TMC Point

  8.83

การออกแบบดีไซน์

  8.0

ใช้งานง่ายและสะดวก

  8.5

คุณสมบัติเครื่อง

  9.0

ฟังก์ชันการใช้งาน

 9.0

เสถียรภาพและประสิทธิภาพ

  9.5

ความคุ้มค่าต่อราคา

  9.0

 
   

OPPO Find 3 Review  (รีวิว OPPO Find 3)
Smooth and Fast Android Smartphone from OPPO
Review Date (23-April-2012)

นับว่าเป็น สมาร์ทโฟน ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ (Android) แรงๆ คุ้มๆ ที่ถูกถามถึงมากในช่วงนี้เลยทีเดียว สำหรับ OPPO Find 3 ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ของเราก็ได้ทำการ พรีวิว (Preview) OPPO Find 3 ให้ทุกท่านได้ชมกันไปบ้างแล้วพอสมควร ส่วนในวันนี้เราก็จะมารีวิวแบบเจาะลึกให้ทุกท่านได้ชมกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบในทุกรายละเอียดในทุกแง่มุมของ OPPO Find 3 มากยิ่งขึ้น สำหรับความโดดเด่นของ OPPO Find 3 นั้น นอกจากจะมีความโดดเด่นในเรื่องของราคาเปิดตัวซึ่งเปิดตัวมาเพียง 12,990 บาท แล้ว ก็ยังมาพร้อมกับความแรงระดับ Dual-Core ด้วยซีพียู Dual-Core Qualcomm MSM8260 Processor  ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz จีพียูแบบ Adreno 220 หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB พร้อมหน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB หน้าจอแสดงแบบ IPS Capacitive ขนาด 4.0 นิ้ว ความละเอียดระดับ WVGA (800x480 พิกเซล) กล้องดิจิตอลตัวหลักความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องดิจิตอลด้านหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าหากเทียบกับราคา 12,990 บาทแล้ว ถือว่าคุ้มค่า แต่การใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร มาติดตามกันต่อได้ในรีวิวด้านล่างนี้ครับ


OPPO Find 3 Video Preview & Focus
 

 

วิดีโอพรีวิว OPPO Find 3 : Part 1


 

 

วิดีโอพรีวิว OPPO Find 3 : Part 2


 


การออกแบบดีไซน์ และรูปลักษณ์ภายนอก ของ OPPO Find 3

รูปลักษณ์ภายนอก หรือการออกแบบดีไซน์ของ OPPO Find 3 นั้นจะออกมาในแนวโมเดิร์น ดูสวยทันสมัย มีความโค้งมน มีขนาดตัวเครื่อง การจับถือที่กำลังพอดีมือ ส่วนน้ำหนักตัวอาจจะหนักเล็กน้อย ด้วยน้ำหนัก 150 กรัม แต่ก็ช่วยให้รู้สึกถึงความมั่นคงแข็งแรงด้วยเช่นกัน

มิติของตัวเครื่องจะมีความกว้าง 65 มิลลิเมตร ความสูง 126 มิลลิเมตร และความหนา 10.5 มิลลิเมตร ซึ่งก็ถือว่าบางพอสมควร

วัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติก แต่ก็เป็นพลาสติกคุณภาพสูง ชิ้นงานมีความละเอียดประณีต แต่ก็มีวัสดุที่น่าสนใจชนิดอื่นประกอบด้วยเช่นกัน เช่น แถบโลหะที่ด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่อง หรือพื้นผิวแบบคาร์บอนไฟเบอร์ที่ด้านข้างของตัวเครื่องเป็นต้น

ด้วยแถบสีบรอนซ์เงิน ซึ่งตัดกับพื้นผิวสีดำ ก็ดูสวยไปอีกแบบ แต่ในล็อตหลังเดือนเมษายน คาดว่าน่าจะมีเวอร์ชันสีดำล้วนออกมาจำหน่ายด้วย ซึ่งก็ต้องติดตามข่าวกันอีกครั้ง

ที่ด้านหน้าของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยเลนส์กล้องดิจิตอลความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, Proximity Sensor และลำโพงหูฟังสำหรับการสนทนา และจะเป็นว่าที่ด้านบนจะเป็นแถบโลหะ ซึ่งช่วยเพิ่มความสวยหรูให้กับ OPPO Find 3 ส่วนหน้าจอแสดงผลจะเป็นแบบ IPS Capacitive ขนาด 4.0 นิ้ว ซึ่งมีความละเอียดระดับ WVGA หรือ 800x480 พิกเซล ที่ถือว่าละเอียดตามมาตรฐานของ สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ ระดับกลาง-สูง ในปัจจุบัน

ที่ด้านล่างของหน้าจอแสดงผลจะมีปุ่มสัมผัส 3 ปุ่ม ซึ่งก็คือ ปุ่มเมนู, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ ส่วนแถบด้านล่างก็จะเป็นวัสดุแบบโลหะเช่นเดียวกันกับด้านบน และมีการปั๊มตรา OPPO เอาไว้อย่างชัดเจน

ที่ด้านหลังของตัวเครื่องจะเป็นพื้นผิวที่มีลวดลายตารางเล็กๆ สีบรอนซ์เงินล้วน ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกา ไม่ให้ลื่นเวลาจับถือ ส่วนวัสดุจะเป็นพลาสติก แต่ก็เป็นพลาสติกที่มีคุณภาพดี

เมื่อมองด้านหลังของตัวเครื่องด้านหลัง ก็ถือว่าสวยหรูไม่เบา

มองไปมุมเอียงซ้ายบ้าง

มองในมุมเอียงขวาบ้าง

ที่ด้านหลังของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยไมโครโฟนตัวที่สองที่ช่วยในการตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา ไฟแฟลช LED แบบคู่ ซึ่งช่วยให้ความสว่าง ขณะถ่ายภาพนิ่ง หรือภาพวิดีโอ เลนส์กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่ใช้เซ็นเซอร์คุณภาพสูงจาก Sony แบบ Exmor R (BSI Sensor) ซึ่งเชื่อได้ว่าภาพที่ได้นั้นจะมีคุณภาพสูง ส่วนการถ่ายภาพวิดีโอนั้นจะรองรับการถ่ายภาพวิดีโอที่ความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080p เลยทีเดียว

