เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอพพลิเคชั่นต่างๆ

สำหรับหน้าจอ Lock Screen บน Asus Fonepad ก็ออกมาแบบมาได้สวยงามตามแบบฉบับของทาง Asus ซึ่งจะสามารถบอกถึง เวลาปัจจุบัน, ข้อความเข้า และอีเมล เป็นต้น

นอกจากนี้ เมื่อกดที่ไอคอนรูปกุญแจค้างไว้ก็จะพบว่าสามารถเลือกเปิดฟังก์ชันกล้องได้, สามารถเปิดฟังก์ชัน Google Now และปลดล็อคหน้าจอ

รวมถึง User Interface ทาง Asus ก็ออกแบบมาได้สวยงามเช่นเดียวกัน ซึ่งสามารถโชว์สถานะ หรือการแจ้งเตือนต่างๆ ได้ เช่น WiFi, อีเมล, ข้อความ, สัญญาณโทรศัพท์, แบตเตอรี่ และเวลา เป็นต้น

เมื่อกดปุ่ม เปิด-ปิด ค้างประมาณ 2 วินาที ก็จะพบกับฟังก์ชัน ปิดเครื่อง, เปิดการใช้งานโหมดเครื่องบิน, ปิดเสียง, เปิดระบบสั่น และเปิดเสียง

โดย Asus Fonepad ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 4.1.2 (Jelly Bean)

เมื่อเลื่อนแถบ Notification ลงมา ก็จะมีฟังก์ชันให้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการ เปิด-ปิด WiFi, เปิด-ปิด 3G, โหมดประหยัดพลังงาน, พจนานุกรม, เปิด-ปิดจีพีเอส และเปิด-ปิด Bluetooth เป็นต้น

และยังสามารถจัดแต่งหน้าจอวอลเปเปอร์ได้อีกด้วย โดยสามารถเลือกภาพได้จากแกเลอรี่, วอลเปเปอร์ และวอลเปเปอร์ภาพเคลื่อนไหว

โดยหน้ารวมแอพพลิเคชั่นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ หน้าแอพพลิเคชั่น

และหน้าวิดเจ็ต

ซึ่งสามารถนำวิดเจ็ต และแอพพลิเคชั่นมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีนได้ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน

สามารถใช้งานระบบ Multitasking ได้

นอกจากนี้ Asus Fonepad ยังสามารถใช้งานฟังก์ชัน มินิแอพพลิเคชั่นได้

และยังสามารถปรับเปลี่ยนรายการของมินิแอพพลิเคชั่นได้ตามใจชอบอีกด้วย

โดย Asus Fonepad นั้นมาพร้อมกับฟังก์ชันโทรศัพท์ โดยมีการออกตัวเลขขนาดใหญ่ ทำให้ใช้งานง่ายมากยิ่งขึ้น

สามารถดูบันทึกสายโทรออก และรับสายได้

สามารถดูรายชื่อจากสมุดโทรศัพท์ได้

และสามารถดูรายชื่อที่ชอบได้

และยังสามารถค้นหารายชื่อด้วยเสียงได้ ด้วยการกดที่ไอคอนรูปไมโครโฟน

นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ ได้ผ่านแอพพลิเคขั่นเว็บเบราว์เชอร์ที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง ได้อย่างไหลลื่น

และยังสามารถติดต่องานผ่านทางอีเมลได้อีกด้วย

บริการอีเมลของ Gmail ก็มีให้ใช้งานเช่นเดียวกัน

ในส่วนของแอพพลิเคชั่น Asus Splendid เป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับการปรับโหมดการทำงานของจอภาพให้เหมาะสมกับสภาพใช้งานมากที่สุด รวมถึงยังถนอมสายตาอีกด้วย

และยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นพจนานุกรมสำหรับแปลคำศัพท์ที่เราต้องการได้ วิธีการใช้งานคือใช้นิ้วสัมผัสกับคำที่ต้องการแปลค้างประมาณ 2 วินาที แอพพลิเคชั่นก็จะแปลคำศัพท์นั้นให้ทันที

ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ได้เช่นกัน

สำหรับใครที่ต้องการจดบันทึกสิ่งต่างๆ เพื่อช่วยเตือนความจำ ก็สามารถจดบันทึกสิ่งต่างๆ ผ่านแอพพลิเคชั่น SuperNote Lite ได้

และยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่น AudioWizard สำหรับควบคุมการทำงานของระบบเสียงให้เหมาะกับสภาพการใช้งานมากที่สุด ซึ่งสามารถได้หลายแบบด้วยกัน เช่น ไม่เปิดใช้งาน, แบบดนตรี, แบบภาพยนตร์, การบันทึกเสียง, การเล่นเกม และคำพูด

นอกจากนั้น ยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่น Asus Studio ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นช่วยจัดการในส่วนของภาพถ่าย ซึ่งจะแบ่งออกเป็น ภาพถ่าย, เวลา, สถานที่ และอัลบั้ม ซึ่งจะช่วยให้จัดการภาพถ่ายของเราให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น

