เมื่อเทคโนโลยี 5G ทำให้ Sony ขายมือถือในราคา 75,000 บาทได้
กลายเป็นกระแสข่าวฮือฮาหลังจากที่ Sony ได้ทำการเปิดตัวราคาวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่อย่าง Xperia Pro ในสหรัฐฯ ด้วยราคาขายที่สูงถึง 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 75,000 บาท (ราคาไม่รวมภาษีแต่ละรัฐ) แม้ว่าจะเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ บนท้องตลาดพอสมควร แต่จริงๆ แล้วการที่ Xperia Pro ตั้งราคาขายที่สูงขนาดนี้ก็มีความสมเหตุสมผลในตัวเองอยู่ไม่ใช่น้อย แต่จะเป็นเรื่องอะไรนั้น ไปหาคำตอบกันเลยครับ
ไม่ใช่มือถือทั่วไป แต่คือมือถือสำหรับการทำงานระดับโปร
หากเราสังเกตจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Sony จะพบว่า Xperia Pro วางตัวเป็นสมาร์ทโฟนที่ถูก "สร้างเพื่อตอบโจทย์การทำงานเฉพาะทางในระดับมืออาชีพ" (Tailor-made for professionals in the field) โดยทาง Sony เน้นไปที่ช่างภาพมืออาชีพ รวมถึงช่างภาพภาคสนามในวงการสื่อสารมวลชน เป็นหลัก จึงทำให้สมาร์ทโฟนจำเป็นต้องช่วยให้ Workflow การทำงานมีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น และต้องมีคุณสมบัติบางส่วนที่ต่างออกไปจากมือถือเรือธงรุ่นปกติ
Sony เริ่มต้นที่การออกแบบตัวเครื่อง ด้วยดีไซน์ที่ดูสมบุกสมบัน พร้อมคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP65/68 ลุยได้ทุกสถานการณ์ รวมทั้งยังมีการติดตั้งเสารับสัญญาณไว้รอบตัวเครื่องแบบ 360° Antenna Design โดยวางเส้นเสารับสัญญาณไว้ทั้ง 4 ด้านของตัวเครื่อง พร้อมเพิ่มพอร์ตเชื่อมต่อแบบ micro HDMI ซึ่งเป็นสิ่งที่เราค่อยได้เห็นบ่อยนักบนมือถือทั่วไป
ประโยชน์ของพอร์ต micro HDMI จะช่วยให้ Xperia Pro สามารถเชื่อมต่อกับกล้องใหญ่ในตระกูล Alpha จาก Sony ได้โดยตรง ช่วยเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้เป็นจอมอนิเตอร์สำหรับติดหัวกล้อง เพื่อเช็คเฟรมการถ่ายภาพ-การถ่ายวิดีโอ รวมถึงควบคุมการทำงานของกล้องถ่ายภาพได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยอาศัยประโยชน์จากหน้าจอ HDR OLED ของ Xperia Pro ที่มีความละเอียดระดับสูงระดับ 4K และการแสดงสีสันที่แม่นยำ ซึ่งนับเป็น Solution ใหม่ของวงการกล้องถ่ายภาพ รวมถึงวงการมือถือเลยทีเดียว
แม้อาจดูเป็นฟีเจอร์ที่มือถือแบรนด์อื่นๆ ก็สามารถทำได้ไม่ยากเย็นนัก แต่อย่าลืมว่าการที่จะทำแบบนี้ได้ก็ต้องมี Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ทั้งกล้องถ่ายภาพระดับโปรที่ได้รับความนิยมจากช่างภาพมือโปร และสมาร์ทโฟนสเปกแรงที่ฟีมีเจอร์พิเศษ เพื่อช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์แต่ละชิ้นในระบบ Ecosystem ของตนเองเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งหากพิจารณาจากตลาดสมาร์ทโฟนแล้วมีเพียงแค่ Sony แบรนด์เดียวเท่านั้นที่สามารถทำได้ ทำให้มูลค่าของ Xperia Pro สูงขึ้นไปอีก แต่อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์เหล่านี้ของ Xperia Pro จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีเทคโนโลยีที่เรียกว่า 5G ครับ
5G กับ Xperia Pro ที่ทำให้โปรกว่าเดิม
อย่างที่เรากล่าวไปว่า Xperia Pro สามารถเชื่อมต่อกับกล้องใหญ่ของ Sony เพื่อเปลี่ยนเป็นมอนิเตอร์ได้ แต่อีกหนึ่งฟีเจอร์พิเศษก็คือ การรองรับ 5G ทั้งแบบ mmWave และ Sub-6 เพื่อช่วยให้ Xperia Pro สามารถดาวน์โหลด-อัปโหลด ข้อมูลระดับสูงได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งทาง Sony ไม่ได้มองแค่เรื่องความเร็วเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ด้วย