ส่วนที่ด้านล่างก็จะมีลำโพงเสียงขนาดใหญ่ ซึ่งเท่าที่ฟังมา ถือว่าเป็นลำโพงเสียงที่มีพลังเสียงพอตัวเลยทีเดียว และยังมีความไพเราะ มีรายละเอียดเสียงที่ดี ไม่มีอาการแตกพร่าแม้เปิดเสียงในระดับความดังสูงๆ

ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ พร้อมพื้นผิวแบบ คาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งเป็นอีกความโดดเด่นที่ทาง OPPO ได้นำมาใส่ไว้ใน OPPO Find 3

ที่ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง พร้อมพื้นผิวแบบ คาร์บอนไฟเบอร์ เช่นเดียวกัน

ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB ซึ่งรองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบ MHL ที่ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับจอแสดงผลภายนอกได้อย่างง่ายดาย ซึ่งสาย MHL ที่ทาง OPPO นำมาจำหน่ายนั้นจะมีราคาอยู่ที่ 590 บาท

ที่ช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB จะมีฝาปิดเอาไว้อย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันฝุ่นละอองเข้าไปสะสมด้านใน

ที่ใกล้ๆ กันนั้นก็จะเป็นช่องต่อสายหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้สามารถนำหูฟังทั่วๆ ไปที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมาเชื่อมต่อใช้งานได้ทันที

ที่ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีไมโครโฟนสำหรับการสนทนา หรือบันทึกเสียง


เปิดฝาหลัง ใส่แบตเตอรี่ ใส่ซิมการ์ด และใส่การ์ดหน่วยความำ เพื่อให้พร้อมเปิดใช้งาน

วิธีการเปิดฝาหลังก็เพียงแค่เอาปลายนิ้วแงะบริเวณของด้านล่างของฝาหลังขึ้นมาดังรูปที่เห็นนี้ และค่อนๆ งัดฝาออกมาด้วยความระมัดระวัง

ฝาหลังของ OPPO Find 3 นั้นจะเป็นพลาสติกทั้งชิ้น แต่ก็เป็นพลาสติกที่มีคุณภาพดี

ฝาหลังเป็นพลาสติกที่ไม่บางจนเกินไป มีความยืดหยุ่นในตัวพอสมควร ซึ่งก็น่าจะมีความทนทานแข็งแรงตามมาตรฐาน

เมื่อเปิดฝาหลังออกมาก็จะพบกับช่องใส่แบตเตอรี่ ช่องใส่ซิมการ์ด และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD

แบตเตอรี่ของ OPPO Find 3 นั้นจะเป็นแบตเตอรี่ Lithium ion ที่มีความจุ 1,560 มิลลิแอมป์ ซึ่งก็ถือว่าใช้งานได้นานในระดับที่น่าพอใจ

ซิมการ์ดที่นำมาใช้กับ OPPO Find 3 นั้นก็จะเป็นซิมการ์ดขนาดปกติ ส่วนการ์ดหน่วยความจำที่ใช้จะเป็นแบบ microSD ซึ่งรองรับได้สูงสุดขนาด 32 GB

การใส่ซิมการ์ดก็ให้ทำการถอดก้อนแบตเตอรี่ออกมาก่อน แล้วเสียบแผ่นซิมการ์ดเข้าไปทางด้านล่างดังที่เห็นนี้

ส่วนการใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ก็ให้ทำการเปิดฝาโลหะขึ้นมาก่อน แล้วนำตัวการ์ดเสียบเข้าไปในกรอบของฝาโลหะที่เปิดออกมา


เปรียบเทียบรูปลักษณ์ภายนอกระหว่าง OPPO Find 3 กับ iPhone 4S รุ่นยอดนิยม

แน่นอนว่าทั้ง OPPO Find 3 กับ iPhone 4S นั้นไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ 100% ด้วยระดับราคาที่ต่างกันกว่าเท่าตัว รวมถึงการทำงานอยู่บนแพลทฟอร์มที่แตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ดี ในฐานะที่ iPhone 4S ก็มักจะถูกนำมาเปรียบเทียบกับ สมาร์ทโฟน รุ่นอื่นๆ ในท้องตลาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะ สมาร์ทโฟน ตัวแรงๆ ของแต่ละค่าย เราจึงถือโอกาสนำมาเปรียบเทียบให้ดูกันเล็กๆ น้อยๆ แบบพอสังเขป

รูปลักษณ์ภายนอกของ OPPO Find 3 เมื่อเทียบกับ สมาร์ทโฟน รุ่นยอดนิยมอย่าง iPhone 4S ก็เรียกได้ว่าแทบทุกองค์ประกอบมีการออกแบบดีไซน์ที่แตกต่างกัน ยกเว้นจุดเดียวก็คือลำโพงหูฟัง และเลนส์กล้องด้านหน้า ที่มีการจัดวางที่คล้ายกัน

แน่นอนว่าวัสดุที่ใช้ผลิตเป็นตัวเครื่อง iPhone 4S นั้น เป็นวัสดุที่มีคุณภาพสูงกว่า แต่หากดูกันที่ราคาจำหน่ายของ OPPO Find 3 ที่ย่อมเยากว่าเป็นเท่าตัว ก็ถือว่า OPPO Find 3 นั้นทำได้ดีตามมาตรฐานแล้ว

เมื่อมองที่ด้านหน้า ตัวเครื่อง OPPO Find 3 นั้นจะมีขนาดที่ใหญ่กว่า iPhone 4S อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปัจจัยหลักก็เป็นเพราะหน้าจอของ OPPO Find 3 นั้นมีขนาดที่ใหญ่กว่าหน้าจอของ iPhone 4S นั่นเอง

ความหนาของ OPPO Find 3 นั้นจะอยู่ที่ 10.5 มิลลิเมตร ซึ่งหนากว่า iPhone 4S อยู่เล็กน้อย เนื่องจาก iPhone 4S นั้นจะมีความหนาอยู่ที่ 9.3 มิลลิเมตร

ปุ่มกดต่างๆ ที่ด้านข้างของตัวเครื่อง ของ OPPO Find 3 นั้นจะเป็นพลาสติก ส่วน iPhone 4S นั้นจะเป็นโลหะ

ที่แถบด้านข้างของตัวเครื่องก็เช่นเดียวกัน OPPO Find 3 นั้นจะเป็นพลาสติก แต่ iPhone 4S จะเป็นโลหะ ซึ่งก็ถือว่าเหมาะสมกับราคาด้วยกันทั้งคู่


