงจะเป็นปุ่มกล้องดิจิตอล


ที่ด้านบนของตัวเครื่องค่อนข้างเรียบๆ ด้วยพื้นผิวสีบรอนซ์เงิน ไม่มีอะไรนอกจากช่องสำหรับต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร


เมื่อเปิดฝาออกมาจะพบกับช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถนำหูฟังที่มีขายอยู่ทั่วไปมาเชื่อมต่อใช้งานได้ทันที โดยที่ไม่ต้องมีตัวแปลงใดๆ จึงนับเป็นข้อดีของรุ่นนี้


ที่ด้านล่างของตัวเครื่องก็ไม่มีอะไรนอกจากไมโครโฟนที่มีไว้สำหรับการสนทนา


ที่ด้านหลังของตัวเครื่องประกอบไปด้วยฝาหลังพลาสติกที่มีสีดำด้าน และที่ด้านบนจะเป็นส่วนของเลนส์กล้องดิจิตอลที่มีความละเอียด 3 ล้านพิกเซล พร้อมกับไฟแฟลชในตัว


เมื่อสไลด์ขึ้นด้านบนจะพบกับแป้นปุ่มกดตัวเลขเหมือนกับโทรศัพท์มือถือแบบสไลด์ทั่วไป เมื่อพลิกมาด้านหลังจะพบกับชิ้นงานที่ค่อนข้างเรียบร้อยดี ไม่มีขดลวด สปริง หรืออะไรโผล่ออกมาให้เห็น


การสไลด์สามารถทำได้ง่ายและนุ่มนวลดี แต่ยังไม่ค่อยแน่นหนาแข็งแรงเท่าที่ควร มีอาการโยกคลอนให้เห็นอยู่เล็กน้อย คงต้องรอดูต่อไปว่าเครื่องที่วางจำหน่ายจริงจะได้รับการแก้ไขในจุดนี้หรือไม่


การสไลด์ของ F400 สามารถทำได้ทั้ง 2 ด้าน หรือ Dual Slide ซึ่งเมื่อสไลด์ขึ้นด้านบนจะเป็นแป้นปุ่มกดเหมือนกับมือถือแบบสไลด์ทั่วไป แต่ถ้าหากสไลด์ลงด้านล่างจะพบกับลำโพงขนาดใหญ่โผล่ออกมาที่ด้านบน


ภาพที่เปิดตัวออกมาตอนแรกของ F400 ตรงลำโพงนี้จะมีการสกรีนข้อความว่า Audio By Bang & Olufsen ICEpower เอาไว้ที่ขอบด้วย แต่สำหรับเครื่องที่ได้มาทดสอบนั้นไม่พบกับข้อความข้างต้น ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะนำไปใส่ไว้ในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไป

เริ่มใส่ SIM Card และแบตเตอรี่


การใส่ซิมการ์ด และแบตเตอรี่จะใส่ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง โดยจะต้องเปิดฝาหลังออกมาก่อน ซึ่งฝาหลังของ F400 ถือว่าปิดเอาไว้ได้แน่นหนาเป็นอย่างดี แต่ในขณะเดียวกันก็เปิดได้ค่อนข้างยากอยู่เล็กน้อย วิธีการเปิดอาจจับตัวเครื่องในลักษณะดังภาพให้มั่นคงที่สุด แล้วออกแรงดันมากพอสมควร ฝาหลังจึงจะเลื่อนออกมา


เมื่อเปิดฝาหลังออกมาจะพบกับช่องว่างที่มีไว้สำหรับใส่ซิมการ์ด และแบตเตอรี่ ซึ่งมีลักษณะเหมือนกันกับโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ทั่วไป 


ฝาหลังของ F400 จะทำมาจากพลาสติกสีดำด้าน ซึ่งดูแล้วก็เป็นวัสดุที่มีคุณภาพสูง และน่าจะแข็งแรงทนทานพอสมควร


ก่อนจะใส่ก้อนแบตเตอรี่ก็ให้ทำการใส่ซิมการ์ดเสียก่อน โดยให้นำแผ่นซิมการ์ดไปเสียบไว้ในทิศทางที่ถูกต้อง โดยอาจสังเกตจากรูปร่างของช่องใส่ที่อยู่บนตัวเครื่อง


เมื่อใส่ซิมการ์ดเรียบร้อยแล้วก็ให้ทำการใส่ก้อนแบตเตอรี่ ซึ่งก้อนแบตเตอรี่ของ F400 จะมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กกระทัดรัด และมีความบางด้วย การใส่ก็ให้นำก้อนแบตเตอรี่มาใส่ให้ถูกทิศทาง โดยอาจจะสังเกตจากขั้วโลหะของแบตเตอรี่ก็ได้ 


เมื่อใส่ซิมการ์ดและแบตเตอรี่เรียบร้อยแล้ว ที่ด้านหลังของตัวเครื่องก็จะมีลักษณะดังภาพ ซึ่งหลังจากนี้ก็ให้นำฝาหลังมาปิดเอาไว้ให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมพร้อมรอการเปิดเครื่องใช้งานกันต่อไป

ความเหมาะมือ ขนาด และน้ำหนัก


ขนาดของ F400 หากดูกันที่ความกว้างและความสูงก็ถือว่าไม่เล็กไม่ใหญ่ มีขนาดที่กำลังดี แต่ในเรื่องของความหนานั้นค่อนข้างมาก คือหนา 16.9 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้เวลานำใส่กระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋ากางเกง อาจจะเกิดความอึดอัดพอสมควร อย่างไรก็ดี ด้วยตัวเครื่องที่ค่อนข้างหนา ก็ยังมีข้อดีอยู่คือทำให้จับถือได้อย่างเต็มไม้เต็มมือมากขึ้น มีความกระชับ ไม่ทำตกหล่นง่ายๆ


เมื่อสไลด์ขึ้นด้านบน จะพบกับแผงปุ่มกดสำหรับการกดเลขโทรออก หรือพิมพ์ข้อความต่างๆ ซึ่งการสไลด์ทำได้ค่อนข้างง่าย และนิ่มนวล แต่เมื่อสไลด์ออกมาพบว่ายังไม่แข็งแรงแน่นหนาเท่าที่ควร มีอาการโยกคลอนอยู่เล็กน้อย แต่หากเป็นเครื่องที่วางจำหน่ายจริงก็อาจจะมีการแก้ไขในจุดนี้เพิ่มเติมก็เป็นได้


ด้วยความหนา 16.9 มิลลิเมตร ซึ่งค่อนข้างมาก อาจจะไม่เป็นที่ชื่นชอบของใครบางคน แต่อย่างน้อยก็น่าจะช่วยใช้จับถือได้อย่างกระชับมือมากขึ้น