โดย Xperia Pro มาพร้อมฟีเจอร์ที่เรียกว่า Live Broadcasting ที่เพียงแค่พกกล้องใหญ่ กับ Xperia Pro สักเครื่อง ก็สามารถถ่ายทอดสดเหตุการณ์สำคัญได้อย่างรวดเร็วแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีรถ OB Van (รถตู้ที่บรรจุอุปกรณ์สำคัญสำหรับถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์) หรือสะพายกระเป๋า Broadcast ให้หนักไหล่อีกต่อไป ขอเพียงให้จุดนั้นมีสัญญาณ 5G เท่านั้น ก็สามารถทำงานระดับโปรได้ทันที ซึ่งนับว่า Xperia Pro เป็นหนึ่งในก้าวสำคัญที่มือถือจะไม่ได้เป็นเพียงแค่อุปกรณ์สำหรับสื่อสาร หรือเล่นโซเชียลมีเดีย แต่กำลังจะกลายเป็นอุปกรณ์สารพัดประโยชน์ที่เข้ามาทดแทนเทคโนโลยีเดิมที่ใช้กันอยู่
นอกจากประโยชน์ด้านการ Live Broadcasting แล้ว Sony ยังพัฒนาโซลูชันสำหรับช่างภาพภาคสนาม ด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยให้มือถือสามารถโอนถ่ายไฟล์ภาพความละเอียดสูงจากกล้องระดับโปร มาลงไว้ใน Xperia Pro ที่มีความจุแบบมากถึง 512GB ได้อย่างรวดเร็ว ผ่านแอปพลิเคชันที่ Sony มีอยู่ ซึ่งตากล้องสามารถอัปโหลดไฟล์ใหญ่ๆ ขึ้นเซิฟเวอร์กลางของสำนักข่าวได้อย่างรวดเร็วผ่านคลื่น 5G ซึ่งเป็นการช่วยลด Workflow การทำงานของตากล้องภาคสนามเป็นอย่างมาก ต่างจากแต่ก่อนที่เราอาจต้องนำไฟล์จากกล้องมาลงในคอมพิวเตอร์ และอัปโหลดรูปภาพเหล่านั้นผ่าน Wi-Fi อีกครั้ง
สำหรับสเปกของ Xperia Pro แม้จะดูตกรุ่นไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับราคาขายที่ค่อนข้างสูง เนื่องจาก Sony เลือกใช้ชิปเซ็ตรุ่นเก่าประจำปี 2020 อย่าง Snapdragon 865 ซึ่งสาเหตุที่ใช้ชิปเซ็ตรุ่นนี้เนื่องจาก Xperia Pro เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่ชิปเซ็ต Snapdragon 865 เริ่มมีการนำมาใช้ในวงการมือถือ แต่ก็ถือว่าเป็นชิปเซ็ตระดับเรือธงที่ยังถือว่าเร็วแรงเพียงพอต่อการทำงานได้อย่างลื่นไหล รวมทั้งสเปกด้านอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าจัดเต็มสมกับสมาร์ทโฟนระดับโปร ไม่ว่าจะเป็น ฟีเจอร์ Creator Mode ที่ได้รับการพัฒนาโดยทีม CineAlta (CineAlta เป็นผู้พัฒนากล้องสำหรับถ่ายภาพยนตร์ของ Sony) ช่วยให้มือถือสามารถแสดงสีสันตามขอบเขตสีแบบ DCI-P3 ได้ครอบคลุม 100% พร้อมรองรับมาตรฐานขอบเขตสีแบบ BT.2020, กล้องหลัง 3 ตัว พร้อมเลนส์ ZEISS T* และเซ็นเซอร์รับภาพ Exmor RS ที่มีระบบโฟกัสดวงตาแบบ real-time AF แบบเดียวกับกล้องใหญ่ และฟีเจอร์ Cinematography Pro ที่ถูกพัฒนาโดยทีม CineAlta ช่วยให้สามารถปรับแต่งการตั้งค่าของกล้องได้เหมือนกับกล้องระดับโปร
หากพิจารณาจากคุณสมบัติที่สามารถช่วยลด Workflow การทำงานในสายอาชีพต่างๆ รวมถึงความสามารถเฉพาะตัว และสเปกของ Xperia Pro แล้ว การตั้งราคาวางจำหน่ายที่ตีเป็นเงินไทยสูงถึง 75,000 บาท ก็ถือว่า Sony ตั้งราคาขาย Xperia Pro ได้ค่อนข้างสมเหตุสมผล รวมทั้งการเปิดตัว Xperia Pro ทาง Sony ได้แสดงให้เห็นภาพแล้วว่า 5G ไม่ใช่แค่เครือข่ายที่มีความเร็วเพียงอย่างเดียว แต่เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เคยเป็นไปไม่ได้ในยุคก่อน ให้สามารถเป็นไปได้ในยุคนี้ด้วยสมาร์ทโฟน ซึ่งก็ไม่แน่ว่า เราอาจได้เห็นมือถือรุ่นใหม่ๆ ที่เตรียมเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอื่นๆ ในแบบที่เราไม่เคยคิดมาก่อนก็ได้ครับ
ข้อมูลอ้างอิง : Sony (1), (2), (3), Android Authority, 108media
วันที่ : 29/1/2564