เปรียบเทียบประสิทธิภาพการแสดงผลระหว่าง OPPO Find 3 และ iPhone 4S รุ่นยอดนิยม

เมื่อมองหน้าจอแสดงผลในแนวด้านข้าง ก็จะพบกว่า สีสันของ OPPO Find 3 นั้นตกลงไปอย่างเห็นได้ชัด ส่วนของ iPhone 4S นั้นถือว่าตกลงไปเพียงเล็กน้อย ซึ่งก็ยังคงดูสดใสอยู่พอสมควร

หากมองที่หน้าจอกันแบบตรงๆ สีสันของ iPhone 4S ก็ยังคงดูดีกว่าเช่นเดียวกัน แต่สีสันของ OPPO Find 3 ก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง ส่วนความละเอียดของการแสดงผลนั้น ตามสเปคก็แน่นอนว่า iPhone 4S นั้นมีความละเอียดคมชัดมากกว่า


เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ด้านใน

หน้า Home Screen, Widgets และ User Interface ต่างๆ

User Interface ของ OPPO Find 3 ถือว่ามีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เนื่องจากมีการออกแบบดีไซน์ใหม่ในรูปแบบเฉพาะตัว


หน้าจอ Lockscreen ที่มีการแสดงข้อมูลพื้นฐานต่างๆ และหากมีสถานะการทำงานอื่นๆ เช่นการชาร์จแบตเตอรี่ ก็จะมีไอคอนแสดงสถานะให้ทราบเช่นกัน


เมื่อกดปุ่มล็อกหน้าจอค้างเอาไว้ ก็จะมีเมนูสำหรับการปิดเครื่อง, รีสตาร์ทเครื่อง, โหมดปิดเสียง และโหมดเครื่องบิน ให้เลือกใช้

ที่แถบด้านบนของหน้าจอ จะมีการแสดงข้อมูลพื้นฐานต่างๆ ตั้งแต่ระดับสัญญาณ, ชื่อของเครือข่าย, รูปแบบของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต, สัญลักษณ์ของเครือข่าย, เวลา และระดับพลังงานแบตเตอรี่


หน้าจอ Home Screen นั้นสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 9 หน้า และหากไม่ต้องการใช้งานหน้าใด ก็สามารถลบทิ้งได้ทันที รวมไปถึงสามารถสลับตำแหน่งของหน้า Home Screen ได้ง่ายๆ เพียงใช้การลากสลับกันเท่านั้น

เมื่อลากแถบด้านบนลงมาก็จะพบกับหน้า Notification ซึ่งจะมีไอคอนสำหรับเปิด-ปิดการใช้งานฟังก์ชันที่ใช้งานบ่อยๆ รวมไปถึงข้อมูลการแจ้งเตือนต่างๆ


ตัวอย่างของหน้า Notification และไอคอนสำหรับการเปิด-ปิดการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ


การกดหมายเลขโทรออกก็ทำได้ผ่านทาง Virtual Keypad เช่นเดียวกันกับ สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ รุ่นอื่นๆ โดย Virtual Keypad ของ OPPO Find 3 นั้นก็มีการออกแบบดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย และทันสมัย


เมื่อกดปุ่ม Home ค้างเอาไว้ ก็จะแสดงให้เห็นแอพพลิเคชั่น หรือฟังก์ชันที่เปิดใช้งานล่าสุด


ในหน้า Home Screen หากเราเอานิ้วแตะค้างเอาไว้บริเวณพื้นที่ๆ ว่างอยู่ ก็จะแสดงให้เห็น Interface สำหรับการเพิ่ม วิดเจ็ต, ปุ่มลัด, วอลเปเปอร์ และโฟลเดอร์


ภายในเครื่อง OPPO Find 3 ก็มี วิดเจ็ต มาตรฐานมาให้เลือกใช้งานอยู่พอสมควร


เมื่อกดปุ่มเมนูค้างเอาไว้ ก็จะมีทางลัดสำหรับการเพิ่ม, การแจ้งเตือน, วอลเปเปอร์, ค้นหา และการตั้งค่า


สามารถค้นหาข้อมูลต่างๆ ภายในเครื่องได้อย่างง่ายดาย


การพิมพ์ข้อความ


สำหรับการพิมพ์ข้อความ เมื่อวางเครื่องในแนวตั้ง ก็จะมีคีย์บอร์ด QWERTY แบบภาษาอังกฤษ ส่วนภาษาไทย จะเป็นแบบปุ่มกด Keypad


แต่หากวางเครื่องในแนวนอน การพิมพ์ข้อความภาษาไทย ก็จะมีคีย์บอร์ดแบบ QWERTY ให้ใช้งานเช่นเดียวกัน


ระบบสะกดคำอัตโนมัติ หรือระบบเอาคำศัพท์แบบ K1 ก็เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่โดดเด่นของ OPPO Find 3


การสร้างข้อความ เราสามารถแทรกสิ่งต่างๆ เข้าไปในข้อความได้อย่างหลากหลาย เช่นสัญลักษณ์รูปหน้า, รูปภาพ, วิดีโอ หรือเสียง เป็นต้น


ภาพพื้นหลัง (Wallpapers)


การใส่ภาพพื้นหลัง หรือวอลเปเปอร์ นั้นก็จะมีทั้งแบบภาพนิ่ง และแบบภาพเคลื่อนไหว (Live Wallpaper)


ฟังก์ชันนาฬิกา


ฟังก์ชันนาฬิกาก็จะมีตั้งแต่นาฬิกาปลุก, นาฬิกาแสดงเวลาทั่วโลก, นาฬิกานับเวลาถอยหลัง และนาฬิกาจับเวลา


โปรแกรมพยากรณ์อากาศ


ฟังก์ชันการพยากรณ์อากาศจะมีการแสดงผลภาพเคลื่อนไหวที่สวยงาม และสามารถเพิ่มจังหวัด หรือเมืองต่างๆ ได้ตามใจชอบ


วิดเจ็ต (Widgets) ที่น่าสนใจ


วิดเจ็ตเครื่องเล่นเพลงถือว่ามีความสวยงามน่าใช้งาน และเมื่อกดเล่นเพลง วิดเจ็ตก็จะขยายออกมาทางด้านข้างดังที่เห็น


