Nokia 700 Video Review
Ultra Slim and Fully Featured
Review
Date (7-November-2011)
สวัสดีท่านผู้ชมเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ทุกท่านครับ สำหรับโทรศัพท์มือถือที่เรานำมารีวิวให้ชมกันในวันนี้ก็ได้แก่ Nokia 700 ซึ่งถือว่าเป็น สมาร์ทโฟน ที่ทำงานอยู่บน ระบบปฏิบัติการ Symbian Belle อีกรุ่นในกลุ่ม นอกเหนือไปจากรุ่นใหม่ล่าสุดอื่นๆ ของ โนเกีย ไม่ว่าจะเป็น Nokia 701 และ Nokia 603 ซึ่ง Nokia 700 ก็มีจุดเด่นของตัวเองที่ไม่เหมือนใคร นั่นก็คือ Nokia 700 นั้นจะมีขนาดที่เล็กบางเฉียบ และน้ำหนักเบาที่สุดในกลุ่มนั่นเอง รวมถึงน่าจะสวยดูดีที่สุดในกลุ่มเช่นเดียวกัน
ส่วนประสิทธิภาพในการทำงานนั้น
ด้วยระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุดอย่าง Symbian Belle กับซีพียูระดับ 1 GHz ก็น่าจะช่วยให้การใช้งานมีความลื่นไหลไม่น้อยเลยทีเดียว   

Nokia 700 Video Review & Focus
แกะกล่อง และสำรวจอุปกรณ์ต่างๆ ด้านใน

กล่องของ Nokia 700 นั้นก็จะมีขนาดที่เล็กกะทัดรัดไปตามลักษณะของตัวเครื่อง Nokia 700 นั่นเอง เมื่อเปิดฝาออกมาก็จะพบกับตัวเครื่อง Nokia 700 ที่มีพลาสติกหุ้มเอาไว้ เมื่อเปิดถาดชั้นแรกออกมาก็จะพบอุปกรณ์ต่างๆ ด้านใน เริ่มตั้งแต่ที่ชาร์จแบตเตอรี่ซึ่งมีหัวต่อขนาดเล็ก สาย microUSB สำหรับการโอนย้ายข้อมูล หูฟังแบบสเตอริโอพร้อมหัวต่อขนาด 3.5 มิลลิเมตร แบตเตอรี่รุ่น BP-5Z ขนาดความจุ 1,080 mAh นอกจากนั้นก็จะเป็นใบรับประกันสินค้า และคู่มือการใช้งาน
การออกแบบดีไซน์

รูปลักษณ์ภายนอกของ Nokia 700 ถือว่าเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ ด้วยการออกแบบดีไซน์ที่ดูสวยหรู มีขนาดเล็กกะทัดรัดเหมาะมือ บางเฉียบเพียง 9.7 มิลลิเมตร ใช้วัสดุคุณภาพสูง ดูแน่นหนาแข็งแรง และมีงานที่ละเอียด รวมถึงมีน้ำหนักตัวเพียงแค่ 96 กรัมเท่านั้น
มองรอบตัวเครื่อง

ที่ด้านหน้าของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยลำโพงหูฟังสำหรับการสนทนา Proximity Sensor และ Ambient Light Sensor หน้าจอแสดงผลขนาด 3.2 แบบ AMOLED Capacitive พร้อมเทคโนโลยี Nokia ClearBlack Display ที่ช่วยให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในที่กลางแจ้ง โดยมีความละเอียดระดับ nHD หรือ 640x360 พิกเซล ที่ด้านล่างของหน้าจอจะเป็นปุ่มรับสายโทรออก ปุ่มเมนู และปุ่มวางสาย ส่วนที่ด้านล่างสุดจะเป็นลำโพงเสียงภายนอกขนาดใหญ่ ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีอะไรนอกจากพื้นผิวเรียบๆ ที่ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่มลดเสียง ปุ่มล็อกหน้าจอที่สามารถใช้เป็นปุ่มเปิดปิดไฟฉาย และปุ่มกล้องดิจิตอล
ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่อง microUSB และ USB-OTG (ซึ่งสามารถต่ออุปกรณ์เสริมประเภท Flash Drive ได้ และสามารถหาซื้อได้ที่ Nokia Shop) ช่องเสียบหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร ที่สามารถต่อสาย TV-Out เพี่อนำภาพออกทีวีได้ และรูเสียบสายชาร์จ ที่ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีรูสำหรับร้อยสายคล้อง ที่ด้านหลังของตัวเครื่องจะมีเลนส์กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED โลโก้ Nokia ปั๊มนูนขึ้นมา สลักล๊อกฝาหลัง และไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับการตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา
การเปิดฝาหลัง และอุปกรณ์ด้านใน

