Windows Phone จะกลับมาไหม ? หลัง Windows 11 ถูกพอร์ตลงมือถือ และใช้แอปฯ Android ได้

สมาร์ทโฟน อาจจะดูจะเป็นของแสลงสำหรับยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft ไปเสียแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยผลักดันสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Windows Phone ภายใต้แบรนด์สมาร์ทโฟนของตนเอง รวมถึงแบรนด์ Nokia อย่างหนักน่วง แต่เนื่องจากผลลัพธ์ และยอดขายของ Windows Phone ที่ไม่เป็นไปตามเป้า ส่งผลให้ Microsoft จำเป็นต้องขายธุรกิจมือถือออกไป และเป็นการปิดฉากตำนานระบบปฏิบัติการ Windows Phone ทำให้เราไม่เห็นมือถือรุ่นไหนใช้ Windows Phone อีกแล้วในปัจจุบัน

ตัวอย่างการใช้งาน Windows 11 บน Nokia Lumia 950 XL

แต่อย่างไรก็ดี การมาถึงของระบบปฏิบัติการ Windows 11 ที่มีความสามารถด้านการรันไฟล์ APK ของระบบปฏิบัติการ Android ได้ รวมทั้งยังถูกพอร์ตไปติดตั้งกับสมาร์ทโฟนหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น OnePlus 6T หรือ Nokia Lumia 950 XL ทำให้หลายคนเริ่มเกิดความสงสัยว่า Windows Phone กำลังจะกลับมาอีกครั้งหรือไม่ ? เราลองไปหาคำตอบของความเป็นไปได้ครั้งนี้กันดีกว่าครับ

Windows 11 กับ Android App ที่ยังไม่ลงรอย

จากข้อมูลของ Microsoft เปิดเผยว่า Windows 11 สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Android จากแพลตฟอร์ม Amazon Appstore ได้ รวมทั้งยังมีการค้นพบว่า Windows 11 สามารถติดตั้งไฟล์ APK โดยตรง (Sideload) ได้เหมือนกับสมาร์ทโฟนอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ที่สร้างเสียงฮือฮาให้กับผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี 

แต่อย่างไรก็ดี เนื่องจากแอปพลิเคชันบน Amazon Appstore ส่วนมากจะไม่รองรับ Google Mobile Service รวมทั้งตัวแอปฯ Android ที่ใช้บน Windows 11 จะรันผ่าน Windows Subsystem for Android ที่ใช้สำหรับแปลงคำสั่งของเคอร์เนล Linux มาเป็นคำสั่งเคอร์เนลของ Windows หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ตัวแอปฯ Android จะรันอยู่บน Emulator คล้ายกับโปรแกรมจำลองระบบปฏิบัติการ Android ที่ใช้กันในปัจจุบัน ต่างกันตรงที่เป็น Android แบบ AOSP หรือ Android แบบเปล่า ๆ ที่ไม่มีเซอร์วิสใด ๆ รวมถึงบริการสำคัญอย่าง Google Mobile Services (GMS)

เมื่อขาด GMS แล้ว แม้ว่าเราจะสามารถใช้งานแอปฯ Android ส่วนมากได้โดยไม่มีอะไรขัดข้อง แต่ต้องไม่ลืมว่า GMS เป็นบริการที่มัดรวมแพ็กเกจต่าง ๆ เอาไว้มากมาย โดยหนึ่งในนั้นก็คือบริการที่จำเป็นต้องเชื่อมต่อเข้ากับ Service ของ Google ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ว่า แอปฯ Android ที่เราใช้บน Windows 11 อาจไม่สามารถลิงก์ข้อมูลเข้ากับ Google ได้ รวมถึงบริการแจ้งเตือนต่าง ๆ ที่ต้องพึ่ง Service ของ Google ก็อาจไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ

นอกจากนี้ แอปพลิเคชันบางส่วนของ Amazon Appstore ก็ไม่ได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่องเหมือนกับแอปฯ ที่อยู่บน Google Play ซึ่งหาก Microsoft มีความต้องการที่จะนำ Windows Phone กลับมาลุยตลาดอีกครั้งโดยถอดแบบโครงสร้างมาจาก Windows 11 ก็จำเป็นต้องแก้ปัญหาดังกล่าวเพื่อไม่ให้ซ้ำรอยกับ Windows Phone ในยุคก่อน ที่เสียเปรียบคู่แข่งอย่าง Android และ iOS ในเรื่องของแอปฯ ที่ไม่ครอบคลุม และไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร

คู่แข่งที่น่ากลัว

หาก Windows Phone จะกลับมาลุยตลาดอีกครั้งจริง นอกเหนือจากระบบปฏิบัติการ และ Service ต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องพร้อมแล้ว อีกหนึ่งความท้าทายที่ Microsoft ต้องเจอนั่นก็คือ “คู่แข่งยักษ์ใหญ่”