ความกว้างและความสูงของตัวเครื่องถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง ไม่มากไม่น้อย แต่ถ้าหากรวมกับความหนาและการออกแบบดีไซน์แล้ว ดูรวมๆ F400 น่าจะเหมาะกับผู้ใช้ที่เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง


เมื่อสไลด์ขึ้นด้านบนจะพบว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่เต็มไม้เต็มมือเลยทีเดียว


เมื่อสไลด์ลงด้านล่างจะพบกับลำโพงขนาดใหญ่โผล่ออกมาให้เห็นที่ด้านบน ซึ่งลำโพงขนาดใหญ่นี้เองที่น่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตัวเครื่อง F400 ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความหนาไปได้ ซึ่งก็ถือว่าได้อย่างเสียอย่าง


เมื่อเอา F400 มาวางเปรียบเทียบกับสไลด์โฟนรุ่นยอดนิยมอย่าง U600 ก็จะพบว่ามีความกว้างและความสูงที่ใกล้เคียงกันมาก


แต่หากนำมาเทียบความหนากันแล้ว จะเห็นได้ชัดว่าความหนาของ F400 นั้นกินขาด เนื่องจาก U600 มีความหนาเพียง 10.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ในขณะที่ F400 หนาถึง 16.9 มิลลิเมตร แต่อย่างไรก็ตาม F400 ก็ได้ลำโพงขนาดใหญ่มาเป็นข้อดีทดแทนด้วยเช่นกัน

เริ่มเปิดเครื่อง


การเปิดเครื่องใช้งาน ก็จะมีวิธีการเช่นเดียวกันกับโทรศัพท์มือถืออีกหลายๆ รุ่น คือให้กดปุ่มวางสายค้างเอาไว้ประมาณ 1-2 วินาที เครื่องก็จะทำการสตาร์ทตัวเองขึ้นมาและพร้อมใช้งานในเวลาที่ไม่นานนัก

ความคมชัดและสวยงามของหน้าจอแสดงผล


หน้าจอแสดงผลของ F400 นั้นจะเป็นหน้าจอแบบ TFT LCD ที่มีความละเอียดระดับ QVGA หรือ 240x320 พิกเซล มีความกว้าง 2.2 นิ้ว แสดงผลสีได้ 262,144 สี ซึ่งสามารถแสดงผลได้ละเอียดคมชัด สว่าง สีสันสดใสตามสไตล์ของซัมซุง ซึ่งโทรศัพท์มือถือจากซัมซุงมักจะมีจุดเด่นในเรื่องของการแสดงผลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ปุ่มกด และการตอบสนอง


ปุ่มกดของ F400 นั้นมีอยู่หลายส่วน ส่วนแรกคือปุ่มควบคุมการทำงานแบบวงล้อ ที่สามารถควบคุมทิศทางขึ้น-ลง หรือ ซ้าย-ขวาได้ด้วยการหมุนเป็นวงกลม ซึ่งมีการตอบสนองที่ค่อนข้างน่าพอใจ แต่อาจจะต้องทำความเคยชินกันซักระยะหนึ่งจึงจะสามารถใช้งานได้คล่องมือ โดยปุ่มควบคุมการทำงานแบบวงล้อนี้ สามารถทำงานแบบปุ่มควบคุมแบบ 5 ทิศทางเหมือนกับโทรศัพท์มือถือรุ่นทั่วๆ ไปได้ คือสามารถกดลงไปได้ตามปกติ ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถเลือกได้ว่าจะใช้วิธีควบคุมด้วยการหมุน หรือควบคุมด้วยการกด แล้วแต่ว่าถนัดแบบใดมากกว่ากัน


ปุ่มข้างๆ ปุ่มวงล้อ ได้แก่ ปุ่ม Softkey ซ้าย-ขวา ปุ่มรับสาย และปุ่มวางสาย โดยปุ่มเหล่านี้สามารถกดใช้งานได้ง่าย มีการตอบสนองที่ดี และค่อนช้างแข็งแรงแน่นหนาดี


แผงปุ่มกดตัวเลขมีการจัดเรียงในรูปแบบมาตรฐาน แต่ละปุ่มค่อนข้างมีความนุ่มนวล มีขนาดใหญ่ และแน่นหนาเป็นอย่างดี สามารถกดใช้งานได้ง่าย และมีการตอบสนองที่ดี

เมนูและฟังก์ชันการทำงาน


ที่หน้าจอหลัก หรือหน้าจอ Standby ของ F400 จะประกอบไปด้วย ขีดระดับสัญญาณ สถานะของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต สถานะของการ์ดหน่วยความจำ โปรไฟล์ที่กำลังใช้งานอยู่ ระดับพลังงานแบตเตอรี่ วันที่ เวลา ชื่อของเครือข่าย เมนูหลัก และเมนูส่วนตัว


เมนูส่วนตัว หรือ My Menu เป็นฟังก์ชันหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำเมนูที่มักจะใช้งานบ่อยเป็นพิเศษมารวมเอาไว้ในที่เดียวกัน เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้าใช้งาน


ที่หน้าจอ Standby ผู้ใช้สามารถเพิ่มลดระดับเสียงของปุ่มกดได้ทันที โดยกดที่ปุ่มที่อยู่ตรงด้านข้างซ้ายของตัวเครื่อง


ที่ด้านข้างขวาของตัวเครื่องจะปุ่ม Music Hotkey และปุ่มกล้อง ที่สามารถกดเพื่อเข้าใช้งานโปรแกรมเครื่องเล่นเพลง หรือฟังก์ชันกล้องดิจิตอลได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดแค่เพียงครั้งเดียว

 
เมนูหลักแบบมาตรฐานของ F400 จะเป็นเมนูแบบ Grid Icons 3x4 แต่ผู้ใช้ก็สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลเมนูให้เป็นแบบ List หรือแบบรายการได้เช่นกัน


หากมีการสไลด์ลงด้านล่างให้ลำโพงโผล่ออกมาที่ด้านบน ที่หน้าจอแสดงผลจะมีเมนู 3 เมนูแสดงขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นเมนูเพื่อความบันเทิงทั้งสิ้น ได้แก่ วิทยุ FM เครื่องเล่นเพลง และเครื่องเล่นวิดีโอ

เมนู Call log (บันทึกการโทร)



ในเมนูบันทึการโทร จะมีการเก็บบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการโทร หรือการใช้งานเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นหมายเลขที่ไม่ได้รับสาย หมายเลขที่โทรออก หมายเลขที่รับสาย จำนวนข้อมูลในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือเวลาที่ใช้งานการโทรเป็นต้น

