สรุป Samsung Galaxy S25 Series ราคาไทย, สเปก, มีอะไรใหม่ รวบตึงในที่เดียว
Samsung Galaxy S25 Series ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้วเมื่อเช้าตรู่วันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา โดยมาด้วยกัน 3 รุ่นคือ Galaxy S25, Galaxy S25+ และ Galaxy S25 Ultra รอบนี้จะมีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง และมีราคาอยู่ที่เท่าไหร่ เราสรุปมาให้แล้วแบบรวบตึงครับ
ราคาไทย Samsung Galaxy S25 Series
Samsung Galaxy S25
- รุ่น 12+256GB ราคา 29,900 บาท
- รุ่น 12+512GB ราคา 34,900 บาท
Samsung Galaxy S25+
- รุ่น 12+256GB ราคา 36,900 บาท
- รุ่น 12+ 512GB ราคา 41,900 บาท
Samsung Galaxy S25 Ultra
- รุ่น 12+256GB ราคา 46,900 บาท
- รุ่น 12+512GB ราคา 52,900 บาท
- รุ่น 12+1TB ราคา 62,900 บาท
สเปก Samsung Galaxy S25 Series
มีอะไรเปลี่ยนไป?
ในมุมของดีไซน์ Samsung Galaxy S25 และ S25+ แทบจะไม่ต่างไปจากรุ่นที่แล้ว โดยมาในเฟรมขอบแบน และการจัดวางกล้องหลังแบบเรียบ ๆ ไม่มีฐานเหมือนเดิม ส่วนรุ่นท็อปอย่าง S25 Ultra จะมีการปรับดีไซน์ให้เป็นเฟรมขอบแบน จอขอบไม่โค้ง และมุมเครื่องที่โค้งมนขึ้น ไม่แทงอุ้งมือเวลาถือแนวนอนอีกต่อไป นอกจากนี้ยังมีขอบจอที่บางลงทำให้มีพื้นที่แสดงผลเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 6.9 นิ้ว (จากรุ่นก่อน 6.8 นิ้ว) ส่วนตำแหน่งของปุ่ม, พอร์ต, ลำโพง และไมโครโฟนยังคงเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม ปากกา S-Pen ของ Galaxy S25 Ultra ได้ตัดฟังก์ชั่น Bluetooth ออกไป ทำให้ใช้ Air Actions และใช้สั่งถ่ายรูปไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งน่าเสียดายพอสมควร
ชิปเซ็ตใหม่ที่ไม่ใช่ Exynos
Samsung Galaxy S25 Series ทุกรุ่นมาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite for Galaxy ซึ่งเป็นรุ่นปรับแต่งพิเศษ ไม่มีเวอร์ชั่นชิป Exynos หากเทียบกับรุ่นที่แล้วจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าในทุกด้าน ทั้ง CPU แรงขึ้น 37%, GPU แรงขึ้น 30% และ NPU แรงขึ้น 40% จึงทำงานได้ดีกว่าเดิมโดยเฉพาะในด้านการประมวลผล AI
ซอฟต์แวร์และ AI
Samsung Galaxy S25 Series มากับระบบปฏิบัติการ Android 15 เวอร์ชั่นล่าสุด และครอบทับด้วย One UI 7 ใหม่ล่าสุดเช่นกัน โดยมีการปรับปรุงหน้าตา UI หลายส่วนให้ดูดีและใช้ง่ายขึ้น ส่วนฟีเจอร์ AI ทั้งหลายที่เป็นทีเด็ดของรุ่นนี้ก็ยังมีอยู่เช่นกัน และยังได้รับการพัฒนาให้ฉลาดขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น:
Best Face
ฟีเจอร์ที่จะเปลี่ยนหน้าเสียเป็นหน้าสวยได้โดยอัตโนมัติ ใครหันหน้า หลับตา อ้าปาก ก็แก้ได้ง่าย ๆ โดย Best Face จะบันทึกภาพเคลื่อนไหวก่อนและหลังกดชัตเตอร์ ทำให้เราสามารถเลือกเปลี่ยนใบหน้าที่ดีที่สุดได้ด้วยตัวเอง
Audio Eraser
อันนี้เด็ดมาก เป็นฟีเจอร์ลบเสียงที่ไม่ต้องการออกจากวิดีโอ ซึ่งไม่ใช่แค่ลบ "เสียงรบกวน" แต่ลบ "เสียงอะไรก็ได้" โดย AI จะตรวจจับและแบ่งประเภทของเสียงออกเป็นหลาย ๆ แบบ เช่น เสียงคน เสียงดนตรี เสียงรบกวน และอื่น ๆ และให้เราปรับความดังของเสียงนั้น ๆ ได้ หรือจะปิดเสียงนั้น ๆ ไปเลยก็ได้ เหมาะมากสำหรับคนทำ Vlog เพราะไม่ต้องไปแต่งเสียงเองให้วุ่นวาย ที่สำคัญคือฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับวิดีโอทุกประเภท ไม่จำเป็นต้องถ่ายด้วย Galaxy S25 สามารถโหลด MV เพลงจาก YouTube แล้วเอามาปิดเสียงร้อง หรือเสียงดนตรีได้เลย
Gemini Advanced
สำหรับ Gemini Advanced ผู้ช่วยอัจฉริยะรุ่นพิเศษ ที่อัปเกรดความสามารถให้ฉลาดขึ้นกว่า Gemini รุ่นพื้นฐานนั้น จริง ๆ แล้วเป็นฟีเจอร์ที่ปกติเราต้องเสียค่าบริการเดือนละ 750 บาท แต่ Galaxy S25 นั้นมีให้ใช้งานฟรีถึง 6 เดือน แถมยังมาพร้อมกับพื้นที่เก็บข้อมูลบน Cloud อีกถึง 2TB ซึ่งหากคำนวณราคาแล้วก็รวมเป็น 4,500 บาท เลยทีเดียว เพียงแต่เราต้องสมัครใช้งานภายในวันที่ 31 มกราคม 2569 ผ่านทางแอปพลิเคชัน Gemini โดยจะนับเวลาตั้งแต่วันที่เริ่มใช้งาน Gemini Advanced วันแรก ส่วนใครที่เคยสมัครไว้แล้วก่อนหน้านี้ ก็สามารถสมัครรับสิทธิ์ได้อีกเช่นกัน
โดย Gemini Advanced นั้นสามารถใช้คำสั่งเสียงให้ทำเรื่องที่ซับซ้อนได้ เช่น สั่งให้จองตั๋วคอนเสิร์ต Gemini Advanced จะค้นหาวันที่วงดนตรีนั้น ๆ จัดคอนเสิร์ตในไทยและบันทึกลงในปฏิทินให้ทันที โดยที่เราไม่ต้องหาเองว่าวงจะมาจัดคอนเสิร์ตวันไหน, ถ่ายรูปและถามข้อมูลต่าง ๆ จากในรูป เช่น หาแคลเลอรี่ของอาหาร, ช่วยแพลนทริปท่องเที่ยวพร้อมคำนวณค่าใช้จ่าย, สั่งสรุปใจความสำคัญจากคลิปวิดีโอบน YouTube (สรุปเรื่องผีใน The Ghost Radio มาเป็นฉาก ๆ เลย) นอกจากนี้ยังพูดคุยกับเราได้อย่างเป็นธรรมชาติ คุยได้ตั้งแต่เรื่องทั่วไป ไปจนถึงการปรึกษาในเรื่องต่าง ๆ เสมือนเป็นเลขาส่วนตัวของเราเลยทีเดียว
ซึ่งความโดดเด่นของการใช้งาน Gemini บน Galaxy S25 ที่แตกต่างจากคู่แข่งก็คือสามารถใช้งานข้ามแอปพลิเคชัน (Cross App) กับแอปพลิเคชันของ Samsung (Samsung Native App) ได้แบบไร้รอยต่อ เช่นแอปพลิเคชัน Samsung Reminder, Samsung Calendar และ Samsung Notes เช่นเราสามารถสั่งให้ Gemini สรุปเนื้อหาจากคลิปวิดีโอบน YouTube แล้วบันทึกลง Samsung Notes ให้เราได้ทันที
ส่วน Galaxy AI ของทาง Samsung เอง เช่น Photo Assist ที่ใช้สำหรับการปรับแต่งรูป, Interpreter ที่ใช้สำหรับช่วยแปลภาษา และฟีเจอร์อื่น ๆ จะสามารถใช้งานได้ฟรีถึงสิ้นปีนี้ (31 ธันวาคม 2568)
นอกจากนี้ยังมี:
- Circle To Search หรือ วงกลมเพื่อค้นหา ที่สามารถฟังเพลงและค้นหาชื่อเพลงได้ พร้อมเพิ่มเพลงในฐานข้อมูลเยอะขึ้น
- AI Caller แปลการสนทนาขณะคุยสาย เพิ่มการแปลภาษาอื่น ๆ ในโหมด Live Traslate นอกจากนี้ยังสามารถถิดเทป และสรุปหัวข้อสำคัญหลังการโทรได้
- Now Brief แสดงข้อมูลต่าง ๆ แบบย่อด้านล่างหน้าจอ ไม่ต้องปัดไปดูเองให้ยุ่งยาก
กล้องที่เน้นการอัปเกรดด้วย AI
สำหรับกล้องของ Samsung Galaxy S25 และ S25+ มีสเปกที่ไม่ต่างจากรุ่นที่แล้ว โดยยังเป็นกล้องหลัก 50MP, กล้อง Ultrawide 12MP และกล้อง Telephoto 10MP ระยะซูม 3x Optical เหมือนเดิม ส่วนกล้องของ S25 Ultra มีการอัปเกรดเล็กน้อยในส่วนของกล้อง Ulrawide ที่เพิ่มความละเอียดมาเป็น 50MP ส่วนการซูมยังคงเป็น 100x Space Zoom เหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม การถ่ายภาพของทั้ง 3 รุ่นจะมีซอฟต์แวร์และ AI เข้ามาช่วยประมวลผล เช่น Best Face ที่สามารถเปลี่ยนหน้าตัวแบบให้ตรง, อัปเกรดโหมด Macro ให้เก็บรายละเอียดได้ดีขึ้น พร้อมกันนี้ยังรองรับการถ่ายวิดีโอ HDR10+ และลบเสียงรบกวนด้วย Audio Eraser, AI ที่ช่วยแทรกเฟรมขณะซูมที่ทำให้การซูมสมูทขึ้น และยังใช้ AI มาปรับปรุงคุณภาพรูปถ่ายให้ดีกว่ารุ่นก่อนถึง 43% อีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เทียบสเปก Samsung Galaxy S25 Ultra กับ Galaxy S24 Ultra เปลี่ยนไปแค่ไหน คุ้มไหมที่จะอัปเกรด?
- รวมโปรโมชั่น Samsung Galaxy S25 Series ครบทั้งโปรกลาง โปรเฉพาะร้าน และโปร Online
- ส่องสีพิเศษ Samsung Galaxy S25 ทุกรุ่น พร้อมช่องทางสั่งซื้อและโปรโมชั่น
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 23/1/2568