การเปิดฝาหลังของตัวเครื่องก็ไม่ยาก เพียงแค่ดันสลักล็อกขึ้นไป แล้วงัดฝาขึ้นมาด้วยแรงพอประมาณ ซึ่งฝาหลังของ Nokia 700 นั้นเป็นโลหะอย่างดี จึงมีความแข็งแรงทนทานมากเป็นพิเศษ เมื่อเปิดฝาหลังออกมาก็จะพบกับช่องใส่แบตเตอรี่ ช่องใส่ซิมการ์ด และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD การใส่ซิมการ์ดก็ไม่ยากเพียงแค่นำซิมการ์ดสอดลงไปในช่องให้ถูกทิศทางเท่านั้น การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ก็เช่นเดียวกันให้ใส่ในทิศทางตามรูปไอคอนที่สกรีนอยู่บนตัวเครื่อง ส่วนแบตเตอรี่ก็ให้สังเกตที่ขั้วโลหะบนก้อนแบตเตอรี่
และขั้วโลหะในช่องใส่แบตเตอรี่ ใส่ให้ตรงกันก็เป็นอันใช้ได้ เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ปิดฝาหลังตามเดิมเพื่อให้พร้อมสำหรับการเปิดใช้งานต่อไป
ส่วนติดต่อผู้ใช้ (User Interface)

เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาก็จะเห็นเป็น User Interface ของระบบปฏิบัติการ Symbian Belle ซึ่งมีการพัฒนาทั้งในเรื่องของหน้าตา และฟังก์ชันการทำงาน เมื่อกดค้างเอาไว้ที่ Widgets เราก็จะสามารถทำการย้ายตำแหน่งของ Widgets นั้นๆ ได้อย่างอิสระ หรือหากกดค้างเอาไว้ที่ภาพพื้นหลังเราก็จะสามารถเพิ่ม Widgets ต่างๆ ได้ตามต้องการ ซึ่งมีให้เลือกอยู่มากมาย หรือจะลบ Widgets ออกจากหน้าจอด้วยการกดที่ไอคอนรูปกากบาทก็ได้เช่นกัน
วิดเจ็ตแบบออนไลน์, แอพยอดนิยม และเครือข่ายสังคมออนไลน์

ที่เห็นอยู่นี้ก็คือ Widgets แบบออนไลน์ ซึ่งมีการอัพเดทข้อมูล หรือสถานะต่างๆ อยู่ตลอดเวลา และเมื่อกดเข้าไปก็จะเหมือนเป็นการเปิดเข้าใช้งานโปรแกรมนั้นโดยทันที
รองรับการเพิ่มหน้า Homescreen ได้สูงสุด 6 หน้า

นอกจากการเพิ่ม Widgets แล้วก็จะมีการเพิ่มทางลัด เปลี่ยนภาพพื้นหลัง การเพิ่มหน้าจอหลัก หรือหน้า Homescreen ซึ่งสำหรับระบบปฏิบัติการ Symbian Belle นั้นจะเพิ่มได้สูงสุดถึง 6 หน้าเลยทีเดียว และหากจะลบหน้า Homescreen ที่ไม่ต้องการใช้งานออกไปก็สามารถทำได้โดยง่าย
แถบ Status Bar ที่ถูกพัฒนาให้ดีขึ้น

ในส่วนของแถบ Status Bar ก็ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นเช่นกัน โดยมีปุ่มเปิดปิดการใช้งานพื้นฐานหลายอย่างเช่นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ไวไฟ บลูทูธ เสียง รวมถึงมีการแจ้งเตือนต่างๆ แสดงให้เห็นภายในหน้าเดียวกันอีกด้วย
การออกแบบระบบเมนู และทิศทางการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ระบบเมนู หรือการออกแบบทิศทางการทำงานต่างๆ ก็ถือว่าทำได้ดีขึ้น โดยจะถูกนำมาวางไว้ที่ด้านล่างของหน้าจอ ซึ่งช่วยให้ใช้งานได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เมนูหลักก็มีการออกแบบดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย ส่วนการโทรออกก็ทำได้ผ่านทาง Virtual Keypad บนหน้าจอนั่นเอง
การปรับแต่งหน้าเมนูหลัก