เมนู Phonebook (สมุดโทรศัพท์) 



ในเมนูสมุดโทรศัพท์ จะมีการเก็บบันทึกข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อเอาไว้ และมีฟังก์ชันอำนวยความสะดวกหลายอย่าง เช่น การสร้างข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อใหม่ ซึ่งสามารถใส่รายละเอียดปลีกย่อยได้มากมายหลายอย่าง การค้นหารายชื่อ หรือการกำหนดหมายเลขโทรด่วน เป็นต้น

เมนู Music Player (เครื่องเล่นเพลง)



การค้นหาเพลง สามารถค้นหาได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น เพลงที่เล่นล่าสุด, เพลงทั้งหมด, เพลงในรายการเพลง, เพลงที่เล่นไปเมื่อเร็วๆ นี้, เพลงที่เล่นมากที่สุด, ชื่อศิลปิน, ประเภทของเพลง, อัลบั้ม, ผู้แต่งเพลง และสามารถเปิดฟัง Podcasts ได้ 


หน้าตาของโปรแกรมเครื่องเล่นเพลง 


มีฟังก์ชันสำหรับการเล่นเพลงมาให้ใช้งานหลายฟังก์ชัน เช่น การหยุดเพลงชั่วคราว, การส่งผ่านบลูทูธ, การเล่นซ้ำ, การหยุด, การส่งทางข้อความ, การส่งทางอีเมล การส่งทางบลูทูธ การตั้งเป็นเสียงเรียกเข้า หรือการใช้คะแนนเพลง เป็นต้น 


สามารถเปิดดูข้อมูลจำเพาะของไฟล์เพลงแต่ละไฟล์ได้ 


สามารถกำหนดค่าใช้งานได้ด้วยตนเอง เช่น การเล่นเป็นพื้นหลัง, Equalizer, ฟังก์ชัน Fade out และการแสดงผลภาพเคลื่อนไหว เป็นต้น 


ผู้ใช้สามารถกำหนดปุ่ม Shortcuts ลงบนแผงปุ่มกดตัวเลข เพื่อการควบคุมการเล่นเพลงได้ด้วยตนเอง 


สามารถสร้างรายการเพลงส่วนตัวที่มักจะเปิดฟังอยู่บ่อยๆ ได้ และนอกจากนั้นในเครื่อง F400 ก็ยังมีโปรแกรม Music Recognition ที่ช่วยวิเคราะห์หาข้อมูลของเสียงเพลงที่ผู้ใช้บันทึกเสียงเอาไว้ โดยทำการค้นหาข้อมูลจากฐานข้อมูลเพลงขนาดใหญ่ที่มีอยู่อีกด้วย

เมนู Google (กูเกิล)


ระบบการค้นหาข้อมูลออนไลน์ที่ดีที่สุดตอนนี้คงไม่มีใครเกิน Google ไปได้ ดังนั้น F400 จึงมีเมนู Google ไว้ให้ใช้งานโดยเฉพาะ โดยจะมี Google Search ที่ใช้สำหรับการค้นหาข้อมูลต่างๆ และยังมี Google Mail ที่รองรับการใช้งานอีเมลของกูเกิลอีกด้วย

 


ในหน้าหลักของเมนูข้อความจะแบ่งออกเป็นหมวดๆ เช่น การสร้างข้อความ, กล่องข้อความ, กล่องอีเมล, ข้อความร่าง, ข้อความออก หรือข้อความที่ส่ง เป็นต้น 


สามารถเลือกสร้างข้อความแบบปกติ หรือสร้างข้อความอีเมลได้ 


การสร้างข้อความ สามารถสร้างได้ตั้งแต่ข้อความตัวอักษรแบบพื้นฐาน ไปจนถึงข้อความที่มีองค์ประกอบพิเศษต่างๆ เช่น การใส่รูปภาพ, การใส่เสียง, การใส่วิดีโอ หรือการแนบไฟล์ เป็นต้น และยังสามารถสามารถส่งข้อความไปยังผู้ติดต่อได้หลายคนภายในครั้งเดียว รวมถึงมี Templates ข้อความไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที เพื่อความรวดเร็วในการสร้างข้อความ

เมนู My Files (ไฟล์ส่วนตัว)


ในเมนูไฟล์ส่วนตัว จะแบ่งไฟล์ออกเป็นหลายกลุ่ม เช่น ไฟล์รูป, ไฟล์วิดีโอ, ไฟล์เสียง, ไฟล์เกมส์ และอื่นๆ 


สามารถเปิดดูรูปภาพที่ถ่ายจากกล้องดิจิตอลได้ พร้อมฟังก์ชันพื้นฐานสำหรับการเปิดดูรูปภาพ เช่น ส่งรูปภาพไปทางข้อความ, อีเมล หรือบลูทูธ รวมถึงสามารถกำหนดให้รูปภาพแสดงเป็นพื้นหลัง หรือภาพส่วนตัวของผู้ติดต่อได้


มีโปรแกรมเล่นคลิปวิดีโอติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน และมีฟังก์ชันพื้นฐานอยู่อย่างครบถ้วน

เมนู Calendar (ปฏิทินนัดหมาย)


การแสดงผลปฏิทินนัดหมายสามารถกำหนดได้ 2 แบบคือ แสดงตามวัน หรือแสดงตามสัปดาห์ 


สามารถบันทึกข้อมูลได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นบันทึกนัดหมาย, บันทึกวันครบรอบ, บันทึกวันหยุด, บันทึกวันสำคัญ และบันทึกวันส่วนตัว 


สามารถกำหนดค่าวันเริ่มสัปดาห์ได้ สามารถกำหนดการแสดงผลได้ และสามารถตรวจสอบสถานะของหน่วยความจำปฏิทินได้

เมนู Camera (กล้องดิจิตอล)


หน้าจอหลักของกล้องดิจิตอล จะประกอบไปด้วยตัวเลือกการตั้งค่าต่างๆ, การแสดงสถานะของหน่วยความจำ และการเปิดดูรูปภาพ 


มีโหมดการถ่ายภาพหลักๆ ให้เลือก 2 อยู่แบบ คือการถ่ายภาพนิ่ง และการถ่ายภาพวิดีโอ 


ในการถ่ายภาพนิ่ง สามารถเลือกถ่ายได้หลายแบบ ได้แก่ ถ่ายภาพเดี่ยว, ถ่ายภาพต่อเนื่อง, ถ่ายภาพโมเสค, ถ่ายภาพแบบใส่กรอบ และถ่ายภาพในแนวกว้าง 