ตัวอย่างของการเพิ่มปุ่มลัด และเพิ่มโฟลเดอร์


วิดเจ็ตของแกลอรี่รูปภาพ ซึ่งสามารถสไลด์เลื่อนดูรูปภาพได้ทันที โดยไม่ต้องกดเข้าไปดูที่ด้านในให้ยุ่งยาก


หน้าเมนูหลัก

หน้าเมนูหลัก ก็จะมีการออกแบบดีไซน์ ในสไตล์ของ OPPO เองเช่นเดียวกัน ซึ่งก็ถือว่าสวยทันสมัยแบบเรียบๆ และสามารถสไลด์เลื่อนได้อย่างลื่นไหลเป็นอย่างมาก


ในหน้าเมนูหลัก เราสามารถย้ายตำแหน่งของไอคอนต่างๆ ได้อย่างอิสระ ทั้งในหน้าเดียวกัน หรือย้ายข้ามหน้า รวมไปถึงการนำไปวางไว้ที่หน้าจอ Home Screen และการลบแอพพลิเคชั่นที่ไม่ต้องการใช้งาน


ตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น



คุณสมบัติเบื้องต้นของ OPPO Find 3 ก็คือจะทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ เวอร์ชัน 2.3.6 หรือ Gingerbread มีหน่วยความภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลทั้งหมดประมาณ 16 GB มีหน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB ใช้ซีพียู Dual-Core Qualcomm MSM8260 Processor ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz และมีหน้าจอแสดงผลความละเอียด 800x480 พิกเซล เป็นต้น


การตั้งค่าการใช้งาน


การตั้งค่าการใช้งานทั่วไปก็จะมีดังนี้


การตั้งค่าเกี่ยวกับภาษา และวิธีการป้อนข้อมูล


โปรแกรมจัดการงาน และแอพพลิเคชั่น


ตรวจสอบพื้นที่หน่วยความจำ


ตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่องอัตโนมัติล่วงหน้า


สถิติการรับส่งข้อมูลของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต


การคืนค่าเริ่มต้นจากโรงงาน


การตั้งค่าเสียง ทั้งเสียงเรียกเข้า, เสียงเตือน, เสียงปุ่มกด, เสียงเพลง และเสียงอื่นๆ


การตั้งค่าจอแสดงผล


การตั้งค่าความปลอดภัยส่วนบุคคล


การตั้งค่า Blacklist สำหรับข้อความ SMS และการโทร


กล้องดิจิตอล การถ่ายภาพนิ่ง และการถ่ายภาพวิดีโอ


User Interface ของการถ่ายภาพนิ่งด้วยกล้องตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง


User Interface ของการถ่ายภาพนิ่งด้วยกล้องที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง


การเปิดใช้งานไฟแฟลชแบบอัตโนมัติ และเปิดใช้งานตลอดเวลา


User Interface ของการถ่ายภาพวิดีโอด้วยกล้องตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ซึ่งรองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD 1080p และเลือกรูปแบบไฟล์ได้สองรูปแบบคือ 3GP และ MP4


User Interface ของการถ่ายภาพวิดีโอด้วยกล้องด้านหน้าของตัวเครื่อง

โหมดการถ่ายภาพแบบ Funny จะประกอบไปด้วยเอฟเฟคแบบ Fisheye, Mirror, Pencil และ Color


โหมดการถ่ายภาพแบบ Funny


เอฟเฟคแบบ Fisheye และ Mirror


เอฟเฟคแบบ Pencil และ Color

การถ่ายรูปกลุ่มก็เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่น่าสนใจ โดยจะเป็นการถ่ายภาพต่อเนื่อง 5 ภาพ พร้อมกับการจับภาพใบหน้าของแต่ละคนในภาพเอาไว้ แล้วสามารถเลือกหน้าที่ดีที่สุดของแต่ละคนได้


โหมดการถ่ายรูปกลุ่ม


ถ่ายรูปพร้อมกันเป็นหมู่คณะ พร้อมการจับภาพใบหน้าของแต่ละคนโดยอัตโนมัติ


ระบบจะเก็บภาพใบหน้าของแต่ละคนเอาไว้ทั้งหมด 5 ภาพเพื่อนำมาเลือกหน้าที่ดีที่สุด


เมื่อเลือกหน้าที่ดีที่สุดได้แล้ว ก็ทำการบันทึกได้ทันที

โหมดการถ่ายภาพแบบบิดเบี้ยว จะประกอบไปด้วยเอฟเฟคแบบกรวย, คลื่น, ผิวทรงกลม และลายน้ำ


โหมดการถ่ายภาพแบบบิดเบี้ยว


เอฟเฟคแบบกรวย และคลื่น


เอฟเฟคแบบผิวทรงกลม และลายน้ำ

โหมดการถ่ายภาพแบบ Light Color จะประกอบไปด้วยเอฟเฟคแบบ Defocus, Soft Focus, Tunnel และ Antique


โหมดการถ่ายภาพแบบ Light Color


เอฟเฟคแบบ Defocus จะสามารถเลือกส่วนที่ต้องการให้คมชัดได้ตามใจชอบ สำหรับส่วนที่เหลือภาพก็จะเบลอ คล้ายๆ กับการถ่ายภาพแบบหน้าชัด หลังเบลอ นั่นเอง


เอฟเฟคแบบ Soft Focus และ Tunnel


เอฟเฟคแบบ Antique

โหมดการถ่ายภาพเสริมพิเศษ จะประกอบไปด้วยการถ่ายภาพต่อเนื่อง และการถ่ายภาพในแนวกว้าง (พาโนรามา)


โหมดการถ่ายภาพเสริมพิเศษ


การถ่ายภาพในแนวกว้าง (พาโนรามา)

Google Play (Android Market เดิม)

การค้นหา และดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น นั้นทำได้ผ่านทาง Google Play ซึ่งชื่อเดิมก็คือ Android Market ที่คุ้นเคยกันดีนั่นเอง


หน้าหลักของ Google Play


ในหน้าหลักจะประกอบไปด้วยแอพพลิเคชั่นที่โดนใจทีมงาน, แอพพลิเคชั่นแนะนำ และแอพพลิเคชั่นที่ถูกใจบรรณาธิการ


เมื่อกดเข้าไปที่แอพพลิเคชั่นใดๆ ก็จะเห็นรายละเอียดของแอพพลิเคชั่นนั้น ทั้งรูปภาพตัวอย่าง และคำอธิบาย