มาต่อกันที่แอพพลิเคชั่น Asus Story สำหรับแอพพลิเคชั่น Asus Story เป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับบันทึกเรื่องราว หรือเหตุการณ์ต่างๆ ได้เราไปพบเจอ และต้องการบันทึกสิ่งนั้นไว้

ซึ่งสามารถเพิ่มภาพถ่ายได้, เพิ่มแผนที่ลงไปได้, พิมพ์เรื่องราวลงไปได้ และสามารถเลือกรูปแบบการจัดวางภาพถ่ายได้

มาต่อกันที่แอพพลิเคชั่น MyPainter แอพพลิเคชั่นสำหรับการตกแต่ง หรือสร้างการ์ดในรูปแบบต่างๆ

ซึ่งสามารถเลือกรูปแบบการ์ดได้หลายแบบ เช่น การ์ดอวยพร, การ์ดวันเกิด และการ์ดคริสต์มาส เป็นต้น

และยังสามารถตกแต่งด้วย ภาพถ่าย, กล้องถ่ายรูป, พิมพ์คำอวยพรต่างๆ หรือจะใส่ภาพน่ารักๆ เพื่อตบแต่งภาพได้อีกด้วย

สามารถลบสิ่งต่างๆ ด้วยยางลบได้

หรือเลือกรูปแบบของดินสอ และปากกา รวมถึงสีที่ใช้ได้

และยังมาพร้อม Google Maps แอพพลิเคชั่นสำหรับดูแผนที่ หรือนำทางในเส้นทางที่ต้องการ

นอกจากนี้ ยังมีแอพพลิเคชั่น Zinio ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่รวบรวมนิตยสารต่างๆ เอาไว้มากมาย และแบ่งออกเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถค้นหาได้ง่าย

และต้องทำการซื้อนิตยสารก่อนจึงจะสามารถอ่านนิตยสารได้ โดยแบ่งขายเป็นที่ละฉบับ หรือแบบซื้อรวมทุกฉบับ

หรือคนที่ชอบอ่านข่าวสารผ่านหนังสือพิมพ์ ก็สามารถดาวน์โหลดหนังสือพิมพ์มาอ่านได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Press Reader

ซึ่งสามารถเลือกหนังสือพิมพ์ได้หลายประเทศด้วยกัน โดยมีหนังสือพิมพ์ให้เลือกอ่านมากกว่า 2,000 ฉบับเลยทีเดียว

และถ้าหนังสือพิมพ์ใดมีไอค่อนรูปลำโพง หมายความหนังสือนั้นจะมีฟังก์ชันที่แอพพลิเคชั่นจะช่วยอ่านออกเสียงข่าวที่เราเลือกบนหนังสือพิมพ์ให้เราฟัง

นอกจากนี้ Asus Fonepad ยังมีแอพพลิเคชั่นที่ช่วยในเรื่องของประหยัดพลังงานอีกด้วย ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งโหมดประหยัดพลังงานพิเศษ, โหมดที่ดีที่สุด และโหมดกำหนดเอง

สำหรับในโหมดกำหนดเองสามารถตั้งค่าเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกให้ประหยัดไฟในส่วนใดบ้าง เช่น การอ่านอีเมล, การอ่านหนังสือ, การชมวีดีโอ เป็นต้น

และยังสามารถตั้งค่าความสว่างของหน้าจอได้อีกด้วย

สำหรับท่านใดที่ชอบฟังเพลง ก็สามารถฟังเพลงผ่านแอพพลิเคชั่น Listen Now ได้

สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของเสียงด้วยอีควอไลเซอร์ได้

โดยมีระบบเสียงมาตรฐานแบบต่างๆ ให้เลือกใช้งานมากมาย เช่น Normal, Classical, Dance, Flat และ Folk

และยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นสำหรับชมภาพยนตร์ ที่สามารถเปิดไฟล์ความละเอียดระดับ HD 720p ไปจนถึงระดับ Full HD 1080p ได้

นอกจากนี้ Asus Fonepad ยังสามารถเล่นเกมส์ที่มีรายเอียดสูงได้อย่างไหลลื่นอีกด้วย

เมื่อนำ Asus Fonepad มาทดสอบด้วยโปรแกรม Antutu Benchmark ก็จะได้คะแนนอยู่ที่ 9114 คะแนน

และเมื่อนำมาจัดอันดับพบว่า Asus Fonepad ได้อันดับที่ 9 ซึ่งถือว่าอยู่ในอันดับที่น่าพอใจ
กล้องดิจิตอล, การถ่ายภาพนิ่ง และการถ่ายภาพวีดีโอ

User Interface ของกล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง

ซึ่งสามารถเลือกโหมดการถ่ายภาพ ทั้งแบบปกติ และพาโนราม่าได้ รวมถึงโหมดสำเร็จรูปด้วย เช่น บุคคล, แนวนอน และกลางคืน

และยังสามารถถ่ายภาพแบบมีเอฟเฟคได้เช่น เกรย์สเกล, สีเนกาทีฟ และซีเปีย

สามารถเลือกขนาดของภาพถ่ายได้ เช่น เปิด-ปิด ไวต์สกรีน รวมถึงความละเอียดของภาพถ่ายที่เลือกได้ตั้งแต่ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล, 1.3 ล้านพิกเซล และ 0.3 ล้านพิกเซล

สามารถปรับค่าชดเชยแสงได้ตั้งแต่ -2 ไปจนถึง +2

สามารถปรับค่าไวต์บาลานซ์ได้ เช่น อัตโนมัติ, หลอดไส้, กลางวัน, ฟลูออเรสเซนต์ และเมฆมาก

สามารถเลือกการแสดงผลแบบต่างๆ ได้ เช่น ปิด, คำแนะนำ, ข้อมูล และคำแนะนำ+ข้อมูล

ที่สำคัญยังสามารถตั้งค่ากล้องถ่ายรูปได้ เช่น สามารถตั้งเวลาการถ่ายภาพได้ตั้งแต่ 2 วินาที, 5 วินาที และ 10 วินาที

ตั้งค่าโหมดโฟกัสได้ทั้ง สมาร์ทโฟกัส, โฟกัสอัตโนมัติแบบต่อเนื่อง และอินฟินิตี้

ตั้งค่า ISO ได้ตั้งแต่ อัตโนมัติ, 100, 200 และ 400

ตั้งค่า เปิด-ปิด เสียงชัตเตอร์

และตั้งค่า เปิด-ปิด Location Services

ตั้งค่าการป้องกันการกระพริบของหน้าจอ เช่น 60 Hz และ 50 Hz

ตั้งค่าที่เก็บข้อมูลได้

และคืนค่าเริ่มต้น

มาต่อกันที่ User Interface การถ่ายวีดีโอกันบ้าง

สามารถเลือกใช้งานเอฟเฟคได้ เช่น ไม่มี, เกรย์สเกล, สีเนกาทีฟ และซีเปีย

สามารถเลือกคุณภาพของวีดีโอได้ เช่น HD 720p (ความละเอียดระดับ HD) และ 480p (ความละเอียดระดับ SD)

สามารถปรับค่าชดเชยแสงได้ตั้งแต่ -2 ไปจนถึง +2

สามารถปรับค่าไวต์บาลานซ์ได้ เช่น อัตโนมัติ, หลอดไส้, กลางวัน, ฟลูออเรสเซนต์ และเมฆมาก

สามารถเลือกการแสดงผลแบบต่างๆ ได้ เช่น ปิด, คำแนะนำ, ข้อมูล และคำแนะนำ+ข้อมูล

ที่สำคัญยังสามารถตั้งค่ากล้องถ่ายรูปได้ เช่น สามารถตั้งเวลาการถ่ายภาพได้ตั้งแต่ ปิด, 1 วินาที, 1.5 วินาที, 2 วินาที, 2.5 วินาที, 3 วินาที และ 5 วินาที

ตั้งค่า เปิด-ปิด Location Services

ตั้งค่าการป้องกันการกระพริบของหน้าจอ เช่น 60 Hz และ 50 Hz

ตั้งค่า เปิด-ปิด เสียงชัตเตอร์

ตั้งค่าที่เก็บข้อมูลได้

และคืนค่าเริ่มต้น
- ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักค่อนข้างเบา สามารถพกพาได้สะดวก และมีวัสดุแบบอลูมิเนียม (Elegant Metallic Finish) ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงทนทาน และความสวยหรู
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x800 Pixels (WXGA : กว้าง 7.0 นิ้ว : 216 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ PowerVR SGX540
- ประมวลผลการทำงานด้วย Intel Atom Z2420 Processor ความเร็วในการประมวลผล 1.2 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.1 (Jelly Bean)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 8 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 32 GB
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, HSPA, EDGE และ GPRS
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 3G ได้ทุกคลื่นความถี่ (850/900/1900/2100 MHz)
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS ในตัว ซึ่งโดยรวมแล้ว สามารถจับสัญญาณดาวเทียมได้อย่างรวดเร็ว
- เทคโนโลยีเสียงแบบ SonicMaster Audio พร้อมซอฟต์แวร์ Maxx Audio
- แอพพลิเคชั่น Super Note Lite สำหรับการจดบันทึก
- แบตเตอรี่ Li-Ion Polymer 4270 mAh ใช้งานได้ค่อนข้างนาน
- สามารถใช้งานโทรออก หรือรับสาย ด้วยการนำมาแนบที่หูได้ทันที
- มีราคาจำหน่ายเพียง 7,900 บาท
- การประมวลผลแอพพลิเคชั่น หรือเกมส์ที่มีภาพกราฟฟิคระดับสูง อาจจะมีอาการหน่วงบ้างเล็กน้อย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะหน่วยประมวลผลเป็นแบบ Single-Core
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง มีความละเอียดเพียงแค่ 3.2 ล้านพิกเซล และไม่มีไฟแฟลชในตัว
- กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง มีความละเอียดเพียงแค่ 1.2 ล้านพิกเซล