ในเมนูหลักก็จะสามารถปรับเปลี่ยนการจัดเรียงในรูปแบบต่างๆ ได้ มีฟังก์ชันค้นหาแอพพลิเคชั่นตามคีย์เวิร์ด สามารถสลับตำแหน่งไอคอนของแต่ละแอพพลิเคชั่นได้อย่างอิสระ สามารถเปลี่ยนการแสดงผลเมนูให้เป็นแบบรายการได้ มีการจัดเรียงลำดับตามตัวอักษร และสร้างโฟลเดอร์ขึ้นมาใหม่ได้ ส่วนความลื่นไหลของการประมวลผลนั้น ถือว่าทำออกมาได้ดี ไม่มีอาการสะดุด ด้วยซีพียูระดับ 1 GHz และระบบปฏิบัติการ Symbian Belle นั่นเอง
การเปิดใช้งานหลายโปรแกรมในเวลาเดียวกัน

เมื่อกดค้างที่ปุ่มเมนูเอาไว้ ก็จะเห็นรายการของแอพพลิเคชั่นที่เปิดค้างเอาไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเราสามารถเปิดขึ้นมาใช้งาน รวมถึงสามารถปิดแอพพลิเคชั่นที่ไม่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
โปรแกรมเว็บเบราเซอร์

โปรแกรมเว็บเบราเซอร์ของ Nokia 700 นั้นรองรับการแสดงผลไฟล์แฟลช รองรับการซูมย่อขยายแบบ Pinch-to-Zoom ซึ่งก็มีการทำงานที่รวดเร็วในระดับหนึ่ง สามารถแสดงผลข้อความภาษาไทย และสามารถกด Link ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ส่วนความเร็วของการดาวน์โหลดก็ขึ้นอยู่กับความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่ใช้งานอยู่ สำหรับหน้าเว็บไซต์ขนาดใหญ่นั้นก็สามารถแสดงผลได้ดี แต่การตอบสนองนั้นอาจจะหน่วงอยู่เล็กน้อยโดยเฉพาะหน้าเว็บไซต์ที่มีรายละเอียดหรือลูกเล่นเยอะๆ อย่างไรก็ตามโดยรวมก็ถือว่าค่อนข้างใช้งานได้ดี
และเมื่อเอียงเครื่องในแนวนอน หน้าเว็บไซต์ก็จะแสดงผลในแนวนอนให้โดยอัตโนมัติ มีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย มีการตั้งค่าการใช้งานทั่วไป การตั้งค่าเพจ การตั้งค่าส่วนตัว รองรับการเปิดใช้งานหลายหน้าต่างพร้อมๆ กัน และแน่นอนว่าเราสามารถเก็บบันทึกเว็บไซต์ที่ชื่นชอบเอาไว้ได้
ค้นหาและดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นผ่านทาง Ovi Store หรือ Nokia Store

การค้นหาและดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ ก็ทำได้ผ่านทาง Ovi Store หรือ Nokia Store นั่นเอง ซึ่งก็มีแอพพลิเคชั่นต่างๆ ให้เลือกดาวน์โหลดมากมาย โดยแบ่งออกเป็นแอพพลิเคชั่นทั่วไป โดยมีทั้งแบบที่ให้ดาวน์โหลดได้ฟรี ดาวน์โหลดแบบต้องเสียเงิน และแอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุด นอกจากแอพพลิชั่นทั่วไปแล้ว ก็จะมีเกมส์ต่างๆ ซึ่งก็เช่นเดียวกันคือมีทั้งแบบดาวน์โหลดได้ฟรี และดาวน์โหลดแบบต้องเสียเงิน ส่วนหมวดหมู่นอกจากนี้ก็คือเสียงและวิดีโอ รวมไปถึงแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับการปรับตั้งค่าต่างๆ
โปรแกรมนำทาง และแผนที่ Nokia Maps ที่ใช้งานได้ฟรีตลอดชีพ

โปรแกรมแผนที่ของ Nokia นั้นถือว่ามีประสิทธิภาพสูง และใช้งานได้ดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว สำหรับการใช้งานใน Nokia 700 ก็จะมีการทำงานที่รวดเร็วลื่นไหล สามารถดูได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน รองรับการซูมย่อขยายแบบ Pinch-to-Zoom รองรับการแสดงผลแบบภาพดาวเทียม แสดงแผนที่แบบภูมิประเทศ การแสดงผลแบบ 3 มิติ ซึ่งการแสดงผลแบบนี้ก็อาจจะมีอาการหน่วงอยู่เล็กน้อย มีโหมดแบบกลางคืน มีฟังก์ชันค้นหาสถานที่ตามคีย์เวิร์ด และตามประเภทของสถานที่ เช่นในประเภทกินดื่ม ก็จะมีร้านกินดื่มต่างๆ ที่อยู่ใกล้เรามากที่สุดแสดงให้เห็น
โดยสามารถกดเข้าไปดูแผนที่ และสั่งให้เครื่องนำทางให้เราได้ทันที นอกจากนั้นในเมนูหลักก็จะมีการเช็คอิน สถานที่โปรด การขับรถ การเดิน การอัพเดท สภาพอากาศ และบริการเพิ่มเติมอื่นๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Lonely Planet, HungryGoWhere, TripAdvisor, Insight Guides, Map Reporter, CitySeekr และ EventSeekr เป็นต้น
การแสดงผลสถานที่แบบ 3 มิติสมจริง

