ทำไมการเคลียร์ RAM บ่อยๆ ถึงอาจทำให้สมาร์ทโฟนช้าลง แทนที่จะเร็วขึ้น?
เชื่อว่าใครที่รักสมาร์ทโฟนของตัวเองมากๆ น่าจะต้องเคยดาวน์โหลดแอปพลิเคชันประเภทล้างไฟล์ขยะ และทำความสะอาด RAM มาใช้แน่ๆ ปัจจุบันนี้ผู้ผลิตมักจะใส่ฟีเจอร์การเคลียร์ RAM มาให้ในระบบเลย ไม่ต้องไปหาโหลดเอาเองเหมือนแต่ก่อน หลายคนเชื่อว่าการทำความสะอาด RAM จะทำให้สมาร์ทโฟนทำงานเร็วขึ้น เสถียรขึ้น จึงพยายามเคลียร์ RAM ให้โล่งอยู่บ่อยๆ อย่างไรก็ตาม จริงๆ แล้วพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้สมาร์ทโฟนเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ กลับกันยังอาจทำให้สมาร์ทโฟนช้าลงด้วย เพราะอะไรเราไปดูกันครับ
RAM คืออะไร มีไว้ทำไม?
RAM หรือชื่อเต็ม Random Access Memory คือหน่วยความจำที่มีไว้สำหรับพักข้อมูลของโปรแกรมที่กำลังใช้งานอยู่ในขณะนั้น เพื่อให้หน่วยประมวลผลหรือ CPU เข้าถึงได้ทันที หากไม่มี RAM CPU จะต้องค้นหาและดึงข้อมูลจากหน่วยความจำถาวรหรือ ROM (Read-only Memory) โดยตรง ทำให้เสียเวลามากขึ้น
สำหรับสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เมื่อเราเปิดแอปพลิเคชันขึ้นมา ข้อมูลบางส่วนของแอปนั้นๆ จะถูกโหลดจาก ROM ขึ้นมาบน RAM เพื่อให้ CPU เข้าถึงและประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเรากลับมาใช้แอปนี้อีกครั้ง ระบบก็จะสามารถดึงข้อมูลที่พักไว้บน RAM ขึ้นมาทำงานต่อได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาโหลดใหม่ตั้งแต่ต้น
หากยังไม่ค่อยเข้าใจ ให้ลองนึกภาพว่าเรากำลังนั่งทำงานในออฟฟิศ โดย RAM คือโต๊ะทำงาน, ROM คือตู้เอกสาร ส่วนตัวเราเป็น CPU ก่อนที่เราจะเริ่มทำงาน เราเดินไปหยิบงานจากตู้เอกสารหลายๆ งานมาวางรอไว้บนโต๊ะของเรา เมื่อถึงเวลาทำงาน แทนที่เราจะเดินไปหยิบงานจากตู้เอกสารบ่อยๆ เราก็หยิบงานจากตู้หลายๆ งานมาวางรอไว้บนโต๊ะของเราในคราวเดียว เมื่อถึงเวลาก็หยิบงานจากบนโต๊ะมาทำได้เลย ไม่ต้องลุกไปค้นตู้เอกสารทุกครั้งให้เสียเวลา
ทั้งนี้ ระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟนยุคใหม่มีวิธีจัดสรรการใช้งานเนื้อที่ RAM ที่มีประสิทธิภาพ ในกรณีที่พื้นที่ RAM ไม่พอจริงๆ ระบบจะทำการ Kill process หรือเคลียร์ข้อมูลที่ค้างอยู่บน RAM ทิ้งโดยอัตโนมัติ โดยระบบจะประเมินหา process ที่มีความสำคัญต่ำ และไม่ได้ถูกเรียกใช้เป็นเวลานาน แล้วจัดการปิดมันทิ้งไปเพื่อเคลียร์พื้นที่ให้กับงานใหม่ ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวว่า RAM จะเต็มจนเครื่องค้างได้ง่ายๆ ครับ
เคลียร์ RAM แล้วจะเกิดอะไรขึ้น?
