6 เหตุผลที่คนใช้ Samsung ควรเปลี่ยนมาใช้ Galaxy S9 / S9+ สมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีที่สุดในโลก !
หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน Samsung Galaxy S9 และ S9+ สองสมาร์ทโฟนจอไร้กรอบตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดจาก samsung ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของการถ่ายภาพ, สเปก และคุณสมบัติด้านต่างๆ ซึงตอนนี้ Samsung ก็ออกโปรโมชันมาเอาใจคนที่ใช้มือถือ Samsung galaxy มาก่อนด้วยส่วนลดพิเศษเพิ่ม 3,000 บาท ไม่ว่าคุณจะ trade เครื่องไหน รุ่นอะไร ? ขอแค่ให้เป็น samsung รุ่นที่ร่วมรายการเท่านั้นเท่านั้น ซึ่งเท่าที่ดูก็แทบจะทุกรุ่นของตระกูล Galaxy เลยทีเดียว
สำหรับใครที่ใช้สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy รุ่นก่อนหน้าอย่าง S8, S8+ หรือ Galaxy Note 5 อยู่ และยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเปลี่ยนมาใช้ Galaxy S9 และ S9+ ดีหรือไม่ ? วันนี้ทางทีมงานจะพาทุกท่านไปดู 5 เหตุผลที่ผู้ใช้มือถือ Samsung Galaxy S Series และ Galaxy Note Series รุ่นเก่า น่าจะลองเปลี่ยนมาใช้สองมือถือตัวท็อปรุ่นล่าสุดจาก Samsung กันครับ โดยเฉพาะส่วนวิเคราะห์ความคุ้มค่าหวังว่าจะตอบคำถามท่านผู้อ่านได้นะครับ
1.ค่าเครื่องถูกลงด้วยโปรโมชันเก่าแลกใหม่ (Trade In)
Samsung ถือว่าเป็นผู้บุกเบิกในเรื่องของการออกโปรโมชันเก่าแลกใหม่ในบ้านเราเลยทีเดียว ในต่างประเทศนั้นเราอาจจะเห็นค่ายมือถือทั้งฝั่ง iOS และ Android มีโปรลักษณะนี้กันมาบ้างแต่ในไทยนั้นฝั่ง iOS ยังไม่ค่อยมีการจัดโปรลักษณะนี้โดยเฉพาะครั้งนี้เป็นการออกโปรมาสำหรับมือถือเรือธงที่เพิ่งเปิดตัวไปสดๆร้อนๆ
ถ้าพูดถึงโปรเก่าแลกใหม่เชื่อว่าคำถามแรกที่ทุกคนจะต้องถามในใจนั่นคือ "เราควรเอาเครื่องเก่าของเราไปแลกหรือไม่ ?" หรือ
"ราคาที่โปรแกรมนี้เสนอให้มีเหตุผลหรือไม่ ?" วันนี้เรามีคำตอบครับ :)
ก่อนอื่นเรามาดูตารางสรุปราคาเก่าแลกใหม่จากโปรแกรมนี้กันก่อนว่ามีเครื่องอะไรบ้างและทางโปรแกรมนี้เสนอราคาให้เราเท่าไหร่ ?
