หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 4/04/2565

มือถือกล้องซูมไกล Telephoto กับ Periscope ต่างกันอย่างไร จำเป็นไหมที่ต้องมี?

 

กล้องสมาร์ทโฟนในปัจจุบันพัฒนาไปมาก จากแต่ก่อนที่กล้องมีความละเอียดหลักสิบล้าน แต่ในปัจจุบันเรามีโอกาสได้สัมผัสกล้องความละเอียดระดับ 108 ล้านพิกเซลได้แล้ว แต่นอกเหนือจากความละเอียดกล้องถ่ายภาพที่สูงขึ้น อีกหนึ่งนวัตกรรมกล้องที่ได้รับการพัฒนาเช่นเดียวกันก็คือ เทคโนโลยีของกล้องเลนส์ซูมบนมือถือ ที่มีทั้งเลนส์ telephoto และ periscope ช่วยให้ซูมได้ไกลสุดเกิน 100 เท่า

ทั้งนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า กล้องเลนส์ซูมแบบ Periscope ที่ใช้บนมือถือเรือธงหลายๆ รุ่น แตกต่างจากกล้องเลนส์ซูมแบบ Telephoto ที่ใช้บนมือถือทั่วไป รวมถึงมือถือเรือธงบางรุ่นอย่างไร? การใช้กล้อง Periscope ส่งผลต่อการถ่ายภาพหรือไม่? และเราควรเลือกซื้อมือถือที่มีเลนส์กล้องซูมแบบไหน? ไปหาคำตอบกันครับ

 

การทำงานของเลนส์ Telephoto

ก่อนจะพูดถึงเลนส์ Telephoto เรามาทำความเข้าใจเรื่องทางยาวโฟกัส (focal length) กันก่อนสักนิดนึงครับ

หากจะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ทางยาวโฟกัส (focal length) ก็คือ ระยะทางจากจุดศูนย์กลางโฟกัสของเลนส์ ถึงระนาบโฟกัสของเซ็นเซอร์รับภาพ โดยมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ยิ่งเลนส์อยู่ไกลจากตัวเซ็นเซอร์มากเท่าไหร่ มุมมองของภาพก็จะยิ่งแคบลง และทำให้วัตถุในโฟกัสดูใหญ่ขึ้น ในทางกลับกัน หากเลนส์อยู่ใกล้ตัวเซ็นเซอร์ มุมมองของภาพก็จะยิ่งกว้างขึ้น และทำให้วัตถุในโฟกัสดูเล็กลง

เลนส์ telephoto บนสมาร์ทโฟนจะอาศัยคุณสมบัติของทางยาวโฟกัสข้างต้น โดยกลไกภายในจะขยับชิ้นเลนส์ให้ไกลจากตัวเซ็นเซอร์เพื่อเพิ่มระยะโฟกัส ทำให้มุมรับภาพแคบลง และมีกำลังขยายสูงขึ้น

ในทางเทคนิค เลนส์เทเลโฟโต้จะต้องมีทางยาวโฟกัส 70 มม. ขึ้นไป ยกตัวอย่างเช่นเลนส์ telephoto ของ Samsung Galaxy S22 Ultra ที่มีทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 70 มม. พอดี


กล้อง Telephoto ซูมไกลสุด 3 เท่า ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 70 มม.

อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดสำคัญของเลนส์ telephoto บนสมาร์ทโฟนคือตัวเครื่องที่บางมาก ทำให้มีพื้นที่ในการขยับชิ้นเลนส์น้อยมากตามไปด้วย กำลังขยายจึงถูกจำกัดอยู่แค่ 2x - 3x เท่านั้น เพื่อทำลายข้อจำกัดนี้ เลนส์ periscope จึงได้ถูกคิดค้นขึ้นมา

 

การทำงานของเลนส์ Periscope

กล้อง Periscope หรือเรียกกันในภาษาไทยว่า กล้องปริทรรศน์ เป็นกล้องที่ช่วยให้ผู้สังเกตสามารถเห็นวัตถุที่อยู่สูงกว่าระดับสายตาได้ ส่วนใหญ่เราจะได้เห็นการใช้งานกล้องประเภทนี้ในเรือดำน้ำ ซึ่งช่วยให้ผู้เดินเรือมองเห็นสภาพแวดล้อมที่อยู่เหนือผิวน้ำได้อย่ายง่ายดาย