สามารถกำหนดความละเอียดของรูปภาพได้ 5 ขนาด คือ 2048x1536, 1600x1200, 1280x960, 640x480 และ 320x240 พิกเซล 


เลือกเปิด-ปิดไฟแฟลชได้ แต่ไม่มีฟังก์ชันไฟแฟลชแบบอัตโนมัติ 


ตั้งเวลาถ่ายภาพล่วงหน้าได้ตั้งแต่ 3 วินาที, 5 วินาที และ 10 วินาที 


ปรับค่า White Balance ได้ทั้งหมด 5 แบบ คือ Auto, Daylight, Incandescent, Fluorescent และ Cloudy


เลือกใส่ Effects ได้ทั้งหมด 3 แบบ คือ Grey, Sepia และ Negative 


สามารถปรับความสว่างของรูปภาพได้


สามารถดู Shortcut ต่างๆ บนปุ่มกดตัวเลขได้ 


การตั้งค่าใช้งาน สามารถปรับค่าเสียงชัตเตอร์ หน่วยความจำที่ใช้ คุณภาพของรูปภาพ การวัดค่า Exposure ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ รูปแบบการถ่ายภาพ คุณภาพของภาพวิดีโอ หรือรูปแบบของไฟล์วิดีโอ เป็นต้น


การถ่ายภาพวิดีโอ สามารถเลือกได้ว่าจะถ่ายวิดีโอแบบปกติ หรือจะถ่ายเพื่อส่งข้อความ MMS


สามารถกำหนดความละเอียดของภาพวิดีโอได้ 2 ขนาด คือ 320x240 และ 176x144 พิกเซล 


การถ่ายภาพวิดีโอสามารถกำหนดค่าได้เหมือนกันกับการถ่ายภาพนิ่งอยู่หลายอย่าง เช่น การเปิดไฟแฟลช การตั้งเวลาถ่ายล่วงหน้า การกำหนดค่า White Balance การใส่ Effects หรือการปรับความสว่าง เป็นต้น


การถ่ายภาพวิดีโอ สามารถเลือกที่จะบันทึกเสียง หรือไม่บันทึกเสียงก็ได้


สามารถดู Shortcut ต่างๆ บนปุ่มกดตัวเลขได้ เช่นเดียวกันกับการถ่ายภาพนิ่ง

เมนู FM Radio (วิทยุ FM)


โปรแกรมฟังวิทยุ FM Stereo จะมีหน้าตาดังภาพ และมีฟังก์ชันพื้นฐานมาให้ใช้งาน เช่น การเปิดเล่นผ่านทางลำโพง, การค้นหาคลื่นวิทยุด้วยตนเอง, การค้นหาสัญญาณวิทยุแบบอัตโนมัติ, การบันทึกคลื่นวิทยุ หรือการตั้งค่าให้เล่นเป็นพื้นหลัง เป็นต้น

เมนู Applications (แอปพลิเคชัน) 


ในเมนู Applications จะเป็นที่รวบรวมโปรแกรมอรรถประโยชน์ต่างๆ เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น อินเทอร์เน็ต, บลูทูธ, ตกแต่งแก้ไขรูปภาพ, จดบันทึก, รายการงาน, บันทึกเสียง, นาฬิกาเทียบเวลาโลก, เครื่องคิดเลข, โปรแกรมแปลงหน่วย, นาฬิกานับเวลาถอยหลัง, นาฬิกาจับเวลา และโปรแกรม Music Recognition


ลักษณะหน้าตาของฟังก์ชัน Bluetooth ซึ่งสามารถกำหนดค่าใช้งานต่างๆ ได้


ลักษณะหน้าตาของโปรแกรมตกแต่งแก้ไขรูปภาพ


ลักษณะหน้าตาของโปรแกรมจดบันทึก และโปรแกรมรายการงาน


ลักษณะหน้าตาของโปรแกรมเครื่องบันทึกเสียง


ลักษณะหน้าตาของโปรแกรมนาฬิกาเทียบเวลาโลก


ลักษณะหน้าตาของโปรแกรมเครื่องคิดเลข และเครื่องแปลงหน่วย


ลักษณะหน้าตาของโปรแกรมนาฬิกานับเวลาถอยหลัง และนาฬิกาจับเวลา


ลักษณะหน้าตาของโปรแกรม Music Recognition ซึ่งวิธีใช้งานคือหากผู้ใช้ได้ยินเพลงอะไร ไม่ว่าจะได้ยินที่ไหนก็ตาม แล้วเกิดอยากรู้ว่าเพลงนั้นชื่อเพลงอะไร หรือใครเป็นคนร้อง ก็ให้ทำการบันทึกเสียงเพลงนั้นเอาไว้ แล้วนำมาวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมนี้ ซึ่งโปรแกรมจะทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลเสียงที่บันทึกเอาไว้กับฐานข้อมูลเพลงขนาดใหญ่ แล้วจะหาผลลัพธ์ของเพลงที่ตรงกันมาให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ชอบติดตามข้อมูลในวงการเพลง

เมนู Alarms (นาฬิกาปลุก)


นาฬิกาปลุกสามารถตั้งปลุกได้หลายรายการ และมีฟังก์ชันการทำงานหลายอย่าง เช่น การเปิดเครื่องอัตโนมัติ, การปลุกซ้ำ, การเลื่อนปลุก หรือการตั้งวันที่จะปลุก เป็นต้น

เมนู Settings (การตั้งค่า) 


การตั้งค่าการใช้งานจะแบ่งออกเป็นหลายหมวดย่อย ได้แก่ โปรไฟล์, เวลาและวันที่, การแสดงผลและแสงไฟ, โทรศัพท์, การโทร, ความปลอดภัย, แอปพลิเคชัน, เครือข่าย, หน่วยความจำ และการเรียกคืนค่าจากโรงงาน 


โปรไฟล์มีให้เลือกใช้ทั้งหมด 6 แบบคือ Normal, Silent, Driving, Meeting, Outdoor และ Offline ซึ่งโปรไฟล์แต่ละแบบสามารถกำหนดค่าต่างๆ ได้ด้วยตนเอง 


แน่นอนว่า สามารถตั้งค่าเวลาและวันที่ได้


การตั้งค่าการแสดงผลและแสงไฟจะแบ่งออกเป็น 2 หมวดย่อยคือ การแสดงผล และแสงไฟ 


การแสดงภาพพื้นหลังมีให้เลือกใช้อยู่ 3 รูปแบบด้วยกันคือ ภาพนิ่งธรรมดา ภาพเคลื่อนไหวแบบ Living World และภาพพื้นหลังแบบ My Screen ซึ่งภาพพื้นหลังแบบนี้ผู้ใช้สามารถเลือกภาพหลายๆ ภาพมาใส่เอาไว้ใน List เพื่อสุ่มแสดงสลับกันไปเรื่อยๆ ได้