สำหรับรายชื่อสมาร์ทโฟนของ Samsung ที่ร่วมรายการนั้นถือว่าค่อนข้างครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้โดยมีทั้ง Samsung Galaxy S5, S6, S6 edge, S6 edge+, S7, S7 edge, Note 2, 3, 4 และ Note edge ซึ่งถ้านำมามาแลกซื้อ Samsung Galaxy S9 / S9+ จะได้รับส่วนลดนอกจากค่าเครื่อง 11,000 บาทแล้ว จะได้ส่วนลดเพิ่มอีก 3,000 บาท สมมุติว่าเรานำ Samsung Galaxy S8 มาใช้เป็นส่วนลดนั่นหมายความว่าเราจะได้รับส่วนลดรวมสูงสุด 14,000 บาท สมมุติว่าเราต้องการซื้อ Samsung Galaxy S9 นั่นหมายความว่าเราจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกแค่เพียง 13,900 บาทเท่านั้น
นอกเหนือจากรายชื่อมือถือด้านต้นแล้ว ยังมีมือถืออีกหลายรุ่น หลายแบรนด์ ที่สามารถนำเครื่องมาเข้าโปรแกรม เก่าแลกใหม่ พร้อมรับส่วนลดพิเศษเพิ่มอีก 3,000 บาท ได้เหมือนกับมือถือของ Samsung ด้วย อย่างเช่น iPhone 7 Plus หรือ Huawei Mate 9 เป็นต้น โดยสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อมือถือทั้งหมดที่เข้าร่วมรายการได้ที่ลิงก์นี้ http://xchangemobile.com/Thailand/imthpublic
*ราคาส่วนลดของมือถือแต่ละรุ่น เป็นเพียงแค่การประเมินราคาเบื้องต้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสภาพของตัวเครื่อง และการประเมินจากเจ้าหน้าที่
ทีนี้เราลองมามาตอบคำถามที่ว่า ราคาที่โปรแกรมให้มาสมเหตุผลหรือไม่ ? เราควรนำเครื่องของเราไปแลกหรือไม่? กันบ้างนะครับ
ที่มา : Shopee
จากการสำรวจเบื้องต้นจากเว็บไซต์ Shopee ราคาของ Samsung Galaxy S8 64GB สีดำประกันศูนย์มือสอง จะอยู่ที่ประมาณ 14,000 - 16,000 บาท ซึ่งหากเทียบกับราคาที่โปรแกรมนี้ให้สูงสุดที่ 14,000 บาท จะเห็นว่าเมื่อเทียบกับราคามือสอง อาจไม่แตกต่างกับราคาที่โปรแกรม Trade In มอบให้มากนัก แต่ถ้าเรารวมค่าโสหุ้ยต่างๆ เช่น ค่าเดินทาง ค่าติดต่อ ค่าเสียเวลาของเรา รวมถึงค่าความเสี่ยงในการถูกโกงหลอกจะซื้อแล้วไม่โอนเงินให้จริง ก็ถือว่าการ trade in อาจจะเป็นทางออกที่คุ้มค่ากว่าครับ รวมทั้งราคา Samsung Galaxy S8 64GB มือสองอาจมีการปรับลดลงอีกเนื่องจากการมาถึงของโปรแกรม Trade In เพราะผู้ใช้บางส่วนอาจมองว่า การนำเครื่องมือสองไปเข้าโปรแกรม Trade In เพื่อแลกเป็นส่วนลด ค่อนข้างมีความสะดวกกว่าการลงขายสมาร์ทโฟนมือสองด้วยตนเอง
นอกจากความคุ้มค่าที่เราจะได้รับจากโปรแกรมแล้วผมอยากให้พิจารณาถึงฟีเจอร์และคุณสมบัติใหม่ๆของ Samsung Galaxy S9 / S9+ ด้วยว่าเหมาะกับเราหรือไม่ ? สำหรับใครที่ยังสงสัยว่าสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้ มีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจอีกบ้างเราสรุปมาให้อ่านง่ายๆมาดูไปพร้อมกันเลยนะครับ
2.ชิปตัวใหม่ Exynos 9810 แรงกว่าเดิม 2 เท่าพร้อม RAM ที่มากขึ้นถึง 6GB