นอกจากนั้นก็จะมีการจัดเรียงลำดับแอพพลิเคชั่นในรูปแบบอื่นๆ เช่นแอพพลิเคชั่นที่ได้รับชำระเงินสูงสุด, รายการฟรียอดนิยม, ทำรายได้สูงสุด และใหม่ไม่ฟรียอดนิยม


สามารถค้นหาแอพพลิเคชั่นตามหมวดหมู่ได้เช่นกัน ซึ่งก็มีการแบ่งหมวดหมู่เอาไว้อย่างชัดเจน


แชร์อินเทอร์เน็ตด้วยฟังก์ชัน Wi-Fi Hotspot

ด้วยคุณสมบัติพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ เวอร์ชัน 2.3 จึงทำให้ OPPO Find 3 มีฟังก์ชัน Wi-Fi Hotspot ติดตั้งมาให้ด้วย ซึ่งก็ทำให้สามารถแชร์อินเทอร์เน็ตจาก OPPO Find 3 ให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้โดยง่าย


การตั้งค่าต่างๆ สำหรับการใช้งาน Wi-Fi Hotspot

โปรแกรมเครื่องเล่นเพลง (Music Player)

โปรแกรมเครื่องเล่นเพลงที่อยู่ใน OPPO Find 3 นั้นจะมี User Interface ที่สวยงามทันสมัย พร้อมรองรับการแสดงรูปปกอัลบั้ม

เมื่อเอียงเครื่องในแนวนอน User Interface ก็จะเปลี่ยนไปเป็นแบบ 3 มิติ ซึ่งแสดงเป็นรูปปกอัลบั้ม และมีความสวยงามน่าใช้งาน


การแสดงผลแบบ 3 มิติอันสวยงามของโปรแกรมเครื่องเล่นเพลง


หากวางเครื่องในแนวตั้งตามปกติ User Interface ก็จะมีรูปแบบดังที่เห็นนี้


สามารถค้นหาเพลงจากรายการเพลงทั้งหมด, ชื่อศิลปิน, อัลบั้ม และรายการเพลง


อีกหนึ่งฟังก์ชันพิเศษก็คือ สามารถรองรับการแสดงผลเนื้อเพลงได้ด้วย และมีการไฮไลท์เนื้อเพลงตามเสียงเพลงที่กำลังได้ยินให้โดยอัตโนมัติ


มีฟังก์ชันเล่นซ้ำ, เล่นแบบสุ่ม, ตั้งเวลาเปิดเพลง, สวิงเปลี่ยนเพลง, เบสธรรมชาติ, เน้นความถี่สูง และอีควอไลเซอร์


สามารถตั้งเป็นเสียงเรียกเข้า, เสียงปลุก, เสียงผู้ติดต่อ และเสียงข้อความได้


สามารถแชร์เพลงได้หลายช่องทาง


โปรแกรมเครื่องเล่นวิดีโอ (Video Player)

ในโปรแกรมเครื่องเล่นวิดีโอ เมื่อเอียงเครื่องในแนวนอน ก็จะมีการแสดงผล User Interface แบบ 3 มิติที่สวยงามเช่นเดียวกันกับโปรแกรมเครื่องเล่นเพลง


แสดงรายการไฟล์วิดีโอทั้งหมดที่มีอยู่ภายในเครื่อง


User Interface และฟังก์ชันพื้นฐานของโปรแกรมเครื่องเล่นวิดีโอ


สามารถแชร์วิดีโอได้หลายช่องทาง


มีโหมดเล่นซ้ำ, แสดงข้อความบรรยายใต้ภาพ, ระบบเสียง Dolby, เบสธรรมชาติ, เน้นความถี่สูง และอีควอไลเซอร์


โปรแกรมวิทยุ FM Stereo RDS

ใน OPPO Find 3 นั้นจะมีโปรแกรมวิทยุ FM ติดตั้งมาให้ในตัว พร้อม User Interface ที่สวยงามทันสมัย



การใช้งานวิทยุ FM ใน OPPO Find 3 นั้นจะต้องทำการเสียบหูฟังเสียก่อน เพื่อใช้เป็นตัวรับสัญญาณ นอกจากนั้นก็จะมีฟังก์ชันแสดงรายละเอียดของแต่ละสถานี, การค้นหาคลื่นความถี่แบบอัตโนมัติ, การค้นหาคลื่นความถี่ด้วยตนเอง, รายการสถานีวิทยุที่ชื่นชอบ และสำหรับคลื่นความถี่วิทยุ FM นั้นจะรองรับคลื่นความถี่แบบเลขทศนิยม 2 หลักอีกด้วย


โปรแกรม NearMe โน้ต

โปรแกรม NearMe โน๊ต เป็นโปรแกรมสำหรับการจดบันทึกข้อมูล ที่มีฟังก์ชันต่างๆ มากมาย ทั้งการบันทึกข้อความแบบปกติ, การบันทึกด้วยลายมือ, การบันทึกด้วยการถ่ายภาพ รวมไปถึงการบันทึกด้วยการวาดรูป


จดบันทึกด้วยการพิมพ์ข้อความตามปกติ


สามารถเลือกรูปภาพจากอัลบั้ม หรือจะถ่ายใหม่ด้วยกล้องดิจิตอลในตัวก็ได้เช่นกัน


การเขียนด้วยลายมือ ตัวอักษรแต่ละตัวจะแยกออกจากกัน และสามารถเลือกสีของตัวอักษรได้


การวาดรูปจะมีให้เลือกใช้ทั้งปากกาธรรมดา, ปากกาไฮไลท์ และพู่กัน


เครื่องมือวาดรูปแต่ละแบบ ก็จะใช้ลักษณะของเส้นที่แตกต่างกันไป


สามารถเลือกสีสันได้ตามใจชอบ


หากต้องการลบทิ้ง ก็มียางลบให้ใช้งานด้วย


โปรแกรมเว็บเบราเซอร์ (Web Browser)

โปรแกรมเว็บเบราเซอร์ของ OPPO Find 3 นั้นถือว่ามีประสิทธิภาพที่น่าประทับใจ ตั้งแต่ความลื่นไหลของการประมวลผลที่แทบไม่มีอาการสะดุดให้เห็น แม้จะเป็นหน้าเว็บเพจขนาดใหญ่ก็ตาม มีการตอบสนองที่รวดเร็วแม่นยำ รวมไปถึงสามารถแสดงผลไฟล์ Flash ได้ รองรับการแสดงผลภาษาไทยได้อย่างสมบูรณ์ และกดลิงค์ภาษาไทยได้อย่างถูกต้องแม่นยำ