สามารถปรับเปลี่ยนข้อความต้อนรับได้


เลือกใช้เมนูหลักได้ 2 รูปแบบคือ แบบ Grid และแบบ List


เลือกเปิด-ปิดเมนูแบบ Pop Up List ได้


สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของตัวเลขที่แสดงขณะที่โทรออกได้ตามใจชอบ ทั้งรูปแบบของตัวเลข ขนาดของตัวเลข สีของตัวเลข และสีของพื้นหลัง


นาฬิกาที่แสดงบนหน้าจอ Standby มีให้เลือกใช้หลายแบบ หลายสไตล์


เลือก Skin ได้ 2 รูปแบบคือ White ซึ่งจะแสดงผลเเมนูต่างๆ ในโทนสีขาว และViolet ซึ่งจะแสดงเมนูต่างๆ ในโทนสีม่วง


นอกจากนั้นก็ยังมีการกำหนดค่าอื่นๆ อีกหลายอย่าง เช่น ภาษา, การโทร, ความปลอดภัย, แอปพลิเคชัน, เครือข่าย


ฟังก์ชันพื้นฐานในการจัดการเกี่ยวกับหน่วยความจำก็มีมาให้ใช้งานอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น การลบข้อมูลในหน่วยความจำ, การแสดงข้อมูลของการ์ดหน่วยความจำ, การฟอร์แมตการ์ดหน่วยความจำ, การตั้งชื่อการ์ดหน่วยความจำ, การแสดงสถานะของหน่วยความจำภายในเครื่อง และการมองเห็นของอุปกรณ์บลูทูธ

คุณสมบัติเด่นที่น่าสนใจ

- รองรับการเล่นไฟล์เพลงหลากหลายรูปแบบ พร้อมความสามารถในการเล่นเพลงที่สมบูรณ์แบบ
เป็นที่แน่นอนว่า Samsung F400 นั้นเกิดมาเพื่อการเป็นโทรศัพท์มือถือเพื่อการฟังเพลง หรือ Music Phone อย่างแท้จริง เนื่องจากมีฟังก์ชันที่อำนวยความสะดวกในการฟังเพลงมาให้อย่างครบถ้วน สามารถรองรับไฟล์เพลงได้หลากหลายรูปแบบ เช่น MP3, ACC, ACC+, eAAC+, WMA และที่สำคัญคือยังมีความสามารถระดับสูงสำหรับการฟังเพลงใส่มาให้อีกมากมายเพื่อความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งความสามารถที่โดดเด่นต่างๆ สำหรับการฟังเพลงจะมีดังต่อไปนี้


เทคโนโลยีระบบเสียงคุณภาพสูงจาก Bang & Olufsen ICEpower ซึ่ง ICEpower นี้ถือเป็นทีมที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับมานานในการพัฒนาระบบเสียงให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งก็รวมถึงโทรศัพท์มือถือด้วย เทคโนโลยีนี้เริ่มถูกนำมาใส่ในมือถือของซัมซุงรุ่นใหม่ๆ หลายรุ่น รวมถึง F400 รุ่นนี้ด้วย ดังนั้นเสียงที่ออกมาจึงมีคุณภาพสูง การฟังเพลงก็จะมีรายละเอียด มีมิติ มีความนุ่มนวล หรือมีความไพเราะมากยิ่งขึ้นอีกระดับหนึ่ง ยิ่งถ้าหากได้หูฟังคุณภาพดีมาใส่ ก็จะยิ่งสัมผัสถึงคุณภาพเสียงได้อย่างเต็มที่


ลำโพงแบบ Stereo แบบสไลด์เก็บได้ในตัว คุณภาพเสียงสมบูรณ์แบบ การันตีได้ด้วยชื่อของ Bang & Olufsen ICEpower


ระบบเสียงไพเราะสมจริงด้วย DNSe เวอร์ชัน 2.0 


ว่ากันว่า จะให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ ในเสียงดนตรีที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน ซึ่งคงต้องลองฟัง และตัดสินใจด้วยหูของตนเอง


ภายในลำโพงที่สไลด์ออกมา จะเป็นลำโพงแบบ Stereo ซึ่งทำให้เสียงที่ออกมามีมิติสมจริงมากยิ่งขึ้น


เข้าโปรแกรมเครื่องเล่นเพลงได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดปุ่ม Music Hotkey เพียงครั้งเดียว และควบคุมการทำงานต่างด้วยปุ่มควบคุมการทำงานแบบวงล้อ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและสะดวกสบายในการใช้งานได้มากขึ้น


ส่วนติดต่อผู้ใช้ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่สำหรับดูข้อมูลเพลง ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพเหนือกว่าเดิม


ใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD Card ได้สูงสุดถึง 8 GB จะเก็บไฟล์เพลงมากมายแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวเต็ม


โปรแกรม Music Recognition ที่เปรียบเสมือนผู้รู้จริงเรื่องเพลง เพียงคุณบันทึกเสียงเพลงที่คุณชื่นชอบและอยากรู้ว่าเพลงที่ได้ยินเป็นเพลงชื่ออะไร หรือใครร้อง ไม่ว่าจะได้ยินมาจากที่ไหน ก็ให้บันทึกเสียงเอาไว้ แล้วเอาเสียงที่บันทึกนี้มาทำการวิเคราะห์หาข้อมูลด้วยโปรแกรม Music Recognition ซึ่งจะเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลเพลงที่มีข้อมูลเพลงจำนวนมหาศาลเก็บไว้ โดยจะทำการวิเคราะห์และส่งข้อมูลเพลงของคุณกลับมาให้ด้วยเวลาเพียงแค่อึดใจเดียวเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังรองรับแค่เพลงสากลได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนเพลงไทยก็คงต้องรอลุ้นกันต่อไป

- การออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องให้สามารถสไลด์ได้ 2 ทิศทาง หรือ Dual Slider
ความพิเศษที่เห็นได้ชัดจากภายนอกของ F400 ก็เห็นจะเป็นความสามารถในการสไลด์เครื่องได้ 2 ทิศทาง หรือที่เรียกว่า Dual Slider ซึ่งถ้าหากสไลด์ขึ้นด้านบนก็จะเป็นการรองรับการใช้งานที่เกี่ยวกับการโทรหรือการพิมพ์ข้อความ แต่ถ้าหากสไลด์ลงด้านล่างก็จะเป็นการรองรับการใช้งานเกี่ยวกับการฟังเพลง ดูหนัง หรือฟังวิทยุ ซึ่งเรียกได้ว่าสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งการใช้งานพื้นฐาน และการใช้งานด้านความบันเทิงเลยทีเดียวสำหรับ F400 รุ่นนี้