Samsung Galaxy S9 และ S9+ ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตประมวลผลตัวใหม่ในชื่อ Exynos 9810 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น Exynos 8995 ที่ใช้อยู่บน Samsung Galaxy S8 และ S8+ โดยจะมีความแรงในเรื่องของการประมวลผลแบบ Single-Core มากกว่าชิปรุ่นก่อนถึง 2 เท่า ส่วนการประมวลผลแบบ Multi-Core ก็มีประสิทธิภาพดีขึ้นถึง 1.4 เท่า นอกจากนี้ Exynos 9810 ยังมีจุดเด่นในเรื่องของการประหยัดพลังงานมากกว่าเดิมถึง 15% ด้วยกัน รวมไปถึงการทำความเร็วดาวน์โหลดได้สูงสุดถึงระดับ 1.2Gbps ด้วย
นอกเหนือจากเรื่องชิปเซ็ตรุ่นใหม่แล้ว ในรุ่น Samsung Galaxy S9+ ยังได้มีการอัปเกรดในเรื่องของหน่วยความจำแรม (RAM) ให้มากขึ้นเป็นขนาด 6GB เพื่อตอบโจทย์การใช้งานรอบด้าน ทั้งการเล่นเกม และการใช้งานแบบ Multitask ได้อย่างลื่นไหล
3.AR Emoji บอกเล่าความรู้สึกด้วยอีโมจิแบบตัวคุณเอง
การทำอีโมจิที่เคลื่อนไหวตามลักษณะใบหน้าของผู้ใช้งาน ถือว่าเป็นหนึ่งในฟีเจอร์เด่นที่น่าจับตามองในช่วงนี้ หลังทาง Apple ได้นำเสนอฟีเจอร์ Animoji ไว้บน iPhone X แต่สำหรับ AR Emoji ของ Samsung Galaxy S9 และ S9+ ถือว่ามีความหลากหลายกว่า เนื่องจากสามารถสร้างอีโมจิที่มีหน้าตาใกล้เคียงกับผู้ใช้งานได้ รวมทั้งผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งเครื่องประดับบนใบหน้า และเครื่องแต่งกายของอีโมจิได้อย่างหลากหลาย นอกจากนี้ ตัวระบบจะมีการแปลงอีโมจิเป็นไฟล์ภาพเคลื่อนไหว หรือ GIF พร้อมกับจัดท่าทางต่างๆ ของตัวอีโมจิที่สร้างไว้ให้แบบอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้สามารถนำอีโมจิไปแชร์ผ่านแอปพลิเคชัน ประเภท Messenger เช่น Line หรือ WhatsApp เพื่อบอกเล่าความรู้สึกให้แก่เพื่อนๆ ได้อย่างง่ายดาย
4.หยุดเวลาให้ช้าลงด้วย Super Slow-Mo 960fps
กล้องของ Samsung Galaxy S9 และ S9+ มีการเลือกใช้เซ็นเซอร์รับภาพตัวใหม่ในชื่อ Super Speed Dual Pixel ซึ่งนอกเหนือจากจะมีส่วนช่วยในเรื่องของการจับโฟกัสภาพที่เร็วยิ่งกว่าเดิมแล้ว ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพแบบ Super Slow-Mo ได้ที่ระดับ 960fps บนความละเอียดระดับ HD ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้บันทึก และมองเห็นภาพเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว เช่น รถที่กำลังวิ่งอยู่ หรือ ฝูงนกที่กำลังโผบิน เป็นต้น นอกจากนี้ Super Slow-Mo ของ Samsung Galaxy S9 และ S9+ ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์เด่นที่เรียกว่า Motion Detection ซึ่งจะคอยบันทึกวิดีโอให้แบบอัตโนมัติ หากตรวจจับได้ว่าวัตถุ หรือตัวแบบด้านหน้ามีการเคลื่อนไหว ทำให้ผู้ใช้ไม่พลาดทุกช็อตสำคัญ และสามารถสร้างวีดีโอคลิปรูปแบบใหม่ ไม่ซ้ำใครได้
5.ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ด้วยกล้องคู่ พร้อมกล้องรูรับแสงคู่ รองรับการถ่ายภาพทุกสภาวะแสง
(กดเพื่อดูขนาดใหญ่)
ตัวอย่างภาพถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ พร้อมปรับเอฟเฟ็กต์โบเก้ในรูปแบบต่างๆ
