Nokia 500 Video Review :: วิดีโอรีวิว ทดสอบ มือถือ

สวัสดีท่านผู้ชมเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ทุกท่านครับ สำหรับโทรศัพท์มือถือที่เรามารีวิวให้ชมกันในวันนี้ก็ได้แก่ Nokia 500 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการซิมเบี้ยนรุ่นแรกที่มาพร้อมกับซีพียูความเร็วระดับ 1 GHz และมีราคาที่ค่อนข้างย่อมเยาคือ 6,600 บาท ที่น่าจะเจาะกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่มีงบประมาณไม่มากนัก และต้องการความคุ้มค่า รวมไปถึงผู้ที่ไม่ต้องการความจำเจ เพราะในชุดขายมาตรฐานของ Nokia 500 นั้นมีฝาหลังเพิ่มให้ฟรีอีก 2 ชิ้น ที่มีสีสันต่างกัน ส่วนระบบปฏิบัติการนั้นยังคงเป็น Symbian Anna แต่ในอนาคตก็จะสามารถอัพเดทเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุดอย่าง Symbian Belle ได้อย่างแน่นอน

วิดีโอรีวิว Nokia 500 : Part 1

วิดีโอรีวิว Nokia 500 : Part 2

วิดีโอรีวิว Nokia 500 : Part 3

แกะกล่อง และสำรวจอุปกรณ์ต่างๆ ด้านใน

ก่อนอื่นก็มาแกะกล่องของ Nokia 500 กันดูว่าข้างในมีอะไรอยู่บ้าง จะเห็นว่าบนกล่องจะระบุไว้อย่างชัดเจนว่าใช้ซีพียูความเร็ว 1 GHz และมีฝาหลังแถมเพิ่มมาให้อีก 2 ชิ้น เมื่อเปิดออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ เริ่มตั้งแต่ฝาหลังชิ้นแรกที่แถมมาให้ ต่อด้วยตัวเครื่องที่ใส่ฝาหลังสีดำมาให้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเปิดออกมาอีกชั้น ก็จะเห็นฝาหลังอีกชิ้นที่แถมมาให้ นอกจากนั้นก็จะเป็นที่ชาร์จแบตเตอรี่ซึ่งมีหัวขนาดเล็ก หูฟังสเตอริโอพร้อมหัวต่อขนาด 3.5 มิลลิเมตร สาย microUSB ที่ค่อนข้างสั้น ซึ่งการใช้งานในบางสถานการณ์ก็อาจจะไม่คล่องตัวมากนัก ถัดไปก็จะเป็นแบตเตอรี่รุ่น BL-4U ซึ่งมีความจุ 1,110 mAh ส่วนที่เหลือก็จะเป็นคู่มือการใช้งาน และใบรับประกันสินค้า

การออกแบบดีไซน์ของ Nokia 500 นั้นถือว่ามีความสวยและทันสมัยไม่น้อยเลยทีเดียว วัสดุที่ใช้ แม้จะเป็นพลาสติกทั้งหมด แต่ก็ถือว่ามีคุณภาพที่ดี มีความแน่นหนาแข็งแรง ชิ้นงานมีความละเอียดประณีต พื้นผิวของฝาหลังไม่ลื่นทำให้จับถือได้อย่างถนัดมือ ความหนาจะอยู่ที่ 14.1 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักตัวก็เพียงแค่ 93 กรัมเท่านั้น

ที่ด้านหน้าของตัวจะประกอบไปด้วยลำโพงเสียงสำหรับการสนทนา, Proximity Sensor, Ambient Light Sensor ส่วนตรงมุมบนซ้ายเป็นเพียงแผ่นกันรอยที่ยังไม่ได้แกะออกเท่านั้น มีหน้าจอสัมผัสแบบ TFT Capacitive ขนาด 3.2 นิ้ว ซึ่งถือว่าไม่ใหญ่มากนัก ส่วนความละเอียดอยู่ที่ระดับ nHD หรือ 360x640 พิกเซล ที่ด้านล่างก็จะเป็นปุ่มรับสาย ปุ่มวางสาย และปุ่มเมนู ส่วนรูเล็กๆ ใกล้ๆ กันนั้นก็คือไมโครโฟนสำหรับการสนทนาหรือบันทึกเสียงนั่นเอง ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีอะไรนอกจากพื้นผิวเรียบๆ ที่ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง และปุ่มล็อกหน้าจอ ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่อง microUSB, ช่องเสียบหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, และรูเสียบสายชาร์จ ที่ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีรูร้อยสายคล้อง ที่ด้านหลังของตัวเครื่องจะมีเลนส์กล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และลำโพงเสียงภายนอก