สไลด์ขึ้นด้านบนเพื่อการใช้งานเกี่ยวกับการสนทนา พิมพ์ข้อความ หรือการใช้งานพื้นฐานอื่นๆ


สไลด์ลงด้านล่างเพื่อให้ลำโพงขนาดใหญ่โผล่ออกมา แค่นี้ก็พร้อมแล้วสำหรับความบันเทิง ทั้งฟังเพลง ดูหนัง หรือฟังวิทยุ

- กล้องดิจิตอลในตัว ความละเอียดระดับ 3 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ
กล้องดิจิตอลของ Samsung F400 ถือว่าเป็นกล้องดิจิตอลมือถือที่มีความสามารถในระดับที่พอใช้ได้ สามารถถ่ายภาพได้ที่ความละเอียดสูงพอสมควร คือ 3 ล้านพิกเซล และยังมีฟังก์ชันการทำงานที่น่าสนใจให้ใช้งานอยู่หลายฟังก์ชัน โดยความสามารถทั้งหมดในกล้องดิจิตอลของ F400 จะมีดังต่อไปนี้ 

- สามารถตั้งค่าความละเอียดของรูปภาพได้ 5 ขนาด คือ 2048x1536, 1600x1200, 1280x960, 640x480 และ 320x240 พิกเซล
- ไฟแฟลชในตัว (LED Flash) สามารถเลือกตั้งค่าให้เปิดไฟแฟลชตลอด หรือปิดไฟแฟลชได้
- ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- ซูมภาพแบบดิจิตอลได้ 3 เท่า (Digital Zoom)
- มีโหมดการใช้งานหลักให้เลือกอยู่ 2 โหมดด้วยกัน ได้แก่ การถ่ายภาพนิ่ง และการถ่ายภาพวิดีโอ
- โหมดการถ่ายภาพจะแบ่งออกเป็น 5 แบบคือ ถ่ายภาพเดี่ยว, ถ่ายภาพต่อเนื่อง, ถ่ายภาพโมเสค, ถ่ายภาพแบบใส่กรอบ และถ่ายภาพในแนวกว้าง
- สามารถตั้งเวลาถ่ายภาพล่วงหน้าได้ 3 ระดับคือ 3 วินาที, 5 วินาที และ 10 วินาที
- ใส่เอฟเฟคให้กับรูปภาพได้ 3 แบบคือ Grey, Sepia และ Negative
- สามารถปรับค่าสมดุลสีขาว (White Balance) ได้ 5 รูปแบบคือ อัตโนมัติ, Daylight, Incandescent, Fluorescent และ Cloudy
- กำหนดคุณภาพของภาพถ่ายได้ 3 ระดับ (High, Normal และ Economy)
- ตั้งค่า Exposuremeter ได้ 2 รูปแบบ (Normal และ Spot)
- สามารถปรับความสว่างของรูปภาพได้ 9 ระดับ (Brightness)
- กำหนดเสียงของชัตเตอร์ได้
- เลือกหน่วยความจำที่จะบันทึกไฟล์ภาพได้
- ถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียด 320x240 และ 176x144 พิกเซล
- ถ่ายภาพวิดีโอได้นานสูงสุดคลิปละ 1 ชั่วโมง
- เปิดใช้แฟลชขณะที่ถ่ายภาพวิดีโอได้
- สามารถตั้งเวลาถ่ายภาพวิดีโอล่วงหน้าได้ 3 ระดับคือ 3 วินาที, 5 วินาที และ 10 วินาที
- ใส่เอฟเฟคให้กับวิดีโอได้ 3 แบบคือ Grey, Sepia และ Negative
- สามารถปรับค่าสมดุลสีขาวของวิดีโอได้ 5 รูปแบบคือ อัตโนมัติ, Daylight, Incandescent, Fluorescent และ Cloudy
- สามารถปรับความสว่างของวิดีโอได้ 9 ระดับ (Brightness)
- เปิด-ปิดการบันทึกเสียงได้
- กำหนดคุณภาพของภาพวิดีโอได้ 3 ระดับ (High, Normal และ Economy)
- กำหนดรูปแบบไฟล์ได้ 2 แบบคือ MP4 และ 3GP

จากความสามารถข้างต้นในกล้องดิจิตอลของ F400 จะเห็นว่ามีฟังก์ชันพิเศษให้เลือกใช้หรือปรับแต่งอยู่พอสมควร ซึ่งถือว่าเป็นกล้องดิจิตอลมือถือส่วนตัวอย่างภาพถ่ายที่ได้จากกล้องดิจิตอลของ F400 จะมีดังต่อไปนี้







 

- กล้องดิจิตอลสำหรับใช้งาน Video Calling ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง 
นอกจาก F400 จะมีกล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซลแล้ว ก็ยังมีกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่องซึ่งรองรับการสนทนาแบบ Video Calling ติดมาให้ด้วย ซึ่งกล้องนี้สามารถใช้งานได้ในระบบเครือข่ายความเร็วสูงอย่าง 3G หรือ WCDMA ซึ่งทำให้คู่สนทนาทั้ง 2 ฝั่งสามารถได้ยินทั้งเสียง และได้เห็นทั้งภาพเคลื่อนไหวของอีกฝั่งหนึ่งได้ แต่อย่างไรก็ดี กล้องขนาดเล็กที่ด้านหน้านี้ไม่สามารถใช้สำหรับการถ่ายภาพได้ ซึ่งก็น่าเสียดายอยู่เล็กน้อย

- หน่วยความจำภายในขนาด 20 MB พร้อมรองรับ microSD Card สูงสุด 8 GB
หน่วยความจำภายในเครื่องของ F400 นั้นมีมาให้ค่อนข้างน้อย คือประมาณ 20 MB ซึ่งถือว่ายังไม่เพียงพอต่อการใช้งานซักเท่าไหร่ เนื่องจากหากใช้งานกันจริงๆ ก็คงจะมีไฟล์อีกมากมายที่ต้องเก็บบันทึกเช่น ไฟล์เพลง, ไฟล์วิดีโอ, ไฟล์รูปภาพ เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นไฟล์ขนาดใหญ่ ดังนั้น F400 จึงออกแบบให้สามารถรองรับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD Card ได้สูงสุดขนาด 8 GB เลยทีเดียว ซึ่งก็เหลือเฟือแล้วสำหรับการเก็บไฟล์ต่างๆ และในชุดขายมาตรฐานจะแถม microSD Card ขนาด 2 GB มาให้ใช้กันฟรีๆ อีกด้วย