มีทางลัดสำหรับการเช้าเว็บไซต์ที่เราชื่นชอบและสร้างทางลัดเอาไว้


รองรับการแสดงผลไฟล์ Flash ได้เป็นอย่างดี และแสดงผลได้อย่างราบรื่น และจะเลือกไม่ให้แสดงผลก็ได้เช่นกัน


การแสดงผลต่างๆ ทั้งข้อความ หรือรูปภาพทั่วๆ ไป รวมไปถึงการแสดงผลฟังก์ชันพิเศษ ก็สามารถทำได้ดีไม่มีปัญหาแต่อย่างใด


รองรับการเปิดใช้งานหลายๆ หน้าต่างพร้อมกัน



รองกรับารแสดงผลในแนวนอน หรือแนวกว้าง


สามารถแสดงผลภาษาไทย และกดลิงค์ภาษาไทยได้อย่างถูกต้องแม่นยำ


ฟังก์ชันพื้นฐานที่มีให้ใช้งาน



การตั้งค่าต่างๆ เกี่ยวกับการใช้งานเว็บเบราเซอร์ก็มีอยู่อย่างหลากหลายครบครัน


โปรแกรม YouTube

เป็นอีกหนึ่งแอพพลิเคชั่นที่ขาดไม่ได้ ซึ่งก็คือแอพพลิเคชั่น YouTube ที่มีไว้สำหรับการค้นหา และเปิดดูคลิปวิดีโอแบบออนไลน์ ที่อยู่บนเว็บไซต์ YouTube นั่นเอง


User Interface ของโปรแกรม YouTube ใน OPPO Find 3 ซึ่งก็จะเหมือนกับที่เห็นใน สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ ทั่วๆ ไป


สามารถอัพโหลดวิดีโอได้ทันที


การตั้งค่าพื้นฐานเกี่ยวกับการใช้งาน


การค้นหาคลิปวิดีโอตามหมวดหมู่ต่างๆ


User Interface ในขณะที่กำลังเปิดดูคลิปวิดีโอในแนวตั้ง


User Interface ในขณะที่กำลังเปิดดูคลิปวิดีโอในแนวนอน


โปรแกรมแกลอรี่ (Gallery)

เป็นโปรแกรมพื้นฐานที่ขาดไม่ได้สำหรับ สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ ทุกเครื่อง ซึ่งก็คืถโปรแกรมแกลอรี่ สำหรับการเปิดดูรูปภาพนั่นเอง ซึ่งก็ถือว่าเป็นโปรแกรมที่หลายๆ คนก็น่าจะคุ้นเคยกันดี


User Interface ในรูปแบบเดิมๆ ที่คุ้นเคย


รองรับการแสดงผลในแนวนอน


จะจัดเรียงรูปภาพตามปกติ หรือจะแบ่งตามวันที่ก็ได้เช่นกัน


มีระบบ Multi-Touch ที่รวดเร็วลื่นไหล รองรับการแชร์รูปภาพผ่านช่องทางต่างๆ ที่หลากหลาย และฟังก์ชันพื้นฐานสำหรับการจัดการรูปภาพ


การเล่นเกมกราฟฟิคระดับกลาง (Medium Graphic Gaming)


ทดสอบการเล่นเกมกราฟฟิคระดับกลางๆ อย่างเกม Cordy Sky ก็สามารถเล่นได้สบายหายห่วง



เกมแข่งรถแบบ 3 มิติ ที่มีกราฟฟิคไม่หนักมากนัก ก็เล่นได้ฉลุยเช่นกัน



เกม Angry Birds เวอร์ชันล่าสุดอย่าง Angry Birds Space ก็เล่นได้อย่างสบายๆ ลื่นไหลไร้การสะดุด


การเล่นเกมกราฟฟิคระดับสูง (Hight Graphic Gaming)

หลังจากผ่านฉลุยกับการทดสอบการเล่นเกมกราฟฟิคระดับกลางๆ กันไปแล้ว ตอนนี้ก็จะมาทดสอบการเล่นเกมที่มีกราฟฟิคระดับสูงกันบ้าง ซึ่งเกมกลุ่มนี้ก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ที่มากขึ้น ซึ่งก็ต้องอาศัยประสิทธิภาพของการประมวลผลที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน



เริ่มจากเกม Fast & Furious 5 ซึ่งเป็นเกมแข่งรถความละเอียดสูง โดย OPPO Find 3 นั้นสามารถเล่นได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็อาจจะไม่ได้ลื่นไหลที่สุด ยังมีอาการหน่วงอยู่เล็กน้อย

เกม N.O.V.A 2 ก็เป็นอีกเกมที่มีกราฟฟิคความละเอียดสูง ซึ่งก็ต้องอาศัยพลังของการประมวลผลในระดับสูงเช่นเดียวกัน



การเล่นเกม N.O.V.A 2 ใน OPPO Find 3 นั้นก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ลื่นไหลที่สุด ยังมีอาการหน่วงบ้างเล็กน้อย เช่นเดียวกับเกม Fast & Furious 5


ระบบสัมผัสหลายจุด (Multi-Touch)

แน่นอนว่า สมาร์ทโฟน ระดับนี้ย่อมต้องรองรับระบบการสัมผัสแบบหลายจุด (Multi-Touch) อย่างแน่นอน ซึ่งจากการทดสอบระบบ Multi-Touch ใน OPPO Find 3 นั้นก็ถือว่าทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีความลื่นไหลเป็นอย่างมาก และแต่ละจุดทำงานแยกกันโดยสมบูรณ์


OPPO Find 3 นั้นรองรับการสัมผัสที่หน้าจอพร้อมกันถึง 10 จุดเลยทีเดียว


การรับส่งอีเมล (Email)


การรับ-ส่งอีเมลใน OPPO Find 3 นั้นจะมีแอพพลิเคชั่นมาให้ใช้งานในตัวแล้ว ซึ่งรองรับทั้ง Gmail, Hotmail, Yahoo!, MSN, Microsoft Exchange และอื่นๆ

ปฏิทินนัดหมาย



ปฏิทินนัดหมายนั้นสามารถแสดงผลได้ทั้งแบบเดือน, สัปดาห์ และรายวัน โดยสามารถบันทึกนัดหมายได้ไม่จำกัด