สำหรับการแสดงผลในแผนที่นั้น หากเป็นสถานที่ๆ สำคัญในประเทศไทย หรือในกรุงเทพมหานคร ก็จะสามารถแสดงสถานที่นั้นๆ แบบ 3 มิติสมจริงได้ โดยจะเห็นว่าเป็นรูปตึกหรืออาคารต่างๆ ที่จำลองมาจากสถานที่นั้นจริงๆ ซึ่งเราสามารถเห็นได้ทั้งในโหมดการแสดงผลแผนที่แบบ 2 มิติ และการแสดงผลแผนที่แบบ 3 มิติ ส่วนการประมวลผลอาจจะหน่วงเล็กน้อย ด้วยรายละเอียดที่ค่อนข้างเยอะนั่นเอง
เปิดดูรูปภาพในโปรแกรมแกลอรี่

โปรแกรมแกลอรี่ของ Nokia 700 ก็จะดูเรียบง่ายดังที่เห็นนี้ แต่ก็ทำให้มีการใช้งานที่ง่ายและทำงานได้รวดเร็วด้วยเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าสามารถรองรับการซูมย่อขยายแบบ Pinch-to-Zoom ได้ รองรับการดูรูปภาพในแนวนอน มีฟังก์ชันการแสดงภาพแบบสไลด์โชว์ มีฟังก์ชันสำหรับการตกแต่งแก้ไขรูปภาพ ซึ่งดูแล้วก็จะมีเครื่องมือให้เลือกใช้หลากหลายเลยทีเดียว
แชร์รูปภาพผ่านทาง Facebook และ Twitter

เราสามารถแชร์รูปภาพในเครื่องของเราผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง Facebook หรือ Twitter ได้ทันทีโดยไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่มเติม
การเปิดไฟล์วิดีโอความละเอียดสูง

แน่นอนว่าในเครื่องก็จะมีโปรแกรมสำหรับการเปิดดูไฟล์วิดีโอมาให้ในตัว ซึ่งก็มีหน้าตาเรียบง่ายดังที่เห็นนี้ มีการแสดงผลที่รวดเร็วราบรื่นเป็นอย่างดี และยังรองรับไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงแบบ DivX, XviD หรือ H.264 ได้อีกด้วย
โปรแกรมเครื่องเล่นเพลง

ในโปรแกรมเครื่องเล่นเพลงก็จะสามารถแสดงรูปปกอัลบั้มได้ มีฟังก์ชันควบคุมการทำงานพื้นฐานที่ครบถ้วน และใช้งานได้ง่าย สามารถค้นหาเพลงจากชื่ออัลบั้ม ชื่อเพลง และประเภทของเพลง นอกจากนั้นในการฟังเพลง เราก็ยังสามารถปรับรูปแบบของเสียง ด้วยอีควอไลเซอร์ได้ทั้งหมด 5 รูปแบบด้วยกัน รวมถึงสามารถตั้งค่าสมดุลของเสียง ความดัง และการขยายเสียงสเตอริโอ และนอกจากนั้นด้วยลำโพงเสียงภายนอกขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณด้านล่าง ก็จะช่วยให้เสียงที่ออกมามีระดับความดัง และมีรายละเอียดที่ดีมากเป็นพิเศษอีกด้วย
การตั้งค่าสำหรับการใช้งานเครื่อง

การตั้งค่าจะประกอบไปด้วย การตั้งค่ารูปแบบ ตั้งค่าลักษณะ ตั้งค่าโทรศัพท์ การติดตั้ง ตั้งค่าการโทร ตั้งค่าการเชื่อมต่อ และการตั้งค่าแอพพลิเคชั่น
คู่มือการใช้งาน

สำหรับใครที่ต้องการศึกษาวิธีการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ เพิ่มเติม ก็สามารถศึกษาได้จากคู่มือผู้ใช้ซึ่งมีอยู่ภายในเครื่อง และมีให้ศึกษาแทบจะทุกฟังก์ชันการใช้งานเลยทีเดียว
ค้นหาและเปิดดูคลิปวิดีโอบนยูทูบ