ในรุ่น Samsung Galaxy S9+ นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของตระกูล Galaxy S Series ที่มีการนำระบบกล้องคู่ (Dual-Camera) มาใช้งาน โดยกล้องคู่ของ Samsung Galaxy S9+ นอกเหนือจากจะสามารถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังละลาย ได้เหมือนกับ Samsung Galaxy Note 8 แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถปรับเปลี่ยนเอฟเฟ็กต์ของดวงไฟโบเก้ (Bokeh) ได้ถึง 10 รูปแบบผ่านฟีเจอร์ Bokeh Filters ทำให้ภาพที่ได้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น และล่าสุดทาง DxOMark ยังได้ทำการทดสอบและยกให้ Samsung Galaxy S9+ เป็นมือถือที่ถือได้ว่ามีกล้องดีที่สุดในโลก ณ ขณะนี้
นอกเหนือจากความสามารถด้านการถ่ายวิดีโอ และการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอแล้ว กล้องของ Samsung Galaxy S9 และ S9+ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Dual Aperture ซึ่งจะเป็นการสลับค่ารูรับแสง (Apeture) ระหว่าง F/1.5 และ F/2.4 ให้เหมาะสมกับสภาพแสงแบบอัตโนมัติ ทำให้ภาพที่ได้มีแสงสว่างอยู่ในระดับที่เหมาะสม
6.ลำโพงคู่สุดกระหึ่มจาก AKG พร้อมระบบเสียง 3 มิติ Dolby Atmos
ในมือถือ Samsung Galaxy S Series รุ่นที่ผ่านๆ มา มักจะมีลำโพงหลักเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น แต่ครั้งนี้่ Samsung Galaxy S9 และ S9+ มีการอัปเกรดด้านระบบเสียงให้ดีขึ้นด้วยการติดตั้งลำโพงคู่แบบ Stereo ที่ได้รับการจูนเสียงจากแบรนด์เครื่องเสียงระดับโลกอย่าง AKG ซึ่งช่วยให้เสียงทรงพลังขึ้นกว่าเดิมถึง 1.4 เท่าเมื่อเทียบกับมือถือ Galaxy รุ่นก่อนๆ รวมทั้ง Samsung Galaxy S9 และ S9+ ยังมาพร้อมกับระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ซึ่งช่วยให้สามารถขับเสียงรอบทิศทางแบบ 3 มิติได้อีกด้วย
อย่างไรก็ดี ฟีเจอร์ด้านต้นเป็นเพียงคุณสมบัติเด่นบางส่วนของ Samsung Galaxy S9 และ S9+ เท่านั้น เพราะสมาร์ทโฟนเรือธงโฉมใหม่ทั้งสองรุ่นยังมีฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจอีกหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การขับเคลื่อนด้วยขุมพลังตัวใหม่อย่าง Exynos 9810 ที่ทำงานได้เร็วแรงยิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อน, ฟังก์ชัน Live Translation ที่เพียงแค่ยกกล้องส่องก็สามารถแปลภาษาได้ทันที รวมไปถึงระบบรักษาความปลอดภัยอย่าง Intelligent Scan ที่เจะเป็นการรวมระบบสแกนใบหน้า และสแกนม่านตาเข้าด้วยกัน โดยสำหรับท่านใดที่สนใจก็สามารถเข้าไปสั่งจอง Samsung Galaxy S9 และ S9+ ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 8 มีนาคม ปี 2018 สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสั่งจองได้ที่ลิงก์นีี้ครับ http://www.samsung.com/th/smartphones/galaxy-s9/shop/ และสำหรับใครที่ต้องการทราบรายละเอียดโปร เก่าแลกใหม่ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้ครับ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
บทความนี้เป็น Advertorial
วันที่ : 6/3/2561