โปรแกรมจัดการไฟล์ (File Manager)


หน้าตาเรียบง่ายของโปรแกรมจัดการไฟล์


เมนูหลักของโปรแกรมจัดการไฟล์


สามารถเลือกไฟล์ได้หลายไฟล์พร้อมๆ กัน


รองรับการแสดงผลทั้งแบบรายการ และแบบตาราง พร้อมทั้งสามารถเลือกการจัดเเรียงแบบต่างๆ ได้


การตรวจสอบพื้นที่หน่วยความจำ


การเข้ารหัสโฟลเดอร์


โปรแกรม QuickOffice



อีกแอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจใน OPPO Find 3 ก็คือแอพพลิเคชั่น QuickOffice ซึ่งมีทั้ง Quickword, Quicksheet, Quickpoint ซึ่งเหล่านนี้สามารถทำได้ทั้งการเปิดดู สร้าง และแก้ไขไฟล์ ส่วน QuickPDF นั้นจะสามารถเปิดอ่านได้เพียงอย่างเดียว


การใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network)


 
การใช้านเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือ Social Network นั้น ใน OPPO Find 3 ก็มีติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานอย่างครบครัน ทั้ง Facebook, Twitter, Windows Live Messenger และ Whatsapp และหากต้องการแอพพลิเคชั่นใดเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าไปค้นหาและดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ที่ Google Play นั่นเอง


รวม Google Apps


แอพพลิเคชั่นมาตรฐานจาก Google ที่ติดตั้งมาให้ในเครื่องก็จะประกอบไปด้วย Gmail, Latitude, Google Talk, ข่าวสารและพยากรณ์อากาศ, Voice Search และ ค้นหา


รวมเครื่องมือใช้งาน


แอพพลิเคชั่นประเภทเครื่องมือใช้งานที่มีมาให้ใน OPPO Find 3 นั้นก็จะประกอบไปด้วย NearMe Reader, เครื่องคิดเลข, เครื่องบันทึกเสียง, ไฟฉาย, เข็มทิศ และคู่มือใช้งาน


โปรแกรม NearMe Reader


โปรแกรมเครื่องคิดเลข



โปรแกรมเครื่องบันทึกเสียง ซึ่งสามารถตั้งเวลาบันทึกล่วงหน้าได้ พร้อมรองรับการบันทึกด้วยรูปแบบไฟล์ WAV และ AMR


การเปิดใช้งานไฟฉายนั้นก็จะมีอยู่ 2 โหมดด้วยกันก็คือ ไฟนิ่ง และ ไฟกระพริบ


นอกจากนั้นก็ยังสามารถเปลี่ยนสีสันของตัวไฟฉายได้ด้วย โดยมีให้ใช้เลือกอยู่ 3 รูปแบบ


โปรแกรมเข็มทิศดิจิตอล หรือ Digital Compass นั้นจะมี User Interface ที่สวยงามน่าใช้งาน โดยมีให้เลือกใช้งานทั้งแบบ 2 มิติ และแบบ 3 มิติ


ทดสอบประสิทธิภาพของการจับสัญญาณดาวเทียม


จากการทดสอบประสิทธิภาพของการจับสัญญาณดาวเทียมด้วยแอพพลิเคชั่นทดสอบต่างๆ ก็สรุปได้ว่า ประสิทธิภาพของการจับสัญญาณดาวเทียมของ OPPO Find 3 นั้นมีประสิทธิภาพที่สูงมาก สามารถจับสัญญาณดาวเทียมได้อย่างรวดเร็ว แม้ขณะที่อยู่ในพื้นที่ปิด หรือในห้องก็ตาม ดังนั้นหากเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ก็จะมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นไปอีก


โปรแกรม Google Maps



โปรแกรมแผนที่ๆ มักจะติดตั้งเป็นมาตรฐานใน สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ ทุกๆ เครื่องก็คือโปรแกรม Google Maps นั่นเอง ซึ่ง OPPO Find 3 ก็มีอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็จะมีฟังก์ชันพื้นฐานต่างๆ ของ Google Maps มาให้ใช้งาน เช่นการเลือกแสดงผลเลเยอร์ในแบบต่าง


มีฟังก์ชันคำนวณเส้นทางไปยังสถานที่ๆ เราต้องการ



สามารถค้นหาสถานที่ตามหมวดหมู่ต่างๆ เช่นหากเลือกไปที่ภัตตาคาร หรือร้านอาหาร ระบบก็แสดงข้อมูลของภัตตาคาร หรือร้านอาหาร ที่ใกล้เคียงกับจุดที่เราอยู่ให้โดยอัตโนมัติ


คู่มือการใช้งาน


ใน OPPO Find 3 นั้นจะมีคู่มือการใช้งานติดตั้งมาให้ด้วย แต่ในเครื่องทดสอบนี้ยังคงเป็นภาษาจีน ซึ่งในเครื่องที่วางจำหน่ายจริงก็คงต้องตรวจสอบกันอีกครั้งว่าจะมีคู่มือภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษมาให้ด้วยหรือไม่


โปรแกรมตกแต่งแก้ไขรูปภาพ


ใน OPPO Find 3 นั้นจะมีโปรแกรมตกแต่งแก้ไขรูปภาพมาให้ใช้งานกันด้วย ซึ่งมีฟังก์ชั้นที่ค่อนข้างหลากหลายเลยทีเดียว


รองรับการหมุนภาพ, การปรับโทนสี, การปรับค่าสมดุลแสงสีขาว และการใส่กรอบให้กับรูปภาพ


รองรับการถ่ายรูปใหม่ เพื่อนำมาตกแต่งแก้ไข



มีเครื่องมือสำหรับการนำรูปภาพหลายๆ รูปมาเรียงเข้าด้วยกันในรูปแบบต่างๆ ด้วย Template มาตรฐานที่มีมาให้


ตรวจสอบการอัพเดท


หากต้องการทราบว่าทาง OPPO มีเฟิร์มแวร์ หรือการอัพเดทใหม่ๆ มาบ้างหรือไม่ ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ทันที