เมื่อเปิดโปรแกรม Youtube ขึ้นมา ก็จะเป็นการเปิดหน้าเว็บไซต์ Youtube เวอร์ชัน Mobile ขึ้นมานั่นเอง ไม่ได้เป็นโปรแกรมสำหรับเปิดดูวิดีโอใน Youtube โดยเฉพาะแต่อย่างใด ดังนั้นฟังก์ชันการทำงานต่างๆ ก็จะมีให้ใช้งานเพียงแค่ฟังก์ชันพื้นฐานเท่านั้น
ค้นหาข้อมูลเพลงด้วย Shazam

หากเราต้องการทราบว่า เพลงที่ได้ยินอยู่ขณะนั้น เป็นเพลงของใคร หรืออยู่ในอัลบั้มใด เราก็สามารถใช้โปรแกรม Shazam ค้นหาข้อมูลให้เราได้ ซึ่งโปรแกรม Shazam นั้นก็จะทำการวิเคราะห์เสียง และนำไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูล จนได้ข้อมูล หรือรายละเอียดของเพลงที่ตรงกันมาแสดงให้เราดูนั่นเอง
สร้างและแก้ไขไฟล์เอกสารด้วยโปรแกรม QuickOffice

ด้วยโปรแกรม Quickoffice นั้นทำให้เราสามารถสร้างเอกสารได้หลายรูปแบบทั้ง Word, Excel และ PowerPoint (การสร้าง และแก้ไขไฟล์เอกสารจะต้องทำการอัพเกรดโปรแกรมเสียก่อน จึงจะสามารถใช้งานได้ และต้องเสียเงิน)
ตัดต่อวิดีโอ และสร้างสไลด์โชว์

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอนั้นมีติดตั้งมาให้ในเครื่องแล้ว โดยใส่เนื้อหาได้ตั้งแต่คลิปวิดีโอ รูปภาพ เสียง และข้อความ นอกจากนั้นก็ยังสามารถสร้างสไลด์โชว์ด้วยเอฟเฟคสำเร็จรูปที่มีอยู่หลากหลายรูปแบบได้อีกด้วย
ค้นหาแอพพลิเคชั่นยอดนิยม

ในส่วนของ TopApps นั้นก็จะเป็นการรวบรวมแอพพลิเคชั่นยอดนิยมต่างๆ มาไว้ในที่เดียวกันเพื่อให้การค้นหามีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียด และดาวน์โหลดได้จาก Ovi Store นั่นเอง
ดูตัวอย่างภาพยนตร์ผ่านทางโปรแกรม Spotlight

ในโปรแกรม Spotlight ก็เป็นโปรแกรมที่รวบรวมเอาคลิปตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องต่างๆ ที่น่าสนใจมารวบรวมไว้ให้ชมกันนั่นเอง
วิธีการใช้งานเทคโนโลยีการสื่อสารระยะใกล้แบบ NFC (Near Field Communication)

เนื่องจาก Nokia 700 นั้นรองรับเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะใกล้แบบ NFC ดังนั้นในเครื่องก็จะมีส่วนของการฝึกการใช้งาน NFC ซึ่งก็จะมีคลิปวิดีโอสอนการใช้งาน NFC ในรูปแบบต่างๆ ให้ดูและสามารถทำตามได้โดยง่าย
คลิปวิดีโอจากช่อง National Geographic

นอกจากนั้นก็ยังมีโปรแกรมที่นำคลิปของช่องสารคดีชื่อดังอย่าง National Geographic มาให้ชมกันอีกด้วย
คลิปวิดีโอจากช่องข่าว CNN

คลิปวิดีโอจากช่องข่าวชื่อดังอย่าง CNN ก็มีมาให้ชมด้วยเช่นเดียวกัน
กล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง

กล้องดิจิตอลของ Nokia 700 นั้นมีความละเอียดสูงสุดที่ 5 ล้านพิกเซล สามารถซูมเข้าซูมออกได้ด้วยปุ่มเพิ่มลดเสียง แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติมาให้ใช้งาน รองรับการเปิดไฟแฟลช พร้อมฟังก์ชันป้องกันตาแดง มีโหมดการถ่ายภาพแบบอัตโนมัติ แบบกำหนดเอง ถ่ายภาพบุคคล ภาพทิวทัศน์ ภาพกลางคืน และภาพคนตอนกลางคืน มีฟังก์ชันตรวจจับใบหน้า แสดงเส้นกริด การตั้งเวลาล่วงหน้าที่ 2, 10 และ 20 วินาที การปรับโทนสี การปรับสมดุลแสงสีขาว การชดเชยแสง การปรับค่าความไวแสง การปรับค่าความเปรียบต่าง
การปรับความคมชัด สามารถกำหนดความละเอียดสูงสุดได้ที่ 5 ล้านพิกเซล การบันทึกข้อมูลพิกัด การแสดงภาพตัวอย่าง การตั้งชื่อ เสียงชัตเตอร์ และหน่วยความจำที่ใช้ ส่วนโหมดการถ่ายภาพวิดีโอก็จะเป็นดังนี้ สามารถซูมเข้าซูมออกได้เช่นกัน เปิดปิดไฟส่องสว่างได้ มีโหมดการถ่ายแบบอัตโนมัติ แบบแสงน้อย และแบบกลางคืน รองรับการแสดงเส้นกริด การปรับโทนสี ปรับสมดุลแสงสีขาว ปรับค่าชดเชยแสดง กำหนดความละเอียดได้สูงสุดที่ระดับ 720p และตั้งค่าอื่นๆ ได้อีกพอสมควร
วิทยุ FM Stereo ในตัว

ที่ขาดไปไม่ได้ก็คือการฟังวิทยุ FM ซึ่งแน่นอนว่ามีระบบค้นหาคลื่นความถี่แบบอัตโนมัติ และเก็บบันทึกรายการสถานีวิทยุได้มากมาย มีอินเทอร์เฟสที่ใช้งานได้ง่ายตามสไตล์โนเกีย สามารถกำหนดความถี่ด้วยตัวเองได้ เปิดฟังผ่านทางลำโพงภายนอกได้ มีหน้าตาและฟังก์ชันของโปรแกรมที่ดูเรียบง่ายแต่ก็ใช้งานได้ดีและมีประสิทธิภาพ
เกม Fruit Ninja

ต่อด้วยการทดสอบการเล่นเกมกันบ้าง เริ่มด้วยเกมยอดนิยมอย่าง Fruit Ninja ซึ่งมีการพัฒนาให้กับ สมาร์ทโฟน หลายแพลทฟอร์ม หนึ่งในนั้นก็คือ สมาร์ทโฟน ระบบปฏิบัติการ ซิมเบี้ยน นั่นเอง และด้วยซีพียูที่มีความเร็วระดับ 1 GHz และหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ จึงทำให้การแสดงผล และการตอบสนองระหว่างการเล่นเกมนั้นมีความไหลลื่นไร้อาการสะดุด เรียกได้ว่าช่วยให้เล่นเกมได้สนุกขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว
เกม Angry Birds Magic

เกมที่จะลองเล่นเกมต่อไปก็คือเกม Angry Birds Magic ซึ่งเริ่มมาให้ด้วยด่านเพียง 5 ด่าน แต่เราก็สามารถปลดล็อกด่านใหม่ๆ ได้อีก ด้วยการนำ Nokia 700 ไปแตะกับอุปกรณ์ที่รองรับ NFC ชิ้นอื่นๆ ของโนเกียนั่นเอง ส่วนประสิทธิภาพในการเล่นเกม Angry Birds Magic นั้นก็ถือว่าน่าประทับใจไม่แพ้เกม Fruit Ninja มีการตอบสนองหรือการควบคุมที่รวดเร็วแม่นยำ รวมถึงการแสดงผลกราฟฟิคที่ลื่นไหลเป็นอย่างมาก
โปรแกรม หรือแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ส่วนฟังก์ชันหรือโปรแกรมอื่นๆ ที่น่าสนใจก็เช่น ปฏิทินนัดหมาย, อีเมล, โปรแกรมเปิดไฟล์ Zip, โปรแกรม Vingo-Voice, โปรแกรมอ่านไฟล์ PDF, โปรแกรม E, โปรแกรมจัดการไฟล์, พจนานุกรม และเครื่องบันทึกเสียง เป็นต้น
เปรียบเทียบรูปลักษณ์ภายนอกของ Nokia 700 และ Nokia 701

