รีวิว (Review) G-Net Gphone F23Q
สมาร์ทโฟน Quad-Core สองซิม จอใหญ่ 5.3 นิ้ว พร้อมกล้อง 8 ล้าน ในราคาย่อมเยา
Review
Date (21-May-2013)
สวัสดีครับ พบกันอีกครั้งกับการรีวิว สมาร์ทโฟน รุ่นเด็ดจากทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ ซึ่งในปัจจุบันตลาดสมาร์ทโฟนนั้นมาแรงแซง โทรศัพท์มือถือ ในกลุ่ม ฟีเจอร์โฟน ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหลายค่ายเริ่มหันมาเน้นการผลิตและจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในราคาย่อมเยา แต่สินค้ามาพร้อมกับสเปคเครื่องที่ไม่เบาเหมือนราคานั่นเอง จึงไม่แปลกที่ปัจจุบันสมาร์ทโฟนในราคาย่อมเยาจะเป็นที่ต้องการมากกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัด และในวันนี้ทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ก็มีสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยารุ่นหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ ในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ นั่นก็คือ G-Net Gphone F23Q นั่นเอง
โดย Gphone F23Q เป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์ไทยที่มาพร้อมกับซีพียูระดับ Quad-Core และหน้าจอขนาด 5.3 นิ้ว พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.2.1 (Jelly Bean) เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปชมพร้อมกันดีกว่า ว่า Gphone F23Q จะตอบสนองการใช้งานในด้านใดได้บ้าง เหมาะกับผู้ใช้ประเภทไหน และจะคุ้มค่าเพียงใด ไปชมพร้อมๆ กันได้เลย
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์
Gphone F23Q มาในโทนสีดำ พร้อมกรอบตัวเครื่องที่เป็นพลาสติกชุบโครเมียม
โดย Gphone F23Q จะมาพร้อมกับ Adapter, สาย microUSB, หูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร และเคสแบบมีฝาปิดหน้าจอ
สำหรับ Gphone F23Q จะมาพร้อมกับหน้าจอแบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 960x540 Pixels (qHD : กว้าง 5.3 นิ้ว : 240 ppi) โดยจะมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 150x78x10 มิลลิเมตร
ด้านหน้าส่วนบน : จะมาพร้อมกับลำโพงสำหรับการสนทนา, Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้, Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และกล้องดิจิตอลขนาดเล็กความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
ด้านหน้าส่วนล่าง : มาพร้อมกับ ปุ่มฟังก์ชัน, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ด้านบน : จะมีพอร์ตสำหรับเสียบหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ด้านล่าง : จะมีช่องสำหรับเสียบสายชาร์ตแบบ microUSB และไมโครโฟน
ด้านข้างทางขวา : จะมาพร้อมกับปุ่ม เปิด-ปิด หน้าจอ (Lock Screen) และปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง
ด้านข้างทางซ้าย : จะไม่มีปุ่มกด หรือช่องเชื่อมต่อใดๆ
ด้านหลัง : มีการออกแบบที่เรียบง่าย และมีโทนสีดำเช่นเดียวกับด้านหน้า
ด้านหลังส่วนบน : มาพร้อมกับกล้องดิจิตอลตัวหลัก ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และไฟแฟลชแบบ LED
ด้านหลังส่วนล่าง : มากับลำโพงภายนอก และรหัสของตัวเครื่อง
และเมื่อเปิดฝาหลังออกมาจะพบกับ ช่องสำหรับใส่แบตเตอรี่, ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 1 และซิมการ์ดที่ 2 และช่องสำหรับใส่ microUSB
ส่วนฝาหลังของ Gphone F23Q ทำมาจากพลาสติกเกรดมาตรฐาน ที่มีความแข็งแรงทนทาน และมีความยืดหยุ่นพอสมควร
สำหรับแบตเตอรี่ของ Gphone F23Q จะมีความจุอยู่ที่ 2000 mAh
โดย Gphone F23Q รองรับการใช้งานซิมการ์ดขนาดปกติ (miniSIM) และสามารถรองรับการใช้งาน 3G ได้เฉพาะซิมการ์ดที่ 1 เท่านั้น (คลื่นความถี่ 850/2100 MHz) ส่วนซิมการ์ดที่ 2 ไม่รองรับการใช้งาน 3G นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำด้วยการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้สูงสุดขนาด 32 GB อีกด้วย