จากที่อธิบายมาข้างต้น การเคลียร์ RAM ก็ไม่ต่างอะไรกับการ Kill Process แต่เป็นการเคลียร์ทิ้งทั้งหมดโดยไม่เลือกระดับความสำคัญ กล่าวคือ เมื่อเราสั่งเคลียร์ RAM ด้วยแอปพลิเคชันใดๆ ก็แล้วแต่ ข้อมูลของแอปพลิเคชันที่ถูกพักไว้บน RAM จะถูกลบ เมื่อเราเปิดแอปขึ้นมาใหม่ ระบบจะต้องเริ่มกระบวนการดึงข้อมูลของแอปนั้นๆ ขึ้นมาตั้งแต่ต้น ทำให้โหลดนานกว่าปกตินั่นเอง เปรียบได้กับการที่เรากวาดงานทั้งหมดบนโต๊ะทิ้งไป คราวนี้พอเราจะกลับมาทำงานต่อ ก็ต้องเดินไปหยิบงานมาวางไว้บนโต๊ะใหม่ ทำให้เสียเวลามากยิ่งขึ้นไปอีก
เพราะฉะนั้น เราจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเคลียร์ RAM บ่อยๆ เพราะต่อให้เราไม่เคลียร์ RAM เลย ระบบก็จะเคลียร์ RAM ด้วยตัวเองอยู่แล้ว อีกทั้งมันยังไม่ได้ช่วยให้สมาร์ทโฟนทำงานเร็วขึ้นแต่อย่างใดครับ
RAM ยิ่งเยอะเครื่องยิ่งเร็ว?
หลายคนเชื่อว่าสมาร์ทโฟน (รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ) ที่มี RAM เยอะ จะทำงานเร็วกว่า ยิ่งเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น จึงพยายามมองหาสมาร์ทโฟนที่ให้ RAM เยอะๆ ไว้ก่อน แต่จริงๆ แล้ว ความเชื่อนี้ก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะความเร็วของสมาร์ทโฟนขึ้นอยู่กับความเร็วของชิปเซ็ตประมวลผลเป็นหลัก การมี RAM เยอะก็เหมือนกับเรามีโต๊ะทำงานที่กว้าง วางงานได้เยอะ อยากทำงานไหนก็หยิบมาทำได้ทันทีโดยไม่ต้องเดินไปค้นที่ตู้เอกสาร มันแค่ช่วยให้เราทำงานสะดวกขึ้น คล่องตัวขึ้น แต่งานจะเสร็จเร็วแค่ไหนขึ้นอยู่กับความสามารถของเราซึ่งเป็นคนทำครับ
แต่ RAM ที่น้อยเกินไปก็ส่งผลให้สมาร์ทโฟนทำงานช้าลงได้เช่นกัน เหมือนกับการที่เรามีโต๊ะทำงานแคบมาก เรา (CPU) ก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ เพราะจำเป็นต้องลุกไปหยิบนั่นหยิบนี่จากตู้เอกสาร (ROM) เป็นพักๆ ทำให้เสียเวลา
อย่างไรก็ดี กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นได้ยาก เพราะผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจะใส่ RAM มาให้เข้ากับประสิทธิภาพของชิปเซ็ตอยู่แล้ว เพื่อให้สมาร์ทโฟนทำงานได้อย่างเต็มที่ตามกำลังของชิปเซ็ตด้วยต้นทุนการผลิตที่ถูกที่สุด อีกทั้งสมาร์ทโฟนในปัจจุบันยังมี RAM ที่เยอะจนเรียกได้ว่าเหลือใช้ จึงไม่ต้องกังวลเลยว่า RAM จะถ่วงให้ชิปเซ็ตทำงานช้าลงครับ
ในทางกลับกัน หากสมาร์ทโฟนมี RAM มากเกินไป ก็เหมือนกับการที่เรามีโต๊ะทำงานกว้างมาก เราสามารถเอางานมากองไว้บนโต๊ะได้เยอะ จนเราไม่ต้องลุกออกจากเก้าอี้ไปที่ตู้เอกสารเลย แต่พื้นที่บางส่วนของโต๊ะจะว่างอยู่ตลอด ไม่ถูกใช้สอยให้เกิดประโยชน์ใดๆ
ดังนั้น สมาร์ทโฟนที่มี RAM เยอะ จึงไม่ได้การันตีความเร็วในการทำงาน ส่วนสมาร์ทโฟนที่มี RAM มากเกินไป RAM บางส่วนก็จะไม่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ เราจึงไม่ควรให้ความสำคัญกับปริมาณ RAM ในสมาร์ทโฟนมากเกินไป แต่ควรพิจารณาชิปเซ็ต และสเปกอื่นๆ ด้วยครับ
ก่อนจะจากกันไป พวกเราทีมงาน Thaimobilecenter หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ท่านผู้อ่านเข้าใจการทำงานของ RAM ในสมาร์ทโฟนมากขึ้น หากท่านใดต้องการเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ RAM ของสมาร์ทโฟน สามารถเข้าไปอ่านได้ที่บทความนี้เลยครับ : สมาร์ทโฟนยุคใหม่ ต้องมี RAM แค่ไหนถึงจะพอ?
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 25/11/2563