เครื่องที่เห็นอยู่ทางด้านซ้ายนี้ก็คือ Nokia 700 ส่วนเครื่องที่เห็นอยู่ทางด้านขวาก็คือ Nokia 701 โดยหน้าจอของ Nokia 700 จะมีขนาด 3.2 นิ้ว ส่วนหน้าจอของ Nokia 701 จะมีขนาดใหญ่กว่าที่ 3.5 นิ้ว ตัวเครื่องของ Nokia 700 จะบางกว่า โดยหนาเพียง 9.7 มิลลิเมตร ส่วน Nokia 701 จะหนากว่าเล็กน้อยที่ 11 มิลลิเมตร และมีรูเสียบสายชาร์จอยู่ทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง ส่วนด้านซ้ายของ Nokia 700 จะไม่มีอะไรนอกจากพื้นผิวเรียบๆ ส่วนทางด้านขวาก็จะมีปุ่มกด 3 ส่วนที่เคลือบโครเมียมมันวาว
ส่วนปุ่มกดของ Nokia 701 จะเป็นสีเดียวกันกับตัวเครื่อง ส่วนที่ด้านบนก็จะมีช่อง microUSB และ USB-OTG (ซึ่งสามารถต่ออุปกรณ์เสริมประเภท Flash Drive ได้ และสามารถหาซื้อได้ที่ Nokia Shop) ที่เสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ที่สามารถต่อสาย TV-Out เพี่อนำภาพออกทีวีได้) และปุ่มเปิดปิดเครื่อง ส่วนด้านบนของ Nokia 700 จะไม่มีปุ่มเปิดเปิดเครื่องอยู่บริเวณนี้ ส่วนที่ด้านหลังจะมีเลนส์กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED หนึ่งดวง ส่วน Nokia 701 จะเป็นกล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED แบบคู่ และลำโพงเสียงภายนอก ส่วนลำโพงเสียงของ Nokia 700 จะอยู่ที่ด้านหน้า สำหรับน้ำหนักตัวของ Nokia 700 จะอยู่ที่ 96 กรัม และสำหรับ Nokia 701 จะอยู่ที่ 131 กรัม ซึ่งถือว่าหนักกว่าพอสมควร
เปรียบเทียบหน้าจอของ Nokia 700 และ Nokia 701

หน้าจอของ Nokia 700 นั้นจะเป็นหน้าจอแบบ AMOLED Capacitive พร้อมเทคโนโลยี ClearBlack Display ส่วนหน้าจอของ Nokia 701 นั้นจะเป็นหน้าจอแบบ LED-Backlit IPS Capacitive พร้อมเทคโนโลยี ClearBlack Display ซึ่งหน้าจอทั้ง 2 แบบนี้มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน โดยหน้าจอของ Nokia 700 นั้นดูแล้วจะมีสีสันที่สดใสมากกว่า ส่วนหน้าจอของ Nokia 701 จะมองในมุมเอียงได้ถึง 160 องศา และดูแล้วจะมีระดับความสว่างของหน้าจอที่มากกว่า ประกอบกันสีสันที่ดูเป็นธรรมชาติ ส่วนในเรื่องของความลื่นไหลนั้นถือว่าทำได้ดีพอๆ
กัน
สรุปภาพรวมของ Nokia 700

หากมองในภาพรวมแล้ว สำหรับ Nokia 700 นั้นจะมีความโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบดีไซน์มากที่สุดในกลุ่ม ด้วยตัวเครื่องที่บางเฉียบ ขนาดกะทัดรัด และมีน้ำหนักที่เบาที่สุด ดังนั้นจึงทำให้การพกพาค่อนข้างสะดวกมากๆ แต่ทั้งนื้ทั้งนั้น ขนาดหน้าจอของ Nokia 700 ก็จะมีขนาดที่เล็กที่สุดในกลุ่มเช่นเดียวกัน คือมีขนาดเพียง 3.2 นิ้ว ซึ่งในการใช้งานบางอย่างก็อาจจะทำได้ไม่เต็มที่มากนัก ส่วนคุณสมบัติเด่นๆ ของ Nokia 700 ก็ถือว่าใส่มาให้อย่างครบเครื่องเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ซีพียูความเร็ว
1 GHz ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุดอย่าง Symbian Belle หน้าจอที่มีสีสันสดใสแบบ AMOLED Capacitive พร้อมเทคโนโลยี ClearBlack Display การรองรับการสือสารข้อมูลระยะใกล้แบบ NFC รองรับการใช้งานจีพีเอสพร้อมแผนที่และระบบนำทางของโนเกียได้ฟรีตลอดชีพ รองรับการเชื่อมต่อได้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะการรองรับ 3G ได้ทุกคลื่นความถี่ ส่วนกล้องดิจิตอลจะมีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติมาให้ และคุณสมบัติอื่นๆ อีกมากมาย กับราคาเปิดตัวที่ 9,990 บาท ก็ถือว่าไม่สูงจนเกินไป หากท่านใดสนใจก็แวะไปลองเล่นตัวจริงกันก่อนได้
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม พบกันได้ใหม่ในวิดีโอรีวิวรุ่นต่อไป สวัสดีครับ
สรุปผลการทดสอบ
จากการทดสอบการใช้งานมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ กับ Nokia 700 ก็พอจะมองเห็นอะไรหลายๆ อย่างจากโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ จึงขอสรุปเป็นจุดเด่นและจุดด้อยตามความคิดเห็นส่วนตัวคร่าวๆ ดังนี้