เปรียบเทียบรูปลักษณ์ภายนอกระหว่าง G-Net Gphone F23Q กับ Samsung Galaxy Note 2 (Galaxy Note II)
อันดับแรกต้องข้อชี้แจงก่อนว่า Gphone F23Q และ Samsung Galaxy Note II นั้นไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ทั้งหมด 100% เนื่องจากต้นทุนการผลิต, ราคาจำหน่าย และวัสดุที่ใช้มีความแตกต่างกันนั่นเอง
โดยวัสดุที่ใช้ในการผลิต Gphone F23Q จะเป็นพลาสติกเกรดมาตรฐาน ส่วน Samsung Galaxy Note II จะใช้พลาสติกแบบโพลีคาร์บอเนตในการผลิต
เมื่อนำมาเปรียบเทียบที่ด้านหน้า จะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy Note II มีขนาดหน้าจอที่กว้าง และยาวกว่าเล็กน้อย เนื่องจาก Samsung Galaxy Note II มีขนาดหน้าจอที่ 5.5 นิ้ว ส่วน Gphone F23Q มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 5.3 นิ้วนั่นเอง
และเมื่อนำมาเปรียบเทียบความหนาของตัวเครื่อง จะเห็นได้ว่า Gphone F23Q มีขนาดของตัวเครื่องที่หนากว่า Samsung Galaxy Note II เล็กน้อย ซึ่งจะมีความแตกต่างกันอยู่ที่ 0.6 มิลลิเมตร
เปรียบเทียบการแสดงผลระหว่าง G-Net Gphone F23Q และ Samsung Galaxy Note 2 (Galaxy Note II)
จากภาพจะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy Note 2 (Galaxy Note II) และ G-Net Gphone F23Q ให้แสงสว่างได้พอๆ กัน แต่ก็เนื่องจากว่า Samsung Galaxy Note II นั้นติดฟิล์มแบบด้านเอาไว้ จึงทำให้แสงสว่างนั้นด้อยลงไป (ปกติแล้วหากไม่ได้ติดฟิล์ม หน้าจอของ Samsung Galaxy Note 2 จะสว่างกว่าเล็กน้อย) ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเทคโนโลยีของหน้าจอนั่นเอง โดย Samsung Galaxy Note II จะใช้หน้าจอแบบ Super AMOLED HD ส่วน G-Net Gphone F23Q ใช้หน้าจอแบบ TFT LCD จึงทำให้ความสว่างของหน้าจอนั้นมีความแตกต่างกัน
การใช้งานด้านซอฟต์แวร์ของ G-Net Gphone F23Q
สำหรับ UI (User Interface) ของ Gphone F23Q จะมีการแจ้งเตือนต่างๆ เช่น อีเมล, WiFi และข้อความ เป็นต้น
ซึ่งเมื่อกดปุ่ม เปิด-ปิด ค้างเอาไว้ประมาณ 2 วินาที ก็จะมีฟังก์ชันสำหรับ ปิดเครื่อง, รีสตาร์ทเครื่อง, การใช้งานโหมดเครื่องบิน, ปิดเสียง, ใช้ระบบสั่น และเปิดเสียง
สำหรับ Gphone F23Q ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 4.2.1 (Jelly Bean)
สำหรับ Notification บน Gphone F23Q นั้นจะมีการแจ้งเตือนต่างๆ และยังสามารถใช้งานฟังก์ชันลัดต่างๆ ได้โดยการกดที่รูปไอคอนขวาบนของหน้าจอ
โดยสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันใช้งานต่างๆ ได้ เช่น โหมดเครื่องบิน, WiFi, GPS, บลูทูธ และการใช้งานอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
และสามารถตั้งค่าวอลเปเปอร์ได้ ซึ่งจะมีวอลเปเปอร์ให้เลือกใช้งานหลายรูปแบบ
นอกจากนี้ ยังสามารถนำ วิดเจ็ด ที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอได้เช่นกัน
รวมถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ด้วย
ในส่วนของการใช้งานฟังก์ชันโทรศัพท์ มีการออกแบบ Interface ได้อย่างสวยงาม และมีขนาดตัวอักษรขนาดใหญ่ สามารถกดใช้งานได้อย่างง่ายดาย
และเมื่อกดโทรออกสามารถเลือกโทรด้วยซิมการ์ดที่ต้องการได้
และสามารถเลือกโทรผ่านได้จากประวัติการโทรเข้า, การโทรออก และสายที่ไม่ได้รับ
นอกจากนี้ ยังสามารถค้นหาเบอร์โทรศัพท์ได้ ผ่านไอคอนแว่นขยายด้านซ้ายล่างนี้
และสามารถเลือกโชว์เบอร์โทรศัพท์ได้จากซิมการ์ดที่ต้องการได้
และสุดท้ายคือฟังก์ชันการค้นหารายชื่อนั่นเอง
สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมได้ผ่านทาง Google Play Store
รวมถึงสามารถชมคลิปวิดีโอต่างๆ ได้ ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Youtube
และยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นสำหรับอ่าน หรือสร้างไฟล์เอกสารอย่าง Documents To Go อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีแอพพลิเคชั่นสำหรับการจดบันทึกต่างๆ ที่ต้องการได้ ซึ่งก็คือแอพพลิเคชั่น ColorNote
และแอพพลิเคชั่น NoteBook
รวมถึงยังสามารถตัดต่อวิดีโอได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Movie Studio
สำหรับท่านใดที่ต้องเดินทางบ่อยครั้งก็สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่น Google Maps บน Gphone F23Q ได้เช่นกัน
พร้อมด้วยโปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโอ ซึ่ง Gphone F23Q สามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอระดับ Full HD ได้เลยทีเดียว
มาต่อกันที่แอพพลิเคชั่นฟังเพลงกันบ้าง สำหรับแอพพลิเคชั่นฟังเพลงบน Gphone F23Q นั้นสามารถเลือกดูรายการเพลง, เล่นแบบสุ่ม หรือเล่นเพลงซ้ำได้
และยังสามารถเลือกฟังก์ชันอื่นๆ ได้ด้วยการกดที่ปุ่มเมนู ซึ่งสามารถเข้าตั้งค่าเสียงอีควอไลเซอร์ได้
โดยสามารถเลือกตั้งค่าเสียงด้วยตนเอง หรือเลือกการตั้งค่าเสียงจากระบบได้อีกด้วย
และถ้าเลือกเมนูไลบรารี่ก็จะสามารถเลือกดูรายการเพลงได้ เช่น ศิลปิน
อัลบั้ม
เพลง
และรายการเพลง
รวมถึง Gphone F23Q ยังสามารถฟังวิทยุได้อีกด้วย แต่การฟังวิทยุต้องเชื่อมต่อกับหูฟังเสียก่อน เพื่อใช้เป็นเสารับสัญญาณ
และยังสามารถเลือกค้นหาสถานี, เปิดลำโพง และบันทึก FM ได้
และยังสามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลอีกด้วย
สำหรับคนที่ต้องการส่งงานหรือติดต่อลูกค้าผ่านอีเมล เจ้า Gphone F23Q ก็มีแอพพลิเคชั่นอีเมลมาให้ใช้งานอีกด้วย
รวมถึงแอพพลิเคชั่นอีเมลอย่าง Gmail ก็มีให้ใช้งานเช่นเดียวกัน
สำหรับคะแนนที่ได้จากการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานของ Gphone F23Q ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Antutu Benchmark จะอยู่ที่ 13198 คะแนนเลยทีเดียว
และเมื่อนำคะแนนมาจัดอันดับจะอยู่อันดับที่ 5 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
หน้าตาของแอพพลิเคชั่นปฏิทินนัดหมาย
ซึ่งสามารถบันทึกกิจกรรมต่างๆ ได้ในวัน และเวลาที่เราต้องการ
สำหรับคนที่ชื่นชอบการอ่านข่าวต่างๆ ทาง Gphone F23Q ก็มีแอพพลิเคชั่น Thai News ที่รวบรวมข่าวสารต่างๆ ไว้ในที่เดียวกัน
เช่น เลือกอ่านข่าวจากเดลินิวส์ ก็จะมีหัวข้อข่าวต่างๆ ให้เลือกอ่านมากมาย
ซึ่งสามารถเลือกเข้ามาอ่านเนื้อหาข่าวที่เราสนใจได้ทันที
กล้องดิจิตอล การถ่ายภาพนิ่ง และการถ่ายภาพวิดีโอ
User Interface ของการถ่ายภาพ และการถ่ายวิดีโอ จากกล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
สามารถเลือกถ่ายภาพโหมด HDR ได้
สามารถเลือกถ่ายภาพโหมด Beauty ได้
และสามารถเลือกถ่ายภาพโหมด พาโนรามา ได้
และเมื่อเลือกที่ฟังก์ชันการตั้งค่าจะสามารถเลือก เปิด-ปิด ข้อมูลตำแหน่ง GPS ได้
ตั้งค่าชดเชยแสง
ปรับเอฟเฟคสีได้ เช่น ไม่มี
โมโน
ซีเปีย
เนกาทีฟ
เอคว่า
แบล็คบอร์ด
ไวท์บอร์ด
ต่อด้วยการปรับโหมดการถ่ายภาพ เช่น อัตโนมัติ
กลางคืน
ดวงอาทิตย์ตก
งานเลี้ยง
พอร์เทรต
ทิวทัศน์
พอร์เทรตกลางคืน
ละครเวที
ชายทะเล
หิมะ
ภาพนิ่ง
พลุ
การทำงาน
และแสงเทียน
นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าไวต์บาลานซ์ได้ เช่น อัตโนมัติ
หลอดไส้
กลางวัน
ฟลูออเรสเซนต์
เมฆมาก
โพล้เพล้
เงา
และฟลูออเรสเซนต์อุ่น
รวมถึงการตั้งค่าคุณสมบัติของภาพก็ยังสามารถทำได้
และตั้งค่าป้องกันการกระพริบของหน้าจอได้
และยังสามารถเลือกตั้งค่าเฉพาะการถ่ายภาพได้ เช่น เปิด-ปิด ฟังก์ชั่น ZSD และฟังก์ชั่น เปิด-ปิด การตรวจจับใบหน้า
ตั้งค่าเวลาถ่ายภาพ
ตั้งค่าการถ่ายต่อเนื่องได้ ซึ่งเลือกได้สูงสุดที่ 99 ช็อต
ตั้งค่าขนาดของภาพได้ สูงสุดที่ 8 ล้านพิกเซล
สามารถเลือกขนาดของภาพตัวอย่างได้
และสามารถตั้งค่าความไวแสงได้สูงสุดที่ ISO 800
มาต่อกันที่การตั้งค่าเฉพาะการถ่ายวิดีโอ เช่น เปิด-ปิด ฟังก์ชั่น EIS และ เปิด-ปิด ไมโครโฟน
ตั้งค่าโหมดเสียงชัตเตอร์ได้
ตั้งค่าช่วงระยะเวลาได้
และยังสามารถตั้งค่าคุณภาพของวิดีโอได้อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลหลักที่ด้านหลังตัวเครื่องของ G-Net Gphone F23Q
สรุปผลการทดสอบของ G-Net Gphone F23Q
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟนแบรนด์ไทยอย่าง G-Net Gphone F23Q โดยทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ จากการทดสอบ Gphone F23Q บอกได้เลยว่า Gphone F23Q นั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมส์, ฟังเพลง, Social Network และการชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงระดับ Full HD ก็ยังสามารถตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี เพราะ Gphone F23Q นั้นมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.3 นิ้ว พร้อมด้วยซีพียูระดับ Quad-Core และจีพียูแบบ PowerVR SGX 544MP นอกจากนี้ Gphone F23Q ยังสามารถตัดต่อไฟล์วิดีโอได้อีกด้วย
รวมถึงกล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่ช่วยให้การถ่ายภาพของคุณสนุกสนานมากยิ่งขึ้น เพิ่มประสบการณ์ในการใช้งานไปอีกระดับเลยทีเดียว และด้วยราคาเพียง 7,990 บาท จึงทำให้ Gphone F23Q นั้นเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง G-Net ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Gphone F23Q มาให้ทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ G-Net Gphone F23Q
- จอแสดงผลแบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 960x540 Pixels (qHD : กว้าง 5.3 นิ้ว : 240 ppi)
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ PowerVR SGX 544MP
- ประมวลผลการทำงานด้วย Quad-Core Processor ความเร็วในการประมวลผล 1.2 GHz
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 4 GB พร้อมหน่วยความจำ ROM ขนาด 1 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB
- ใช้ระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.2.1 (Jelly Bean)
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ
- รองรับการถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 พิกเซล)
- กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 2 ล้าน Pixels
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, 3G, EDGE หรือ GPRS
- มาพร้อมฟังก์ชัน WiFi Hotspot สำหรับการแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านทางสัญญาณ WiFi
- รองรับระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
- มีราคาจำหน่ายเพียง 7,990 บาท
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ G-Net Gphone F23Q
- รองรับการใช้งาน 3G ไม่ครบทุกเครือข่าย (ได้เฉพาะคลื่นความถี่ 850/2100 MHz)
- ใช้งาน 3G ได้เฉพาะซิมการ์ดที่ 1 เท่านั้น
- ตัวเครื่องมีความหนาอยู่ที่ 10 มิลลิเมตร
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักอยู่ที่ 188.5 กรัม เมื่อถือใช้งานเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการเมื่อยล้าได้
- การตอบสนองของระบบสัมผัสยังไม่ดีเท่าที่ควร โดยรวมจะมีการตอบสนองได้ช้า และไม่ค่อยแม่นยำมากนัก
- พื้นผิวตัวเครื่องเกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย
- การออกแบบดีไซน์ไม่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีการออกแบบดีไซน์ที่คล้ายกันกับสมาร์ทโฟนรุ่นยอดนิยมบางรุ่น
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ G-Net Gphone F23Q ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้
G-Net Gphone F23Q Specification
:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|