- หน้าจอแสดงผล TFT LCD ขนาด 2.2 นิ้ว 262,144 สี ความละเอียดระดับ QVGA
หน้าจอแสดงผลของ F400 ถือว่าเป็นหน้าจอที่มีความละเอียดสูง และแสดงสีสันได้สดใส ด้วยความละเอียดระดับ QVGA หรือ 320x240 พิกเซล ซึ่งเทียบเท่ากับความละเอียดหน้าจอของพีดีเอโฟนทั่วไป แต่ถูกบีบให้มีความกว้างของหน้าจอลดลงเหลือเพียง 2.2 นิ้ว จึงส่งผลให้ภาพที่ได้ดูละเอียดคมชัดมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องของสีสันนั้นสามารถแสดงสีสันได้ 262,144 สี ซึ่งทำให้แสดงเฉดสีได้สดใสสมจริงพอสมควร และสุดท้ายเรื่องระดับความสว่างของหน้าจอ เท่าที่ได้ใช้งาน ความสว่างก็ถือว่าค่อนข้างมากพอสมควร การใช้งานทั่วๆ ไปจึงไม่มีปัญหาในการมองเห็น มีความสว่างชัดเจนเป็นอย่างดี แต่ถ้าหากอยู่ในที่มีแสงจ้ามาก เช่นกลางแดด ก็อาจจะมองเห็นได้ยากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติ

- เชื่อมต่อข้อมูลผ่านทาง Bluetooth และสาย USB Data Cable 
การเชื่อมต่อข้อมูลของ F400 จะทำได้ทั้งแบบไร้สาย โดยผ่านทาง Bluetooth และแบบมีสายโดยผ่านทางสาย USB Data Cable ซึ่งการเชื่อมต่อข้อมูลผ่าน Bluetooth จะได้ความสะดวกคล่องตัวมากกว่า แต่อัตราการถ่ายโอนข้อมูลก็จะช้ากว่า USB Data Cable ค่อนข้างมาก ดังนั้นผู้ใช้จึงต้องเลือกใช้รูปแบบของการเชื่อมต่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่

- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WCDMA/HSDPA, EDGE หรือ GPRS 
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจะทำผ่านโปรแกรมเว็บบราวเซอร์อย่าง NetFront Web Browser ซึ่งสามารถรองรับการเปิดเว็บในรูปแบบของ HTML ได้ โดยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจะสามารถทำได้ผ่านทางระบบเครือข่ายความเร็วสูงอย่าง WCDMA/HSDPA หรือหากไม่สามารถใช้ระบบเครือข่าย 3G ได้ ก็ยังสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบ EDGE หรือ GPRS ได้เช่นกัน ซึ่งถือว่า F400 สามารถรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้เป็นอย่างดี

- โปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโอ และวิทยุ FM Stereo ในตัว 
ความบันเทิงใน F400 นอกจากจะสามารถใช้เล่นเพลงได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ก็ยังสามารถรองรับการเล่นไฟล์วิดีโอ และวิทยุ FM Stereo ได้ด้วย โดยในส่วนของการดูวิดีโอนั้นจะรองรับไฟล์วิดีโอแบบ MPEG4, 3GPP, H. 263, H. 264 และ WMV และด้วยเทคโนโลยีเสียงของ Bang & Olufsen ICEpower คุณภาพของเสียงที่ได้จึงถือว่ามีคุณภาพที่ดี มีความไพเราะนุ่มนวล มีรายละเอียดเสียงที่ครบถ้วนชัดเจน ส่วนวิทยุ FM Stereo ก็สามารถรับสัญญาณได้คมชัดเป็นอย่างดี และมีฟังก์ชันการทำงานพื้นฐานมาให้ใช้งานอย่างครบถ้วน

คุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจ

- วัสดุ การประกอบ ความแข็งแรง และน้ำหนัก
การออกแบบดีไซน์ของ F400 ทำออกมาได้อย่างสวยหรูดูดี ทันสมัย แต่วัสดุที่ใช้จะเป็นพลาสติกแทบทั้งหมด ดังนั้นเมื่อได้สัมผัสแล้วจะไม่ค่อยรู้สึกว่ามีความแข็งแรงหรือมีความมีความมั่นคงมากเท่าไหร่นัก คงจะเทียบกับรุ่นอื่นที่ใช้วัสดุโลหะไม่ได้ ส่วนเรื่องของน้ำหนัก F400 จะมีน้ำหนักที่กำลังดี ไม่หนักไม่เบาจนเกินไป ขนาดตัวเครื่องโดยรวมมีขนาดกระทัดรัด แต่ค่อนข้างหนาไปสักหน่อย อย่างไรก็ตามความหนานี้ก็ทำให้สามารถจับถือได้อย่างถนัดมือ วัสดุหรือพื้นผิวบางส่วนเป็นพื้นผิวที่มันวาว ผู้ใช้อาจจะต้องดูแลในเรื่องของความสะอาด หรือรอยขีดข่วนมากเป็นพิเศษ การสไลด์สามารถทำได้นุ่มนวลและง่ายดาย แต่เมื่อสไลด์ออกมาแล้วยังไม่มั่นคงแน่นหนาเท่าไรนัก ยังคงมีการโยกคลอนให้เห็นอยู่เล็กน้อย

- ประสิทธิภาพในการสนทนา
คุณสมบัติเบื้องต้นสำหรับการรองรับระบบสัญญาณของ F400 นั้นคือ Dual Mode ซึ่งรองรับเครือข่ายแบบ WCDMA/HSDPA ในย่านความถี่ 2100 MHz และเครือข่ายแบบ GSM ในย่านความถี่ 900/1800/1900 MHz ซึ่งในเบื้องต้นการสแกนหาคลื่นสัญญาณขณะเปิดเครื่องขึ้นมานั้น สามารถทำได้รวดเร็วดี และระหว่างที่อยู่ในสถานะ Standby ไม่พบอาการที่เรียกว่าสัญญาณแกว่งหรือสัญญาณหายแต่อย่างใด ส่วนประสิทธิภาพขณะที่ใช้งานสนทนานั้น ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เสียงที่ได้ยินดังชัดเจนเป็นอย่างดี