จุดเด่น
- มีการออกแบบดีไซน์ที่ดูสวยงามทันสมัย ตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา เหมาะแก่การพกพา ใช้วัสดุคุณภาพสูงและมีดูความแข็งแรงทนทาน
- มีลำโพงภายนอกที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของตัวเครื่อง ทำให้เวลาวางเครื่องบนพื้นราบ เสียงเรียกเข้าหรือเสียงเพลงจะมีความดังออกมาได้อย่างเต็มที่
- รองรับการใช้งานระบบเครือข่ายแบบ 3G ได้ครบทุกคลื่นความถี่ (WCDMA 850/900/1700/1900/2100 MHz)
- หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED Capacitive พร้อมเทคโนโลยี Nokia ClearBlack Display ที่แสดงผลได้คมชัด มีสีสันที่สดใสมากเป็นพิเศษ และกระจกหน้าจอแบบ Gorilla Glass ที่ช่วยเพิ่มความทนทานแข็งแรง
- ประมวลผลการทำงานด้วยหน่วยประมวลผลความเร็ว 1 GHz พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ ทำให้การใช้งานโดยรวมมีความรวดเร็วราบรื่น การแสดงผลกราฟฟิคต่างๆ มีความลื่นไหลเป็นอย่างดี
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Symbian Belle ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการซิมเบี้ยนเวอร์ชันใหม่ล่าสุดที่มีการพัฒนาความสามารถให้ดีขึ้นในหลายๆ ด้าน
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 2 GB พร้อมหน่วยความจำ ROM ขนาด 1 GB และ RAM ขนาด 512 MB และรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD ได้สูงสุดขนาด 32 GB
- กล้องดิจิตอลในตัว ความละเอียดระดับ 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ในตัว รองรับการถ่ายภาพวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 720p พร้อมความเร็วสูงสุดที่ 30 เฟรมต่อวินาที
- รองรับเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลระยะใกล้แบบ NFC (Near Field Communication)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, HSDPA (14.4 Mbps), EDGE Class 33 และ GPRS Class 33
- โปรแกรมเว็บเบราเซอร์สามารถแสดงผลไฟล์แฟลชได้ (Flash Lite)
- รองรับการใช้งานระบบจีพีเอส พร้อมโปรแกรมแผนที่และระบบนำทางประสิทธิภาพสูงของโนเกีย ซึ่งสามารถใช้งานได้ฟรีตลอดชีพ
- รองรับการเปิดดูไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงแบบ DivX, XviD และ H.264
- วิทยุ FM Stereo ในตัว พร้อมรองรับฟังก์ชัน RDS (Radio Data System)
- รองรับการใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น Facebook และ Twitter ได้ในตัว

จุดด้อย
- หน้าจอแสดงผลมีขนาดใหญ่เพียง 3.2 นิ้ว ซึ่งอาจจะค่อนข้างเล็กสำหรับการใช้งานบางประเภท เช่นการเปิดดูหน้าเว็บไซต์ขนาดใหญ่ หรือการเปิดดูภาพยนตร์ เป็นต้น
- กล้องดิจิตอลไม่มีระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ
- ไม่มีเลนส์กล้องขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง จึงอาจจะไม่สะดวกนักเวลาใช้งาน Video Call
- การใช้งานโปรแกรม QuickOffice เพื่อสร้างและแก้ไขไฟล์เอกสาร ต้องเสียเงินเพื่อทำการอัพเกรดเสียก่อน
- การใช้งานบางอย่างยังมีอาการหน่วงอยู่บ้างเล็กน้อย เช่นการเปิดหน้าเว็บไซต์ขนาดใหญ่ หรือการเปิดดูแผนที่แบบ 3 มิติ
- จำนวนของแอพพลิเคชั่นที่เปิดให้ดาวน์โหลดเพิ่มเติมยังมีไม่มากนัก เมื่อเทียบกับ สมาร์ทโฟน ระบบปฏิบัติการอื่นๆ

โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Nokia 700 ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้
Nokia 700 Specification

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus :: |