การเปิดฝาหลัง และอุปกรณ์ด้านใน

การเปิดฝาหลังทำได้โดยการใช้สองนิ้วดันลงไปแล้วสไลด์ออกมา ซึ่งฝาหลังของ Nokia 500 นั้นเป็นพลาสติกที่ค่อนข้างแข็งและหนาเลยทีเดียว ดังนั้นความแข็งแรงจึงหายห่วง และยังมีสำรองให้อีกถึง 2 ชิ้นด้วยกัน เมื่อเปิดฝาออกมาก็จะพบกับช่องใส่แบตเตอรี่รุ่น BL-4U ความจุ 1,110 mAh ซึ่งใต้ก้อนแบตเตอรี่นั้นจะมี ช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ที่รองรับได้สูงสุดขนาด 32 GB และช่องใส่ซิมการ์ด ซึ่งก็จะเป็นถาดโลหะ และมีกลไกการล็อกในลักษณะเดียวกันกับการใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD นั่นเอง

เมื่อพร้อมแล้วก็มาลองเปิดเครื่องกันดูได้เลย ที่เห็นนี้ก็คือ User Interface ของระบบปฏิบัติการ Symbian Anna ซึ่งมีการปรับปรุงจากเวอร์ชันก่อนหน้านี้ค่อนข้างมาก ทั้งรูปแบบของไอคอน และฟังก์ชันต่างๆ เมื่อกดค้างเอาไว้ที่ Widgets ก็จะสามารถปรับแต่งหน้าจอได้ ทั้งการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของ Widgets ต่างๆ การเพิ่ม Widgets มีการเก็บประวัติของแอพพลิเคชั่นที่เปิดใช้งานล่าสุดเอาไว้ ซึ่งเราสามารถกดเข้าไปใช้งานต่อได้ทันที สามารถเปลี่ยนภาพพื้นหลังได้ และกำหนดให้ Widgets ทำงานแบบออฟไลน์ได้

วิดเจ็ตแบบออนไลน์, แอพยอดนิยม และเครือข่ายสังคมออนไลน์

ที่เห็นนี้ก็จะเป็น Widgets แบบ Online ซึ่งจะมีการอัพเดทสถานะอยู่ตลอดเวลา เช่นแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจในส่วนของ TopApps แอพพลิเคชั่นแนะนำ Blog ของแต่ละแอพพลิเคชั่น เมื่อเลือกที่แอพพลิเคชั่นก็จะสามารถดูรายละเอียดและดาวน์โหลดได้ทันที ส่วนตัวอย่างของ Widgets แบบ Online อีกอันก็คือเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งก็จะรองรับทั้ง Facebook และ Twitter นอกจากนั้นก็ยังสามารถเพิ่ม Account อื่นๆ ได้อีกด้วย

เมนูหลักของ Nokia 500 นั้นก็จะมีลักษณะดังนี้ โดยจะเห็นได้ว่าไอคอนต่างๆ มีการออกแบบดีไซน์ที่สวยงามทันสมัยมากขึ้นกว่าระบบปฏิบัติการซิมเบี้ยนเวอร์ชันก่อนหน้านี้ เมื่อกดค้างเอาไว้ที่ไอคอนใดๆ ก็จะเป็นการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของไอคอนต่างๆ ได้อย่างอิสระ และสามารถเปลี่ยนมุมมองของเมนูหลักให้เป็นแบบรายการได้

กล้องดิจิตอลสำหรับการถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอ

กล้องดิจิตอลของ Nokia 500 นั้นจะมีความละเอียดสูงสุดที่ 5 ล้านพิกเซล มีโหมดถ่ายภาพแบบอัตโนมัติ และแบบอื่นๆ มีฟังก์ชันตรวจจับใบหน้า, การแสดงเส้นกริด, การตั้งเวลาล่วงหน้าที่ 2, 10 และ 20 วินาที, การปรับโทนสี, การปรับสมดุลแสงสีขาว, การปรับชดเชยแสง, การปรับค่าความไวแสง, การปรับค่าความเปรียบต่าง, การปรับความคมชัด โดยสามารถกดเข้าไปดูรูปภาพในแกลอรี่ได้ทันที ส่วนการตั้งค่าก็จะมีการกำหนดความละเอียด ซึ่งละเอียดสูงสุดที่ 5 ล้านพิกเซล รองรับการการบันทึกข้อมูลพิกัด, การแสดงภาพตัวอย่าง, การตั้งชื่อ, เสียงชัตเตอร์, การหมุนรูปภาพอัตโนมัติ, หน่วยความจำที่ใช้ และการคืนค่าจากโรงงาน สามารถซูมเข้าซูมออกได้ด้วยแถบที่ด้านซ้ายของหน้าจอ หรือที่ปุ่มเพิ่มลดเสียง แต่อย่างไรก็ดี กล้องของ Nokia 500 นั้นไม่มีระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติมาให้ ส่วนการถ่ายภาพวิดีโอก็จะเป็นดังนี้ สามารถซูมเข้าซูมออกได้ สามารถกำหนดโหมดของการถ่ายได้, ปรับค่าสมดุลแสงสีขาว, ปรับโทนสี, ปรับค่าชดเชยแสง ส่วนการตั้งค่าก็จะมีการตั้งค่าความละเอียด ซึ่งรองรับได้สูงสุดที่ระดับ VGA หรือ 640x480 พิกเซล พร้อมทั้งรองรับการแสดงพิกัด, การป้องกันการสั่น, การบันทึกเสียง, การแสดงตัวอย่าง, การตั้งชื่อ, หน่วยความจำที่ใช้ และการคืนค่าจากโรงงาน

เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว

Nokia 500 นั้นก็จะมีเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ซึ่งทำให้สามารถพลิกหน้าจอในแนวตั้งและแนวนอนได้แบบอัตโนมัติทั้งในส่วนของหน้า Home Screen และหน้าเมนู ซึ่งการประมวลผลถือว่าอาจจะยังหน่วงอยู่เล็กน้อย เช่นการสไลด์เลื่อนหน้าไปทางด้านซ้ายและด้านขวาในบางจังหวะ แต่โดยรวมก็ไม่มีปัญหาสำหรับการใช้งานแต่อย่างใด

ตั้งค่าพื้นฐานก่อนเริ่มใช้งาน

การตั้งค่าพื้นฐานก่อนการใช้งานเครื่องก็จะมีการถ่ายโอนข้อมูลกับมือถือเครื่องอื่น ซึ่งต้องอาศัยการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth การตั้งค่าอีเมล การตั้งชื่อโทรศัพท์ และการอัพเดทซอฟต์แวร์

ค้นหาและดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นผ่านทาง Ovi Store

การค้นหาและดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ จะทำได้ผ่านทาง Ovi Store ของโนเกียนั่นเอง ซึ่งสามารถกดเข้าไปรายละเอียดของแอพพลิเคชั่นที่เราต้องการดาวน์โหลดได้ ทั้งคำอธิบาย และรูปภาพตัวอย่าง มีการแบ่งหมวดหมู่ออกเป็นแอพพลิเคชั่นทั่วไป เกมส์ เสียงและวิดีโอ การปรับตั้งค่า และหมวดหมู่อื่นๆ โดยเราสามารถค้นหาแอพพลิเคชั่นจากคีย์เวิร์ดที่ต้องการได้

โปรแกรม Web Browser ของ Nokia 500 นั้นสามารถรองรับการแสดงผลไฟล์ Flash ได้ แต่การทำงานก็ถือว่าหน่วงพอสมควร สังเกตได้จากการซูมย่อขยาย หรือการเลื่อนหน้าไปยังตำแหน่งต่างๆ โดยเฉพาะหน้าเว็บไซต์ที่มีขนาดใหญ่ หรือมีรายละเอียดเยอะๆ สามารถพลิกเครื่องในแนวนอนได้โดยอัตโนมัติ มีฟังก์ชันการทำงานต่างๆ ที่ค่อนข้างหลากหลาย รองรับการใช้งานพร้อมกันหลายหน้าต่าง มีการตั้งค่าทั่วไป ตั้งค่าเพจ และตั้งค่าส่วนตัว

สำหรับการพิมพ์ข้อความก็จะทำได้ผ่านทางคีย์บอร์ดแบบ QWERTY บนหน้าจอแสดงผล ใช้งานได้ทั้งแนวตั้ง และแนวนอน โดยรองรับได้ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย

การฟังวิทยุแบบออนไลน์จะมีการแบ่งออกเป็นสถานีตามภูมิภาค เช่นสถานีวิทยุในประเทศไทย สามารถกดฟังได้ทันที โดยความเร็วของการเชื่อมต่อก็ขึ้นอยู่กับระบบอินเทอร์เน็ตที่ใช้งานอยู่นั่นเอง นอกจากนั้นก็จะเป็นการแบ่งตามภาษา มีการแบ่งตามประเภทของเพลง เช่นหากเลือกที่เพลงคลาสสิค ก็จะมีสถานีเพลงคลาสสิคออกมาให้เลือกมากมาย

ในโปรแกรม Youtube ก็จะเป็นการเปิดหน้าเว็บไซต์ Youtube ในเวอร์ชันของโทรศัพท์มือถือขึ้นมานั่นเอง ไม่ใช่แอพพลิเคชั่นที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะแต่อย่างใด ดังนั้นก็จะมีเฉพาะฟังก์ชันพื้นฐาน และการใช้งานก็อาจจะยังไม่สะดวกและหลากหลายมากนัก

แน่นอนว่า Nokia 500 นั้นสามารถเปิดดูไฟล์วิดีโอได้ ซึ่งตัวโปรแกรมเองก็สามารถใช้งานได้ดี ประมวลผลได้รวดเร็ว แต่ด้วยขนาดของหน้าจอที่ใหญ่เพียง 3.2 นิ้ว ก็อาจจะทำให้ต้องเพ่งสายตามากกว่าปกติเล็กน้อย

ในโปรแกรมเล่นเพลงก็จะมีลักษณะเป็นดังนี้คือ มีการชื่อเพลง ชื่อศิลปิน พร้อมรูปปกอัลบั้ม มีการแบ่งตามประเภทของเพลง ส่วนหน้าตาของเครื่องเล่นก็จะเป็นดังรูป ซึ่งมีดีไซน์เรียบๆ พร้อมฟังก์ชันการทำงานพื้นฐาน มีการแสดงรูปปกอัลบั้มแบบ 3 มิติที่สวยงามและน่าใช้งานพอสมควร สามารถตั้งค่าความสมดุลของเสียง ความดัง และขยายเสียงสเตอริโอ สามารถปรับอีควอไลเซอร์ได้ 5 รูปแบบ และกำหนดให้เป็นเสียงเรียกเข้าได้

นอกจากจะสามารถฟังวิทยุแบบออนไลน์ได้แล้ว ก็ยังสามารถฟังวิทยุ FM แบบปกติได้อีกด้วย โดยมีระบบค้นหาคลื่นความถี่อัตโนมัติ สามารถฟังเสียงผ่านทางลำโพงภายนอก มีการแสดงข้อมูลของแต่ละสถานีเป็นภาพพื้นหลังที่เคลื่อนไหวได้ ด้วยความสามารถของระบบ RDS หรือ Radio Data System และสามารถจัดเก็บสถานีที่เราชื่นชอบได้มากมาย รวมถึงมีอินเทอร์เฟสที่ใช้งานได้ง่ายไม่ซับซ้อน

หากเราต้องการรู้ว่าเพลงที่ได้ยินอยู่นั้นเป็นเพลงอะไร หรือเพลงของใคร เราก็สามารถใช้โปรแกรม Shazam ในการค้นหาข้อมูลได้ ซึ่งโปรแกรมจะทำการวิเคราะห์เสียงที่เราได้ยินและนำไปปรับเทียบกับข้อมูลเพลงที่อยู่ในฐานข้อมูล และแสดงเป็นข้อมูลของเพลงนั้นๆ ให้เราดู

โปรแกรมแกลอรี่ก็จะมีหน้าตาที่ดูเรียบง่ายดังที่เห็นนี้ สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีการหมุนภาพในแนวตั้งและแนวนอนให้โดยอัตโนมัติ รองรับการแสดงภาพแบบสไลด์โชว์ มีฟังก์ชันตกแต่งแก้ไขรูปภาพที่ค่อนข้างหลากหลาย รองรับการซูมย่อขยายแบบ Pinch-to-Zoom ซึ่งก็มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีในระดับนึง นอกจากนั้นเราก็ยังสามารถเลือกจัดการกับรูปภาพทีละหลายๆ รูปได้อีกด้วย