- ความเสถียรของระบบ และความเร็วในการประมวลผล
ความเสถียร และความรวดเร็วในการประมวลผลของ F400 นั้น โดยทั่วไปถือว่ามีระดับความเร็ว หรือมีความเสถียรอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ไม่มีอาการเครื่องค้าง หรือการรีเซ็ตตัวเองให้เห็น การใช้งานปุ่มควบคุมแบบวงล้อสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและมีการตอบสนองที่แม่นยำดี การถ่ายและบันทึกข้อมูลภาพความละเอียด 3 ล้านพิกเซลจะต้องรอเวลาการประมวลผลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ช้าจนเกินไป ส่วนการเปิดดูรูปภาพขนาดใหญ่ 3 ล้านพิกเซลอาจจะมีอาการหน่วงอยู่บ้างพอสมควร

- การรองรับการใช้งานภาษาไทย
ระบบภาษาไทยของ F400 นั้น หากเป็นเครื่องศูนย์ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยก็จะมีติดตั้งมาให้อย่างครบครันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว โดยไม่ต้องมีการติดตั้งโปรแกรมภาษาไทยหรือฟอนต์ภาษาไทยใดๆ เพิ่มเติม ตั้งแต่แป้นปุ่มกดภาษาไทย, การแสดงข้อความหรือตัวหนังสือภาษาไทย, การพิมพ์ข้อความภาษาไทย, ระบบสะกดคำอัตโนมัติภาษาไทย หรือเมนูใช้งานภาษาไทย เป็นต้น

- อัตราความสิ้นเปลืองพลังงาน
แบตเตอรี่ของ F400 นั้นเป็นแบตเตอรี่แบบ Lithium Ion ขนาดความจุ 960 mAh ซึ่งอัตราความสิ้นเปลืองพลังงานของ F400 นั้น เท่าที่ทดสอบใช้งานมาระยะหนึ่งพบว่ามีอัตราความสิ้นเปลืองพลังงานในระดับปานกลาง ไม่มากไม่น้อย ยกตัวอย่างเช่น กรณีหากใช้งานฟังก์ชันที่ต้องอาศัยพลังงานสูง เช่น ดูหนังฟังเพลงผ่านทางลำโพงแบบสไลด์, ถ่ายภาพ หรือเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ก็จะทำให้สิ้นเปลืองพลังงานจากแบตเตอรี่มากเป็นพิเศษตามปกติ ซึ่งเท่าที่ใช้งานแบบค่อนข้างหนัก แบตเตอรี่จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 วัน แต่ถ้าหากไม่ค่อยได้ใช้งานมากนัก แบตเตอรี่ก็จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 วัน

สรุปส่งท้าย

จากการทดสอบการใช้งานมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ กับ Samsung F400 ก็พอจะมองเห็นอะไรหลายๆ อย่างจากโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ จึงขอสรุปเป็นจุดเด่นและจุดด้อยตามความคิดเห็นส่วนตัวคร่าวๆ ดังนี้

จุดเด่น

- เทคโนโลยีระบบเสียงคุณภาพสูงจาก Bang & Olufsen ICEpower
- ดีไซน์การใช้งานแบบสไลด์ได้ 2 ทิศทาง (Dual Slider)
- มีลำโพงแบบ Stereo ให้เสียงมีมิติสมจริง สำหรับการฟังเพลงโดยเฉพาะ และสามารถสไลด์เข้าออกได้
- มีปุ่มควบคุมการทำงานแบบวงล้อ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน
- ระบบเสียงไพเราะสมจริงด้วย DNSe เวอร์ชัน 2.0
- มีโปรแกรม Music Recognition ที่ช่วยวิเคราะห์เสียงเพลงเพื่อหาข้อมูลจำเพาะของเพลงที่ผู้ใช้ต้องการ
- มีปุ่ม Music Hotkey ที่ด้านข้างของตัวครื่อง จึงสามารถกดเข้าโปรแกรมเล่นเพลงได้อย่างรวดเร็ว
- มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรในตัว ทำให้สามารถนำหูฟังทั่วไปมาใช้งานได้ทันที
- สามารถต่อหูฟังผ่านทั้งช่อง 3.5 มิลลิเมตร และช่อง USB ได้พร้อมกัน และสามารถเปิดฟังได้พร้อมกันทั้งคู่
- กล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ และไฟแฟลชในตัว
- กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง รองรับการสนทนาแบบ Video Calling
- รองรับการใช้งานระบบเครือข่ายทั้ง GSM และ 3G (WCDMA/HSDPA)
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านระบบ EDGE หรือ HSDPA
- ใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD Card ได้สูงสุดถึง 8 GB
- แถม microSD Card มาให้มากถึง 2 GB ในชุดขายมาตรฐาน
- หน้าจอแสดงผล TFT LCD 262,144 สี ความละเอียดระดับ QVGA กว้าง 2.2 นิ้ว ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส
- เชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth หรือผ่านทางสาย USB Data Cable

จุดด้อย

- วัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นพลาสติก จึงดูไม่ค่อยแข็งแรงแน่นหนามากนัก
- เมื่อสไลด์ออกมา ยังมีอาการโยกคลอนให้เห็นอยู่เล็กน้อย
- ฝาหลังเปิดค่อนข้างยาก ต้องออกแรงมากเป็นพิเศษ
- ตัวเครื่องค่อนข้างหนาไปสักหน่อย เมื่อเทียบกับสไลด์โฟนรุ่นอื่นๆ
- กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่องไม่สามารถใช้ถ่ายรูปได้
- มี Equalizer ให้เลือกใช้ แต่ไม่สามารถปรับแต่งรายละเอียดได้
- ปุ่มชัตเตอร์เป็นแบบจังหวะเดียว ไม่สามารถควบคุมการโฟกัสภาพได้
- พื้นผิวมีความมันวาวสูง ดังนั้นจึงเกิดรอยเปื้อน หรือรอยขีดข่วนได้ง่าย ต้องดูแลรักษามากเป็นพิเศษ
- หน่วยความจำภายในเครื่องมีอยู่เพียง 20 MB จึงต้องอาศัยการใส่ microSD Card เพิ่ม

คะแนน TMC Point

การออกแบบดีไซน์ : 8.5/10
ใช้งานง่าย : 8.5/10
คุณสมบัติเครื่อง : 8.5/10
ฟังก์ชันการใช้งาน : 8.5/10
เสถียรภาพและประสิทธิภาพในการใช้งาน : 8.0/10
ราคาคุ้มค่า : 8.5/10

คะแนนรวม 8.42/10

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Samsung F400 ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้

Samsung F400 Specification 

ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตาม
Oska (Thaimobilecenter Editor) : [email protected]


ผู้สนับสนุนเครื่อง Samsung F400 สำหรับการทดสอบ



ขอขอบคุณ บริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด
195 อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ชั้น 19
ถนนสาทรใต้  แขวงยานนาวา  เขตสาทร
กรุงเทพมหานคร 10120 
 

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::