ทำไม Xiaomi Mi 10 Ultra ถึงได้คะแนนกล้องมากกว่า HUAWEI P40 Pro บน DxOMark?

เมื่อไม่นานนี้ Xiaomi ได้เปิดตัวซูปเปอร์เรือธง Xiaomi Mi 10 Ultra ซึ่งได้อัปเกรดสเปกจาก Mi 10 Pro มาแบบเต็มขั้น โดยเฉพาะกล้องหลังขนาดมหึมาที่ซูมได้ไกลถึง 120x แถมยังได้รับคะแนนประเมินสูงสุดจาก DxOMark เฉือนเอาชนะตัวเก็งอย่าง HUAWEI P40 Pro ไปได้ ซึ่งค่อนข้างจะเหนือความคาดหมายในมุมมองของใครหลายๆ คน ทำให้เกิดคำถามต่อมาว่า กล้องของ Xiaomi Mi 10 Ultra นั้นเหนือกว่า HUAWEI P40 Pro ตรงไหนกันแน่  หรือชนะไปได้เพราะแค่การซูม 120x เพราะฉะนั้นในวันนี้เราจะมาหาคำตอบกันครับ

จากการประเมินของ DxOMark จุดแรกที่ Mi 10 Ultra เอาชนะ P40 Pro และสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในตารางของ DxOMark ได้คือการวัดแสง (Exposure) และความเปรียบต่าง (Contrast) ซึ่งภาพถ่ายของ Mi 10 Ultra มีช่วงไดนามิก (Dynamic Range) ที่กว้างมาก ทำให้มองเห็นรายละเอียดในจุดที่มืดและสว่างชัดกว่า และวัดแสงตรงจุดโฟกัสได้แม่นยำแม้ในสภาวะที่มีแสงน้อยมาก 

เปรียบเทียบการการวัดแสงและความเปรียบต่าง ระหว่าง Mi 10 Ultra (ซ้าย) กับ P40 Pro (ขวา)

จุดต่อมาคือ การแสดงสี ซึ่งภาพถ่ายของ Xiaomi Mi 10 Ultra สามารถแสดงสีสันได้อย่างเที่ยงตรง ไม่ติดโทนอุ่นหรือโทนเย็น ในจุดนี้ HUAWEI P40 Pro ทำได้ดีใกล้เคียงกัน แต่สีของท้องฟ้าจะติดม่วงเล็กน้อย ทำให้เสียคะแนนในจุดนี้ไปเล็กน้อย

เปรียบเทียบการแสดงสีระหว่าง Mi 10 Ultra (ซ้าย) กับ P40 Pro (ขวา)

Mi 10 Ultra ได้คะแนนมากกว่า P40 Pro และมากกว่าสมารทโฟนทุกรุ่นในตารางของ DxOMark คือการซูม แต่ไม่ใช่เพราะระยะซูม 120x เพราะเป็นระยะที่ภาพแตกจนนำไปใช้จริงไม่ได้ ในส่วนนี้ DxOMark ใช้เกณฑ์วัดที่การซูม 10x จากภาพตัวอย่างอาจจะดูไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่เมื่อ crop ภาพมาเทียบกันเฉพาะจุด จะเห็นว่า Mi 10 Ultra เก็บรายละเอียดเล็กๆ ได้ดีกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอื่นๆ และยังมี noise น้อยกว่าด้วย

เปรียบเทียบรายละเอียดการซูมระหว่าง Mi 10 Ultra (ซ้าย) กับ P40 Pro (ขวา)

ในส่วนของเอฟเฟ็กต์โบเก้ Xiaomi Mi 10 Ultra ก็ได้คะแนนสูงที่สุดของ DxOMark เช่นกัน หากดูจากภาพถ่ายตัวอย่างจะเห็นความแตกต่างได้ยาก แต่เมื่อซูมดูรายละเอียดบริเวณเส้นผมซึ่งเป็นจุดที่ประมวลผลโบเก้ยากที่สุด จะเห็นว่า Mi 10 Ultra แทบจะไม่มีการเบลอที่กินเข้ามาในผมเลย ในขณะที่ P40 Pro ยังมีบ้างเล็กน้อย

เปรียบเทียบเอฟเฟ็กต์โบเก้ระหว่าง Mi 10 Ultra (ซ้าย) กับ P40 Pro (ขวา)

นอกจากคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมาแล้ว Mi 10 Ultra ยังทำคะแนนนำ P40 Pro ในส่วนการถ่ายด้วยมุมมอง Ultra Wide และในโหมดกลางคืนด้วย โดยมีจุดแข็งอยู่ที่มุมมองที่กว้างกว่า, การวัดแสง-สีที่จุดโฟกัสได้ดี ไปจนถึงการเก็บรายละเอียดของโหมดกลางคืน

เปรียบเทียบโหมดกลางคืนระหว่าง Mi 10 Ultra (ซ้าย) กับ P40 Pro (ขวา)

อย่างไรก็ดี จุดหนึ่งที่ Xiaomi Mi 10 Ultra ได้คะแนนน้อยกว่า HUAWEI P40 Pro คือสิ่งแปลกปลอมในภาพ (Artifacts) แม้ Mi 10 Ultra จะจัดการกับจุดตำหนิในภาพได้ดีในภาพรวม แต่ทาง DxOMark พบว่าภาพถ่ายของ Mi 10 Ultra ยังมีจุดตำหนิให้เห็นอยู่บ้าง เช่น พิกเซลแตก, สีแตก, แสงแฟลร์, ขอบม่วง และอื่นๆ แต่ก็สังเกตได้ค่อนข้างยาก ในจุดนี้ HUAWEI P40 Pro ทำได้ดีกว่า Xiaomi Mi 10 Ultra เล็กน้อยครับ

Xiaomi Mi 10 Ultra

ที่น่าสังเกตคือ ทั้ง Mi 10 Ultra และ P40 Pro มีกล้องความละเอียด 48-50 ล้านพิกเซลเท่านั้น แต่กลับได้คะแนน DxOMark สูงกว่าเรือธงบางรุ่นที่มีกล้องความละเอียด 100-108 ล้านพิกเซล อาจเป็นจุดหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า กล้องที่มีความละเอียดสูงอาจไม่ได้ถ่ายรูปดีเสมอไป ซอฟต์แวร์การประมวลผลก็มีส่วนช่วยมากเช่นกัน

อย่างไรก็แล้วแต่ Samsung Galaxy Note20 Ultra ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน ก็เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ใช้กล้อง 108 ล้านพิกเซล และน่าจะอัปเกรดซอฟต์แวร์ประมวลผลมาด้วยเช่นกัน จึงมีสิทธิ์ที่จะกลายเป็นแชมป์ใหม่ของ DxOMark ในเร็วๆ นี้ แต่จะทำไดจริงหรือไม่ ก็ต้องมารอดูกันครับ

ที่มา : DxOMark

วันที่ : 21/8/2563