รวมภาพถ่ายและวิดีโอตัวอย่างจากกล้องดิจิตอลของ OPPO Find 3

ตามข้อมูลที่ได้มา กล้องดิจิตอลความละเอียด 8 ล้านพิกเซลของ OPPO Find 3 นั้น จะใช้เซนเซอร์จาก Sony ซึ่งก็คือเซนเซอร์แบบ Exmor R (BSI) ที่ถือว่าเป็นเซนเซอร์คุณภาพสูงตัวหนึ่งสำหรับ โทรศัพท์มือถือ ดังนั้นในโอกาสนี้เราก็จะมาดูกันว่า ภาพถ่ายและวิดีโอที่ได้จากกล้องดิจิตอลของ OPPO Find 3 นั้นจะดีมากน้อยขนาดไหน

ตัวอย่างภาพถ่ายความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล (3200x2400 พิกเซล) : คุณภาพสูงสุด : ไม่ผ่านการตกแต่งใดๆ




 



 
 

ตัวอย่างภาพถ่ายความละเอียดระดับ 2 ล้านพิกเซล (1600x1200 พิกเซล) จากกล้องด้านหน้า

ตัวอย่างภาพถ่ายแบบไม่เปิดใช้แฟลช และเปิดใช้ไฟแฟลช

ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมด Funny (Fisheye, Mirror, Pencil, Color)

ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมด Light Color (Defocus, Soft Focus, Tunnel, Antique)

ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมดบิดเบี้ยว (กรวย, คลื่น, ผิวทรงกลม, ลายน้ำ)

ตัวอย่างภาพถ่ายต่อเนื่อง


 

ตัวอย่างภาพถ่ายแนวกว้าง (พาโนรามา)

ตัวอย่างภาพวิดีโอความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 พิกเซล : 3GP)

ตัวอย่างภาพวิดีโอความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 พิกเซล : MP4)


 


สรุปผลการทดสอบ

จากการทดสอบการใช้งานกับ OPPO Find 3 ในระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ก็พอจะมองเห็นอะไรหลายๆ อย่างจาก โทรศัพท์มือถือ หรือ สมาร์ทโฟน รุ่นนี้ จึงขอสรุปเป็นจุดเด่นและจุดด้อยตามความคิดเห็นส่วนตัวคร่าวๆ ดังนี้

จุดเด่น

- ตัวเครื่องดูมีความแข็งแรง การประกอบดูแน่นหนา ใช้วัสดุคุณภาพดี พร้อมวัสดุที่เป็นโลหะในบางส่วน
- ประมวลผลการทำงานด้วย Dual-Core Qualcomm MSM8260 Processor ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะแบบ Adreno 220
- หน้าจอแสดงผลแบบ IPS TFT LCD Capacitive Touchscreen ขนาด 4.0 นิ้ว ความละเอียดระดับ WVGA (800x480 พิกเซล)
- การประมวลผลมีความลื่นไหลเป็นพิเศษ เช่น การแสดงผลกราฟฟิคในหน้า Homescreen, หน้าเมนูหลัก หรือการเคลื่อนไหวของอินเทอร์เฟสในแอพพลิเคชั่นต่างๆ
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB และหน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดขนาด 32 GB
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED 2 ดวง, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ, การเลือกจุดโฟกัสภาพด้วยการสัมผัส
- มีฟังก์ชันพิเศษสำหรับการถ่ายภาพที่หลากหลาย เช่น การถ่ายรูปกลุ่ม, การถ่ายภาพต่อเนื่อง, การถ่ายภาพพาโนราม่า และเอฟเฟคอื่นๆ อีกมากมาย
- รองรับการถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p พร้อมการเลือกจุดโฟกัสได้ทันทีในขณะที่กำลังถ่ายวิดีโอ
- กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 2 ล้านพิกเซล
- รองรับการใช้งานกับคลื่นความถี่ 3G ได้ทุกคลื่นความถี่ในประเทศไทย (850/900/2100 MHz) ทำให้สามารถนำไปงานได้กับผู้ให้บริการทุกราย
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, HSPA, EDGE และ GPRS
- โปรแกรมเว็บเบราเซอร์มีการทำงานที่รวดเร็วราบรื่น ตอบสนองได้รวดเร็วและแม่นยำ รองรับการแสดงไฟล์ Flash และใช้งานภาษาไทยได้อย่างเต็มรูปแบบ
- อุปกรณ์รับสัญญาณ GPS ในตัว พร้อมประสิทธิภาพในการรับสัญญาณที่ดีมาก แม้ไม่ใช่พื้นที่เปิดโล่ง และมีฟังก์ชัน A-GPS
- ลำโพงภายนอกมีพลังเสียง และคุณภาพเสียงที่ดี สามารถเปล่งเสียงเพลง หรือเสียงต่างๆ ออกมาได้อย่างไพเราะและมีมิติ
- รองรับระบบเสียงแบบ Dolby, เสียงรอบทิศทาง และรองรับการปรับแต่งอีควอไลเซอร์ด้วยตนเอง
- ราคาเปิดตัวค่อนข้างย่อมเยา (12,990) เมื่อเทียบกับ สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ ระดับเดียวกันในท้องตลาด

จุดด้อย

- ระบบปฏิบัติการที่ใช้ยังคงเป็นระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ เวอร์ชัน 2.3.6 (Gingerbread)
- ไม่มีปุ่มกล้องดิจิตอลโดยเฉพาะที่ด้านข้างของตัวเครื่อง ต้องกดชัตเตอร์บนหน้าจอแสดงผลเท่านั้น
- ความละเอียดของหน้าจอแม้จะค่อนข้างสูง คือระดับ WVGA (800x480 พิกเซล) แต่หากเทียบกับสมาร์ทโฟนที่กำลังจะออกมาในระยะเวลาใกล้ๆ กันกับ OPPO Find 3 หลายรุ่นจะมีความละเอียดหน้าจอละเอียดขึ้นไปที่ระดับ 720p (1280x720 พิกเซล)
- กลุ่มผู้ใช้ยังค่อนข้างน้อย และเป็น สมาร์ทโฟน รุ่นแรกของแบรนด์ OPPO ดังนั้นกลุ่มผู้ใช้ OPPO Find 3 ก็จะเป็นกลุ่มผู้ใช้กลุ่มแรกด้วยเช่นกัน ซึ่งทาง OPPO ต้องอาศัยเวลาในการสร้างความมั่นใจกับลูกค้าอีกซักระยะ

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ OPPO Find 3 ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้

OPPO Find 3 Specification  

 

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::