หลักการทำงานของกล้องปริทรรศน์ จะใช้ปริซึม หรือกระจกหลาย ๆ แผ่น เพื่อหักเหแสงให้เปลี่ยนทิศทาง และเข้ามายังดวงตาของผู้สังเกต อุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนจึงประยุกต์ใช้คุณสมบัตินี้ในการหักเหแสงที่เข้ามายังเลนส์ให้ทำมุม 90 องศา แล้วจัดวางชิ้นเลนส์กับเซ็นเซอร์รับภาพในแนวยาว ทำให้มีพื้นที่ขยับชิ้นเลนส์มากขึ้น และมีทางยาวโฟกัสไกลกว่าเลนส์ telephoto มาก ยกตัวอย่างเช่นเลนส์ Periscope ของ Samsung Galaxy S22 Ultra ที่มีทางยาวโฟกัสถึง 230 มม. ส่งผลให้ซูมได้ไกลกว่าหลายเท่า


กล้อง periscope ซูมไกลสุด 10 เท่า ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 230 มม.

โมดูลกล้อง Periscope บนมือถือนั้นจะมีลักษณะเป็นบล็อคขนาดใหญ่ ภายในประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์รับภาพที่มีการวางกระจกสะท้อนหลายมุม เพื่อหักเหแสงให้ตกกระทบไปที่เซ็นเซอร์ คล้ายกับที่เราเห็นบนกล้อง DSLR แต่จะลดขนาดของปริซึม และกระจกเลนส์ ให้เล็กลงเพื่อให้ติดตั้งลงในสมาร์ทโฟนได้โดยไม่ไปเบียดบังชิ้นส่วนอื่น ๆ 

ทั้งนี้ สมาร์ทโฟนบางรุ่นจะมีการติดตั้งคอยล์แม่เหล็กบริเวณปริซึมเพื่อใช้งานเป็นระบบกันสั่นแบบ OIS ด้วย

 

จำเป็นไหมที่มือถือต้องมีกล้อง Periscope / Telephoto?

กล้อง telephoto กับ periscope ถูกติดตั้งลงบนสมาร์ทโฟนด้วยเหตุผลเดียวคือการซูมแบบไม่เสียรายละเอียด ดังนั้นความจำเป็นของกล้องทั้งสองแบบนี้ จึงขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการที่จะซูมภาพมากแค่ไหน สำหรับผู้ใช้ทั่วไป อาจต้องการพลังซูม 2 - 3 เท่าเพื่อถ่ายภาพพอเทรต หรือถ่ายสัตว์จากระยะไกลเช่นนก หรือกระรอก ซึ่งเลนส์ telephoto สามารถตอบโจทย์ได้พอดี แต่ถ้าต้องการถ่ายภาพนักร้องบนเวทีคอนเสิร์ต หรือถ่ายรูปนักกีฬาในสนาม ที่ต้องใช้พลังซูมสูงมาก ๆ กล้อง Periscope จะทำได้ดีกว่ากล้อง telephoto แน่นอน

อย่างไรก็ดี คุณสมบัติการซูมของกล้องสมาร์ทโฟนมีขอบเขตการใช้งานที่ค่อนข้างจำกัด เพราะการถ่ายรูปทั่วไปไม่จำเป็นต้องพึ่งพาระยะซูมมากขนาดนั้น เลนส์ telephoto กับเลนส์ periscope จึงไม่ค่อยจำเป็นสักเท่าไหร่ อีกทั้งคุณสมบัติการซูม Optical ยังถือเป็นฟีเจอร์ไฮเอนด์ กล้อง telephoto จึงมักจะมีอยู่ในสมาร์ทโฟนที่มีราคา 15,000 ขึ้นไป ส่วนกล้องแบบ periscope มักจะอยู่ในสมาร์ทโฟนระดับเรือธงราคา 20,000 บาทขึ้นไป ดังนั้น ใครที่กำลังจะซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ ถ้าไม่ต้องการซูมจริง ๆ อาจมองข้ามกล้อง telephoto และ periscope ไปได้เลย ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดไปได้มากทีเดียวครับ

 

ที่มา : Pocketnow, JerryRigEverything

 


วันที่ : 4/04/2565

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy