สำหรับ Samsung Gear Sport นั้นถือเป็นนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นต่อยอดใหม่ล่าสุดที่ได้ทำการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ซึ่ง Gadget สุดล้ำอย่าง Samsung Gear Sport ก็เรียกได้ว่า เป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่ตอบโจทย์สำหรับผู้รักสุขภาพได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การนับก้าวเดิน, มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และสามารถบอกอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ได้อีกด้วย ซึ่งนอกจากตอบโจทย์สำหรับผู้รักสุขภาพ ทางด้านการออกแบบดีไซน์ก็มีรูปลักษณ์เหมือนกันนาฬิกาจริงๆ และยังคงไว้ซึ่งความสวยงามพรีเมียมไม่ต่างรุ่นที่ผ่านมา

โดยจุดเด่นของ Samsung Gear Sport นั้นมีอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ Circular Super AMOLED ความละเอียด 360x360 พิกเซล ขนาด 1.2 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 3, ไมโครโฟนสำหรับใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน S Voice, มีเซ็นเซอร์ GPS, เซ็นเซอร์ Gyro, เซ็นเซอร์ Barometer พร้อมรองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Bluetooth, WiFi และ NFC ได้, รองรับการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Samsung Health, มีคุณสมบัติในการกันน้ำได้ระดับ 5 ATM หรือกันน้ำได้ในความลึกระดับ 50 เมตร, รองรับฟังก์ชัน Water Lock และแบตเตอรี่ขนาด 300 mAh

ในส่วนคุณสมบัติของตัวเครื่องก็มีการปรับให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม โดยจะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Dual-Core ที่มีความเร็วในการประมวลผล 1.0 GHz, หน่วยความจำแรมขนาด 768 MB, หน่วยความจำภายในขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Tizen OS

สำหรับ Samsung Gear Sport นั้นวางจำหน่ายในราคา 9,900 บาท ซึ่งหากเทียบกับคุณสมบัติโดยรวมที่มีอยู่บน Samsung Gear Sport ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วน Samsung Gear Sport จะมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจ ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยขนาดไหน และคุ้มค่าคุ้มราคาหรือไม่ ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว Samsung Gear Sport พร้อมกันได้เลยครับ

 

สรุปคุณสมบัติเด่นของ Samsung Gear Sport

 

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์ของ Samsung Gear Sport 

Samsung Gear Sport มาในแพ็กเกจสีดำ

 

ซึ่งด้านขวาของแพ็กเกจได้มีการระบุคุณสมบัติเด่นของ Samsung Gear Sport เอาไว้ เช่น มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และเซ็นเซอร์ GPS อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการกันน้ำได้ระดับ 5 ATM ในความลึก 50 เมตร

 

โดยภายในแพ็กเกจก็มีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้ใช้งานหลายอย่างด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ คู่มือการใช้งาน, Adapter พร้อมสายสายชาร์จแบบ microUSB, สายรัดข้อมือไซส์ S และแท่น Wireless Charge สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย

 

ตัวอย่างภาพ การชาร์จแบตเตอรี่ของ Samsung Gear Sport ซึ่งสามารถวางเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ได้ทั้ง 2 ฝั่ง

 

Samsung Gear Sport นั้นมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Circular Super AMOLED ความละเอียด 360x360 พิกเซล ขนาด 1.2 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 3 โดยมีขนาดตัวเรือนอยู่ที่ 44.6x42.6x11.6 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 50 กรัม

 

ด้านข้างจะมีปุ่มโฮม, ไมโครโฟน (สำหรับใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน S Voice) และปุ่มย้อนกลับ 

 

ส่วนด้านใต้จะมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และภายในตัวเครื่องจะมีแบตเตอรี่ขนาด 300 mAh บรรจุอยู่ ซึ่งหากใช้งานตามปกติแบตเตอรี่จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 วัน แต่หากใช้งานน้อยแบตเตอรี่จะอยู่ได้ประมาณ 6 วัน

 

นอกจากนี้ ตัวเรือนยังมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ GPS, เซ็นเซอร์ Accelerometer, เซ็นเซอร์ Gyro, เซ็นเซอร์ Barometer และรองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน NFC ได้

 

โดยกรอบของตัวเครื่องจะเป็นสเตนเลสสตีลที่มีความแข็งแรงทนทาน และเพรียวบางเป็นพิเศษ

 

สำหรับสายรัดข้อมือจะทำมาจากซิลิโคน ที่มีความยืดหยุ่น และเข้ารูปกับข้อมือของผู้สวมใส่ แถมยังให้ตัวได้ดี และไม่อมเหงื่อ โดยตัวสายจะมีให้เลือกสองไซส์ คือ ไซส์ L กับ S (สายไซส์ S จะแถมมาให้ภายในแพ็กเกจด้วย) รวมทั้งเรายังสามารถซื้อสายนาฬิกาทั่วๆ ไปมาเปลี่ยนแทนได้ตามใจชอบ

 

ตัวล็อกสายรัดข้อมือจะเป็นแบบขาล็อกเดี่ยว และทำมาจากสเตนเลสสตีลเช่นเดียวกับกรอบตัวเครื่อง

 

นอกจากนี้ ตัวกรอบของหน้าจอยังทำหน้าที่ในการเลื่อนฟังก์ชันไปทางซ้าย หรือทางขวาได้อีกด้วย ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนเพลง ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังสามารถทำหน้าที่ในการเพิ่ม หรือลดระดับเสียงได้อีกด้วย

 

และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ ตัวเรือนของ Samsung Gear Sport นั้นมีคุณสมบัติในการกันน้ำได้ระดับ 5 ATM หรือกันน้ำได้ในความลึกระดับ 50 เมตร นั่นหมายความว่าผู้ใช้สามารถใส่เพื่อออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำได้

 

 

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ ของ Samsung Gear Sport

เพื่อการใช้งานอย่างเต็มระบบ อันดับแรกต้องทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Samsung Gear มาติดตั้งที่สมาร์ทโฟนเสียก่อน หลังจากนั้นก็ทำการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนของท่าน กับ Samsung Gear Sport ผ่านทางบลูทูธ

 

ซึ่งหลังจากการสมาร์ทโฟน และ Samsung Gear Sport ได้ทำความรู้จักเป็นที่เรียบร้อย ผู้ใช้ก็สามารถสั่งงาน หรือตั้งค่าต่างๆ ผ่านทางแอปพลิเคชัน Samsung Gear ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น การอัปเดตซอฟต์แวร์ของ Samsung Gear Sport หรือการแสดงสถานะของเครื่อง เช่น หน่วยความจำภายในเหลือพื้นที่ว่างเท่าไหร่ เป็นต้น

 

นอกจากนี้ ยังสามารถดาวน์โหลดหน้าปัดแบบอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน Samsung Gear ได้ทันที ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบฟรี และแบบเสียค่าใช้จ่าย

 

ส่วนการตั้งค่าการใช้งานบน Samsung Gear Sport ก็สามารถทำผ่านแอปพลิเคชัน Samsung Gear ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น การตั้งค่าการแจ้งเตือน พร้อมทั้งสามารถเลือกเปิดการแจ้งเตือนเฉพาะแอปพลิเคชันที่ต้องการได้ และกำหนดค่าของระบบการแจ้งเตือนได้หลากหลาย

 

สามารถจัดลำดับของแอปพลิเคชัน หรือถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานได้, สามารถโอนถ่ายข้อมูลจำพวกภาพถ่าย หรือเพลงจากบนสมาร์ทโฟนมาไว้ที่ Samsung Gear Sport

 

สามารถส่งข้อความด่วน หรือข้อความขอความช่วยเหลือไปยังเบอร์โทรที่ระบุได้ (กดปุ่มโฮม 3 ครั้ง เพื่อเรียกใช้งานฟังก์ชันนี้), สามารถกดเรียกเพื่อค้นหา Samsung Gear Sport ได้ โดยเมื่อค้นหาแล้ว ตัวเรือน Samsung Gear Sport จะสั่น และหน้าจอจะสว่างขึ้น ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถหาตัวเครื่อง Samsung Gear Sport เจอได้โดยง่าย

 

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาติดตั้งบน Samsung Gear Sport เพื่อใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน Samsung Gear ได้ทันที ซึ่งแอปพลิเคชันที่รองรับการใช้งานร่วมกับ Samsung Gear Sport นั้นก็มีให้เลือกหลากหลายอีกด้วย

 

ส่วนบน Samsung Gear Sport นั้นจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Tizen OS เวอร์ชัน 3.0 อย่างที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ อีกทั้งบนหน้าปัดมีฟังก์ชันให้ใช้งานหลากหลายด้วยกัน เช่น หน้าจอโฮมสกรีน ที่แสดงวันที่ เวลา ในรูปแบบของนาฬิกาเข็มที่ดูเหมือนนาฬิกาข้อมือจริงๆ หรือฟังก์ชันการแจ้งเตือนต่างๆ

 

และเมื่อใช้นิ้วมือปัดที่หน้าจอจากด้านบนลงด้านล่าง จะพบกับฟังก์ชันลัดต่างๆ โดยสามารถเปิด-ปิด การใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้ทันที เช่น โหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่, โหมดการใช้งานบนเครื่องบิน หรือการปรับระดับความสว่างของหน้าจอ อีกทั้งยังแสดงสถานะการเชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย

 

มี Widget ต่างให้เลือกใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิดเจ็ตการนับก้าวเดิน, วิดเจ็ตสำหรับควบคุมเพลง และวิดเจ็ตสำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เป็นต้น

 

อีกทั้งยังสามารถเพิ่มวิดเจ็ตอื่นๆ มาใช้งานได้

 

โดย Samsung Gear Sport สามารถแจ้งเตือนเป็นข้อความได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แต่สามารถตอบกลับเป็นสติ๊กเกอร์ หรือข้อความด่วนเท่านั้น

 

สำหรับแอปพลิเคชันพื้นฐานบน Samsung Gear Sport ก็มีให้ใช้งานหลากหลาย

 

Samsung Gear Sport จะมีคีย์บอร์ดให้ใช้งาน สามารถพิมพ์ข้อความได้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แต่อย่างไรก็ดี คีย์บอร์ดบน Samsung Gear Sport จะเหมือนกันปุ่มบนโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟนสมัยก่อน ที่ต้องกดปุ่มเดิมหลายๆ ครั้งเพื่อเลือกตัวอักษรที่ต้องการ จึงอาจจะใช้งานค่อนข้างลำบาก

 

อีกหนึ่งความน่าสนใจบน Samsung Gear Sport คือ มีแอปพลิเคชัน Samsung Health ให้ใช้งาน โดยคุณสามารถเลือกการออกกำลังกายได้หลายแบบ เช่น การวิ่ง, การเดิน, การปั่นจักรยาน, การปีนเขา และว่ายน้ำ เป็นต้น

 

ซึ่งนอกจากออกกำลังกายดังที่กล่าวมาแล้ว บน Samsung Gear Sport ยังมีการกำลังกายอื่นๆ เพิ่มเติมไปจากเดิมด้วย เช่น ซิทอัป, สควอท หรือกระโดดตบ เรียกได้ว่า เป็นทางเลืิอกการออกกำลังกายให้แก่ผู้ใช้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม

 

โดยผู้ใช้ก็ตั้งค่าสำหรับออกกำลังกายได้เหมือนเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็น การกำหนดเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น ระยะเวลาในการออกกำลังกาย, ระยะทาง หรือแม้แต่อัตราการเผาผลาญ

 

ซึ่งทางทีมงานของเราจะยกตัวอย่างการออกกำลังกายด้วยการเดิน ก่อนที่จะเริ่มเดินนั้น ต้องรอ GPS กับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจพร้อมทำงานเสียก่อน (พร้อมทำงานคือสัญลักษณ์สีเขียว และสีแดง ติดค้าง) หลังจากนั้นก็ทำการเดินเพื่อออกกำลังกายได้ทันที และในขณะที่ออกกำลังกายนั้นตัว Samsung Gear Sport จะทำหน้าแสดงข้อมูลต่างๆ ให้เราทราบอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น ระยะทาง, อัตราการเผาผลาญ, เวลาในการออกกำลังกาย และระยะทาง อีกทั้งยังสามารถดูสถิติการออกกำลังกายของผู้ใช้ตลอดทั้งสัปดาห์ได้อีกด้วย

 

นอกจากนี้ ยังสามารถควบคุมการฟังเพลงได้ทันที แม้ในขณะที่ออกกำลังกายอยู่ก็ตาม

 

อีกหนึ่งความน่าสนใจ คือ Samsung Gear Sport นั้นสามารถใส่ออกกำลังกายในรูปแบบของว่ายน้ำได้ และก่อนใช้งานจำเป็นต้องเปิดฟังก์ชัน Water Lock เสียก่อน เพื่อไม่ให้หน้าจอของ Samsung Gear Sport เลื่อนไปหน้าอื่นขณะที่ว่ายน้ำ อีกทั้งยังสามารถดูรายละเอียดการว่ายน้ำของเราผ่านทางแอปพลิเคชัน Samsung Health ได้

 

และสำหรับนักกีฬาว่ายน้ำ หรือผู้ที่ชื่นชอบในการว่ายน้ำเป็นพิเศษ ก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Speedo On มาใช้ร่วมกับการว่ายน้ำได้อีกด้วย

 

ซึ่งแอปพลิเคชัน Speedo On นั้นสามารถตั้งค่าได้หลากหลาย เช่น การกำหนดระยะทางสำหรับว่ายในสระว่ายน้ำ ซึ่งสามารถตั้งระยะทางได้สูงสุด 100 เมตร/รอบ หรือจะเป็นการจับเวลาเพื่อนับระยะว่าผู้ใช้สามารถว่ายได้เร็วสูงสุดได้ระยะทางเท่าไหร่ ในเวลาที่กำหนดไว้ เป็นต้น ซึ่งจากการทดสอบว่ายน้ำในระยะทาง 150 เมตร Samsung Gear Sport ก็สามารถจับระยะทาง และอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งสามารถเก็บสถิติแต่ละสัปดาห์เอาไว้ดูรายละเอียดในภายหลังได้

 

สำหรับ Samsung Gear Sport นั้นสามารถรองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนของ Samsung ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 4.3 (Jelly Bean) ขึ้นไป, รองรับสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 4.4 (Kitkat) ขึ้นไป และรองรับการใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชัน 9.0 ขึ้นไป

 

 

สรุปผลการทดสอบของ Samsung Gear Sport

หลังจากที่ได้ชีวิตร่วมกับ Samsung Gear Sport เป็นระยะเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ ก็ต้องขอบอกเลยว่า Samsung Gear Sport ไม่ได้เป็นเพียง Gadget หรือนาฬิกา สำหรับใส่เท่ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การแจ้งเตือน, การติดต่อสื่อสาร, การส่งข้อความแบบ SMS, สามารถตรวจสอบนัดหมายสำคัญผ่านปฏิทินได้ และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาติดตั้งเพื่อใช้งานเพิ่มเติมได้ เรียกได้ว่า ช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันนั้นง่ายขึ้นเลยก็ว่าได้

สำหรับในเรื่องของการออกแบบดีไซน์บน Samsung Gear Sport ต้องยอมรับว่ามีความสวยงามพรีเมียมไม่น้อยเลยทีเดียว และด้วยความที่มีดีไซน์เป็นแบบนาฬิการ่วมสมัย จึงทำให้สามารถสวมใส่ได้ทั้งผู้ชาย และผู้หญิง อีกทั้งวงแหวนบนหน้าปัดยังสามารถหมุนเพื่อสั่งงานได้ ยิ่งช่วยให้ใช้งานร่วมกับชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องตัว และสะดวกสบายเป็นอย่างมาก

อีกหนึ่งความน่าสนใจบน Samsung Gear Sport คือ รองรับการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Samsung Health ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวในการออกกำลังกายเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น การวิ่ง, การเดิน และการปั่นจักรยาน เป็นต้น โดยตัว Samsung Gear Sport สามารถแสดงผลต่างๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกายได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ เช่น ระยะทาง, อัตราการเผาผลาญ และระยะเวลาในการออกกำลังกายได้อีกด้วย และที่พิเศษไปมากกว่านั้น Samsung Gear Sport ยังมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะช่วยให้คุณออกกำลังในโซนอัตราการเต้นของหัวใจได้ตามต้องการนั่นเอง และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ Samsung Gear Sport นั้นมีคุณสมบัติในการกันน้ำได้ระดับ 5 ATM หรือกันน้ำได้ในความลึกระดับ 50 เมตร จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถออกกำลังกายในรูปแบบของว่ายน้ำได้ พร้อมทั้งสามารถทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน Speedo On ได้เป็นอย่างดี และด้วยฟังก์ชัน Water Lock ในขณะที่ว่ายน้ำหน้าจอก็ยังคงแสดงข้อมูลได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องกังวลว่าหน้าจอโดนน้ำแล้วจะเลื่อนไปฟีเจอร์อื่น

ทางด้านคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ Circular Super AMOLED ความละเอียด 360x360 พิกเซล ขนาด 1.2 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 3, ไมโครโฟนสำหรับใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน S Voice, มีเซ็นเซอร์ GPS, เซ็นเซอร์ Gyro, เซ็นเซอร์ Barometer พร้อมรองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Bluetooth, WiFi และ NFC ได้, รองรับการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Samsung Health, รองรับฟังก์ชัน Water Lock และแบตเตอรี่ขนาด 300 mAh ก็ถือว่าครบเครื่องทุกการใช้งาน พร้อมทั้งตอบโจทย์การใช้งานต่างๆ ได้อย่างน่าพอใจ

Samsung Gear Sport นั้นวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วในราคาเพียง 9,900 บาท โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ ดำ และน้ำเงิน หากท่านใดที่สนใจก็สามารถไปหาซื้อได้ที่ Samsung Brand Shop หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อผ่านทาง s-estore.com สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Samsung ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจ ส่งเครื่อง Samsung Gear Sport มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

 

นำเสนอบทความโดย : Thaimobilecenter.com

วันที่ : 4/12/2560