Touch Sampling Rate บนสมาร์ทโฟนคืออะไร? สำคัญอย่างไร ทำไมจึงไม่ควรมองข้าม?

นอกจากสเปกทั่วไปแล้ว สิ่งหนึ่งที่สมาร์ทโฟนยุคใหม่ให้ความสำคัญคืออัตรารีเฟรช (Refresh Rate) ของหน้าจอ ทำให้ตอนนี้สมาร์ทโฟนจอ 90Hz - 120Hz นั้นกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่มักถูกกล่าวถึงคู่กับ Refresh Rate ของหน้าจออยู่บ่อยๆ นั่นคือ Touch Sampling Rate หลายคนอาจจะสงสัยว่า Touch Sampling Rate ที่ว่านี้คืออะไร และสำคัญอย่างไรกันแน่ ในวันนี้เราจะมาหาคำตอบกันครับ

Touch Sampling Rate คืออะไร?

หลายคนยังสับสนระหว่าง Touch Sampling Rate กับ Refresh Rate ซึ่งจริงๆ แล้ว 2 อย่างนี้ไม่เหมือนกัน แต่ทำงานสัมพันธ์กันครับ

• Refresh Rate คือความเร็วในการเปลี่ยนภาพของหน้าจอ ทำให้การเคลื่อนไหวลื่นไหลต่อเนื่องขึ้น สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ Refresh Rate แบบเจาะลึก สามารถดูได้ที่นี่
• Touch Sampling Rate คือความเร็วในการตอบสนองต่อการกดของหน้าจอ ถ้าสมาร์ทโฟนมี Touch Sampling Rate 240Hz หมายความว่าสมาร์ทโฟนเครื่องนี้สามารถรับสัญญาณจากการกดได้ 240 ครั้งใน 1 วินาที 

ในกรณีที่ Refresh Rate กับ Touch Sampling Rate มีค่าเท่ากัน เช่น 60Hz/60Hz จังหวะการรับสัญญาณจากการกด กับจังหวะการเปลี่ยนเฟรมภาพจะเกิดขึ้นพร้อมกัน (ในกรณีนี้คือเกิดขึ้นทุกๆ 16.6 มิลลิวินาที) เมื่อส่งสัญญาณการกดพร้อมกับรีเฟรชภาพ ภาพเฟรมต่อไปที่กำลังจะมาถึงจะไม่อัปเดตตามการกดทันที แต่จะไปอัปเดตในเฟรมถัดไปแทน หรือก็คือการอัปเดตภาพจะช้าลง 1 จังหวะ

แต่ถ้า Touch Sampling Rate มีค่าสูงกว่า Refresh Rate เช่น 60Hz/120Hz จอจะตอบสนองการกดเร็วขึ้น 2 เท่า ที่ 8.3 มิลลิวินาทีต่อครั้ง ทำให้ส่งสัญญาณได้ก่อนที่ภาพจะรีเฟรช ภาพเฟรมต่อไปที่กำลังจะมาถึงจึงอัปเดตตามการกดทันทีโดยไม่ต้องรออีก 1 จังหวะเหมือนกรณีก่อนหน้า 

พูดง่ายๆ คือ Touch Samspling Rate ที่สูง จะทำให้เรารู้สึกว่ามีการตอบสนองต่อการกดเร็วกว่า หรือที่เรียกกว่า “ทัชติดมือ” ในการเล่นเกม เราจะรู้สึกว่าควบคุมตัวละครได้ดั่งใจโดยไม่หน่วงหรือดีเลย์

Touch Sampling Rate สำคัญอย่างไร?

อัตรา Touch Sampling Rate ที่สูง จะช่วยให้สมาร์ทโฟนเริ่มเรนเดอร์ภาพได้เร็วขึ้น ช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานโดยรวมดีขึ้น ในการใช้งานทั่วไปอาจจะไม่ส่งผลมากนัก แต่สำหรับการเล่นเกมอาจเป็นปัจจัยที่ตัดสินแพ้-ชนะในบางจังหวะได้เลย เพราะค่า Touch Sampling Rate ที่สูงกว่า จะทำให้เราสั่งตัวละครในเกมได้เร็วกว่าคู่แข่งนั่นเอง แม้จะเพียงแค่เสี้ยววินาทีก็ตาม

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ลองดูคลิปด้านล่างครับ

คลิปนี้เป็นการเปรียบเทียบอัตราการตอบสนองต่อการกดของ iQOO 3 (180Hz) และ Black Shark 3 (270Hz) ในเกม PUBG Mobile โดยให้ตัวละครของทั้ง 2 เครื่องยืนประจันหน้ากัน แล้วกดยิงพร้อมกัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ Black Shark 3 ได้ยิงก่อน เพราะตอบสนองต่อการกดได้เร็วกว่านั่นเองครับ

แน่นอนว่าจังหวะที่เรากับผู้เล่นอื่นจะกดยิงพร้อมกับแบบเป๊ะๆ เช่นนี้มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก อีกทั้งยังมีเรื่องของความเร็วอินเทอร์เน็ต และสเปกของสมาร์ทโฟนมาเกี่ยวข้อง การมีค่า Touch Sampling Rate ที่สูงกว่าจึงอาจไม่ได้ทำให้เรายิงได้ก่อนเสมอไป แต่มันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราได้เปรียบในการแข่งขันเช่นกัน หากคุณเป็นเกมเมอร์ระดับฮาร์ดคอร์ ก็ไม่ควรมองข้าม Touch Sampling Rate ครับ

สรุป

Touch Sampling Rate ก็คือความเร็วในการตอบสนองต่อการกดของหน้าจอ ยิ่งมีค่ามากก็ยิ่งตอบสนองได้เร็ว ในการใช้งานทั่วไปอย่างการเล่นโซเชียล, ถ่ายรูป หรือดูหนังฟังเพลง Touch Sampling Rate อาจไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่สำหรับเกมเมอร์ที่เล่นเกมอย่างจริงจัง การควบคุมที่เร็วกว่าเพียงเสี้ยววินาทีอาจตัดสินแพ้-ชนะในเกมได้ Touch Sampling Rate จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งสมาร์ทโฟนเกมมิ่งก็มักจะมีค่า Touch Sampling Rate สูงกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปอยู่แล้วเพื่อตอบโจทย์ในส่วนนี้ครับ

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 10/2/2564