การใช้งานแผนที่หรือระบบนำทางถือว่าเป็นจุดแข็งของโนเกียเลยทีเดียว ซึ่งที่เห็นอยู่นี้ก็เป็นแผนที่ Nokia Maps ที่ใช้งานได้ฟรีตลอดชีพ รองรับการแสดงผลที่หลากหลายทั้งแบบดาวเทียม ทั้งแผนที่แบบปกติ แสดงภูมิประเทศ แสดงแบบ 3 มิติ การแสดงตำแหน่งปัจจุบัน การเช็คอิน สถานที่ๆ ชื่นชอบ มีฟังก์ชันค้นหาสถานที่จากคีย์เวิร์ดและหมวดหมู่ต่างๆ โดยจะแสดงข้อมูลสถานที่ๆ ใกล้กับจุดที่เราอยู่ก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ก็สามารถสั่งให้เครื่องทำการนำทางให้ได้ทันที ทั้งแบบการเดิน หรือการขับรถ โดยจะมีการคำนวณเส้นทางให้อย่างรวดเร็ว สามารถดาวน์โหลดไฟล์แผนที่เพิ่มเติมได้มากมาย ทุกทวีป และทุกประเทศทั่วโลก และที่สำคัญคือสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี นอกจากนั้นก็ยังมีบริการเพิ่มเติมอื่นๆ ที่น่าสนใจและมีประโยชน์อีกมากมาย

การตั้งค่าจะประกอบไปด้วยการตั้งค่ารูปแบบ ตั้งค่าลักษณะ ตั้งค่าโทรศัพท์ จัดการแอพพลิเคชั่น ตั้งค่าการโทร ตั้งค่าการเชื่อมต่อ และการตั้งค่าแอพพลิเคชั่น

ตัดต่อวิดีโอ และสร้างสไลด์โชว์

ใน Nokia 500 นั้นจะมีโปรแกรมตัดต่อวิดีโอมาให้ใช้งานด้วย โดยสามารถแทรกภาพถ่ายหรือวิดีโอที่เราต้องการให้อยู่ในคลิป แทรกเพลงหรือเสียง และแทรกข้อความ และอีกโปรแกรมก็คือโปรแกรมสร้างสไลด์โชว์จากรูปภาพ ซึ่งมีรูปแบบสำเร็จรูปให้เลือกใช้มากมาย

นอกจากที่พูดถึงไปแล้ว ก็ยังจะมีโปรแกรมจัดการไฟล์ พจนานุกรมซึ่งสามารถดาวน์โหลดภาษาเพิ่มเติมได้ รวมถึงภาษาไทยด้วยเช่นกัน มีเครื่องคิดเลขแบบง่ายๆ มีเครื่องบันทึกเสียง มีโปรแกรมจดบันทึก โปรแกรม Communicator, Quickoffice และโปรแกรมอ่านไฟล์ PDF เป็นต้น

จากการทดสอบที่ผ่านมานั้น ก็นับว่า Nokia 500 เป็นการพัฒนาไปอีกขั้นของกลุ่มผลิตภัณฑ์ สมาร์ทโฟน ของ โนเกีย เอง ก้าวสำคัญก็คงจะเป็นการที่ได้เริ่มนำซีพียูซึ่งมีความเร็วระดับ 1 GHz มาใช้ในการประมวลผล ซึ่งก็ทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานนั้นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนในด้านของระบบปฏิบัติการเอง แม้ว่าจะยังไม่ได้รับการอัพเดทเป็นซิมเบี้ยนเวอร์ชันล่าสุดอย่าง Symbian Belle แต่ในเร็วๆ นี้ก็จะได้รับอัพเดทอย่างแน่นอน และตัวระบบปฏิบัติการ Symbian Anna เองก็ถือว่ามีการพัฒนาขึ้นจากเวอร์ชันเดิมๆ ค่อนข้างเยอะพอสมควร อีกส่วนที่น่าสนใจสำหรับ Nokia 500 ก็น่าจะเป็นการที่โนเกียได้แถมฝาหลังเพิ่มมาให้อีกถึง 2 ชิ้น ซึ่งช่วยใช้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนสีสันของตัวเครื่องได้ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน นอกจากนั้นก็ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่ครบครันเลยทีเดียว ตั้งแต่การรองรับ 3G ทุกเครือข่าย, หน่วยเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 2 GB และ ROM ขนาด 512 MB, กล้อง 5 ล้านพิกเซล, ระบบจีพีเอส ระบบนำทาง และโปรแกรมแผนที่ประสิทธิภาพสูงที่ใช้งานได้ฟรีตลอดชีพ, การปรับแต่งหน้า Homescreen และหน้าเมนู, รองรับระบบ WiFi, วิทยุ FM และวิทยุแบบออนไลน์ เป็นต้น แต่ด้วยการที่ Nokia 500 นั้นเป็น สมาร์ทโฟน ราคาย่อมเยา ซึ่งเปิดตัวด้วยราคาเพียง 6,600 บาท คุณสมบัติหรือประสิทธิภาพโดยรวมก็อาจจะเป็นรองสมาร์ทโฟนระดับสูงอยู่บ้าง แต่หากท่านใดต้องการความคุ้มค่า Nokia 500 ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจครับ สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม พบกันได้ใหม่ในวิดีโอรีวิวรุ่นต่อไป สวัสดีครับ

สรุปผลการทดสอบ

จากการทดสอบการใช้งานมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ กับ Nokia 500 ก็พอจะมองเห็นอะไรหลายๆ อย่างจากโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ จึงขอสรุปเป็นจุดเด่นและจุดด้อยตามความคิดเห็นส่วนตัวคร่าวๆ ดังนี้

- มีการออกแบบดีไซน์ที่สวยทันสมัย วัสดุมีคุณภาพดี การประกอบแน่นหนาแข็งแรง น้ำหนักเบา ขนาดและรูปทรงค่อนข้างเหมาะมือ ใช้งานได้คล่องตัว และมีฝาหลังแถมฟรีเพิ่มมาพร้อมกับชุดขายมาตรฐานให้อีก 2 ชิ้น
- ราคาเปิดตัวค่อนข้างย่อมเยา (ราคาศูนย์ 6,600 บาท) หากเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม
- ประมวลผลการทำงานด้วยซีพียู ARM 11 Processor ความเร็วในการประมวลผล 1 GHz ซึ่งช่วยให้การทำงานต่างๆ โดยรวมมีความไหลลื่นมากขึ้นกว่าสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการซิมเบี้ยนรุ่นก่อนหน้านี้อย่างเป็นได้ชัด
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Symbian Anna ซึ่งมีการพัฒนาความสามารถ และหน้าตามาจากเวอร์ชันก่อนหน้านี้หรือ Symbian^3 ให้ดีขึ้นค่อนข้างมาก
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 2 GB และหน่วยความจำ ROM ขนาด 512 MB
- กล้องดิจิตอลในตัว ความละเอียดระดับ 5 ล้านพิกเซล (2592x1944 พิกเซล) พร้อมการถ่ายภาพวิดีโอที่ความละเอียดระดับ VGA (640x480 พิกเซล)
- รองรับการใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้ทันที เช่น Facebook และ Twitter
- รองรับการใช้งานกับคลื่นความถี่ของระบบเครือข่าย 3G ได้ทุกเครือข่าย WCDMA 850/900/1700/1900/2100 MHz
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, HSDPA, EDGE Class 33 และ GPRS Class 33
- โปรแกรมเว็บเบราเซอร์สามารถรองรับการแสดงผลไฟล์ Flash ได้
- ระบบจีพีเอสในตัว พร้อมโปรแกรมแผนที่ Nokia Maps และระบบนำทางที่มีประสิทธิภาพสูง และใช้งานได้ฟรีตลอดชีพ รวมถึงสามารถดาวน์โหลดแผนที่ของประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ฟรี

- เครื่องล็อตแรกมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Symbian Anna ซึ่งไม่ใช่ระบบปฏิบัติการซิมเบี้ยนเวอร์ชันล่าสุด แต่อย่างไรก็ตาม Nokia 500 ก็สามารถอัพเดทเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดอย่าง Symbian Belle ได้ในภายหลัง
- หน่วยความจำ RAM ค่อนข้างน้อย (256 MB) จึงทำให้การใช้งานหนักๆ บางอย่างที่ต้องอาศัยการฝากข้อมูลจำนวนมากระหว่างประมวลผลไว้ที่หน่วยความจำ RAM จะมีอาการหน่วงอยู่บ้าง
- กล้องดิจิตอลไม่มีระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ และไม่มีแฟลชในตัว
- รองรับการถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดเพียงแค่ระดับ VGA (640x480 พิกเซล) และความเร็วสูงสุดที่ 15 เฟรมต่อวินาที
- จำนวนแอพพลิเคชั่นยังค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับระบบปฏิบัติการยอดนิยมอื่นๆ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Nokia 500 ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้