จากข้อมูลของ Statista เปิดเผยว่า ระบบปฏิบัติการที่ครองส่วนแบ่งการตลาดเยอะที่สุดในปัจจุบัน ก็คือ ระบบปฏิบัติการ Android ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 72.84% ขณะที่ iOS ครองส่วนแบ่ง 26.34% ส่วนระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ครองส่วนแบ่งทางการตลาดรวมแล้ว 0.82% เท่านั้น

จากตัวเลขด้านต้นก็ยิ่งทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า ระบบปฏิบัติการมือถืออื่น ๆ แทบจะไม่มีที่ยืนบนตลาดสมาร์ทโฟนอีกต่อไป แม้ Windows Phone ยุคใหม่อาจจะชูจุดเด่นด้านการรันแอปฯ Android ได้ แต่หากพิจารณาจากการที่มือถือ Android ในปัจจุบันมีราคาถูกลงเป็นอย่างมาก และมีสเปกที่แรงขึ้นกว่าเดิม การที่ผู้ใช้จะซื้อ Windows Phone เพื่อมารันแอปฯ Android ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่ 

และถึงแม้ว่า Microsoft จะพุ่งเป้าไปสร้างระบบปฏิบัติการเพื่อแข่งขันกับ iOS แทนที่ระบบปฏิบัติการ Android ก็ต้องเจอด่านใหญ่ด้าน Ecosystem ของ Apple ที่มีรากฐานแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เพราะต้องไม่ลืมว่า การแข่งขันของแบรนด์สมาร์ทโฟนยุคปัจจุบัน ไม่ได้แข่งขันแค่ในเรื่องของสมาร์ทโฟนอย่างเดียว แต่ยังมีการแข่งขันในเรื่องของอุปกรณ์เสริมที่ทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่ออีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ที่ยังน่าเป็นห่วง

ใช่ว่า Microsoft จะไม่ลุยตลาดอุปกรณ์พกพาอีกเลยหลังจากที่ Windows Phone ยุติการพัฒนาไป เพราะเมื่อปี 2019 ทางบริษัทได้ทำการเปิดตัวมือถือ Android จอคู่รุ่นแรกของค่ายภายใต้ชื่อ Surface Duo ที่มาพร้อมกับความล้ำด้วยหน้าจอแสดงผลคู่ในรูปแบบานพับ ที่ปรับการทำงานได้คล้ายกับแล็ปท็อปขนาดย่อม ทำให้ไม่มีรอยพับเหมือนกับมือถือจอพับรุ่นอื่น ๆ  รวมทั้งยังรองรับปากกา Surface Pen เพื่อช่วยให้ใช้งานได้อย่างสะดวก

แต่จากผลรีวิวของสื่อต่างประเทศหลายรายกลับพบว่า Surface Duo ยังคงมีจุดที่ต้องพิจารณาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น สเปกที่ค่อนข้างล้าหลัง, ใช้ชิปเซ็ตตกรุ่น, หน้าจอเพียง 60Hz ในขณะที่มือถือรุ่นอื่นใช้จอ 90Hz และ 120Hz แล้ว, ซอฟท์แวร์ที่มีบัคค่อนข้างเยอะ, กล้องหลังความละเอียดเพียง 11 ล้านพิกเซล แถมมีแค่ตัวเดียว และราคาาวางจำหน่ายที่ค่อนข้างสูงถึง 1,399 ดอลลาร์ หรือประมาณ 45,000 บาทเมื่อเทียบกับสเปกที่ได้ 

หลังจากวางจำหน่ายได้เพียง 6 สัปดาห์ Microsoft ก็ตัดสินใจลดราคาวางจำหน่าย Surface Duo เหลือเพียง 1,199 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 38,600 บาท และในปัจจุบันก็ได้มีการลดราคาลงมาอีกครึ่งจากราคาเปิดตัว เหลือเพียง 649.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 20,900 บาท ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ว่า Microsoft พยายามกระตุ้นยอดขายของ Surface Duo ให้มากขึ้นนั่นเอง

จากสถานการณ์ทั้งหมดจะเห็นได้ว่า การที่ Microsoft จะหันไปชุบชีวิต Windows Phone อีกครั้ง อาจเป็นเรื่องที่เร็วไปสักหน่อยในตอนนี้ เพราะ Microsoft ยังมีโจทย์ที่ต้องแก้อีกหลายอย่าง อีกทั้ง Microsoft เองก็มีธุรกิจอื่น ๆ ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Window, Surface, Cloud, PC ไปจนถึง Xbox ทำให้ Windows Phone อาจเป็นตำนานต่อไป

ข้อมูลอ้างอิง : Android Central, The Verge, ZDNet, Statista, PhoneArena, Venturbeat

วันที่ : 2/7/2564